ซ่อนนิดหน่อยเหมือนเดิมนะครับ อยากอ่านคอมเม้นต์แนะนำติชม ผมเอาไปปรับใช้ได้มากครับ
โดยซ่อนแค่ประโยคที่โศภิตาพูดในตอนท้ายนะครับ ปล. มีคอมเม้นแนะนำเรื่องภาษาที่อาจจะออกนิยายจ๋าไปสักนิดครับ ซึ่งผมก็เข้าใจดีเรื่องอรรถรสที่ได้อาจจะไม่สุด
แต่เหตุผลก็คือ ผมจำเป็นต้องลดทอนคำหยาบให้เยอะที่สุดเพราะแต่งโดยจุดประสงค์ทางการหารายได้ครับ (ไปโทษ Covid กันได้เลย)
หากใช้คำรุนแรงเกินไป อาจจะโดนเว็บที่นำไปลงแบนได้ครับ (จริงๆก็อยากแต่งแบบหยาบๆเพราะคิดคำง่ายกว่ามากกกกกกกกกกกกก)
แต่ในอนาคตอาจจะมี Uncen.Ver ถ้าได้ทำ Ebook ครับ ถ้าถึงตอนนั้นก็หวังว่าจะได้รับการสนับสนุนกันอย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ ช่วงนี้ผมจะอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ลงในนั้น (และเรื่องอื่นๆตามโอกาส)
หากสะดวกเข้าไปอ่าน อาจจะได้รับข้อมูลที่สามารถเพิ่มอรรถรสขึ้นได้ครับแสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
และยังสนับสนุนให้กำลังใจเพิ่มเติมได้ตามช่องทางดังนี้ครับแสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
โศภิตาใช้เวลายามค่ำในคืนวันเกิดของบุตรชายด้วยการนั่งดูโทรทัศน์ร่วมกันกับเขาตามปกติ
ภายหลังจากรายการที่ดูอยู่จบลง โศภิตาก็เหลือบมองนาฬิกาเพื่อดูเวลาตามความคุ้นชิน
ทันใดนั้นเองที่ร่างกายของเธอเริ่มแปลกไป เมื่อภายในร่องหลืบลึกเกิดอาการกระตุกรัดขึ้นอย่างกะทันหัน
และแทนที่มันจะหายไป อาการนั้นกลับเริ่มรุนแรงขึ้นกว่าเก่า จนในไม่ช้า เธอก็เริ่มรู้สึกคันยุบยิบไปทั่วทั้งร่องรู
โศภิตาตื่นตะลึงเป็นที่สุด เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ม่ายสาวห่างเหินในเรื่องเพศ
แม้แต่กับการช่วยตัวเองก็ไม่ต่างกัน เธอไม่ได้สนใจในเรื่องพรรค์นี้มานานมากแล้ว
เหตุเพราะโศภิตายังไม่เคยได้รับความอภิรมย์จากมันมาก่อน
สามีของเธอไม่ได้มีพรสวรรค์ในด้านนี้นัก อีกทั้งเครื่องเคราของเขาก็ไม่ใช่ขนาดที่น่าพึงใจสำหรับเธอ
ดังนั้นแล้ว หลังจากเธอเสียสามีและไม่ได้แต่งงานหรือออกเดตกับใคร โศภิตาก็ช่วยตัวเองลดน้อยลงเรื่อยๆ
จนในที่สุดเธอก็เลิกทำมันไปโดยสิ้นเชิง และนับแต่นั้นเป็นต้นมา
ร่างกายและจิตใจของโศภิตาก็ไม่เคยปรากฏอาการที่สื่อถึงความต้องการในเรื่องนี้อีกเลย
แต่แล้วในวันเกิดของริท บุตรชายบุญธรรมที่น่ารักของเธอ ในขณะที่เธอนั่งดูทีวีร่วมกันกับเขา ทำไมอาการอันร้างรามานานถึงได้เกิดขึ้นมาอีกครั้ง?
หญิงสาวสับสนงุนงงเป็นอย่างมากเมื่อไม่สามารถเสาะหาสาเหตุของมันได้
โศภิตาหันซ้ายขวาเหลือบตาหาไปทั่ว แต่แน่นอนที่ในบริเวณนี้มีเพียงบุตรชายเท่านั้น
และเมื่อเธอมองไปที่เขา ลิ้นของเธอก็แลบเลียปากเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัว
‘ริท...งั้นเหรอ… ไร้สาระน่าโศภิตา เขาเป็นลูกเรานะ’ ม่ายสาวยักไหล่เล็กน้อยให้กับความคิดอันไร้สาระ เธอสัญญากับตัวเองว่าจะไม่คิดถึงริทในแง่นั้นอีก
แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความร้อนรุ่มตรงหว่างขาลดลงเลย ไม่ว่าโศภิตาจะพยายามคิดถึงเรื่องอื่นยังไง
อาการที่ปรากฏก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นๆ ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่าเธอกำลังมีอารมณ์
ผ่านไปไม่กี่นาที ลมหายใจของโศภิตาก็เริ่มขาดห้วง ร่องรูของเธอแฉะแล้ว และเธอก็รู้ดีว่ามันต้องการอะไรมาสอดใส่
อีกทั้งขณะนี้ ภายใต้เสื้อผ้าที่ส่วมใส่ ทรวงอกอวบอิ่มของเธอก็ถูกกระตุ้นเรียบร้อยแล้วเช่นเดียวกัน หลักฐานก็คือส่วนปลายของมันที่กำลังแข็งชูชันดันอยู่ด้านในนั้น
คำสัญญาที่โศภิตาให้ไว้กับตนเองถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว ม่ายสาวยังคอยแอบมองบุตรชายอย่างต่อเนื่องอยู่ตลอดเวลา
และไม่ใช่แค่เพียงที่ใบหน้าเท่านั้น แต่ยังกับที่ร่างส่วนล่างของเด็กหนุ่มด้วย โศภิตาจึงยิ่งได้รับการกระตุ้นจากริทเพิ่มขึ้นอีก
แม้ว่าเธอจะพยายามลบล้างความคิดอันผิดแผกนี้อยู่หลายครั้ง
แต่ทว่า ดวงตาสวยของเธอกลับคอยหาทางจับจ้องมองไปยังร่างกายของริทอยู่เสมอ โดยเฉพาะยังเป้ากางเกงอันก่อตัวเป็นรอยตุงนั่น
และจากการมองนั้น โศภิตาก็เริ่มจินตนาการถึงขนาดของมัน หญิงสาวคิดหวังจะให้สิ่งนั้นใหญ่โตกว่าสามีของเธอ
ที่ผ่านมา การหลับนอนกับสามีไม่เคยทำให้โศภิตารู้สึกถึงใจเลยแม้สักครั้ง
เนื่องเพราะสามีของเธอมักจะเสร็จสมอย่างรวดเร็วอยู่ฝ่ายเดียว และมักจะทิ้งเธอไว้ให้ค้างคาในขณะที่โศภิตาเพิ่งจะมีอารมณ์ร่วมเท่านั้น
มโนคิดของโศภิตาพลันเตลิดไกลยิ่งกว่าเก่า ภาพของร่วมรักอย่างร้อนแรงกับบุตรหนุ่มผุดแทรกขึ้นมาในหัว
และในทุกครั้งหลังจากที่เธอปัดความนึกคิดนี้ทิ้ง มันก็จะก่อตัวขึ้นมาใหม่อีกครั้งอยู่ร่ำไป
ในทุกเสี้ยวนาทีที่เลยผ่าน ร่างกายและจิตใจของม่ายสาวก็จะร้อนรุ่มยิ่งขึ้นเรื่อยๆ และการจะดับมัน ม่ายสาวก็นึกออกแค่เพียงสิ่งเดียว
‘ทำไม…ทำไมเราถึงได้เป็นแบบนี้นะ เราอยากได้แท่งเอ็นของริท เราอยากได้น้ำร้อนๆของริทฉีดเข้ามาในตัวเรา อูยย..ยส์ ริทลูกแม่...แม่เงี่ยนเหลือเกิน...’
ริทรู้สึกประหม่าเล็กน้อยเพราะไม่รู้ว่าคำสั่งจะส่งผลและทำงานอย่างไรกับโศภิตา
แต่เมื่อครบสิบนาที ริทก็สังเกตว่าแม่บุญธรรมเริ่มเหลือบมองเขาเป็นครั้งคราว
และยิ่งเวลาผ่านไป จำนวนครั้งและระยะเวลาก็เริ่มมากขึ้น อีกทั้งเป้าหมายของสายตาก็เริ่มจับจ้องมายังร่างกายท่อนล่างของเขา
หลังได้เห็นอาการของแม่บุญธรรม เด็กหนุ่มจึงเริ่มเกิดอารมณ์ขึ้นมาทีละน้อย แท่งเอ็นของเขาที่เคยสงบเงียบพลันเริ่มแข็งตัวเพิ่มขึ้นช้าๆ
และตั้งแต่นั้นเอง ริทก็เริ่มเห็นสีหน้าอันแดงระเรื่อของโศภิตาที่เหลือบมองมายังรอยตุงของเป้ามากครั้งขึ้น
ริทมั่นใจแล้วว่ามันได้ผลอย่างแน่นอน แม้แต่ในขณะนี้ โศภิตาก็กำลังค่อยๆถูกปลุกเร้าอยู่ตลอดเวลา
และจากท่าทียั่วยวนที่เธอใช้มองเป้าตุงๆของเขานั้น เด็กหนุ่มก็มั่นใจว่าเธอไม่ได้คิดถึงใครอื่นเลยนอกจากเขา
เป็นเพียงเรื่องของเวลาเท่านั้นที่อาการร้อนรุ่มจะเพิ่มมากขึ้นเกินกว่าที่เธอจะรับมือได้
หลังจากนั้น แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องน่าอายสำหรับเธอ โศภิตาก็จะไม่เหลือตัวเลือกอื่นใดนอกจากการขอให้เขาร่วมรักด้วย
และหากโศภิตาไม่ยอมทำมัน เธอก็จะต้องทรมานจากอาการอันเกินทนนี้อีกต่อไป
ดังนั้น สิ่งที่ริทต้องทำก็คือการรอคอย และเมื่อใดที่ความต้องการของแม่บุญธรรมสุกงอม
เมื่อนั้นเอง ก็จะถึงเวลาที่ริทสามารถดื่มด่ำกับร่างกายอันสุดแสนเย้ายวนของสาวใหญ่คนนี้ได้
ไม่กี่นาทีถัดจากนั้น ร่างกายของโศภิตาก็รุ่มร้อนจนเแทบคลั่ง แม้จะรู้ว่าต้องทำเช่นไรเพื่อให้ความต้องการนี้เป็นจริง
แต่ถึงกระนั้นม่ายสาวก็ยังไม่ยอมแพ้ เธอยังคงหลงเหลือมโนธรรมมากพอที่จะต่อสู้กับมัน
ริทเองก็สัมผัสได้ถึงเรื่องนี้ดี เพราะพักใหญ่แล้วที่โศภิตาไม่ยอมละสายตาจากเป้ากางเกงที่เขาสวม
อีกทั้งยังปรากฏหยาดน้ำลายใสไหลออกมาเล็กน้อยจากมุมปากของเธอ ในขณะที่เธอกำลังจินตนาการถึงสิ่งที่อยากให้เกิดขึ้นอีกด้วย
สำหรับริทแล้ว ความพยายามของโศภิตาช่างดูน่าขบขันเสียจนเขาเกือบจะเผลอยิ้ม
แต่ก็ถึงเวลาแล้ว ที่เขาจะทำให้เธอยอมจำนนต่อความต้องการของตนเอง
ดังนั้น ในขณะที่เธอจ้องมองมาที่เขา ริทก็แกล้งเอ่ยถาม
“มีอะไรรึเปล่าครับแม่ แม่มองผมแปลกๆ แถมยังหน้าแดง….”
“...”
โศภิตาตกใจและเขินอายเกินกว่าจะตอบกลับ ใจจริงแล้วเธออยากจะบอกบุตรชายว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นและบอกให้เขากลับไปดูทีวีต่อ
แต่เมื่อเห็นสายตาและใบหน้าของริทที่มองมา อะไรบางอย่างก็ขาดผึง และเธอก็กระโจนเข้าหาเขา ก่อนจะบดริมฝีปากนุ่มของตนลงบนปากเด็กหนุ่มขณะที่เธอพลักเขาลงบนโซฟา
“เดี๋ยวครับแม่! อะไรกัน อะ อุ้ฟ!” เด็กหนุ่มแกล้งร้องเสียงหลงก่อนจะโดนแม่บุญธรรมคร่อมทับ เขาไม่สามารถพูดอะไรได้อีกเมื่อถูกเธอจูบอย่างดูดดื่มร้อนแรง
ริทรู้ดีว่าตอนนี้โศภิตาไม่อาจทนกับความต้องการที่แผดเผาร่างกายได้อีกต่อไป
แต่ถึงกระนั้น เขาก็ไม่คาดคิดว่าว่าเธอจะเป็นฝ่ายกระโจนใส่เขาอย่างดุเดือดเช่นนี้โดยไม่มีการถามไถ่
แต่แม้จะโดยไม่ทันตั้งตัว เขาก็รู้สึกชอบมันมาก อีกทั้งยังมีสัมผัสจากทรวงอกโตที่เบียดบดลงมาหลังจากเธอโถมร่างทับนั่นอีก
เพียงเท่านี้ เด็กหนุ่มก็แทบจะสำลักความสุขเอาเสียแล้ว
แม้จะเป็นครั้งแรกในรอบสิบหกปี แต่เมื่อลิ้นอันเรียวนุ่มของโศภิตาพุ่งตัวแทรกผ่านเข้ามาในโพรงปากของเด็กหนุ่ม ธรรมชาติก็สั่งให้เขาส่งลิ้นหนาของตนเข้าพัวพันทักทายกลับ
ทั้งคู่ผลัดกันแลกลิ้นอย่างนัวเนียลึกซึ้งในขณะกำลังนอนอยู่บนโซฟา และเมื่อผ่านไปประมาณหนึ่งนาที โศภิตาก็เริ่มรู้สึกตัวและถอนจูบออกอย่างรวดเร็ว
เธอนั่งนิ่งขณะรู้สึกเขินอายอย่างไม่น่าเชื่อ ส่วนริทเองกลับเสียดายเล็กน้อยที่มันจบลง เขาลุกขึ้นนั่งและมองประสานสายตากับแม่บุญธรรม
นี่เป็นจูบแรกอันบริสุทธิ์ของเขา และเด็กหนุ่มก็อยากทำมันต่อ
“ทำไมแม่ถึง....ทำแบบนี้ครั้บ” ริทถามเสียงแหบพร่า
และเมื่อโศภิตาได้ยินชื่อของเธอจากปากริท ร่องรูของเธอก็เกิดการบีบรัดขึ้นเบาๆ ราวกับมันกระซิบบอกให้เธอร้องขอให้เด็กหนุ่มตรงหน้าเข้าไปสำรวจภายใน
เธอกำลังอับอายริทเป็นอย่างมากหลังจากที่เพิ่งจูบเขาไปอย่างดุเดือด
แต่แม้จะเป็นแบบนั้น โศภิตาก็รู้ดีว่าอาการรุ่มร้อนจะไม่หายไป เธยยังต้องการอะไรที่มากกว่าเพียงแค่จูบ
“แม่...เอออ..” โศภิตาไม่รู้จะกล่าวด้วยคำพูดเช่นไรดี
ทันใดนั้น บุตรชายบุญธรรมก็ยื่นมือขึ้นมาจับมือเธอ โศภิตาจึงมองไปที่เขาซึ่งขณะนี้กำลังยิ้มด้วยความอบอุ่น
“แม่ควรจะบอกผมนะครับ ถ้าเผื่อ… จะมีอะไรที่ผมช่วยได้”
ในที่สุด หลังจากได้สัมผัสกับความอ่อนโยนของบุตรชาย เส้นกันระหว่างความผิดชอบชั่วดีของโศภิตาก็พังทลายลง
 
เมื่อพูดจบ ใบหน้าของเธอก็สุกแดงราวกับลูกตำลึง ก่อนเธอจะซบหัวลงกับอกของริทเพราะไม่อยากเห็นสีหน้าของเด็กหนุ่ม
ริทถึงกับอมยิ้มเมื่อพบว่าโศภิตาช่างทำตัวน่ารักเกินกว่าจะเป็นผู้หญิงที่อายุสามสิบเจ็ด
เธอยังคงปฏิบัติตัวราวกับเป็นวัยรุ่นแรกแย้มแสนขี้อาย และมันก็ทำให้เขาชอบที่เธอเป็นแบบนี้มาก
ริทดึงม่ายสาวออกจากอกและมองตรงเข้าไปในดวงตาสวยของเธอ แต่โศภิตาพยายามหลบตานั้นด้วยความเขินอายในสิ่งที่เพิ่งจะกล่าวออกไป
เธอไม่รู้ว่าบุตรชายจะคิดและมีปฏิกิริยาเช่นไรกับคำกล่าวนั้น มีแม่บุญธรรมที่ไหนบ้างที่มาขอให้ลูกบุญธรรมมีอะไรกับตัวเอง
อย่างน้อยตอนนี้ เธอก็หวังว่าริทจะไม่รังเกียจเธอ
แต่สิ่งที่ริททำนั้นกลับเหนือความคาดหมาย เด็กหนุ่มช้อนคางของโศภิตาให้มองมาที่เขาแล้วสบตานิ่ง
และเมื่อเธอจ้องมองกลับ ม่ายสาวก็รู้สึกโล่งใจเมื่อไม่เห็นความรู้สึกรังเกียจใดๆในสายตาคู่นั้น
“แล้ว...แม่บุญธรรมอายุสามสิบเจ็ดปีของผม อยากให้ผมมีเพศสัมพันธ์...กับแม่ไหมครับ”
โศภิตาพยักหน้ารับเบาๆด้วยสายตาเว้าวอน
เห็นดังนั้น ริทจึงยิ้มและพูดขึ้นว่า “ได้ครับ ผมจะทำมันเพื่อแม่ แต่แม่ต้องพูดอะไรบางอย่างให้ผมฟังก่อน” จากนั้นเด็กหนุ่มก็เข้าไปกระซิบบางอย่างข้างๆหูของแม่บุญธรรม
เมื่อฟังจบ หน้าของเธอก็ไม่อาจจะแดงไปกว่าเดิมได้อีกแล้ว
“ม..แม่...แม่พูดอะไรแบบนั้นไม่ได้”
ริทปล่อยมือจากแม่บุญธรรมทันทีและพูดว่า “ได้ครับ งั้นผมก็จะไปนอน” เขาทำท่าจะลุกขึ้น
“เดี๋ยวก่อน!” ม่ายสาวคว้าแขนบุตรชายไว้ทันที กลีบสาวอันเปียกเยิ้มของเธอกำลังต้องการบางสิ่งจากเขา
ดังนั้น โศภิตาจึงทำได้เพียงยินยอมรับความต้องการของบุตรชายและทำมัน
“อย่าเพิ่งไปนะริท ได้โปรด...แม่ยอมพูดแล้ว”
ริทยิ้มอีกครั้งและฟังเธอ
 
โศภิตาหลุบตามองพื้นทันทีที่พูดจบ เธอไม่คิดฝันสักนิดว่าในชีวิตจะพูดอะไรน่าอายเช่นนี้ออกไปได้
แม้ว่าริทจะแกล้งเธอเล็กน้อยด้วยการแอบบันทึกประโยคนี้ไว้ในมือถือ
แต่ในตอนนี้ เป้ากางเกงของเขาตุงจนแทบจะทะลุแล้ว เด็กหนุ่มไม่สามารถทนรอได้ต่อไปอีก เขาจึงหัวเราะเบาๆและพูดขึ้นว่า
“งั้นเรามาเริ่มกันเลยเถอะครับ แม่..”
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน