ต่อจากตอนที่แล้ว ย่าหอมเดินมาถามแม่เราว่าจะช่วยเป็นหมอสู่ขวัญคนที่ 7 ได้ไหม เดี๋ยวซิ่ ทำไมย่าหอมถึงเดินมาเลือกด้วยตัวเองเลยล่ะ แล้วแม่เราล่ะยังไง แม่เราตอบสั้นๆคำเดียวเลย ' ค่ะ ' เง้ออ ทำไมแม่ไปตอบรับแบบนั้นง้ะ แล้วแม่รู้เหรอต้องทำยังไง ย่าหอมยิ้มแล้วพยักหน้า คนสนิทของย่าหอมก็ขยับขึ้นมา ยกชุดอะไรบางอย่างขึ้นมา
ลักษณะการยื่นให้ก็คือมือขวาบน มือซ้ายล่าง ประกบจับชุดแล้วยื่นให้แม่เรา คิดง่ายๆ เหมือนเบอร์เกอร์นั่นแหละมือที่ประกบรือขนมปัง เสื้อผ้าข้างในคือชิ้นเนื้อ แล้วแม่เราก็รับมาทันทีเลยะ คือตอนนั้นทั้งอึ้ง ทั้งงง แม่ทิพย์มอง.. บอกมาทางนี้คุณนายไปเปลี่ยนชุดบนห้อง แล้วแม่ทิพย์ก็เดินนำไปเลย
เรายังงงๆอยู่มองซ้าย มองขวา มองพี่แมน... พี่แมนก็ถามอะไรไอ้หมิว เราก็ไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง แบบงงๆไปไม่ถูกเลย แล้วหมอทำขวัญ หมอสู่ขวัญใช้จำนวนคนเยอะขนาดนี้เลยเหรอ เราก็มอง ๆ ย่าหอมมองเราแล้วท่านก็ไม่พูดอะไรนะ แต่ท่านหันไปคุยกับพี่แมนว่า เดี๋ยวคุณกับเจมส์จะไปส่งไอ้ตัวเล็กใช่ไหม
พี่แมนก็นี่เลย เปลี่ยนท่าทางทันทีรวบมือสองข้างไว้ด้วยกันที่สะดือ ก้มหัวเล็กน้อยแล้วตอบครับย่าหอม ปู่เทียนอนุญาตแล้วครับ ย่าหอมท่านก็มองพี่แมนนะ คือมองแล้วก็พยักหน้า แล้วย่าก็หันไปมองอีเจมส์แล้วบอก เจ้าเจมส์จำทางได้ใช่ไหม เจมส์ตอบจำได้ครับย่าหอม... ย่าหอมยิ้มแล้วลูบหัวอีเจมส์เบาๆ
แล้วก็บอกว่าเอาล่ะ มีอะไรก็แยกย้ายกันไปทำนะก่อนไอ้ตัวเล็กจะกลับมา แล้วย่าหอมก็เดินเข้าไปในสวนพร้อมกับคนสนิทของย่าหอม เราก็... มองไปที่พี่แมนกับอีเจมส์ อยากไปอ่ะอยากนั่งรถเล่น... อยากนั่งรถเล่นจริงจรี๊งงงงง แปปนึงแม่เราก็แต่งตัวลงมา เง้อออออ แปลกตามากกกกก ม๊ากกก ก.ไก่ ล้านตัว
คือแม่ไม่ได้นุ่งขาวห่มขาวนะ แต่แม่แต่งตัวด้วยเสื้อสีขาวมีลูกไม้ประดับไหล่ และใส่ผ้าถุงที่สีดูกลางๆ ไม่ได้ดูเก่า แต่ก็ไม่ใช่ของใหม่แน่ๆ เง้อออ จะบอกว่าไม่เคยเห็นมันก็...งืมมม ตอบไม่ถูกอ้ะ... แต่ไม่ชินตาเลยง้ะ แต่แม่ดูกลมกลืนกับแม่ทิพย์มากๆเลย เราสะกิดถามพี่แมนๆแม่เนี่ยนะ จะเป็นหมอทำขวัญ
พี่แมนตอบมาแปลกตรงไหนเนี่ยไอ้หมิว ในเมื่อย่าหอมท่านเดินมาบอกเอง เราบอกก็เปล่าาาาาา พี่แมนบอกเอ้อไอ้นี่ ไปนั่งเล่นไหนก็ไปไป เรากับจ๋าก็มองหน้ากันแล้วพากันไปนั่งตรงใต้ต้นแสงจันทร์ ตรงนั้นแดดยังสาดมาไม่ถึง เรามองๆ ๆ จ๋าก็บอกว่าชั้นตกใจมากเลยแก ตอนแรกที่เจมส์เล่าเรื่องของเจ้าโทนให้ฟัง
เราเองก็บอกนะว่า ไม่ต่างกันหรอกแก ชั้นเองก็พูดไม่ออกเหมือนกัน ตอนแรกบอกว่าเป็นนักยูโดชั้นก็นึกว่าจะจับทุ่มอย่างเดียว พอมาเห็นทักษะเรื่องต่อสู้ชั้นก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ไหนจะเรื่องที่รู้จักคนไปทั่ว จ๋าหัวเราะนะแล้วบอกใช่ๆๆๆ เราบอกอีกว่า แกคิดดูดิ่จ๋ารอบๆตัวชั้นอ่ะ มีแต่คนรู้จักไอ้ลิงบ้า เรามองไปรอบๆนะ
แล้วก็พูดว่าไหนจะเรื่องบ้านนี้อีก ไหนจะเรื่องปูมหลังของพ่อทศอีกล่ะ เรามองไปรอบๆคน 10 20 30 กำลังเร่งทำงานแข่งกับเวลากันอย่างเต็มที่ เราพูดว่าถ้าพ่อทศเขายังอยู่ในเส้นทางเดิม คนพวกนี้ก็จะเหมือนเป็นลูกน้องของโทนเหมือนกันใช่ไหม เราบอกว่า ไอ้ลิงบ้าก็เหมือนเป็นคุณชายเลยอ่ะดิ่ แบบนี้ก็ดีไม่ใช่เหรอ จะได้ไม่ต้องลำบากเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย
จ๋าบอกว่า แต่ก็อาจจะไม่มีเจ้าโทนที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้นะ เราหันมองจ๋าเลยนะ จ๋าบอกว่าตอนนี้เจ้าโทนอาจจะสบาย มีกินมีใช้ล้นฟ้าก็จริง แต่ก็ไม่ใช่เจ้าโทนที่เรารู้จักในตอนนี้ คนเราอ่ะแค่เลือกเดินไปอีกทาง ชะตาชีวิตก็ไม่เหมือนเดิมแล้วแก เลือกไป 1 เส้นทาง อาจจะมีอีกสิบอีกร้อยเรื่องเกิดขึ้นก็ได้จริงมะ เราฟังจ๋าพูดแล้วก็ได้แต่พยักหน้าจริงๆ
จ๋าบอกอีกว่าที่พ่อทศเลือกอาจจะถูกหรือไม่ถูกก็ได้อ่ะแก แต่ก็ทำให้เจ้าโทนในตอนนี้เป็นเจ้าโทนที่อ่อนโยนใช่ป่ะล่ะ... เดี๋ยว ! เดี๋ยวเลย อันนี้เถียงขาดใจเลย เราถามว่าอ่อนโยนตรงไหนเนี่ย ลิงป่า ลิงกัง ลิงทโมนชัดๆ ไม่อ่อนโยนเลยสักนิด กวนประสาทน่ะซิ่ไม่ว่า ไม่มีความอ่อนโยนกับชั้นเลย เราบอกจ๋าไปแบบนั้น จ๋าหัวเราะแล้วบอกเราว่า แกสร้างกำแพงก่อนเองช่วยไม่ได้ การที่เจ้าโทนจะไม่อ่อนโยนกับแกก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกหมิว
กว่าที่ชั้นจะทำให้เจ้าโทนเชื่อใจและคุยกันแบบปกติ ก็ใช้เวลาเกือบเดือนนะ เราก็บอกกำแพงอะไรนักหนาเนี่ย เกลียดคนรวยน่ะเหรอ จ๋าบอกก็ใช่ไง เราก็บอกว่าอ้าววว พี่แมนล่ะ จ๋านางก็บอกนะว่าถามจริง ไม่รู้จักนิสัยพี่ชายแกจริงๆเหรอ ถ้าคนที่เขาคิดว่าไว้ใจได้ เขาจะเข้าหาแบบไม่ถือตัว เอาจริงนะแก ชั้นเองก็ยังแปลกใจเหมือนกัน ที่พี่แมนไว้ใจเจ้าโทนไวขนาดนี้
เราก็บอกไปนะ อย่าว่าแต่แกเลย ชั้นเองก็แปลกใจที่พี่ชายไปสนิทกับไอ้ลิงบ้าไวขนาดนั้นอ่ะ แล้วเข้าขากันจนน่าหงุดหงิดอ่ะ เข้ากับที่บ้านชั้นได้ดีเกินไปอ่ะแค่ พ่อแม่ชั้นก็เอ็นดูไอ้ลิงบ้านี้แบบไม่รู้จะพูดไง แกดูดิ่ พ่อกับแม่ลงทุนมาช่วยงานด้วยตัวเองเลยอ่ะ จ๋าหัวเราะบอกอื้มๆ แต่ชั้นว่าบ้านแกดูมีชีวิตชีวามากขึ้นนะ พี่แมนยิ้มบ่อยขึ้นอ่ะ ปกติถ้าอยู่นอกบ้านจะเข้มตลอดเลย เราบอกเพราะไอ้ลิงบ้านั่นน่ะแหละ ทำให้ทุกคนมาแกล้งชั้น
จ๋าถามแกล้งไรอ่ะแก .. เรามองหน้าแล้วบอกมาแซว่าชั้นชอบไอ้ลิงบ้าอ่ะดิ่ พี่แมนกับแม่อ่ะพอทน แต่นี่พ่อก็เอากับเขาด้วย จ๋านางตอบกลับมาว่าเดี๋ยวๆ พ่อแกด้วยเหรอ เราบอกใช่เนี่ยแกดูดิ่ พวกเขาแกล้งชั้นตลอด มาล้ออยู่ได้ จ๋านางตอบกลับมาว่าเอ๋า ก็เรื่องจริงอ่ะแหละแก แกชอบน้องชายชั้น.....
บ๊าาา ใคร ใครชอบ ไม่ได้ชอบ จ๋าแกคิดอะไรอยู่เนี่ย ชั้นมีแฟนอยู่แล้ว
เราพูดไปแบบนั้นตรงๆ จ๋าลากเสียวยาวๆเลยว่า แหม แก ขนาดพ่อแกเขายังมองออก แกปิดไม่มิดแล้วล่ะ แล้วนี่ดูซิ๊เพื่อนคนสวยของชั้นจะยอมตื่นมาทำไมแต่เช้าล่ะ นี่ไม่ใช่สไตล์แกเลยนะ แล้วช่วงหลายเดือนมานี่แกก็เที่ยวน้อยลงด้วยไม่ใช่เหรอเพราะอะไร เพราะใครกันน๊าาาาา โอ๊ยย บอกว่าไม่ใช่ไง แต่ละคนเป็นอะไรกันไปหมดเนี่ย จ๋าบอกอ๊ะ ๆ ๆ อย่ามาเถียงชั้น เราคบกันมากี่ปีแล้วหมิว ถ้าแกไม่สนใจไม่ใส่ใจ เจ้าหญิงแบบแกก็จะบอกว่าไร้สาระ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก
แต่นี่แกทั้งวีน ทั้งเสียอาการ แหมมมมมม เพื่อนคนสวยของช๊านน เราก็ตี ๆ ๆ ไม่ได้ตีแรงมากนะ แล้วบอกเอาไรมาพูดเนี่ยจ๋า จ๋านางก็หัวเราะเลยนะ แต่นางก็บอกเราว่าชอบอ่ะ ชอบได้การจะชอบใครสักคนที่ทำให้ตัวเราพัฒนาไปในทางที่ดีน่ะ มันไม่ใช่เรื่องที่แย่เลยหมิว แต่แกก็ต้องรู้ตัวว่าแกเองน่ะมีแฟนแล้ว แกมีเตยแล้ว แล้วเตยก็รักแกมากด้วย
แต่ชั้นก็คงห้ามไม่ให้แกชอบเจ้าโทนไม่ได้ด้วย เพราะแกชอบไปแล้ว แต่ชั้นขอย้ำอีกครั้งว่าอย่ามันเกินเลย ไปมากกว่านี้ก็แล้วกัน เพราะแกทั้ง 3 คนเป็นคนสำคัญของชั้น ชั้นคงรู้สึกแย่ไปตลอดชีวิตถ้าวันนึงทุกอย่างมันต้องพังลง แกเข้าใจชั้นนะหมิว จ๋าร่ายยาวเลยอ่ะ.. เราก็บอกน่าๆ ชั้นไม่ได้ชอบไอ้ลิงกอลิล่าหรอกน่าาาา จ๋ามองเรา นางยิ้มแล้วบอกย่ะ
คนจากบ้านเราที่มาช่วยงาน ยกน้ำมาเสิร์ฟตลอดเวลา ดูพวกเขาก็สนุกมากๆเหมือนกัน อากาศตอนนี้จะพูดว่าแปลก มันก็แปลก หรือเพราะเราไม่เคยตื่นเช้าๆ แล้วมาอยู่ในสวนแบบนี้กันนะ อากาศตอนนี้ไม่ร้อนเลย แดดตอนเช้าก็มีตามปกติทั่วไป แต่สิ่งที่สัมผัสได้คือ เย็นสบาย พูดยังไงดี คือเหมือนเปิดตู้เย็นทิ้งไว้น่ะ แล้วไอเย็นมันจะไหลลงมาเรื่อยๆ ไม่ได้เย็นเจี๊ยบแบบเปิดแอร์นะ ว่ายังไงดี คือเหมือนลมมันพัดไอเย็นจากในสวนออกมาเรื่อยๆ ล่ะมั้ง
แล้วคนงานที่เป็นลูกน้องเสี่ยก็ทำงานกันแบบสุดจริงๆ แค่พ่อทศสั่งสั้นๆ แล้วพวกเขาก็เหมือนรู้หน้าที่ของตัวเองเลยอ่ะ แปปนึงพ่อทศก็เดินออกมาจากสวนนะ เรากับจ๋ารีบลุกเดินไปหาทันทีเลย พ่อทศเหมือนให้คนตามไปนั้นยกอะไรบางอย่างออกมา คือบายศรี ทุกคน สิ่งนั้นคือบายศรีที่ขนาดใหญ่มาก แล้ววาวมาบน.... งืมม เรียกว่าอะไรดี ถึงจะไม่ใหญ่เท่าของจริง แต่นี่คือเสลี่ยงแบบย่อส่วนอ่ะ
บายศรีรูปทรงแปลกตาวางตั้งอยู่บนนั้น คือลูกน้องเสี่ยเข้าไปสามคน ใช่มะ สองคนแบกหน้าหลัง อีกคนคอยประคองข้างๆกับเสี่ย ส่วนพ่อทศเดินนำหน้า พ่อทศปาดมือเป็นแนวขวางเหมือนบอกให้หลบ ไปรอช่วยยกหน้าตรงนู้น พ่อทศชี้ไปซึ่งมันคือเขตต้นแสงจันทร์ ซึ่งเป็นเส้นแบ่งเขตบริเวณบ้านกับเขตสวน ตอนนั้นคนที่จะเข้าไปช่วยก็คือถอยหมดเลย แล้วไปตรงจุดที่พ่อทศบอก
บายศรีใหญ่มากจริงๆทุกคน ใหญ่กว่าพานที่มากับรถอีก หนักอ่ะเห็นแล้วยังรู้สึกหนักแล้วไหนจะเสลี่ยงย่อส่วนนั้นอีกอ่ะ แต่คนแยกดูชิลด์ ดูสบายมากๆ แต่ว่าพอพ้นเขตต้นแสงจันทร์เท่านั้นแหละทุกคนคือเกือบทรุด คนที่แบกข้างหน้าพูดแบบรียร้อนเลยช่วยหน่อยๆ ๆ ไม่ถึง 1-2 วินาที คนที่ทำตามคำสั่งพ่อทศก็เข้าไปรับทันที แต่ทุกคนคือสีหน้าจริงจังมาก พูดเหมือนกัน หนักแท้ หนักแท้ พ่อทศก็บอกให้เอาไปวางที่แคร่ใต้ต้นแสงจันทร์ทันที
จากที่แบกกันมา 2 คน ตอนนี้ 4 คนยังเดินกันยากเลย ทั้งๆที่ทางก็เรียบกว่า ดีกว่าทางในสวน เดี๋ยวดิ่มันเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นเราจะเข้าไปถามตรงๆ มันก็ยังไงอยู่ แต่ถ้าปล่อยไปเราก็หงุดหงิดงุ่นง่านอยากรู้ เราก็เลยกวักมือเรียกคนงานในบ้านเราให้มาหา เราบอกเขาว่าให้เอาน้ำไปให้คนนั้นนะ คนที่แบกแล้วเดินนำหน้ามา แล้วหาทางถามให้เนียนๆนะ ว่าแบกมายังไงเหนื่อยไหม ทำไมตอนแรกดูเบาๆ เขาก็รับปากแล้วก็เนียนๆเอาน้ำไปให้
จ๋าก็บอก หมิววว นี่แกนิสัยอยากรู้เรื่องแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย เราก็เลยบอกนางว่าโหย ก็มันแปลกอ้ะ เราก็มองนะ คนของเราก็เอาน้ำเข้าไปให้แล้วก็เนียนชวนคุยเลย แวปนึงที่เห็นคนของเราคือหน้าถอดสีเลย นางเดินมาหาเรานะ เราถามว่า ได้เรื่องไหม นางพยักหน้า นางบอกว่าเมื่อกี้ถามไปว่าหมดแรงเหรออ้าย อ้ายก็แปลว่าพี่ชายอ่ะแหละ นางถามไปว่าแบกมาคงหมดแรงซิ่นะพี่ชายเกือบล้มเกือบทรุด
แต่คำตอบที่ได้คือ ผู้ชายคนที่แบกอ่ะบอกกลับมาว่า ตอนที่แบกมาจากในสวนไม่รู้สึกเหนื่อยหรือหนักเลย... เพราะว่า... มีคนช่วยยกเป็นสิบๆคน... เราหันหน้ามองจ๋าเลยนะ เราถามว่าใคร ใครช่วยเป็นสิบๆ เห็นเดินมาไม่กี่คนเอง...
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน