หลังจากห่างหายไปนาน กลับมาอ่านส่งท้ายปีกันดีกว่าครับ
เรื่องเล่าไทม์ไลน์นี้จะอยู่ช่วงเดียวกับที่พี่หมิวเล่านะ
แต่ว่าเป็นในมุมมองของผมแหละครับ ซึ่งมันเป็นช่วงเรียน
มหาวิทยาลัยปี 2 ตอนผมอายุ 20 ส่วนพี่หมิวก็เรียนปี 4
เป็นเรื่องที่เกิดก่อน ร้านเกะไทม์ไลน์ปัจจุบัน 3 ปี
..................
ความเดิมตอนที่แล้ว
ครูโรงเรียนเก่า มาหาที่บ้านครับบอกว่า
พรุ่งนี้จะมีงานแต่งช่วยมาตีกลองยาวนำให้หน่อย
เพราะว่าน้องๆช่วงนี้ไม่ได้ซ้อมเลย ผมก็ตอบตกลงครับ
ส่วนพี่แมนก็บอกเอ้า !!! งานมงคลต้องแจม ผมก็ไม่อยากจะห้าม
ไม่อยากจะอะไรหรอกครับ เอาตามสบายเล๊ยยยย
ถ้าจะให้ดีย้อนกลับไปอ่านซักนิดดีกว่าครับ
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
...............
เฮ้อช่างเถอะ ยังไงซะผมเองก็ไม่คิดที่จะทำให้พี่แมนหงุดหงิดหรือโมโหอยู่แล้วล่ะ ผมมาถึงบ้านแล้วก็ขึ้นไปนอนเลยครับเวลามีน้อยมากๆเลยจากวันที่น่าจะได้นอนตื่นสัก 9 โมง ผมว่าคงต้องตื่นก่อนตี 5 แน่ๆ ผมถามพี่แมนว่าไหวแน่นะพี่ เตรียมตัวกันหน้างานแบบนี้
พี่แมนบอกเฮ้ยไม่เป็นอะไร เดี๋ยวโทรหาซื้อของตามปากคลองตลาดเอาก็ได้เช้าๆค่อยไปเอา ผมก็อ่อครับๆ แล้วพี่แมนก็จัดการโทรเลยนะ คือทำงานด้วยตัวเองเลยไม่ต้องรอใช้ลูกน้อง ผมเองก็เดินกลับขึ้นบ้านครับจะมานอนที่ห้อง แล้วตอนที่กำลังจะนอน
พี่แมนก็ขึ้นมาข้างบนบอกเฮ้ยพี่นอนพักสายตาด้วย แล้วพอมาถึงพี่แมนก็ทิ้งตัวนอนเลยนะ ผมก็ถามว่าเอ้าพี่แล้ว พวกพี่ๆอีก 3-4 คนล่ะ พี่แมนบอกมันนอนข้างล่างนู่น ผมก็บอกเอ้าไหงงั้นล่ะพี่ให้นอนนั้นได้ไง พี่แมนก็บอกว่าถึงยังไงก็ต้องเว้นระยะห่างไว้บ้าง
ไม่งั้นนานๆไปพวกนั้นอาจจะเหลิงจนลืมตัวก็ได้ ให้ความสนิทแต่ก็ต้องมีลิมิตบ้าง ผมก็บอกเอ้าพี่งั้นผมล่ะ ผมต้องลงไปไหมเนี่ย พี่แมนบอกเฮ้ยเอ็งเจ้าของบ้าน ให้ลงไปนอนในเตนท์แบบนั้นได้ไง ที่สำคัญถ้าให้พวกนั้นมานอนด้วยก็เบียดกันหมดอ่ะสิ่
พี่แมนบอกว่า เรื่องอะไรเขาง่ายๆนะ แต่เรื่องการนอน เขาชอบนอนแบบสบายๆ ที่นอนไม่ต้องดีมากหรอก ขอแค่เหยียดแขนเหยียดขาได้ ผมก็อ่อครับๆ แล้วผมก็หลับไปเลย แล้วคือหลับเลยนะตอนนั้น ตื่นมาอีกทีเพราะพี่แมนปลุกครับ พี่แมนบอกเฮ้ยไปอาบน้ำเตรียมตัวไป
ผมก็ตื่นขึ้นมาบอกเลยว่าเพลียชิบหายเลยครับขอหยาบหน่อย เหนื่อยจนไม่อยากลุกเลยเพลียไปหมด มันสะสมมาจากการซ้อมละครด้วยแหละมั้ง พี่แมนบอกว่าเฮ้ย เดี๋ยวพี่กลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดก่อน เอ็งก็เตรียมตัวเลย ผมก็ฝืนตื่นขึ้นมาครับๆ
แล้วพี่แมนก็เดินลงไปเลย ซึ่งก็น่าจะไปปลุกคนของเขาแหละครับ ส่วนผมก็ลงมาข้างล่างก็แน่นอนแหละว่าข้างล่างตอนนี้ว่าพวกแม่ๆ และป้าข้างบ้านเดินทำของหวานกันง่วนเลย ซึ่งก็แบบนี้แหละครับเวลามีงานบุญ ก็มักจะช่วยกัน คนละแวกนี้ไม่ใช่คนที่ร่ำรวยอะไรมาก
เวลามีงานบุญก็จะซื้อของเล็กๆน้อยๆมาช่วย แล้วก็ใช้การลงแรงนี่แหละเป็นการทำบุญ พวกป้าๆ แม่ๆ มาช่วยกันนึ่งกะทิครับ ของหวานตอนเช้าก็จะเป็นพวกขนมงานมงคล ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง จ่ามงกุฎ แล้วก็อื่นๆ คือจะเป็นขนมมงคล 9 อย่างสำหรับงานแต่ง ซึ่งข้อมูลใน Google เพียบเลยล่ะครับ
ผมรีบเดินเข้าไปอาบน้ำเลยนะ โอ่ยยย มันช่วยให้ตื่นก็จริงนะน้ำเย็นๆอ่ะ แต่มันช่วยให้ตื่นแค่ตัวไง จิตใจผมยังอยู่ที่ฟูกนอนอยู่เลย พรุ่งนี้ก็ต้องเรียนแล้ว โอยเอาเวลาไหนพักวะเนี่ย หลังจากนั้นผมก็แต่งตัวปกติครับ เสื้อยืด กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ เพราะว่าเมื่อคืนครูบอกแล้วว่าจะเอาเสื้อลายดอกมาให้
พอซักราวๆ 6 โมงครึ่ง ก็มีรถกระบะมาครับ เป็นรถขนกลองยาวมา แล้วก็มีน้องๆนั่งจับกลองมาหลังรถ พอรถจอด ผมก็ไปช่วยขนกลองยาวลงมาจากหลังรถ น้องๆบางคนที่มันเห็นผมตอนกลับไปโรงเรียนตอนงานไหว้ครูมันก็ทักมา พี่โทนหวัดดีพี่ นู่นนี่นั้น ผมก็รับไหว้ยาวๆเลยคราวนี้ น้องมันเอาเสื้อมาให้บอกว่าเดี๋ยวครูตามมาครับพี่ ซึ่งมันเป็นเสื้อลายดอกที่ปักชื่อคณะ และเบอร์โทรไว้
เรียกว่าเป็นทุกคนเป็นแอมบาสเดอร์คณะกลองยาวกันเลยทีเดียว พวกเราก็นัดแนะกันครับว่าจะใช้จังหวะไหนในการตี จะทิ้งช่วงยังไง ใช้สามช่าตอนไหน แล้วเวลาขึ้นเรือจะจัดที่นั่งกันยังไง จนกระทั่งราวๆ 7 โมงครับ พี่แมนก็มาถึงพอดี อื้อหือ กูนึกว่าผู้ใหญ่บ้าน
มีผ้าขาวม้าคาดเอวด้วย ตอนนั้นพวกผมจะต้องแต่งหน้ากันแล้วล่ะ ถึงจะบอกว่าแต่งหน้ามันก็ไม่ได้มีอะไรวุ่นวาย หรือยุ่งยากมากครับ แค่แป้งฝุ่นกับน้ำอบนี่แหละ หรือน้ำเปล่าก็ได้ แล้วก็ต้องมีหวี เออเฮ้ยหวีไม่มี ผมก็เลยเดินขึ้นไปที่ห้องเพื่อเอาหวีลงมาครับ
แต่ว่าจะหลับครับเลยมองดูเวลา มองคนข้างนอกก็ตัดสินใจอาบน้ำดีกว่า ผมรีบอาบๆๆ แปรงฟัน ฟอกสบู่นกแก้ว แล้วขึ้นไปแต่งตัวเลยครับ ถึงจะบอกว่าแต่งตัว แต่มันก็ไม่ได้แต่งตัวเรียบร้อยอะไรเลยครับหัวผมยังไม่แห้งสนิทแต่ก็พอหมาดๆล่ะ ผมหยิบแป้ง หยิบหวีลงมาด้วย
คือด้วยความมึนๆไง ง่วงด้วย ผมลงมาเจอพี่แมนแล้วก็... ใครวะคนข้างๆพี่แมน แฟนเหรอหน้าไม่คุ้นเลย ผมก็.... ตัดสินใจเดินหนีเลยคือ สมองประมวลผลไม่ทันไงครับ ผมก็คิดแหละว่าพี่แมนก็คงมีอะไรหลายๆอย่างต้องทำ การที่ผมเดินผ่านคนใจกว้างแบบพี่แมนคงไม่ว่าอะไรหรอก
แต่พอผมเดินผ่านไป พี่แมนก็เรียกเฮ้ยโทนๆๆ ทางนี้ !!! ผมก็หันไปหาแหละครับ โอ้โห่.... แต่งตัวผมนึกว่าอาจารย์เฉลิมชัย คือยังไงดี มันเหมือนเสื้อม่อฮ่อม แต่ก็ไม่ใช่ ออกแนวเป็นเสื้อพื้นเมืองของชาวเหนือครับ แล้วก็กางเกงยีนสีน้ำเงินดูสบายๆ แต่ก็นะ เพราะพี่แกโคตรหล่อนี่แหละ การแต่งตัวเรียบๆแบบนี้ถึงได้ดูอลังฯมากๆ
แล้วมีผ้าขาวม้าคาดเอวด้วย เอ้อเอาเข้าไป ผมก็เข้าไปยกมือไหว้ตอนเช้าสวัสดีครับพี่แมน พี่แมนก็เอ้อไหวเปล่าวะ ผมก็หาวตอบไปทีนึงแล้วบอกไหวครับ ผมก็ถามนะว่าพี่แมนพาแฟนมาด้วยเหรอ พี่แมนบอกไหนวะแฟน พี่แมนมองไปทางผู้หญิงคนนั้นแล้วหัวเราะเลย เขาบอกเฮ้ย นั่นไอ้หมิวไง
ผมนี่หันควั่บคอแทบหัก ฮึ๊ !!! พี่หมิวเหรอวะนั่น โหจำไม่ได้เลยหน้าใส จนจำไม่ได้เลยวุ๊ย แล้วนั่นเหมือนพี่หมิวเธอมีจิตสำผัสอ่ะ เดินดุ่ยๆมานั่นละ เธอเดินมาแล้วยืนท้าวเอวเลยนะ หูยยย บอกตามตรงว่าพี่หมิวเองก็หุ่นดีนะ ยิ่งใส่กางเกงยีนมาแบบนี้ พวกสะโพก พวกเอวนี่ ถ้าให้พูดตามตรงคือหุ่นนางแบบมากๆ
เฮ้ยๆๆ ไอ้โทนๆ ไม่ได้ๆนี่เป็นแฟนของตัวเล็กนะ มึงต้องให้ความเคารพสิ่ พี่หมิวถามว่านินทาไรกัน ผมก็เอ่อ เอ่อ แล้วอยู่ดีๆเว้ยพี่หมิวก็หยิกมั่บเข้าที่แก้มผมสองข้างเลย โอ้ยยยย นี่เจ๊แกโหดอะไรปานนี้วะ พี่หมิวก็ถามว่าเมื่อกี้ทำไมเห็นพี่แล้วไม่ทักฮะ นี่เป็นเจ้าของบ้านจริงป่ะเนี่ย ผมนี่เอ้า !!! อะไรวะน่ะโมโหอะไรแค่ไม่ทัก ก็คนมันจำไม่ได้นี่หว่า
แล้วอีกอย่างผมก็ยังทำใจคุยกับพี่หมิวลำบากด้วยบอกตามตรง กลัวเรื่องพี่เตยจะแดงขึ้นมาอ่ะดิ่ แต่ว่าโอ๊ยย อยู่ดีๆพี่หมิวก็หยิกแรงขึ้น ผมก็ไม่มีทางเลือกแหละครับตอนนั้น ผมร้อง โอ๊ยยยย แล้วบอกว่าก็พี่ไม่ได้แต่งหน้ามา ผมก็จำไม่ได้เฉยๆครับ .... เอ่อ ทำไมพอพูดไปแล้วรู้สึกว่าจะงานหยาบมากกว่าเดิมวะ
แล้วในสถานการณ์แบบนี้คุณพี่แมนเขาทำไรรู้มั้ยท่านผู้อ่าน เขาหัวเราะเว้ย 5 5 5 5 ไอ้โทนมุกนี้พี่ขอ ๆ ๆ ซื้อ ๆ ๆ ๆ ผมก็ฮึ๊ สถานการณ์แบบนี้เนี่ยนะพี่ แต่ก็ยังดีที่พี่แมนเขาบอกให้พี่หมิวเขาปล่อยครับ ไอ้หมิวปล่อยได้แล้วไอ้โทนมันมีงานต้องทำ แล้วพี่หมิวก็ปล่อยครับ โอยยยย เจ็บ แก้มผมช้ำแล้วมั้งเนี่ย
แล้วแปปนึงผมก็เห็นครูมาแล้วครับมากับพวกน้องๆด้วยล่ะมั้ง บางคนผมก็ไม่คุ้นหน้า ผมก็เข้าไปไหว้สวัสดีครับครู พวกน้องๆบางคนที่รู้จักผมก็พี่โทนสวัสดีครับ พี่โทนสวัสดี ส่วนมากเด็กพวกนี้ตอนที่ผมอยู่ ม.6 ก็คงจะราวๆ ม.2-ม.3 แหละท่าทาง ผมก็ถามก่อนเลยว่าเฮ้ย พวกเอ็งไม่ค่อยได้ซ้อมเหรอช่วงนี้
พวกน้องๆก็บอกว่าช่วงนี้มีสอบน่ะสิ่ครับพี่เลยไม่ค่อยว่างกัน ถึงซ้อมก็ซ้อมได้แค่แปปเดียวเอง ผมก็อื้มเข้าใจเลยล่ะน่ะ พวกนี้ไม่ได้ผิดเลยที่ไม่ซ้อม แค่มันเป็นช่วงเวลาที่ทับซ้อนกันเท่านั้นเอง พวกนี้อยู่ช่วงสอบ ส่วนบ้านที่จัดงานแต่งก็คงจะเป็นฤกษ์งามยามดีที่จะจัดงานมงคล
แบบนี้ก็คงโทษใครไม่ได้หรอกครับ ผมก็บอกโอเควันนี้ก็ลุยกันแล้วค่อยไปตั้งใจสอบ แล้วน้องมันก็บอกโหพี่โทนย้อมผมสีเงินโคตรเฟี้ยว ผมก็แอบยิ้มในใจเล็กๆล่ะนะตอนนั้น แล้วน้องมันก็ยื่นของจำเป็นมาให้ มันคือน้ำอบหอมๆกับแป้งครับ เป็นแป้งกระป๋องยี่ห้อสปริงซอง คือมันหอมครับไม่ใช่อะไรหรอก
สมัยนี้คงไม่มีแล้วมั้งแบบกระป๋องเหล็ก หรืออาจจะมีในต่างจังหวัดก็ แต่ถ้าเป็นในช่วงที่ผมหยิบมาเล่าแถวบ้านผมยังพอมีครับ เพราะสมัยก่อนแถวบ้านผมก็ไม่ใช่ว่าจะเจริญอะไรนัก ยังคงมีความคลาสสิคแบยุคเก่าๆอยู่ แต่ถ้าเป็น ณ ช่วงนี้ที่นั่งเขียน กระป๋องแบบเหล็กไม่น่าจะมีแล้วล่ะ
อ่ะมาต่อกันเถอะ ผมรับพวกแป้งกับน้ำอบมาก็เทลงฝ่ามือ เอานิ้วกวนๆๆ แล้วก็เอาหวีแตะๆๆ แล้วก็แตะไปที่หน้าครับ ก็จะได้เป็นเหมือนดอกดาวเรือง แต่ว่าเป็นซี่ๆๆๆ ตามความถี่ของหวีน่ะนะ แล้วดูเหมือนเจ้าของบ้านที่จัดงานจะมาเว้ย พอมาถึงก็สวัสดีครับคุณแมน
ผมหันมองคอแทบหัก เฮ้ย ๆ ๆ พี่นี่พี่ไปรู้จักกันตอนไหน.... แต่ก็เอาเถอะครับ ผมเริ่มทำใจให้ชินเรื่องความกว้างขวางของพี่แมนได้แล้วล่ะ เอาล่ะไปเตรียมตัวที่ท่าน้ำกันหน่อยดีกว่า พอมาถึงน้องๆมันก็กำลังปาดกล้วยตากแปะที่หน้ากลองยาวกันอยู่เลยครับ บางคนเห็นผมก็ยกมือไหว้เลยตอนนั้น
ผมก็ยกมือรับว่าไงพวกเอ็ง อ้อกล้วยตากเอาไว้ปาดเพื่อถ่วงเสียงกลองนะครับ บ้างก็เอาไปกลองยาวไปตากแดดบ้าง มาถึงผมก็เข้าไปตรงกลองยาวที่ผมต้องใช้ ยกมือไหว้ก่อน คือเรียกว่าเป็นสิ่งที่ปฎิบัติกันเสมอมาและเป็นความเชื่อก็ได้ครับ ผมเชื่อว่าเครื่องดนตรีไทยทุกชนิดจะมีครู หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตอยู่ จากนั้นก็จับมาสะพายแล้วตี ป๊ะๆ ๆ เพิ่งๆๆ บ่อมๆ ป๊ะ บ่อมๆ อืมม โอเคเสียงดีมากหนังกลองไม่หย่อน แล้วตอนนั้นครูก็บอกว่าเอ้าๆๆ ลองซ้อมนัดแนะกันหน่อย
ผมก็ถามว่าเอาไงจะตีจังหวะไหนกัน ครูก็บอกว่านำไปเลยโทน พวกนี้หัวไวตามทันอยู่แล้ว ผมก็โอเคครับครูไม่มีปัญหา ผมก็บอกเอ้า โห่สามลา เลยใครนำล่ะเอาดิ่ น้องมันก็บอกพี่เอาดิ่ พี่เลย พี่แก่สุดอ่ะ ผมก็โอ้โหไอ้นี่ พึ่ง 20 บอกพี่แก่ แต่ก็เอาเถอะ ยังไงก็วอร์มซักหน่อย
อ่ะ แฮ่ะ แฮ่มมม โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โห่ ฮี๊ โหยยยยยยยยยยยย พวกน้องๆก็รับ ฮี๊ววววววววววววววววววววว พร้อมกับตีเครื่องดนตรีของแต่ละคน ให้เกิดเสียงเพื่อเรียกแขก แล้วก็วนแบบนี้ไป 3 รอบ ตามชื่อโห่สามลา
มันเป็นเหมือนการบอกทุกคนว่า กลองยาวมาแล้วนะ ใครอยากรำก็มารำ ใครอยากทัศนาก็มา จนเมื่อครบสามรอบ โหม่งก็ขึ้นมา ก่อน มง มง มง มง เพื่อเป็นสัญญาณ จากนั้นฉิ่ง ฉาบ กรับ ก็ดังขึ้นมา แล้วกลองยาวก็ตามมา บอม เราใช้เสียงบอม หรือ บ่อมกันก่อนครับ บอม เป็นการตีเข้าที่กลางหน้ากลอง โดยที่อาจจะกำหมัดนิดนึงตีแล้ว ยกขึ้นเลย ก็จะได้เสียงบอม
พวกเราตี บอม บอม บอม บอม บอม บอม เพิงๆ เพิงๆ ป๊ะ !!! เสียงเพิ่ง หรือ เปิง เป็นการใช้มือตีที่ใกล้ๆขอบกลองครับ ส่วนเสียงป๊ะใช้นิ้ว 5 นิ้ว กางออกแล้วตีไปกลางกลอง ตีแล้วกดไว้ซัก 1 วินาทีก็จะได้เสียงป๊ะ เพิงๆ เพิงๆ ป๊ะ !!! จบจังหวะนี้เราเริ่มต่อเลย ผมก็บอกนอกตามที่มันเป็นแพทเทิร์นของงานมงคล รื่นเริงที่ครูสอนประจำ
ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง / ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง / ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง ตีไปสักพักเราก็ต้องปลุกจังหวะให้มันสนุกมากขึ้น ผมก็ขาน ใครมีมะกรูด น้องๆก็รับมาแลกมานาว ย้ำอีกรอบใครมีมะกรูด น้องๆก็ตอบมาแลกมะนาว
[ ผม ] : ใครมีลูกสาว
[ น้องๆ ] : มาแลกลูกเขย
แล้วก็ขานพร้อมๆกัน เอาวะ เอาเหวยลูกเขยกลองยาว ตะ ละ ลาาาาา
[ ผม ] : หุยยยยยยยยยยย
[ น้องๆ ] : ฮาาาา
[ ผม ] : โห่ววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว
ทุกคนแถวๆนั้น ฮี๊วววววววววววววว แล้วเราก็ตีกันต่อไปครับ จนมาจุดที่ต้องเปลี่ยนจังหวะ ผมก็บ่อม ๆ ๆ ๆ ๆ นำไปก่อนน้องๆก็ตามไวมาก บ่อม บ่อม บ่อม บ่อม ผมก็เริ่มตีจังหวะ เพิ่งๆ เพิ่ง ป๊ะ !!! แล้วก็เปลี่ยนเป็นจังหวะเถิดเทิง เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง / เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง / เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง แล้วก็อาจจะมีการใส่จังหวะลูกเล่นนิดนึง
เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง / ป๊ะ ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง เพิ่ง / ต้องเร่งตีจังหวะ ป๊ะ ป๊ะ ให้เร็วครับ ไม่ให้ไปค่อมจังหวะ เพิ่ง ป๊ะ ดั้งเดิม ไม่งั้นเสียงกลองมันจะสะดุดหูเลยล่ะ ผมชอบจังหวะเถิดเทิงนะ ชอบมากๆ เพราะว่าตอนวันเข้าพรรษา จะมีการรำถวายเทียน แล้วจังหวะเถิดเทิงน่ะ นางรำ รำได้สวยมากๆ แล้วก็พริ้วๆเลย ชอบจังหวะตอนหมุนตัว แล้วสไบปลิว สวยมากกกก อ้อ ตามคลิปนะครับ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ผมตีกลองไล่จังหวะไปเรื่อยๆ จนเอาล่ะได้เวลาจบละ วอร์มพอแล้ว ผมก็เริ่มลงจังหวะ บ่อม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ น้องๆมันก็ตีตาม บ่อมๆๆ แล้วก็เริ่มตีเบาลง เบาลง เบาลง เบาลง เพื่อบอกว่าจะจบละซึ่งน้องๆมันก็รู้ดี พอเสียงบ่อมเบาสุดๆ เราก็ตีให้แรงสุดอีกครั้ง และเร่งจังหวะด้วย บ่อม ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะ เพิ่ง ป๊ะเพิ่งๆ ป๊ะเพิ่งๆ เพิ่งๆ เพิ่งๆ ป๊ะ !!! จังหวะสุดท้ายคือการจบการแสดง และเครื่องดนตรีทุกชนิดก็จบลงพร้อมกัน
เสียงคนเฒ่าคนแก่ ก็ฮู่ววววววว เหมือนชอบ เอาล่ะวอร์มกันพอละ ครูเดินมาปรบมือให้ครับแล้วบอกเยี่ยมๆ ๆ ที่เรือนหอขอมันส์แบบนี้นะ ผมก็วางกลองยกหน้าที่ให้น้องๆดูแล คอยจัดแต่งกล้วยจากที่เอามาโปะไว้หน้ากลองต่อ ผมก็เดินมาหาพี่แมนที่รออยู่ครับ พี่แมนก็บอกโห เฮ้ย ไอ้นี่ นึกว่าจะแค่ตีได้
นี่หัวหน้าวง นำจังหวะเลยนี่หว่า ตกลงทำอะไรเป็นมั่งวะ 5 5 5 5 5 ผมก็บอกว่ามันจำเป็นต้องเป็นน่ะพี่แมน ตอนเด็กๆ ถ้าไปตีกลองยาว งานบวช งามแต่ง อย่างน้อยก็ได้ 100 บาทแล้ว มันใช้กินข้าวได้หลายวันอยู่นะ พี่แมนก็บอกเอ้อๆดีๆ แล้วตอนนั้น พี่ในทีมก็บอกว่าแจ่มเลย แบบนี้มีมือกลองยาว ประจำงานแต่งละ ใครแต่งงานจับไอ้โทนไปตีกลองยาวเลย หัวเราะลั่นเลยครับทีนี้
พอมองดูดีๆ โอ้โห แต่ละคน เสื้อลายดอก กางเกงยีน มีผ้าขาวม้าหลากสีพาดเอวด้วย คือสลัดภาพใส่สูทออกไปเลย ตอนนี้ทุกคนดู เข้ากับงานแท้ๆ เอ้อจะว่าไปแล้วพวกพี่แมนจะตามไปงานยังไงหว่า ผมก็ถามว่าพี่แมนๆ เดี๋ยวพี่นั่งรถไปป่ะ เดี๋ยวผมเขียนแผนที่ให้ โอ้ยย พูดแล้วจะร้องไห้ ถ้าเป็นสมัยนี้ผมก็คงประมาณว่า เดี๋ยวผมส่งโลเคชั่นให้นะพี่แมน แต่ว่าสมัยนั้น คงทำได้แค่เขียนแผนที่ล่ะครับ
แต่พี่แมนเขาก็บอกว่าเฮ้ย ๆ ๆ นั่งเรือไปสิ่วะ แบบนี้มันต้องนั่งเรือตามผมหันไปมองที่เรือ อ้อโอเคพออยู่แหละ แต่ประเด็นคือ.... ผมหันไปมองพี่หมิวครับ แล้วพี่หมิวจะนั่งเรือได้มั้ยเนี่ย ผมก็ถามว่าแล้วพี่หมิวจะไปได้เหรอครับพี่แมน โอ้โห !!! เท่านั้นแหละ เหมือนอากาศสงบๆ แล้วพายุก็มาเลย
ทำไมจะไป มีปัญหาไรป่ะ เนี่ยดู ๆ ๆ ผมก็แค่เป็นห่วงไงกลัวจะตกน้ำป๋อมแป๋ม แต่พอพี่หมิวพูดใส่อารมณ์แบบนี้ ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อแล้วล่ะ จะไปก็ตามใจ ถึงตกน้ำไปคนของพี่แมนก็คงโดดไปช่วยได้แหละ ทำไมต้องอารมณ์ปรี๊ดขนาดนี้ก็ไม่รู้ หรือเพราะยังไม่ชอบขี้หน้าผมเหมือนเดิมกันนะ .... เพราะงั้นอย่าพูดอะไรกับพี่เขาถ้าไม่จำเป็นดีกว่ามั้ง
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน