ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_bigaud

ชะตาสวาท : EP.9

เริ่มโดย bigaud, มกราคม 28, 2024, 01:09:03 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

bigaud

" ตัวละคร สถานที่ องค์กร และเหตุการณ์ทั้งหมดในเรื่องเป็นเรื่อง สมมุติและแต่งขึ้น ผู้อ่านควรใช้วิจารญาณในการเสพ "


EP.9 : หยุดไม่ได้


หลังจากเรื่องราวของผมกับพี่จิว ร้านสกายวิว ผ่านไป โดยพี่จิว ก็ไม่ได้มีการเอ่ยพูดถึงเรื่องนี้เลย จนผมอดแปลกใจและรู้สึกอึดอัดจากสิ่งที่ทำกับเธอไปสองครั้งสองคราไม่ได้ แล้วความสัมพันธ์ของผมกับเธอในฝ่ายตลอดสัปดาห์ตั้งแต่เราหลังจากไปที่ร้านสกายวิว มันก็ดูอึมครึมไม่มีการคุยเล่นกันเหมือนเก่า จนผมทนไม่ไหว หลังเลิกงานวันพฤหัสผมจึงใช้ช่วงเวลาตอนพี่จิว เลิกชมรมลีลาศ  ผมตัดสินใจว่าจะไปขอโทษและปรับความเข้าใจกับแกเพราะคิดว่าสุดท้าย เธอคงจะโกรธเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะเรื่องแบบนี้มันไม่สมควรเกิดขึ้นด้วยซ้ำผมดันไปคิดเองว่าเธอจะโอเคกับเรื่องนี้
"พี่จิว ครับพี่ ผมปรึกษาอะไรหน่อยครับ"  ผม เอ่ยขณะเดินยกเครื่องขยายเสียงของชมรมเดินมาพร้อมกันเพียงสองคน
"หืม เรื่องอะไร เติม" พี่จิว เอ่ย

"คือ เรื่องที่เรา เอ่อ...ผมทำพี่ไป พี่ไม่โอเคกับผมหรือเปล่าพี่ เห็นช่วงนี้พี่จิว ดูเงียบๆกับผมน่ะครับ" ผมตัดสินใจเอ่ยถามไปตรงๆ ราวกับเราสองคนเป็นคู่รักกัน
"โถ่ เติม พี่ว่าเธอคิดมากไปแล้ว พี่ก็นึกว่าเรื่องอะไร ชั้นก็นึกว่าเรื่องอะไร" พี่จิว เอ่ยขึ้นมาทันทีที่ผมพูดจบ ก่อนเธอจะเอ่ยต่อ
"เอาจริงๆ นะเติม พี่ก็ไม่ได้ไม่พอใจหรือไม่โอเคกับเรื่องนี้ แต่เผอิญว่า 2-3 วันมานี้ ยายมิ้งน่ะซิ มาขอไปเรียนที่เยอรมัน พี่เลยมีเรื่องต้องคิดมากจึงไม่ค่อยรู้สึกโอเคที่จะพูดคุยกับแก เข้าใจนะ เติม"
"ครับพี่...." ผมตอบเสียงอ่อยๆไป เหมือนผมที่พลาดไปหงายไพ่ของตัวเองให้เธอเห็นก่อนซะงั้น พอเราสองคนได้คุยแล้ว เราสองคนก็ได้ข้อสรุปของเราสองคนว่าในวันทำงานที่บริษัทเราสองคนเป็นเสมือนหัวหน้าและลูกน้องที่สนิทกันทั่วไป แต่ถ้าในวันอื่น เราสองคนก็เปลี่ยนไปตามความต้องการเรื่องเพศของเราที่มีตรงกันไม่ต่างกับความสัมพันธ์แบบ FWB ที่ต่างต้องการในเรื่องเพศของกันและกันอยู่ตลอดซึ่งตรงนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าพี่จิว จะเข้าใจถูกต้องไหมเหมือนกันกับผมไหม แต่เรื่องสำคัญที่เธอย้ำนักย้ำหนาคือ  พี่จิว กำชับว่าภายในบริษัทอย่าให้เรื่องของเราถูกใครรู้โดยเด็ดขาดแต่เราถึงจะระวังก็มีบางครั้งที่พวกเราสองคนก็เผลอแสดงอาการต่อกันแปลกๆไปบ้างแต่เพราะคนอื่นคิดว่าการที่ผมและพี่จิว สนิทกันกว่า 3 ปีแล้วคงไม่มีอะไร เลยถือว่าเป็นโชคดีของเราไป  พูดถึงเคสนี้ที่เกิดขึ้นสำหรับพี่จิว ผมคิดเองไปว่าสิ่งที่เธอเจอและได้รับอาจจะไปทำไปปลุกความต้องการส่วนลึกของเธอที่มีแม้อยู่ในวัย 52 ปีแล้วก็ตามออกมา เธออาจจะห่างหายจากเรื่องพวกนี้เหมือนอย่างที่บอกมาจริงๆ ก็เป็นได้ จนมาเกิดเหตุการณ์ในวันที่กลับจากไปงานแต่งงานเข้า สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งๆที่ พี่จิว น่าจะโกรธหรือไม่พอใจด้วยซ้ำกับสิ่งผมทำไปกับเธอแต่ตรงข้ามดูเธอกลับไม่ได้คิดต่อว่าอะไรกับผมเพียงแต่กำชับในเรื่องเก็บไว้ไม่ให้ใครรู้พอแถมยังเหมือนกับเธอพึงพอใจและต้องการเรื่อยๆด้วยซ้ำ
หลังจากเราสองคนคุยกันเข้าใจตรงกันแล้ว พี่จิว ก็เอ่ยขึ้น
"งั้นอาทิตย์นี้ เจอกันไหม เติม จะได้สบายใจขึ้น "
"ได้ครับพี่" ผม รีบตอบตกลงทันทีราวกับเด็กที่โดนชวนไปเที่ยวสวนสนุก
เราทั้งสองเลยนัดเจอกันกับผมในเช้าวันอาทิตย์  เราสองคนนัดกันโดยพี่จิว ก็บอกที่บ้านว่ามีนัดกับเพื่อนส่วนผมบอกกับพิงค์ ว่าผมต้องไปทำธุระ แต่ว่าไปปกติผมกับพิงค์ เราสองคนในวันเสาร์อาทิตย์ ก็จะไม่ได้เจอกันหรือไปเที่ยวกันตามประสาคู่รักกันสักเท่าไหร่เพราะพิงค์ จะมักบอกว่าไม่ค่อยว่างหรือติดธุระกับครอบครัวของเธอเสมอจนผมไม่ได้สนใจเท่าไหร่นักแล้วตลอดที่คบกันมา เราสองคนจะมีกิจกรรมร่วมกันเช่นเดินห้างหรือทานข้าวกันในวันที่เธอไม่ได้ติดเรียนปริญญาโทในตอนวันธรรมดาหลังเลิกงานมากกว่าจนกลายเป็นเรื่องชินชาของผมไป  ส่วนพี่มน ครั้งนี้ผมดันลืมบอกเธอไปเสียสนิท
.
.
.
จนวันเวลาผ่านไปจนถึงวันนัด
9.37 น.
ขณะผมกำลังขับรถไปยังที่หมายหนึ่งอยู่นั้น โทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น
"กริ้งๆๆ"
"เติม โทษทีวันนี้ ว่างไหม" พี่มน เอ่ยถามออกมาทันทีเมื่อผมกดรับสาย
"เอ่อ มีอะไรหรือเปล่า" ผมเอ่ยตอบอย่างตะกุกตะกักออกไป
"ขับรถอยู่เหรอ โทษทีๆ งั้นไม่ว่าง ก็เป็นไร ไว้วันหลังก็ได้ มน ว่าจะชวนเติม ไปดูมือถือ ให้แม่มน หน่อยน่ะ งั้นแค่นี้นะ" พี่มน เอ่ย ก่อนเธอจะกดวางสายไปทันที
"พี่มน" ผม เอ่ย พลางคิดในใจว่า ' คงไม่มีอะไรนะ' เพราะตอนนี้ผมจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ผมกำลังจะไปมากกว่า
.
.
.
ณ เวลา 10.45 น.
ภายในโรงภาพยนตร์ย่านชานเมืองโดยผมที่ตอนนี้กำลังเอามือล้วงร่องสวาทของพี่จิว อยู่ในโรงภาพยนตร์ที่มีแทบจะไม่มีคนดู ผมและพี่จิว เราเลือกสถานที่นัดเจอกันเป็นบริเวณห้างแถวชานเมืองเพื่อความปลอดภัยของเราทั้งคู่ ผมเลือกโรงที่ไม่ค่อยมีคนนักเพื่อที่เราจะทำอะไรบางอย่างได้สะดวกเหมือนสมัยที่ผมเคยทำแบบเดียวกับอร สมัยเรายังเรียนมหาวิทยาลัยกันอยู่  ผมและพี่จิว เราสองคนนั่งอยู่แถวกลางๆ ชั้นบนสุดอยู่ในมุมที่ไม่ค่อยมีใครสังเกต
"อ๊า... อ๊า..."
เป็นเสียงของ พี่จิว ครางเบาๆ ออกมาหลับตาพริ้มนั่งที่นั่งแบบธรรมดาอยู่ข้างๆผม เวลาตอนนี้เธอคงไม่ได้สนใจหนังที่กำลังฉายอยู่เลย เป็นผมที่กำลังสอดมือผ่านขอบกางเกงเอี๊ยมผ้าสายเดี่ยวที่เธอใส่มาวันนี้ผ่านไปจนเลยผ่านขอบกางเกงชั้นในที่พี่จิว ใส่อยู่ลงไปสัมผัสกับเนินสวาทที่วันนี้ไม่มีขนปกคลุมเลยแม้แต่เส้นเดียวของพี่จิว  เมื่อผมสัมผัสเนินสวาทของเธอผมก็สัมผัสได้ถึงความชื้นแฉะตามแนวร่องบนเนินของเธอ แล้วผมก็เริ่มเกี่ยวนิ้วลากผ่านร่องสวาทของพี่จิว ลงไปช้าๆ จนค่อยๆ เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนเธอเริ่มควบคุมตัวเองไม่อยู่ จนตอนนี้ร่างของเธอส่ายไปมาบนเบาะนั่งและเริ่มร้องคราง
"อ๊าๆๆๆ...ๆๆ...ๆๆๆ...ๆๆ..."
เป็นเสียงพี่จิว ที่เผลอหลุดปากส่งเสียงครางลั่นโรงหนัง โชคดีที่หนังเรื่องนี้คนดูน้อยแถมเป็นถึงตอนจังหวะเสียงหนังดังพร้อมๆกับเสียงของพี่จิว พอดี เสียงเซอราวด์ของโรงหนังช่วยกลบเสียงครางของเธอลงไปได้  เรานั่งกันอยู่จนหนังจบผมกับพี่จิว ออกจากโรงหนังราวกับเป็นคู่รักต่างวัยที่ออกเดทกัน คนอื่นๆก็คงดูไม่รู้ มันดูเหมือนเราเป็นแฟนกันมากกว่า เพราะถึงพี่จิว จะอายุจะ 52 ปี แล้วก็ตามแต่แต่งตัวเข้าสมัยอยู่จนคนอื่นมองเธอยังดูไม่แก่มากนัก เราสองคนออกจากโรงหนังเลยกะว่าจะกลับกันเลยเราสองคนพากันเดินไปที่อาคารจอดรถ ผมกำลังจะเดินออกไปที่อาคารจอดรถ
" พี่จิว ก่อนกลับไปล้างตัวกันไหมเพราะตั้งแต่เราสองคนที่ห้องน้ำในห้องเราทั้งสองคนก็ยังไม่แวะไปล้างเลยนะพี่" ผมพูด
" แหม เติม ไม่ต้องมาเนียนเลย จะชวนชั้นไปไหนล่ะซิ" พี่จิว เอ่ยเหมือนรู้ทันผม
" ก็ถ้าผมชวนพี่เข้าม่านรูดก็กลัวพี่ว่าอ่ะ" ผมพูดต่อ
" ชิ จะไปก็ไป แต่ยังบ่ายอยู่นี่ พี่ไม่ว่าหรอก แต่เอาสะอาดๆหน่อยแล้วกัน" พี่จิว เอ่ย
ทันทีที่ผมได้ยินพี่พี่จิว พูดผมเลยรีบขับไปโรงแรมม่านรูดแถวนั้นที่ผมเล็งไว้ตั้งแต่ตอนขับผ่านมาเมื่อตอนมาทันที
.
.
.
 
"ตี้ดๆๆๆ"
"สวัสดีค่ะ อ้อ ว่าไง เติม" พี่มน เอ่ยทันทีเมื่อเธอรับสาย
"โหลๆ เมื่อตอนสายทำไมรีบวางจัง งอนป่ะเนี่ย เรา" ผมรีบเอ่ยถามพี่มน ไปในทันที
"เปล่าๆ ไม่มีอะไร กลัวมน งอนด้วยเหรอเติม" พี่มน ตัดพ้อออกมา โชคดีที่พี่มน เป็นคนง่ายๆ ปกติเธอก็โกรธใครไม่ได้นานอยู่แล้วนั้น
"แหม ๆ ไม่งอนดิ นะๆ"  ผมอ้อนพี่มน กลับไป
"จ้า ไม่งอนจ้า  วางเถอะเติม ขับรถอยู่นี่ เดี๋ยวมันอันตรายนะ" พี่มน ตอบกลับมา
"โอเค ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ บาย" ผม เอ่ยก่อนจะวางสายไป
.
.
.
.
หลังจากวันนั้นผมกับพี่จิว ก็จะหาโอกาสในตอนเช้าหลังจากที่ผมกับพี่จิว มาถึงบริษัทกันเราสองคนในเวลาที่สามีของเธอมาส่งถึงที่บริษัทในตอนเช้ามากๆ ช่วงที่คนในฝ่ายยังไม่มีใครมาก็จะแอบไปทำกิจกรรมกับผมอยู่บ่อยครั้งกันเรื่อยๆ  ที่ห้องน้ำลานจอดรถด้านหลังบ้างจนบางครั้งผมก็แอบเห็นพี่เดือนกับลุงดำที่หายไปจากป้อมรปภ บ้างแต่ผมก็ไม่ได้บอกอะไรพี่จิว ให้เธอรู้เรื่องที่ผมได้เห็นไป โดยเวลาที่เราสองคนปรนเปรอสวาทในที่ห้องน้ำนั้นโดยมากจะเป็นพี่จิว ที่ใช้ปากทำให้ผมซะมากกว่า ด้วยเพราะพี่จิว กลัวว่าชุดทำงานของเธอจะยับจนน่าสงสัยเธอเลยไม่ค่อยให้ผมช่วยทำให้เธอ และแน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ผมก็ปิดไม่ให้ พิงค์และพี่มน รู้มาโดยตลอดที่พวกเราคบหากันเช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของผมกับพี่มน ที่พิงค์ เธอเองนั้นคิดว่าความสัมพันธ์ของผมกับพี่มน เป็นเพียงพี่ในฝ่ายที่ทำงานเท่านั้นก็ตามถึงในบางครั้งเธอจะอดแปลกใจในระดับความสนิทสนมของผมกับพี่มน จนเอ่ยถามผมอยู่บ้างก็ตาม
.
.
.
.


 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

jaja

กับน้องพิ้งค์นี่จะสมยอมกันไหม หรือต่างคนต่างมีอีกคนอยู่

x99


Alan

จะบอกว่าเทครัว ก็ไม่ใช่ จะเทออฟฟิต ก็กะไรอยู่... แต่ระวังพิงค์ด้วยละกัน ชอบไม่ว่าง และคนเรียน ปอโท ส่วนมากมีอายุ มีประสบการณ์ เสือสมิงดันทั้งนั้น...

sakornsaeng

ขุนแผนเติมเริ่มจะหนักใจละ

Naratt

 ::Sobad::
แล้วจะไปทางไหนดีเนี่ยะ
::DookDig::

ryg123456

นายเติมนี้คั่วหลายคนเลยนะ
แต่น้องพิงค์นี่ยังงัยอยู่นา เป็นแฟนกันแต่ไม่มีเวลาให้กัน
นายต้องระวังหน่อยนะ

tip251226

ระวังความลับแตกนะเติม  สับรางให้ดีนะ

poster007

พี่มนน่าจะขอให้ไปเสียบย้างอ่ะนะอิอิสงใสอยากโดน

คนริมทาง

เหมือนจะห่างจากพิ้งค์นะ

boyguard


Rivermoon

จะรอดเก็บความลับไปได้นานแค่ไหนกัน

lonelinezzzzz


bergkamp10

น้องพิ้งค์เผลอๆเสร็จคนอื่นก่อน

pankea

บุญเติมจะปิดน้องพิ้งค์ได้ตลอดมั๊ยหรือต่างคนก็ให้อิสระกัน น้องเค้าเรียนป.โทย่อมมีทั้งเสือสิงห์กระทิงแรด ส่วนสาวใหญ่2คนนี้คงติดใจหญ้าอ่อนแบบบุญเติมซะแล้วแน่ๆ