สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมรักษาตัวที่ Hospitel เนื่องจากติดเชื้อ covid 19
ช่วงนี้งานเขียนร้านเกะอาจจะพักเป็นระยะเลยนะครับมกรายขออภัยจริงๆ ผมเขียนไหวแค่นี้จริงๆในตอนนี้ จริงๆแล้วตอนนี้
ก็เขียนวันบะ พัน สองพัน อักษร มาตั้งแต่วันที่ 8ไหวแค่นี้จริงๆ หวังว่าความน่ารักของนองมิ้นต์ที่เขียนออกมาตอนที่ผมมีไข้ 37-38 จะยังน่ารัก
สำหรับ IPFC นะครับ
★★★★★★★★★★★ป้ายไฟมา
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
★★★★★★★★★★★เทพีบ้านไพร บทที่ 6
พี่โทนดูดิ่ เราจะบินเข้าเมฆแล้วง่ะ มิ้นต์พูดด้วยท่าทางตื่นเต้นมากๆ คือด้วยความที่มันไม่มีรถในตอนเช้าและผมก็ขับไม่เร็วมาก แถมยังเปิดหน้าต่างด้วย เจ้าหญิงน้ำแข็งเธอคือแทบจะพุ่งไปหาก้อนเมฆในโค้งหน้าเลยครับ
ผมเลยต้องรีบบอกว่าให้เอาหน้าเข้ามาในรถพี่จะปิดประตู มิ้นต์ถามเง้อ ทำไมง่ะ มิ้นต์จะจับเมฆ.... จับเมฆ จับเมฆเหรอ คนธรรมดาเขาไม่คิดกันแบบนี้นะ นี่เจ้าหญิงเยฌนขาคนนั้นจริงๆเหรอเนี่ย
ผมแตะหน้าขาเธอเบาๆ แล้วบอกอย่าดื้อสิ่ครับ มิ้นต์ทำหน้าแบบ งืยย เชอะ แล้วก็ยอมขยับตัวหลบกระจก แล้วหน้าตาคืองอนๆ บุ่ยๆ โคตรน่ารัก ผมปิดกระจกครับ มิ้นต์ก็เอี้ยวตัวมาเลย
งั่มม งั่มม งั่มม คืองั่มมจริงๆ เธอง่ำที่หัวไหล่ผมจริงๆมแล้วเสียงคือ โอยน่ารัก เสียงจะไม่ง่ำ ๆ ๆ ชัดตัวอักษร แต่ลองให้ท่านทำตามนะ อ้าปาก และห่อริมปากล่างให้ทับฟันด้านล่างไว้ และงับปากบนล่างชนกันให้ฟันบนขบริมฝีปากล่าง
ขึ้นลง ๆ และ ทำเสียง ง่ำๆๆๆ แล้วจินตนาการเสียงสาวน้อยหน้าดุ แต่ตอนนี้คือมีแต่ความน่ารัก ร้องง่ำๆๆๆข้างๆหูของคุณสิ่ อูยยย แทบลอย มิ้นต์ง่ำ 4-5 ทีแล้วบ่นพี่โทนใจร้าย
ผมก็เลยถามมิ้นต์ว่าพี่ใจร้ายตรงไหน มิ้นต์บอกเชอะ มิ้นต์จะจับเมฆนี่ ผมก็เลยบอกว่ามันจะเปียกเอานะ เมฆยอดเขาทึ่เกิดจากการมวลอากาศชื้นสูง บังคับลอยตัว ขึ้นชื่อว่าชื้นยังไงก็ต้องเปียกแน่ๆ พี่ไม่อยากให้มิ้นต์เปียกนี่นา
มิ้นต์เธอขยับไปนั่งที่นั่งนะแต่ยังจับแขนผมอยู่ระยะทางนี้ผมใช้ความเร็วไม่มาก ก็รถไม่มีตามที่บอกครับ จนเข้าไปในเมฆที่ลอยตรงหน้า มิ้นต์ก็ยังตื้นเต้นอยู่ดี แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมเดา
รอบๆรถเริ่มทีไอน้ำ มีเม็ดน้ำเพิ่มขึ้น ผมต้องเปิดที่ปัดน้ำฝนเบาๆเลยครับ มิ้นต์บอกรอบๆรถด้วยความตื่นเต้นเหมือนลูกแมวที่มาท่องโลกนอกบ้านครั้งแรก อยากรู้ อยากเห็น ตื่นเต้น กับสิ่งรอบๆไปหมด มีกระโดดตุ้บไปตรงแค่ปหลังอีก น่ารักจริงๆ
พอเราออกมาจากกลุ่มเมฆนั่นแล้วมิ้นต์ก็กลับมานั่งที่ตัวเอง เธอเกาะแขนผมนะ ซึ่งผมก็บอกว่าเห็นมั้ย ถ้าเปิดหน้าต่างล่ะก็มิ้นต์ตัวเปียกมะล่อกมะแล่กแน่ๆเลย แล้วพอผมเห็นไปมอง โอ๊ตาย ๆ ๆ เธอทำหน้าบุ่ย ๆ แล้วมองหน้าผม
คือสื่อได้เลยว่า รู้แล้วแต่อยากจับเมฆนี่นา โอยยย ใจมันย่วบย่าบไปหมด ผมก็บอกว่าแต่ไม่เป็นไรนะ บนมอหินขาว หมอกแบบนี้มีเยอะแยะเลย พี่จะปลุกมิ้นต์มาให้ดูทุกเช้าเลย มิ้นต์ถามขึ้นมามีเหรอ จริงนะ ปลุกนะ ผมบอกอื้ออ ถ้าไม่เพลียจนลุกไม่ไหวนะ
เอาจริงๆเพลียของผมเนี่ย ผมหมายถึงว่าเหนื่อยจากกิจกรรมต่างๆ อย่างวันแรกต้องกางเต๊นท์แน่นอน ยัฃไงก็เหนื่อยแน่ๆ นี่แหละคำว่าเหนื่อยที่ผมหมายถึง แต่เจ้าหญิงนี่สิ่ครับ เธอมองหน้าแล้วบอกไอ้บ้ากาม มาเที่ยวกับจะไม่เว้นเลยนะ
พอเห็นว่าเป็นช่วงปลอดภัยก็จะจับกดอย่างเดียวเลย ผมก็บอกเปล่า ไอ้เหนื่อยเนี่ย หมายถึงเหนื่อยกลางเตนท์นี่เราก็พอกันอ่ะ คิดว่าพี่จะมานอนเล่นตลอดเลย หรือว่าในใจก็อยากทำเหมือนกัน มิ้นต์ทำหน้าบุ่ยๆแล้วบอกเชอะ
เพราะเล่นตามน้ำหรอก เล่นตามไปหลายน้ำเหมือนกันนะ มิ้นต์ตีเผี๊ยะ แล้วร้องไอ้พี่โทนบ้าาา ผมก็หัวเราะและบอกเอ้าๆๆ จะเปิดกระจกรถแล้วนะ มิ้นต์หน้าเปลี่ยนเป็นยิ้มแบบละลายเลย เธอหันไปที่เดิมเลย
ผมมองไม่เห็นหน้ามิ้นต์นะ แต่ผมว่าเธอคงยิ้มไม่หยุดเลยนะ ตอนนี้เราเริ่มออกจากเขตหมู่บ้านผมมาได้เกือบ 3 กิโลเมตรแล้วล่ะ พอไม่มีบ้านคนพื้นที่ก็จะสลับเป็น
เนินเขาโล่งๆ มีส่วนต้นเล็กๆที่ชาวบ้านเอามาปลูกสลับ แต่พอพ้นเขตของชาวบ้าน เราก็จะพบภูมิประเทศแบบเดิม แต่แค่รูปแบบเปลี่ยนไป มันจะมีต้นไม้ขึ้นเยอะ และขึ้นเองตามธรรมชาติ สูงบ้าง เตี้ยบ้าง ชอุ่มบ้าง แห้งบ้าง และแต่ธรรมชาติจะรังสรรค์
เราขับรถมาถึงแยกแล้วก็เลี้ยวไปตามป้ายบอกทางครับ อากาศเย็นๆ ผมก็ขับไปไม่เร็ว และก็ไม่ช้าเกินไป ก็แน่นอนล่ะอยากเอาใจเจ้าหญิงด้วยแหละ ต้นไม้พอเริ่มเยอะขึ้น หนาขึ้น สูงขึ้น มิ้นต์ก็พี่โทนๆ ๆต้นไม้สูงง่าา สวยเนอะ ผมก็จ้า ๆ ๆ
ซึ่งมิ้นต์ก็ไม่งอแงเลยนะที่ผมตอบ แบบเหมือนรีบตอบ เพราะตอนนี้ผมต้องใช้สมาธิในการขับรถจริงๆ ซึ่งสารภาพตรงๆ การขับรถขึ้นมอหินขาว นี่เป็นครั้งที่ 5 เอง ต้องระมัดระวังให้มาก
ตอนนี้ยังไม่ค่อยเท่าไรทเพราะว่าทั้งสองข้างทางยังมีต้นไม้ แสดงว่ามันยังไม่ใช่จุดโหดที่ผมเคยผ่านตอนแรกๆ เหตุผลที่ป้าผมเลือกมาตั้งถิ่นฐานที่นี่หลังจากที่ออกจากบ้านใหญ่ที่อุดร
ป้าบอกว่ามันร่มรื่นเหมือนบ้านใหญ่ครับ ซึ่งเมื่อ 20-30 ปีก่อนที่ป้าผมเริ่มมาตั้งรกรากที่นี่ผมจินตนาการไม่ออกเลยว่าต้นไม้มันจะเยอะกว่านี้กี่เท่า อ่ะกลับมาต่อกันครับ
ผมขับรถขึ้นเขามาตามทาง ซึ่งต้องยอมรับว่า บางช่วง บางตอนทางยังเป็นดินสีแดงๆตามธรรมชาติ ไม่เหมือนสมัยนี้ แต่ก็เอาเถอะมันคือความคลาสสิคและธรรมชาติ
จนกระทั่งเริ่มเข้าเขามอหินขาว ทางจะชุ้นกว่าปกติเลยล่ะครับ ทางซ้ายคนนั้งจะเป็นภูเขาสูงลิบตา เป็นสีแดงขัดเจน ริมขอบถนนจะมีดอกหญ้าสีขาวเรียงราย มิ้นจ์ขยับมองไม่หยุดเลย แจ่ผมต้องปิดกระจกนะ กันฝุ่นเข้า
ส่วนฝั่งคยขับก็จะเสียวๆหน่อย เพราะมีที่กั้น และข้างล่างอื้อหือ เหวลึกเขียวฉอุ่มเชียว มีโทนจะถึงแล้วเหรอรถติดง่าา มิ้นต์บ่นครับ ผมก็บอกจ้าๆ จะถึงแล้ว ค่อยคุยนะครับคนเก่ง ผมต้องบอกแบบนี้เพราะต้องใช้สมาธิจัดเลยครับ
แล้วมุมมองตรงหน้าคือเข้าใจมั้ย จินตนาการว่าขับรถขึ้นที่สูงๆแล้วข้างหน้ามันโค้งสูงและโล่ง วิวคือขาวโพลน เพราะมองเห็นแต่ท้องฟ้า ผมก็เป็นแบบนั้นแลกะ ทั้งสวย ทั้งเสียวว่าบ มิ้นต์ก็งือออ อย่าตกนะ อย่าตกนะ
แต่พอเธอมองมาฝั่งผมเท่านั้นแหละ น้องงื้ออออ เลย เพราะวิวฝั่งผมมันสวยสุดๆ เราขึ้นมาถึงข้างบนโดยสวัสดิภาพครับ มิ้นต์เองก็ได้มองอะไรสวยๆเพลินเลย
และพอยิ่งขึ้นมาและจอดรถ มิ้นต์คืออยู่ไม่สุขเลข พี่โทนนั่นอะไร พี่โทนนี่อะไร ผมจอดรถในที่ต้นไม้เยอะๆ แล้วก็เดินไปดูของหลังรถ โอเคครับ ตอนนั้นมิ้นต์เดินมาทำหน้าแบ๊วๆๆๆ แล้วบอกพี่โทนจ๋าาา อยู่บนนี้ 3 วันได้มั้ย มันสวยง่ะ
ผมบอกว๊า แบบนี้ต้องมีรางวัลแล้วล่ะ ผมได้รับคำขอ และ รางวัลที่ได้ ก็เป็นการที่มิ้นต์มาจุ๊ปปากต่อหน้าคนหลายคนหนึ่งที มิ้นต์ก็ทั้งอายทั้งเขิน แล้วถามว่าเรียกแล้วง่ะ อยู่ที่นี่ 3 วันนะ ผมก็บอกจ้าตามใจ
มิ้นต์ยิ้มมมมม ไม่หุบเลยล่ะครับ พอมาถึงที่นี่ก็แน่นอนครับ พามิ้นต์เดินดูก่อนว่าซุ้มตรงไหนขายอะไร ห้องน้ำอยู่ตรงไหน มิ้นต์เธอตื่นเต้นตั้งแค่ก้าวแรกที่เริ่มเดินเลย ด้วยความเราน่ะ เหยียบภูเขาจริงๆ การถ่วงน้ำหนักอะไรมันก็จะแตกต่างจากปกติ
[ มิ้นต์ ] : ง่า พี่โทนจับมือมิ้นต์ด้วย
[ มิ้นต์ ] : ง๊าาา จะล้มๆ ๆ ๆ ประคองมิ้นต์หน่อยนะนะ
มิ้นต์จะอ้อนแยบนี้ตลอดเลย แต่คือไม่ได้อ้อนจนน่ารำคาญ พูดยังไงดี คือเหมือนรู้สึกยังไงก็พูดออกมาเลย ไม่เก็บ ไม่เงียบเหมือนอยู่กรุงเทพฯ
ให้นึกถึงสภาพเมื่อ 7-8 ปีก่อน ที่สถานที่ท่องเที่ยว ยังมีคนมาไม่มากเท่าสมัยนี้ เพราะคนที่จะมาคือต้องรู้จากเพื่อนเล่า หรือจากรายการแนะนำเท่านั้น มันไม่มีบ็อกเกอร์ หรือ รีวิว คลิปแนะนำเหมือนสมัยนี้
หนทางเดินบนมอหินขาวจะคือ ออริจินอลมาก ลื่นบ้างอะไรบ้าง แต่ก็งดงามในตัวของมันเอง ข้างบนเป็นที่ทำการครับ ผมจออภัยผมจำชื่อไม่ได้เลยจริงๆทเพราะมากี่ทีก็เรียก มอหินขาวๆ ผมพามิ้นต์เข้าไปแจ้งประสงค์การขอจอดรถ และการกางเตนท์
โชคดีที่ผมมาก่อนช่วง High Season ทำให้ผมมีโอกาสที่จะเลือกจุดเลือกมุมได้ อันนี้ขอนอกประเด็นหน่อย เคยดันทุรังไปกับเพื่อนเมื่อไม่กี่ปีก่อน แบบไม่วางแผนอะไร ไปช่วงปีใหม่ มันมีคอนเสิร์ตของ คุณหลิว อาจารียา ครับ
แม่งดันทุลังไป สุดท้ายไม่มีที่กางเตนท์ ต้องไปกางคือ สันเขาที่ขุดขึ้นมาเป็นสันเหมือนคันนา หญ้าแข็งๆหินแหลมๆ โคตรอนาจใจ แล้วมันเป็นเส้นทางคนเดินด้วย เทศกาลด้วย แทบไม่ได้นอน แต่ยอมรับครับวันนั้น เป็นใน 1 ครั้งที่ผมคิดว่าหนาวสัดจริงๆ
อ่ะกลับมาเนื้อเรื่องครับ ถึงจะบอกว่ามาก่อน High Season แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีคนนะ มีครับมีเยอะพอสมควรเลย ซึ่งอืมม ผมคิดว่ากำลังดีนะ ไม่เยอะเกินไปจนน่ารำคาญ แต่ก็ไม่น้อยเกินไปจนวังเวง
ก็แน่นอนครับ ผมต้องบอกคุณเจ้าหน้าที่ว่ามาไม่บ่อย ช่วยแนะหน่อยว่าไอ้นั่นตรงไหน ไอ้นี่อยู่ไหน ซึ่งเขาก็แนะนำผมได้ดีมากครับ ซุ้มร้านข้างบนจะเป็นหลังคากระเบื้องแบบสีพื้นๆ ไม่ปรี๊ดปร๊าดเหมือนยุคใหม่ๆสลับกับบางซุ้มก็เป็นใบจาก คือสวยและดูธรรมชาติเลย
ร้านส่วนใหฯ่จะขายพวกเสื้อสดรียนลายมอหินขาวครับ ผ้าพันคอ เสื้อกันหนาว นู่นนี่นั่น พวกนี้จะเป็นร้านประจำที่ครับ คือตั้งถาวรเลย ยกเว้นตามเทศกาลก็จะมีพวกรถพ่วงมาเสริมทัพ
[ มิ้นต์ ] : พี่โทนนน มิ้นต์อยากได้เสื้อมอหินขาว
โอเค๊ ผมตามใจอยู่แล้ว ผมก็ซื้อให้ แล้วก็เดินดูนู่นนี่นั่น นั่งกินโอเลี้ยง ชานม นั่งมองต้นไม้ ทองท้องฟ้า มองภูเขา และก็มองหน้าเธอ ฮี๊วววว ลมก็พัดมาเรื่อยๆนะ อากาศคือดีเลย เย็นเลยล่ะ
ลานดินกว้างตรงนี้คือดีมากกก มิ้นต์ชอบมาก มองซ้าย มองขวา เหมือนทุกๆอย่างเป็นสิ่งใหม่สำหรับเธอ ปมก็เลยถามไม่เคยมาต่างจังหวัดเหรอมิ้นต์ มิ้นต์ดูดชาไทยรสเข้มก่อนจะยิ้มแล้วบอกอื้อ
อื้อชาเลอะ ผมก็เลยยื่นมือไปปาดให้แล้วบอกระวังหน่อยสิ่ครับ เดี๋ยวจะเหนียวนะ มิ้นต์บอกว่าพี่ก็เช็ดให้มิ้นต์สิ่ไม่เห็นยากเลย จ้า จ้า แม่คุณ หลังจากที่เดินทัวร์กับคุณเจ้าหน้าที่เมื่อกี้ ถ้ามาช่วง High น่าจะค่อนข้างลำบาก
เพราะห้องน้ำในปีนั้นที่ผมไปยังมีไม่เยอะ โชคดีที่ป้าเตือนไว้ก่อน ผมเลยเอาแกลลอนน้ำ 30 ลิตรใส่น้ำมาด้วย 4 แกลลอน
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องต้องใช้ห้องน้ำในการถ่ายหนัก ก็ไม่น่าจะมีปัญหา มิ้นต์ก็ถามพี่โทน ๆ ๆ คืนนี้กินอะไรกันดีคะ
ผมก็บอกว่าตอนเย็นอาจจะมีพวกใส่กรอก รถพ่วงขับขึ้นมาขาย ตอนนั้นค่อยคิดกันเนอะ มิ้นต์ยิ้มบอกงื้มๆๆๆๆ จนสักพักผมก็หยิบแผ่นผับ 3 ใบที่เจ้าหน้าที่ให้มา และเรียกมิ้นต์มานั่งด้วยกัน
เจ้าหญิงของพวกคุณทำหน้าบุ่ยๆ แล้วบอกมิ้นต์เมื่อยขามากก พี่ขยับมาได้มั้ย อ่ะเฮื้ออ น่ารักไปแล้ว ผมขยับไปนั่งข้างๆ แล้วก็กางแผนที่ให้ดู ผมบอกว่าวันนี้เรานอนค้างที่นี่ แล้วพรุ่งนี้ตะพาไปผาหัวนาค มิ้นต์ตาโตเลยครับ
ถามง่ามันคืออะไรเหรอพี่โทน ผมก็บอกว่าเป็นผายี่แหละสวยมาก วิวก็สวยมากๆ ห่างจากที่นี่ไป 900 เมตรหน่อยๆเอง มิ้นต์บอกงื้อไป ๆ ๆ ๆ พามิ้นต์ไปนะ พี่โทน..จ๋า โอยย มีเว้นวรรคแต่ก็โคตรชื่นใจ มิ้นต์นั่งดูดขาไทย ไกวขาแล้วถามผมอีกว่า
มีที่ไหนไปอีกมั้ย ผมก็บอกว่าทุ่งดอกกระเจียวน่ะ พูดแล้วผมก็ชี้รูปวิว ทิวทัศน์ที่เต็มไปด้วยต้นส้น ดอกกระเจียว และทางเดินที่ทำด้วยไม้ และสิ่งที่ทำให้สีเขียว สีขมพู และทางเดินไม้ดูงดงามขึ้น
มันคือสายหมอกครับ หมอกสวยมากก มิ้นต์เห็นนี่คือตาโตเลย
[ มิ้นต์ ] : เง้ออออ ไปนะ ไป ๆ ๆ ๆ ๆ สวนมากง่าทอยากไปถ่ายรูป นะพี่โทน พาไปนะ
ผมก็บอกอื้ม น่าไปมากเนอะ แล้วผมก็ทำหน้านิ่งๆแล้วพูดว้าแต่มิ้นต์ไม่ไปไหวหรอก ตอนนี้มิ้นต์เจ็บขาอยู่ พี่เป็นห่วงมิ้นต์นะ ไม่ต้องไปหรอก เท่านั้นแหละครับ เจ้าหญิงคนเก่ง โดดดึ๋งยืนขึ้นเลย
[ มิ้นต์ ] : นี่ไง ดีขึ้นแล้ว ได้กินชาไทยแล้วมีพลังมากกก เนี่ย ๆ ๆ ๆ ๆ ฟิตๆเลย กว่าจะไปอีกมะรืน เนี่ย พักผ่อนเดี๋ยวก็หายเมื่อย เนี่ย ไปนอนปุ๊ปก็หายเมื่อยเลย เดินได้ทั้งวัน
ผมนี่ยิ้มส่ายหัวเลยนะ คนอะไรน่ารักแท้น้อออ อยู่ดีๆกระโดดได้เฉยเลย
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน