ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu

ชีวิตคู่ : ครอบครัว (NTR)

เริ่มโดย Koog Google, มกราคม 15, 2024, 09:39:48 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

Koog Google

ผมคือวิน อายุ 33 ปี จบคณะวิศวกรรมศาสตร์ ทำงานอยู่ที่บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ชีวิตของผมก็ธรรมดาตามประสาชายโสด ทำงานมีเงินเดือน เงินออกก็ไปละลายทรัพย์กับเหล้าสุรา มีผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาและออกจากชีวิตผมบ่อย ตามประสาหนุ่มโสด ผมจึงไม่ซีเรีย เพราะส่วนมากผู้หญิงที่ผมมีความสัมพันธ์ด้วยก็ได้มาจากตามร้านเหล้าทั้งนั้น

มันเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ยั้งยืน ผมจึงไม่ได้ให้ใจแลกไปจึงไม่ได้รู้สึกอินอะไร ไม่ซีเรียส เพราะผมก็มีแต่ได้กับได้

แต่กำแพงหัวใจที่ผมสร้างไว้ต้องพังลงไปตั้งแต่วันที่ได้พบกับคุณแพร

ผมจะเท้าความสั้นๆ เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้นจากการที่รุ่นพี่คนสนิทของผม เขาโทรมาเพื่อจ้างผมไปควบคุมงานในโครงการของเขา ซึ่งเขาเป็นข้าราชการตอนแรกผมก็ปฏิเสธ แต่เพราะเขาต้องการตัวผมมาก เขาบอกผมว่าเพราะผมมีฝีมือเขาไว้ใจผม และประเด็นหลักๆก็คือถ้าผมทำงานให้เขาเสร็จ ผมจะสบายไปทั้งชาติ เขาบอกขนาดนี้ยื่นโอกาสให้ขนาดนี้ ถ้าผมไม่รับก็เสียดายแย่

พอเจรจากันลงตัวถึงเวลาผมก็ลาออกจากงาน เพราะโครงการของรัฐมันใช้เวลาค่อนข้างนาน ซึ่งผมไม่ซีเรียสอะไร เพราะเงินเก็บผมก็มีใช้ไม่ได้ลำบากอะไร

ก่อนจะลงปฎิบัติงานเขาก็เชิญผมไปร่วมประชุมด้วย เขาวางแผนการสร้างกันเบ็ดเสร็จ ผมมีหน้าที่ทำหน้างานตามแบบแผนให้เขาอย่างสมบูรณ์แบบเท่านั้นเอง ซึ่งมันง่ายสำหรับจากประสบการณ์ทำงานมา 10 ปีของเขา แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือในตอนประชุม ผมได้พบกับคุณแพร ผมถูกใจเธอตั้งแต่แรกเห็น เธอสวยแบบที่มีออร่าแบบนางฟ้าท่ามกลางผู้คน เธอคนน้ันคือคุณแพร แล้วยิ่งผมต้องทำงานประสานงานกับเธอด้วย ยิ่งรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่รับงานนี้



พอถึงเริ่มงานผมก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่ตกบกพร่อง ซึ่งผมจะพบกับคุณก็อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง แล้วแต่รอบ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็คุยกับคุณแพรผ่านไลน์อยู่แล้ว และก็รู้ๆมาว่าเธอแต่งงานแล้ว ผมเลยต้องกินแห้วไป

ความสัมพันธ์ของผมกับคุณแพรนั้นตอนแรกเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมงานจริงๆไม่มีอะไรมากกว่านั้น

แต่ว่าผมได้ล้ำเส้นก่อนโดยคืนนั้นผมได้ไปเลี้ยงสังสรรค์กับคณะของคุณแพร โดยหัวหน้าของเธอเป็นผู้ชวนผมไปด้วยตัวเอง ผมก็ไปดื่มกับเขา ร้องเล่นเต้นรำกับคณะของเธอ ซึ่งมันก็กรึ่มๆแต่คนอื่นๆก็เมาเละแบบผมต้องห่ามไปส่งที่โรงแรม และ นั้นเป็นโอกาสที่ผมได้ทำเรื่องอย่างว่ากับคุณแพร

ผมยอมรับว่าผมหน้ามืดตามัว ตั้งแต่ที่ผมเกิดมาผมไม่เคยยุ่งกับเมียชาวบ้าน พูดได้เต็มปากว่าถ้าผมรู้ผมจะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเลย แต่กับคุณแพรผมกลับทำลายกฏที่ผมตั้งไว้สิ้น ผมขับรถไปส่งคุณทุกคนไปส่งถึงห้อง ยกเว้นคุณแพรที่ผมปล่อยให้เธอนอนเมาหมดสติอยู่ที่รถ และพอผมลงมาก็ยังเห็นเธอไม่ได้สติ ผมจึงพาเธอไปเปิดโรงแรมใกล้ๆ

พอเข้ามาในห้องก็อุ้มเธอไปวางบนเตียงและจัดแจงถอดเสื้อผ้าของเธอออกจนหมด หุ่นเธอดีมาก อวบอัดแน่นทุกส่วน หน้าใหญ่แบบถูกใจผมมากๆ ร่องกลีบกับหน้าอกอมชมพู เหมือนสาววัยรุ่น ทำเอาผมเองแปลกใจว่าเธอแต่งงานจริงรึเปล่า ...

ผมที่ตอนนี้อารมณ์หื่นมาเต็มระบบ ผมเริ่มถ่างขาเธอออกแล้วยื่นลงใช้ลิ้นละเลงที่กลีบ รสของเธอมันหอมมาก ผมเลียดูดของเธออย่างเมามันส์จนเธอตื่น "อือ...อ..."

"คุณวินคะ...ค่ะ ซี๊ดด"  เธอพยายามดันหน้าผมออก แต่ผมก็ขืนต้านแรงของเธอ

"อูยย อย่า...อย่านะ...ซ..ซ....คุณวิน..หยุดเถอะค่ะ"

ผมไม่ฟังที่เธอร้องขอเพราะมาถึงขั้นนี้แล้วจะเหี้ยก็เหี้ยให้สุด ซึ่งมันได้ผมทำให้เสียวจนยอมมีอะไรด้วย ผมที่อารมณ์ถึงขีดมันจึงหยุดไม่อยู่ก็เลยแตกในเธอไป ซึ่งดูคุณแพรเองก็ดูฟินมีความสุขมากตอนนั้น แต่ทุกอย่างจบลงผมก็ถูกคุณแพรตบหน้า เธอต่อว่าผม

"ทำไมถึงทำแบบนี้!"

"แต่ผมชอบคุณแพรนะครับ"

"ชอบ!? ชอบเหรอ! ชอบแล้วมีสิทธิ์อะไรมาทำกับฉันแบบนี้!"

"คุณแพรครับ ใจเย็นก่อนนะ"

"อย่า!" เธอตะหวาดใส่ผมราวกับคนเสียสติ ทำเอาผมรู้สึกผิดที่ทำแบบนี้กับเธอ ผมรู้สึกผิดมากๆ รับไม่ได้เลยกับสายตาที่เธอมองผมอย่างรังเกียจแบบนี้ เหตุผลนี้เองผมจึงทำทุกอย่างที่มีผมใช้คำพูดปลอบโยนสารพัด งัดทุกวิชาที่มีในตัวกว่าจะทำให้เธอผ่อนคลายลงได้

ผมกอดเธอพูดคำหวานซึ่งจากที่เธอร้องไห้ เธอเริ่มคลายมือลง เธอผ่อนคลายและเริ่มพูดดีกับผม

"คุณวินค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นแพรขอร้องอย่าบอกใครนะคะ"

เธอถึงขั้นยกมือไว้ผมทั้งๆที่เราก็อายุไล่เลี่ยกัน "ไม่ต้องห่วงนะครับคุณแพร ผมสัญญาว่าเรื่องนี้จะรู้กันแค่เราสองคนครับ"

"ขอบคุณนะคะ" เธอมองหน้าผมอย่างมีความหวัง

ผมจ้องหน้าเธอก่อนที่จะปาดคราบน้ำตาที่แก้มออก "ครับ"

หลังจากนั้นก็ให้อารมณ์นำพา เรามีกันต่อถึง 2 ยก รอบนี้เธอเต็มใจที่จะทำให้ผม ผมติดใจในรสชาติสวาทของเธอ เธอต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆที่ผ่านๆมา เธอเร้าร้อนและแพรวพราวมาก ผมชอบมากในจังหวะที่เธอขึ้นให้ผมจนผมอดใจไม่ได้ ผมแตกในใส่ไปในยกแรก



ยกที่ 2 ก็ตามมาหลังจากนั้นด้วยความที่น้ำของผมเต็มท้องคุณแพร ความสุขมันก็บังเกิดขึ้นตาม คุณแพรเป็นผู้หญิงที่ภายนอกดูเรียบร้อยผู้ดีมากๆ ซึ่งผมไม่คิดว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่อารมณ์รุนแรงขนาดนี้ พอเอาเข้าจริง คุณแพรดูเชี่ยวชาญในเรื่องนี้มากถ้าจะให้เห็นภาพ เหมือนผมกำลังเอากับซ้อที่ใช้เงินเปย์เด็กหนุ่มเลยก็ได้

"อ่าส์ เสียวไหมครับ"

"อืม..ม... ซี๊ด...ด.. เสีย..ว...เสียวค่ะ"

ปั๊บๆๆๆๆๆๆ  พั่บๆๆๆๆ  ยกที่สองบอกเลยว่าใช้เวลามากนานๆกว่าที่ผมจะเสร็จ ส่วนคุณแพรน่าจะเสร็จไปหลายครั้งแล้ว เเต่เธอก็เอ่ยปากบอกให้ผมหยุดเลย มีแต่จะเด้งสู้เด้งรับกลัดมันแบบถึงพริกถึงขิง เล่นเอาผมเหนื่อยเกือบหมดแรงกันไปข้าง แต่ก็มีความสุขสุดๆ ผมกับคุณแพรเรานอนพักเอาแรงดูเวลาอีกทีก็ตี 2 กว่าๆแล้ว ก็เลยพาลุกไปอาบน้ำกัน ซึ่งก็อย่างว่าผมที่อยู่กับนางในฝันแบบนี้ และไม่รู้เลยว่าหลังจากนี้จะมีโอกาสอีกไหม เผลอๆหลังจากนี้ผมอาจจะไม่เจอเธออีกเลยก็ได้ ผมคิดแบบนี้ก็เลยใช้เวลาที่เหลืออยู่จะว่าฉวยโอกาสก็มันก็ใช่ แต่ผมเชื่อว่าคนอื่นถ้าอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ แน่นอนว่าต้องทำแบบที่ผมทำ 100%

ผมทำกับคุณแพรในห้องน้ำ มันช่างเป็นประสบการณ์ที่ผมจำมันได้ดี เสียงของคุณแพรดังก้องในห้องน้ำ ตอนที่ผมจับเธอเนียบไปกับอ่างล้างหน้า ช้อนมือนวดคลึงเต้าที่ล้นมือช่างนุ่มนิ่มเหลือเกิน สัมผัสแล้วรู้เลยว่านี้คือของจริงไม่ได้ผ่านมีดหมอ ทั้งสะโพกบั้นท้ายของคุณแพรคือของจริงทั้งหมดทั้งตัว มันตรงไทป์ผมทุกอย่างแบบนี้จะให้ผมอดใจไหวได้ยังไง



หลังจากที่เราเสร็จกันไปแล้วงานเลี้ยงมีวันเลิกลา ผมขับรถไปส่งคุณแพรที่โรงแรมตอนตี 3 ผมอดใจไม่ได้อยากจูบคุณแพรก่อนจากลา เพราะผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้ ความสัมพันธ์ของผมกับเธอจะเป็นยังไงต่อไป

"คุณแพรครับ" ผมมุ่งหวังจะจูบเธอ

แต่ว่าคุณแพรกับเมินหน้าหนีและขัดขืนผม "พอแค่นี้เถอะค่ะคุณวิน แค่นี้ก็มากเกินไปแล้ว"

พอคุณแพรพูดแบบนี้ผมทำอะไรไม่ถูกเลยครับ หยุดทุกอย่างและปล่อยเธอลงจากรถไป ผมมองเธอจนสุดสายตาถึงจะขับรถกลับบ้าน ผมถึงตอนตี 4 กว่าๆ มีเวลานอน 3 ชม.ตื่นมาก็ออกไปทำงานโครงการ วันนั้นผมดื่มกาแฟไปเยอะกว่าจะตาสว่าง แล้วก็ได้พบกับคุณแพรตอนบ่ายมาตรวจงานกับคณะ ทันทีที่เจอกันเราคุยกันแค่เรื่องงานตามปกติเพราะเป็นหน้าที่ แต่วันนั้นคุณแพรสีหน้าดูหมองมนไม่สดใสเหมือนทุกครั้ง ซึ่งมันก็ไม่แปลกที่จะเป็นแบบนั้น และมีหลายคนที่ทักซึ่งคำตอบที่ให้ก็ "พอดีไม่ค่อยสบายค่ะ ขอบคุณทุกคนมากนะคะที่เป็นห่วง"

ผมอยู่ตรงนั้นมองเธออยู่ห่างๆซึ่งตอนเธอบอกทุกคนเสร็จ ก็มีการชายตามองมาที่ผมก่อนด้วยสีหน้าที่ไม่ดีเท่าไหร่นัก

หลังจากเรื่องคืนนั้น ผมกับคุณแพรกว่าเราจะกลับมาคุยกันปกติได้ก็ตอนที่เธอกับคณะเดินทางกลับแล้ว โดยการที่ผมบังเอิญไปเจอรถตู้ของคณะที่เสียกลางทาง ตอนที่ผมเลิกงานแล้วกำลังกลับบ้านพอเลยลงไปช่วย และสิ่งที่ได้กลับมาคือคุณแพรทักมาขอบคุณผม จากที่เราไม่ได้คุยกันเลยตั้งแต่ตอนนั้น



ผมตั้งตารอที่จะได้พบกับคุณแพรอีกครั้งหนึ่ง แต่การตั้งตารอของผมมันไม่กระทบกับงานที่ผมรับผิดชอบ เพราะผมมีวุฒิภาวะพอที่จะแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว

ซึ่งการรอคอยของผมคือการรอแบบที่ไม่ได้ทักหา เพราะผมกลัวว่าหากผมทักไปแล้วเกิดสามีคุณแพรเห็นเขา มันคงจะไม่ใช่เรื่องดีๆแน่ๆ และผมคงจะไม่ได้เจอเธออีกเลยก็ได้ การรอคอยของผมจึงค่อนข้างมีความหมายมาก เพราะผมไม่เคยคิดถึงใครเลยนอกจากคุณแพรคนเดียว และ กว่าที่ผมจะพบกับคุณแพรอีกครั้งก็ผ่านไปแล้ว 3 เดือน คุณแพรพร้อมคณะลงมาตรวจงานประจำทุก 3 เดือน โดยก่อนหน้าที่เธอจะเดินทางมาที่นี่ เธอก็ทักบอกผมก่อนแล้วนึกภาพดู ผมดีใจขนาดไหนและยิ่งมุ่งมั่นตั้งหน้าตั้งตาทำงานแบบสุดๆ

พอคณะของคุณแพรเดินทางมาถึงตรวจงานต่างๆแล้วเสร็จ ผมได้รับคำชื่นชมจากหัวหน้าของคุณแพร ซึ่งนั้นทำให้ผมรู้สึกดีแต่ที่น่าภูมิใจยิ่งกว่าคือคุณแพรชื่นชมการทำงานของผม ในตอนที่ผมนำเอกสารค่าใช้จ่ายไปให้เธอตรวจ

"โห่ ละเอียดมากเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณวิน แบบนี้ทำงานได้สะดวกมากเลย ขอบคุณนะคะ เก่งมากค่ะ"

ผมรู้สึกมีพลังและรู้สึกขอบคุณรุ่นพี่ที่โน้มน้าวผมให้มาทำงานนี้

การที่ผมทำงานออกมาดีเกินคาด ทั้งควบคุมหน้างานทั้งงานเอกสารเบิกจ่ายทุกอย่างเบ็ดเสร็จที่ผม จะบอกว่าต่อให้ตรงนั้นไม่มีคุณแพรผมก็ทำงานเต็มที่แบบนี้อยู่แล้ว และคณะของคุณแพรเขาก็ชอบที่จะทำงานกับผม เพราะผมทำงานละเอียดซึ่งเกื้อหนุนพวกเขาที่มาตรวจงาน ทำให้พวกเขามีเวลาเที่ยวพักผ่อนจากงานออฟฟิศแสนวุ่นวาย ผมเข้าใจตรงจุดนี้ดี แต่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่ทำงานกัน

อย่างที่บอกผมเกื้อหนุนพวกเขาเต็มที่นั้นอาจจะเป็นใบเบิกทาง คุณแพรกลับมาคุยกับผมปกติแบบเพื่อนร่วมงาน โดยที่ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอรู้สึกแบบนี้รึเปล่า

แต่ที่แน่ๆผมจะไม่ทำพฤติกรรมที่ส่อเเววชู้สาวกับคุณแพรในที่ทำงาน ผมทำตัวปกติไม่ได้ท่าทีอะไรให้ต้องสงสัย ทำให้คนในที่ทำงานและหน่วยงานของคุณแพรไม่มีใครรู้ความลับระหว่างเรา แต่เธอมักจะมีท่าทีอึดอัดหากมีใครพูดแซวผมกับเธอ ในใจผมก็อยากจะปกป้องคุณแพร แต่หากโต้ตอบกลับไปแน่นอนว่าความแตกแน่ และเหมือนคุณแพรจะคิดแบบเดียวกัน วิธีการหลีกเลี่ยงของเราสองคนคือการเว้นระยะห่างในที่ทำงาน เพื่อไม่ให้เป็นจุดสนใจของใคร แล้วเรื่องก็เงียบไปเอง

แต่นั้นคือตอนอยู่ในที่ทำงาน ตอนเลิกงานผมกับคุณแพรเราก็จะคุยกันหลังไมค์อยู่ตลอด จนในที่สุดผมก็ได้มีหลับนอนกับคุณแพรอีกครั้ง โดยผมเป็นคนชวนคุณแพรออกไปทานข้าวด้วยกัน ...

ผมพาคุณแพรไปดินเนอร์ตามแต่โอกาสที่เธอสามารถออกมาจากที่พักได้ ผมจะพาเธอไปเลี้ยงตามร้านอาหารหรูที่ราคาค่อนสูง แต่ทุกครั้งที่พาผมจะจ่ายเองทุกครั้ง เพื่อเป็นการเอาใจจนเธอออกปากว่า "ไม่ต้องพาไปเลี้ยงที่ร้านแบบนี้ก็ได้ค่ะ เกรงใจ"

"เต็มใจครับ" ผมยิ้มตอบ

แล้วเหมือนคุณแพรจะคิดอะไรอยู่ในใจซี่งผมไม่แน่ใจว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ "งั้นรอบหน้าพาไปร้านนี้ได้ไหมค่ะ"

"ครับ ร้านไหนบอกผมได้เลยนะ"

แล้วเธอก็ส่งรูปให้ผมดูซึ่งเป็นร้านอาหารระดับ 5 ดาว และพอถึงวันจริงๆที่ต้องไปบอกเลยว่าอาหารแพงหูฉีกกว่าร้านที่ผมพาไปรวมกัน 10 ร้าน  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน
Koog Google

x99

 มีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง ครั้งแรกแพรเมา วินต้องเต็มที่หน่อยนะเค้าจะได้ติดใจ

baitong haha


ryg123456

แบบว่านายวินจะถูกฟันค่าอาหารหัวแบะเลยไหม

jet081

ตัณหาก็เหมือนไฟได้ไหม้แล้วก็ลุกลามจนกว่าจะมอดไหม้จนหมดถึงหยุด

kodzilla

ไม่ว่าจะมองมุมไหน สามีก็เป็นคนที่น่าสงสารที่สุด เลวที่สุดก็น่าจะเป็น วิน

Somsaksri

แพรเจอผู้ชายดีๆทั้งสองคน แต่ต้องเลือกเพียงหนึ่งเท่านั้น
อีกคนต้องลาจากไป

Prik


bomomy


pakinai17

แพรร้อนแรงไม่ใช่น้อย วินเลยตืด

ssorameoww


sunnies

เรื่องเล่าสามมุมมอง แต่นังไงก็สงสารสามีเขาครับ

คนริมทาง

คนที่ผิดที่สุดคือวิน  รอติดตามว่าแต่ละคนจะมีผลสรุปแบบไหน


longman_44