สามารถติดตามผลงานได้ตามลิ้งค์เลยครับ
ตับหวานจ้วย?page=1
...........
การที่ได้วันหยุดแบบกระทันหัน แล้วได้มาเที่ยวในครั้งนี้ มันเหมือนโบนัสที่รอมานานของผมกับพราว
แต่... สถานการณ์ตอนนี้มันดูไม่ใช่วันเที่ยวพักผ่อนเลย
….
“เอี๊ยดๆๆๆ....” นั่นมันเสียงเลื่อนโต๊ะแน่นอน
แต่มันเป็นจังหว่ะ เหมือนคนมีอะไรกันเลย
โอ๊ย.....ไม่นะ
ผมตัดสินใจเคาะประตู
“โอ๊ยยย......” เสียงมาจากในบ้าน
“ตูมๆๆๆ...ตูมๆๆๆ... พราว....” ผมทั้งเคาะ ทั้งเรียกพราว เสียงดัง แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับในทันที. เสียงเงียบไปพักนึง
“ตึงๆๆ....ครืดๆๆๆ...” เสียงมาจากในบ้าน แต่มันคืออะไร พราวทำไร
“พราว....เปิดประตูให้พี่ด้วย” ผมตะโกนบอกอีกครั้ง
ครืดๆๆๆ.... เสียงประตูบานเลื่อนเปิดออก
“พี่โนช...” พราวเอ่ยชื่อผม เพราะพราวเป็นคนมาเปิดประตู
“พราวทำไร กลับมานานแล้วเหรอ” ผมถามพราวในทันที
“คือ..พราว..ช่วยทำแผลให้พี่เจอยู่ค่ะ” พราวตอบผม แต่ผมก็ไม่ได้รอคำตอบจากพราวเท่าไหร่ ผมเดินเข้าบ้านไปเพื่อดูว่าข้างในบ้านเป็นยังไง และจะไปดูว่าเจอยู่ไหน
“อ้าวคุณโนช....มาแล้วเหรอครับ” เจเอ่ยถามผมเมื่อเห็นหน้า
เจนั่งอยู่ที่โซฟา ยกขาข้างนึงขึ้นมาที่โซฟา พร้อมกับมือจับต้นขาไว้ และก็มีคราบเลือดเปื้อนอยู่ที่ต้นขาด้วยแต่ไม่มากเท่าไหร่ แต่ที่ทำให้ผมต้องคิดมากคือ เจไม่ได้สวมใส่กางเกง จะมีก็แค่กางเกงในเท่านั้น
“ขอโทษทีครับพี่โนชที่ล็อคประตู” เจพูด
“คือเราเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยตอนเดินเที่ยวสวน ผมเลยได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาครับ” เจอธิบายและเล่าเรื่องราวให้ฟังโดยที่ผมยังไม่ได้ถามเจเลย
“ที่ต้องล็อคห้องเพราะผมต้องถอดกางเกงก่อนทำแผลครับ คือผมไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดครับ” เจพูดอธิบายจนผมเข้าใจ ผมเลยหันไปมองพราว ก็เห็นพราวได้แต่ยืนก้มหน้าเฉยๆ
หลังจากที่เจบอก เราก็คุยกันอีกซักพักนึง ผมก็ไม่อยากจะเชื่อทั้งหมด แต่สุดท้ายผมก็ไม่ได้โวยวายหรือถามอะไรมากมาย เพียงแค่เก็บไว้สงสัยอยู่คนเดียว เพราะถามไป 2 คนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้ากันก็คงไม่ยอมบอกทั้งหมด ผมคงต้องหาโอกาศถามเจในภายหลัง
หลังจากที่เจเดินกลับไปบ้านแล้ว ผมก็เพิ่งสังเกตุว่าชุดที่พราวใส่เมื่อเช้ากับตอนนี้มันคนละชุดกัน
“พราว...เมื่อเช้าไม่ได้ใส่ชุดนี้นี่นา” ผมพูดเอ่ยขึ้นมา ยังไม่ได้ถามตรงๆ ว่าทำไมถึงเปลี่ยนชุด
“ก็อย่างที่พี่เจบอกนั่นแหล่ะค่ะ พราวล้ม ชุดเลยเปื้อน พี่เจก็เจ็บ พราวก็เลยต้องเปลี่ยนชุดค่ะ” พราวตอบผม
ผมก็พยายามจะเข้าใจนะ หรือผมจะคิดมากขี้หึงเกินไปก็ไม่รู้ หลังจากนั้นเราก็อยู่ในบ้านซะส่วนใหญ่เพราะช่วงกลางวันนั้นร้อนจริงๆ พอตอนเที่ยงน้องไก่ก็เอาข้าวมาส่ง พอน้องไก่จะกลับผมก็เดินไปส่งหน้าบ้าน ส่วนพราวไม่ลงมาด้วย
“ขอบคุณมากครับน้องไก่ที่อุตส่าห์มาส่งข้าว” ผมบอกน้องไก่ด้วยความเอ็นดูเพราะอากาศข้างนอกค่อนข้างร้อน
“ยินดีค่ะพี่โนช นานๆทีจะมีแขกมาเยือน” น้องไก่พูด แล้วก็เดินมาใกล้ๆผม
“พี่โนชกลับเข้าบ้านเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่พราวจะว่าเอาได้ หนูกลับก่อนนะคะ” น้องไก่บอกผม แล้วก็รีบเดินกลับไปที่บ้านเจ ผมกำลังจะเข้าบ้าน แต่ก็แอบหันไปดูน้องไก่อีกที คือผมก็ไม่รู้ว่าทำไมผมต้องหันไปดู แต่พอหันไปแล้วก็อดที่จะมองต่อไม่ได้เพราะบั้นท้ายของน้องไก่น่ะสิ ให้ตายเถอะคนอะไรดูข้างหลังยิ่งมีเสน่ห์ หลังจากนั้นผมก็กลับเข้าบ้าน เพื่อกินข้าวกับพราว
“แหม...พราวนึกว่าไปส่งถึงบ้านเจซะอีก...” พราวพูดประชด พร้อมกับทำตาขวางใส่ผม
“ก็แดดมันร้อน พี่ก็กลัวว่าน้องไก่จะเป็นลมเอา เขาอุตส่าห์เอาข้าวมาส่งเรานะ” ผมบอก แล้วก็เดินไปจัดเตรียมอาหาร
“ชิ...” พราวทำเสียงไม่พอใจ แต่ผมก็ไม่โต้ตอบอะไร เพราะผมคิดว่าผมไม่ได้ทำอะไรผิด
“มากินข้าวกัน...หึงพี่เหรอ” ผมถามพร้อมกับยิ้มสู้
“ใครจะไปหึง... คอยดูเถอะ....” พราวปฏิเสธ พร้อมกับพูดเหมือนจะเอาคืน
“มาๆ มากินข้าว อารมณ์เสียบ่อยๆ เดี๋ยวแก่เร็วนะ” ผมบอก แล้วก็เดินไปจูงมือพราวให้มานั่งกินข้าวด้วยกัน
หลังจากนั่นทั้งวันเราก็นั่งเล่น นอนเล่น อยู่แต่ในห้อง จนช่วงเย็นๆประมาณ หกโมงเย็นมั้ง เจกับน้องไก่ก็มาหา พร้อมกับอาหาร 4-5 อย่าง และอีกอย่างคือเหล้าและสปาย
“วันก่อนไปดื่มที่ห้องคุณโนช ทำเอาผมเมาไม่รู้เรื่องเลย เดี๋ยววันนี้ผมขอแก้มืออีซักรอบนะครับ” เจพูด ตอนแรกก็หันมาพูดกับผม แต่ท้ายๆประโยคกลับหันไปมองที่พราว พร้อมกับสายตาเจ้าเล่ห์ ส่วนพราวก็ยิ้มๆตอบ
ผมไม่รู้จะมาไม้ไหน แต่คราวนี้ผมไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบครั้งก่อนแน่ แต่ก็อุ่นใจไปอย่าง เพราะน้องไก่มานั่งดื่มกับพวกเราด้วย
เรานั่งล้อมวงกันที่พื้นในบ้าน ผมนั่งตรงข้ามกับเจ ซ้ายมือคือพราว ขวามือคือน้องไก่ พวกผู้ชายดื่มเหล้า ส่วนสาวๆก็ดื่มสปาย ผมสังเกตุดูว่าเจจะทำอะไรบ้าง ก็ไม่มีอะไร อาจจะเป็นเพราะน้องไก่มาด้วย เจคงไม่กล้าแสดงอาการจะจีบพราวมาก ทั้ง 3 คนนั่งคุยกันสนุกสนาน พราวกับน้องไก่ก็ดูสนิทกันขึ้น ไม่เหมือนตอนกลางวัน ผมเห็นแบบนี้ผมก็สบายใจขึ้น จริงๆผมก็ชอบนะบรรยากาศแบบนี้ ผมก็ได้ผ่อนคลายซักที เจก็ชวนสาวๆคุยกันสนุกสนาน ต้องยอมรับว่าเจเป็นคนคุยเก่งจริงๆ เรานั่งดื่มอยู่นานพอสมควร ผมมองดูนาฬิกานี่ก็เกือบจะห้าทุ่มแล้ว พวกเราก็ดูไม่เมาเท่าไหร่ เพราะเราต่างก็ดื่มกันไม่มาก
“ทุกคนคะ นี่ก็ดึกแล้ว เดี๋ยวไก่ต้องขอตัวกลับก่อนนะคะ เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อช่วยแม่ทำกับข้าวค่ะ” น้องไก่พูดขึ้นมาในขณะที่ทุกคนกำลังสนุก
“อ้าว...น่าเสียดายเลยครับ กำลังสนุกเลย” ผมบอก จริงๆแล้วผมก็ว่าน่าจะได้เวลาเลิกกันแล้วล่ะ ถ้าเจกับน้องไก่กลับไปบ้าน ผมกับพราวจะได้จู๋จี๋กันซักที
“งั้นมาชนแก้วกันครับ” เจพูด พร้อมกับยกแก้วขึ้น
“ชน...” ทุกคนก็ทำตาม และพูดพร้อมๆกัน
“แก็ง....” เสียงแก้วเหล้าปะทะกันเสียงดัง แล้วทุกคนก็ยกดื่มจนหมดแก้ว
“ไปค่ะพี่เจ ไปส่งไก่หน่อย” น้องไก่เอ่ยขึ้น ทำเอาผมสงสัย ทำไมต้องบอกให้ไปส่ง ก็จะกลับด้วยกันไม่ใช่เหรอ
“ไปจ้ะ เดี๋ยวพี่เข้าห้องน้ำแปบนึงนะ” เจตอบแล้วก็ลุกเดินไปห้องน้ำ
“เดี๋ยวให้พี่เจไปส่งไก่แปบเดียว เดี๋ยวพี่เจมานั่งต่อนะคะ นานๆจะมีแขกมาเที่ยว เห็นกำลังสนุกเลยค่ะ” น้องไก่บอกแบบนี้ ผมก็แอบผิดหวังที่ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้
“ขอบคุณมากนะคะน้องไก่ วันนี้สนุกมากเลย” พราวพูดกับน้องไก่ พร้อมกับยิ้ม
“ยินดีค่ะ” น้องไก่พูดแล้วก็ยิ้มตอบ แล้วก็ทำท่าทางจะลุกขึ้น แต่พอจังหว่ะที่ลุกเหมือนน้องไก่เสียหลักแล้วเซจะล้ม
ด้วยสัญชาตญาณ ผมก็รีบยื่นมือไปคว้าตัวน้องไก่ไว้ แล้วก็
“โครม...”
น้องไก่ล้มลงจนได้ แต่ล้มมาทับตัวผม ร่างของผมนอนราบไปกับพื้น น้องไก่สีหน้าตกใจ ผมก็ไม่ต่างจากน้องไก่ แล้วผมก็หันไปดูพราว ที่นั่งทำตาขวางมองมาที่ผม
“พี่โนช ปล่อยน้องไก่ได้แล้วค่ะ นานไปละ” พราวพูด แต่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมีอาการเหมือนโกรธด้วย ก็มันเป็นอุบัติเหตุ
“พี่โนช ปล่อยหนูเถอะค่ะ หนูไม่เป็นอะไรค่ะ” น้องไก่พูดขึ้นมา หลังจากที่พราวพูดเสร็จ ก็น้องไก่ทับอยู่บนตัวผมนี่นา
ผมมองหน้าพราวอีกครั้งด้วยความสงสัย แล้วก็หันมาจะมองน้องไก่ แล้วผมก็ถึงเข้าใจว่าทำไมพราวถึงได้มีอาการแบบนั้น ก็ผมน่ะสิ กอดน้องไก่ซะแน่น จนหน้าอกของน้องไก่แนบชิดกับแก้มผม คือผมไม่รู้ตัวเลยว่าทำไมต้องกอดแน่นซะขนาดนี้ แต่ประเด็นมันคงอยู่ที่แก้มผมที่แนบอยู่กับหน้าอกนิ่มๆของน้องไก่น่ะสิ
“อุ๊ย...พี่ขอโทษ” ผมรีบคลายมือออก แล้วน้องไก่ก็ลุกขึ้นยืน ส่วนผมก็ลุกขึ้นนั่งตาม
“ไม่เป็นไรค่ะ” น้องไก่บอก แล้วก็ขยับออกห่าง
แล้วเจก็เดินออกมาจากห้องน้ำ แต่ดูเหมือนว่าเจจะไม่ได้ยินเหตุการณ์เมื่อสักครู่
“ปะ...เราไปกัน” เจพูดกับน้องไก่ แล้วก็เดินไปที่ประตู
“เดี๋ยวผมมานะครับ” เจหันมาพูดกับผมและพราว แล้วทั้งสองก็เดินออกไปจากที่พัก
ผมหันมามองพราว ยังทำตาขวางอยู่
“ชอบละสิ พี่โนช กอดแน่นเชียว” พราวพูดแบบนี้ จะให้ผมตอบยังไงล่ะ เอาจริงๆก็ชอบอ่ะนะ นิ่มดี
“นิ่มใช่ใหมล่ะ” พราวพูด
“ใช่...เอ๊ย...ไม่ใช่แบบนั้น พราวก็” ผมเผลอพูด พราวยิ่งทำท่าไม่พอใจขึ้นไปอีก
“เชอะ” พราวทำเสียงใส่แล้วก็สะบัดหน้าไปทางอื่น
“ก็มันเป็นอุบัติเหตุน่ะ ใครอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ก็ต้องทำแบบพี่ทั้งนั้นแหล่ะ” ผมพูดเผื่อว่าพราวจะเข้าใจผมบ้าง แต่พราวก็ไม่ตอบอะไร ผมเลยลุกขึ้นจะไปเข้าห้องน้ำ ออกไปจากตรงนี้ก่อนซักแปบ เผื่อพราวจะใจเย็นลง
“พี่ไปห้องน้ำหน่อยนะ เหมือนจะปวดท้องน่ะ” ผมบอกพราว แล้วก็เดินไปห้องน้ำ
ผมนั่งเล่นมือถือฆ่าเวลาอยู่ในห้องน้ำประมาณ 10 กว่านาที ก็ได้ยินเสียงเจเข้ามาในบ้าน ผมเลยกดชักโครก รอซักพักก็ออกมาจากห้องน้ำ
ผมมองไปที่วงเหล้า ก็เห็นพราวกับเจนั่งคุยกัน ซึ่งมันก็น่าจะเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือ พราวกับเจนั่งชิดกันมาก หัวเข่าแทบจะชนกันด้วยซ้ำ ผมไม่ค่อยชอบนักก็เลยเดินไปนั่งข้างชิดพราวอีกฝั่ง
“แหม ชิดเลยนะ” ผมพูดประชดใส่พราว ซึ่งพราวก็รู้และหันหน้าทำตาดุใส่ผม
“ก็จะได้รู้ไง ว่ามันนิ่มหรือแข็ง” พราวพูด พร้อมกับขยับไปทางเจ จนหัวเข่าชนกัน
“มาครับคุณโนช ยกแก้วชนกันหน่อย มาดื่มกันต่อครับ” เจบอกผม แล้วก็ยกแก้วเหล้ามาชนกับแก้วผมที่วางบนพื้น ผมก็หยิบแก้วขึ้นมาดื่ม
หลังจากนั้น พวกเราก็นั่งดื่มกันไปซักพัก ผมเองก็ไม่ค่อยได้คุยสักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็มีแต่เจกับพราวที่คุยกัน ดูพราวกับเจจะสนิทกันมากขึ้น บางทีก็พูดสองแง่สองง่าม แล้งก็หัวเราะกันสนุกสนาน ผมมีความรู้สึกว่าบรรยากาศมันเริ่มจะเหมือนกับตอนที่เรานั่งกินที่คอนโดผมเลย
“ผมล่ะอิจฉาคุณโนชจริงๆนะครับที่ได้น้องพราวมาเป็นแฟน” อยู่ๆเจก็พูดขึ้นมา แล้วก็มองมาทางผม
“ยังไงเหรอคะพี่เจ” ผมยังไม่ทันได้พูด พราวก็เป็นคนถามซะก่อน
“ก็น้องพราวเป็นคนอารมณ์ดี คุยด้วยแล้วรู้สึกสะบายใจดีครับ ไม่เครียด และที่สำคัญน่า....” เจพูดไป พราวก็เขิลหน้าแดง ส่วนผมก็หมั่นใส้เหลือเกิน แต่ก็อ่ะนะ โอเค ผมเข้าใจว่าเจกำลังพูดจีบพราว ดูซิว่าพราวจะเล่นด้วยใหม
“น่า....อะไรคะพี่เจ” พราวถาม
“ก็น่า.....นั่นแหล่ะ” เจยังพูดสองแง่สองง่าม ส่วนพราวก็ยิ่งเขิลหน้าแดง หรือเพราะเมาก็ไม่รู้
“น่ารักไงครับ...555” เจตอบแล้วก็หัวเราะเสียงดัง ส่วนพราวเองก็หัวเราะตาม
“โห ถ้าเมียอยู่จะกล้าพูดใหมนี่” ผมเบรคเจ แต่เจดูไม่รู้สึกอะไร
“นั่นสิ” พราวพูดเสริม ผมก็ยิ้มได้ขึ้นมาหน่อยเหมือนมีพวก
“เฮ้อๆๆๆ...ไก่น่ะเหรอ” เจถอนหายใจยาว เหมือนมีความในใจที่เป็นทุกข์
“อะไรคะพี่เจ” พราวทำหน้าสงสัยถามเจ
“คือจริงๆ แล้วผมกับไก่... เราไม่ได้รักกันแบบสามีภรรยาทั่วไปหรอกครับ” เจพูด ผมกับพราวก็งง
“แล้วแต่งงานกันทำไมล่ะครับ” ผมถาม
“เพราะผมตามใจแม่ครับ แม่ผมเห็นเหมือนคนแข็งแรง แต่จริงๆแล้วท่านมีโรคประจำตัว และหมอก็บอกว่าคงอยู่ได้อีกไม่นานครับ” เจพูดไปก็ทำหน้าเศร้า ผมกับพราวก็นั่งฟังไม่ได้พูดอะไร
“ถ้าแม่ผมเสีย ผมกับไก่ก็ตกลงจะแยกทางกันครับ” เจพูดเสร็จ ก็ยกแก้วเหล้าดื่ม
“แล้วที่ต้องเป็นไก่ เพราะว่าไก่เคยช่วยชีวิตแม่ผมไว้จากการจมน้ำ” เจพูดต่อ
“ส่วนไก่ที่ยอมแต่ง เพราะครอบครัวไก่ติดเงินแม่ผมอยู่มาก” เจพูด ผมก็คิดตาม ทำไมมันเหมือนละครน้ำเน่าเลยวะ
“ผมกับไก่เราเป็นเหมือนคู่ขากันมากกว่าครับ” เจพูด
“ยังไงเหรอคะ” พราวถามเจด้วยความสงสัย อย่าว่าแต่พราวเลย ผมเองก็งงเหมือนกัน
“คือเรามีความสัมพันธ์กันทางกาย ให้ความสุขทางกายซึ่งกันและกัน แต่เราจะไม่ยุ่งเกี่ยวทางด้านจิตใจกัน เราให้อิสระแก่กันในทุกด้าน ซึ่งผมกับไก่เราก็แฮปปี้ดีที่เป็นแบบนี้ เพราะยังไงเราก็ต้องแยกทางกันครับ” เจบอก ผมก็พอเข้าใจ แต่พราวยังทำหน้าสงสัยมองไปที่เจ
“น้องพราวดูไม่เข้าใจเลยนะครับ ถ้าอยากเข้าใจกว่านี้ผมช่วยได้นะ 555” เจพูด แล้วก็หัวเราะ ส่วนพราวก็ยิ้มแก้เขิลแบบงงๆ
“เอาล่ะครับ เราหยุดคุยเรื่องนี้ดีกว่าครับ จะเครียดกันเปล่าๆ” เจพูด พร้อมกับยกแก้วขึ้น
“ชนแก้วครับ ฉลองให้กับชีวิตที่วุ่นวาย” เจพูด ผมกับพราวก็ยกแก้วขึ้นชนด้วย พร้อมกับคิดในใจ อย่าว่าแต่เจเลย ชีวิตผมตอนนี้ก็รู้สึกวุ่นวายเหมือนกัน
“ชอบฟังเพลงกันใหมครับ เรามาเปลี่ยนบรรยากาศกันซักหน่อยดีกว่า” เจพูดเสร็จ ก็ลุกขึ้นเดินไปเปิด TV แล้วก็เปิดช่อง Youtube เลือกเพลง
เรานั่งดื่มไปอีกซักพัก ผมดูนาฬิกา นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้ว ดูพราวก็เหมือนจะเมาแล้ว ส่วนเจก็ดูไม่เมาเท่าไหร่ ไม่เหมือนกับครั้งก่อน ส่วนผมก็แค่ตึงๆ ไม่ถึงกับเมา
ยิ่งดึก เจก็เปิดเพลงเร็วขึ้น พราวเองก็คงเพลิน นั่งโยกตาม จนบางทีโยกไปชนใหล่เจ แต่เจก็ตีเนียนทำเป็นเฉย
“เรามาเต้นกันดีกว่าครับ มาครับน้องพราว” เจไม่พูดเฉยๆ ลุกขึ้นดึงแขนพราวให้ยืนขึ้น แล้วก็โยกตามจังหว่ะเพลง
“จะดีเหรอคะ” พราวพูด แล้วก็หันมามองผม เหมือนคิดอะไรขึ้นได้ แล้วก็หันไปพูดกับเจ
“งั้นก็ได้ค่ะ แค่นิดหน่อยก็พอนะคะ” พราวพูด แล้วก็เริ่มเต้นไปกับเจ
“มาครับคุณโนช มาเต้นด้วยกัน” เจหันมาพูดชวนผม ผมคิดว่าถ้าผมไม่เต้นด้วย ผมคงเหมือนเป็นตัวเกินในห้องนี้แน่ อย่างน้อยก็คอยเต้นขวางเจกับพราวก็ได้
ผมยกแก้วกระดกเหล้าไปจนหมด กำลังจะลุกขึ้นเต้น
“พี่โนชเต้นไม่เป็นหรอกค่ะ เค้าชอบดูคนอื่นเต้นมากกว่าค่ะ” พราวพูด แล้วก็ทำตาขวางมองมาที่ผม
ผมเข้าใจความหมายทันทีว่า ห้ามยุ่ง ตามที่เราเคยตกลงกันไว้สินะ พราวคงตั้งใจจะแกล้งผมแน่ๆ
ก็ได้ งั้นมาดูกันว่าพราวจะเล่นเกมส์อะไรกัน
“โอเค้.. ดูก็ดู งั้นก็ตามสะบายเลย” ผมพูดออกไปทำนองประชดไปด้วย แต่พราวก็ไม่ได้สนใจเลย
ผมนั่งดูทั้งคู่ ยังเต้นห่างกัน แต่ก็ไม่นานนัก เพราะตอนนี้เจเริ่มขยับเข้าไปหาพราวทีละนิดๆ จนทั้งคู่ยืนแทบจะชิดกันแล้ว พราวเต้นส่ายสะโพกโยกสบัดผมไปมา บางจังหว่ะก็โยกไปชนเจ แต่ดูเหมือนพราวจะไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่กลับส่งสายตายั่วยวนมองมาที่ผมเกือบจะตลอดเวลา ผมก็ได้แต่นิ่งไม่ได้โต้ตอบอะไร ถามว่าตอนนี้ผมรู้สึกยังไงน่ะเหรอ ผมก็หึงพราวอยู่นะ แต่ผมมั่นใจว่า อยู่ต่อหน้าผมแบบนี้ เจคงไม่กล้าทำอะไร และผมก็อยากรู้ด้วยว่าพราวจะทำอะไรบ้าง
ทั้งสองคนโยกส่ายไปกับเพลงแบบ nonstop ไปซักพัก พราวกับเจก็เริ่มจะเต้นส่ายเบียดกันบ่อยขึ้น พราวยังคงชำเลืองมาดูผมอยู่เป็นพักๆ ผมก็ทำทีเป็นไม่สนใจ ยกแก้วดื่มเหล้าไปเรื่อยๆ อยู่ๆเจก็ขยับออกไปจากพราว แล้วก็เดินไปปิดไฟ แล้วก็เปิดเฉพาะโคมไฟข้างเตียงสีออกส้มๆ ทองๆ
“ผมว่าเราเปิดไฟแบบนี้ดีกว่าครับ จะได้เข้ากับบรรยากาศ” เจพูดเมื่อเปิดไฟแล้ว
ผมมองดูแสงไฟสีโทนอุ่นๆ สลัวๆ แบบนี้ ดูสบายตา บรรยากาศโรแมนติกแบบนี้มันควรจะต้องอยู่กันแค่สองคน
หลังจากนั้นเจก็เดินเข้ามาเต้นใกล้พราวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เจยื่นมือมาด้วย แล้วก็มาโอบที่เอวพราวไว้แบบหลวมๆ เหมือนประคองไว้มากกว่า ผมเห็นแล้วใจเต้นถี่ขึ้น ผมรู้สึกหวงพราวขึ้นมาทันที แต่อีกใจผมก็รู้สึกตื่นเต้นยังไงก็บอกไม่ถูก ส่วนพราวตอนนี้เต้นส่ายไปมา ไม่ได้สนใจใครเลย บางจังหว่ะมือเจก็แตะที่เอวพราวแบบเต็มๆ แต่ซักพักเจก็คลายมือออก เป็นแบบนี้หลายครั้งและก็ถี่ขึ้น แต่มีจังหว่ะนึงพราวเขย่งตัวขึ้น ทำให้มือเจสัมผัสไปโดนสะโพกของพราว ผมรู้สึกตื่นเต้นในสิ่งที่เห็นอย่างบอกไม่ถูก แต่ที่ทำให้ผมทั้งหึงทั้งหวงมากขึ้น เมื่อพราวขยับมายืนเต้นแบบเดิม แต่มือเจก็ขยับลงมาตามสะโพกพราวด้วย ไม่ยอมปล่อยเลย ผมมองจ้องไปที่สะโพกพราวอยู่ซักพัก ผมก็เงยหน้าไปมองพราวก็เจอกับสายตาเย้ายวนของพราวที่มองมาที่ผม ผมไม่รู้จริงๆว่าพราวต้องการอะไร หรืออยากให้ผมทำอะไร หรือแค่แกล้งทำเป็นยั่วแกล้งผมกันแน่
แต่เจอเข้ากับสายตาแบบนั้น กับสถานการณ์แบบนี้ แทนที่ผมจะโกรธและลุกขึ้นไปห้ามแต่ผมก็ยังนั่งมองอยู่เฉยๆ แต่ในใจผมตอนนี้ไม่เฉยเลย มันทั้งหึง ทั้งหวง แต่ก็รู้สึกหวิวๆที่ท้อง และอีกอย่างคือมันทำให้เจ้าแท่งชายผมมันแข็งตัวร้อนวูบวาบอยู่ภายใต้กางเกง
พราวละจากสายตาผม แล้วก็หันไปมองหน้าเจ หลังจากนั้นพราวก็จับแขนเจทั้งสองข้างไว้ แล้วก็ดึงออกจากสะโพกตัวเอง ผมโล่งอกแอบดีใจที่พราวยังหวงตัวอยู่ ไม่ปล่อยให้เจทำมากไปกว่านี้
แต่ผมก็คิดผิดและดีใจได้ไม่นาน ผมหายใจไม่ทั่วท้อง รู้สึกหวิวๆ ใจเต้นถี่ เมื่อมือที่จับแขนเจไว้ตอนแรกนั้น ดึงออกจากสะโพกแล้วขยับตัวเข้าชิดกัน วางมือเจจับไว้ที่เอวตัวเอง
แล้วพราวก็ปล่อยแขนเจ ยกมือไปคล้องคอเจเอาไว้ แล้วก็เริ่มโยกส่ายเอวช้าๆตามจังหว่ะเพลง ผมกำลังจะลุกขึ้นห้ามเพราะผมรู้สึกว่ามันมากไปแล้ว แต่พอจะขยับตัวก็รู้สึกว่าเจ้าแท่งชายผมมันดันกางเกงนูนออกมาอย่างเห็นได้ชัด ผมเลยก้มดู แล้วก็หันไปมองพราวอีกครั้ง ก็เห็นพราวมองมาที่เป้ากางเกงผม พร้อมกับท่าทางที่ตกใจ ผมก็รู้สึกอาย ที่พราวเห็น ผมก็เลยไม่ได้ลุกขึ้น อยู่ๆพราวก็หยุดเต้น
“พี่เจคะ พราวว่าวันนี้พวกเราพอแค่นี้เถอะนะคะ พราวง่วงนอนแล้ว” อยู่ๆพราวก็บอกเจ แล้วก็เดินไปที่ห้องน้ำเลย เจเกาหัว ท่าทางจะงงมาก อย่าว่าแต่เจงงเลย ผมก็งง
“อะไรว้าาา” เจบ่น
“โอเคครับ ผมว่าเลิกก็ดีครับ เพราะนี่ก็ดึกแล้ว เจกลับไปเถอะครับ” ผมได้โอกาส บอกให้เจกลับ
“โอเคครับ งั้น...พรุ่งนี้เจอกันครับ” เจพูด แล้วก็เดินออกไปจากบ้านด้วยท่าทางที่สับสน และสงสัย
หลังจากที่เจกลับไปแล้ว ซักพักพราวก็ออกมาจากห้องน้ำ พร้อมกับใส่ชุดนอนเป็นที่เรียบร้อย
“พี่โนชไปอาบน้ำสิ ดึกแล้วนะ” พราวบอกผม ฟังน้ำเสียงดูแล้วเหมือนไม่พอใจอะไรซักอย่าง แต่ผมก็ทำตามโดยไม่ได้ตอบโต้อะไร
หลังจากเรานอนไปซักพักผมก็ยังไม่หลับ ส่วนพราวก็ดูเหมือนว่าจะยังไม่หลับเช่นกัน ผมนอนคิดทบทวนกับเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อซักครู่ที่พราวเต้นกับเจ ผมคิดว่ามันดูเย้ายวนเหลือเกิน ผมทั้งต่นเต้นทั้งหวง คิดไปคิดมาเจ้าแท่งชายผมมันก็ตั้งโด่ขึ้นมาทันที
“พี่โนชยังไม่หลับใช่มั้ยคะ พี่โนชคิดอะไรอยู่” อยู่ดีๆพราวก็เอ่ยถามผม แต่เหมือนเป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะพราวก็ถามมาอีก
“พี่โนชรู้สึกยังไงบ้าง” พราวถาม แต่ยังนอนตะแคงหันหลังให้ผม
“อะไรเหรอพราว” ผมถามเพราะผมไม่แน่ใจว่าพราวหมายถึงอะไร
“ก็ที่พราวเต้นกับพี่เจ...พี่โนชรู้สึกยังไง” พราวถามอีกครั้ง
“เอ่อ...ก็ยังไงดีหล่ะ” เอาจริงๆ ผมก็ไม่กล้าบอกว่าผมรู้สึกแบบไหนบ้าง
“พี่โนช ครั้งก่อนที่แอบดูพราวในห้องน้ำ พี่ก็ไม่ทำอะไร มาครั้งนี้พี่เห็นต่อหน้าต่อตาแบบใกล้ชิดขนาดนี้ พี่ยังนั่งเฉยไม่คิดจะห้ามซักคำเลยเหรอ พี่โนชยังรักพราวอยู่หรือป่าว พี่โนชยังอยากจะแต่งงานกับพราวอยู่มั้ย พราวยอมรับว่าพราวโกรธมากที่พี่โนชทำผิดต่อพราว เรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาพราวก็เลยแกล้งพี่โนชบ้าง เผื่อว่าพี่โนชจะรักพราวมากขึ้น” พราวพูดมาซะยาว ทำเอาผมพูดอะไรไม่ออก รู้สึกผิดซ้ำอีกครั้งยังไงไม่รู้
“พราว...” ผมได้แต่เอ่ยชื่อพราว
“หรือพี่โนชไม่รักพราวแล้ว” พราวพูดเสร็จ ก็หมุนตัวนอนตะแคงหันด้านหน้ามาทางผม ยกมือจะมาวางที่ท้องผม แต่มันดันไปโดนแท่งลำของผมที่ยังชี้ตั้งโด่เด่ใต้กางเกงนอน
พราวคงรู้ตัวว่ามือไปโดนอะไร พราวมองหน้าผมสีหน้าประหลาดใจ แล้วก็ก้มลงไปมองที่แท่งชายผม
“พี่โนช...” พราวเอ่ยชื่อผม แล้วก็ทำท่าทางงสงสัย
“พี่โนชมีอารมณ์ ที่เห็นพราว...กับ...พี่เจ...” พราวพูด
“คือ...พี่รักพราวมากนะ และจะรักตลอดไป และพี่ก็อยากแต่งงานกับพราวด้วย” ผมบอก
“แล้วทำไม....” พรามถามผม แล้วก็ก้มไปมองแท่งชายผม
“พี่หึงและหวงพราวมากรู้มั้ย แต่พี่ก็รู้สึกหวิวๆยังไงบอกไม่ถูก คือ...” ผมตัดสินใจบอกความรู้สึกของผมให้พราวฟัง แต่ก็กลัวพราวจะโกรธเหมือนกัน แต่ให้ผมเก็บไว้คนเดียวผมก็อึดอัด ผมคิดว่าถ้าเราแต่งงานกันแล้ว เราก็ควรจะเปิดใจคุยกันได้ทุกเรื่องสิ ถ้าพราวรักผมจริง พราวก็ต้องเข้าใจ งั้นบอกความรู้สึกจริงๆไปเลยแหล่ะดีแล้ว
“คืออะไรคะ” พราวถาม
“คือพี่ก็ยอมรับ ว่า... มีอารมณ์อย่างว่าด้วย” ผมบอก พราวหันหน้ามามองผม
“อะไรนะพี่โนช” พราวตกใจ
“พี่รักและหวงพราวนะ แต่พี่ก็รู้สึกเสียวสยิวจากการกระทำของพราวกับเจ” ผมบอก
“พี่อยากเห็นพราวมีอะไรกับเจเหรอ” พราวถาม
“ไม่ๆๆ...ไม่ใช่อย่างนั้น... พี่แค่รู้สึกมีอารมณ์ที่เห็นพราวกับเจคลอเคลียกัน... แต่พี่ไม่ต้องการให้พราวไปมีอะไรกับเจหรอกนะ” ผมบอกพราว
“ค่ะ...” พราวตอบสั้นๆ
“แล้วพราวรู้สึกยังไง พี่เห็นสายตาที่พราวมองพี่ตอนเต้นยั่วเจ พี่ดูไม่ออกจริงๆว่าพราวแกล้งทำหรือรู้สึกจริงๆ” ผมถามพราวกลับ
“ที่ผ่านมา พราวแกล้งทำตลอด พราวทำเพราะอยากให้พี่โนชเข้าใจความรู้สึกของพราวบ้าง หลังจากเหตุการณ์ในร้านอาหารครั้งนั้น แต่ไม่คิดเลยว่าพี่โนชจะชอบแบบนี้” พราวตอบ แบบนี้ทำให้ผมรู้สึกว่าพราวไม่พอใจแน่
“หรือว่าพราวต้องทำอะไรมากกว่านี้ พี่ถึงจะเข้าใจพราว” พราวพูดต่อ ผมตกใจกับคำว่า ทำมากกว่านี้ มันคือยังไงกัน แค่นี้ก็พอแล้วมั้ง
“พราว...ไม่ใช่แบบนั้นนะ” ผมบอกพราว แต่พราวนอนหันหลังให้ผมแล้ว
“พราว....” ผมเรียกพราวอีกครั้ง แต่พราวก็นอนนิ่ง ไม่พูดอะไรเลย
ผมไม่รู้จะพูดอะไรต่อ ก็คงต้องรอให้พราวอารมย์ดีกว่านี้ก่อนค่อยพูดน่าจะดีกว่า ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอและเป็นช่วงเวลาที่ดึกมากแล้ว ผมก็เผลอหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้
ผมรู้สึกตัว ลืมตาก็เห็นแสงแดดส่งเข้ามาจากหน้าต่าง นี่คงเช้าแล้วสินะ มองไปที่พราว ยังนอนหลับอยู่ เมื่อคืนคงนอนดึกไปหน่อยคงจะเพลีย พราวนอนตะแคงหันหลังให้ผมเหมือนเมื่อคืน แต่งอเข่าไปข้างหน้าเล็กน้อย ทำให้โชว์บั้นท้ายที่น่าลูบไล้จริงๆ ผมเห็นก็เกิดอารมย์ ก็เลยใช้มือลูบที่แก้มก้น พร้อมทั้งถลกชายกระโปรงชุดนอนขึ้นจนเห็นกางเกงใน ผมสังเกตุดูพราวก็ยังนอนนิ่ง คงจะเพลียมาก ผมเลยคิดจะแกล้งพราว
ผมสอดนิ้วเข้าไปใต้ขอบกางเกงใน แล้วล้วงเข้าไปที่ร่องเสียวของพราว
“อืมๆๆ....” พราวครางในลำคอเบาๆ แต่ผมนี่สิถึงกับตกใจ และสงสัย ในใจคิดไปว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
ทำไมน่ะเหรอ ก็เพราะร่องเสียวของพราวน่ะสิ มันลื่นมาก ที่สำคัญมีเมือกใสๆไหลออกมาด้วย
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
>>>>>>>>>>