...และแล้วก็ถึงวันที่คุณชัดส่งรถตู้มารับที่บ้าน ช่วงสายๆวันนั้นน้ำแต่งตัวชุดแซกกระโปรงสั้นแขนกุดสีชมพูอ่ะค่ะ (แบบนี้) คนขับรถเดินเข้ามาในบ้านก็บอกว่า “รีบขึ้นรถครับ แต่เฉพาะคุณน้ำเท่านั้นครับ ส่วนคุณวิโรจน์คุณชัดบอกไม่ต้องไปด้วย” น้ำกับพ่อได้ฟังแบบนั้นก็งงๆทั้งคู่สิคะ “อ้าว ทำไมล่ะ ทำไมผมจะไปกับลูกสาวของผมไม่ได้” คุณพ่อถามด้วยความสงสัย
คนขับรถเขาบอกว่า “คุณชัดสั่งผมมาแบบนี้ครับ รายละเอียดอย่างอื่นผมไม่ทราบ แล้วทางคุณเชิดฝากบอกว่าจะให้คุณน้ำโทรติดต่อมาเป็นระยะๆเอง” “แล้วอีก 5 วันผมจะมารับคุณวิโรจน์ไปงานแต่งงานแบบทางการอีกที” คนขับรถกำชับแบบหนักแน่น “มันต้องมีอะไรแน่ๆเลยลูก พ่อว่าอย่าไปเลยดีกว่านะ” คุณพ่อหันมาคุยกับน้ำ ก็แบบไม่อยากให้น้ำไปอ่ะค่ะ “แต่ถ้าไม่ไปวันนี้มันจะส่งผลถึงเรื่องที่คุณชัดคุยกับคุณพ่อเมื่อหลายวันก่อนนะคะ” น้ำตอบกลับไป “ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ ไม่ต้องห่วงน้ำไปคนเดียวได้ คงไม่มีอะไรหรอก แล้วน้ำจะโทรมาหาทีหลังนะคะ” น้ำบอกพ่อไปด้วยความเชื่อมั่นว่ามันคงไม่มีอะไรน่ากังวล
ก็นั่งรถตู้ไปประมาณเกือบ 2 ชม.ได้ จนถึงบ้านหลังนึงค่ะ หลังใหญ่แต่มันดูเก่าๆโทรมๆ ตั้งอยู่สุดซอยแถมซอยนั้นดูเปลี่ยวๆด้วย ในใจก็เริ่มหวั่นนิดๆแล้ว เพราะบ้านหลังนั้นมันดูไม่ใช่บ้านคุณชัดแน่ๆ แต่มองไปเห็นรถจอดอยู่หลายคันด้านนอกก็ใจชื้นขึ้นมาได้หน่อยนึง แล้วรถตู้ก็จอดคนขับรถลงมาเปิดประตูบอกว่า “ถึงแล้วครับที่นี่คือสถานที่จัดงาน” น้ำก็ทั้งสงสัยทั้งงงว่า ที่นี่เนี่ยนะจัดงานแต่ง แล้วมันจะเป็นงานแบบไหนล่ะเนี่ย?
แล้วคนขับรถก็พาน้ำเข้าไปทางด้านหลังบ้าน เดินเข้าไปภายในบ้านเขาก็ให้น้ำเข้าไปนั่งรอที่โซฟาในห้องๆนึง น้ำก็นั่งอยู่แบบงงๆปนสงสัยค่ะ คือในบ้านนั้นมันแทบไม่มีเฟอร์นิเจอร์อะไรเลยนะคะ แล้วก็มันร้อนอบอ้าวมากๆ น้ำนั่งได้ไม่นานเหงื่อก็ออกแบบเต็มตัวเลย แล้วคนขับรถเขาก็เดินมาบอกว่า “ผมต้องขอเก็บมือถือและกระเป๋าของคุณด้วยครับ เสร็จงานแต่งแล้วจะคืนให้ครับ”
น้ำก็สงสัยสิ เลยถามไป “ทำไมต้องขอเก็บมือถือและกระเป๋าด้วยล่ะ?” เขาบอกว่า “ทุกคนที่มางานนี้จะถูกเก็บมือถือและของใช้ส่วนตัวไว้หมด ไม่ต้องเป็นห่วงครับ เสร็จงานของทุกอย่างจะถูกส่งคืนให้คุณแน่ๆ” น้ำก็ไม่ค่อยอยากส่งของส่วนตัวให้เขาหรอกแต่ก็ไม่อยากให้เสียเวลานานก็เลยจำใจหยิบกระเป๋าสะพายให้เขาไป แล้วคนขับรถก็เดินออกไป
สักพักก็มีผู้ชายใส่สูทดำอีกคนนึงเดินเข้ามาพร้อมกับถือแฟ้มเอกสารมาด้วย มาถึงใกล้ๆตัวของน้ำเขาก็โยนแฟ้มนั้นให้น้ำทันที บอกว่า “รีบๆอ่าน ทำความเข้าใจแล้วก็เซ็นชื่อซะนะครับคุณน้ำ” น้ำรับแฟ้มนั้นมาแบบเคืองๆ เปิดมาอ่านก็ถึงกับช็อก อึ้ง และตกใจเอามากๆ ถึงกับต้องเอามือปิดปากเลย ข้อความมันประมาณว่า…(ในแฟ้มนั้นมันเป็นภาษาทางการนะ แต่น้ำจะขอบอกเป็นภาษาบ้านๆตรงๆเข้าใจง่ายๆนะคะ)
.
.
.
.
.
.
.
.
“หลังจากแต่งงานเข้าไปอยู่บ้านสามีแล้วน้ำมีสถานะเป็นกะหรี่ส่วนตัวของสามี ทาสกามในบ้าน สัตว์เลี้ยง ที่ระบายอารมณ์ประจำตัว ประจำบ้านเขา จะไม่ได้รับอนุญาตให้นอนร่วมห้องกับสามี โดยน้ำจะต้องอยู่ในห้องเล็กๆหลังบ้าน ต้องรับได้ทุกอย่างที่เขาจะทำกับน้ำ ต้องเย็ดกับตัวเขา พ่อเขา เพื่อนๆของเขาและเพื่อนๆของพ่อเขา ลูกน้องคนสนิท ลูกค้าของเขาและพ่อเขาด้วย (โดยคนอื่นๆถ้าไม่ใช่ตัวสามีกับพ่อของเขาต้องใส่ถุงยาง) และขณะท้องอยู่ก็จะต้องโดนเย็ดทุกวันจนคลอด และจะโดนเย็ดทุกวันต่อไปเรื่อยๆ ต้องยินดีที่จะถูกควบคุมทุกอย่างในชีวิตทั้งหมด โดนทรมานรูปแบบต่างๆ ถูกกระตุ้นให้เงี่ยนตลอด ไม่มีสิทธิเรียกร้องอะไรทั้งนั้น ต้องยินดีและต้องทำตามที่สามีสั่งทุกอย่าง ไม่อย่างนั้นเรื่องกู้เงินและการสั่งสินค้าต่างๆระหว่างบริษัทของพ่อสามีกับบริษัทของพ่อน้ำจะถูกยกเลิกทันที”
.
.
.
.
น้ำอ่านใบสัญญานั้นก็น้ำตาไหล ร้องไห้เลย มันอึ้งมากๆ นี่มันสัญญาทาสชัดๆ ความรู้สึกขณะนั้นมันสับสนปนเปไปหมดค่ะ ผู้ชายคนนั้นคอยพูดกดดันตลอดว่า “จะไม่เซ็นก็ได้นะครับ แต่ทรัพย์สิน ทุกอย่างของคุณพ่อของคุณน้ำมันจะสูญหมดแน่ๆ ทั้งบ้านและโรงงาน ใช่ครับบ้านที่คุณอยู่ตอนนี้นั่นแหละ เพราะคุณพ่อของคุณเอาไปจำนองไว้ด้วย แล้วคุณพ่อของคุณก็ป่วยอยู่ด้วยนี่ จะเอาเงินที่ไหนรักษา เห็นว่าต้องผ่าตัดหัวใจด้วยนี่ จะเอาเงินจากไหนเป็นค่าผ่าตัด ยอมๆเซ็นไปเถอะครับคุณน้ำ”
น้ำที่ตอนนั้นก็ไม่รู้จะทำยังไงอ่ะค่ะ มันสับสนมากๆ จิตตกสุดๆ ร้องไห้ ห่วงพ่อ คนนั้นก็คอยพูดกดดันตลอด ทั้งขู่ทั้งพูดดี น้ำเสียงที่เขาพูดก็ดังขึ้นเรื่อยๆ เร่งๆให้น้ำเซ็นชื่ออยู่ตลอด ห้องนั้นก็ทั้งร้อนทั้งอึดอัดมาก สุดท้าย...น้ำไม่มีเวลาคิดเลยก็จำใจต้องยอมเซ็นชื่อลงไปทั้งน้ำตา......
จบตอนที่ 3 แล้วครับ ต่อไปน้ำจะโดนอะไรบ้างรอติดตามนะครับ ^^