ต้นเรื่องฉบับสมบูรณ์ครับ ติดตามอ่านกันเลย #ขอบคุณทุกๆท่านครับ ขอให้ชอบ ขอให้ถูกใจกันนะครับ
ทุ่งเสรีคือ?...หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งอยู่ห่างไกลจากตัวเมืองและอำเภอ ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆมีบ้านเรือนแค่ยี่สิบกว่าหลัง ตั้งอยู่ใจกลางท้องทุ่งและผืนป่าเล็กๆไม่กี่สิบไร่ ที่นี่นอกจากจะห่างไกลแล้วยังไม่ค่อยเจริญถึงแม้ว่าจะพอมีไฟฟ้าและถนนคอนกรีตตัดผ่าน แต่มันก็ถูกทำมาหลายสิบปีแล้วและขาดการซ่อมบำรุงจึงมีสภาพเป็นหลุมเป็นบ่อไม่ต่างจากถูกปล่อยทิ้งและหมู่บ้านนี้ก็ไม่เคยมีเจ้าหน้าที่ใดๆมาเหลียวแลเลยสักนิด แม้ว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ไม่รู้กี่หนต่อกี่หน แต่สภาพถนนก็ไม่เคยได้รับการซ่อมแซมเลยจนทุกวันนี้มันเปลียนจากคอนกรีตเป็นทางดินกรวดแล้ว

ผู้คนในหมู่บ้านเองก็ถูกปล่อยให้อยู่พึ่งพากันเอง ต่อให้มีผู้ใหญ่บ้านก็ไม่ได้ช่วยอะไรเพราะตัวผู้ใหญ่บ้านก็เป็นแค่หัวหน้าหมู่บ้านที่ชาวบ้านเลือกมาเท่านั้น จึงไม่มีค่าในสายตาของหน่วยงานที่รับผิดชอบในเขตตำบลหรืออำเภอนั้นเลย ที่ดีหน่อยก็คือคลื่นโทรศัพทร์ที่พอมีให้ใช้สื่อสารทางไกลได้บ้างถึงจะแค่ขีดเดียวก็ตาม! ชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้านนี้จึงตั้งชื่อตามสถานะที่ถูกทอดทิ้งให้อยู่พึ่งพากันเอง ว่า หมู่บ้านทุ่งเสรี!
ต้นปี2559 ผู้ใหญ่และชาวบ้านทุ่งเสรีทุกคนได้ส่งเรื่องร้องขอครูสอนหนังสือไปทางจังหวัด เหตุเพราะระยะทางจากหมูบ้านไปโรงเรียนที่ใกล้ที่สุดนั้นไกลกว่า70กิโล ด้วยระยะทางที่ไกลและไม่สะดวกสบายเพราะถนนเป็นหลุมเป็นบ่จึงเป็นเรื่องยากที่ชาวบ้านจะพาลูกๆหลานไปเรียนได้! ซึ่งทางจังหวัดก็รับเรื่องและบอกว่าจะจัดหาบุคคลากรด้านครูสอนหนังสือส่งมาที่หมู่บ้านทุ่งเสรี!
ปี2560 ทางจังหวัดก็ได้ส่งครูเข้ามาประจำที่โรงเรียนที่ผู้ใหญ่และชาวบ้านทุ่งเสรีได้ร่วมกันสร้าง โดยครูที่ทางจังหวัดได้ส่งมานั้นเป็นครูหนุ่มไฟแรงจากกรุงเทพ ที่อาสามาประที่โรงเรียนในหมู่บ้านทุ่งเสรี ชื่อครู..เอก หรือ เอกภพ อายุ25สูง170 และยังมีบุคคลากรทางการแพทย์ที่ทางจังหวัดไม่ได้จัดหามาแต่ดันได้พ่วงมาคือแฟนของครูเอก ชื่อหมอบี หรือ จิรารัตน์ หมอสาววัย25ที่ยื่นเรื่องขออาสาตามครูเอกมาประจำที่ทุ่งเสรี!
วันที่10มีนา60 รถกะบะสองประตูยี่ห้อโตโยต้าสีดำได้วิ่งมาตามเส้นถนนคอนกรีดจากตัวเมืองมาจนถึงถนนเป็นหลุมเป็นบ่อยาวหลายร้อยกิโลที่เข้ามายังทุ่งเสรี รถคันนั้นได้วิ่งมาจอดที่หน้าบ้านหลังหนึ่งติดถนนเป็นบ้านไม้หลังเก่าซอมซ้อ!มีชายคนนึงนั่งอยู่

พอรถจอดกระจกประตูหน้าก็ลดเปิดลง พร้อมกับใบหน้าของสาวสวยยื่นออกมามองชายที่นั่งอยู่หน้าบ้าน จนชายคนนั้นถึงกับจ่องด้วยสายตาตื่นตะลึงในความสวยของหญิงสาวบนรถ
"อือ...ขอโทษนะคะ...ลุง...บ้านของ..เออ..ผู้ใหญ่มาไปทางไหนคะ...." หญิงสายที่ยื่นหน้าออกมาจากรถเอ่ยถามชายที่นั่งอยู่หน้าบ้าน
"อ๋อ...เฮือนผู้ใหญ่มาบ่...ไปทางผุ่นเด้อ....ขับตรงไปโลด...ไปจนฮอดหม่องกกไม้ใหญ่ๆที่มีคันโยกน้ำหะละ...อันนั้นละ...เฮือนผู้ใหญ่มา..." เสียงตอบจากชายที่นั่งอยู่หน้าบ้านที่พูดเอ่ยออกมาด้วยสำเนียงคนพื้นถิ่นอีสาน
"เอออออ...ต้นไม้...ที่มีคันโยกน้ำ...อืม...ค่ะขอบคุณค่ะ..." เสียงตอบของหญิงสาวที่ดูจะไม่ค่อยเข้าใจในภาษาที่ชายคนนั้นพูดแต่เธอก็พอจับใจความได้บางส่วน
พอรับรู้สถานที่คร่าวๆหญิงสาวก็หันไปบอกกับคนขับและเลื่อนปิดกระจกก่อนที่รถจะวิ่งไปต่อ
"เค้าบอกว่า..อืม...ที่มีต้นใหญ่ๆ...มีคันโยกน้ำหน้าบ้านอะ...เค้าจับใจความได้แค่นี้.." หญิงสาวได้หันไปบอกกับคนขับขับ
"อืมม...ตรงไปใช่ไหม...ที่มีคันโยกน้ำเนาะ.." ชายคนขับกล่าว
ต่อมารถโตโยต้าสีดำคันดังกล่าวก็วิ่งตามทางมาเรื่อยๆอย่างเชื่องช้าเพราะหลุมบ่อ จนผ่านบ้านเรือนอีกหลายหลังมาราวๆ500เมตร ก็เลี่ยวเข้าข้างทางตรงหน้าบ้านหลังหนึ่งที่มีต้นกระบกใหญ่กับคันโยกน้ำอยู่ใต้ต้น พอรถจอดทั้งหญิงสาวและชายคนขับก็ยื่นหน้าออกมาจากรถชะโงกมองหาคนในบ้าน ก่อนที่จะมีชายแก่วัยกลางคนเดินออกมาจากหลังบ้าน ชายคนนั้นใส่ชุดชาวไร่ขาดๆเก่าๆตัวอ้วนดำเดินดุ่มๆมายังรถที่จอดอยู่พร้อมกับเสียงเอ่ยถามของชายคนขับรถที่ดังขึ้นมาถามชายวัยกลางคนที่กำลังเดินมา?
"เออ..ขอโทษนะครับ...นี่ใช่บ้านผู้ใหญ่มาไหมครับ..." ชายคนขับรถเอ่ยถาม
"อ๋อ...ครับ...ผมนี่ละผู้ใหญ่มา...มีธุระหยัง.." เสียงตอบจากชายวัยกลางคนที่เดินมาหยุดยืนอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน
"ผม...ครูเอกครับ...ที่จังหวัดส่งมาสอนเด็กๆที่นี่ครับ..." ชายขับรถหรือเอกภพตอบ
"อ๋อ..ครับๆ..สวัสดีครับคุณครู...เอาๆจอดรถก่อนครับ..ลงมาคุยกันในเฮือนก่อน.." เสียวบอกจากผู้ใหญ่มา
"ครับ...ผู้ใหญ่...จอดตรงนี้ได้นะครับ..." เอกกล่าวถาม
"ได้ครับ..." เสียงบอกจากผู้ใหญ่มา
พอผู้ใหญ่มาบอกให้เอกขับรถเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้านเอกก็เลี้ยวรถเข้ามาจอด ก่อนที่เขาและหญิงสาวที่มาด้วยกันจะก้าวลงจากรถมานั่งคุยกับผู้ใหญ่ที่แคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน!
"อืม...ครูเอกเนาะครับ...คนที่จังหวัดส่งมาประจำอยู่หมู่บ้านนี่แมนบ่ครับ" ผู้ใหญ่มาถาม
"ครับผู้ใหญ่..." เอกตอบ
"อืม...แล้ว...ผู้นี่ละครับ" ผู้ใหญ่มาหันไปมองหญิงสาวที่มากับครูเอกและกล่าวถามว่าเธอคือไคร
"อ๋อ...คนนี้แฟนผมครับ...ชื่อบี...เธอเป็นหมอที่อาสามาอยู่ที่นี่อีกคนน่ะครับ.." เอกกล่าวบอก
"อ๋ออออ...ครับ...ผมกะเห็นซื่ออยู่ในจดหมายของจังหวัดอยู่....ที่แท้กะแฟนคุณครูเนาะ..."ผู้ใหญ่กล่าวตอบรับคำ
"ครับ...ผู้ใหญ่...คือพอผมอาสามาที่นี่...แฟนผมเลยทำเรื่องขอย้ายมาด้วยครับ" เอกกล่าวบอก
"อืม...ดีครับๆหมู่บ้านนี่จังสิไดมีทั้งครูทั้งหมอ..อืมแล้วครูเอกกะบ่ต้องเรียกผมผู้ใหญ่เด้อ...เรียกผมสั้นว่าลุงกะพอ..ไม่ต้องเรียกเป็นทางการดอกครับ..." ผู้ใหญ่มากล่าวบอกเอก
"ครับผู้ใหญ่...เออ!..ลุงมา.." เอกกล่าว
"อืมม..ซั่นกะถ้าแป๊บนึงเด้อเดียวผมไปเอิ้นบักนวยลูกชายก่อน...แล้วเดียวสิให้มันพาครูกับหมอไปหม่องพักครัย...ถ้าจักหน่อยเด้อครับ.." ลุงมากล่าวบอกเอกพร้อมลุกเดินไปทางหลังบ้าน
เอกและบีนั่งรอลุงมาที่แคร่ไม้ไผ่พักนึงลุงมาก็เดินกลับมาทางหลังบ้านพร้อมเด็กหนุ่มผิวดำก่อนจะมาหยุดยืนตรงหน้าเอกและบี ในตอนนั้นเองเด็กหนุ่มที่ลุงมาพามาก็เอ่ยออกมาด้วยความสงสัยเมื่อเดินมาเห็นเอกและบี?
"แม้นผู้ใดพ่อ...คือหล่อแท้...อีกคนกะงามๆ.." เสียงเอ่ยถามจากเด็กหนุ่มที่ถามลุงมา
ลุงมาไม่ได้ตอบที่เด็กหนุ่มคนนั้นถามแต่กลับหันมาพูดกับเอกและบี แนะนำว่าเด็กหนุ่มที่พามาคือไคร
"นี่บักนวยครับ...ลูกชายผม...เดียวมันสิพาครูกับหมอไปหม่องพักครับ" เสียงบอกจากลุงมา
"ครับ..ลุงมา..." เอกตอบรับคำ
"นวย...มึงพาครูกับหมอเพิ่นไปเฮือนพักเด้อ...อยู่โรงเรียนน่ะ.." ลุงมากล่าวบอกนวยลูกชาย
"อืมม...ครูกับหมอเบาะ...ปาด..กะว่าแล้ว...คือหล่อคืองานแท้...เอ้าๆ..ตามผมมาเด้อครับ...คุณครูคุณหมอ" เสียงกล่าวบอกพร้อมกับนวยที่เดินออกไปหน้าบ้าน
เอกและบีก็กลับขึ้นรถก่อนจะถอยรถออกจากบ้านผู้ใหญ่มา แล้วเรียกให้นวยเด็กหนุ่มวัย13-14ขึ้นรถ
"อูววว...ปาด....อันนี้เบาะรถ..ปาด...ปาด..เกิดมาบ่เคยนั่งจักเทือ..." เสียงร้องของนวยเมื่อเปิดประตูขึ้นมานั่งบนรถของเอก
"อืมม...แล้วที่พักไปทางไหน..นวย..." เอกกล่าวถามเด็กหนุ่ม
"ตรงไปเลยครับจนสุดโค้ง..แล้วเลี้ยวไปทางซ้ายสุดทาง..กะฮอดแล้วครับ" นวยบอก
หลังจากนั้นเอกก็ขับไปตามที่นวยบอกเขาตรงมาจนเจอโค้งก็เลี้ยวซ้ายและตรงไปสุดทาง เอกขับตรงตามทางดินแดงมาไกลจากบ้านผู้ใหญ่เกือบกิโลก็ถึงโรงเรียนเล็กๆที่มีอาคารชั้นเดียวและมีบ้านพักอยู่หนึ่งหลัง ตลอดสองข้างทางที่ผ่านเอกก็สังเกตุว่ามีบ้านคนอยู่แต่ห่างๆกันเกือบร้อยเมตร!

พอมาถึงบ้านพักในโรงเรียนเอกก็ขับรถเข้าไปจอดที่หน้าบ้านและดับเครื่อง ก่อนจะลงมาขนของที่อยู่ท้ายกระบะเข้าไปในบ้านโดยมีนวยลูกลุงมาช่วยขน พอขนเสร็จเอกก็เดินดูรอบบ้านๆก็พบว่ามีไฟฟ้าให้ใช้และห้องน้ำก็มีน้ำจากบ่อดินที่มีปั้มดูดให้ ถือว่าสะดวกสะบายพอควร
"นี่นวย...บ้านหลังนี้พึ่งสร้างหรอ.." เอกถามด้วยความสงสัยที่บ้านพักนั้นดูใหม่และข้าวของสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างปั้มน้ำก็เหมือนพึ่งติดตั่ง
"ครับ..สร้างแล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนนี่ละครับครู..." นวยกล่าวบอก
"อ๋อ...อืมม..." เอกรับคำ
พอเดินดูรอบบ้านแล้วเอกก็กลับเข้าบ้านไปช่วยบีจัดของโดยในบ้านมีที่นอนให้พร้อมกับผัดลม เอกก็จัดการเอากล่องหนังสือที่เอามาไปวางที่มุมบ้านพร้อมกับของด้านการแพทย์ก่อนจะมาช่วยบีจัดเสื้อผ้า โดยมีนวยคอยช่วยจัดของอื่นด้วยอีกแรง แล้วในระหว่างที่เอกจัดของกันอยู่ก็มีชาวบ้านหลายคนแวะเวียนไปมาถามไถ่ว่าเอกเป็นไคร พอรู้กันแล้วก็พากันกลับไป จนเวลาผ่านไปราวๆ2ชั่วโมงทุกอย่างก็เข้าที่ ลุงมาก็ขี่รถมอไซค์มาที่บ้านพักเพื่อดูความเรียบร้อยก่อนจะพานวยกลับ!
"เรียบรอยดีนะครับครู...ขาดเหลืออะไรบอกชาวบ้านให้ไปบอกผมได้เลยนะ..." ลุงมากล่าวบอก
"ครับ...ลุงมา..." เอกตอบรับ
"อืม...ส่วนเรื่องข้าวเย็นวันนี้ก็ไปทานที่บ้านผมก่อนนะครับ...เดียวพรุ้งนี้ผมจะเอาพวกเครื่องครัวมาให้" ลุงมากล่าวบอก
หลังจากนั้นลุงมาก็ขับรถพานวยกลับบ้านไป ส่วนเอกและบีก็กลับเข้ามาเตรียมเสื้อผ้าอาบน้ำเพราะตอนนี้มันเย็นแล้วและยังต้องขับรถไปทานข้าวที่บ้านลุงมา !
พอเข้าช่วงเย็นเอกและบีก็ไปอาบน้ำเปลียนเสื้อผ้าที่ใส่กันมาทั้งวัน โดยบีอาบก่อนแล้วเอกอาบทีหลัง พออาบเสร็จทั้งคู่ก็ขับรถไปบ้านผู้ใหญ่มาเพื่อทานข้าวเย็น พอเอกขับรถมาถึงก็เห็นลุงมาเตรียมกับข้าวรออยู่แล้ว ก่อนที่ลุงมาจะกวักมือเรียกเอกและบีให้เข้ามาในบ้านของแก เอกและบีจึงจอดรถและเดินเข้ามานั่งที่แคร่ไม่ไผ่ที่มีถ้วยกับข้าวตั้งอยู่2-3อย่าง!
"เอาๆ...กินข้าวกันครับครู..หมอ...มีแกงไก่..ต้มปลา..เจียวป่าดุกครับ..." ลุงมาเรียกให้เอกบีหันเข้ามานั่งกินข้าว
"ครับ...ลุงมา" เอกรับคำพร้อมกับดึงบีเขยิบเข้ามานั่งล้อมวงกินข้าว

ระหว่างนั้นนวยก็ยกหมอหุ้งข้าวมาตั้งที่แคร่ก่อนที่ลุงมาจะตักใส่จานแล้วส่งให้เอกและบี ก่อนที่ต่อมาทั่งสี่จะนั่งกินข้าวกัน ระหว่างนั้นบีก็มองๆที่นวยและลุงมาอย่างสงสัยก่อนจะเอยถามอะไรออกมา
"อืมม...ลุงมาคะ...แล้วเมียลุงไม่มาทานด้วยหรอคะ.." บลูเอ่ยถาม
"อ๋อ..เมียลุงเค้าไม่อยู่แล้วครับหมอ..." ลุงมากล่าวบอก
"อ่าว...ขอโทษที่ถามนะคะลุง..หนูไม่รู้.." บีกล่าว
"ไม่เป็นไรครับ...ผมไม่ว่าอะไร.." ลุงมาบอก
"หืมม...แล้วลุงมาเลี้ยงเจ้านวยมาคนเดียวหรอครับ.." เอกกล่าวถามขึ้นมา
"ครับครู...ตั่งแต่แม่มันเสียไปตอนมันสิบขวบผมก็เลี้ยงมันมาคนเดียวครับ..." ลุงมาบอก
"อือ...ครับ...คงเหงาแย่เลยนะครับเจ้านวย" เอกกล่าว
"มันไม่เหงาหรอกครับครู...วันๆผมไม่เห็นมันเหงาหง๋อยเลย..วันๆเที่ยวเล่นเฮฮากับเพื่อนรุ่นเดียวกัน.." ลุงมาบอก
"งั้นก็ดีครับที่นวยเป็นเด็กร่าเริง...ดูแล้ว...นวยน่าจะเรียนได้เก่งพอดวร" เอกกล่าว
"ครับครู....แต่มันไม่ค่อยตั่งใจสักเท่าไหร่.." ลุงมาตอบ
หลังจากคุยกันพร้อมกับนั่งกินข้าวกันพักใหญ่ๆเอกและบีก็แยกกลับมานอนที่บ้านพัก โดยก่อนหน้าที่จะกลับลุงมาก็บอกว่าพรุ้งนี้จะนัดชาวบ้านมาประชุมที่โรงเรียน
ในเช้าวันต่อมาเอกก็ตื่นขึ้นเพราะเสียงเรียกจากหน้าบ้าน เอกจึงเปิดประตูออกไปดูก่อนจะพบว่าเป็นเจ้านวยที่มาเคาะเรียก
"มีอะไรหรอนวย...มาเรียกแต่เช้าเลย.." เอกยื่นหน้าออกไปถาม
"พ่อให้มาบอกครับว่า...ไปกินข้าวเช้าอยู่เฮือนเด้อครับครู..." นวยบอกก่อนจะปั่นจักรยานออกไปจากโรงเรียน
ด้านเอกที่รู้เรื่องที่นวยมาเคาะก็เดินมาปลุกบีที่ยังคงหลับอยู่บนที่นอน
"บี...บี..ตื่นได้แล้วจ๊ะ...สายแล้ว..." เอกปลุกบี
"หือ..หืม...สายแล้วหรอ..อืออออ..." บีถามพร้อมกับบิดขี้เกลียดและลุกนั่ง
พอทั้งสองคนตื่นนอนกันพร้อมแล้วก็ผลัดกันอาบน้ำและแต่งตัวก่อนจะไปบ้านลุงมา เมื่อทั้งสองมาถึงบ้านลุงมาเอกและบีก็เข้าไปนั่งล้อมวงกินข้างอย่างเมื่อคืนที่ต่อมาหลังกินเสร็จลุงมาก็บอกว่าวันนี้ช่วงสายๆจะพาชาวบ้านไปประชุมที่โรงเรียน แล้วจะสร้างศูนย์การแพทย์ขึ้นด้วย เอกและบีที่นั่งฟังก็ตอบรับก่อนที่จะกลับมาเตรียมตัวที่บ้านพัก พอช่วงเวลาซัก10:00 ชาวบ้านกลุ่นนึงก็มานั่งรอกันที่ห้องเรียนของโรงเรียนโดยมีลุงมาพร้อมกับเจ้าหน้าที่ของตำบลด้วย หลังจากนั้นลุงมาก็เริ่มประชุมกันถึงแผนการที่จะให้ชาวบ้านพาลูกหลานมาเรียนกับเอกที่โรงเรียนนี้ โดยได้รับการรับรองจากตำบลและลูกหลานก็ได้รับวุติการศึกษาจริงๆที่รับรองได้!
พอตกบ่ายหลังประชุมจบทางลุงมาพร้อมชาวบ้านห้าหกคนก็พากันไปกันไปที่วัด เพื่อขอใช้ที่ดินท้ายหมู่บ้านเป็นที่สร้างอาคารอนามัยของชุมชน ทางวัดก็อนุญาตให้ใช้เพื่อเป็นประโยชน์แก่ชาวบ้าน หลังจากนั้นลุงมาก็เรียรายเงินจากชาวบ้านมาซื้ออุปกรณ์ข้าวของที่ใช้สร้างอย่างปูนไม้หลังคา ซึ้งก็ได้มาราวๆ4หมื่นรวมกับทางเจ้าอาวาสวัดบริจาคด้วย
หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์ตั่งแต่วันที่การประชุมจัดแผนงานเริ่มต้นจนถึงวันนี้ที่ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ เอกก็เริ่มสอนเด็กๆในหมู่บ้านไปแล้ว3วันส่วนบีก็คอยช่วยสอนด้วยเช่นกัน และทางอนามัยที่กำลังสร้างก็เริ่มเป็นรูเป็นร่างแล้ว เพราะหลังไม่ใหญ่นักโดยโครงสร้างเป็นไม้กรึ่งปูน โดยใช้งบแค่4หมื่นก็เป็นอาคารสมบูรณ์แล้ว เพราะไม้ส่วนใหญ่ได้มาจากที่นาของชาวบ้าน และยังได้มีการสร้างทั้งเตียงนอนและราวผ้ากั้นห้อง ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือต่างๆรวมยาบีก็เป็นคนจัดเตรียมเองทุกอย่าง เอกและบีสอนเด็กในหมู่บ้านมาเรื่อยจนผ่านอาทิตย์ที่สองศูนย์อนามัยก็สร้างเสร็จ

วันที่26มีนา บีก็ขนของและอุปกรณ์การแพทเข้ามาในศูนย์อนามัย มีอุปกรณ์การแพทย์เบื้องต้นครบทุกอย่างและมีเกี่ยวกับสถานะการฉุกเฉินอีกชุดใหญ่ เรียกได้ว่าพร้อมบริการช่วยเหลือชาวบ้านทุกคน วันที่30มีนา บีก็ทำการเปิดอนามัยพร้อมกับนำแนวทางการเข้ามารักษาโรคภัยไข้เจ็บ ชาวบ้านก็ทะยอยกันมาฟังบรรยายพร้อมตรวจโรคภัยไข้เจ็บกับบีเกือบทั้งหมู่บ้าน บีก็ถือว่าเป็นวันแรกที่ดีที่คนมาฟังเยอะ
พอช่วงบ่ายนวยก็แวะมาเล่นที่อนามัยโดยมาคอยช่วยงานบีหยิบโน้นนี้ให้และพอไม่มีคนนวยก็หันมานั่งเล่นนั่งคุยกับบี บีเองที่เห็นนวยมาช่วยงานเธอก็คุยด้วยท่าทีเอ็นดู
"นี่..เรียนเป็นไงบ้าง...นวย..." บีเอ่ยถาม
"หือ...ผมบ่ไดเรียนครับหมอบี...ผมจบป.หกแล้ว..ครับ" นวยหันมาตอบ
"อ๋อถึงว่า...บ่ายแล้วยังไม่เห็นไปเรียน" บีกล่าว
พอรู้ว่านวยจบป.6แล้วบีจึงไม่ได้ถามต่อ แต่กลับเอ่ยชวนนวยไปร้านขายของเป็นเพื่อน
"นี่..นวย...ไปร้านขายของเป็นเพื่อนพี่หน่อย.." บลูกล่าว
"ครับ...เอื่อยหมอบี...แต่ต้องซื้อขนมให้ผมกินนำเด้อครับ" นวยกล่าว
"อ่า...เดียวซื้อให้กิน...ป๊ะ.." บลูกล่าวพร้อมลุกเดินออกไปหน้าอนามัย
หลังจากนั้นบลูก็เดินมาที่ถนนหน้าศูนย์อนามัยก่อนจะเดินตรงตามทางที่สองข้างทางเป็นสวน มีต้นไม้ปกคลุมเป็นแนวยาวราวๆร้อยเมตร พอพ้นแนวสวนไปอีกห้าสิบเมตรก็ถึงร้านขายของ รวมระยะทางแล้ว150-160เมตรจากอนามัยมาร้านขายของ

บีมาซื้อน้ำแช่เย็นดื่มพร้อมกับซื้อขนมให้นวยด้วยนิดหน่อย ก่อนที่บีจะเดินกลับมายังอนามัย แต่ในระหว่างที่กำลังจะเดินออกมาจากร้านขายของนั้น จู่ๆก็มีเสียงพูดออกมาจากชายคนนึงที่เดินตรงเข้ามาในร้าน ?
"เฮ้ยย...บักนวย...มึงมากับไผวะ...คืองามแท้..." เสียงถามจากชายที่เดินเข้ามาในร้านค้า
"ผู้ไดกะอย่าแล้ว....สิอยากฮู่ไปเฮ้ดหยังเดียวนิ..." นวยตอบด้วยน้ำเสียงและท่าทางบงบอกถึงความไม่ชอบใจ
"ฮวยยบักห่านิ...มาตอบกวนตีนแท้...มึงเด้อถ้าบ่แมนลูกผู้ใหญ่กูสิเตะให้..." ชายคนนั้นกล่าวตอบนวยด้วยท่าทีไม่พอใจกับคำที่นวยตอบ
"มาทะแมะ...มึงว่ากูย่านติ...บักกบ..." นวยตะคอกใส่ชายคนนั้นหรือที่นวยเรียก..กบ!
"โฮ!!...เอาแท้เนาะ..กูรุ่นอ้ายมึงหลายปีเด้อบักนิ...เอาสะน้อ.." กบเอ่ยกล่าวพร้อมชี้หน้านวย
ระหว่างนั้นป้าเจ้าของร้านก็ตะโกนขึ้นมา!ไล่ให้กบออกไปจากร้านของแก
"ฮวยย...เซาแมะบักกบ...หนีแมะมาหาเรื่องหยังเด็กน้อย....เห็นอยู่เบาะหมอนะ...ให้เกียรติเพิ่นแน่แมะ...ไปหนี..." ป้าเจ้าของร้านขายของตะโกนไล่นายกบ
"ปาด...หมอเบาะนิ...ตะแมนผู้งาม...ปาด...ขาวสวยแท้..." กบเอ่ยพร้อมหันมองที่บีเมื่อรู้ว่าบีคือหมอประจำอนามัย
"เอ้าบักห่ากบ...ยังไปกวนหมอเพิ่นอีก...หนีแมะบักนิ...ไป..." ป้าเจ้าของร้านยังตะโกนไล่พร้อมเดินมาพลักนายกบออกจากร้าน
"โอ๊ะ...ไปกะได...ฮู๊ววว...สำนี้กะไลโว่ย...หืยยย..." กบสบถพร้อมกับเดินห่างออกไปจากร้านขายของแต่สายตายังจ่องมองมาทีบี

หลังจากนายกบที่นวยและป้าร้านขายของเรียกเดินจากไป บีก็ยืนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเล็กน้อยเธอจึงเอยถามด้วยความสงสัย!
"ป้าคะ...นั้นไครหรอคะ..." บีกล่าวถาม
"นั่นบ่...บักกบจ๊ะหมอ...มันสากะมาจากเฮ็ดงานในเมือง(จังหวัด)..." ป้าร้านขายของบอก
"อือ...แล้วนายกบตัวใหญ่ขนาดนั้น ทำไมนวยถึงไปกวนเค้าอย่างนั้นละ" บีหันมากล่าวถามนวย
"ผมบ่มักมันครับ...แล้วโตใหญ่ผมกะบ่ย่านครับ.." นวยตอบ
บีก็ถึงกับยิ้มในท่าทีการตอบของนวยที่สีหน้าดูจิงจังมากแต่บีกับคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่นวยจะสู้กบได้ถ้าหากมีเรื่องกันจริง เพราะขนาดบีที่ตัวสูง160กว่ายังสูงแค่ไหล่ของนายกบ นวยยิ่งไม่ต้องพูดถึงสูงพ้นศอกของกบรึป่าวก็ไม่รู้
"อ๊า...สูงยังไม่ถึงศอกเค้าเลยริอยากจะต่อยตีกับเค้านะนวย..หะ..ห๊า..ห๊า" บีกล่าวพร้อมหัวเราะ
"คนอย่างผม..โตใหญ่กะบ่ย่านครับ...โอ๊ยยย.." เสียงพูดของนวยที่กล่าวอวดตนจนป้าเจ้าของร้านยิกหูด้วยความหมั่นเขี้ยว จนนวยร้องลั่น
"นี่...บ่ย่าน...บัดเขาสิตีผัดแลนหนี...แล้วบอกบ่ย่าน..หืยยย..." เสียงพูดจากป้าเจ้าของร้านที่นิกหูของนวย
"โอ๊ยยย...บ่ได้หนีเด้อ....แค่ถอยไปตั้งหลัก..." นวยกล่าวตอบป้าเจ้าของร้าน
"นี่...มะเงกนี่่...ตั้งหลังหยังแลนฮอนเฮือน.." ป้าเจ้าของร้านกล่าวพร้อมเคาะนิ้วใส่หัวของนวย
"โอ๊ะ...ฮ๊วยยย...กลับเมื่ออนามัยกันเถาะ..เอื่อยหมอบี...อยู่นี่โดนกว่านี่...ป้าเราคือสิแฉผมเบิดคัก.." นวยกล่าวพร้อมเดินถอยหลังออกไปหน้าร้านค้า
"แฉอีหลีฮั๋นแล้ว..." ป้าเจ้าของร้านกล่าว
บีถึงกับยิ้มและอดหัวเราะไม่ได้ในท่าทีของนวยและป้าเจ้าของร้านที่พูดหยอกล้อกัน แล้วหลังจากนั้นบีก็เดินกลับมาทำงานที่อนามัยต่อ โดยที่นวยก็อยู่เป็นเพื่อนยันเลิกงานในตอนเย็น!
 
ติดตามอ่านตัวเต็มก่อนไครได้ที่
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน