“พี่หมายความว่า พี่ที่คอยต้อนรับหน้าเคาท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ถูกหวย เลยลาออกทันที แล้วอีกไม่นานจะมีพวกผู้ถือหุ้นจากต่างประเทศมาประชุมประจำปี ก็เลยต้องหาคนมาแทนที่สามารถรับหน้าพวกนั้นได้?”
“ใช่”
“หรือจะให้ผมไปเป็นชั่วคราวดี?”
“หน้าตาแบบแก พวกผู้ถือหุ้นคงหนีไปหมดก่อนนะสิ” อุ้ยเจ็บ ถึงหน้าไม่หล่อแต่ทำตัวงอมาหลายคนนะ
“แล้วทำไมไม่เอาคนจากฝ่าย PR อะพี่แคทก็น่าจะได้ป่าว”
“แกจะบ้าเหรอ เอาระดับยัยแคทมาแค่ต้อนรับแขกกับพาไปห้องประชุมเนี่ยนะ งานนางตั้งเยอะ แล้วเด็กๆ ทีม PR คนอื่นเขาก็ไม่รู้จักกรรมการดีด้วย”
“แล้วก็…เห็นนางบ่นๆ ว่าช่วงนี้ประจำเดือนไม่มาเลยจะขอลาไปหาหมอหน่อยนะ” พี่แนทลดเสียงเบาลงจ้องหน้าผมนิ่ง
“...โอเคครับ ผมจะรีบหามาให้ครับ” พอฟังผมก็หน้าซีดผมยืนตัวตรงรีบวิ่งออกจากห้องทันที
.
.
.
ช่วงพักเที่ยงวันต่อมา ผมนั่งคิดต่อว่าจะเอาไงเรื่องคนที่ขาดในโรงอาหารชั้นล่างของตึก ซึ่งเป็นที่รวมของพนักงานเวลามากินข้าวช่วงเที่ยง โดยเป็นโรงอาหารแบบติดแอร์และมีร้านอาหารหลายแบบให้เลือกในราคาที่ไม่แพงและยังรสชาติดีมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีที่ไม่ต้องออกไปตากแดดเพื่อหาข้าวเที่ยงกินทำให้แทบจะทุกคนต่างแวะกันมานั่งกินที่นี่
แต่ส่วนที่ดีมากๆ ของที่นี่ก็คือโต๊ะกับเก้าอี้ค่อนข้างโปร่งทำให้เวลาพวกสาวเล็กสาวใหญ่นั่งไม่ระวังจะกลายเป็นอาหารตาชั้นดีให้กับพวกพนักงานชาย (รวมทั้งผมด้วย)
ผมนั่งคิดอยู่ว่าจะหาใครมาทำตำแหน่งนี้ดี ระหว่างนั้นก็นั่งดูภาพพี่นกกำลังหนีบขามือกดกระโปรง ต่อหน้าลูกน้องของเธอผ่านกล้องวงจรปิดจากมือถือ
ส่วนนิ้วมือก็กดปุ่มควบคุมความแรงของเครื่องไวเบรเตอร์จากแอป ใช่ครับผมยัดไวเบรเตอร์เอาไว้ข้างในร่องของพี่นกและขู่ว่าเมื่อไหร่ที่เธอเริ่มตะคอกลูกน้อง ผมจะเปิดครื่องเร่งทันที เพื่อเป็นการฝึกให้เธอควบคุมตัวเองไม่อาละวาดจนคนลาออกอีก พร้อมขู่ว่าถ้าแอบเอาออกระหว่างเวลางานจะเพิ่มอีกอันไว้ข้างในรูตูด เธอถึงยอมเสียบมันไว้ทั้งวัน แรกๆ ผมก็กดเปิดมันทุกครั้งที่เธอเผลอต่อว่าลูกน้อง จนบางทีเธอก็เกร็งตัวงอต่อหน้าลูกน้อง หลังๆถึงเธอไม่โมโหใครผมก็แกล้งเปิดให้มันสั่นไว้ตลอด แล้วแค่รอให้เธอเรียกไปช่วยทำให้มันหยุดพร้อมกับใช้ท่อนควยผมเสียบเข้าไปแทน
ระหว่างคิดเรื่องพวกนี้อยู่มือผมก็ดันไปปัดแก้วกาแฟตกจนมันหกเลอะไปทั้งเป้ากางเกงผม ทำให้ต้องรีบเอามือปิดไว้และไปหาที่ล้างน้ำ แต่จะไปเข้าห้องน้ำพนักงานก็ดูจะขายขี้หน้า เพราะตรงเป้ากางเกงมันเป็นสีน้ำตาลดวงใหญ่ ผมเลยเลือกไปห้องน้ำของพวกพ่อครัวแม่ครัว ที่แยกออกไปด้านหลังเพราะช่วงนี้เป็นช่วงมื้อกลางวันคนก็ยิ่งยุ่งกันอยู่คงไม่มีใครมาใช้แน่นอน
ซึมเข้ามาถึงกางเกงในเลยแหะ…ซวยจริ๊ง ระหว่างที่คิดอยู่พลางพยามล้างคราบกาแฟออก ในสภาพท่อนล่างตุงมีเพียงกางเกงใน หวังว่าคงไม่มีใครมาเห็นนะ
โครมม…แกร็งๆ เสียงเหมือนกาละมังใบใหญ่ตกพื้นดังจนผมสะดุ้ง
เห้ยยย มีสาวฝรั่งผมสีน้ำตาลยืนอ้าปากค้างมองมาทางผมที่ข้างๆ มีกาละมังที่น่าจะทำตกกลิ้งไว้อยู่
“อะ…เอ่ออ It’s not what you think, I can explain.” มันไม่ใช่อย่างที่คิดนะครับ ผมอธิบายได้ สมองผมรีบรีดคำทุกอย่างออกมาแก้ต่าง ก่อนจะกลายเป็นไอโรคจิตอนาจารต่อหน้าฝรั่ง
“ขะ…ขอโทษค่ะๆๆ” กลายเป็นว่าแม่สาวคนนั้นกลับก้มหน้าพูดภาษาไทยใส่สะงั้น แล้วรีบหันหน้าหนีออกไปทันที
…ไม่รู้ด้วยความช๊อคหรืออดรินาลินจากความกลัวทำให้อยู่ดีๆ ผมดันเกิดความคิดพิสดารขึ้นมา
ถ้าเอาคนที่เป็นเจ้าของภาษามายืนรับแขกยังไงคนก็ต้องเชื่อมากกว่าคนไทยอยู่แล้ว
ผมรีบจัดการตัวเองแล้ววิ่งไล่ตามหาเธอทันทีแต่เธอก็ดันหายไปซะแล้ว ทำให้ต้องเดินไล่ดูทั่วโซนโรงอาหารก่อนจะไปสังเกตเห็นเธออยู่หลังร้านอาหารอีสานกำลังย่างปลาดุกอยู่ พอเจอผมก็ผมรีบเข้าไปหาเธอทันที แต่โดนลุงกับป้าเจ้าของร้านดักไว้ก่อน ทำให้ต้องคุยกับพวกเขาเพื่อสอบถามถึงเรื่องของเธอก่อน
เจน สาวฝรั่งสัญชาติอีสาน แต่ไม่รู้ว่าพ่อเป็นคนชาติไหนเห็นเป็นลูกติดมาไทยตั้งแต่แบเบาะแล้วพ่อตายทิ้งให้อยู่กับแม่เลี้ยง ทำให้โตมากับวัฒนธรรมอีสานแท้ มีสัญชาติไทยแต่ด้วยความที่โตมากับแม่เลี้ยงเดี่ยวและญาติพี่น้องทำให้ไม่ค่อยออกนอกกรอบหรือกล้าไปไหนมาก วุฒิการศึกษา ม.6 เนื่องจากฐานะที่บ้านกับสัญชาติที่ไม่ชัดเจนเลยไม่ได้เรียนต่อ หลังจบก็ช่วยแม่ทำนาทำไร่อยู่ที่บ้านนอกตลอด ที่ได้งานมาทำที่นี่ก็เพราะมาทำงานในเมืองพร้อมกับญาติๆ และเพื่อนในหมู่บ้านชวนมา
สาวร่างอวบออกเจ้าเนื้อหน่อยตามเชื้อชาติ ผิวขาวแบบทางฝรั่งคนละแบบกับเอเชียเรา ใบหน้าถ้าไม่บอกไม่มีใครคิดว่าเป็นคนไทยแน่ นัยตากลมโตสีเขียวผมสีออกน้ำตาลอ่อนๆ ดูไปทางยุโรปหรือรัสเซีย สำเนียงการพูดไม่ค่อยชัดไม่ใช่ติดอังกฤษนะ แต่เป็นอีสานมากกว่า ด้วยส่วนสูงแค่ 158 ซม. แต่หน้าอกน่าจะ 38 ขึ้น แม้จะอยู่ในเสื้อโปโล ขนาดกางเกงรัดรูปสีดำยังนูนเด่นออกมาทั้งหน้าและหลังชัดเจน ซึ่งไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายปติเธอจะใส่หน้ากากคลุมผมเรียบร้อยพร้อมกับผ้ากันเปื้อน ก้มหน้าอยู่หลังครัว ทำให้ไม่ค่อยมีใครรู้ถึงการคงอยู่ของเธอ ถ้าไม่ใช่ว่าวันนี้เพื่อนเธอที่เป็นแม่บ้านมาขอให้เธอเข้ากะแทนและผมไปทำกาแฟหกเข้าก็คงไม่มีใครรู้ถึงการคงอยู่ของเธอแน่
กว่าจะกล่อมให้เธอยอมคุยด้วยก็แทบแย่ แล้วยังต้องไปขอลุงกับป้าเจ้าของร้านที่เป็นนายจ้างเธออีก ด้วยการเหมาชุดใหญ่ ส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ลาบ น้ำตก เดี๋ยวค่อยเอาไปแจกจ่ายให้สาวๆ แต่ละแผนกละกัน งานนี้ควักเนื้ออีกละ…
ว่าแต่ลุงเขาทำไก่ย่างอร่อยดีนะ หนังกรอบเนื้อนุ่ม หอม แถมยังไม่แห้งจนเกินไปด้วย…
กลับเข้าเรื่อง กว่าจะให้เธอมาลองคุยสัมภาษณ์ได้ก็เกือบเย็น สีหน้าธอยังตื่นๆ นั่งตัวเกร็ง คงเพราะไม่รู้ว่าโดนเรียกมาด้วยเรื่องอะไร พอพี่แนทเดินเข้ามาในชุดสูทกับกระโปรงรัรูปที่สั้นขึ้นเรื่อยๆ เจนก็รีบพูดขึ้นมาทันที
“ห..หนูไม่เห็นอะไรเลยนะคะ ไม่เห็นพี่คนนี้แก้ผ้าอยู่หลังร้านเลยนะคะ เชื่อหนูเถอะ อ อย่าให้หนูออกเลยนะคะพี่” ยิ่งพูดยิ่งน้ำตาซึม นัยตาสีเขียวชุ่มชื่น ปากสีชมพูสั่น
พี่แนทหันมาเขม่นผมเล็กน้อย ก่อนหันไปปลอบเจน
“ใจเย็นๆ ก่อนนะคะ พวกพี่ไม่ได้จะไล่น้องออกหรอก ส่วนที่พี่คนนี้เขาทำเดี๋ยวพี่จัดการเองน้องไม่ต้องกลัวนะคะ”
พี่แนทเข้าไปลูบไหล่จนเจนใจเย็นมากขึ้น
“พอดีว่าบริษัทคนขาดอะ แล้วต้องการพนักงานรีเซปชั่นไว้สำหรับคอยต้อนรับแขกผู้ใหญ่จากต่างประเทศหน่ะ เอ่อ…พี่ว่าเราเหมาะมากเลยนะ สนใจมาทำมั้ย ไม่ต้องตลอดก็ได้แค่ช่วงการประชุมนี้ เดี๋ยวพี่ให้ค่าจ้างพิเศษด้วยนะ”
พี่แนทเริ่มเข้าประเด็นทันที แต่ดูเจนจะยังงงๆ ตามเรื่องไม่ทัน จึงต้องมาอธิบายรายละเอียดที่มาที่ไปของานครั้งนี้ก่อน
“ว่าแต่หนูอายุเท่าไหร่นะ” พี่แนทถามเจนอีกรอบหลังรู้ว่าเธอไม่ได้มีใบปริญญา และด้วยใบหน้าแบบฝรั่งทำให้เดาอายุจริงๆยากเข้าไปอีก
“เอ่อออ… 21 คะ” เจน ตอบเสียงยิ่งค่อยเข้าไปอีก
พี่แนทพิจรณาโครงหน้าของเจนอย่างละเอียด พร้อมกับอธิบายไปด้วย พอเจนเริ่มจะเข้าใจแล้ว แม้จะดูลังเลนิดหน่อยแต่ก็ยอมรับข้อเสนอจนได้
“งั้นขอทดสอบภาษาอังกฤษหน่อยนะ อย่าง สีเหลือง”
“เยลโล่ว”
“มีด”
“อีโต้ว”
“เตา”
“อั้งโล่ว”
สุดยอดมาก…ไม่ใช่ละ
หลังจากเล่นมุกตลกให้เธอผ่อนคลายก็มาลองทดสอบจริงๆ จังๆและพบว่าการพูดของเธอไม่มีปัญหาเลย แถมยังบอกรายละเอียดของแต่ละแผนกกับเส้นทางได้ชัดเจนอีกด้วย คงเพราะทำงานที่ตึกนี้มานานพอควร ทำให้พอจะคุ้นเคยที่ทางอยู่บ้าง
“เดี๋ยวนะ…สรุปก็คือเธออยู่ในหมู่บ้านที่มีแต่พวกฝรั่งขี้นกวัยเกษียณตั้งแต่ยังเด็กบวกกับแม่เธอก็พูดอังกฤษกับเธอมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้พูดได้คล่อง อย่างนี้ถูกมั้ย”
“เยส…คะ”
เป็นอันว่า เรื่องหน้าตากับภาษาไม่มีปัญหา แถมเธอยังรู้เรื่องราวต่างๆ ภายในบริษัทได้ละเอียดอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างว่าพวกพนักงานก็ชอบคุยเรื่องต่างๆ ระหว่างพักเที่ยงแถมเครือข่ายพ่อครัวแม่ครัวก็ช่วยกันกระจายข่าวดีเยี่ยมอีก แต่ติดอยู่ที่ปัญหาเดียว นั่นก็คือ บุคลิกภาพ
ว่าไงดีละ เนื่องจากเธอชอบห่อไหล่อยู่บ่อยๆ แถมยังไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองด้วย คงเพราะตอนเด็กๆ โดนล้อบ่อยแถมไม่เคยออกจากบ้านนอกด้วยเลยค่อนข้างจะตื่นๆกับคนแปลกหน้า แม้จะดูร่าเริงดีตอนอยู่กับคนบ้านเดียวกัน แต่พออยู่คนเดียวเธอก็ดูหงอลงอย่างชัดเจน
ผมกับพี่แนทมองหน้ากัน พอเห็นสภาพเธอก้มหน้าก้มตาพูดตอบเสียงเบาๆ ยิ่งทำเอาพวกผมไม่รู้ว่านี่เป็นความคิดที่ดีหรือเปล่า
แต่ยังไงก็มาถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ไปหาคนมาใหม่ก็เสียเวลา ทำให้นึกไปถึงแม่สาวใต้ที่ผมเคยช่วยแก้ปัญหาเรื่องความมั่นใจจนไปถึงเวทีระดับโลกมาแล้ว
…ลูกหว้า…
ลูกหว้ามาในชุดกางเกงยีนส์รัดรูปกับเสื้อยืดง่ายๆ แต่กลับยิ่งมีออร่ามากกว่าแต่ก่อนสะอีก แม้ว่าวันที่ผมลากเธอไปนอนด้วยจะไม่ทันสังเกต แต่เธอดูสวยขึ้นจริงๆ แถมทรวดทรงยิ่งกระชับแน่นมากกว่าเดิมอีก
“นี่ใครคะพี่” เจนเธอหันมาถามผมตอนบอกว่าจะเรียกผู้ช่วยมา
“ยามคนก่อนนะ เขาจะมาช่วยเธอติว” ผมตอบไปสั้นๆ ไม่อยากบอกว่าเป็นนางงามประกวดเวทีมาไม่งั้นเจนจะยิ่งเกร็งไปอีก
ลูกหว้าเริ่มจากเข้าไปละลายพฤติกรรมเธออย่างเป็นกันเอง คงเพราะเป็นสาวสู้ชีวิตเหมือนกันมาก่อนทำให้ดูจะเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว โดยมีพี่แนทเหมือนพี่สาวคนโตคอยร่วมวงด้วย
ส่วนผมก็ปล่อยให้สาวๆ เขาเคลียร์กันไป แล้วเอาพวกส้มตำไปแจกสาวๆ ทีละแผนก
นุ่น ไม่พูดไม่จารับถุงไปแล้วหนีเข้าห้องทันที
พี่เกด ไม่อยู่ที่ห้องจึงแขวนไว้ที่ประตู เพราะไม่มีใครกล้าไปยุ่งของๆแกอยู่แล้ว
พี่แคท…ลาไปหาหมอ
พี่ฟ้ากับฝ้าย กำลังวุ่นกับงานปิดบัญชี ผมจึงเอาที่เหลือฝากน้องในแผนกบัญชีให้ไปกินกัน
ส่วนสุดท้ายผมถือมาให้พี่นกที่ห้องกฎหมาย ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ปิดเครื่องไวเบรเตอร์ตั้งแต่เที่ยง
เมื่อรีบเปิดห้องไป พี่นกนั่งบนเก้าอี้ทำงานตาลอย กัดฟันกลั้นเสียงแน่น ตรงเอวยังสั่นกระตุกขับน้ำใสๆ ออกมาจนเป็นแอ่งน้ำขนาดย่อมตรงพื้น ท่อนบนเหลือแต่เสื้อกล้ามบางๆ กับกระโปรงที่ร่นขึ้นไปถึงเอว
ผมรีบเข้าไปประคองเธอขึ้นมาก่อนดึงเอาแท่งวงรีสีชมพูที่ยังสั่นไม่หยุดออกมา
“อดทนได้เก่งมากเลยครับ” ขนาดโดนไปตลอดครึ่งวันยังใจแข็งรักษาสัญญาได้ ทำให้ผมต้องรีบเนียนปลอบเธอไม่ให้รู้ว่า ผมลืมปิดเครื่องเอง
“อืมมมม…ไม่ต้องมาพูดเลย” พี่นกตัวสั่นไปหมด
“หิวไหมครับ นี่ผมซื้อส้มตำมาฝากเป็นรางวัลของคนเก่งน้า” ผมลูบหัวเธอไปแกล้งเนียนเอาของกินมาล่อ
“อย่ามาทำเหมือนพี่เป็นเด็กนะ” เธอพยามปัดมือผมออก แต่ตัวยังซบกับอกผม พอผมควักท่อนควยตั้งชี้ออกมา พี่นกก็คว้ามันไปรูดทันทีโดยไม่ต้องบอก
“หืม นี่ไปทำกาแฟหกมาใช่มั้ย” พี่นกทำจมูกดมแถวท่อนผมอย่างน่ารัก ก่อนจะพยามอ้าปากอมหัวบานเข้าไป ลิ้นตวัดแรงจนผมต้องจับหัวเธอไว้
ซี๊ดดด…สัมผัสฟันกับลิ้นตอนโดนท่อนทำเอาเจ็บอยู่บ้างแต่ก็ยิ่งเพิ่มความเสียว ยิ่งเห็นเธออมมันโดยไม่มีท่าทีต่อต้านยิ่งทำให้ความเสียวเพิ่มมากขึ้น จนผมจับเอวบางๆขึ้นมานั่งบนตัวผม โดยที่พี่นกจับท่อนผมไปทาบตรงร่องโดยไม่ต้องสั่งแล้วกดเอวลงมาเองเลย
 
“อ้าวพี่นก…ได้กลิ่นอะไรไหมคะ” พอผมเดินออกจากห้องพวกน้องๆ ในทีมพี่นกก็เดินสวนเข้ามาพอดี
“...กลิ่นส้มตำนะ พอดีมีคนให้พี่มา ไปเรียกน้องๆมากินด้วยกันสิ ถ้าไม่พอเดี่ยวพี่สั่งเพิ่ม” เธอคงแต่งตัวทันพอดี แต่ไม่รู้ไอกลิ่นที่น้องถามมันจะหมายถึง กลิ่น ส้มตำจริงๆ หรือเปล่านะ
.
.
.
ช่วงเลิกงานหลังจากนึกขึ้นได้ว่าทิ้งให้สามสาวติวกันอยู่ ผมจึงแวะไปดูที่ห้องประชุมส่วนตัวที่พี่แนทจองไว้ติวให้เจน
แกร๊กๆ ล็อคแหะ ผมจึงเอากุญแจสำรองออกมาไขประตูเข้าไป (ซึ่งผมมีกุญแจสำรองของทุกห้องเตรียมไว้อยู่แล้ว)
พอเปิดเข้าไปภาพที่เห็นก็ทำผมอึ้งตาโตทันที
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน