พูดคุยก่อนอ่าน : มาแล้ว ๆ สำหรับใครที่คิดถึงหมอพลอยและครูเบสท์ ตอนนี้สองสาวกลับมาแล้วนะครับ โดยเฉพาะครูเบสท์ ที่จะเริ่มมีบทบาทโดดเด่นมากขึ้นนับจากนี้ไป
ตอนนี้ดราม่าเข้มข้นมาก ส่วนจะเรื่องอะไรนั้นขอให้ติดตามกันดู และขอแจ้งเตือนว่าในตอนหน้า ให้ทุกคนเตรียมกระดาษทิชชู่เอาไว้ เพราะมันจะเป็นฉากเลิฟซีนรอบที่สองของลุงพลและน้องทรายแล้วนั่นเอง
อย่างที่ได้บอกไปว่า หลังจากหมดคิวน้องทราย ก็จะเป็นฉากเลิฟซีนของ ครูเบสท์ (รอบที่ 2) น้องลูกขวัญ (รอบที่1) แนนนี่ (รอบที่2) และโคตรอภิมหาฉากเลิฟซีน 7P (ลุงพล x ใบเฟิร์น x โดนัท x นาถ x ยัยอุ๊ x อีฟ x หมวย)
เป็นโคตรฉากสวิงกิ้งที่ผมบอกได้แค่ว่า 'เหนื่อยโคตร' ทั้งคนเขียนและคนอ่าน มันจะเป็นการประชันกันไปเลยว่าก๊วนเด็กพยาบาลคนไหนลีลาเป็นยังไง
แล้วก็ ใบเฟิร์นกับโดนัท จะกลับมามีบทบาทอีกครั้งแล้วนะครับ หลังจากหายไปนาน สาเหตุที่หายไป เพราะสองสาวกำลังเล่นเพื่อนกันเองอยู่นั่นเอง และมันคงจะวุ่นวายน่าดู กับการรวมก๊วนนักศึกษาพยาบาลทั้ง 6 คน เอาไว้ในฉากเดียว นี่ถ้ามาครบ 12 คน ผมว่าผมตายแน่ 555555+##################
ความเดิมจากตอนที่แล้ว
//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=255815.0หลังจากได้รับแจ้งว่ามีนักศึกษาพยาบาลหมดสติ ทีมงานรักษาความปลอดภัยได้รีบพาตัวอรัญญาไปที่ห้องพยาบาล เพื่อให้หมอพลอยที่เข้าเวรอยู่เฝ้าดูอาการ
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?” พลอยพรรณเดินออกมาจากห้อง โดยมีหน่วยรักษาความปลอดภัยกำลังอุ้มน้องอีฟเดินเข้ามาภายในห้องพยาบาล โดยมีครูเบสท์ และยัยหมวยที่เป็นห่วงเพื่อนติดตามมาด้วย
“ช่วยด้วยค่ะพี่พลอย!!” ภัคจิราเอ่ยปากขอความช่วยเหลือจากพลอยพรรณที่เป็นหมอเวรเฝ้าห้องพยาบาล “ยัยอีฟไม่สบาย ตัวร้อนจี๋เลย!!!”
“ช่วยเพื่อนหนูด้วยนะคะคุณหมอ!!” เดือนดาราที่ติดตามมาด้วยพูดขึ้นมาบ้าง “อีฟเป็นอะไรก็ไม่รู้ เมื่อวานยังเห็นปกติอยู่เลย อยู่ดี ๆ วันนี้ก็ไม่สบายซะงั้น พอสอบเสร็จเดินออกมาจากห้องก็เป็นลมเลยค่ะ!!”
“โอเค!!! เดี๋ยวหมอจัดการเองนะ!!” พลอยพรรณรีบเดินนำหน้ายามที่อุ้มน้องอีฟไปที่ห้องตรวจโรค “อุ้มน้องเค้ามาทางนี้เร็ว!!!!!”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ครับหมอ!!” แล้วยามใจดีก็อุ้มอรัญญาตามหมอพลอยเข้าไปในห้องตรวจโรค โดยมีครูเบสท์และยัยหมวยยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องด้วยความเป็นห่วง
“ครูเบสท์คะ!!!! ยัยอีฟจะเป็นอะไรหรือเปล่าคะ!!?” เดือนดาราเอ่ยปากถามอาจารย์สาวด้วยความกังวล
“ถึงมือหมอพลอยแล้ว คงไม่เป็นอะไรแล้วละจ๊ะ” ภัคจิราตอบ “ว่าแต่ เดี๋ยวพวกเราต้องสอบอีกทีช่วงบ่ายสองโมงไม่ใช่เหรอ?”
“ใช่ค่ะ” หมวยสาวพยักหน้า “สอบวิชาภาษาอังกฤษของครูเบสท์เนี่ยแหละค่ะ”
“อืม…” ครูเบสท์หันไปมองหน้าประตูห้องตรวจโรค “เอางี้ ดูสภาพแล้วอีฟคงสอบช่วงบ่ายไม่ไหว เดี๋ยวครูจะนัดอีฟมาสอบเก็บตกวันอื่นก็แล้วกัน หมวยกลับไปก่อนเถอะ เดี๋ยวครูจะคุยกับอาจารย์คุมสอบเองว่า อีฟป่วยต้องเข้าห้องพยาบาล”
“ค่ะ!!! ขอบคุณคุณครูมากเลยนะคะ!!” ยัยหมวยรู้สึกโล่งใจ ที่เห็นครูเบสท์กล่าวแบบนั้น นี่ถ้าเป็นอาจารย์คนอื่นในวิทยาลัยพยาบาล มีหวังสาวอีฟโดนปรับตกแน่นอน
“ไปกินข้าวเถอะ เดี๋ยวครูจะรออยู่ตรงนี้รอดูอาการยัยอีฟเพื่อนเรา แล้วก็จะรอคุยกับหมอพลอยเรื่องใบรับรองแพทย์เอง” ครูเบสท์เอ่ยปากขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้น หนูขอตัวก่อนนะคะ” เดือนดาราพนมมือไหว้ภัคจิรา อาจารย์สาวนางฟ้าของเหล่านักศึกษาพยาบาลทั้งชายหญิง ก่อนเดินออกมาจากห้องพยาบาล
ตัดมาที่ฝั่งของนาถลดา ที่แอบสะกดรอยตามมาจนถึงห้องพยาบาล
“เล่นกับลุงพลจนหมดสติเลยเหรอ?” นาถลดาแอบซุ่มดูตรงมุมตึก มือของสาวนุ้ยกำแน่นด้วยความโกรธและอิจฉา “จะว่าไป ลุงพลไม่เคยพาเราออกไปข้างนอกแบบสองต่อสองเลยสักครั้ง ใช่ซิ!!! เรามันเก่าแล้วซิ!!! เรามันไม่ได้อ่อนหวานอ่อนโยนแบบคนอื่น!!!”
พูดแล้วสาวนุ้ยก็ยิ่งเคือง จนเผลอลืมตัวกำหมัดทุบกำแพงด้วยความน้อยใจปนหึง ปกตินาถลดาไม่ใช่คนขี้หึงอะไร เธอเข้าใจว่าลุงพลเป็นคนมากรัก แต่เมื่อถูกลุงพลปฏิบัติตัวกับเธอเหมือนพลเมียชั้นสองแบบนี้บ่อย ๆ ใครละจะทนไหว
หลังจากเดือนดาราเดินออกมาจากห้องพยาบาลได้ไม่นาน นาถลดาก็รีบเดินตรงเข้าไปหาเพื่อถามไถ่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทันที
โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า นาถลดา สาวนุ้ยจอมปั่นแอบสะกดรอยตามมาตั้งแต่แรกแล้ว
“ไง? อาการของอีฟเป็นไงบ้างเหรอ?” ยัยนาถตัวปั่นเดินเข้ามาขวางทางยัยอีฟที่กำลังจะเดินกลับไปหาข้าวกินด้านนอก
“นี่นาถ?” ยัยหมวยถึงกับผงะ “นี่แกเล่นสะกดรอยตามมาถึงนี้เลยเหรอ? เป็นอะไรมากป่ะวะ?”
“อ่าว? ก็เป็นห่วงเพื่อน? เราผิดเหรอหมวย?” นาถลดาย้อนถามกลับไป “เหอะ!!! จริงอย่างที่คิดเอาไว้เลย เมื่อคืนน่ะ อีฟแอบไปข้างนอกกับลุงพลมา แล้วลุงพลก็คงจะจัดหนักจัดเต็มยัยอีฟจนเสียศูนย์แบบนั้น ไอ้เราก็นึกว่าอีฟจะเป็นเด็กดี รักไม่ยุ่ง มุ่งแต่เรียน ที่ไหนได้…”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“นี่นาถ…” เดือนดาราเริ่มหมดความอดทน หมวยสาวคนนี้เห็นเอาแต่ใจก็จริง แต่ลึก ๆ เธอก็รักเพื่อนมาก ยกเว้นนาถลดา ที่เธอดูจะมีคำถามตัวโต ๆ สักหน่อย “แกนี่โรคจิตหรือเปล่าวะ? เที่ยวตามติดชีวิตคนอื่น คอยกระแนะกระแหน่คนอื่นน่ะ? มีปมนักเหรอ?”
“ว้าย!!! ตายละ!!!” นาถลดายิ้มเยาะไม่สะทกสะท้าน “ดูพูดเข้าซิ!!! หมวยนี่ไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เลยนะ เป็นพวกที่ชอบพูดเอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่นตลอด หมวยเองก็เหมือนกันนั่นแหละ แอบไปแซ่บกับลุงพลข้างนอกมา ใช่ป่ะละ?”
“ชั้นไม่อยากทะเลาะกับแก!!! จะไปไหนก็ไปเถอะ!!!” เดือนดาราเห็นท่าไม่ดี ก็เลยจะเดินหนี แต่นาถลดาก็ยืนกอดอกขวางทางเอาไว้ “หลีก…”
“หมวย ชั้นอยากจะเตือนแกในฐานะเพื่อน และรุ่นพี่ คนที่มาก่อน…” สาวใต้เริ่มแสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของลุงพลมากขึ้น “ยังไงลุงพลก็ชอบชั้นมากกว่าแก แกควรจะรู้ไว้ด้วยว่า ลุงพลไม่ใช่ของ ๆ แกหรือของอีฟเท่านั้น แต่ลุงพลเองก็เป็นของชั้น ชั้นมาก่อน ดังนั้น จำใส่ใจไว้ด้วย ว่าอย่ามาคิดสะเออะอวดเบ่งคนที่มาก่อนน่ะ”
“เหอะ!!!” เดือนดาราส่ายหน้า “แกนี่ท่าทางจะเป็นเอามากเลยนะ เอาละ ชั้นจะบอกแกเอาบุญให้ละกัน ของแบบนี้ ใครดีใครได้ป่ะวะ? แล้วก็นะ…”
เดือนดาราน่าจะเป็นเพียงไม่กี่คน ที่ดูไม่ได้เกรงกลัวนาถลดาเลยแม้แต่น้อย อาหมวยเดินกอดอกปรี่เข้าไปหานาถลดา สาวนุ้ยจอมปั่นจากปักษ์ใต้ที่ยังยืนตาขวางรักษาทรงอยู่ตรงหน้า
“ชั้นมั่นใจว่ายังไง ผู้ชายอย่างลุงพล ก็ต้องชอบของใหม่ ๆ สด ๆ ไม่ชอบกินอะไรที่มันซ้ำซาก จำเจ และเท่าที่ชั้นคลุกคลีกับลุงพลมา ชั้นว่าลุงพลดูจะชอบอาหารจีน ที่ทั้งสดและใหม่ กว่าอาหารปักษ์ใต้ที่ใกล้จะบูดอย่างแก”
“นี่แก!!! แกว่าชั้นเหรอ!!!!??” นาถลดาถึงกับปรี๊ดแตก เมื่อถูกเดือนดาราหยามถึงขนาดนี้
“อ้อ!!! แล้วบอกให้เอาบุญนะ” ยัยหมวยสุดแซ่บแห่งวิทยาลัยพยาบาลยืนกอดอกเชิดหน้าใส่สายนุ้ยจอมปั่น “รูปถ่ายตอนแกแก้ผ้ายังอยู่กับพวกชั้น เพราะฉะนั้น คราวหน้าคราวหลัง ถ้าคิดจะพูดจาอะไรน่ะ หัดคิดซะบ้างนะ เพราะความเมตตาของพวกชั้น มันมีขีดจำกัด!!”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แล้วเดือนดาราก็เดินชนไหล่ของนาถลดาออกไปราวกับผู้ชนะ พร้อมกับสุมเพลิงแค้นในหัวใจของสาวนุ้ยจากอำเภอหาดใหญ่ ที่ยืนตัวแข็ง กำหมัดแน่นด้วยความแค้น
“หวิบแล้วหล่าว!!! อยากฉัดคนจังนิ!!! ทำหรอยไปต๊ะ!!! หญิงเปรตนิ!!! หึ้ยยย!!!”
(ภาษาใต้ : โกรธจนได้ อยากตบคน ทำเก่งไปเถอะ นังตัวแสบ)แน่นอน นาถลดายังไม่ยอมเลิกราแค่นั้น สาวนุ้ย ค่อย ๆ เดินย่องเข้าไปในห้องพยาบาล เมื่อเห็นว่าครูเบสท์ยังนั่งอยู่ภายใน สาวนุ้ยจอมปั่นก็รีบหามุมหลบซ่อนตัวทันที
………………………..
“สงสัยต้องให้นอนพักดูอาการที่นี่ก่อนนะคะพี่เปิ้ล เดี๋ยวพลอยจะเขียนใบรับรองแพทย์ให้ รบกวนพี่เปิ้ลไปจัดเตรียมยาที่พลอยสั่งไว้ด้วยนะคะ”
“ได้ค่ะคุณหมอ” พี่เปิ้ลผู้ช่วยคนสนิทของหมอพลอยพยักหน้า
“ถ้าพี่เปิ้ลออกไป รบกวนเรียกครูเบสท์เข้ามาในนี้หน่อยนะคะ” เจ้าหญิงน้ำแข็งยิ้ม “บอกเธอว่าพลอยมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
หมอพลอยได้ทำการตรวจดูอาการของน้องอีฟอย่างละเอียด ก็พบว่าน้องอีฟแค่อ่อนเพลียจนหมดสติ ก็เลยตัดสินใจให้น้องอีฟนอนพักที่นี่ ส่วนการสอบ หมอพลอยจะคุยกับอาจารย์คุมสอบและอาจารย์เจ้าของวิชาให้ ซึ่งวิชาต่อไปที่น้องอีฟจะต้องเข้าสอบคือวิชาภาษาอังกฤษที่มีครูเบสท์เป็นอาจารย์ประจำภาควิชา
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“อาการของน้องอีฟเป็นยังไงบ้างคะพี่พลอย?” ครูเบสท์เดินเข้ามาภายในห้องตรวจโรคเพื่อถามไถ่อาการป่วยของลูกศิษย์สาว
“สงสัยต้องให้เธอนอนพักที่นี่ก่อน…” พลอยพรรณถามต่อไป “คาบบ่ายเธอมีสอบใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะพี่” ภัคจิราตอบ “วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของเบสท์เองค่ะ แต่เรื่องนั้นไม่ต้องห่วงหรอก เดี๋ยวเบสท์นัดน้องอีฟมาสอบวันหลังก็ได้ นี่เบสท์ก็คุยกับอาจารย์คุมสอบวิชาต่อไปแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร”
“ดีแล้ว…” หมอพลอยหันไปมองครูเบสท์ด้วยหางตา อาจเพราะยังนึกเคืองเรื่องเมื่อวันก่อน ที่ครูเบสท์มาพูดเรื่องลุงพล แต่เพราะความเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ของวิทยาลัยพยาบาล เลยทำให้ทั้งคู่ต้องวางตัวให้สมกับสถานะของตนเอง
แล้วสองสาวที่ได้ชื่อว่าสวยและเพอร์เฟ็คที่สุดก็ยืนมองอรัญญา นักศึกษาพยาบาลที่นอนสลบอยู่บนเตียง ด้วยคำถามในใจว่า มันเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวที่มีผลการเรียนและความประพฤติที่ดีอย่างน้องอีฟด้วย
“ความประพฤติของอรัญญาเป็นยังไงบ้าง?” แล้วทันใดนั้น หมอพลอยก็เอ่ยปากถามข้อมูลลงลึกเกี่ยวกับอรัญญาต่อหน้าครูเบสท์
“น้องอีฟเป็นเด็กดีค่ะพี่พลอย เธอเป็นเด็กเรียนเก่ง มีความประพฤติดี ชอบช่วยเหลืองานครูบาอาจารย์ เธอเป็นที่รักของเพื่อน ๆ ร่วมชั้น มีอะไรเหรอคะพี่พลอย ถึงได้ถามแบบนี้?”
“เปล่า…” หมอพลอยตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “แค่อยากรู้น่ะ แล้วเธอมีแฟนหรือยัง?”
“เอ๋?” ครูเบสท์ร่นคิ้วด้วยความแปลกใจ ว่าทำไมหมอพลอยถึงมาถามคำถามอะไรแปลก ๆ แบบนี้กับเธอ “ก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ พี่พลอยจะอยากรู้ไปทำไมเหรอคะ?”
“ก็เห็นบอกว่าเมื่อวานยังดูแข็งแรง แต่ทำไมวันนี้ถึงมีไข้ ตัวร้อนจี๋เลย” เจ้าหญิงน้ำแข็งอธิบาย “พลอยตรวจดูอาการอย่างละเอียด ร่างกายของเธอเหนื่อยล้า ยังกับว่าไปทำกิจกรรมอะไรหนัก ๆ มาจนไข้ขึ้นน่ะ”
“เบสท์ก็สงสัยเรื่องนี้เหมือนกัน…” นางฟ้าพยาบาลตอบ “แต่แปลกจริง เห็นเมื่อวานอีฟยังแข็งแรง มาสอบได้ตามปกติอยู่เลย ทำไมวันนี้เธอถึงเป็นลมหมดสติได้ถึงขนาดนี้นะ?”
หมอพลอยและครูเบสท์มองน้องอีฟ ที่นอนหลับอยู่บนเตียงด้วยความสงสัย มันเกิดอะไรขึ้นกับเด็กสาวที่เรียบร้อยที่สุดในวิทยาลัยพยาบาลคนนี้กันนะ
“อ๊ะ!!! อืออออ!!! อือออ!!!” แล้วทันใดนั้น อรัญญาก็ร้องละเมอออกมา “ลุงพล!!!! อย่าค่ะ!!! เจ็บ!!! เจ็บปิ๊!!! เจ็บตูด!!!”
“พี่พลอย?” ภัคจิราหันไปมองหน้าพลอยพรรณ “ได้ยินเหมือนที่เบสท์ได้ยินไหมคะพี่?”
“ได้ยินซิ…” พลอยพรรณตอบ “ที่แท้ก็เป็นฝีมือของลุงพล…แย่ที่สุด!!”
ดูเหมือนว่าหมอพลอยและครูเบสท์จะรู้แล้วว่า ตัวการที่ทำให้น้องอีฟที่ล้มป่วยคือใคร ชักจะเอาใหญ่แล้วตาเฒ่าบ้ากามคนนี้
“เบสท์…” แล้วพลอยพรรณก็ตัดสินใจอะไรบางอย่าง “ตามพลอยมาที่ห้องทำงาน พลอยมีเรื่องจะต้องคุยด้วย สำคัญมาก…”
แล้วพลอยพรรณก็เดินหน้าบึ้งออกมาจากห้องตรวจโรค ส้นสูงของเธอกระแทกกับพื้นกระเบื้องดัง ตึ๊ก ตึ๊ก ตึ๊ก ราวกับว่าตอนนี้เธอกำลังโกรธมากกับสิ่งที่ได้ยิน
“เฮ้อ…” ภัคจิราได้แต่ส่ายหน้า นางฟ้าพยาบาลมองดูลูกศิษย์สาวด้วยความปลดปลง เพราะคิดไม่ถึงว่า ลุงพลจะกล้าทำเรื่องระยำตำบอนกับเด็กสาวที่ดูไร้เดียงสาและไม่มีพิษภัยอย่างน้องอีฟได้ถึงขนาดนี้
………………………..
พลอยพรรณถอดชุดกาวน์สีขาวแขวนเอาไว้กับราวตากเสื้อ และทิ้งตัวนั่งบนเก้าอี้ทำงาน ก่อนที่ภัคจิราจะเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา
“เชิญนั่งก่อนซิเบสท์” หมอพลอยผายมือให้ครูเบสท์นั่ง
“ขอบคุณค่ะพี่” ครูเบสท์เดินเข้ามา ก่อนทิ้งตัวนั่งเผชิญหน้ากับหมอพลอย ที่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอกำลังจะโกรธ แต่ยังคุมสติได้บ้าง
“ได้ยินแล้วใช่ไหม?” เจ้าหญิงน้ำแข็งเอ่ยปากถามอาจารย์สาว “ได้ยินแล้วใช่ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?”
“เบสท์ก็ได้ยินเหมือนที่พี่พลอยได้ยินนั่นแหละค่ะ” นางฟ้าพยาบาลตอบ “ดูเหมือนว่าตัวการทั้งหมด ที่ทำให้ยัยอีฟเป็นแบบนี้ ก็คือ…”
“ลุงพล…” พลอยพรรณตอบ “มันมากเกินไปแล้ว!!! กับผู้ชายคนนี้!!! พี่คิดว่ามันหมดเวลาที่เราจะมามัวโกหกและปิดบังเรื่องต่ำช้าที่เกิดขึ้นในวิทยาลัยพยาบาลของเรา!!! พี่จะโทรแจ้งตำรวจให้มาดำเนินคดีกับลุงพล!!!”
“พี่พลอย!!! เดี๋ยวก่อนซิคะ!!!” ภัคจิราเอ่ยปากทักท้วงขณะกำลังเห็นหมอสาวรุ่นพี่กำลังจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาแจ้งตำรวจ
“นี่เบสท์!!!” หมอพลอยทำหน้าดุใส่ครูเบสท์ “เบสท์ไม่รู้เหรอว่าลุงพลทำอะไรไว้บ้าง? ก็ได้!!! พี่จะเล่าให้เราฟังก็ได้!!!! ลุงพลก่อเรื่องบังคับขู่เค็ญและขืนใจนักศึกษาพยาบาลไปหลายคนแล้ว แล้วเบสท์จะให้พี่อยู่เฉยอีกเหรอ!!! หรือว่าเบสท์? นี่อย่าบอกนะว่าเบสท์กับลุงพล…”
“เรื่องนักศึกษา เบสท์ก็พอรู้มาบ้าง และคิดว่าคงจะมีเหยื่อผู้โชคร้ายอีกหลายคน…” ครูเบสท์ตอบด้วยน้ำเสียงปลงตก “ก่อนที่เบสท์จะพูดอะไรต่อไป เบสท์ถามพี่พลอยตรง ๆ ได้ไหมคะ?”
“แต่พี่เป็นคนถามเบสท์ก่อน!!” มาถึงตอนนี้ หมอพลอยเริ่มกลับมาเรียกแทนตัวเองว่าพี่ เธอรู้สึกว่าครูเบสท์เองก็เหมือนจะมีความลับบางอย่างกับลุงพล “เบสท์ตอบพี่มาก่อน!!! ว่าเบสท์กับลุงพล…”
“บ้า…บ้าที่สุด!!” ภัคจิราถึงกับหลั่งน้ำตาออกมา “มันไม่น่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาเลย…”
“นี่เบสท์…” หมอพลอยถึงกับตาค้าง “เบสท์เองก็…”
“ค่ะ…” ครูเบสท์รีบเอามือปิดหน้าตัวเอง “ใช่ค่ะพี่พลอย…เบสท์เองก็ตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน”
แล้วบรรยากาศภายในห้องทำงานของหมอพลอยก็เงียบสงบ จะมีเพียงแค่เสียงสะอื้นของครูเบสท์ จนหมอพลอยผู้เป็นเจ้าของห้องต้องยื่นกล่องกระดาษทิชชู่ให้
“เบสท์…รับไปซิ”
“ขอบคุณค่ะ…”
ภัคจิราหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดน้ำตาของตัวเอง ส่วนพลอยพรรณก็นั่งนิ่ง ร่างกายของเธอชาไปหมดทั้งร่าง กับความจริงที่ได้ยินจากปากของอาจารย์สาวรุ่นน้อง
“แล้วพี่พลอยละคะ?” ครูเบสท์ถามกลับ “พี่พลอยยังไม่ตอบเบสท์เลย ว่าพี่…”
“ใช่…” หมอพลอยพยักหน้า “พี่เองก็…ตกเป็นเหยื่อของลุงพลเหมือนกัน”
“ตั้งแต่เมื่อไรคะพี่พลอย?” ภัคจิราเอ่ยปากถาม
“นั่นไม่สำคัญหรอก!!!” เจ้าหญิงน้ำแข็งตอบด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “เบสท์!!! เราสองคนจะปล่อยให้คนอย่างลุงพลลอยนวลอีกไม่ได้ เราต้องทำอะไรสักอย่าง ก่อนที่จะมีผู้เคราะห์ร้ายคนอื่นอีก”
“เรื่องนั้นเบสท์ทราบค่ะพี่พลอย และเบสท์เองก็เห็นด้วย” ครูเบสท์ตอบ “แล้วพี่พลอยมีแผนว่ายังไงบ้างละคะ?”
“แจ้งจับลุงพลเข้าคุก แล้วก็รวบรวมเหยื่อผู้เสียหายมาเป็นพยาน!!” หมอพลอยตอบ “แต่เราจะต้องหาวิธีทำยังไงก็ได้ เพื่อไม่ให้เราสองคนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เรื่องนี้มันน่าอับอายเกินไป ถ้าเกิดคนภายนอกรู้ว่าคนระดับพี่และเบสท์ ถูกคนชั้นต่ำอย่างลุงพลข่มขืน พวกเราจะใช้ชีวิตต่อไปได้ยังไง?”
“พี่พลอย…” ภัคจิราแทรกขึ้นมา “ขอเบสท์ออกความเห็นหน่อยได้ไหมคะ?”
“ว่ามา…” พลอยพรรณตอบ “พี่รอฟังอยู่…”
“เบสท์คิดว่าให้การสอบไฟนอลผ่านไปก่อนจะดีไหมคะ?” ครูเบสท์ตอบ “เรื่องนี้มันเรื่องใหญ่มากนะคะ เพราะมีคนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากมาย ไม่ใช่แค่พวกเราสองคน แต่ยังมีกลุ่มนักศึกษาพยาบาลอีกหลายคน พี่พลอยเองก็รู้ไม่ใช่เหรอ? ว่าสื่อโซเชียลสมัยนี้มันแรงแค่ไหน?”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ก็จริงของเบสท์” พลอยพรรณพยักหน้า “แล้วตกลงเราจะปล่อยให้ลุงพลลอยนวลไปแบบนี้น่ะเหรอ?”
“เบสท์ไม่ได้หมายความแบบนั้น แต่เบสท์กำลังบอกว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่ ต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้ เพราะไม่งั้นชื่อเสียงของพวกเรา และนักศึกษาพยาบาลที่ตกเป็นเหยื่อ ก็ต้องเสียหายย่อยยับ พวกเราจะไม่มีที่ยืนในสังคมนะคะ”
“พี่มีอีกวิธีนึง…” แล้วพลอยพรรณก็เอ่ยปากพูดในสิ่งที่ภัคจิราไม่อยากจะเชื่อว่านั่นจะเป็นสิ่งที่ออกมาจากปากของเธอ “คนตายพูดไม่ได้ ถ้าลุงพลตายสักคน เรื่องนี้ก็จะเป็นความลับตลอดไป”
“พี่พลอย?” ภัคจิราร่นคิ้วมองหน้าหมอสาวรุ่นพี่ด้วยความตกใจ “นี่พี่คิดจะ…”
“แล้วจะให้พี่ทำยังไงละเบสท์?” หมอพลอยถาม “อันนั้นก็ไม่ดี อันนี้ก็ไม่ได้ พี่คิดว่าตัวการปัญหาทั้งหมดเกิดจากลุงพล ถ้าไม่มีลุงพลสักคน ทุกอย่างมันก็จะง่ายขึ้น เบสท์!! เบสท์ต้องเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ห้ามบอกกับใครเด็ดขาด ไม่อย่างนั้น…”
“เบสท์…เบสท์…เบสท์ไม่เอาด้วยค่ะพี่!!!” ครูเบสท์ส่ายหน้า “พี่พลอยไม่คิดว่ามันเกินกว่าเหตุไปหน่อยเหรอคะ? ชีวิตคนทั้งคนนะคะพี่พลอย!!!”
“คนอย่างลุงพลจะมีค่าอะไรละ?” หมอพลอยกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แล้วหยดน้ำใส ๆ ก็ไหลออกมาจากดวงตาที่แดงก่ำของเธอ
“พี่พลอยร้องไห้เหรอคะ?” ครูเบสท์เอ่ยปากถาม
“เปล่า…เปล่าสักหน่อย!!!” หมอพลอยรีบใช้นิ้วโป้งปาดน้ำตา และฝืนทำตัวเหมือนทุกอย่างยังอยู่ในการควบคุมได้ “แค่ฝุ่นเข้าตา พี่ไม่มีทางร้องไห้ให้กับคนชั้นต่ำแบบนั้นเด็ดขาด!!!”
ความจริงแล้ว พลอยพรรณเองก็รู้สึกใจสลาย เพราะเธอเองก็มีใจให้ลุงพลอยู่ไม่น้อย แต่เมื่อได้รับรู้ว่าลุงพลไม่เคยคิดที่จะหยุดพฤติกรรมเจ้าชู้ มักมากในกาม เลยทำให้เธอจำใจต้องคิดเรื่องต่ำช้าแบบนี้ เพื่อหวังว่าจะยุติปัญหาทุกอย่างลง
“เบสท์ไม่แน่ใจว่าลุงพลเคยพูดเรื่องนี้กับพี่พลอยหรือเปล่านะคะ” แล้วภัคจิราก็นึกอะไรบางอย่างออก เกี่ยวกับแรงจูงใจในการทำเรื่องต่ำช้ากับเหล่าบรรดาสาว ๆ ในวิทยาลัยพยาบาล “ลุงพลเคยบอกว่า ชาติที่แล้ว ลุงพลเป็นเทวดา ส่วนพวกเรา หมายถึงผู้หญิงทุกคนที่ตกเป็นเหยื่อของลุงพล คือนางฟ้าที่ก่อกรรมร่วมกับลุงพล และทั้งหมดก็ต้องลงมาชดใช้กรรมบนโลก”
“จะไปเชื่ออะไรกับคำพูดตาแก่จิตไม่ปกติแบบนั้นห๊ะเบสท์!!!” หมอพลอยถึงกับฉุนหนัก “เบสท์!!! เบสท์เองก็มีความรู้และการศึกษาที่ดี เทียบกับลุงพลแล้วคนละชั้นคนละโลกกันเลย!!! นี่เบสท์เชื่อคำพูดลวงโลกผู้ชายเห็นแก่ตัวแบบนั้นเหรอ!!!”
 
โปรดติดตามตอนต่อไป... เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน