หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3 | two-hitchhikers.ru

หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3

  • 301 ตอบ
  • 11339 อ่าน
*

ออฟไลน์ twintower

  • Junior Member
  • ***
  • 296
  • 3466
    • ดูรายละเอียด
หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 09:19:25 pm »
ตอนนี้ไม่มีบทเสียวนะครับ ผมตัดออกไปไว้ที่ตอนต่อไป ส่วนใครที่ไม่เคยอ่านเรื่องของอสนีกับลินดาถ้าเป็นเรื่องของอสนีเรื่อง"ผีหลอกสายฟ้า"ส่วนของลินดาที่เป็นแม่ของหมออินทรายุทธเรื่อง"เสน่หาหมอผีสาว"ครับ


----------------------------------------------------------------------------------------------------------
“เรื่องนี้น่าจะเป็นจริง ต้องมีอะไรมาเป็นตัวกระตุ้น อันนี้ฉันพูดจากความจริง แม่คุณศึกษาจากคัมภีร์จนรู้คาถาอาคม ถึงจะมีอิทธิพลมาถึงคุณ แต่คุณไม่ได้เรียนรู้จู่ๆคุณจะติดต่อกับบรรดาวิญญาณได้ยังไง ถ้าไม่มีอะไรมากระตุ้นและสิ่งที่มากระตุ้นต้องมีพลังอย่างมาก มันน่าจะเป็นแบบนี้ใช่ไหม”

“ใช่แล้ว คุณคิดถูก แต่ถ้าคุณถามผมว่าอะไรคือตัวกระตุ้น ผมบอกตรงๆผมจนปัญญา มันเกินกว่าที่ผมจะรู้และผมคงไม่ขวนขวายที่จะค้นหา เพราะคำพูดของลุงอัส มันเป็นอจินไตย เรื่องพวกนี้ผมควรรู้เท่าที่ผมรู้ก็พอ ”

“แล้วที่ผ่านๆมาละ คุณใช้ประโยชน์จากความสามารถพิเศษพวกนี้ยังไงบ้างละ ฉันถามไว้เพื่อเป็นข้อมูลนะ เพราะคุณตาเองก็บอกว่าบางเรื่องฉันมาถามจากคุณจะดีที่สุด”

“มันก็จริงนะ บางเรื่องผมก็ไม่ควรจะรู้เพราะมันมีผลกระทบจริงๆ”

ผมเล่าให้เธอฟังตอนที่ผมเป็นแพทย์ฝึกหัดและแพทย์ประจำบ้านใหม่ๆ ผมไม่ค่อยสนใจที่จะพูดคุยกับบรรดาดวงวิญญาณเท่าไหร่นัก สนใจแต่จะใช้วิธีที่เรียนมาเท่านั้น ส่วนมากผมจะแกล้งทำเป็นไม่เห็น แต่ก็มีบ้างที่แอบกระซิบบอกอาจารย์หมอ แต่ตอนที่ผมไปใช้ทุนที่ โรงพยาบาลในต่างจังหวัดผมเองก็เริ่มแอบใช้การติดต่อกับบรรดาวิญาณของคนตายที่ถูกฆาตกรรมในการหาสาเหตุการตาย จนผมเริ่มย่ามใจใช้เรื่องที่วิญญาณที่ถูกฆ่าบอกมาประกอบกับการชันสูตร ทำให้สามารถคลี่คลายคดีฆาตกรรมที่ตำรวจหาพยานไม่ได้ แต่จากการชี้นำของผมทำให้คลี่คลายคดีได้แต่เป็นจังหวัดเล็กๆจึงไม่ค่อยมีคดีมากเท่าไหร่ จนผมกลับจากเรียนต่อที่ต่างประเทศ ผมไปประจำที่โรงพยาบาลในจังหวัดใหญ่ ตอนนั้นด้วยความที่ย่ามใจเรื่องการติดต่อกับวิญญาณผสมกับอีโก้ที่เรียนจบปริญญาโทใหม่ๆ ทำให้ผมมั่นใจในตัวเองสูงไม่ค่อยฟังเสียงใคร เพราะมั่นใจในความสามารถพิเศษกับวิชาที่ผมเรียนมาทำให้ผมเกือบพลาด

“ยังไงละคุณ”

กิ่งกาญจน์ถามผม

“ผมถูกผีหลอกไงคุณ”

“อย่างคุณนี่นะถูกผีหลอก”

เธอร้องด้วยความแปลกใจ

“ใช่ หลอกใช้ไงคุณ”

“มันยังไงนะ”

ผมเล่าให้เธอฟังคดีที่ศาลฎีกาพึ่งตัดสินยกฟ้องจำเลยไม่กี่วันที่ผ่านมา คดีนี้มันเริ่มตั้งแต่ก่อนที่ผมจะย้ายกลับกรุงเทพมีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้น คนที่ฆ่านั้นให้การกับตำรวจว่าเป็นการป้องกันตัว คนตายนั้นเป็นฝ่ายเริ่มและชักปืนขึ้นมาจะยิงเลยการแย่งปืนกันขึ้นทำให้ปืนลั่นไปถูกคนตาย แต่ระหว่างที่ผมกำลังชันสูตรศพ วิญญาณคนตายได้มาบอกกับผมว่า ตนเองถูกฆ่าทุกอย่างนั้นถูกจัดฉากขึ้น ตอนแรกผมก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเพราะไม่ได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง แต่จากบาดแผลของคนตายนั้นมีรอยไหม้จากปากประบอกปืนแสดงว่าถูกจ่อยิง

วิญญาณคนตายได้เข้ามาโน้มน้าวให้ผมเชื่อว่า ตนเองนั้นถูกฆ่าตายจากที่อีกฝ่ายเตรียมการไว้แล้ว และจัดฉากว่ามีการต่อสู้จนแย่งปืนกันและปืนลั่นมาถูกตนเอง ผมเลยลองมาดูภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุที่พวกพิสูจน์หลักฐานถ่ายภาพไว้และกลับมาดูวิถีกระสุนจากศพของคนตายอีกครั้งตอนนั้นผมคิดดูแล้วมันมีแนวโน้ม ยิ่งผู้ต้องหากับคนตายนั้นเคยมีประวัติทะเลาะวิวาทกันมาก่อนและร่างกายของทั้งคู่นั้นมีร่องรอยฟกช้ำจากการต่อสู้ จากการตรวจดูทั้งภาพถ่ายสถานที่เกิดเหตุพร้อมกับสภาพศพของคนตายทำให้ผมค่อนข้างปักใจเชื่อคำพูดของวิญาณว่า

วันที่เกิดเรื่องนั้นทั้งคู่นัดมาเจอกันเพื่อทำเจรจาในเรื่องที่เคยบาดหมางกันที่บ้านหลังหนึ่ง แต่กลับเป็นการฆ่ากันตาย ผู้ต้องหาเป็นคนโทรแจ้งและยืนรอมอบตัว บอกกับตำรวจว่ามีการทะเลาะกันและคนตายชักปืนขึ้นมาเลยเกิดการแย่งปืนกันขึ้นทำให้ปืนลั่นไปถูกคนตาย ตอนแรกตำรวจกับฝ่ายพิสูจน์หลักฐานเชื่ออย่างนั้น เพราะหลักฐานกับคำให้การนั้นดูตรงกัน แต่พอวิญญาณนั้นติดต่อกับผมได้และบอกที่มาที่ไปและผมดูภาพถ่ายพร้อมกับหลักฐานอื่นๆ

ทำให้ผมหลงเชื่อวิญญาณ ผมจึงใช้วิธีแบบเดิมที่เคยทำมาคือทำทีไปคุยกับตำรวจเจ้าของคดี ก่อนจะใช้ความเป็นหมอชันสูตรชี้ให้ดูหลักฐานๆต่างมาประกอบกัน ทำให้ตำรวจนั้นเชื่อผมเพราะผมเคยทำแบบนี้ในการคลี่คลายคดีมาหลายครั้ง ทำให้คดีเปลี่ยนไปเป็นฆ่าโดยเจตนา เพราะหลักฐานต่างๆที่ผมแอบชี้ให้ตำรวจดู แต่ผู้ต้องหายังยืนยันว่าเป็นอุบัติเหตุจากการแย่งปืน ถึงปืนจะเป็นของคนตายก็ตามทีแต่คำบอกเล่าของวิญญาณว่าผู้ต้องหานั้นเตรียมปืนมาเหมือนกันแต่หลังจากเกิดเหตุได้เอาปืนไปโยนทิ้งและวิญญาณไปชี้จุดให้ผมว่าปืนถูกทิ้งไว้ตรงไหน

ผมจึงบอกตำรวจไปลองไปค้นหาและเจอปืนตามที่วิญาณบอก และปืนนั้นเป็นของผู้ต้องหาจริงๆ และผู้ต้องหายอมรับว่าเป็นปืนของตนเองแต่ไม่รู้ว่าทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้เพราะเก็บปืนไว้ที่บ้านผู้ต้องหาสงสัยว่าปืนโดยขโมยมา น้ำหนักของคดีในตอนนั้นมันเทไปว่าผู้ต้องหานั้นตั้งใจฆ่าจริงๆ แต่หลังจากที่ตำรวจเริ่มทำคดีเพื่อส่งฟ้อง ผมไปสะดุดใจอะไรบางอย่างจากคำพูดของวิญญาณทำให้ไปไปตรวจดูหลักฐานอีกครั้ง และแอบไปพบกับผู้ต้องหาที่ได้ประกันตัวออกมา จากการพูดคุยมันเป็นคนละเรื่องกับที่ผมได้ข้อมูลจากวิญญาณ ผู้ต้องหายืนยันตามคำให้การกับตำรวจว่าตนเองถูกจัดฉาก  บ้านหลังที่เกิดเหตุนั้นเป็นบ้านของคนตายซื้อทิ้งไว้ไม่มีคนอาศัยอยู่ 

คนตายนั้นเป็นคนเริ่มหาเรื่องก่อน และชักปืนออกมาขู่ก่อนจะเกิดการแย่งปืนกันขึ้นจนเกิดปืนลั่น ซึ่งผู้ต้องหาบอกกับผมคนตายเอาปืนมาจ่อที่ตัว ผู้ต้องหาที่เคยผ่านการอบรมการต่อสู้ป้องกันตัวมาก่อนได้จับข้อมือคนตายเพื่อให้ปากกระบอกปืนหันไปให้พ้นตัวแต่อีกฝ่ายไม่ยอมพยายามหันปากกระบอกปืนกลับ แต่ผู้ต้องหานั้นมีความชำนาญมากกว่าทำให้ปากประบอกปืนหันกลับไปที่ตัวคนตาย เป็นจังหวะเดียวกับนิ้วของคนตายนั้นกดไกปืนพอดี ซึ่งตรงนี้ตรงกับที่ผมได้ตรวจเจอที่นิ้วของคนตายมีคราบเขม่าดินปืนและเสื้อที่ใส่มีรอยไหม้ไปจนถึงผิวหนัง

ส่วนเรื่องปืนของผู้ต้องหานั้น ผู้ต้องหาสาบานกับผมว่าไม่ได้พกไปจริงๆ และเก็บปืนไว้ที่บ้าน จากคำพูดและท่าที่ทำให้ผมเริ่มลังเล จึงทำการตรวจสอบใหม่อีกครั้ง จนวิญญาณคนตายเริ่มขู่ผมต่างๆนาๆแต่ทำอะไรผมได้ในตอนแรก แต่ผมนั้นไม่สามารถที่จะสรุปหรือหาหลักฐานเรื่องปืนได้ว่าถูกขโมยไปจริงหรือไม่ ทำให้ผมในตอนนั้นกลุ้มใจอย่างมาก เพราะดูแล้วผมคงถูกผีหลอกใช้จริงๆ

“แล้วคุณทำยังไงละ”

กิ่งกาญจน์ถามผมในกระแสจิต

“ตอนนั้นผมหมดที่พึ่งจริงๆ เลยต้องไปรบกวนขอคำปรึกษาจากคุณตาทวด ท่านทั้งดุทั้งบ่นผมทั้งที่ที่เคยเตือนมาแล้วแต่ท่านก็ช่วย ท่านให้ผมไปนั่งสมาธิในห้องพระและท่านเปิดทางให้ผมเห็นภาพว่า ปืนนั้นถูกขโมยจริงๆ คนตายให้ลูกน้องแอบเข้ามาในบ้านผู้ต้องหาเพื่อขโมยปืน มันตั้งใจจะยัดปืนให้หลังจากที่ฆ่าผู้ต้องหาแล้ว ทำให้ดูว่าเป็นการป้องกันตัว แต่ผิดแผนมันถูกฆ่าตายเอง ลูกน้องมันเลยเอาปืนไปทิ้ง วิญญาณเลยเอาเรื่องนี้มาสวมรอยหลอกผม มันกับลูกน้องวางแผนที่จะฆ่าผู้ต้องหาก่อน แต่พอไม่เป็นตามแผน ตัววิญญาณที่คิดต่อกับผมได้เลยฉวยโอกาสเอาผมเป็นเครื่องมือ”

“คนพวกนี้มันเลวจริงๆ ตายไปแล้วยังไม่เลิก แล้วคุณไปบอกตำรวจยังไงละ”

“ตรงนี้ละคือปัญหาใหญ่ ผมคิดอยู่นานว่าจะหาวิธีคุยกับตำรวจยังไง  ผมเลยทบทวนภาพที่ผมนั่งสมาธิเห็นอีกครั้ง และนึกได้ว่าพวกมันทิ้งเผลอเรอทิ้งหลักฐานไว้ ผมเลยทำทีไปคุยกับตำรวจอีกครั้งและหาโอกาสคุยเรื่องปืนมันใช้เวลานานเหมือนกันว่าจะตะล่อมให้ตำรวจสนใจว่าทำไมจู่ๆปืนถึงมาอยู่ตรงนั้นมันค้านกับให้การของผู้ต้องหาที่ยืนยันมาตลอดว่าไม่รู้เรื่อง ทำให้ตำรวจเกิดสนใจขึ้นมาจึงไปกับฝ่ายพิสูจน์หลักฐานลองไปตรวจสอบที่บ้านของผู้ต้องหาอีกครั้ง และลองตรวจสอบอีกครั้งทำให้เจอหลักฐาน2-3อย่าง ทั้งลายนิ้วมือและเศษผ้าชิ้นเล็กๆที่ติดอยู่ในซอกลิ้นชักโต๊ะที่เก็บปืน ที่ทางฝ่ายพิสูจน์หลักฐานตรวจไม่พบในตอนแรกมันเป็นหลักฐานใหม่ที่ทางตำรวจนำมาทบทวนกันอีกครั้ง และรอยนิ้วมือนั้นเป็นลูกน้องของคนตาย ส่วนเศษผ้านั้นตรวจพบ DNA ที่มันตรงกับเจ้าของรอยนิ้วมือ”

“โอ้เข้าทีนี่ แต่คุณช่วยอธิบายรายละเอียดหน่อยได้ไหมว่าพวกมันพลาดยังไง””

กิ่งกาญจน์พูดแทรกมา ผมจึงเล่าต่อ

“ใช่ คดีมันพลิก ลูกน้องมันเลยยอมสารภาพว่าคนตายนั้นวางแผนให้มันกับพวกอีก 2-3คนมาขโมยปืน แต่ผิดแผนหัวหน้ามันตายมันเลยรีบเอาปืนไปทิ้ง แต่มันก็ไม่รู้ว่าทำไมทางตำรวจถึงไปปืนหาเจอ และพอเห็นว่าตำรวจทำคดีไปอีกทางซึ่งมันได้ประโยชน์ถึงหัวหน้ามันตายไปแล้วมันเลยนิ่งเฉย และที่พวกมันพลาดผมเห็นจากที่นั่งสมาธิคือ พวกมัน2-3 คนแอบเข้าไปในบ้านของผู้ต้องหาแล้วใช้กุญแจผีไขเข้าไป พวกมันใช้เวลานานพอสมควรถึงเจอปืน แต่มันพลาดตรงที่ผ้าที่มันใช้เช็ดรอยนิ้วมือนะ ตรงชายผ้ามันไปโดนขอบในซอกลิ้นชักทำให้ขาดและมันเช็ดรอยนิ้วมือในลิ้นชักไม่หมด เลยกลายเป็นหลักฐานไปมัดตัวพวกมัน”

“หลังจากนั้นละ”

เธอถามต่อ

“ทางตำรวจเลยทำสำนวนใหม่ แต่วิญญาณคนตายนั้นไม่พอใจขู่อาฆาตผมต่างๆนา จากตอนแรกๆผมทำเป็นไม่สนใจ แต่เพราะความอาฆาตของมัน ทำให้วิญญาณมันมีพลังงานเพิ่มขึ้นจนปรากฏร่างให้ผมเห็นด้วยตาเปล่า ผมเกือบรถคว่ำไปหนหนึ่งเพราะผมเห็นคนนอนขวางถนนตอนที่ผมเลิกงานและกำลังขับรถกลับบ้านที่กรุงเทพ ดีที่ผมขับไม่เร็ว และมันตามมาราวีผมถึงบ้าน แต่มันเข้าบ้านไม่ได้ เพราะคุณตาทวดสกัดมันไว้ได้ มันขู่ผมต่างๆนานๆว่าทำผมไม่ได้มันจะเล่นงานคนรอบตัวผมแทน คุณตาทวดเลยบอกผมให้ลองไปปรึกษาลุงอัสดู พอผมไปเล่าให้ลุงฟังลุงก็ไม่พูดอะไรมาก ลุงให้จี้ผมมาอันหนึ่ง เป็นจี้ทองคำแต่สลักเป็นรูปสายฟ้าทั้งสองด้าน ลุงบอกว่าชื่อผมกับชื่อลุงความหมายคือสายฟ้าเหมือนกัน ลุงให้ผมพกติดตัวบอกว่าจี้อันนี้คงช่วยผมได้วิญญาณที่ ผมเองก็ไม่ถามอะไรเลยเอามาห้อยคอติดตัวตลอด”

“แล้วได้ผลหรือเปล่าละคุณหมอ”

“คงได้นะ เพราะพอผมนำจี้ที่ลุงให้มาติดตัววิญญาณดวงนั้นหายไปเลย แต่คุณตาทวดมาบอกกับผมภายหลังว่า จี้อันนี้จะช่วยปกป้องผมจากพวกวิญญาณที่ปองร้ายกับผมทำให้พวกมันเข้าใกล้ผมไม่ได้ แต่ถ้าเป็นวิญญาณที่ไม่คิดร้ายอย่างคุณก็ไม่มีปัญหาอะไร”

ประโยคหลังผมบอกกับเธอก่อนจะพูดต่อ

“ผมเข็ดแล้วเรื่องแบบนี้ คุณตาท่านดุผมพอสมควรในเรื่องที่ผมไปละเมิดเส้นกั้นของจักรวาล ดีที่มันไม่ผิดเพี้ยนอะไรไปมากนักยังพอแก้ไขกลับคืนมาได้ ให้เตือนสติผมว่าความสามารถพิเศษนี้ผมต้องใช้อย่างระมัดระวัง อย่าทำแบบนี้อีก ทำให้ผมจำขึ้นใจ หลังจากนั้นอย่างมากผมก็ถามกับดวงวิญญาณที่ผมติดต่อได้ตอนผมชันสูตรในเรื่องทั่วๆไปเท่านั้น หรือหลักฐานสำคัญๆที่หาไม่ได้ อย่างกระเป๋าสตางค์ที่พกบัตรประชาชนว่ามันหล่นหายไปไน จะติดต่อญาติพี่น้องได้ที่ไหนบ้าง วิญญาณก็จะบอกผม แต่ถ้าเป็นคดีฆาตกรรมผมก็ทำหน้าที่ชันสูตรอย่างเดียว ไม่สนใจกับสิ่งที่วิญญาณบอกว่าถูกใครฆ่า ผมปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจอย่างเดียวเท่านั้นเว้นแต่จะช่วยในหลักฐานสำคัญๆที่พบจากศพ ถ้าดวงวิญญาณไหนผมติดต่อพูดคุยไม่ได้ผมก็ปล่อยวาง ผมช่วยเท่าที่ผมจะทำได้ตามขอบเขตที่ไม่เกินเส้นกั้นของจักรวาล ”

“แต่คุณก็ช่วยคลี่คลายคดีสำคัญๆได้เยอะ จนเป็นคนที่มีชื่อเสียง”

“ก็นั่นละคุณ ผมใช้ความรู้ที่เรียนมาสัก 95% ส่วนอีก 5% คือคำบอกเล่าของพวกวิญญาณในการคลี่คลาย ถึงจะดูผมเอาเปรียบใคร แต่ผมมีความสามารถที่คนอื่นไม่มีผมก็ต้องใช้ ถึงจะใช้อย่างระมัดระวังก็ตามที”


กิ่งกาญจน์นิ่งเงียบไปแต่ผมไม่รู้ว่ารายละเอียดบางเรื่องเธอรู้จากคุณตาทวดมาแล้ว เพราะจี้ที่ผมสวมเป็นสิ่งที่ดึงดูดเธอให้กลับมาหาผมอีกครั้ง รวมถึงเรื่องวิญญาณร้ายนั้นด้วย เมื่อคืนตอนที่เธอไปพบกับคุณตาทวดพระภูมิท่านได้ถามมาที่กิ่งกาญจน์ว่า

“นังหนูกิ่งเจ้ารู้ไหมว่าทำไมเจ้าถึงกลับมาหาเจ้ายุทธ”

“เหมือนมีอะไรบางอย่างเรียกให้หนูกลับมาคะคุณตา”

“ตอนนั้นเจ้ากลับไปที่บ้านแล้วรู้สึกยังไงบ้างละ”

“ตอนแรกหนูก็รู้สึกเศร้าใจที่เห็นคนในบ้านโศกเศร้ากับการตายของหนู แต่จู่ๆความรู้สึกนั้นก็หายไป และเหมือนมีบางอย่างที่เรียกให้หนูกลับมาหาหมอยุทธ”

“นั่นแปลว่าเจ้าตัดขาดเรื่องความผูกพันกับครอบครัวของเจ้าไปแล้ว ไม่ต้องห่วงหา อาลัยอาวรณ์อีกต่อไป ส่วนที่ดึงดูดเจ้ากลับมาหาเจ้ายุทธนะมันมีอยู่ 2 อย่าง อย่าแรกคือจี้ที่เจ้ายุทธติดตัวอยู่ สิ่งนั้นเป็นของที่เป็นมงคลแก่เจ้ายุทธอย่างสูงสุดที่เจ้ายุทธเองก็ไม่รู้ว่ามันมีของมงคลติดตัวอยู่ จี้นั้นทั้งช่วยปกป้องและเสริมสร้างบารมีให้แก่เจ้ายุทธอย่างมาก สิ่งไหนที่คิดร้ายกับเจ้ายุทธมันจะไม่มีวันเข้าใกล้เจ้ายุทธได้ แต่ถ้าสิ่งไหนมีความปราถนาดีไม่เป็นพิษเป็นภัยก็จะไม่มีปัญหาอะไรอย่างวิญญาณของเจ้า ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เจ้าต้องกลับมาหาเจ้ายุทธคือ เรื่องของความเกี่ยวข้องกันในชาติปางก่อน”

“เรื่องของชาติก่อนหรือคะคุณตา”

“ใช่ ชาติก่อนเจ้าสองนั้นเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกัน บ้านอยู่ไม่ห่างกันเท่าไหร่ ต่างฝ่ายต่างช่วยเหลืออีกฝ่ายกันมาตลอด แต่เจ้าในชาติก่อนนั้นเกิดล้มป่วยหนักและเจ้ายุทธได้มาช่วยเหลือดูแลเจ้า รวมถึงพ่อกับแม่ของเจ้าในชาติก่อน ซึ่งก่อนที่เจ้าจะตาย เจ้ายุทธรับปากว่าจะช่วยเหลือดูและพ่อกับแม่ของเจ้าต่อไป เพราะเจ้าเป็นลูกสาวคนเดียว ทำให้เจ้าตั้งจิตอธิษฐานก่อนจะตายว่าถ้าเจ้าเกิดมาใหม่ในชาติหน้า ขอให้เจ้าได้มาตอบแทนบุญคุณเจ้ายุทธด้วย เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ละ บุญกรรมในชาติปางก่อนและพรหมลิขิตทำให้เจ้าเป็นแบบนี้ เวลาของเจ้าในร่างของมนุษย์นั้นหมดเวลาลงไปแล้ว ถ้าเจ้ายังไม่ถึงที่ตายเจ้าก็ทำตามสิ่งที่เจ้าตั้งจิตไว้เมื่อชาติก่อนไม่ได้ มันจะทบไปในชาติต่อๆไป”

“หมายถึงหนูต้องเป็นวิญญาณถึงจะช่วยคุณหมอได้”

“คงต้องเป็นแบบนั้น ตามพรหมลิขิตที่กำหนดไว้”

“แล้วหนูจะช่วยคุณหมอได้ยังไง”

“มีอะไรอีกหลายอย่างที่เจ้าต้องเรียนรู้เอง บางเรื่องถึงเวลาเจ้าก็จะนึกออกเอง แต่ที่สำคัญอย่าทำอะไรที่มันเกินขอบเขต เพราะตัวเจ้ายุทธเองก็ได้รับบทเรียนในเรื่องนี้มาแล้ว เจ้าอย่าละเมิดเป็นอันขาด”

กิ่งกาญจน์นั่งฟังเรื่องที่มีวิญญาณมาปองร้ายหมออินทรายุทธจากพระภูมิเจ้าที่จนจบ เธอจึงถามต่อ

“แล้ววิญาณร้ายดวงนั้นไปแล้วหรือคะ”

ท่านพระภูมิส่ายหน้าก่อนจะตอบเธอ

“ยัง แต่มันเข้าใกล้เจ้ายุทธไม่ได้ มันยังวนเวียนอยู่แรงอาฆาตมันเยอะมากแต่มันทำอะไรไม่ได้ เจ้าเองก็ต้องระวังตัวเหมือนกันนังหนู เจ้าไม่มีพลังวิเศษอะไร แต่วิญญาณร้ายนั้นมีมันมาจากแรงอาฆาตของมันที่มีต่อเจ้ายุทธ”

“คุณตาทวดช่วยอธิบายหน่อยสิคะ”

“ทุกสิ่งทุกอย่างมันจะไม่ได้มาง่ายๆ เจ้าลองนึกถึงตอนเรียนดูสิ ถ้าเจ้าไม่เรียนเจ้าก็ไม่มีความรู้ เรื่องพวกนี้เหมือนกันเจ้ายังไม่มีแรงผลักดันหรือมีบารมี ที่จะทำให้เกิดวิชาหรือพลัง แต่เจ้าวิญญาณร้ายตนนั้นมันมีแรงผลักดันที่เกิดจากแรงอาฆาต ทำให้มันมีพลังที่ทำให้เจ้ายุทธเห็นด้วยสายตาธรรมดาได้”

“พอจะเข้าใจแล้วคะ อย่างเมื่อกี้หนูเองก็ไม่พอใจคุณหมอ นึกว่าจะขู่เขาได้ แต่คุณหมอกลับท้าหนู และมันก็จริงหนูทำอะไรเข้าไม่ได้เหมือนอย่างที่เคยเห็นในหนังแล้วเรื่องจี้นั่นละคะ เป็นของขลังหรือไง”

“ตาเองก็บอกเจ้าไม่ได้มากเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาว่ามันเป็นของที่มีบารมีอย่างมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถครอบครองได้ต้องเป็นคนที่มีบารมีหรือไม่ก็คนพิเศษอย่างเจ้ายุทธที่จะครอบครองได้ เรื่องนี้ตาบอกเจ้าได้เท่านี้”

ท่านพระภูมิได้อบรมสั่งสอนเธอหลายเรื่องพร้อมทั้งกำชับเรื่องที่เธอรู้นั้นไม่ต้องไม่ไปเล่าให้อินทรายุทธฟัง  ซึงท่านได้บอกกับเธอว่าตัวของอินทรายุทธเองก็จะไม่สนใจซึ่งมันเป็นจริงอย่างที่ท่านบอกอินทรายุทธนั้นไม่ถามเธอเลย ทุกสิ่งมันกระจ่างขึ้นมาจากความสงสัยในตอนแรก ว่าเพราะอะไรวิญญาณเธอถึงกลับมาหาหมออินทรายุทธ ทำไมจู่ๆเธอถึงไม่รู้สึกเศร้ากับการตายของเธอรวมถึงความผูกพันธ์กับครอบครัวที่หายไป  และที่สำคัญเธอสัมผัสและเห็นรัศมีอ่อนๆจากตัวของอินทรายุทธ มันต้องมาจากจี้ที่หมอสวมติดตัวอยู่สิ่งนั้นคงมีพลังอย่างมาก

“แล้ววันนี้คุณมีอะไรที่ต้องทำบ้าง”

เธอถามผมในกระแสจิตหลังจากที่เงียบไปนาน

“มีสอนนักศึกษาแพทย์ คุณก็อยู่เงียบๆไปแล้วอย่าวุ่นวาย ผมไม่รู้ว่าเจ้าที่ของโรงพยาบาลดุขนาดไหน ผมเองก็ไม่เคยเจอ”

กิ่งกาญจน์ไม่ตอบอะไรผม แต่ดูเหมือนสิ่งที่ผมบอกเธอว่าให้อยู่เงียบๆดูจะไม่เป็นผล เพราะตอนที่ผมสอนดูเธอจะอยู่ไม่เป็นสุข เดินไปมาดูผมสอนนักศึกษาแพทย์แถมบางเธอเผลอตัวทำเสียงดังออกมา ด้วยความขยะแขยง ถึงผมจะได้ยินเสียงเธอคนเดียวแต่ทำให้ผมไม่มีสมาธิ ผมดุเธอไปหลายครั้งแต่เธอตอบผมว่า

“ก็ฉันไม่เคยเห็นอวัยวะของคนนี่ มันก็ดูน่ากลัวขยะแขยงเป็นธรรมดา”

ผ่านไป 3วัน งานของผมนั้นปกติมากไม่มีเคสพิเศษอะไร และดูเธอจะสงบเสงี่ยมมากขึ้น แต่เธอจะมีคำถามกับผมบ่อยๆเกี่ยวกับงานที่ผมทำ สมัยเป็นคนเธอคงเป็นคนพูดเก่ง เธอนั้นพูดไม่หยุดต่างจากผมที่เป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ยกเว้นตอนสอนนักศึกษาแพทย์หรือหมอประจำบ้าน

“ทำไมคุณถึงอยากเป็นหมอชันสูตรละ”

เธอถามผมขณะที่ผมนั่งทำเอกสาร

“จริงๆ ผมนะอยากเป็นศัลแพทย์ ผมกำลังคิดอยู่ว่าจะเป็นทางทรวงอกหรือสมองดี แต่พอได้คุยกับวิญญาณคุณตาที่ผมติดต่อได้ดวงแรกแล้ว มันทำให้ผมเปลี่ยนใจเพราะแกบอกกับผมว่า ลูกแกคนเล็กถูกฆ่าตายตอนนั้นแกพยายามทำทุกวิถีทางแต่หมอที่ชันสูตรศพลูกแกในตอนนั้นกลับไปรับเงินผู้ต้องหาทำให้ผลชันสูตรรวมทั้งเรื่องให้การในชั้นศาลนั้นไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าใครเป็นคนฆ่าสุดท้ายศาลยกฟ้อง ตัวแกเองตอนนั้นก็เจ็บใจมากแต่ทำอะไรไม่ได้ ผมได้ฟังแล้วผมก็เลยเปลี่ยนใจ อีกอย่างตอนนั้นผมเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดด้วย ทำให้พวกอาจารย์หมอที่สอนผมหนักใจกับผมในเรื่องนี้ ถึงผมจะเรียนเก่งและสามารถเป็นหมอศัลยแพทย์ได้ แต่เรื่องการที่ผมพูดน้อยไม่ค่อยพูด อาจจะมีปัญหาเวลาที่พูดอธิบายกับคนไข้หรือบรรดาญาติให้เข้าใจได้”

“เป็นเพราะอะไรละที่คุณหมอถึงเป็นคนที่ไม่ค่อยพูด”

“ โธ่คุณ ผมเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเด็กๆเหลือแต่ตากับยาย แล้วต้องมาอยู่โรงเรียนประจำทันทีมันก็ต้องมีบ้าง ตอนนั้นผมอยากอยู่คนเดียวมากกว่าทำให้ใครๆมองว่าเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง ผมก็เป็นของผมแบบนี้มาตลอดตั้งแต่อยู่โรงเรียนประจำ ถามคำตอบคำยิ่งคนไม่สนิทผมแทบจะไม่พูดด้วย จนมาเริ่มเป็นแพทย์ฝึกหัดผมผมจึงเริ่มพูดกับใครๆเยอะขึ้น แต่อาจารย์แพทย์หลายๆคนก็บอกว่าผมเหมาะกับงานนี้ บางคนบอกผมว่า ไอ้ยุทธ เอ็งเหมาะกับหมอผ่าศพมากเพราะเอ็งเป็นคนพูดน้อยก็ทำงานกับพวกศพไปแล้วกัน เพราะข้ากลัวว่าเวลาเอ็งไปอธิบายกับคนไข้ที่จะผ่าสมองหรือเปลี่ยนหัวใจ เอ็งพูดแบบรวบรัด 2 บรรทัดจบแถมหน้าตาก็ไร้อารมณ์ คนไข้จะเปลี่ยนใจไม่กล้าเพราะกลัว ”

“อืมม ฉันก็ว่าแบบนั้นละ เพราะที่ผ่านๆมาเวลาคุณให้สัมภาษณ์กับนักข่าวคุณพูดรวบรัดมากจนบางครั้งฉันดูทีวีแล้วถึงกับด่าคุณเลยว่าอธิบายไม่ละเอียดเลยเรื่องคดีการตายของนักแข่งรถนะ คดีนั้นคนสนใจมากฉันจำคุณได้จากคดีนี้ละ ที่คุณช่วยหาความจริงจากศพว่ามันไม่ได้เป็นการฆาตกรรมแต่เป็นอุบัติเหตุแต่ฉันหงุดหงิดมากเวลาคุณให้สัมภาษณ์พูดไม่กี่คำเอง แต่คุณก็ปากจัดเหมือนกันนะตอนที่ด่าพวกทนายกับพวกนักข่าวที่เข้ามาเสนอหน้า แสดงว่าคุณเป็นพวกเก็บกด พยามกลบปมด้อย โลกส่วนตัวสูงว่างั้น”

 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 06, 2022, 12:45:18 am โดย twintower »

*

ออฟไลน์ sammyadong

  • Gold Member
  • *****
  • 1281
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 09:28:46 pm »
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากครับ

*

ออฟไลน์ kopXIIII

  • Junior Member
  • ***
  • 581
  • 286
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 09:53:16 pm »
มีคู่แค้นมีการช่วยเหลือ
ชักจะเข้มข้นเข้าไปทุกทีแล้ว

สงสัยว่า เนตรจะมีความสามารถสิงร่างไหม?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 02, 2022, 09:53:47 pm โดย kopXIIII »

*

ออฟไลน์ Cb400f

  • Junior Member
  • ***
  • 334
  • 2
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 09:54:53 pm »
สนุกดีครับ ผีหลอกใช้

*

ออฟไลน์ cd13579

  • Global Moderator
  • *****
  • 1705
  • 1084
  • ชายผู้มีโครงการเต็มหัว แต่ไม่มีปัญญาเขียน
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:02:11 pm »
แล้วสรุปผีสาวจะมาช่วยอะไรหมอ หมอมีซูเปอร์แบ็คอัพเป็นลุงอัสอยู่แล้วนิ
ใครหื้อใครซ่า ข้าแบนเรียบ

*

ออฟไลน์ BBlingT

  • Junior Member
  • ***
  • 459
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:09:55 pm »
เนื้อเรื่องน่าติดตามมากครับ มีปมให้ได้ลุ้น บวกกับมีจักรวาลที่เชื่อมกับเรื่องอื่น ๆ สนุกมากเลยครับผม อ่านเพลินเลยครับ

*

ออฟไลน์ vghvgk

  • Junior Member
  • ***
  • 296
  • 53
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:15:46 pm »
น่าติดตามครับ รอบท18+ อยุ่ครับ จะออกมารูปแบบไหน

*

ออฟไลน์ จรัญ บุญชู

  • Legend Member
  • *******
  • 2715
  • 2
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:18:19 pm »
งานของหมอน่าจะดีขึ้น...เพราะมีผีสาวมาช่วยในสิ่งที่ไม่รู้และมองไม่เห็น

*

ออฟไลน์ dawdom

  • Veteran Member
  • ******
  • 1733
  • 2
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:22:57 pm »
เมื่อไรจะได้จัดวิญญาณซะทีเนี่ย

*

ออฟไลน์ Lucitor

  • Senior Member
  • ****
  • 771
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:27:37 pm »
มีเชื่อมกับจักรวาลอื่นด้วย สนุกเลยทีนี้

*

ออฟไลน์ Tik K.

  • Gold Member
  • *****
  • 1444
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:29:09 pm »
หมอมีผู้ช่วยหรือผู้ป่วนเน้ย

*

ออฟไลน์ Pattpatt27

  • Full Member
  • **
  • 169
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:32:53 pm »
สนุกดีครับ แฟนตาซีดีมาก

*

ออฟไลน์ tum696969

  • Junior Member
  • ***
  • 420
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:33:06 pm »
สุดท้ายหมอกับวิญญาณจะได้กันไหม

*

ออฟไลน์ DrHanaBKK

  • Junior Member
  • ***
  • 535
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:35:14 pm »
ผีหลอกขนานแท้เลย

*

ออฟไลน์ jackkie

  • Gold Member
  • *****
  • 1051
  • 80
    • ดูรายละเอียด
Re: หมอชันสูตรกับวิญญาณ(ไฮโซสาว) 3
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: พฤษภาคม 02, 2022, 10:47:51 pm »
เชื่อมจักรวาล เเละข้ามเส้นแบ่งคืออะไรน่าครับ😁

 

ช่องทางแจ้งข่าวเผื่อโดนปิด ติดตามไว้นะ