หลังจากวางสายที่คุยกับลุงสรแท๊กซี่! บลูก็นั่งรอที่หน้าอพาร์ทเม้นท์ วันนี้นอกจากจะไปมหาลัยเพื่อดูประกาศแล้ว บลูก็จะไปใช้คอมเพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับหมู่บ้านหรือชุมชนที่ห่างไกลและตรงกับที่เธอคิดไว้ด้วย บลูนั่งรอรถลุงสรแท๊กซี่พักใหญ่จนเกือบแปดโมง!กว่ารถจะขับมาจอดรับบลูที่หน้าอพาร์ทเม้นท์

"สวัสดีจ๊า...แม่หนู..." ลุงสรแท๊กซี่กล่าวทักบลูเมื่อขับรถมาจอดรับ
"ค่ะลุง...สวัสดีค่ะ..." บลูกล่าวตอบพร้อมสวัสดีกลับ
"วันนี้เรียกลุงแต่เช้าแม่หนู...จะไปไหนรึ.." ลุงสรแท็กชรา
" ไปมหาลัย....ค่ะ" บลูกล่าวตอบลุงสรแท็กซี่
หลังจากบอกจุดหมายปลายทางลุงสรก็ขับรถพาบลูไปส่งที่มหาลัยทันที โดยระหว่างทางก็มีรถเยอะพอควรและมีติดบ้างเป็นบางช่วง ด้วยความที่บางทีก็ติดนานลุงสรแท๊กซี่ก็กลัวว่าบลูนั้นจะเบื่อเลยช่วนคุย?
"แม่หนูเรียนอะไรหรอ...ใช่ครูไหม.."ลุงสรถาม
"ค่ะ...เรียนสายครู..." บลูกล่าวตอบ
"แล้วใกล้จบรึยังละแม่หนู..."ลุงสรกล่าวถาม
"ปีสุดท้ายแล้วค่ะ...จบนี่ก็สมัคเป็นครูได้เลยค่ะ.." บลูกล่าวบอก
"อืมมม...แล้วหลังจบ..แม่หนูมีแผนทำงานต่อที่ไหนละ..." ลุงสรกล่าวถาม
"ก็คิดไว้ว่า...อยากเป็นครูอาสาค่ะ...ไปตามชนบทที่ห่างไกล...จะได้กระจายการศึกษาให้กับคนที่ยังขาดโอกาสด้านการศึกษาน่ะค่ะ.."บลูกล่าวบอก
"อืมม...แนวคิดดีมากนะแม่หนู...แต่ว่าก็ว่าเถอะ...แม่หนูไม่กลัวลำบากรึ...ลุงว่าหนูจะไปลำบากเอานะ....ชนบทช่วงนี้...ความเจริญก็มีไม่ทั่วถึง...การใช้ชีวิตมันต่างกับในเมืองมากนะ...แม่หนู..." ลุงสนกล่าวรับรู้และเอ่ยบอกบลูถึงความต่างด้านความเจริญของชนบทและในเมืิอง
การกล่าวบอกของลุงสรนั้นทำให้บลูสนใจอย่างมาก เธอรู้สึกว่าลุงสรคนนี้จะรู้เกี่ยวกับต่างจังหวัดชนบทอย่างมาก ด้วยท่าทีที่บกบอกถึงประสบการณ์ที่น่าจะรู้ดีว่าชนบทเป็นยังไงนั่นแหละที่ทำให้บลูสงสัย?
"ลุงสรพูดเหมือนรู้เลยว่าชนบทเป็นยังไง...ลุงเป็นคนที่ไหนค่ะเนี้ย..." บลูกล่าวถาม
"ผมคนอีสานใต้ครับ...คนจังหวัด....?...ติดกับกัมพูชาน่ะครับ.." ลุงสรกล่าวบอก
"อ๋อค่ะ...หนูถึงว่าท่าทางลุงเหมือนรู้ว่าชนบทเป็นนังไง..." บลูกล่าวกับลุงสร
"ก็พอรู้แหละแม่หนู...ลุงปีๆหนึ่งลุงก็กลับบ้านหนนึง..." ลุงสรกล่าวบอก
เมื่อรู้ว่าลุงสรเป็นคนที่มีภูมิลำเนาอยู่ชนบท บลูก็เริ่มที่จะสนใจเรื่องราวของชนบทมากขึ้น เธอคิดว่าลุงสรน่าจะพอแนะนำและให้ความรู้แกเธอได้ บลูจึงกล่าวถามซักไซ้เรื่องราวของชนบทกับลุงสร?
"โห๋...ปีหนึ่งเลยหรอค่ะ...กลับแค่หนเดียว..." บลูกล่าวถาม
"อืมม...ก็ที่บ้านลุงไม่มีไคร...จะมีก็แต่บ้านเปล่าๆกับญาติๆใกล้เคียงแค่นั้น...ลุงเลยไม่จำเป็นต้องกลับบ่อย.." ลุงสรกล่าวบอก
"อืมมมค่ะ...แล้วที่บ้านลุงตอนนี้เป็นไงคะช่วงนี้..." บลูกล่าวถาม
"เรื่องอะไรรึ...หรือเรื่องความเจริญ...ถ้าเรื่องนั้นละก็...ในตัวเมืองรึตัวอำเภอเท่านั้นละที่เจริญ...ส่วนบ้านนอกไกลๆละก็...ถนนก็ยังเป็นดินลูกลังอยู่เลยแม่หนู...แถมส่วนใหญ่ก็ยังไม่ค่อยมีไฟฟ้าหรอก...ยิ่งถ้าหมู่บ้านไหนอยู่ในบ้านเขาลึกๆยิ่งแล้วใหญ่..." ลุงสรกล่าวบอก
"อืออ..ค่ะ...แล้วอย่างนี้พวกหมู่บ้านที่ไม่มีไฟ้ฟ้าเขาใช้อะไรให้แสงสว่างยามกลางคืนละคะ..." บลูกกล่าวถาม
"อือ...ก็ตะเกียงไงแมหนู...ตะเกียงที่ทำจากกระป๋องคล้ายกระป๋องนมน่ะ...แต่บางที่ก็ตะเกียงเจ้าพายุ...แล้วแต่ว่าบ้านไหนจะใช้แบบไหน.." ลุงสรกล่าวบอก
การบอกเล่าสิ่งที่บลูนั้นถามกับลุงสรมันทำให้บลูเริ่มรู้ถึงความเจริญของชนบทในช่วงเวลานี้ แม้ว่าในเมืองหลายๆแห่งกำลังก้าวสู่ความเจริญในยุคสมัยใหม่ ทั้งถนนราดยางทั้งไฟฟ้าส่องสว่างในทุกหนแห่ง แต่ทว่าในชนบทเองก็ยังมีอีกหลายที่ๆถนนและไฟฟ้ายังไปไม่ถึง นั่นจึงเป็นการแสดงให้เห็นว่ายังมีที่ในชนบทอีกหลายแห่งที่ยังขาดความเจริญทั้งความเป็นอยู่และการศึกษา!
หลังฟังคำตอบจากลุงสรมาคร่าวๆรถก็มาถึงมหาลัย บลูก็ยื่นเงินจ่ายค่าโดยสารตามปกติ และเดินเข้ามหาลัยทันทีหลังจ่ายเงินและช่วงบ่ายบลูก็ยังนัดให้ลุงสรมารับกลับอพาร์ทเม้นท์อีกด้วย บลูเข้ามาดูประกาศผลสอบก็ปรากฏว่าทั้งเธอและเนตรนั้นผ่าน นั้นจึงแสดงว่าบลูและเนตรนั้นเรียนจบและไม่ต้องสอบซ่อม ต่อมาบลูก็ไปขอใช้ห้องคอมของมหาลัยเพื่อค้นหาพื้นที่และหมู่บ้านที่เธอต้องการ บลูนั่งค้นตั่งแต่ช่วงเช้าจนถึงเที่ยง เธอก็เลิกดูและออกมาหน้ามหาลัยเพื่อทานข้าวแล้วจะกลับไปหาข้อมูลต่อช่วงบ่าย แต่เธอก็เข้าเป็นสิบๆเว๊บแต่ทุกๆที่ก็ไม่ตรงตามที่เธอต้องการ จนเย็นบลูได้เวลากลับห้องแต่ก่อนจะกลับเธอก็เดินมาร้านตามสั่งที่เธอและเนตรชอบมาทานข้าวกลางวันกันเป็นประจำ!
"ป้า...หนูเอาเหมือนเดิมค่ะ..." บลูกล่าวสั่งอาหารกับแม่ค้าเจ้าของร้าน
"อืมม...ข้าวผัดไข่เนาะ...อือ...ทำไมวันนี้มาคนเดียวละไอ้บลู...ไอ้เนตรไปไหนละ..." ป้าเจ้าของร้านกล่าวถามเมื่อเห็นบลูมาสั่งแต่ไม่เห็นเนตรมาด้วย
"ไม่สบายค่ะป้า...เลยนอนพักอยู่ที่ห้อง..อือ..เอาข้าวให้เนตรด้วยนะคะ1กล่องค่ะ.." บลูกล่าวบอกและสั่งข้าวไปให้้นตรด้วย
"อืมม...เมื่อคืนฝนตกด้วยนิเนอะ...หลานป้าก็ไม่สบายเหมือนกัน...คงเพราะเมื่อคืนมันหนาวด้วย.." ป้าจะของร้านกล่าวกับบลู
"น้องพีหรอค่ะป้า...คงนอนไม่ห่มผ้าแน่ๆเลย..." บลูกล่าว
"อืมม...ปวดปวมจ๊ะ..แม่มันพาไปหาหมอเมื่อเช้า..." ป้าเจ้าของร้านกล่าวบอก
"เด็กก็งี้แหละค่ะ...ว่าแต่ตอนนี้น้องเรียนชั้นไหนแล้วค่ะป้า..." บลูกล่าวถาม
"ปีนี้ขึ้น...ป.1จ๊ะ...อ๊ะนี่...ข้าวผัดไข่ของโปรดแกไอ้บลู" ป้าเจ้าของร้านกล่าวบอกพร้อมเดินถือข้าวมาวางให้บลูกิน
"สุดฝีมือไหมคะวันนี้..." บลูกล่าวหยอกป้าเจ้าของร้าน
"ระดับแกไอ้บลู...ป้าทำสุดฝีมืออยู่แล้ว..." ป้าเจ้าของร้านกล่าว
พอป้ายกข้าวผัดมาให้กิน บลูก็นั่งกินพักใหญ่ก็จ่ายตังและโทรให้ลุงสรมารับกลับห้องอพาร์ทเม้นท์ ซึ่งก็เป็นเวลาเย็นมากจนใกล้จะทุ่มนึงแล้ว
"ไปไหนจ๊ะแม่หนู..." ลุงสรกล่าวถามหลังขับรถมาจอดรับบลํหน้าร้านอาหารตามสั่ง
"อ๋อ...กลับอพาร์ทเม้นท์ค่ะ..." บลูกล่าวบอก
พอรู้จัดหมายลุงสรก็ขับรถพาบลูกับอพาร์ทเม้นท์ทันที โดยระหว่างทางบลูก็นั่งมองออกไปกระจกหน้าต่างรถ ดูทิวทัศน์ริมทางที่มีบ้านมากมายรถอีกหลานคันที่สวนกันไปมา จนรถวิ่งมาพักใหญ่ๆจนเหลืออีกไม่กี่กิโลก็ถึงอพาร์ทเม้นท์แล้วบลูก็ง่วงและเผลอหลับไปเหตุเพราะเมื่อคืนเธอเอวก็นอนดึกแล้วไหนสันนี้จะต้องมาใช้สายตาอยู่หน้าคอมทั้งวัน จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่สายตาจะอ่อนล้า! บลูจึงเผลอหลับไปตั่งแต่ที่รถจอดติดไฟแดง พอเวลาผ่านไปพักใหญ่ลุงสรก็ขับรถมาจอดหน้าอพาร์ทเม้นท์ที่ตอนนี้เวลาเกือบจะ2ทุ่มแล้ว และหน้าอพาร์ทเม้นท์ก็มืดพอควรเพราะไม่มีไฟริมถนนจะมีก็แต่ไฟจากหน้าประตูทางเข้าอพาร์ทเม้นท์ที่ส่องมาแต่ก็ไม่สว่างมาก พอลุงสรจอดรถก็จะเอ่ยบอกค่าโดยสารกับบลูแต่พอสายตาส่องไปเห็นบลูผ่านกระจกมองหลัง ลุงสรแท๊กซี่ก็เงียบนิ่งและเริ่มแสดงอาการ สายตาที่ดูเป็นคนดีตอนนี้มันเปลียนไป ท่าทางเอยสายตาเอยตอนนี้มันออกไปทางหื่นและโรคจิต แล้วนอกจากนั้นเองลุงสรก็พูดออกมาเบาๆ?
"อู๊...หลับไปตอนไหนวะ...อือ...แม่หนูเอ่ย...ดูหุ่นสิ...ขนาดใส่ชุดนักศึกษานะ...ทั้นนมทั้งเอว...อูยย..เด็กสมัยนี้มันสุดจริงโว๊ย.." ลุงสรหั่นมองบลูที่นั่งหลับคอพับอยู่เบาะหลังพรางสบถกับตัวเองเบาๆ

นอกจากจะสบถกับตัวเองแล้วลุงสรแท๊กซี่ยังนึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อนที่ทำให้ตัวเองได้รู้จักกับบลู พรางคิดว่าถ้าเมื่อวานตัวเองไม่เผลอจ่องกระโปรงบลูที่เปิดเลิกขึ้นจนเพื่อนเธอจับได้และดุด่าคงไม่ได้มาอยู่แบบนี้ เมื่อคิดดังนั้นแทนที่ลุงสรจะปลุกบลูให้ตื่นกลับเอียงตัวยื่นมือไปจับขอบกระโปรงบีและดึงเลิกขึ้นเบาๆทีละนิดจนมันค่อยๆเลิิกขึ้นไป จากที่คลุมเขาก็ไหลเลิกขึ้นไปเลยเขาและหน้าขา ทำให้ขาอ่อนขาวนวลของบลูนั้นออกมาโชว์แก่สายตาของลุงสร ด้วยความที่ลุงสรนั้นมือเบาหรืออย่างไร บลูนั้นจึงไม่มีทีท่าว่าจะรับรู้เลยสักนิด นั่นจึงทำให้ลุงสรแท๊กซี่ได้ใจและค่อยๆเลิกกระโปรงพรีทของบลูขึ้นไปเรื่อยๆ!!
"อู๊ยยย...แม่หนูเอย...ใส่สีดำสะด้วย...อือ...โหนกใหญสะด้วยแม่หนู..." ลุงสรสบถเบาๆเมื่อกระโปรงพรีทของบลูมันเลิกขึ้นมาจนลุงสรเห็นกางเกงในของบลู และด้วยความที่บลูนั่งหลับพิงประตูรถจึงทำให้ขาของบลูเองก็กางออกพอควร
พอได้เห็นจุดสงวนของบลูแทนที่ลุงสรแท๊กซี่จะพอใจและหยุดกลับดึงกระโปรงพรีทบลูลงมาปิดเลยอย่างเดิมและเอื่อมมือสูงขึ้นไปยังส่วนบนที่นูนดันเสื้อนักศึกษาสีขาวออกมาเป็นเนินเด่นและหมายจะว่างมือเกาะกุมหน้าอกของบลู มือของลุงสรค่อยๆชูสูงขึ้นมาระดับเดียวกับหน้าอกของบลู และขยับเข้าใกล้จะสัมผัสหน้าอกบลูเรื่อยๆทีละมิลๆ ตอนนี้นอกจากความเงียบของกลางคืนช่อง2ทุ่มแล้ว ยังมีเสียงหายใจของลุงสรที่ดัง...สูดดด....สาดด...อย่างแรง บอกถึงความตื่นเต้นของลุงสรที่กำลังทำสิ่งที่ไม่ดีกับบลู อีกทั้งหัวใจของแกยังเต้นแรงจนมือไม้เองก็สั่นไม่แพ้ตัวของแก ุงสรค่อยๆยืนมือเข้าไปช้าๆทีะมิลๆจนปลายนิดค่อยๆแตะเสื้อนักศึกษาเบาๆและค่อยๆเยอะขึ้นจนฝ่ามือของลุงสรค่อยๆกุมประทับเสื้อนักศักษาของบลูตกหน้าอก แม้จะยังไม่ได้ทิ้งนำ้หนักเต็มมือแต่ลุงสรก็สัมผัสได้ถึงความนูนดันฝามือ จนลุงสรถึงกับสบดออกมา
"อือ...นะ...นูน.."
 
ติดตามอ่านได้ก่อนไครที่
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน