ต่อจากตอนที่แล้ว พ่อ เรา และ พี่จวบ มารับไอ้ลิงบ้าออกจากโรงพยาบาล ระหว่างทางก็เจอเด็กคนนึงโบกมือบ๊ายบายเราก็ยิ้มให้ไม่ได้คิดอะไร จนพี่จวบมาบอกว่า เด็กคนเมื่อกี้เป็นคนเดียวกับที่มายืนหน้าบ้านเมื่อคืนวันก่อน เดี๋ยวววววววววว !!!!! พี่จวบ อะไร คืออะไรเด็กที่โบกมือบ๊ายบายเมื่อกี้พี่จวบบอกว่าเป็นคนเดียวกันกับที่มาหน้าบ้านวันก่อน งั้นก็น้องกุมาร !!!!!!! คือทุกคนที่เราเห็นน่ะมันคือภาพของเด็กทั่วๆไปเลยนะ คือเด็กน้อยๆอ่ะเวลาเจอสาวๆ เขาก็จะโบกไม้โบกมือให้ ซึ่งก็เป็นปกติอยู่แล้ว แต่นี่พี่จวบบอกแปปนี้อีก แล้วไหนเมื่อกี้ที่พ่อถามเราว่าโบกมือทำไมอีก
ไม่ โอ๊ยยยย ไม่ จรี๊งงงงงงงงงงงง เราไม่ใช่คนที่มี sense แน่ๆ เพราะเกิดมาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย เรารีบหันควั่บไปมอง แล้วมันก็เป็นเหมือนหนังผี พล็อตหนังผีเลย คือแม่ลูกสองคนนั้นหายไปแล้ว ช่วงเวลาแค่กระพริบตาพวกสองคนนั้นหันไปไหน เราหันหน้ามองพี่จวบเลยนะ
พ่อเราก็เขย่าเราแล้วถามว่าเจ้าหมิวเป็นอะไร เราก็มองพ่อ โอ๊ยย เราอยากจะร้องไห้ ตอนที่แล้วมีคอมเมนท์บอกว่าเราชิลด์ขึ้นเวลาเจออะไรพวกนี้ อยากจะบอกไม่เล๊ยยยยยยยยยยยย มันไม่ชิลด์เลย แต่นี่คือมาแบบเนียนๆไง แล้วนี่กลางวันแสกๆเลยนะ ตอนนั้นพ่อก็ลูบหัวเราเบาๆแล้วถามว่าลงไปก่อนไหม
เรานิ่งไปแปปนึงแล้วบอกไม่ค่ะ น้องคงกลับไปแล้ว พ่อเราก็ถามน้อง ? เราหันไปมองพี่จวบ พ่อบอกเอาล่ะกลับถึงบ้านค่อยคุยกันตอนนี้ไปหาเจ้าโทนก่อน โอ๊ยยย ใจเราก็สั่นไปหมดเลย ไม่ใช่ว่าดีใจที่จะไปเจอไอ้ลิงบ้านะ แต่แปปเง้อออ เราไม่รู้ว่าเข้าไปจะเจออะไรมั่ง นี่ก็มาต้อนรับกันขนาดนี้เลย
เราก็เกาะหลังพ่อไปนะ ไปถึงพ่อก็เคาะประตู นี่พ่อเขารู้ได้ไงว่าต้องทำยังไงเนี่ย แล้วพ่อก็เดินเปิดประตูเข้าไปเลย ทันทีที่ประตูแง้มออกมา กลิ่น !!!! ไม่มีเลย ใช่ทุกคนอ่านไม่ผิดกลิ่นสมุนไพรอะไรที่แรงๆเมื่อกี้ไม่มีเลย แต่ที่น่าตกใจคือ !!!!! พอเปิดเข้าไปแล้ว
มีคนอยู่กับโทนด้วยสามสี่คนอ่ะทุกคน แปปนึงอ่ะคนที่ดูมีอายุคนนึงก็บอกโทนเอ้ย มีคนมาเยี่ยม แปปนึงโทนก็ครับ แล้วก็เหมือนเดินออกมาจากมุม พอโทนเห็นว่าเป็นพ่อเราโทนก็แบบเหวออ่ะเห็นหน้าแล้วรู้เลย โทนยกมือไหว้แล้วถามคุณท่านมาทำอะไรครับเนี่ยย ไม่น่าลำบากมาเยี่ยมเลยครับ วันนี้ผมก็ออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว
พ่อเราก็บอกว่า มารับเรานั่นแหละเจ้าโทน คราวนี้โทนก็เหวอเลย คนที่มีอายุคนนั้นก็มองพ่อเราแล้วก็ถามใครล่ะโทน โทนหันไปมองว่าคุณท่านเจ้าของบริษัทที่ไปทำงานพิเศษครับตา ห๊ะ! เราได้ยินว่าตาใช่ไหม พ่อของแม่ทิพย์ใช่ไหม เราก็นิ่งดิ่แบบนี้ทำตัวไม่ถูกเลยเนี่ย ตาก็ถามหืม ? ตัวแค่นี้ทำการทำงานแล้วเหรอ โทนก็เกาหัวแกร่กๆเลยนะ แล้วบอกว่าไหนคุยกันแล้วไงตา ว่าไม่อยากรบกวนเงินอ่ะ
ตาโทนก็บอกว่าเอ็งนี่เหมือนแม่เอ็งไม่มีผิดเลยนะดื้อไม่เข้าท่า โทนก็แฮ่ ๆ ๆ ๆ เขาก็หันมาทางพ่อเราแล้วยืนขึ้นนะ แล้วรีบผายมือบอกเชิญก่อนครับ เชิญก่อนๆ พ่อเราก็เดินเข้าไปเลยนะ ตอนนั้นพี่จวบยืนนิ่งเลยนะ เราก็คิดว่าเอาอีกแล้ว เจออะไรอีกแล้วเปล่าเนี่ย เราถามพี่จวบ ๆ เจออะไรอีกเนี่ย
พี่จวบบอกเปล่าครับ แต่คนที่ยืนข้างๆตาของโทนคนนั้นนักมวยดังมากเลยนะครับคุณหมิว เราก็หันไปมองนะ เอ้อใช่จริงด้วย ดังไม่ดังก็คิดเอาแล้วกันว่าเรารู้จักอ่ะ แล้วถ้าเอ่ยชื่อไปก็คงรู้จักกันแน่ๆ พ่อเราก็มองนักมวยคนนั้นอ่ะแล้วทำท่ายื่นไปขอจับมือแล้วบอกว่า สมัยก่อนผมดูคุณขึ้นชกบ่อยๆ ไม่คิดว่าจะได้เจอตัวจริงครับ
เราก็ห๊ะ! พ่อ !!!!!! คนๆนั้นก็งงๆแต่ก็ยื่นมือมาจับกับพ่อเรานะแล้วบอกเรื่องมันก็นานมามากแล้วแต่ขอบคุณมากครับ โทนก็ยืนนิ่งเลย คือคงทำตัวไม่ถูกอ่ะ ทั้งตา ทั้งพ่อเรามาพร้อมๆกันแบบนี้ แล้วโทนก็นั่งลงกับพื้นเลยนะแล้วถามว่าตาจะมากี่วันครับ ตาบอกโอ้ยๆ มาไม่นานหรอกตาไม่ค่อยชอบอากาศในกรุงเทพฯ มันไม่ดีเท่าบ้านนอกหรอก โทนก็มองหน้านะแล้วบอกครับ
แล้วตอนนั้นตาก็ถามว่าเอ้อแล้วเอ็งทำงานอะไรล่ะที่บอกทำงานพิเศษน่ะโทน โทนก็มองไปที่ตา มองไปที่นักมวยคนนั้นแล้วบอกว่างานเอกสารครับ แล้วให้ทุกคนคิดว่านี่เหมือนการ์ตูนสักเรื่องนะเพราะท่าทางตอนนี้คือได้มากๆเลย ตาของโทนนั่งเอามือกอด อก แล้วทำท่าครุ่นคิดแล้วพูด หื๊มมม ไม่มั้ง ให้พูดอีกที
แล้วก็หันไปมองที่นักมวยชื่อดังคนนั้นน่ะแล้วพูดว่า เฮ้ยไอ้-ชื่ออดีตนักมวย- กล้ามเนื้อของคนเรา ถ้าทำงานเอกสารเฉยๆจะ มันจะฟิตได้แบบไอ้หลานคนนี้ไหม อดีตนักมวยชื่อดังคนนั้นก็ส่ายหัวแล้วบอกว่าไม่มีทางจ้ะพ่อครู ถึงกรรมพันธุ์ของพี่ทศจะดีขนาดไหน ถ้านั่งเฉยๆกล้ามคงไม่กระชับแบบนี้แน่นอน แล้วยิ่งนอนโรงพยาบาลเป็นอาทิตย์แบบนี้ก็ไม่มีทางหรอกจ้ะ
โทนก็สะดุ้งเลยนะตอนนั้นอ่ะ ตาของโทนก็มองแล้วบอกว่า แต่ไอ้หลานคนนี้ก็คงไม่ได้โกหกหรอก แล้วก็ทำท่าคิด คิด ก่อนจะถามว่าแล้วก่อนหน้านั้นล่ะทำงานอะไร โทนก็ก้มหน้างึมงำๆ ๆ แล้วพูดออกมาว่า บอดี้การ์ดครับ เท่านั้นแหละตาของโทนคือหัวเราะแบบคนภูมิใจอ่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดังลั่นเลย
เขาก็ตบเข่าฉาดแล้วบอกว่า เอ้อให้มันได้แบบนี้ ไอ้.... มันโทรมาบอกตาว่าเอ็งไปอาละวาดกระทืบลูกน้องมันหมอบกระแตเป็นสิบๆคน เออดีให้ได้แบบนี้ซิ่ เลือดพ่อมันแรงจริงๆเว้ยไอ้นี่ โทนก็มองแบบหงอยๆเลยนะ แล้วพูดว่าใครโทรไปบอกตาเนี่ยย ตาก็บอกอ้าวไหนมันบอกว่าเกือบตบเอ็งไปไง ถ้าลูกน้องไอ้เสี่ยนั่นไม่บอกก็คงได้ลงไม่ลงมือกันแน่ๆล่ะ เราก็อ๋อเลย อ๋อเสี่ยเจ้าของค่ายมวยนี่เอง แล้วโทนก็เหมือนจะนึกได้ ก็เลยถามว่าตารู้จักเสี่ยคนนั้นเหรอครับ
ตาบอกเอ้อ ก็ต้องรู้จักซิ่วะ มันมาเรียนมวยก่อนพ่อเอ็งเสียอีก มีฝีมือแต่เสียดายที่โดนกาลเวลามันกลืนกิน แต่ก็ดีที่มันยังไม่ลืมโรงมวยบ้านนอกที่เคยซุกหัวนอนมานาน ไอ้ลิงบ้ามองหน้าตาอีกครั้ง ตาถามว่าแล้วพ่อกับแม่รู้เรื่องทำงานบอดี้การ์ดอะไรนี่ไหม โทนบอกรู้ครับเพราะคุณท่านเองก็ไปที่บ้านหลายครั้งครับ
พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร ตาบอกอื้มๆ พ่อกับแม่เอ็งก็คงมีเหตุผลที่ยอมให้ทำงานนั่นแหละนะ ลูกเสือลูกสิงห์จะให้ไปนั่งร้อยมาลัยเฉยๆมันก็ยังไงอยู่ แอ้ะ !!!!!! พูดเหมือนที่แม่ทิพย์พูดกับเราเลยที่บอกว่า พ่อทศตอนหนุ่มๆก็ลุยมาเยอะ จะให้โทนมานั่งร้อยพวงมาลัยเรียบร้อยๆมันก็ยังไงอยู่ แอ้ะ !!!!! เหมือนกันเลย แล้วตอนนั้นตาของโทนก็พูดกับพ่อเราว่า แล้วหลานผมสร้างความเดือดร้อนให้มั่งไหมล่ะ พ่อเราก็บอกว่า ก็มีบ้างครับตามประสาเด็กอายุ 20 ตอนนั้นตาของโทนพูดขึ้นมาว่า เกี่ยวกับเรื่องอารมณ์ร้อนใช่ไหมครับ
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน