สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ
ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย
แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 จนถึงปัจจุบัน
รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด
และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ มันเป็นกำลังใจอย่างดี
อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้
ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ
เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา
ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลังสามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับแสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3 แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะแสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
★★★★★★★★★★★แนะนำสาวๆหน่อยครับ
แม่เสือดาว พี่ใหญ่ของบรรดาสาวๆ ตัวท็อปร้านเกะ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
★★★★★★★★★★★เจ้าหญิงน้ำแข็ง ก็น้ำแข็งสมชื่อ แต่ยิ้มทีบอกเลยละลายยย
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
★★★★★★★★★★★แก้ม ยัยตัวแสบ นางมารตัวน้อย ซนๆป่วนๆ จนเราไม่เหงาเลย
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
★★★★★★★★★★★ความเดิมตอนที่แล้ว หลังจากที่หมดวันหยุดยาว
ผมก็กลับมาทำงานอีก ก็เจอโจทก์เก่าอย่างคารีน่า
แต่ก็กัดๆฟันผ่านมันมาได้ พี่แท-โอ กลับเกาหลีไปแล้ว
รวมถึงคารีน่าด้วย ผมก็ต้องกลับมาตั้งใจทำงาน
แต่ว่าเสาร์นี้ จะต้องพาสาวสาวไปบ้านสวนแล้ว
ตื่นเต้นวุ๊ยยยยยยย และแล้ววันศุกร์ก็มาถึงจนได้★★★★★★★★★★★เฮ้อ ตอนนี้ผมอยู่บนรถไฟฟ้ากำลังกลับหอพักนั่นแหละครับ พรุ่งนี้จะพาสามสาวไปที่บ้านสวนไหว้พ่อ ไหว้แม่ ซึ่งผมก็โทรบอกพ่อแล้วล่ะว่า พ่อ เดี๋ยวผมจะพาสามสาวไปบ้านสวนนะ ร้องอยากไปเที่ยวกันมากๆเลย พ่อบอกอื้มก็มาสิ่ ก็ดีเลย มาดูห้องน้ำด้วยว่าจะเติมตรงไหน ผมก็ถามไปว่าถึงขึ้นไหนแล้วล่ะ พ่อก็บอกว่าตอนนี้โครงอะไรเสร็จหมดแล้ว
ถึงเอ็งจะไม่โทรมาบอก พ่อก็ว่าจะโทรให้เอ็งมาดูอยู่ดีแหละไอ้ลูกหมา ผมก็บอกครับๆงั้นวันเสาร์นี้กลับบ้านนะ บอกแม่ด้วย พ่อบอกอืมๆ ก็นั่นแหละครับที่บอกพระบิดา เฮ้ออออ แล้ววันนี้กะว่าจะชิลด์สักหน่อย แต่นี่แหละครับชีวิตมนุษย์พอเราหวังไว้นิดหน่อย มันก็จะไม่ค่อยเป็นแบบนั้น วันนี้เองก็เช่นกัน
ย้อนกลับไปเมื่อซัก 6 ชั่วโมงที่แล้ว 12.00 พักกลางวันเหมือนเดิมครับ ผมไปกินข้าวคนเดียว แต่ยังไงก็ต้องไปเจอ ภาคีข้าวราดแกงอยู่ดีครับ ก็นั่งคุยกันไป พอกินหมด ผมก็ขอตัวไปพักผ่อนเดินแยกออกมาเลย ซื้อของอะไรเรียบร้อย ก็มามุมเดิมกดโทรศัพท์ต่อสายหาแม่เสือดาวก่อนเลย ดาวน่าจะตื่นแล้วล่ะ ดาวรับสายครับฮัลโหลพี่โทน ผมก็คร๊าบ แล้วก็ถามว่าคืนนี้จะมานอนค้างมั้ย หรือ จะมาเจอกันที่หอพักตอนเช้า ดาวบอกไปค่ะ ไปกันหมดนี่แหละ ลางานไว้แล้ว
ผมก็อ่ออื้มๆ โอเค แล้วชีวิตวันศุกร์ก็ดำเนินต่อไป เข้างาน ทำงาน ลุยงาน เคลียร์งาน ให้ลูกพี่ช่วย Re-check ก็ยังมีจุดต้องแก้ไขอีก เฮ้ออ สิ่งที่ผมรู้สึกรักแผนกนี่อย่างนึงคือ ถ้าเวลาพนักงานหญิงคนใน เป็นวันแดงเดือด จะมีการปักสัญลักษณ์บ้างอย่างตรงขอบของคอกโต๊ะทำงาน
ซึ่งผู้ชายในแผนกทุกคนจะรู้ตัวทันทีว่า อย่าไปแหย่ เชียวล่ะ ไม่งั้นถ้าแปลงร่างขึ้นมาล่ะชิบหายแน่ๆ ซึ่งแน่นอนครับเหมียวปักสัญลักษณ์นี้ไว้ รวมถึงพี่ๆบางคนด้วย เพราะงั้นคุณผู้อ่านจากตอนที่แล้ว ที่บอกว่าทำไมผมไม่รดน้ำให้เหมียวเลย คงเข้าใจแล้วใช่มั้ยครับ พลังทำลายล้างของผู้หญิงตอนวันแดงเดือนนั้น มันวัดค่าไม่ได้ ยิ่งกว่า infinity Stone 6 เม็ดรวมกันซะอีก
แล้วอยู่ดีๆไอ้ชาติหมา ก็พูดขึ้นมาว่า พี่ครับงานตรงนี้ไม่ละเอียดเลย คือไม่ได้หมายถึงเหมียวนะ แต่พี่คนนั้นก็ขึ้นธงเหมือนกัน ผมคิดในใจชิบหายแล้ว.... ผมรีบไปกระชากคอมันมาเลย ผมถามมึงแน่ใจนะว่าตรวจงานเรียบร้อยแล้วว่าพี่เขาทำไม่ละเอียด ไม่ใช่คุณมึงที่พลาดเอง มันสะบัดคอออกแล้วบอกเออดูดีแล้ว
อ้อสำหรับสมาชิกร้านเกะที่เข้ามาอ่านไม่นาน คงสงสัยว่าชาติคือใคร คือมันเป็นรุ่นพี่ที่ผมไม่คิดจะให้ความนับถือเลย มันทำงานแบบขอแค่เสร็จ อีลุ่ยฉุยแฉะ ซึ่งเอาตรงๆ ความสามารถของไอ้ชาติเรื่องการทำงานน่ะ มากกว่าผมซะด้วยซ้ำ แต่ก็ด้วยความขี้เกียจนั่นแหละ มันเลยมีสภาพงี้ ก็ตามนั้นครับ
ผมกับพี่อีกคน ที่อยู่ตรงนั้นล็อคคอมันออกมาเลย มันบอกเออดูดีแล้ว แต่ว่าพี่คนที่กำลังแดงเดือด ก็พูดขึ้นมาว่าชาติ ชาติตรวจไม่ดีอีกแล้ว อย่าให้ต้องพูดซ้ำได้มั้ย นั้นไงล่ะชิบหายละ แต่ไอ้ชาติก็บอกอ่อ เอ้อ ขอโทษ อย่าหัวเสียขนาดนั้นดิ้ เดี๋ยวหาอะไรหวานๆมาให้กินน๊าาาา เอาเค๊กมั้ย ผมกับพี่คนเดิม ไปลากคอมันมาอีกเลย โอยย ไอ้ชาติหมา
ผมถามว่ามึงจะเอาไปของหวานๆมาให้กินทำไม มันก็เถียงผมว่ากินของหวานๆ ช่วยใหอารมณ์ดีไง มึงรู้มั้ยวะเนี่ยคุณลูกประธาน ผมก็เลยบอกโอยย เรียนน้อยแท้ ผมพูดไปแบบนั้นเลย ผมบอกว่า ถ้าตอนโมโหปกติมันก็ใช่ แต่เอาของหวานไปให้คนที่อารมณ์เสียตอนเมนมากิน ก็ชิบหายอ่ะดิ่
มึงไม่รู้เหรอยิ่งกินของหวานๆ อารมณ์ยิ่งเหวี่ยง ผมก็พูดไปด่าไปจนลืมว่ามันเป็นรุ่นพี่ไปเลย โถ่ ไอ้ชาติหมา แล้วคือพออารมณ์คนแดงเดือดปะทุแล้ว มันไม่หยุดง่ายๆไง จากที่เหวี่ยงใส่ไอ้ชาติหมาคนเดียว ตอนนี้กลับมาเหวี่ยงใส่ผมด้วย
" อีโทนทำไมแกไม่ทำงาน คิดว่าเป็นลูกชายท่านประธานแล้วไม่ต้องทำงานเหรอ "
เอ๊าา อีหยังล่ะบ่าดนิ่ คือเป็นจั้งซั่นล่ะสู นั่นไงพลังของวันแดงเดือด.... ผมนี่รีบสลายตัวกลับมานั่งทำงานเลยครับ ปล่อยให้ไอ้ชาติหมาโดนด่าไปคนเดียว เหมียวเองก็อารมณ์บ่จอยเหมือนกัน ก็อย่างว่าแหละครับ วันแดงเดือด
วันนั้นก็คุยกันน้อยมากครับ ถึงเวลาเลิกงาน ผมก็ยิ่งทำตัวไม่ถูก เพราะใกล้เวลาที่จะพาสามสาวไปบ้านเร็วขึ้นไปอีกจังหวะเดินออกมา ก็เจอเหมียวพอดี ยืนตาขวางเลย แล้วก็เดินไปด้วยกันน่ะแหละ ผมก็ถามเป็นไงมั่ง ยังปวดท้องมั้ย เหมียวตอบอือ แค่นั้น.. ผมก็ไม่ถามต่อเพราะเดี๋ยวระเบิดลงอีก
ลงมาข้างล่าง เพื่อนเหมียวก็รออยู่แล้ว ผมหันไปถามว่า นัดเพื่อนเหรอน่ะ เหมียวบอกอื้อ จะไปหาไรกิน ผมก็ครับ คร๊าบบ เหมียวบอกไปละ ผมก็อื้ม.. จนเธอได้เหยียบตรีนผมแล้วบอกว่า ไม่มีอะไรหมั่นใส้ ผมก็ถามอ้าวหาเรื่องซะงั้น เหมียวบอกก็เมน มาอ่ะ... โอ้ จบละ จะตอบโต้ไงล่ะทีนี้
แล้วเหมียวก็ไปกับเพื่อนๆนั่นแหละๆ... ปกติวันศุกร์ก็คงไปกับเพื่อนๆแหละครับ... ถ้าเป็นคนอื่นๆล่ะนะ ส่วนผมพอเลิกงานก็อยากกลับบ้าน ผมไม่ใช่คนเก็บตัวนะ ซึ่งคุณผู้อ่านก็คงรู้แหละ และที่สำคัญวันนี้สามสาวจะมานอนด้วย ระหว่างเดินทางผมก็คิดนะว่า... ชีวิตผมมันก็เหมือนเดิมที่เพิ่มเติมคือ ในตอนที่เลิกงานกลับห้องพัก
จะต้องมีคนรออยู่ที่ห้อง มันก็รู้สึกดีนะเอาตรงๆ เอาตรงๆการกลับห้อง แล้วมันเงียบ... สำหรับผมมันก็ไม่ได้แย่อะไร อาจจะเพราะ ผมยังรักอิสระ รักความเป็นส่วนตัว อยากจะเดินใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว ไม่ใส่กางเกงในในห้อง หรือ อยากนะนั่งแผ่หลาที่โซฟาแบบตัวเปล่าล่อนจ้อน ซึ่งมันก็ดีนั่นแหละ แต่ว่าการที่สามสาวอยู่ด้วย มันก็ดีในหลายๆความหมายล่ะนะ ระหว่างทางพี่พลอยก็โทรมาหาครับ
พี่พลอย กิ๊กคนแรก ตอนม.4แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ผมก็ฮัลโหลพี่พลอย พี่พลอยบอกโทนจ๋าทำไรอยู่ ผมบอกว่ากำลังกลับบ้านเลยครับทพี่พลอยล่ะทำไรอยู่ พี่พลอยบอกกำลังจะไปดริ๊งกับเพื่อนนิดๆหน่อยๆ ซัก 3 ทุ่มจะกลับบ้าน ผมก็ถามว่าขับรถไปมั้ยเนี่ย พี่พลอยบอกเปล่าา เพื่อนจะมารับ ผมบอกเดี๋ยวๆแล้วเพื่อนพี่ยกแก้วด้วยมั้ยเนี่ย พี่พลอยบอกว่าเพื่อนคนนี้ไม่กินเหล้า มันแพ้เหล้าของจริงเลย ก็คงกินโค๊กแล้วแกล้งเมาดิบแหละ
ผมหัวเราะแล้วก็บอกอื้มครับดีแล้ว พี่พลอยก็หืมเป็นห่วงอ่ะดี๊ ผมก็บอกนะว่า ก็ห่วงสิ่ครับ พี่พลอย โหหห พูดงี้ไปหาเลยได้มะ ไม่กินแล้วเหล้า แว๊ปนึงจนผมวู่ปปป เพราะถ้าพี่พลอยมาจริงนี่งานเข้าเลยนะ แต่ผมก็เสี่ยงพูดไปว่า มาเด้ !!!!! พี่พลอยบอกไปก็เสียตัวอ่าดิ่ ผมก็หัวเราะ แล้วบอกว่า นอนจับมือเฉยๆ พี่พลอยบอก โถ๊ ไม่ไปละนอนจับมือเฉยๆไรเนี่ย อุตส่าห์ไปหาถึงกรุงเทพฯนอนจับมือเนี่ยนะ ผมก็หัวเราะเบาๆ แล้วพี่พลอยก็บอกอาทิตย์หน้าจะลงไปกรุงเทพฯนะ
ผมก็อื้มครับ มาเรื่อง งานอ่ะดิ่พี่พลอยบอกช่ายยยย จริงๆอยากไปหาด้วยแหละ แต่ก็ต้องบอกว่าเพราะงาน ผมบอกอื้ม แวะมาเจอกันนิดหน่อยก็ได้ พี่พลอยบอกคิดไว้ด้วยนะ ผมก็หืม.. งานเหรอ ผมค้องคิดด้วยเหรอนิ พี่พลอยบอกเปล่าา คิดด้วยว่าจะค้างกันที่ไหนดี อื้อหือออ นี่ผมตามไม่ทันเหรอเนี่ย เขินเลย
โดนพูดให้ไปโฟกัสเรื่องงาน พอโดนพูดแบบนั้นความบ้ากามก็หายไปเพราะคิดว่า พูดเรื่องงาน แต่โดนตบด้วยมุขค้างที่ไหนกันดีแบบหวานเจี๊ยบบ อื้อหือ ชงเอง ตบเอง ร้ายกาจมากพี่พลอย.. ผมบอกหูยยมีการเตือนด้วย พี่พลอยบอกแน่นอน เคลียร์วันให้พี่ด้วยล่ะ ... เอ่อ ผมก็ต้องตอบไปว่าได้เลยครับ พี่พลอยบอกไปละ ๆ ๆ ๆ ๆ เพื่อนขับรถมาแล้ว ผมก็คร๊าบบ ฝันดีล่วงหน้า พี่พลอยบอกอื้อออ
ฮู้ววววว ไม่คิดไม่ฝันเหมือนกันว่า ผมกับกิ๊กคนแรกในชีวิตจะได้มาเจอกันในวันที่เราโตเป็นผู้ใหญ่ ( ถึงจะยังเด็ก ) และเข้าใจอะไรหลายๆอย่างมากขึ้นแฮะ เอาตรงๆผมเองก็รู้สึกดีกับพี่พลอยมากๆนะ ฟังแล้วผมอาจจะเห็นแก่ตัว แต่ความรู้สึกตอนนี้มันไม่ได้มากเท่าเหมือนตอน ม.4 อาจจะเพราะผมเองก็ผ่านอะไรมาเยอะ ได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง จนเข้าใจในสิ่งนั้นๆ แต่การคุยกับพี่พลอยก็รู้สึกดี อยู่ดีแหละครับ และเรื่องแบบนั้นฮึ่มม มันเหมือนได้เติมเต็มกันและกันน่ะครับ อืม คุยกับพี่พลอยแล้วก็ต้องโทรหาจอย
จอย เลขาสาวแว่น
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แต่พอโทรไปจอยไม่ได้รับสายครับ สงสัยยังไม่เลิกงานแฮะ แต่แปปนึงจอยก็โทรกลับมา ถามว่ามีไร ๆ ๆ ๆ คำพูดอาจจะดูถามแบบขอไปที่ แต่เพราะการย้ำว่า มีไร ๆ ๆ ๆ ก็กลายเป็นการพูดคุยที่ดูผ่อนคลายดีครับ ผมบอกว่าไม่มีไรหรอก จะถามว่าทำไรอยู่ จอยบอกว่ากำลังจะพาพ่อกับแม่ไปหาไรกิน
ผมบอกเอ้าเหรอ อื้ม ๆ โทษทีๆ จอยบอกไม่เป็นไร อยากให้โทรหา ผมก็หืมไรนะ จอยบอกไม่มีไร วางสายก่อนนะพ่อลงมาแล้ว ผมบอกอื้มๆทานให้อร่อยๆ จอยบอกอื้อ ๆ ๆ แล้วก็วางสายไป ก็นั่นแหละครับวันนี้ทั้งวัน
กลับมาปัจจุบันที่เกริ่นไว้ตั้งแต่บรรทัดแรก พอวางสายกับจอยผมก็เหม่อเลยล่ะทีนี้ ไม่รู้จะทำไรต่อดี รถไฟมาถึงสยามก็เดินย้ายฝั่งเปลี่ยนสายไป ศาลาแดง ช่องนนทรี พอมาถึงช่องนนทรีฟ้าก็เริ่มมืดลงนิดหน่อย ผู้คนก็เดินกันเยอะ ก็นะช่วงเวลาเร่งด่วนนี่นา
แปปนึงมิ้นต์โทรมา ผมก็นับสาย มิ้นต์ถามถึงไหนแล้วพี่โทน มิ้นต์บอกตอนนี้รวมกันอยู่ที่คอนโดแก้ม แล้วถามว่าผมอยู่ไหน ผมก็มองๆ แล้วบอกอยู่ถนนนาราฯแล้ว มิ้นต์บอกอื้อ งั้นพวกมิ้นต์จะได้ไปคอนโดเลย ผมบอกเดี๋ยวๆทำไมไม่ขึ้นไปรอบนห้องเลยล่ะ มิ้นต์บอกไม่เอา ถ้าให้ไปนอนเฝ้าก็ว่าไปอย่าง ผมก็เอ่ออื้มกลัวอะไรกันนิ หรือว่า . . . . เฮ้อออ ก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ ผมก็บอกโอเค ๆ ๆ ๆ พอมาลงแยกพระราม 3
แล้วผมก็ต่อพี่วินไปที่หอพักครับ มาถึงเจอเจ๊เตยกำลังง่วนกับการต่อเติมห้องฟิตเนส เจ๊เตยเห็นก็เดินมาถามเลยว่า อีโทนเดี๋ยวเอาพวกเอกสารนี้ไปหน่อย เอาไปดูหน่อยว่า เครื่องไหนน่าจะเอามาบ้าง ผมก็ครับๆ แล้วก็รับมา ผมถามเจ๊เตยกินข้าวยัง เจ๊เตยบอกบ้าละ ยังไม่ 1ทุ่มเลย เจ๊กินข้าว 1ทุ่มลืมเหรอ
ผมบอกก็ไม่รู้นี่ เจ๊เตยบีบจมูกแล้วบอกแหม ๆ ๆ กับสาวๆคนอื่นน่ะจำแม่นใช่ซี๊เจ๊ไม่จำเป็นนิ ผมบอกโห !!! ใครพูดแบบนั้น เจ๊เตยก็หัวเราะและขยี้หัว ๆ ๆ แล้วบอกว่าอาทิตย์หน้าต้องกินยาอีกนะป๊าสั่งมา โอ้โห ฟ้าผ่าลงใจอ้าย ผมก็ถามว่าไม่กินได้มั้ย ผมไม่ได้ป่วย แล้วก็นอนพักผ่อนเต็มที่เลยนะเจ๊เตย อังคาร พุธ พะหัด ( พฤหัสบดี ) นอนก่อน 5ทุ่มทุกวันเลย
เจ๊เตยบอกว่า แต่หมิวบอกว่าอยากให้ช่วยหายาบำรุงให้ เจ๊ไปปรึกษาป๊า ป๊าก็เลยจะจัดให้ โอยย จะร้องครับ แต่ผมก็ต้องทำใจแหละ ผมบอกอื้อก็ได้ แล้วผมก็ขอตัวขึ้นมาพักเลย ซึ่งพอขึ้นมาข้างบน ผมก็อื้ม... มาจริงแฮะ ผมเดินไปที่ตู้เย็น หยิบผลไม้ออกมา 2ลูก ลูกนึงวางใส่จาน อีกลูกนึงเอามากินเอง ผมก็นึกในใจ เอ่ยถึงใครบางตนแล้วบอกว่ามากินซะ วันนี้เลี้ยง แปปเดียวจานก็มีเสียง กริก กริก กริก
ผมบอกว่าเลี้ยงที่คราวก่อนที่มาบอกเรื่องพ่อว่าจะมา แต่โทษทีว่ะที่พี่ฟังไม่รู้เรื่อง ขอบใจนะ ผมพูดไปแบบนั้นแต่ก็ไร้เสียงตอบกลับมา ซึ่งก็เข้าใจได้แหละ ผมบอกเอาเดี๋ยวพรุ่งนี้จะพา ดาว มิ้นต์ แก้ม ไปบ้านสวนนะ อย่าโชว์อะไรมากมายล่ะ ยัยตัวแสบยิ่งกลัวๆอยู่ มีเสียงตอบกลับมาข้างๆหูว่า อือ แค่อือสั้นๆไม่ใช่ อืออออออออ แบบชวนขนลุก
ผมบอกโอเค ๆ ๆ ไม่มีไรแล้วแค่นี้แหละ แล้วผมก็ได้ยินอะไรบางอย่างกลับมา ผมก็เลยตอบกลับไปว่า เฮ้ยยย เดี๋ยวโทรไปหาย่าเองแหละไม่ต้องฝากบอกอะไรหรอก รู้จักมั้ยโทรศัพท์มือถือน่ะ แล้วตอนนี้ย่าก็ยอมพกมือถือแล้วด้วย โอเคนะ ปีใหม่ว่าจะกลับหมู่บ้าน ไว้ค่อยคุยกันแบบรู้เรื่องกว่านี้แล้วกัน
เสียงๆนั้นเคี้ยวแจ๊ป ๆ ๆ แล้วบอกครับพี่ตะวัน แล้วหายไปเลย เฮ้อถ้ากลับไปหมู่บ้านรอบนี้ คงต้องยกพานไปขอให้ปู่กับย่าสอนแบบจริงๆจังๆแล้วล่ะ มันก็แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละบุคคลแหละครับ แล้วไอ้คุณไสยอะไรนั่นย่าก็ไม่เอาออกให้เหมือนปล่อยไว้แบบนั้น เฮ้อ ผมจะเป็นผู้ใช้คุณไสยระดับพิเศษป่ะนิ มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดซะด้วย เอาล่ะโทรศัพท์ก่อน
ผมก็โทรบอกมิ้นต์ว่าพี่ถึงแล้วนะ มิ้นต์บอกอื้อคำเดียวแล้วก็วางสายเลย ระหว่างนั้นผมก็เก็บเสื้อผ้าที่ใส่ระหว่างอาทิตย์ มาแยก ใส่ตะกร้าไว้ เพราะว่าวันนี้ผมต้องจัดการซักและเอามาตากให้เสร็จให้หมด เพราะไม่รู้ว่าจะกลับมาที่หอพักวันอาทิตย์ตอนกี่โมง ผมก็แยก ๆ ๆ ๆ แต่อย่างที่รู้ๆกันครับว่าคอนโดตรงโค้งต้นตาล มันไม่ได้ไกลจากถนนจันทน์ซึ่งเป็นพื้นที่ของหอพักอ่ะแหละ
พอกำลังแยกเสื้อผ้า แวะเดินไปกินหนมบ้าง เปิดคอมฯ และเปิดยูทูปฟังเพลงบ้าง แล้วดันเป็นเพลงนี้ซะด้วย
แปปนึงก็ก๊อกๆ ๆ ๆ เสียงเคาะห้องแล้วตามมาด้วยแจ๋วแหววว่า คนน่ารักมาแล้วง่า เปิดให้หน่อย อื้อหือยัยตัวแสบ ผมเดินไปเปิดประตูนะ แก้มบอกฮี่ ๆ ๆ หาที่นอน หาที่นอน มิ้นต์ก็เกาะหลังแก้มไปแล้วบอกว่า เค้านอนก่อนจิ่แก้ม ก็มีแต่ดาวแหละครับที่ปิดประตู แล้วกอดเอวผม เธอตีแขนเบาๆแล้วบอกยังไม่อาบน้ำเหรอพี่โทน ผมบอกว่าพึ่งกลับมาถึงเลยเนี่ย ก็แยกผ้าจะเอาไปซัก
เพราะไม่รู้ว่าจะกลับมากี่โมง กลัวว่าถ้ากลับมาตอนเย็นๆจะขี้เกียจ ดาวบอกอ้อ แล้วท่อนฮุคก็วนมาพอดี
*ฉันคิด ฉันคิด ฉันคิดถึงเธอหมดใจ
*ฉันหวง ฉันหวง และชั้นห่วงเธอมากมาย
ดาวก็เอียงคอถามผมว่า นี่ตั้งใจเปิดเพลงป่ะเนี่ย ผมก็บอกว่าวนมาพอดีเลยแฮะ ดาวก็กอดเอวผมแล้วจุ๊ปทีนึง แล้วดาวก็พูดว่า เอ้า ๆ ๆ ใครรู้ตัวว่าเป็นแฟนก็ช่วยพี่โทนแยกเสื้อผ้าหน่อยได้มั้ย ผมก็หืมอะไรล่ะนั่นแล้วแปปเดียวเท่านั้นแหละ ขลุก ๆ ๆ ๆ มิ้นต์กับแก้มวิ่งกันดุ๊กๆ ๆ ๆ ๆ มาตรงโซฟาที่ผมกำลังแยกเสื้อผ้าค้างไว้
แก้มบอกไหนๆ ๆ ๆ เก็บผ้าอันไหนพี่โทน ซึ่งระหว่างแก้มถามนั้น มิ้นต์ก็เดินดุ๊กดิ๊ก ๆ ๆ ไปนั่งตรงกองผ้าที่ผมแยกค้างไว้เมื่อกี้ แก้มก็ร้องแง่ะ... แล้วบอกมิ้นต์ขี้โกง แล้วยัยตัวแสบก็ไปแยกผ้าอีกกองนึง ซึ่งมันก็ไม่ได้เยอะมากหรอก ดาวก็หังวเราะเลยครับ
ผมก็ถามว่ากินไรกันมายัง แก้มบอกยัง ๆ ๆ หิวมากมายเลย แต่ดาวก็บอกว่า วันนี้สั่งมากินแล้วกันนะ จะได้ไม่ต้องล้างจาน แก้มบอกเย้ งั้นหนูขอต้มยำกุ้งย้ำข้น มิ้นต์มองหน้าแล้วบอกเอาผักพริกสด ดาวถามพี่โทรกินไรดี ผมก็ฮึ่มมม อยากกินมาหลายวันแล้วววววว ผมก็บอกไปว่า ไข่เจียว
มิ้นต์ถามอะไร กินไจ่เจียวเนี่ยนะ ผมตอบอื้ม.. ก็ที่นี่มันทอดไม่สะดวกนี่ เลยไม่ค่อยได้กิน แล้วอยู่ดีๆมิ้นต์ก็ลุกขึ้น แต่ดาวก๋เยรกเอาไว้ว่า ถ้าจะไปถอดไข่เจียวล่ะหยุดเลย มิ้นต์เบรกเอี๊ยดเลยครับ ดาวบอกว่า ก็เพิ่มไปในรายการจะซื้อก็ได้ป่ะ มิ้นต์ก็บอกไร ใครตะทอดไข่ ไร้สาระ แล้วก็กลับมานั่งเหมือนเดิม
แก้มบอกแล้วบอกอ่าว แล้วลุกทำไมง่ะ มิ้นต์เค้าเมื่อยเฉยๆ ลุกยืดเส้นยืดสาย ดาวหัวเราะเลยครับ มิ้นต์ก็ถามหัวเราะไรพี่ดาว ดาวบอกแหม ๆ ถ้าไม่ทัก ป่านนี้คงเปิดตู้เย็นหยิบไข่มาตอกใส่ถ้วยแล้วมั้ง มิ้นต์ไม่ตอบครับ แยกผ้า ๆ ๆ แก้มก็เลยหัวเราะ 555 แล้วพูดว่า จะเอาใจแฟนแก้มเหรอมิ้นต์
มิ้นต์ยอก ไรแก้ม แฟนไร แก้มบอกม่ายรู๊วววว ผมอยากอาบน้ำจัง ก็เลยบอกงั้นพี่วานแยกหน่อยนะ เดี๋ยวพี่จะเอาลงไปซักเอง แต่ขออาบน้ำก่อน พอเดินผ่านสองสาวก็ลูบหัวเบาๆ ทั้งคู่ แล้วก็เดินเข้ามาในห้องหยิบผ้าขนหนู อาบน้ำ ระหว่างนั้นดาวก็คงโทรสั่งกับข้าวแหละครับ...เฮ้ออ อาบน้ำ ๆ... อื้อหือ การประปาใจดีให้น้ำอุ่นใช้ฟรี ทุกครัวเรือนอื้อหือ
เปิดมาวูบแรก หลบไม่ทันครับ ร้อนว่าบเชียวมต้ งเปิดทิ้งไว้ สักหน่อย ถึงอาบได้ปกติ เอาตรงๆนะ อาบน้ำคือแทบจะไม่สดชื่ออะไรเลย คือใคาจะเรียกฤดูฝน หน้าฝน ก็แล้วแต่ เพราะสำหรับผม มันคือหน้าร้อนที่มีในตกแค่นั้นแหละ อาบน้ำออกมาถ้าเจออุณหภูมิห้องปกติ ก็แทบจะไม่ได้ความสดชื่นเลย ดีที่มีแอร์
แปปนึงดาวมาเคาะก๊อกๆ ๆ แล้วบอกพี่โทน ดาวไปเอากับข้าวก่อนนะ ผมถามอ้าวเขาไม่ส่งเหรอ ดาวบอกว่าร้านบอกว่าวันนี้ออเดอร์เยอะเด็กส่งไม่ทัน ผมก็อ้ออื้มๆ ๆ ก็เข้าใจแหละครับ ว่านอกจาก พิซซ่า ไก่ทอด หรือ แฮมเบอร์เกอร์ ก็นะสมัยนั้นยังไม่มี platform Food delivery แบบสมัยนี้นี่หว่า ผมบอกค้าบ ๆ ๆ ๆ
แล้วพอ ออกมา ฮู่ววว หลังอางน้ำเสร็จ แล้วได้เจอแอร์เย็นๆ แบบนี้ค่อยสบายใจหน่อย ด้วยความที่ผมนึกว่าไปกันหมด ผมก็เลย ลุ้ยยย เดินใส่ผ้าขนหนูเดินโทงๆเข้าห้อง แล้วพรึ่บ สลัดผ้่ออก ปลดปล่อยมังกรที่หลับไหลให้ออกมา ผงาดนภา แต่ว่า... เอ่อ มิ้นต์นั่งพับผ้าอยู่ในห้อง มิ้นต์ร้องเลย ไอ้พี่โทน ไอ้บ้ากามทำไรเนี่ย
ผมก็ตกใจ เอ๊า !!! ไหงมาอยู่นี้เนี่ย ไม่ได้ไปกับดาวเหรอ คือทั้งๆที่ทำกันไปไม่รู้ตั้งกี่ครั้งนะ แต่ก็ยังทำตัวไม่ถูกแฮะ มิ้นต์เองก็เหมือนกันครับ ทั้งๆที่คราวก่อน ก็รุก ก็บุกผมเต็มที่ แต่ตอนนี้กลับเบือนหน้าหนี ผมก็รีบพาด ๆ ๆ ผ้าขนหนู แล้วบอกไม่รู้ว่าอยู่
ผมก็รีบใส่เสื้อผ้าใส่ๆ ๆ ๆ ๆ มิ้นต์ก็หันหลังพับผ้าต่อจนผมมานั่งตุ้บข้างๆ มิ้นต์ก็บ่นไอ้บ้ากาม ผมก็บอกเอ๊า ก็ไม่รู้นึกว่าไปด้วยกันหมด มิ้นต์บอกเมื่อยขาไม่อยากเดิน ผมก็อ่ออื้ม ผมมองมิ้นต์พับผ้า . . . . เอ่ออ สงสัยและไม่เข้าใจทำไมผู้หญิงตอนพับผ้าดูเหมือนทำแบบลวกๆ ขอให้จบๆ แต่ผ้ากลับเป็นระเบียบเรียบร้อย
ต่างกับผมที่พยายามแล้ว พยายามอีก แทบจะเอาไม่บรรทัดมาทาบแล้วพับ แต่พอวางและขยับนิดเดียวเผละ !!! ไม่สวย อะไรวะเนี่ย ผมก็มอง ๆๆ ๆ มิ้นต์ถามมองไรไอ้บ้ากาม อย่ามาคิดหาทางทำไรนะวันนี้จะนอนเร็ว ผมก็บอกเดี๋ยว ๆ พี่ยังไม่ได้คิดอะไรเลย มิ้นต์แหละคิดเองอ๊ะเปล่า มิ้นต์เธอหันมาทุบ ๆ ๆ ๆ ที่แขนผมเลย
ผมก็เลยจับข้อมือไว้เบาๆ แล้วกดเธอให้นอนลงเบาๆ แล้วมิ้นต์ก็ทิ้งตัวนอนลงจริงๆ ผมก็เลยเข้าไปพูดใกล้ๆว่าหรือคิดอะไรอยู่ล่ะเนี่ย แล้วอยู่ดีๆมิ้นต์ก็ยื่นหน้าจูบบบ ผมแทนเลยล่ะ ผมนี่ฮึ๊ในใจเลยล่ะครับ มิ้นต์ถามว่าไปบ้านพ่อแม่พี่จะไม่ว่าเหรอ ผมก็บอกว่าไม่หรอก แล้วก็ทิ้งตัวนอนข้างๆมิ้นต์นั่นแหละ มิ้นต์ก็พลิกตัวมาแล้วถามว่าแน่ใจนะ กลัวไปแล้วพ่อแม่พี่จะไม่ชอบอ่ะ
ผมก็เลยบอกไปว่า พ่อกับแม่พี่ไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก พ่อพี่ก็เคยเจอพวกมิ้นต์แล้วนี่นา ก็ไม่เห็นพ่อจะพูดอะไรเลย พ่อกับแม่พี่เขามองคนจากพฤติกรรมน่ะ ถ้าไม่ได้ทำไรไม่ดีก็ไม่เห็นต้องกังวลเลยหนิ มิ้นต์บอกไม่รู้อ่ะก็ไม่เคยไปบ้าน..... ใครหนิ ผมถามหืมอะไรนะพูดไรนะ มิ้นต์บอกไม่มีไรจะพับผ้าแล้ว ผมบอกเดี๋ยวๆเมื่อกี้ยังพูดค้างๆอยู่เลย มิ้นต์บอกไร ไม่ได้พูดไร พี่หูฝาด
แล้วมิ้นต์ก็ทุบ ๆ ๆ แล้วบอกว่าพอเลยไม่ต้องมาทางบิ๊วเลย วันนี้พวกมิ้นต์จะนอนไว ไม่งั้นผิวไม่เด้ง ผมก็อะไรเนี่ยยยย มิ้นต์บอกอุตส่าห์ลางานจะได้นอนเยอะๆ อย่ามาหาเรื่องทำลามกนะไอ้พี่โทน ผมก็ว่าเอ๊าอะไรเนี่ย คือลึกๆแล้วในใจชายโฉดแบบผม ที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นก็ตั้งแต่วัน อังคาร พุธ พะหัด ( พฤหัส ) ฮื้มมมม สามวันแล้วมันก็มีฟื่ดฟ่าดดด กันบ้าง แต่โดนมิ้นต์เตะตัดขาก่อนเลยแฮะ สงสัยวันนี้กับมิ้นต์นี่อดแน่ๆ
แล้วตอนนั้นแก้มกับดาวก็มาแหละครับ พอเห็นผมกับมิ้นต์อยู่ด้วยกันในห้องแก้มก็ร้องเสียงหลงเลยนะ แล้วก็เข้ามากอดมิ้นต์แล้วบอกว่า พี่โทนห้ามเลยนะ ห้ามเลย วันนี้พวกหนูจะพักผ่อน จะนอนเยอะๆ จะได้เฟรช ๆ ผมก็คิดละว่าเอ้าแก้มก็ด้วยเหรอ ผมเลยลุกแล้วไปข้างนอกเลย เห็นดาวกำลังจัดการกับพวกกับข้าว
ผมก็เลยไปช่วยนะ ดาวหัวเราะแล้วบอกว่า แอบทำอะไรกันเปล่าเนี่ยพี่โทน ผมบอกป่าววววว ไม่ได้ทำไรเลยครับ ดาวหัวเราะ ๆ แล้วก็แกะกับข้าว ผมก็แกะ ๆ ๆ ดาวก็เอนหัวมาพิงแล้วบอกว่า ตื่นเต้นอ่ะทำตัวไม่ถูกเลยเนี่ย ผมก็บอกว่าก็ทำตัวตามปกติแหละดาว แล้วแปปนึงแก้มก็ออกแล้วพูด พี่ดาวไหนบอกว่าวันนี้จะงดกันไง
ดาวก็หัวเราะแล้วบอกอะไรนังหนูแค่ซบเอง แก้มบอกขี้โกง มิ้นต์ก็พูดว่า พูดเองแท้ๆ ทำเองซะได้ ดาวบอกอาไรนังหนูอาไร แกะกับข้าวอยู่เนี่ยจะกินกันมั้ย ผมก็เลยบอกว่ามาช่วยแกะหน่อย พี่จะไปยกโต๊ะ มิ้นต์กับแก้มก็เดินมา ยัยตัวแสบไปหยิบจานครับ ส่วนมิ้นต์ไปดูพวกน้ำ ผมก็ยกโต๊ะมา
เอาข้าวมาวาง เอาแกงมาวาง แล้ว DINNER ใต้แสงนีออนก็เริ่มขึ้น เราก็พูดคุยกันว่าจะไปกี่โมงๆ แก้มบอกเง้ออ ไปเช้าเกินไปมั้ยง่ะ ผมก็เลยบอกว่า ยิ่งไปเช้าก็ได้อยู่บ้านพี่นานขึ้นนะ มิ้นต์ก็บอกว่าไปตี5 เลยก็ได้นะไม่ติดอะไร แก้มบอกเง้อออ รอฟ้าสว่างก่อนจิ่มิ้นต์ง่ะ ผมก็หัวเราะนะ ดาวก็เลยถามว่าบ้านพี่โทนเป็นแบบไหนเหรอ แล้วมีกฎอะไรเป็นพิเศษมั้ย
ผมก็เลยบอกว่าก็มีกฎนะ ห้ามทิ้งขยะนอกถังเลย พ่อพี่ค่อนข้างเคร่งเรื่องนี้มาก สามสาวตอบพร้อมกัน อื้ออออ จากนั้นพวกเราก็ทานข้าวไปนะ แล้วไข่เจียวที่สั่งมาน่ะ สามสาวคือตักให้ผมหมดเลย อ่ะพอดาวตักให้ ผมกินหมด แก้มก็ตกใจ พอหมด มิ้นต์ก็ตักให้ แล้วเป็นไรไม่รู้นะ ผมทอดไข่เจียวก็พอกินได้แหละ แต่คนอื่นทำไมเขาทอดอร่อยกว่าผมแทบทุกคนเลยไม่เข้าใจ
พอทานข้าวหมด ก็เก็บโต๊ะ สามสาวก็แยกกันไปอาบน้ำ ผมก็นั่งเล่นคอมฯไปเรื่อยเปื่อย คือผมก็พยายามทำตามคำพูดพี่แท-โอนะว่า ต่อให้เลิกงาน ต่อให้เป็นเวลาพักผ่อน ก็หาเวลามาทำความเข้าใจกับตัวงานบ้างก็ดี ผมก็ทำแบบนั้นนะ วันละ 30-60 นาที แต่ว่าวันนี้ เอ่ออ ขอหน่อยแล้วกันสามสาวมาบ้านด้วย ผมก็นั่งเล่นๆไป ตอนแรกสามสาวเงียบไปผมก็นึกว่าทำไรกัน
พอกันกลับมามอง เอ่อ.... 3 สาวนั่งแปะแผ่นมาร์กหน้าอยู่ครับ คือนั่งพิงโซฟาแล้วแหงนหน้าพิงพนักเรียงกันเลย แก้ม ดาว มิ้นต์ ผมก็หือ เอางี้เลยเหรอ ผมบอกโห เสริมสวยอะไรขนาดนั้น ดาวตอบด้วยเสียงอู้อี้ว่าก็บำรุงปกตินี่นาพี่โทน ผมก็เอ่อจ้า ๆ ๆ ๆ ผมก็เล่นคอมฯไปนะ ผมชอบดูคลิปคอมโบของเกมส์ต่างๆนะ ผมเองก็มั่นใจนะว่าตัวเองเล่นเกมส์เก่ง
แต่พอมาเจอเกมส์ Tekken นี่ยอมแพ้เลย แต่ผมชอบดูคอมโบมันนะ นั่งดู Tekken6 อยู่มั้ง แล้วผมชอบเลือกดูที่มันใกล้ๆตัวก็ จิน พระเอกนั่นแหละครับ ด้วยสไลต์ต่อสู้ด้วยคาราเต้ มันก็เป็นอะไรที่ผมพอจะอิน แล้วเข้าใจเรื่องโมชั่นการขยับ อย่างการตั้งการ์ด ซันชิน ท่าเตะอย่าง มาเอะ มาวาชิ เกะริ หรือ ท่าเตะบลาซิลเลี่ยนคิ๊กนั่นแหละ คือด้วยความที่ผมเองก็พอทำได้ มันก็เลยเข้าใจ
แล้วผมชอบดูคลิปคอมโบนะ มันดูเท่ส์ดี ผมคิดในใจ อื้ม . . . น่าเอาไปฝึกแฮะ ส่วนท่าที่ทำได้นานแล้วก็มี Savage Sword กับ ซุยเก็ทสึ แต่ว่าช่างเถอะ ๆ ๆ ผมก็หันไปมองสาวๆนะ แล้วถามว่าต้องมาส์กกี่นาทีเนี่ย ดาวบอก10 ค่ะ ผมนี่อื้อหือแหยงเลยแฮะ ต้องนั่งแล้วมีอะไรเหนอะๆ มาอยู่บนหน้าตลอด 10 นาทีมันก็แปลกๆแฮะ แต่ผมก็ปิดคอมฯนะ ไม่อยากเล่นเกมส์ กลัวว่าจะยาว ต้องตัดใจก่อนล่ะครับ
แล้วก็รอสามสาวมาส์กหน้าเสร็จ ผมก็หืม . .. ทำไมพอถอดมาส์กแล้ว ไม่ไปล้างหน้า แต่ยังเอามือนวดๆด้วย ผมก็ถามไม่ล้างหน้าเหรอ มิ้นต์บอกล้างทำไม ถ้าล้าง พวกสารอาหาร สารบำรุงก็หลุดออกหมดดิ่ เนี่ยๆนวดๆแล้วมันก็ซึมเข้าหน้าแล้ว ผมก็เอ๋อไปแปปนึงเลย สามสาวก็นั่งซักซ้อมกันว่าอย่าทำแบบนั้นนะ ห้ามทำแบบนี้นะ ผมก็นั่งฟังไปใจนึงก็คิดว่า . . . ไม่คิดว่าชาตินี้จะได้พาหญิงเข้าบ้าน และสามคนด้วย
หลังจากนั้นก็เข้านอนครับ พวกเธอก็ทำตามคำพูดเป็นดิบดีว่า จะไม่ยอมเล่นจ้ำจี้กับผม อื้อหืออออ แล้วพอเช้ามาดาวก็ตื่นมาก่อนเลยครับ จัดการเตรียมมื้ออาหารอะไรเรียบร้อย ก็ทานกัน และก็เตรียมตัวลงมาข้างล่าง เจ๊เตยเหมือนจะยังไม่ตื่น ซึ่งผมคิดว่าดีแล้วล่ะ พอมีผู้ช่วยมาช่วยทำงาน เจ๊เตยก็มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ซึ่งการที่มีผู้ช่วยมาเนี่ย
ผมคิดว่าไม่ใช่เพราะผมบอกกับป๋าแล้วป๋ารับฟังหรอก แต่เพราะว่าป๋าคิดแล้วว่าพี่เตยสามารถบริหารอพาร์ทเมนต์ได้เป็นอย่างดีแล้ว จึงวางใจและยอมส่งคนมาช่วย วันนี้สามสาวแต่งตัวน่ารักมาก ถึงจะดูธรรมดาแต่น่ารัก ด้วยความที่ผมบอกว่าบ้านเป็นสวนนะ สามสาวก็เลยพร้อมใจใส่กางเกงยีนกันหมดเลย อื้อหือน้ำลายไหล แล้วก็ใส่เสื้อโปโล ซึ่งตัวจะ over size นิดเดียว ไม่สิ่ต้องพูดว่าใส่ไซส์ที่ใหญ่กว่าปกติที่ใส่1 เบอร์
พอขึ้นแก้มกับมิ้นต์ดูลนลานแหละครับ ผมก็บอกไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร แต่สิ่งนึงที่กังวลเหมือนคุณผู้อ่านแหละครับ ว่าพวกเธอจะเห็นอะไรที่บ้านมั้ยก็จริงอยู่ที่ว่าพ่อผมไม่ได้ว่าอะไร ซึ่งแม่เองก็คงเหมือนกัน แต่ว่าบรรดา ป้าๆ อาๆ น้าๆ ลุงๆ ของผมที่อยู่เฝ้าสวน และเฝ้าดูผมมาตั้งแต่เกิด เขาจะคิดยังไงนี่สิ่ ปู่ล่ะปู่จะว่ายังไงน๊ออออ ช่างเถอะถึงบ้านเดี๋ยวก็รู้เอง พอใกล้ถึงบ้านผมก็บอกจะถึงละนะ แก้มก็บอกเดี๋ยวพี่โทนขอทำใจก่อนได้มั้ยง่ะ ผมบอกไม่ได้
แก้มก็ฮือออ มิ้นต์ก็เงียบเลย แต่หน้าตานี่เหวอจัดๆ พอลงจากรถมาผมก็เหวอนิดๆแหละเพราะว่าผ่านมาไม่ถึงอาทิตย์งานไวจัดๆเลยครับ ผมเดินมาหน้าบ้าน แน่นอนว่าไอ้มูชูวิ่งมาหาก่อนเลย จะว่าไปหมาก็เห่าตลอดทางเลยนี่หว่ามีไรป่ะนิ ไอ้มูชูวิ่งมาร้องหงิง ๆ ๆ ๆ เอาขาหน้ายกมาเขี่ยๆ ผมก็นั่งลงแล้วจะลูบหัวมัน ผมบอกโห ไอ้มูชูไม่ได้อาบน้ำกี่เดือนละเนี่ย ไอ้มูชูก็หงิง ผมบอกไม่ต้องหงิงเลย และชี้ไปในสวนแล้วบอกไปเล่นน้ำให้หายเหม็นไป
แล้วมันก็วิ่งไปเลย คือผมรู้ว่ามันก็ไม่ได้เข้าใจผมทั้งหมดเท่าหรอก แต่คำว่าเล่นน้ำ ผมว่ามันเข้าใจดี แก้มกับมิ้นต์ถาม เง้อออ หมาชื่อมูชูเหรอ มังกรมู่หลานป่ะ ผมบอกช่ายก็ตอนเด็กๆชอบดูมู่หลานเลยเอามาตั้งชื่อน่ะ ดาวก็ยืนนิ่งเลย ผมถามเป็นไรหืม ดาวก็ก้าวถอยหลังออกนอกบ้าน แล้วก็มอง มอง แล้วพูดว่า พี่โทนพื้นที่นี้ทั้งหมดของบ้านพี่เหรอ ผมก็บอกอื้มก็สวนนี่นา
ผมบอกป่ะเข้าบ้านกัน ผมก็เดินนำเข้าไปเลยนะครับ แต่ว่าก่อนอื่น ผมไหว้ศาลพระภูมิหน้าบ้าน และ หันเข้าไปในสวนและไหว้ ซึ่งสามสาวก็ทำตามนะ เอ...ดูเหมือนว่าตอนนี้คนงานที่ทำห้องน้ำจะยังไม่มานะ จะมีก็แต่คนงานที่เก็บผลไม้ เขาก็ตะโกนเหมือนเดิม เอ้าโทนเหรอ ผมก็ตอบครับ แล้วเขาก็ตะโกนพี่ทศๆโทนมันกลับบ้านมาแล้ว พาเมียมาด้วยมั้งน่ะ ผมกุมขมับเลยครับ แล้วก็พาเดินเข้าไปในบ้าน ซึ่งลานจอดรถหน้าบ้านมันก็กว้างแหละเนอะ แต่ผมก็พาสามสาวเดินมาข้างๆทางนั่นแหละ
แล้วพ่อผมก็เดินมา ก็แต่งตัวมาเป็นลูฟี่เลยครับ เสื้อกล้าม กางเกง สามส่วน ใส่หมวกสานไม้ไผ่มา ผ้าขาวม้าก็มัดรอบเอวไว้ และใส่รองเท้าบู๊ท แตกต่างกับภาพลักษณ์ที่เจอกับพวกสามสาวครั้งล่าสุดมาก ผมก็ไหว้ สวัสดีพ่อ พวกสามสาวก็ไหว้เหมือนกัน พ่อก็บอกว่ามาเร็วกว่านี้หน่อยก็จะได้กินข้าวเช้านะ พ่อก็วางมือบนหัวผมปุ้ปๆๆๆ แล้วแปปนึงคนสนิทเสี่ยก็เดินมากับลูกน้องอีก2คน ผมก็ไหว้สวัสดีครับ เขาก็บอกเอ้อว่าไงโทน
เห็นบอกว่าพาแฟนกลับบ้าน เขาก็มองๆ แล้วก็ถามผมว่าคนไหนล่ะ ผมก็เงียบตอบไม่ได้ แล้วเขาก็เงียบ แล้วเขาก็หันไปมองลูกน้องเขา ลูกสองเขาก็มองหน้ากลับพูดมาซึ่งผมได้ยิน เขาพูดว่าสามเลยเหรอวะพี่ แล้วแปปนึงคนสนิทเสี่ยก็หันมาบอกอื้ม งั้นขอตัวไปดูหลังบ้านก่อนนะ แล้วพวกเขาก็ไปเลย แล้วแม่ผมก็เดินถือกระด้งมา
ซึ่งก็มีพวกผักตำลึง พวกผักที่ไปเก็บมาในสวนแหละ ผมก็แม่สวัสดี พวกสามสาวก็ไหว้ด้วย แม่ผมก็ถามกินข้าวมากินยังหนูๆ ดาวบอกเรียบร้อยแล้วค่ะ . . . เอ๊ะแปลกๆ ผมหันไปมอง แก้ม กับ มิ้นต์ตอนนี้ นิ่งเลย ดาวก็เลยบอกว่าทานมาหมดแล้วค่ะ แม่ผมก็ยิ้มๆให้นะ แม่ก็เลยบอกว่าหนูสามคนเดี๋ยวเข้าไปนั่งที่แคร่หน้าบ้านตรงนั้นก่อนนะ ตามสบายๆนะ มีน้ำลอยมะลิอยู่ด้วย แล้วแม่ก็พูดว่าหนูดาว พาน้องเดินไปนั่งได้เลยนะ
ดาวก็ตอบค่ะๆ แล้วก็ยกมือไหว้ แล้วก็จูงมิ้นต์กับแก้มเดินไปตรงแคร่หน้าบ้านผม ผมถามว่าแม่ แม่รู้ได้ไงคนไหนดาว แม่ก็บอกไม่รู้หรอก แต่พ่อบอกว่าดาวเป็นพี่ใหญ่สุดแม่ก็คิดว่าคงดูแลน้องๆได้แหละก็เลยเรียกไป ผมก็ฮู่ววว รอดไป แต่พ่อผมก็พูดว่า นี่ไอ้ลูกหมา ตอนแรกบอกจะพามาข้านึกว่ามาเต็มที่ก็สองคน นี่พามาสามเลยเรอะ ผมตอบพระบิดาไปว่า ผมก็บอกแล้วนี่นาว่าพามาหมดเลย
พ่อผมเท้าเอวแล้วบอกแบบนี้จะแย่นา ผมก็ถามว่าไม่ได้เหรอพ่อ พ่อก็บอกว่ามันก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก ตอนนั้นแม่ผมก็ถอนหายใจแล้วพูดว่า ทำยังกับตัวเองไม่เคยทำน่ะพ่อ ผมก็หันมามองพระบิดาเลย พ่อผมก็บอกทิพย์ก็พูดไป แม่ผมก็พูดอีกว่า ให้เรียงรายชื่อป่ะล่ะ ไม่สิ่ๆ . . ไม่ใช่แค่3 น่าจะ 4คนด้วยมั้ง พ่อผมก็พูดสวนเลยว่า เอ้อออ ไอ้ลูกหมาๆ ไปดูแลพวกหนูๆหน่อยไป ป่ะ ๆ ๆ ผมก็ฮึ๊ อะไรเนี่ย พระบิดาของผมทำไมดูร้อนรนแปลกๆ แต่ผมก็เดินมาเลยนะ หันกลับไปก็เห็นพ่อกำลังช่วยแม่ถือกระด้งอยู่ ซึ่งผมก็คิดในใจนะว่า วันนี้บันเทิงแน่ๆ
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน