ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_เลขาคิม

11 ) รักนะ ยัยแฟนเช่า 3 ตอน บ้านพ่อตา

เริ่มโดย เลขาคิม, กรกฎาคม 13, 2024, 06:39:07 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

Hanz3312, pcnktar และ 6 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

เลขาคิม

::Glad::


[  ตอน บ้านพ่อตา  ]




ความเดิม  : 

เพื่อให้ได้หัวใจของหมอฝนมาครอง ทิดใช้เล่ห์เหลี่ยม จนหมอฝนยอมตกลงเป็นแฟนเช่า





...........................



สวัสดีครับ ผมชื่อทิด ส่วนนางฟ้าที่เดินอยู่ข้างผมนั้น เธอชื่อฝนครับ แต่คนส่วนใหญ่ มักจะเรียกเธอว่าหมอฝน

แล้วที่ผม สามารถเดินควงแขนของเธอได้แบบนี้ นั่นก็เพราะสัญญาแฟนเช่าครับ แล้วในตอนนี้ สัญญานั่น มันก็กำลังจะหมดลง

ถึงผม จะไม่สามารถพิชิตหัวใจของยัยฝนได้ แต่ลูกผู้ชายอย่างผม แพ้ก็คือแพ้ครับ ไม่งอแง เพราะแบบนั้นแล้ว เวลาที่เหลืออยู่อีกเพียงสิบวันสุดท้าย ผมจะตามใจฝนทุกอย่าง หากเราสองคนจะต้องจากกันจริง ก็ควรจากลากันด้วยดี



.............................












ผมที่ขับรถอยู่ หันไปถามฝน ว่าวันนี้เธออยากไปเที่ยวที่ไหนบ้าง วันนี้ ผมจะตามใจเธอทั้งวัน ทำเอาฝนนิ่งเงียบไปซักพัก ก่อนจะบอกผมว่า เธออยากไปเยี่ยมพ่อกับแม่ที่ต่างจังหวัด ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเธอ


" แล้วนาย กล้าไปเจอหน้าพ่อแม่ของฉันไหมละ " 


ฝนพูดประชดใส่ผม เธอคงคิดว่าผม ไม่กล้าไปสู้หน้าพ่อแม่ของเธออย่างแน่นอน หลังจากที่สร้างวีรกรรม กับลูกสาวคนเดียวของเขาเอาใว้ มากมายถึงขนาดนี้

ผมก็ยังคงทำหน้านิ่ง ไม่ไหวติง ไม่พูดอะไรออกมาซักคำ จนฝนมองค้อน เหมือนเธอกำลังผิดหวังในตัวผม ที่กลายเป็นคนปอดแหก กล้าทำ ไม่กล้ารับ แม้กระทั่ง สิ่งที่ตัวเองก่อขึ้น


...แต่ ผมนะ ตัดสินใจไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่ฝนพูดออกมาคำแรก เพียงแต่ผม ชอบยั่วโมโหฝนไง


" ชิ.. คราวหลัง ถ้าทำไม่ได้ ก็อย่าพูดออกมา "


ไม่ทันขาดคำ ฝนก็ทำหน้าบึ้งใส่ผมทันที ทำเอาผมถึงกับยิ้มที่มุมปาก ก่อนจะตบไฟเลี้ยว หักรถยูเทิร์นกลับ แล้วขับรถมุ่งหน้าออกนอกเมือง  " เอาจริงดิ " ฝนมองผมตาโต เหมือนไม่อยากจะเชื่อ ว่าผมจะพาเธอ ไปหาพ่อกับแม่ของเธอจริงๆ ผมเลยบอกฝนไปว่า ไม่ต้องแปลกใจหรอก


" พี่แค่อยากไปใหว้ พ่อตากับแม่ยายซักครั้ง  "


ฝนมองผมหน้าแดง ก่อนจะพูดบ่นออกมา ว่าพ่อแม่ของเธอ ไปเป็นพ่อตาแม่ยายของผมตั้งแต่เมื่อไหร่กัน แล้วเธอก็รีบหันหน้าหลบสายตาผมมองไปทางอื่น


"  พ่อฉันมีปืนนะ นายไม่กลัวตายเหรอไง "


...แน้ ขู่ ฟ่อ ฟ่อ เป็นแมวเลยวุ้ย แต่คำขู่ของคนที่อายม้วนจนตัวปิดแบบนั้น ผมจะไปกลัวทำไม


" ถ้าพ่อเธอยิงฉันตาย เดี่ยวเธอก็ได้กลายเป็นม่ายกันพอดี "


ฝนทำหน้ายู่ใส่ผม แล้วบอกผมว่า ผู้ชายอย่างผม เธอจะหาเมื่อไหร่ก็ได้ ทำเอาผมถึงกับหัวเราะ ขิงมาเป็นไร่เลยวุ้ย

.............................



ประมาณสองชั่วโมงครึ่ง ผมก็ขับรถมาถึงตัวจังหวัด จากนั้นฝนก็คอยบอกเส้นทางให้ผมเป็นระยะ บรรยากาศสองฝั่งริมถนนข้างทาง ดูสงบร่มเย็นน่าอยู่มาก ถ้าหากผมกับฝน ได้ใช้ชีวิตปั้นปลายอยู่ด้วยกันที่นี่ มันก็คงจะดีไม่น้อย

ส่วนฝนที่นั่งยิ้มมาตลอดทาง อย่างมีความสุข เธอก็บอกผมว่า อยากกลับบ้านเกิดมาตั้งนานแล้ว แต่ติดเคสคนไข้ ทำให้เธอกลับบ้านไม่ได้ซักที คิดถึง อยากกอดพ่อกับแม่ ..ผมยิ้ม แล้วบอกฝนไปว่า หากวันไหนที่ฝนอยากกลับบ้านมาหาพ่อกับแม่อีก ขอเพียงแค่โทรมาหาผม เดี๋ยวผมจะขับรถมาส่งฝนเอง ฝนมองผม แล้วก็ยิ้มๆ

ก่อนจะทวงคำสัญญา ที่ผมเคยลั่นวาจา ตกลงกับเธอเอาใว้ หากครบกำหนดแฟนเช่าหนึ่งเดือนแล้ว ห้ามผมมาเจอหน้าเธออีก หวังว่า ผมคงจะไม่ลืม

นั่นสิครับ นี่คงจะเป็นสิบวันสุดท้าย ของผมกับฝนแล้วจริงๆ

ระหว่างที่บรรยากาศภายในรถเริ่มหม่นลง ผมก็ขับรถวิ่งตรงตามถนนที่ทอดยาวเป็นเส้นตรง วิวสองข้างทางเป็นสวนทุเรียนยาวสุดลูกหูลูกตา ผมเลยถามฝนไปว่า ตรงนี้เป็นสวนทุเรียนของใคร เพราะนึกถึงคู่ค้าชาวจีนคนนึง ที่เขาอยากได้ทุเรียนเกรด A จำนวนมาก ฝนมองหน้าผม แล้วเลิกคิ้วใส่ อย่างภูมิใจ ก่อนจะพูดออกมาว่า


" ของพ่อฝนเองค่ะ "


" หา ! ..จริงดิ ทั้งหมดนี่เลยเหรอ "


" ใช่แล้ว "


..โห พ่อของฝน ดูท่าจะไม่ธรรมดาแล้วละครับ น่าจะเป็นระดับเศรษฐีแล้ว ..ดูท่าวันนี้ ผมคงจะโดนปืนลูกซองเข้าแล้วจริงๆ แค่คิดผมก็เหงื่อซึม ระหว่างที่ผมเปลี่ยนเรื่องคุย สายตาก็ไปสะดุดกับนาข้าว แล้วก็กระต๊อบเพลิงหมาแหงนหลังนึงเข้า

ฝนมองตามผม แล้วยิ้มๆ บอกผมว่า ตรงนั้น ก็ของพ่อเธอ พ่อชอบปลูกข้าวใว้กินเอง ฝนเล่าให้ผมฟังว่าตอนเด็กๆเธอชอบมานอนที่กระต๊อบหลังนั้นมาก พอฝนพูดจบ ก็ถึงบ้านของฝนพอดี

ทันทีที่รถจอด ฝนก็รีบวิ่งไปกอดพ่อกับแม่ของเธอทันที ราวกับเป็นเด็กน้อย พอได้เห็นรอยยิ้มของครอบครัวที่แสนอบอุ่น อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ ทำให้ผม ถึงกับยิ้มตาม เพราะบรรยากาศแบบนี้ มันไม่เคยมี ในครอบครัวผมเลยซักครั้ง


" อ้าว แล้วไอ้หนุ่มนั่นใครละลูก "


พ่อของฝนเอ่ยถามขึ้นมา ฝนที่กำลังลังจะอ้าปากบอกพ่อ ...แต่ถูกผม พูดขัดจังหวะขึ้นมาก่อน


" สวัสดีครับคุณพ่อ สวัสดีครับคุณแม่ ผมชื่อ อาทิตยา เป็นแฟนของฝนครับ "


พอผมพูดจบ พ่อกับแม่ฝนก็ร้องอ้อ แล้วแซวฝนว่าดีมาก ที่รู้จักพาแฟนมาให้พ่อกับแม่ได้รู้จัก ทำเอาฝนได้แต่ยิ้มแห้ง แล้วหันหน้ามามองหน้าผม เหมือนทำท่าจะงับ


จากนั้น พ่อกับแม่ของฝน ก็เรียกผมมานั่งคุยด้วยกันอยู่พักใหญ่ จะเรียกว่าเป็นการสอบสัมภาษณ์ว่าที่ลูกเขยก็ได้ครับ แต่นักธุรกิจมือฉมังอย่างผม เรื่องการจะทำให้พ่อแม่ของฝนประทับใจตั้งแต่แรกพบ มันจึงเป็นอะไรที่ง่ายดายเสียยิ่งกว่าปอกกล้วย ซึ่งด่านแรกของการสัมภาษณ์ ผมได้คะแนนเต็มสิบ เพราะพ่อของฝนหัวเราะร่าออกมาอย่างอารมณ์ดี ยิ้มหน้าบานไม่หุบ เอามือตบใหล่ผม แล้วเรียกผมว่าไอ้ลูกเขย

จนฝนงอนพ่อ ทำหน้าตุ๊บป่อง แล้วหันไปหาแม่ แม่ฝนก็เลยยิ้มให้ผม แล้วบอกผมว่า ผมเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะ ที่ฝนพาเข้าบ้าน


" แม่ ฝากดูแลฝน ลูกสาวของแม่ด้วยนะลูก "


" ครับแม่ ผมจะรัก และเอ็นดูน้องฝน เป็นอย่างดี "


" แม่..อ่า "


ฝนทั้งเขินทั้งอาย ที่พ่อกับแม่ของเธอ ไม่หวงลูกสาวแสนซนคนนี้เอาเสียเลย ทำยังกับ จะจับเธอใส่พานยกให้ผมง่ายๆ ..พ่อเลยบอกฝนไปว่า เขามองคนไม่ผิดหรอก ไอ้ทิดมันรักฝนจริง ส่วนฝนก็เบ้ปากใส่ผม เพราะเธอนั้น รู้จักฤทธ์เดชของผมดี

แล้วฝนก็มองหน้าผม พูดจามุมมิบที่มุมปาก บอกว่า ผมมันคนกะล่อนเจ้าเล่ห์ ผมเลยยิ้มให้กับฝนไปทีนึง แล้วตีคิ้วใส่ ผมจะคิดมันเป็นคำชม จากฝนก็แล้วกันนะ


.............................


พอผมผ่านการสัมภาษณ์รอบแรกมาได้แล้ว ก็มาถึงภาคปฏิบัติ เพื่อจะทำให้ให้พ่อกับแม่ของฝน มั่นใจได้ว่า ผมสามารถเป็นที่พึ่งพาให้กับลูกสาวคนสวยของพวกเขาได้ ผมเห็นเอกสารใบเสนอราคา ซื้อทุเรียนจากหน้าสวน ของคู่ค้าเจ้าประจำของพ่อ ผมเลยขออนุญาติพ่อมาอ่าน เพราะผมเอง ก็มีความเชี่ยวชาญเรื่องการทำธุรกิจเป็นอย่างดี

พ่อเลยบอกผมว่าดีเลย เพราะพ่อไม่ไหวจะอ่าน ตัวหนังสือมันเยอะแยะไปหมด ตามประสาคนแก่ ที่เน้นพูดคุยตกลงราคากันปากเปล่าเสียมากกว่า พออ่านจบ ผมก็ถึงกับคิ้วขมวด ถามพ่อฝนว่า พ่อขายทุเรียนในราคานี้ทุกปีเลยเหรอ พ่อก็บอกว่าใช่ เพราะมันง่ายดีสำหรับพ่อ เขาเหมายกสวน หักค่าใช้จ่ายก็เหลือกำไรที่พอรับได้ ผมยิ้มแล้วบอกพ่อว่า ..ผม สามารถขายให้พ่อได้


" ในราคาที่สูงกว่านี้ สองเท่า  "


ทำเอาพ่อกับแม่ของฝน ถึงกับตกใจ ไปกับคำพูดของผม แล้วคิดว่า สิ่งที่ผมพูดออกมา มันเกินจริง แต่ฝนก็ขยับมานั่งข้างผม แล้วบอกพ่อกับแม่ของเธอไปว่า


" ให้พี่ทิด เขาลองทำดูเถอะค่ะพ่อ เรื่องทำธุรกิจ พี่ทิดเขาเก่งมากเลยนะคะพ่อ  "


พ่อเลยตกลง ให้ผมเป็นคนรับผิดชอบเรื่องเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนในปีนี้ ฝนมองผมแล้วยิ้ม ก่อนจะหน้าแดง ก้มหน้าหลบสายตาของผม ในเมื่อฝนมั่นใจในตัวผมมากถึงขนาดนี้ ผมจะไม่ทำให้ฝนต้องผิดหวังแน่นอนครับ

ผมโทรไปหาคู่ค้าชาวจีนทันที ให้เขามาที่สวนทุเรียนของพ่อด่วน ซึ่งผมทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาให้ ในระหว่างที่พ่อ พาเดินชมสวนทุเรียน แล้วบรรยายถึงคุณภาพของสายพันธุ์ทุเรียนเกรด A หลังจากที่คู่ค้าชาวจีน ทดลองชิมทุเรียนจากสวนของพ่อแล้ว เขาก็พึงพอใจเป็นอย่างมาก ทำสัญญาตกลงซื้อขายทันที โดยจ่ายเงินสดมาก่อนล่วงหน้า 50% ส่วนที่เหลือ จะจ่ายให้ หลังจากได้รับของทั้งหมดแล้ว

การเจรจาต่อรองที่สั้นกระชับรวดเร็ว ทำเอาพ่อกับแม่ของฝนถึงกับมองผมตาค้าง ส่วนฝนก็ยิ้มและดูภูมิใจในตัวของผมมาก

จริงๆแล้ว มันไม่ง่ายดายแบบนี้หรอกครับ ถ้าหากเป็นคนอื่น ..นั่นเพราะว่า ผมกับคู่ค้าชาวจีนคนนี้ เราสองคนหักเหลี่ยมเฉือนคมกันมานาน จนรู้จักนิสัยใจคอกันเป็นอย่างดี เขาจึงกลายเป็นคู่ค้าคนสำคัญของบริษัทผม



.............................



หลังจากที่การเจรจาเสร็จสิ้น ก็เข้าสู่ขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ซึ่งพ่อ ก็มีลูกน้องเป็นชาวพม่า ทั้งหมด 20 คน ซึ่งเป็นผู้ชายทั้งหมด ก็พอพูดไทยฟังพอรู้เรื่องบ้าง และมีหัวหน้าคนงานชื่อ โชคชัย ที่เป็นคนไทย ซึ่งอายุของเขามากกว่าผมหลายปี จึงทำให้ผมกับพี่โชคสนิทกัน ในช่วงที่เราเก็บเกี่ยวผลทุเรียนด้วยกัน ซึ่งก็กินระยะเวลาประมาณ 5 วัน รถบรรทุกหลายสิบคันวนเวียนเข้าออกเป็นว่าเล่น ยังดีที่ได้คนงานจากอีกหลายสวนข้างเคียง มาช่วยกันลงแรง ไม่งั้นคงจะเก็บเกี่ยวกันไม่ทัน หลังจากที่ปิดดิวธุรกิจจนเสร็จสิ้น

พ่อกับแม่ของฝนก็ขอบใจผมมาก ที่มาช่วยงาน แล้วพ่อกับแม่ ก็บอกผมให้รีบมาสู่ขอฝน เพราะอยากอุ้มหลานเร็วๆ ทำเอาฝนถึงกับอายม้วนจนรีบเดินหนีเข้าห้อง

วันต่อมาพ่อกับแม่ก็เกิดมีธุระกระทันหันขึ้นมาซ๊ะงั้น บอกว่าจะไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัดหลายวัน ให้ผมกับฝนอยู่เฝ้าบ้าน ห้ามไปไหน จนกว่าแกจะกลับ แล้วก็พากันไปเลย ปล่อยให้ผมกับฝนยืนงง ....

สรุปนี่คือ พ่อกับแม่ เปิดทางให้ผมใช่ไหม

ฝนมองผม ทำหน้าเชิดใส่ แล้วหาว่า ผมเอายาเสน่ห์ให้พ่อกับแม่ของเธอกิน แล้วเธอก็ไม่ยอมค้างคืนกับผมที่นี่สองต่อสองแน่นอน เธอจะไปนอนค้างคืนที่บ้านพี่โชค เพราะเมียพี่โชค เป็นเพื่อนสนิทของฝน เธอชื่อว่า เพ็ญนภา


.............................


น้องเพ็ญ เธออายุเท่ากันกับฝน เป็นเพื่อนสมัยเรียนของฝนตอนมัธยม ส่วนพี่โชคชัยที่เป็นสามี ก็อายุแก่กว่าผมหลายปี พี่โชคชัยเป็นคนภาคใต้มาทำงานรับจ้าง แต่พ่อฝนถูกใจเพราะขยันขันแข็ง เลยให้มาเป็นหัวหน้าคนงานในสวน แล้วตบแต่งน้องเพ็ญเพื่อนของฝนให้มาเป็นเมีย แล้วปลูกเรือนหอให้พวกเขาทั้งคู่ พี่โชคเขาจึงรักเคารพรักพ่อของฝนมาก จึงนับถือกัน เหมือนกับเป็นพ่อแท้ๆ

แต่แล้วความฮาก็บังเกิด เมื่อพี่โชค กับน้องเพ็ญ ให้ฝนไปนอนค้างบ้านที่บ้านพ่อตามเดิม เพราะคืนนี้พี่โชคกับน้องเพ็ญ เขาจะจัดงานปาร์ตี้เลี้ยงคนงานในสวน จะมีงานฉลองกัน ซึ่งมันก็จะเสียงดัง เขากลัวผมกับฝนจะนอนไม่หลับ เห็นบอกว่าจะทำพิธีบูชาเทพีแห่งการเก็บเกี่ยวด้วยนะ ซึ่งน้องเพ็ญก็เขาไม่แนะนำให้ฝนเข้าร่วม ให้ไปนอนค้างบ้านพ่อตัวเองอะดีแล้ว

ตอนนั้นผมก็งงๆ บ้านเรามีประเพณีแบบนี้ด้วยเหรอว้า เลยถามพี่โชคไป แกก็บอกว่ามันเป็นความเชื่อจากคนงานพม่าในไร่ ซึ่งก่อนหน้านี้หลายปี ผลเก็บเกี่ยวทุเรียนในไร่ไม่ค่อยดี คนงานพม่าเขาก็เลยแนะนำให้ลองทำพิธีนี้ดู พี่โชคก็เลยลองทำดูเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งมันก็ได้ผลดีมาก

..ผมเองก็อยากรู้ว่าเขาทำกันยังไง พี่โชคแกเลยบอกผมว่าอย่ารู้เลยดีกว่า แถมปีนี้ เมียแกยังได้เป็นธิดาแห่งการเก็บเกี่ยว เพ็ญคงจะอายมาก ถ้าเกิดเห็นผมกับฝนอยู่ร่วมงานในคืนนี้

เอ่อ.. พอได้ยินแบบนี้ ผมกับฝนก็เหมือนถูกไล่ทางอ้อมอะครับ ปาร์ตี้แบบปิดซินะ เฉพาะคนในสวน ตอนนั้นมันก็เริ่มเย็นมากแล้ว ผมกับฝนก็เลยพากันกลับบ้านพ่อของฝน ซึ่งก็อยู่ห่างจากที่นี่พอควร

ก่อนไป ผมก็พาฝนเดินดูบรรยากาศรอบๆแป๊บนึง ซึ่งบ้านพี่โชค ก็อยู่ติดกับบ้านพักของคนงานเลย มีห้องอาบนํ้ารวม และมีลานกว้างๆเอาใว้จัดปาร์ตี้ ซึ่งในตอนนี้เหล่าคนงานพม่าหนุ่มๆ ก็เริ่มติดไฟประดับประดา เอาฟางมาตบแต่งสถานที่จนสวยงาม

ส่วนฝนนั้น ก็เริ่มงอแงซิครับ อยากเข้าร่วมงานด้วย ผมก็บอกฝนไปว่า พี่โชคเขาก็บอกแล้ว ว่ามันเป็นปาร์ตี้แบบปิด ฝนก็มองผม ทำหน้าตุ่ยแก้มป่อง ..ผมเลยแอบกระซิบกับฝน ให้กลับบ้านพ่อกันก่อน พอดึกๆ แล้วเราสองคน ค่อยแอบมาย่องมาดูกัน ฝนก็พยักหน้ารับหงึกๆ



.............................



ซึ่งมื้อเย็นของวันนี้ ฝนเข้าครัวทำอาหารให้ผมกิน และมันก็อร่อยถูกปากผมมากเลยละครับ ผมพูดชมฝน จนเธอเขินอาย แต่ฝน ก็พูดสวนแก้เขินว่า เธอก็แค่โยนๆผักใส่หม้อไปงั้นๆ ไม่ได้ตั้งใจทำซักหน่อย

ทำเอาผมถึงกับยิ้ม จริงๆเลย ยัยสาวปากไม่ตรงกับใจ ผมนั่งกินข้าวบนแคร่ไม้ไผ่ อยู่ในชุดเสื้อกล้ามสีขาวกางเกงขาก๊วย ส่วนฝนนั้น เธออยู่ในชุดสาวชาวบ้าน เสื้อคอกระเช้านุ่งผ้าซิ่น มัดรวบเส้นผมทรงก้นหอยแล้วเสียบปิ่นปักผม ฝนสวยมากเลยครับ ผิวขาวใสอมชมพู ริมฝีปากอวบอิ่มน่าจูบมาก

หลังจากกินข้าวกันเสร็จ ผมก็หยิบโหลแก้วเหล้า ยาดองบ้วย ที่พ่อของฝนให้มา นั่งดื่ม แล้วชวนฝนมาดื่มด้วยกันเป็นเพื่อน ฝนบ่นอุบอิบ บอกว่าผม เป็นลูกรักของพ่อ เพราะปรกติพ่อหวงเหล้าดองบ้วยมาก ผมกับฝนนั่งดื่ม มองดูดาวด้วยกัน มันสุกสกาวสว่างไสวสวยงามไปทั่วท้องฟ้าในยามคํ่าคืนที่มืดมิด ซึ่งบรรยากาศแบบนี้ มันหาไม่ได้ในกรุงเทพหรอกครับ

เหล้าดองบ้วยของพ่อรสชาติดีมากจริงๆครับ เพราะฝนดื่มเข้าไปเยอะมาก ในระหว่างที่เราสองคนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานถึงเรื่องราวต่างๆตอนสมัยเรียน แล้วผมก็ถามฝนไปว่า พ่อรวยขนาดนี้ ทำไมถึงยังเป็นแพทย์ติดทุนอีก ..ฝนก็บอกผม เธอไม่อยากรบกวนพ่อแม่ อยากให้พ่อกับแม่ เก็บเงินที่หาเงินมาได้อย่างเหน็ดเหนื่อย เอาใว้ใช้เอง ..ซึ่งมันทำให้ผม ยิ้มจนแก้มปริ ผมเลือกคนไม่ผิดจริงๆครับ มุมมองของฝนนั้น มันดีมากจริงๆ

จนกระทั่ง เวลาผ่านไปอีกซักระยะ ผมกับฝน ก็เริ่มได้ยินเสียงจังหวะกลอง ดังสนุกสนาน มาจากทางบ้านของพี่โชค ปาร์ตี้เริ่มแล้วซินะ ผมเลยหันไปถามฝนว่า เราสองคนจะไปแอบดูด้วยกันไหม

ฝนมองผม แล้วอมยิ้ม พวงแก้มสองข้างแดงระเรื่อ เหงื่อชุ่มไปทั้งตัว ฝนบอกผมว่า เธอร้อนมาก พร้อมกับขยับเสื้อคอกระเช้าเพื่อระบายความร้อน ผมมองลอดชายเสื้อ เห็นหน้าอกกลมโต สองเต้าขาวผ่องของฝนเกือบครึ่งเต้า ..ฝนโนบราครับ เธอไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน

นั่นซิ เพราะว่าเราสองคน มาที่นี่แบบกระทันหัน เลยไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามากันเลยซักชิ้น ..ส่วนผมเอง ก็ไม่ต่างจากฝนมากนัก ผมไม่ได้ใส่กางเกงใน พอเห็นหน้าอกของฝน มันก็ทำให้ควยผมแข็งตุงขึ้นมาทันที จนชี้โด่ ผ่านกางเกงขาก้วยบางๆ

ฝนมองผม แล้วบอกว่าทะลึ่ง ผมเลยบอกไป ว่าช่วยไม่ได้นี่นา ฝนอยากโชว์นมให้ผมเห็นก่อนทำไม ฝนก็เถียงผมอายๆ ว่าเป็นเพราะผมนั่นละ ที่มาแบบปุ๊บปั๊บ จนเธอไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย เสื้อในของแม่กับพี่เพ็ญ เธอก็ใส่ไม่ได้ เพราะว่ามันตัวเล็กเกินไป

ฝนพูดไม่ทันจบ ผมก็คว้าหมับจับหน้าอกตูมๆของฝนทั้งสองเต้า บีบๆ คลึงๆ จนฝนตัวอ่อนระทวย ย้วยลงมานอนหนุนตักของผม ผมบีบคลึงหน้าอกสองเต้าของฝนผ่านเสื้อคอกระเช้า จนฝนเสียว เอามือมาบีบที่ต้นขาของผม ฝนหายใจแรง หน้าแดงร้อนผ่าว ฝนเอาหน้ามาซุกอยู่ตรงกลางหว่างขาผม จนริมฝีปากของฝน ชนเข้ากับควยแข็งๆที่มันแข็งตุงขึ้นมาเป็นลำ ผ่านกางเกงขาก้วยสีดำ

ผมเชื่อแล้วครับ ที่พ่อฝนบอก ว่าเหล้าดองบ้วยโหลนี้เขาดองเองกับมือ แล้วใส่ยาบำรุงเข้าไปด้วย เพราะว่าผมตอนนี้ ก็ร้อนมากเช่นกัน เหงื่อซึมไปทั้งตัว โดยเฉพาะตรงบริเวณลำควยที่มันแข็ง พองขยายใหญ่ขึ้นมาจนผิดปรกติ แถมยังร้อนผ่าวไปหมด

ผมขยับตัว ยกกันขึ้นนิดนึง แล้วดึงกางเกงขาก้วยของตัวเองออก จนแท่งควยสีดำขนาดใหญ่ จ่อเข้ากับริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูของฝน ในระยะประชิด จนฝนต้องเอามือมาบัง

ฝนทำท่าจะลุกขึ้น แต่ผมกดตัวเธอลง จนฝนงอแงบอกให้ผมปล่อย ผมไม่ปล่อยหรอกครับ แถมยังกระตุกผ้าถุงของฝนออกอีกตะหาก พอผ้าถุงหลุดออกจากข้อเท้าของฝน ผมก็เขวี้ยงมันลงไปในนาข้าวทันที ฝนมองตามผ้าถุงของเธอไป แล้วก็บ่นผมใหญ่ ผมยิ้ม แล้วหันไปมองเรียวขาอ่อนขาว และโคกเนินอวบอูมที่ขาวสะอาดเกลี้ยงเกลา โครตน่าเย็ดสุดๆ

ผมเอานิ้วเข้าไปสัมผัสกับร่องเสียวอวบอูมแนบสนิท ปิดรูหีเล็กๆของฝนใว้ มันแฉะมากเลยครับ นี่มันเหล้าดองบ้วย หรือยาปลุก sex กันแน่ครับเนี่ย ฝนรีบเอามือข้างนึงมาปิดหีของเธอเอาใว้ แล้วบอกว่าอย่าจับเธออาย

ฝนนอนหนุนตักผม หันมามองสบตาผม เหมือนฝนจะรู้ตัวแล้ว ว่าผมจะทำอะไรต่อ เธอเลยรีบเอามือดึงเสื้อคอกระเช้าตัวน้อยของเธอเอาไว้จนแน่น

แต่คิดเหรอ ว่าแค่นี้ มันจะป้องกันคนอย่างผมได้ ..จี้เอวซิครับ จะรออะไร ฝนหัวเราะ นอนดิ้นกระแด่วๆ บอกว่าอย่า.. จนใบหน้าสวยหวานของเธอแดงเป็นลูกตำลึง ริมฝีปากนุ่มนิ่ม ถูเข้ากับควยแข็งๆของผมอยู่บนแคร่ จนสุดท้ายฝนก็ยอมให้ผมถอดเสื้อคอกระเช้าของเธอออก ..และก็แน่นอนละครับ ผมก็เขวี้ยง เสี้อคอกระเช้าของฝน ลงไปในนาข้าวเหมือนเดิม

ทำเอาฝนบ่นผมใหญ่ แต่ผมไม่สนใจหรอกครับ เพราะคืนนี้ ฝนจะต้องเปลือยกายอยู่กับผมทั้งคืน ฝนบอกผม ว่า เดี๋ยวคนงานมาเห็นเข้าจะทำยังไง ผมเลยบอกฝนไป ว่าพวกเขาไม่มาที่นี่หรอก เพราะคงจะสนุกอยู่กับปาร์ตี้ ฝนเลยพยักหน้ารับ งั้นคืนนี้ เธอจะเปลือยกายอยู่กับผมทั้งคืนก็ได้


ผมยิ้ม แล้วนึกสนุก อยากจะแกล้งฝนขึ้นมา




"  ฝน เราสองคน ไปแอบดูปาร์ตี้กันเถอะ  "


ฝนก็ร้อง... หา !


" แก้ผ้าไป เนี่ย อะนะ "




 







เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน


sakornsaeng


xonly-1786

ขอบคุณมากครับ มาเร็วทันใจ ถูกใจครับ ทิดไปบ้านฝน เจอพ่อตา-แม่ยาย รีบโกยคะแนนเลยครับ

ronin21_xonly

#4
เท่าที่ตามอ่าน (อย่างตั้งใจ) ดูเหมือนทิดและฝนทั้งคู่ดูจะมีเคมีที่ตรงกันนะ อย่างน้อยก็เหมือนกับทั้งคูจะเป็นพวก Exhibitionism (ชอบโชว์)

รสนิยมทางเพศแบบนี้ ไม่รู้จะนำพาประสบกามอะไรมาให้กับฝนบ้าง แต่หวังว่าสิ่งๆ นั้นจะทำให้เธอมีความสุข

ป.ล. เนื้อเรื่องน่าติดตามมากจริงๆ ขอบคุณผู้ประพันธ์มากครับ

::JubuJubu::  ::JubuJubu::  ::JubuJubu::

เลขาคิม

อ้างจาก: ronin21_xonly เมื่อ กรกฎาคม 13, 2024, 07:02:30 หลังเที่ยงเท่าที่ตามอ่าน (อย่างตั้งใจ) ดูเหมือนทิดและฝนทั้งคู่ดูจะมีเคมีที่ตรงกันนะ อย่างน้อยก็เหมือนกับทั้งคูจะเป็นพวก Exhibitionism (ชอบโชว์) รสนิยมทางเพศแบบนี้ ไม่รู้จะนำพาประสบกามอะไรมาให้กับฝนบ้างแต่หวังสิ่งๆ นั้นจะทำให้เธอมีความสุข

ป.ล. เนื้อเรื่องน่าติดตามมากจริงๆ ขอบคุณผู้ประพันธ์มากครับ

::JubuJubu::  ::JubuJubu::  ::JubuJubu::


 ::Glad::


ขอบคุณ ที่ติดตาม และชอบงานเขียนของเรา แต่ตอนจบจริงๆของเรื่องนี้ อยู่ที่ตอน คนที่ผมแอบชอบตอนที่ 4 หวังว่า คงถูกใจกันนะ



เดช12341


Eric77777


KonMol2


พระพาย


dan tee


ryg123456

สรุปว่าพี่ทิดก็อยากเปิดตัวกับคุณพ่อ คุณแม่