เรื่องราวของสาววัยนักศึกษาที่ต้องเผชิญกับเรื่องรักและเซ็กซ์เกินคาดเดาในหลายสไตล์ ปัจจุบันเอิญ นางเอกสาวสวยดีกรีไฮโซ เพียบพร้อมทุกอย่างแอบมีสัมพันธ์กับเอกภพ พระเอกสุดหล่อของวงการที่ตั้งใจอยากฟันผู้หญิงแบบไม่ต้องคบหา ในขณะที่มิ้น สาวนมโตนิสัยอ่อนโยนและพร้อมตามใจผู้ชายบนเตียงก็เริ่มยุ่งกับงานในวงการบันเทิงมากขึ้น ส่วนพลอย สาวหมวกแสนซนที่แอบกิ๊กกับพี่นัทแฟนเอิญก็กำลังหาทางทำให้ตัวเองเด่นดังขึ้นเช่นกัน โดยมีผู้ชายมากมายที่กำลังวนเวียนเข้ามาหาพวกเธอ รวมทั้งสาว ๆ หน้าใหม่
สำหรับสมาชิกเว็บอ่านถึงจบได้ คอมเม้นต์ออกความคิดเห็นท้ายตอนเกี่ยวกับเนื้อหา ส่วนคนนอกเว็บหรืออยากอ่านรวดเดียวแบบอีบุ๊ค สามารถหาซื้อได้ตามลิงก์นี้ ตอน 33 อยู่ในเล่ม 3
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
(มิ้นไอดอลสาวนมโตสมองกลวงในสายตาคนทั่วไปและพลอยสาวหมวยสุดซนร่าเริง) มิ้นปล่อยให้โอมลูบไล้ขาอ่อนอยู่ครู่หนึ่ง จนกระทั่งได้ยินเสียงฝีเท้าจากด้านหลังเพราะมีนักศึกษาคณะอื่นเดินผ่านมา เธอจึงรีบดึงมือเขาออก ต่างคนต่างนั่งเงียบทำท่าเหมือนอ่านหนังสือ ก่อนหันมาคุยกันต่อ ควบคุมความเร่าร้อนในใจ ต้องยอมรับว่าถึงไม่หล่อล่ำเท่าเอก แต่โอมก็มีเสน่ห์มีสีสันบางอย่างที่ปลุกอารมณ์เธอได้
ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะเอาใจเธอ ทำตัวเหมือนกับแฟนมากที่สุด
“โอเค น้องเตยเข้าใจแล้วค่ะ งั้นไว้ค่อยนัดกันนะพี่โอม” มิ้นว่า “วันนี้อย่าเพิ่งมือซน เดี๋ยวคนอื่นเห็นแย่”
"ได้ครับ จะระมัดระวัง" โอมเข้าใจ
โอมซึ่งตอนนี้ ความสงสัยที่เขามีต่อความสัมพันธ์ระหว่างมิ้นและเอกยังไม่หายไป เขาคิดว่ามันน่าจะดีกว่าถ้าถามเธอไปตรง ๆ ก็ในเมื่อทั้งคู่มีสถานะเป็น FWB แล้ว มันก็คงไม่น่าอึดอัดอีกต่อไป
"แล้วสรุป... ระหว่างพี่กับพี่เอก พวกพี่สองคนมีความสัมพันธ์กันยังไงเหรอ"
มิ้นมีทีท่าชะงักนิดหน่อย ความจริงแล้วสำหรับเธอจะเปิดเผยก็คงได้หรอก แต่ว่าเธอเป็นห่วงเรื่องชื่อเสียงของเอกมากกว่าของตัวเอง “อืม พี่กับเอกก็...คล้ายๆ กับที่มีกับโอมนี่แหละ แต่เรื่องนี้เป็นความลับห้ามไปบอกใครนะ เพราะว่าพี่เอกเขาดังมาก มีเรื่องฉาวเกี่ยวกับผู้หญิงขึ้นมาจะแย่ โอมเข้าใจใช่ไหม”
"ครับ ผมจะไม่บอกใครนะ... แต่ว่า... ไม่รู้สิ... ผมอาจจะยุ่งเรื่องชาวบ้านไปหน่อยแต่ว่าผมมีความรู้สึกที่ว่า... พี่เอกเขาดูจะไม่แคร์อะไรพี่เลยนะ..."
โอมพยายามจะอธิบายความคิดของตัวเอง
"ผมไม่ได้มาใส่ร้ายเขาหรืออะไรนะ... แต่ลางสังหรณ์ที่ผมมีต่อเขา เขาดูไม่ค่อยใส่ใจพี่เท่าไรเลย... พี่ไม่รู้สึกหรือเคยคิดบ้างเหรอ รู้ไหมถ้าผมเป็นพี่เอกนะ ผมจะใส่ใจพี่มากกว่านี้หลายเท่าตัวเลยแหละ"
มิ้นฟังที่โอมพูดแล้วรู้ว่าเขาพยายามจะอธิบายอะไร เธอยิ้มอย่างคนใจเย็นเช่นเคย แล้วบอกว่า “อืม พี่รู้ว่าโอมไม่ได้มีจุดประสงค์ร้ายหรอก แต่พี่เอกเขาก็ไม่ใช่คนเลวหรอกนะ จริง ๆ เขาเป็นเพื่อนที่ดีแล้วก็มีความจริงใจในแบบของเขา เป็นคนที่แฟร์มากเลย แล้วก็ช่วยเหลือพี่เรื่องงานในวงการบันเทิงทั้งหลายด้วย”
หลังมิ้นพูดไปแบบนั้นแล้วโอมทำท่าลำบากใจนิดหน่อย จะว่าไงดีวะ เขาเองรู้สึกไม่ชอบใจพี่เอกนิดหน่อย ไม่ถูกชะตา แต่ก็ไม่อยากจะทำตัวเหมือนกับเป็นพวกผู้ชายใส่ร้ายผู้ชายอีกคน เพราะหวังแย่งสาว
มิ้นกุมมือเขาเหมือนต้องการปลอบใจแล้วก็บอกว่า “พี่เชื่อนะที่โอมบอกว่าใส่ใจพี่ เราถึงได้มานั่งอยู่ด้วยกันแบบนี้ไง” พูดจบแล้วมิ้นก็ทำสิ่งที่เขาไม่ได้ตั้งตัวด้วยการเคลื่อนใบหน้าแล้วหอมแก้มเขาแผ่วเบา
ตอนมิ้นหอมแก้มเขาเบาๆ โอมรู้ได้ทันทีว่ามันไม่ได้มาจากความต้องการทางเพศหรืออะไรทำนองนั้น มันมาจากความซื่อสัตย์จริงใจ และเขาเองก็รู้สึกดีที่เธอทำแบบนั้น
อย่างน้อยความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองตอนนี้ก็กำลังไปด้วยดี เอาเป็นว่าเขาจะยอมรับมัน ไม่เร่งรัดก็ได้
"ขอบคุณมากนะพี่ ถึงแม้ผมจะยังคาดหวังว่าพี่จะได้เป็นแฟนกับผม... แต่ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันก็ถือว่าดีมากแล้ว... ยังไม่ใช่ตอนนี้ก็ได้นะพี่แต่ว่าวันหนึ่ง... ผมภาวนาว่าวันหนึ่ง เราจะได้เป็นแบบนั้นกันนะ..."
ตอนแรกที่มิ้นเข้าทำงานในวงการบันเทิงก็เพียงแค่อยากจะหารายได้พิเศษเพื่อเลี้ยงดูตัวเองและเป็นค่ารักษาพยาบาลให้ตายายเท่านั้น ไม่นึกเหมือนกันว่ามันจะขยายใหญ่ เดินมาไกลขนาดนี้ โดยเฉพาะหนังที่ดังเกินคาด จนกระทั่งนำมาสู่การต่อยอดไม่หยุดยั้ง
พี่หน่อย ผู้จัดการของเอกที่รับดูแลงานให้เธอด้วย เรียกมิ้นกับพลอยมานั่งคุยช่วงเย็นวันหนึ่ง เกี่ยวกับโปรเจ็กส์ใหม่ที่ทางบริษัทเพิ่งคิดค้นขึ้นมา
“บริษัทเราอยากจะตั้งกรุ๊ปไอดอลน่ะ” พี่หน่อยบอก
“ไอดอล เหมือนพวกบีเอ็นเคเหรอคะ” มิ้นถามด้วยความประหลาดใจ
“มันก็ไม่ได้จริงจังเรื่องการร้องเพลง เต้นอะไรแบบนั้นหรอก ทางเราจะเน้นขายความเซ็กซี่มากกว่า ให้เขาต่อยอดจ้างไปถ่ายแบบ ถ่ายโฆษณา เล่นหนังเล่นละครอะไรแบบนี้” พี่หน่อยอธิบาย เพราะว่าทางบริษัทนี้มีแต่พวกสาว ๆ แนวนั้น
“แล้วแบบนั้นเรียกไอดอลด้วยเหรอคะพี่” พลอยที่นั่งอยู่ข้างกันถามปนหัวเราะ
“ฮ่า ๆ ก็แค่เรียกไปตามกระแสน่ะ ยุคนี้อะไรก็เป็นไอดอลไปหมด อีพวกแว้นสก๊อยตามติ๊กตอกยังเรียกไอดอลเลย เราก็แค่ทำตามตลาด” พี่หน่อยอธิบาย “สรุปคือเราว่าจะตั้งกลุ่มไอดอลชื่อว่า Cute5Baby เรียกสั้น ๆ ว่าวงคิวตี้ เอานางแบบดาราในสังกัดเราที่น่ารักแล้วเซ็กซี่ห้าคนห้าสไตล์มารวมตัวกัน แล้วพี่ก็อยากให้มิ้นกับพลอยเป็นหนึ่งในสมาชิก”
“มันจะดีหรือเปล่าคะพี่” พลอยถาม
“ดีสิ ไม่ดีได้ไง” พี่หน่อยรีบพูด “เราก็ขายความเซ็กซี่ ยั่ว ๆ แบบเดิมแหละ นี่เราจะโคงานกับทางค่ายที่ญี่ปุ่นด้วยนะ อย่างมิ้นกับพลอยเดี๋ยวจะได้ไปถ่ายแบบแฟชั่นชุดว่ายน้ำออกโฟโต้บุ๊คส์กับที่นั่นด้วย เขาเรียกแนวกราเวียไอดอล”
“ถ้าขายเซ็กซี่นี่โอเคเลย” พลอยยิ้ม ถ้าพี่เขาว่าจะทำให้ดัง เธอก็เอาด้วย
“ใช่ อย่างมิ้นนี่มีฐานแฟนอยู่แล้วไง แบ้ว ๆ ดูมึน ๆ นิดนึงแบบนมใหญ่ไม่รู้ตัว เราก็มาต่อยอด อย่างพลอยก็มีคาแร็กเตอร์แบบแสนซนเนี่ย แล้วหุ่นเธอ 36-24-36 ก็ตูมนะยะ คนชอบเยอะ”
“โอเคค่ะพี่” พลอยยิ้ม สำหรับเธอที่ตามเพื่อนเข้าวงการมา ยิ่งดังมีชื่อเสียงมากเท่าไหร่ก็ยิ่งสนุกอยู่แล้ว เรื่องอะไรจะไม่เอา
มิ้นนั้นไม่ได้กระตือรืนร้นเท่ากับพลอย แต่สุดท้ายเจอพี่หน่อยตื้อเอามากก็ขัดไม่ได้
“เอ่อ แล้วไม่ชวนเอิญด้วยเหรอคะ” มิ้นถามด้วยความสงสัย
“อ๋อ ชวนแล้ว เอิญเขาบอกไม่เอา อย่างว่าเขาคลาสนางเอกไง” พี่หน่อยบอกด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่ก็ทำให้พลอยกับมิ้นต้องตระหนักอยู่ว่าเทียบกันแล้วเอิญคงถือว่าสูงส่งกว่าในวงการบันเทิง
การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็วตามประสาวงการบันเทิงที่ถือคติน้ำขึ้นให้รีบตัก ยิ่งพลอยกับมิ้นกำลังมีชื่อเสียงจากหนัง ดังนั้นทางบริษัทก็อยากเกาะกระแส ภายในสัปดาห์เดียวสมาชิกของวงทั้งห้าคนก็ได้มาเจอหน้ารวมตัวกันครั้งแรก
นอกจากสองสาว คนที่เหลือประกอบไปด้วย ซายุสาวเชื้อสายญี่ปุ่นแท้ ที่เป็นนางแบบชุดว่ายน้ำเคยถ่ายแบบที่นั่นอยู่แล้ว และเพิ่งย้ายมาไทยและมีงานเป็นตัวประกอบให้กับซีรีส์บ้าง เจ้าของส่วนสัด 35-24-36 และใบหน้าโฉบเฉี่ยว
อีกคนคือเบลเป็นสาวเจ้าของตำแหน่งมิสแม็กซิม จากนิตยสารดังแนวเซ็กซี่ที่เกาหลีช่วงไปเรียนที่นั่น เป็นสาวเปรี้ยวมีส่วนสัดระดับเดียวกับมิ้นคือ 38-24-38 เพียงแค่หน้าอกนั้นผ่านการศัลยกรรมมาตามแบบผู้หญิงสายพริตตี้จำนวนมากสมัยนี้
คนสุดท้ายคือแจมซึ่งเป็นน้องคนสุดท้ายของวงอายุเพียงแค่ 18 ปีซึ่งดูใส ๆ ร่าเริงดูคล้ายกับสมาชิกวงไอดอลทั่วไปมากที่สุด พร้อมสัดส่วนไม่เนื้อนมไข่เท่ากับพวกรุ่นพี่ 31-22-34 แต่ก็ขายความน่ารักแบบกระต่ายน้อยร่าเริง
“ยินดีที่ได้รู้จักนะทุกคน” พลอยบอกด้วยเสียงร่าเริงตามประสาเข้ากับคนง่าย
การที่ผู้หญิงห้าคนมารวมตัวกันนั้น มีแววว่าจะชิงดีชิงเด่นกันอยู่แล้วตามธรรมชาติ ซึ่งนั่นจะนำมาด้วยความวิบัติชวนปวดหัว หรือวงแตกในไม่ช้า
แต่ปรากฏว่ากลุ่มนี้พอคุยกันไปสักพักก็เข้ากันได้ดีเกินคาด พี่หน่อยก็สังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ ถอนหายใจโล่งอกที่เคมีของทุกคนเข้ากันได้ดี
ความจริงแล้วมันก็ไม่ผิดคาดเท่าไหร่ เบลกับซายุนั้นเป็นพวกผู้หญิงเปรี้ยวที่ค่อนข้างแรง และชอบชิงดีชิงเด่นอย่างว่า ไม่ค่อยยอมใคร แต่โชคดีว่าพลอยนั้นเป็นพวกลื่นร่าเริงชวนคุยไปเรื่อยก็เลยสลายกำแพง ทำให้สองคนนั้นสบายใจ ส่วนมิ้นเองก็เป็นพวกใจดีนิสัยตรงกันข้ามกับพวกนี้ คือคุณเธอไม่ได้สนใจเรื่องความเด่นเลย เป็นคนแบบ อะไรก็ได้ ยกให้คนอื่นหมด ด้านแจมน้องเล็กนั้นก็พร้อมตามพี่ ๆ อยู่แล้ว
รู้ตัวอีกทีทั้งห้าก็คุยกันร่าเริง หลังให้เวลากันพักหนึ่ง
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
(เรียงจากซ้ายไปขวา เบล - แจม - ซายุ สามสาวสามสไตล์ที่มาร่วมเป็นกลุ่มไอดอลเดียวกับมิ้นและพลอย) “ตอนแรกรู้ปะ เราก็เกร็งนะมาเจอมิ้นอ่ะ” ซายุบอกหลังจากเริ่มสนิทกัน “เห็นเธอดังไงช่วงนี้ แฟนคลับเยอะมาก ก็กลัวแบบจะเป็นพวกงี่เง่าว่าตัวเองดัง”
“บ้า มิ้นเขาไม่งี่เง่าหรอก แต่บื้อ ๆ หน่อยเนี่ยจริง” พลอยแซวเพื่อน เรียกเสียงหัวเราะจากกลุ่ม
“พลอยอ่ะ อย่าแกล้งดิ” มิ้นบ่นเพื่อน “เราไม่อะไรหรอกนะซายุ ถ้าทำอะไรผิดพลาดก็พูดได้เลยนะ” หันไปบอกกับซายุ
“เออ มิ้นดูใจดีอ่ะ” เบลชมยิ้มด้วยความพอใจ ที่ซายุกับเบลรู้สึกยอมรับในตัวมิ้นได้มากสุด คือพอเริ่มคุยกันเกี่ยวกับงานแรกที่จะรับไปโชว์ตัว มิ้นก็มีนิสัยตามประสาเธอนั่นคือพอมีคิวเด่นอะไรก็พร้อมจะยกให้เพื่อนคนอื่นในวงหมด ยิ่งเห็นว่าใครสนใจบทบาทไหน มิ้นก็ให้ไปเลย พร้อมเป็นคนสนับสนุน
พวกสาวคนอื่นในวงเลยเข้าใจได้ว่าที่แท้มิ้นไม่ได้คิดจะแข่งขันกับตัวเลยนี่นา แบบนี้ก็เป็นเพื่อนกันได้
(สมาชิกออกความคิดเห็นเพื่ออ่านส่วนที่เหลือของตอน คนนอกเว็บสามารถอ่านตัวเต็มได้ตามลิงก์อีบุ๊คด้านบนจ้า ช่วงนี้สาวเยอะขึ้น ถ้าให้โหวตตามประสาคนเว็บนี้อยากมีเซ็กซ์กับสาวคนไหนบ้าง)  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน