พูดคุยก่อนอ่าน : สวัสดีครับ ก็มาอย่างไวกับคุณหนูร้อนรัก หรือชื่ออย่างเป็นทางการบนฉบับใต้ดินก็คือ 'คุณหนูแพรวพรรณ ภาค2' ก็มาแล้วนะครับ ขอแจ้งข่าวก่อนว่า ผมจะอัพฉบับใต้ดินถึงตอนที่ 5 นี้เท่านั้นนะครับ ส่วนตอนที่เหลือจะขออัพขึ้นบนดินในภายหลัง ซึ่งที่คาดการณ์ไว้ คุณหนูแพรวพรรณ ภาค 2 จะมีประมาณ 10 ตอน (เป็นอย่างน้อย) ครับ
สำหรับตอนนี้ ต้องบอกก่อนว่าด้วยความละเอียดละออและความบ้ารายละเอียด ที่อยากพยายามบิ้วอารมณ์ของเรื่องราวไปเรื่อย ๆ อยากให้มันมีความสมเหตุสมผลสักหน่อย ไม่อยากเปิดฉากมาแล้วล่อกัน เลยทำให้มันยาวกว่าปกติ ก็เลยต้องแบ่งเป็นสองพาร์ทน่ะครับ หวังว่าอย่าโกรธกัน พาร์ทนี่คือการวอร์มอัพ แต่พาร์ทหน้า ผมบอกได้เลยว่าใส่กันยับตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้ายละครับ
ก็หวังว่าจะเข้าใจตรงกันนะครับแสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
##################
ความเดิมจากตอนที่แล้ว...
//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=246858.0ก่อนหน้าเหตุการณ์ที่แพรวพรรณจะนั่งเมาแอ๋ในสวนดอกไม้หลังบ้านของตน ในช่วงเที่ยงของวันนั้น คุณหนูคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุลได้พูดคุยผ่านทางไลน์กับยัยอ้อม อรอุมา เพื่อนสมัยเรียนมัธยมปลายที่ชลบุรี
“กลับมาไทยนานแล้วเหรอแพรว”
“กลับมาได้สักพัก โคตรเบื่อเลยว่ะ”
“งั้นไปเที่ยวห้างหันป่ะ?”
“เหอะ ห้างในชลบุรีไม่ค่อยมีอะไร”
“ม่าย ชั้นหมายถึงห้างในกรุงเทพ”
“ไปตอนนี้เลยเหรอ?”
“เออดิ ไปหาหนังดู แล้วหาไรกิน เสร็จแล้วค่อยกลับบ้าน โอเคป่ะ?”
“เออได้ เดี๋ยวชั้นขับรถไปรับแก สักเที่ยง ๆ ชั้นจะไปรับแก เคนะ”
“เออ แล้วเจอกัน”
หลังจากพูดคุยกับเพื่อนผ่านทางไลน์เสร็จแล้ว แพรวพรรณก็ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว เพื่อเตรียมขับรถออกไปเที่ยวห้างในกรุงเทพ ด้วยความเบื่อหน่ายชีวิตนกน้อยในกรงทอง เลยทำให้เธออยากขับรถออกไปเที่ยวข้างนอก
แพรวพรรณแต่งตัวตามแฟชั่นแบบฉบับสาวเปรี้ยว ด้วยเสื้อสีดำคอเต่าแขนกุด กางเกงยีนส์สีกรมท่า และรองเท้าส้นสูงสีขาว พร้อมกับสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมเดินลงมาจากชั้นล่าง พร้อมกับหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาโทรหาเพื่อนที่กำลังรออยู่
“อาบน้ำเสร็จแล้วใช่ป่ะอ้อม เออ ๆ เดี๋ยวชั้นขับรถไปรับเว้ย รออยู่ที่บ้านแหละ”
แพรวพรรณขับรถ Toyota Camry สีบรอนด์ ที่พ่อกับแม่ของเธอไม่ได้ใช้แล้วไปรับเพื่อนที่บ้าน โดยไม่ได้สนใจสายตาของเหล่าบรรดาคนรับใช้ภายในบ้าน ที่กำลังจ้องมองเธออยู่ โดยเฉพาะตาเทิด ที่กำลังนั่งกินข้าวมื้อเที่ยงอยู่ที่หน้าห้องครัว
……………………………
ณ ถนนมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ - ชลบุรี
แพรวพรรณสวมแว่นดำกันแดดขณะกำลังขับรถบนทางหลวงที่มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ระหว่างที่กำลังขับรถอยู่ คุณหนูคนเล็กของบ้านก็เปิดคลื่นหาเพลงในคลื่นวิทยุฟังแก้เซ็งไปตามเรื่อง
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“จะอยู่ตรงนี้ถ้าเธอต้องการ ถ้าเผื่อทางนั้นทำเธอหมองหม่น โว้วว…” เสียงบทเพลงจากวงสตริงชื่อดังที่ใครฟังก็ต้องร้องตามได้ดังขึ้นมา “เห็นเธอเสียความรู้สึก ฉันที่รักเธอกว่าทุกคน ก็เสียใจ…”
“หากคำว่ารัก มันร้ายกับเธอมากไป บอกมาได้ไหมให้ฉันช่วยซับน้ำตา ส่งใจช้ำ ๆ ของเธอมา ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง” แพรวพรรณร้องคลอตามท่อนฮุคได้อย่างไม่ยากเย็น มันเป็นหนึ่งในบทเพลงที่เธอชอบฟังสมัยเด็ก
แต่ทำไมนะ? พอฟังเพลงนี้แล้ว มันทำให้เธอนึกถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อวันวาน ภาพของชายคนแรกในชีวิตอย่างเกริกฤทธิ์ ได้ลอยเข้ามาในห้วงความทรงจำของคุณหนูคนสวยของบ้านจารุศิริการกุล
“แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก” ภาพของตาเกริกในสภาพเปลือยเปล่านอนถ่างขาอล่างฉ่างบนเตียงนอนสีขาวบริสุทธิ์ภายในบังกะโลแห่งหนึ่งในหาดบางแสน “โอ้ยย…คุณหนูครับ…ลุงมีความสุขที่สุดเลยครับ แล้วคุณหนูละครับ คุณหนูมีความสุขไหมครับ?”
“มีความสุขซิคะลุง…” แพรวพรรณในสภาพเปลือยเปล่าไม่ต่างกัน เธอเดินนอนคว่ำเอามือชันคางมองยอดรักวัยดึกอย่างตาเกริกด้วยนัยน์ตาหวานเยิ้ม “นี่ลุงได้หนูแล้ว ลุงคงไม่คิดไปมีผู้หญิงคนอื่นอีกใช่ไหมคะ?”
“ทำไมพูดแบบนั้นละครับ!!” ตาเกริกลุกขึ้นจับมือคุณหนูแพรวพรรณ “สำหรับลุง คุณหนูคือที่สุดของที่สุดแล้ว ไม่มีใครดีเสมอคุณหนูแพรวของไอ้เกริกอีกแล้วละครับ”
“จริงเหรอ?” แพรวพรรณยิ้มหวาน “ลุงจะไม่มีใครอีกนอกจากแพรวใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนครับคุณหนู…” ตาเกริกหยิบมือของคุณหนูแพรวพรรณขึ้นมาจูบและหอมฟอดใหญ่ “ชีวิตและจิตใจของไอ้เกริก มอบให้คุณหนูแพรวเพียงคนเดียวเท่านั้นครับ”
แล้วแพรวพรรณกับตาเกริกก็พลอดรักกันอีกครั้ง โดยครั้งนี้แพรวพรรณขอขึ้นเป็นคนคุมจังหวะด้านบน มีหรือที่คนสวนผู้ภักดีอย่างเกริกฤทธิ์จะปฏิเสธ ตาเฒ่าได้ยาปลุกเซ็กส์นำเข้าจากประเทศจีนเพื่อมัดใจคู่นอนรุ่นราวคราวลูกคราวหลานอย่างแพรวพรรณ
“อ่าห์…อือออ…ลุงเกริก…ลุงเกริกขา…ผัวของแพรว…อือออ” แพรวพรรณร่อนเอวส่ายไปมาอย่างเร้าร้อน ส่วนตาเกริกที่ตอนอยู่ด้านล่างก็ใช้มือประคองสะโพกของคุณหนูยอดรัก ทรวงอกที่กำลังสั่นกระเพิ่ม หน้าท้องที่กำลังแขม่วเกร็งด้วยความเสียว และเหงื่อไคลที่ไหลผ่านกลางอกเรื่อยลงมาจนถึงสะดือบุ๋มสวยได้รูปของแพรวพรรณ มันช่างเป็นภาพที่เย้ายวนอารมณ์ใจชายเหลือเกิน
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ซี้ดดดด!!!! คุณหนูของไอ้เกริก!!! เมียรักของไอ้เกริก!!!” โดยเฉพาะตาเกริก คนสวนของบ้านจารุศิริการกุล ที่กัดฟันแน่นด้วยความเสียวซ่าน หัวใจของชายชราเต้นรัวราวกับว่ามันกำลังจะทะลุออกมาจากทรวงอกยังไงยังงั้นเลยทีเดียว
แน่นอน คุณหนูผู้สูงศักดิ์และคนสวนผู้ต่ำต้อยต่างให้ให้สัญญาใจกันว่า จะไม่มีทางยอมให้เรื่องนี้ล่วงรู้ไปถึงบุคคลที่สามอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะท่านวิทยา คุณหญิงพนิดา และหมอพลอย เพราะถ้าหากทั้งสามคนรู้เรื่องนี้ละก็ มีวัง บ้านแตกแน่นอน
…แต่สุดท้าย ความลับที่ว่าก็กลายเป็นความลับตลอดไป เมื่อตาเกริก คนสวนผู้จงรักภักดีต่อคุณหนูแพรวพรรณเกิดหยุดหายใจจากอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบผลัน ปล่อยให้คุณหนูคนสวยผู้ร้อนรักต้องทนทุกข์กับความเหงาที่กัดกินหัวใจเพียงคนเดียวลำพัง
……………………………
“ไงแก? รอมาถึงนานยัง?” หลังจากจอดรถตรงชั้นใต้ดิน แพรวพรรณก็เดินขึ้นบันไดเลื่อนมาพบกับอรอุมาเพื่อนรักที่นั่งรออยู่ในร้านกาแฟชื่อดังในห้างชื่อดังแห่งหนึ่งแถวประเวศ
“มาได้สักพักละ” แพรวพรรณยิ้ม
“แกอ้วนขึ้นป่ะเนี่ย?” เพื่อนรักของคุณหนูเอ่ยปากถาม
“เฮ้ย!! เค้าเรียกมีน้ำมีนวลต่างหาก!!!” แพรวพรรณบ่น “ป่ะ จะไปหาอะไรกินหรือหาหนังดูก่อนดี?”
“หาไรกินก่อนดีกว่า ชั้นหิวว่ะแก” อรอุมาตอบ
“ไปจองตั๋วแล้วหาอะไรกินง่าย ๆ ชั้นบนก่อนแล้วกัน” แพรวพรรณเสนอความเห็น ก่อนสองสาวเดินเข้าลิฟต์ขึ้นไปชั้นบนเพื่อจองตั๋วหนัง โดยทั้งคู่ได้ตกลงเลือกหนังรักโรแมนติกเกาหลีที่มีชื่อว่า ’69 วัน ฉันรักเธอตลอดกาล’ ระหว่างรอหนังเข้าโรง สองสาวก็ไปหาร้านอาหารชั้นบนสุดของห้างสรรพสินกินรองท้อง ระหว่างที่นั่งกินอาหาร สองสาวก็พูดคุยกันอย่างออกรสตามภาษาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน หลังจากที่กินอาหารเสร็จแล้ว สองสาวก็เดินไปซื้อน้ำซื้อขนมขบเคี้ยวก่อนตีตั๋วเข้าไปในโรงหนังทันที
“มินจุน!!! มินจุน!!!” นางเอกสาวกำลังวิ่งตามหาพระเอก ณ กลางกรุงโซลในยามค่ำคืนที่มีหิมะโปรยปราย “มินจุน!!! คุณอยู่ไหน!!! อย่าทิ้งชั้นไป!!! มินจุน!!! ชั้นรักคุณ!!”
“ผมไม่ได้ทิ้งคุณไปโซยอน…” แล้วดวงวิญญาณของมินจุนก็ปรากฏตัวขึ้นมาต่อหน้าโซยอน “ผมบอกคุณแล้วไง ไม่ว่าเมื่อไรหัวใจและจิตวิญญาณของผม ก็จะอยู่กับคุณตลอดไป…”
“มินจุน…ฮืออ…ชั้นขอโทษ…ชั้นขอโทษที่เคยร้ายกับคุณ” โซยอนวิ่งเข้าไปกอดมินจุนทั้งน้ำตา “อยู่กับชั้นตลอดไปนะมินจุน ชั้นขาดคุณไม่ได้…”
“ฮือ…” แพรวพรรณที่กำลังนั่งดูอยู่ถึงกับน้ำตาซึม จนเพื่อนรักของเธออย่างยัยอ้อมถึงกับยิ้มขำ เพราะไม่คิดว่ายัยแพรวจะอ่อนไหวได้ขนาดนี้ “ฮืออ…..”
“แพรว!!! อะไรของแกวะ!!!” ยัยอ้อมรีบหยิบทิชชู่ขึ้นมาให้เพื่อนรักที่กำลังบ่อน้ำตาแตก จริง ๆ ภาพยนตร์รักเกาหลีเรื่องนี้มันก็เศร้า เพราะสาว ๆ ในโรงหลายคนก็นิ่งเงียบและนั่งน้ำตาซึมเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าแพรวพรรณจะอินเกินเบอร์ไปหน่อย ถึงกับร้องไห้ออกมา จนคนดูในโรงต่างหันมามองที่เธอ “แพรว!!! เก็บอาการหน่อยเว้ย!! คนหันมามองเราแล้ว!!”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ขอโทษที…ฮืออออ” แพรวพรรณหยิบทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำตา เพราะประสบการณ์บางอย่างภายในภาพยนตร์รักเกาหลีเรื่องนี้มันดันไปสอดคล้องกับประสบการณ์ในชีวิตจริงของเธออยู่พอดี โดยเฉพาะเรื่องความรักที่ต้องพลัดพรากจากกันชั่วนิรันดร์ พระเอกตายก่อนนางเอกแบบนี้ เลยทำให้คุณหนูสาวนึกถึงความหลังกับผู้ชายคนแรกของเธออย่างตาเกริก
หลังจากภาพยนตร์จบลง คุณหนูแพรวก็เดินออกมาพร้อมกับเพื่อนรักอย่างยัยอ้อม สองสาวกำลังมุ่งหน้าไปเข้าห้องน้ำเพื่อทำธุระส่วนตัว
“นี่ยัยแพรว!!! แกรู้ตัวป่ะว่าคนทั้งโรงหนังมองแกอ่ะ!!” อรอุมาเอ่ยปากแซว “แกนี่มันอ่อนไหวง่ายจังวะ?”
“ก็หนังมันทำให้ชั้นนึกถึงความหลังน่ะแก…” แพรวพรรณที่กำลังล้างมือตอบ
“ความหลังอะไรของแกวะ? ชั้นรู้จักกับแกมานาน ไม่เคยเห็นแกมีแฟนสักคน? หรือว่าแฟนแกที่อังกฤษ?”
“เปล่า…” คุณหนูคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุลตอบ “แค่เรื่องของคนใกล้ตัวน่ะ ว่าแต่เราจะกลับชลบุรีเลยไหม? หรือว่าจะไปไหนต่อ?”
“แล้วแต่แกเลย…” อรอุมาตอบ
“งั้นไปหาร้านนั่งดริงค์กันป่ะ?” แพรวพรรณเสนอความเห็น
“กลับไปหาร้านนั่งกินแถวบ้านเราดีกว่าแพรว” ยัยออมแสดงความเห็น ก่อนที่สองสาวจะขับรถกลับไปที่ชลบุรีเพื่อหาผับนั่งดริงค์ก่อนกลับบ้าน โดยทั้งคู่ได้เลือกผับแห่งหนึ่งแถวบางแสน
……………………………
ณ ผับแห่งหนึ่งในชลบุรี
สองสาวขับรถกลับมาถึงบางแสนก็ราว 6 โมงเย็น ทั้งคู่หามุมสงบ ๆ นั่งดื่มเบียร์เย็น ๆ ภายในบาร์ที่หันหน้าไปทางหน้าหาดบางแสนเพื่อเสพบรรยากาศของชายทะเล
“แกเป็นไรป่ะวะแพรว?” แพรวพรรณดูเหมือนกำลังเหม่อลอยจนเห็นได้ชัด เลยทำให้อรอุมาเพื่อนรักเอ่ยปากถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ “ยังอินกับหนังเกาหลีไม่หายอีกเหรอ?”
“เปล่า ชั้นแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อย…” แพรวพรรณหันมายิ้มให้กับเพื่อนรัก
“เรื่องอะไรของแกอีกวะ? ความหลังเหรอ?” อรอุมาถาม “ความลับแกเยอะจังนะ?”
“ไม่ใช่หรอก…” แพรวพรรณตอบ ก่อนกระดกแก้วเบียร์เข้าปาก
“แพรว นี่ก็ดึกมากละ ชั้นว่าเราดื่มกันพอสมควรละ เดี๋ยวแกขับรถกลับบ้านไม่ได้ พอเถอะ” ยัยอ้อมแสดงความเห็น
“อืม ก็ได้ งั้นเรียกพี่เค้ามาเก็บเงินเลยแล้วกัน…” คุณหนูสาวตอบ
หลังจากสองสาวเช็คบิลล์เสร็จเรียบร้อย แพรวพรรณก็ขับรถยนต์ Toyota Camry พาอรอุมาเพื่อนรักไปส่งที่บ้าน ก่อนที่ตัวเองจะขับรถกลับบ้านไปนอนพักผ่อน แต่ด้วยความที่ยังอารมณ์ค้าง จากความเหงาและความคิดถึงที่มีต่อตัวเกริกฤทธิ์ คนสวนของบ้านจารุศิริการกุลผู้ล่วงลับ คุณหนูแพรวเลยแวะจอดร้านสะดวกซื้อ เพื่อซื้อบุหรี่และเบียร์กระป๋องใหญ่มาสองขวด
“ซี้ดดดด…” คุณหนูแพรวพรรณจุดบุหรี่ขึ้นมาสูบหน้าร้านสะดวกซื้อ ด้วยภาพลักษณ์ใส ๆ น่ารักของคุณหนู ใครเลยจะคิดว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้ใสซื่อไร้เดียงสาอย่างที่ใครคิด นี่ถ้าเกิดพ่อแม่ของเธออย่าง ท่านวิทยา คุณหญิงพนิดา และพี่สาวของเธออย่างแพทย์หญิงพลอยพรรณรู้เรื่อง มีหวังบ้านแตกแน่นอน
หลังจากที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับลุงเกริกแล้ว เธอเองก็กลายเป็นคนติดเซ็กส์ ตอนที่บินไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ แพรวพรรณเคยมีความสัมพันธ์กับหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวอยู่บ้าง แต่ฝรั่งพวกนี้ดูเหมือนแค่อยากสนุกไม่ได้อยากผูกพันธ์
“บอกให้นะแพรว ผู้ชายอย่างผมไม่ได้คิดจริงจังอะไรกับสาวเอเชียตาตี่แบบคุณหรอก!!”
มันเป็นคำพูดที่ทำให้แพรวพรรณยิ่งเจ็บปวดและผิดหวังมากขึ้นไปอีก เลยทำให้คุณหนูสาวผู้เดียวดายโหยหาความรักและความอบอุ่นที่ตนเองเคยได้จากตาเกริก
…แต่ปัญหาก็คือ ตาเกริกยอดรักของคุณหนูดันลาโลกไปแล้ว แล้วต่อจากนี้เธอจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร ดอกไม้ที่มีมีคนคอยรดน้ำพรวนดิน จะเติบโตต่อไปได้อย่างไร มันคงมีแต่จะแห้งเหี่ยว อับเฉา และตายไปในที่สุด
……………………………
หลังจากจอดรถเสร็จ แพรวพรรณก็หยิบซองบุหรี่ใส่กระเป๋าสะพายพร้อมกับเดินถือถุงเบียร์เข้ามา โดยมีพี่ขวัญที่ยังไม่ได้เข้านอนเปิดประตูมารับ
“คุณหนู? ตายแล้ว!!! คุณหนูเมาเหรอคะเนี่ย!!!” ขวัญฤทัย คนใช้ของบ้านจารุศิริการกุลดูตกใจไม่น้อยเมื่อห็นคุณหนูแพรวพรรณอยู่ในสภาพเมา “แบบนี้ถ้าคุณผู้ชายกับคุณผู้หญิงรู้มีหวังแย่แน่ ๆ เลยค่ะ ทำไมคุณหนูถึงทำแบบนี้คะ!!”
“นี่พี่ขวัญ? แพรวอายุ 20 แล้วนะคะพี่!!!” แพรวพรรณ “แพรวเป็นผู้ใหญ่พอแล้ว แพรวจะทำอะไร แพรวย่อมมีสิทธิ์!!”
“โถ่คุณหนู…” พี่ขวัญถึงกับส่ายหน้า “นี่ก็ดึกมากแล้วนะคะคุณหนู รีบขึ้นไปบนตึกอาบน้ำนอนเถอะค่ะ”
“อือ!!! พี่ขวัญกลับไปนอนเถอะ” แพรวพรรณตอบก่อนเดินโงนเงินถือถุงพลาสติกใส่กระป๋องเบียร์เดินอ้อมเข้าไปหลังบ้าน ตรงสวนดอกไม้ในยามค่ำคืน ที่มีเพียงแสงสว่างจากเสาไฟ คุณหนูขี้เมาทิ้งตัวนั่งบนม้านั่งหิน ก่อนหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาซดย้อมใจ “อึ๊ก!!! อึ๊ก!!! อึ๊ก!!!”
“คุณหนูอย่าทำแบบนี้เลยครับ มันไม่ดีนะ…” แล้วทันใดนั้น แพรวพรรณก็ได้ยินเสียงแว่ว ๆ ดังขึ้นมาจากด้านหลัง น้ำเสียงที่ได้ยินนั้นไม่ใช่น้ำเสียงของคนอื่นคนไกล แต่เป็นน้ำเสียงของไอ้เกริก อดีตคนสวนของบ้านจารุศิริการกุลผู้ล่วงลับนั่นเอง
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ใครน่ะ!!! ใคร!!??” แพรวพรรณลุกขึ้นมองซ้ายขวา “ลุงเกริก?? นั่นใช่ลุกเกริกหรือเปล่าคะ!!! ลุงเกริก!!!”
แพรวพรรณเหลือบมองซ้ายขวา แต่ไม่ว่าจะมองทางไหน ก็ไม่เห็นร่างของตาเกริกยอดรักของเธอเลย สุดท้าย คุณหนูสาวอารมณ์เปลี่ยวเลยทิ้งตัวนั่งบนม้านั่งหินแล้วซดเบียร์ย้อมใจต่อ จนกระทั่ง…
“คุณหนู?” แล้วทันใดนั้นเอง ตาเทิด คนสวนคนใหม่ก็ปรากฏตัวตรงหน้าคุณหนูแพรว “คุณหนูมานั่งทำอะไรที่สวนหลังบ้านตอนดึก ๆ ครับเนี่ย?”
“ทำไมจะนั่งไม่ได้…” คุณหนูแพรวพรรณในสภาพเมาแอ๋ถือกระป๋องเบียร์ขึ้นมาซดแบบไม่แคร์ภาพลักษณ์และชาติตระกูลของตัวเอง “ที่นี่คือบ้านของชั้น ทำไมชั้นจะนั่งไม่ได้!!!! ตาเทิด!!!”
แล้วแพรวพรรณก็ลุกขึ้นเดินสะเปะสะปะเข้ามาหาไอ้เทิดที่กำลังยืนทำหน้าเลอหลาทำตัวไม่ถูก
“คุณหนูครับ คุณหนูเมาแล้วนะครับ รีบขึ้นไปอาบน้ำนอนเถอะครับคุณหนู เดี๋ยวถ้าใครมาเห็นเข้ามันจะไม่งามนะครับ!!” ไอ้เทิดเอ่ยปากเตือนคุณหนูแพรวพรรณด้วยความหวังดี
“ชั้นเห็นนายแอบมองชั้นตลอดเวลาเลย นายเทิด…” แพรวพรรณยิ้มแก้มแดงระเรือ “นายว่าชั้นสวยหรือเปล่า? ห๊ะ? นายว่าชั้นสวยหรือเปล่า?”
“เอ่อ…” เทิดศักดิ์ถึงกับนิ่งไป แพรวพรรณจ้องหน้าไอ้เทิดตาขวาง ส่วนไอ้เทิดก็ไม่ได้แสดงท่าทีเกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ราวกับรับรู้ความรู้สึกของคุณหนูคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุลว่าเธอกำลังต้องการอะไร
“นายยังไม่ตอบชั้นเลยนายเทิด…เอื้อก!!!” คุณหนูคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุลสะอึก “นายแอบมองชั้นทำไม? เพราะชั้นสวยใช่ไหม? สายตาแบบนั้นขอเถอะ มันปิดบังความจริงไม่ได้หรอกนะ…”
“เอ่อ…ถ้าคุณหนูอยากรู้คำตอบ” เอาวะ มาถึงขั้นนี้แล้ว ลองวัดใจไปเลย อยู่ดี ๆ กูจะได้ล่อคุณหนูคนเล็กของบ้านซะงั้น บุญหล่นทับเต็ม ๆ เลยไอ้เทิดเอ้ย!!! “คุณหนูเข้ามาคุยในห้องของผมก่อนซิครับ เดี๋ยวผมจะบอกคุณหนูเอง…”
“อือ…” แพรวพรรณยิ้มที่มุมปาก แก้มแดงระเรือเหมือนดีใจที่กำลังจะได้กินของอร่อย “มันต้องยังงั้น…อืออ”
“งั้นรีบตามผมมาเลยครับคุณหนู” ไอ้เทิดยิ้มที่มุมปาก “เร็วเข้าครับ เดี๋ยวใครมาเห็น หยิบถุงเบียร์มาด้วยก็ดีครับ มากินในห้องผมก็ได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมเอาไปทิ้งให้”
แล้วแพรวพรรณก็เดินโงนเงินตามตาเทิดเข้าไปในบ้านพัก ในจังหวะที่คุณหนูคนเล็กของบ้านเดินผ่านไอ้เทิด กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากเรือนกายคุณหนูแพรวพรรณก็ลอยเตะจมูกเทิดศักดิ์คนสวนคนใหม่ของบ้าน มันช่างหอมหวานและกระตุ้นอารมณ์กำหนัดชายดีนักแล
หลังจากที่คุณหนูแพรวพรรณเดินเข้าไปในบ้านพักของไอ้เทิดแล้ว ไอ้เทิดผู้เป็นเจ้าของบ้านก็กดล็อคกุญแจ ใส่ก่อน และเดินเข้าไปหาคุณหนูคนสวยด้วยนัยน์ตาหื่นกระหาย
“จะทำอะไรชั้นเหรอนายเทิด?” คุณหนูแพรวพรรณทำเสียงเย้ายวนใส่คนสวนคนใหม่ ไม่มีใครรู้แน่นอนว่าทั้งหมดนี่เป็นเพราะความเมาหรือเป็นเพราะอะไรกันแน่ “อย่านะเทิด…อย่า”
“อย่าอะไรเหรอครับคุณหนู” ไม่รอช้าไอ้เทิดก็โผลเข้ากอดคุณหนูแพรวพรรณคนสวย พร้อมกับซุกไซ้ซอกคอด้วยความหื่นกระหาย “ผมไม่ไหวแล้วครับคุณหนู!!!”
“อ๊าย!!! อย่านะเทิด!!!! อย่า!!” ถึงแม้ปากจะร้องห้าม แต่ดูเหมือนว่าทายาทคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุลจะไม่ได้มีท่าทีต่อต้านคนสวนผู้ต่ำต้อยอย่างตาเทิดเลยแม้แต่น้อย “อือออ!!!”
พอเจอตาเทิดไซ้คอไม่นาน คุณหนูคนสวยถึงกับยืนเคลิ้ม ปล่อยตัวปล่อยใจให้คนสวนผู้ต่ำต้อยได้เสพกายสาวของเธอ
“น้าเทิดจ๋า…อย่าทิ้งแพรวนะ” แพรวพรรณครวญเสียงหวาน ทำเอาเลือดลมในร่างกายหนุ่มใหญ่วัยห้าสิบห้าอย่างไอ้เทิดสูบฉีดไปทั่วร่าง เพราะไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะมีบุญวาสนาได้ลิ้มลองเนื้อนางหงส์ผู้สูงศักดิ์อย่างคุณหนูแพรวพรรณแบบนี้
“ไม่ต้องกลัวหรอกครับคุณหนู น้าเทิดคนนี้จะไม่ทิ้งคุณหนูไปไหนแน่นอน…” ไอ้เทิดยิ้มหวาน ก่อนประคองคุณหนูสาวนั่งบนเตียง แล้วเริ่มซุกไซ้ซอกคอเนียนขาวสะอาดไร้สิวฝ้าใด ๆ ของคุณหนูแพรวพรรณให้หายอยาก
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“อือ…” คุณหนูคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุลหลับตาพริ้มครางเสียงกระเซ่า หญิงสาวเอื้อมมือแต่ไหล่ของตาเทิดที่กำลังรุกเร้าเธอหนักขึ้นเรื่อย ๆ
 
โปรดติดตามตอนต่อไป...
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน