ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_sudsaiyai

ฝืน ตอนที่ 13-14

เริ่มโดย sudsaiyai, สิงหาคม 16, 2024, 11:04:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

sudsaiyai

ฝืน 13 ตอนไหนๆก็ไหนๆ

"เฮ้ย......พี่ดานี่...โอะ...โฮ้ววววว...ซีดดด....อาาหห" พร้อมกับเสียงอุทานด้วยความตกใจของจักร์วิทย์ ก็เป็นจังหวะสุดท้ายจากการเร่งสาวท่อนเอ็นที่กำลังตั้งโด่ของเขา พร้อมการพุ่งกระฉูดของน้ำว่าวจากด้านในอย่างรุนแรงซึ่งเกิดจากการกระสันต์ ของอารมย์ เพราะภาพการบรรเลงเพลงสวาทของหญิงชายในจอโทรทัศน์ซึ่งเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่า สาวสวยที่กำลังแอ่นก้นขาวๆส่ายสะโพกรับการกระเด้าแทงอย่างรุนแรงในจอคือพี่ สาวแท้ๆของตน แม้จะตกใจเป็นอย่างยิ่งจนสมองสับสนคิดอะไรไม่ออก แต่ภาพที่ยังคงปรากฎเบื้องหน้าเขาขณะนี้นั้นทำเอาจักร์วิทย์ไม่สามารถขยับ เขยื้อนร่างกายส่วนอื่นๆได้เลยแม้กระทั้งฝ่ามือที่ยังคงกำดุ้นเอ็นท่อน เขื่องของเขาไว้
เพราะตอนนี้แม้ว่าญาดาจะบรรลุความเสียวกระสันต์จากการร่วมรักครั้งแรกใน ชีวิตไปแล้ว กับชายที่เป็นเพื่อนสนิทของคู่หมั้นเธอ แต่เธอยังคงเชิดหน้าสูดปากร้องครางด้วยความเสียวซ่านที่สุดในชีวิตพร้อมกับ แอ่นก้นอวบๆที่ขาวผ่องกลมกลึงของเธอบดอัดเข้ากับดุ้นเอ็นของเก่งจนแนบติดกับ แผ่นท้องของชายหนุ่ม ความรุนแรงของมันทำให้แก้มก้นขาวๆที่กระฉับแข็งได้รูปทั้งสองข้างปริแยกย่น จากกันอย่างเห็นได้ชัดเจน
จนเมื่อทั้งสองคนลดอาการเกร็งของร่างกายลงโดยที่ฝ่ายชายในจอโทรทัศน์ล้มตัว ซบร่างไปบนแผ่นหลังของหญิงสาวที่ยังคงมีชุดราตรีคลุมอยู่เพื่อผ่อนคลายความ เหนื่อยอ่อน จักร์วิทย์จึงปิดโทรทัศน์พร้อมใช้กระดาษทิชชู่ข้างตัวทำความสะอาดท่อนเอ็น ของตัวเองช้าๆ พร้อมกับความสับสนมึนงงต่อเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป จักร์วิทย์นิ่งเงียบตลอดเวลาที่นั่งเช็ดลำลึงค์ของตัวจนเสร็จ
จากนั้นเขาจึงลุกขึ้นก้าวเดินออกจากห้องพร้อมกับขับรถกลับบ้านทันที


ขอย้อนภาพกลับไปในเวลาไล่เลี่ยกัน................................สุพจน์ ภายหลังจากรู้ว่าเขาพลาดโอกาสสำคัญในการลิ้มรสสวาทของเมียเพื่อนคนสวยแล้ว เขาก็เลยขับรถไปนั่งที่ร้านเงียบๆแห่งหนึ่งเพื่อรอเวลาไม่ให้ ญาดา คู่หมั้นของเขาสงสัย ถ้าหากเขาจะออกไปรอที่ร้านแถวสีลมตามที่นัดแนะกันไว้ ก่อนล่วงหน้า  เขารอนั่งกินเบียร์พร้อมกับโทษตัวเองที่ปล่อยโอกาสงามๆอย่างนี้ออกไปเป็นการ ฆ่าเวลา
"ไอ่ห่าเอ๊ย...เราแม่งโง่ฉิบหายปล่อยน้องแพรกลับไปได้ไงว่ะ......เอ...หรือ ว่าไอ้เก่งมันรู้ตัวว่ะ" คิดแล้วเขาถึงกับรู้สึกกังวลขึ้นมาเพราะกลัวว่าเพื่อนจะจับได้ซึ่งจะทำให้ เกิดความหมางใจกันแน่
"คงไม่นะ.....เห็นบอกว่าน้องแพรจะกลับเองนี่หว่า......แล้วไอ้เก่งมันก็ไม่มีปฎิกิริยาอะไรกับเรานี่.....เฮออ....อดเลยกู...........แล้วนี้แพรกลับไปทั้งอย่างนี้คงนอนเงิ่ยนที่บ้านตายห่าเลย"

 อนิจจา....ทั้งเก่งและสุพจน์ตอนนี้ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า สาวสวยในสังคมไฮโซชั้นสูงกำลังถูกคนรถเฒ่าตัวแซบจับก้นกดแอ่นสวนสู้การ กระเด้าแทงอย่างรุนแรงอยู่ในรถของตัวเอง และที่ร้ายที่สุดสำหรับสุพจน์นอกจากจะไม่ได้ลิ้มรสสวาทจากเมียสาวเพื่อนแล้ว ตอนนี้คู่หมั้นคนสวยของเขากำลังโก้งโค้งแอ่นก้นขาวผ่องอ้ากลีบขาวอวบอูมอมหัวถอกเข้าไปแล้วครึ่งหัว รอเพียงการการกดแทรกแหวกโพรงสวาทเพื่อเปิดบริสุทธิ์อยู่ในคอนโดหรูที่เขา เตรียมการขึ้นเองโดยเฉพาะ
"อ้าว....อยู่กันสองคนเองเหรอครับ..แล้วน้องดากับไอ้เก่งยังไม่มากันเหรือ"
สุพจน์เอ่ยถามสองนักศึกษาสาวทั้งสองคนเมื่อเขาเข้าไปในร้านที่เป็นจุดนัดหมาย
"ค่ะพี่......เดี๋ยวพี่ดาคงจะใกล้ถึงแล้วเพราะขับรถออกตามออกมาติดๆ...แต่พี่เก่งนี้ซิค่ะออกมาก่อนตั้งนานไม่รู้ไปไหนยังไม่ถึงสักที"

สาวแนนเอ่ยตอบพร้อมบอกภาพเหตุการณ์ลำดับการเดินทางของเพื่อนรัก และ คู่หมั้นสาวของเขาให้ฟัง
สุพจน์ได้ฟังดังนั้นก็ไม่ได้รู้สึกเฉลียวใจเลยซักนิดเพราะทั้งคู่ไม่ได้ออกมาด้วยกัน
"งั้นเราสั่งอะไรมากินกันก่อนดีกว่า....เมื่อกี้ในงานพี่ไม่ได้ทานอะไรเลย ...เอานี้เมนูครับ"

พร้อมกับคำพูด สุพจน์รับเมนูจากบ๋อยที่กำลังเดินเข้ามาหา ยื่นให้แก่นักศึกษาสาวทั้งสองคน
ทั้งสามนั่งกินอาหารพร้อมเหล้าชั้นดีซึ่งสองสาวก็กินพร้อมกับเขาด้วยโดยเธอ ทั้งคู่ดื่มมันอย่างคุ้นเคย ตามแบบฉบับนักศึกษายุคใหม่............
ทั้งหมดดื่มกินกันอย่างสนุกสนานแม้ แต่สุพจน์เองก็ไม่รู้สึกตัวจนเวลาผ่านไปเนินนาน
"เออ.....พี่พจน์...ขาาา...ทำไม...เออ...พี่เก่งกับพี่ดา......ยังไม่มาสักที"
เสียงของสาวแนนเอ่ยขึ้นพร้อมกับคำถาม สุพจน์หันไปมองคนพูดก็เห็นว่าทั้งสองคนแม้จะไม่ถึงกับเมา แต่ใบหน้าทั้งคู่กลับแดงก่ำเปลือกตาปรือๆเล็กน้อยส่งสายตาฉ่ำเยิ้มมายังเขา
"นั่นซิครับ" เขากล่าวตอบด้วยความสงสัยพร้อมกับยกนาฬิกาขึ้นดู
"อุ้ยตายละ...จะตีสองแล้วเหรอ.....เดี๋ยวพี่โทรศัพท์หาญาดาเค้าแป๊ปนะครับ"
พร้อมกับพูด สุพจน์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรหาคู่หมั้นคนสวยทันที แต่ยังไม่ทันที่สัญญาณต่อโทรศัพท์จะดังขึ้นสาวเชอรรี่ก็สวนขึ้นมาทันทีว่า "พี่พจจจจจน์.....ขาาาา... เชอรรี่ว่าพี่ดาคงกลับไปนอนแล้วละค่ะ.......ตีสองกว่าเข้าไปแล้วววว.... สงสัยคงเหนื่อย อีกอย่างเห็นพี่มากับพี่เก่งก็เลยไม่ได้โทรมาบอก...เดี๋ยวก็โดนเอ็ดเอาหรอก ...โทรไปตอนหลับๆ"
"ช่ายยยยย...เมือ่กี้ตอนออกมาแนนก็เห็นหาวหวอดๆ"
สาวแนนพูดเสริมเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงของอาการมึนๆสนุกสนาน ทั้งๆที่เธอเองก็จำไม่ได้ว่าญาดาแสดงอาการเหนื่อยหรือไม่
"แล้วววว..เช..เชอรี่ก็ว่าพี่เก่งงงง..คงไปนอนกอดเมียที่บ้านแล้ว...เห็นบอกไม่สบายเหมือนกันนี่...แถมเมียยังสวยอีกต่างหากเนอะแนน"

คำว่าเก่งกำลังนอนกอดเมียทำให้สุพจน์มโนภาพถึงเรือนร่างอันแสนสวยของแพรวา ที่นอนแผ่หราอ้าขาออกอยู่บนเตียงโดยมีร่างของเก่งเกยทับด้านบน ซบใบหน้าซุกไซ้ทรวงอกขาวผ่องของเธอ ช่วงล่างลำตัวของสามีเธอกำลังแทรกอยู่กลางหว่างขาทั้งสองข้าง   กดกระเด้าบั้น เอวสาวท่อนเอ็นเข้าออกร่องหรืบอย่างดุดัน ซึ่งจริงๆน่าจะเป็นเขาแทน
"พี่พจน์ขาา....ทามมายเงียบปายเลยลาค้าาาา" เสียงเชอรรี่กระเซ้าต่อ" สุพจน์จ้องสายตาไปยังสาวน้อยวัยอวบอั๋นที่มองจ้องตาเขาด้วยสายตาหยาดเยิ้ม เปลือกตาปลือไปตามฤทธิ์ของแอลกอฮอล์
"เออ....จะกลับกันยังครับสองสาว.......ถ้ายังไม่เมาไปร้องคาราโอเกะต่อกันไหม ครับ"
สุพจน์เอ่ยถามโดยหันไปมองใบหน้าของแนน หญิงสาวอีกคนที่ตอนนี้เธอนั่งโยกตัวไปมาตามจังหวะดนตรีในร้านที่เริ่มคึกคัก ขึ้น หน้าออกขนาดลูกซาลาเปาที่อัดแน่นแข็งตึงอยู่ภายในเสื้อนักศึกษารัดรูปที่มัน ย้วยไปมาพร้อมทรวงอกของหล่อนที่โยกไปมาตามจังหวะของเธอ ทำเอาสุพจน์ซึ่งกำลังหันไปมองเธอถึงกับต้องนั่งไขว้ขาบีบเจ้าหนูของเขาไม่ ให้มันขยับตัวพองขึ้นจากเดิมเพราะภายหลังจากที่สุพจน์มโนภาพการร่วมรักของ แพรวากับสามี เจ้าสิ่งที่อยู่ในกางเกงเขาก็มีอาการสั่นไหว
"ไปไหมแนน........วันนี้พี่แฟรงค์แฟนเราเขาอนุญาตให้เที่ยวได้ 1 คืน"
"ไปซิ...มีเจ้ามือแล้วนี้...พี่บอยก็ไม่อยู่ด้วย........ไปยังค่ะพี่พจน์"
"งั้นไปกันเลยครับ....พี่จ่ายตังให้แล้ว"
พูดจบสุพจน์ก็ลุกขึ้นรอให้หญิงสาวทั้งสองคนลุกตามแล้วบอกให้ทั้งคู่เดินนำหน้าเขาออกจากร้าน
"เจอกันที่ร้าน บิ๊ก เอ๊กโค่ แถวหลังสวนน๊ะ....รู้จักไหมครับ"
"ค่ะพี่.....แล้วเจอกัน" แนนหันมาตอบสุพจน์ขณะเดินคู่ไปกับเชอรรี่นำหน้าเขาเพื่อเดินไปที่รถโดยไม่ได้หันมามองชายหนุ่ม

ขณะที่สุพจน์เดินตามด้านหลังของหญิงสาวทั้งสองคน ความรู้สึกเงี่ยนที่สะสมมาตั้งแต่เตรียมตัวหาความสำราญกับเมียคนสวยของ เพื่อนแล้วไม่ได้เอา กับภาพร้องครวญครางของเธอผู้นั้นขณะกำลังร่วมรักกับสามี และภาพหน้าอกน้อยๆคู่งามที่ดันสาบเสื้อนักศึกษาจนโป่งพองออกมายักย้ายส่ายไป ตามจังหวะโยกไปมาของแนนเมื่อกี้ ทำเอาดุ้นน้อยๆในกางเกงของเขาที่เพิ่งสงบไปเมื่อครู่จากการนั่งไขว้ขาบีบกัน ไว้ เริ้มมีการขยับไหวพองออกช้าๆ ชุดนักศึกษาที่ทั้งสองใส่นั้นก็ตามแบบสมัยนิยมที่วัยรุ่นทั่วไปสวมใส่ หากแต่สิ่งที่นอกเหนือไปจากชุดปกติทั่วที่เน้นเข้ารูปทรงโดยเฉพาะกระโปรงของ เธอทั้งคู่ที่สวมใส่นั้น ในยามปกติใครได้เห็นก็ต้องเหลียวหลังมองไปตามๆกัน ก็เพราะการที่เธอทั้งคู่นั้นจัดได้ว่าทางบ้านมีฐานะเลี้ยงดูอย่างดีจึงมีรถยนต์ส่วนตัวใช้กันจึงไม่กลัวอันตรายจากพวกหื่นกามบนท้องถนน เพียงแต่วันนี้แนนอาศัยรถของเชอรรี่มาแล้วทิ้งรถของตัวเองไว้ที่บ้านเพราะ ต้องมางานเลี้ยงด้วยกัน ทั้งคู่จึงสวมใส่กระโปรงที่สั้นเต่อเพื่ออวดโชว์ลำขาขาวเนียนเรียวงามได้ รูปกลมกลึง อีกทั้งยังผ่ากลางกระโปรงเปิดเผยลึกขึ้นไปเกือบถึงก้นงอนๆเห็นเนื้อในที่อวบ แน่นขาวเหมือนหยวกกล้วยของต้นขาขาวผ่องอีกด้วย ยิ่งกระโปรงตัวดีที่สวมใส่นั้นรัดเข้ารูปแบบตึงเปรี๊ยะด้วยแล้วจึงทำให้เห็น เอวคอดกิ่ว สะโพกผายโค้งรับกับเอวและขาเรียวๆ จังหวะก้าวเดินของแต่ละนางเฉิดฉายเหมือนนางแบบบนแคตวอล์คไขว้สลับไปมา ยิ่งทำให้ก้นงอนกลมๆของเธอทั้งคู่สะบัดไปมาซ้ายขวายักย้ายไปตามแรงบิดสะโพก สุพจน์มองตามจังหวัดเดินบิดสะโพกเหมือนคนยักคิ้วไปมาเบื้องหน้าแล้ว อารมย์กระสันต์สวาทภายในของเขาที่อัดอั้นอยู่นั้นเริ่มปะทุขึ้นมาทันทีทันใด "เอ....จะล่อสองคนนี้ยังไงดีน๊า" ยังไม่ทันได้คำตอบทั้งหมดก็มาถึงรถที่จอดติดกัน
"ถ้าน้องแนนกับเชอรี่ถึงก่อนบอกคนรับแขกว่าเอาห้องสูทนะบอกชื่อพี่ไปเพราะพี่เป็นเมมเบอร์อยู่"
"ค่ะพี่พจน์" สุพจน์ไม่สนใจคำตอบกลับ เขาเปิดประตูรถขึ้นไปแล้วก็คิดแผนการเพื่อระบายความหงี่ที่มันปุดๆจนท่อน เอ็นในกางเกงเริ่มแข็งตัวตามขึ้มาทันที"

ฝืน 14 ตอนตีปลาหน้าไซ

"มาถึงก่อนพี่ซะอีกนะเนี้ย...ขับเร็วเหมือนกันน๊า" สุพจน์เอ่ยขึ้นขณะเดินผ่านประตูห้องสูท VIP ภายในร้านคาราโอเกะชื่อดัง ภายในเป็นห้องไว้สำหรับร้องคาราโอเกะสำหรับลูกค้า VIP ที่กว้างขวางเบาะผ้าชั้นดีขนาดใหญ่ตั้งในลักษณะรูปเกือกม้า มีจอโทรทัศน์พร้อมอุปกรณ์คาราโอเกะวางอยู่ตรงกลาง ภายในห้องมีห้องน้ำในตัวซึ่งก็นับว่ากว้างขวางเช่นกัน โดยทางร้านจะให้เฉพาะลูกค้ามีระดับเท่านั้นเช่นสุพจน์เป็นต้น

สุพจน์นั่งลงข้างๆเชอรรี่ สาวน้อยวัยขบเผาะ เหล้าและกับแกล้มชั้นดีถูกนำมาเสริฟท์ให้กับหนุ่มสาวทั้งสามคน ขณะที่ทั้งหมดกำลังเริ่มร้องเพลงตามเมนูที่กดไว้ สุพจน์เองเขาไม่ค่อยร้องเพลงกับสาวๆเท่าไหร่นักภายในใจกำลังครุ่นคิดหาวิธี ขยี้สวาทสองสาวซึ่งเป็นใครก็ได้ระหว่างสองคนนี้
จนกระทั้งเมื่อเวลาผ่านไปไม่นานในจังหวะที่เพลงที่เลือกไว้หมดลงและสองสาวกำลังง่วนอยู่กับการมองหาชื่อเพลงที่อยากจะร้อง
"โทษทีครับพี่ถามอะไรซักอย่างได้เปล่าครับน้องแนนน้องเชอรรี่"
"ถามมาซิค่ะพี่พจน์....พี่เป็นเพื่อนพี่เก่งเจ้านายของเชอรรี่ถึงตอบไม่ได้ ก็จะตอบ" เชอรรี่กล่าวตอบเรียบๆโดยตายังคงจ้องไปที่สารบัญเพลงเพื่อช่วยแนนซึ่งก็อยู่ ในลักษณะเดียวกันโดยไม่ได้เหลียวหันมามองสุพจน์
"คือพี่เห็นบอกว่าเป็นเชียรลีดเดอร์ทั้งคู่เลย แล้วเรียนปีไหนกันครับนี่"
"เชอรรี่เพิ่งเข้าปี 1 ค่ะ แต่แนนอยู่ปี 2 แล้ว" เชอรรี่กล่าวโดยยังคงมองชื่อเพลงกับเพื่อนสาวเช่นเดิม
"แล้วนี่มาเป็นพริตตี้ให้ไอ้เก่งเล่นๆแก้เซ็งหรือว่าหารายได้เสริมครับ"
"โอ้ยพี่พจน์ขา....เชอรี่กับแนนไม่สนใจเงินค่าตัวหรอกค่า....ค่าเสื้อผ้ากับของใช้เราสองคนมากกว่าค่าตัวพริตตี้อีก"
"นั้นนะซิพี่ก็สังเกตุนะว่าเราสองคนคงมีฐานะดีพอควรเหมือนกัน...แต่.. อ้าว...แล้วมาทำงานนี้ทำไมละครับ.....พี่เห็นพริตตี้บางค่ายต้องแต่ตัวโป๊ๆ โชว์สัดส่วนให้พวกที่มาดูรถจ้องกันตาเป็นมันเลย"
คำพูดของสุพจน์ทำให้ทั้งเชอรรี่และแนนต้องละสายตามที่จ้องหาเพลงหันกลับมามองที่เขาอย่างพร้อมเพรียงกัน
"เราทำเพราะบางอย่างใช้เงินซื้อไม่ได้ค่ะพี่พจน์" คำตอบนี้ของเชอรรี่ทำเอาสุพจน์ถึงกับเลิกคิ้วทั้งสองข้างขึ้นด้วยความสงสัย
"ชื่อเสียงค่ะพี่พจน์......จะได้มีคนรู้จักเยอะๆ...มีกล้องมาถ่ายเราออก โทรทัศน์มีคนมาสัมภาษณ์......เพื่อมีแมวมองมาเห็นจะได้ชวนไปถ่ายโฆษณา เผลอๆได้เล่นละครอีก" สาวแนนตอบไขความกระจ่างให้เขาเมื่อเห็นสีหน้าที่งุนงงกับคำตอบแรก
"ใช่ค่ะพี่พจน์....พวกเราก็ไม่ใช่ขี้เหร่ซะหน่อย...อยู่ในมหาลัยวันๆไม่มี แมวมองมาหรอกค่ะ....ครั้นจะให้วิ่งไปเทศหน้ากล้องตามที่เขาเปิดรับสมัครแบบ นั้นนะ...เราไม่เอาหรอก....เสียเกรดหมด..เดี๋ยวพวกเพื่อนๆมันหาเราอยากดัง จริงไหมแนน"
"ใช่ค่ะพี่พจน์....ถ้าเป็นแบบมีพวกครีเอทีฟมาเห็นแล้วเชิญไปถ่ายแบบนะ... อย่างนี้ดังกว่าอีก" สาวแนนเสริมต่อแล้วก็ชวนเชอรรี่หันกลับไปหาชื่อเพลงที่ยังค้างอยู่
ใช่แล้ว.......ความคิดเขาแล่นขึ้นมาบนหัวอย่างรวดเร็ว......หญิงสาวพวกนี้ อยากโด่งดังเป็นที่รู้จักและสนใจทั่วไปของกลุ่มวัยรุ่น...แม้พวกเธอเหล่านั้นจะมีเงินและฐานะ.....แต่การจะก้าวมาเป็นดารานั้นจะต้องได้รับการสนับสนุนด้วย ซึ่งดาราวัยรุ่นในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่นอกจากฐานะทางบ้านดีอยู่แล้ว ยังเป็นพวกนามสกุลเก่าแก่ที่อาศัยพื้นฐานของครอบครัวผลักดันเข้าวงการ แต่สำหรับเธอสองคนนี้แม้ฐานะทางบ้านจะดีแต่ก็เป็นแบบเศรษฐีใหม่ไม่มีเส้นสายใดๆ ครั้นจะเที่ยววิ่งไปขอเทศหน้ากล้องตามงานต่างๆก็กลัวเสียเครดิตและถูกนินทา หาว่าอยากดัง จึงต้องอาศัยช่องทางนี้เพื่อผลักดันพวกเธอให้เป็นที่รู้จักและได้การยอมรับ ขณะที่คิดประติดประต่อความต้องการของสองสาว
สุพจน์ก็เหลือบตาลงมองช่วงล่างของสาวเชอรรี่ที่นั่งติดกับเขาสิ่งที่เห็น เล่นเอาท่อนเอ็นในกางเกงกระตุกโดดผึงขยายยาวออกทันที เพราะด้วยเรียวขายาวสวยของวัยรุ่นยุคนี้ที่ดื่มนมเป็นกิจวัตร เมื่อต้องนั่งลงบนโซฟาที่สูงจากพื้นไม่มาก ท่านั่งของสาวน้อยที่หย่อนก้นลงโซฟาตัวเดียวกับเขาจึงต้องนั่งชันเข่าสูง ขอบกระโปรงสั้นรัดเข้ารูปที่สวมใส่ จึงรั้งลงมาจากที่เคยปกปิดไว้แค่ครึ่งต้นขาอวบขาวกลายเป็นร่นมาปกปิดแบบหมิ่นเหม่แค่เพียงแก้มก้น ความขาวอวบของแก้มก้นหล่อนที่อัดแน่นตามวัยสาวขบเผาะจึงล้นออกมาปริ่มๆ จากกระโปรงตัวนั้น ดีแต่ว่าเธอนั่งหนีบเข่าชิดทั้งสองข้างไว้  มิฉะนั้นหากเผลอนั่งอ้าขาออกซักนิด โหนกนูนของสาววัยขบเผาะผู้นี้ คงจะแอ่นโคกกระดองเต่าที่มีชั้นในปกปิดไว้โผล่พ้นขอบกระโปรงด้านหน้าที่ร่นขึ้นจนปิดแค่ต้นขาแอ่นโคกอูมๆยื่นล่อสายตาเขา ทันที

"โถ่เอ๋ย........แค่นี้เองไม่เห็นยากอะไรเล้ย" สุพจน์กล่าวขึ้นพร้อมละสายตาจากสิ่งล่อตาล่อใจแล้วหันกลับไปยกเหล้าดื่ม เพื่อระบายความกำหนัดที่เริ่มอัดแน่นขึ้น
คำพูดแสดงความง่ายที่จะก้าวไปเป็นดาราขวัญใจวัยรุ่นเล่นเอาทั้งสองสาวถึงกับหันกลับมามองที่เขาเป็นตาเดียวกัน
"ฮา....พี่พจน์รู้จักคนในวงการหรือค่ะ" เชอรี่ผู้ที่เริ่มจุดประกายความกระสันต์ของเขาส่งเสียงร้องออกมาด้วยความ ตื่นเต้นผสมกับความหวังจากคำพูดดังกล่าว
"ใช่ครับก็พี่กับพี่เก่งเป็นสปอนเซอร์รายการโทรทัศน์ นิตยสารตั้งหลายอย่าง เวลาบริษัทโฆษณาเขาจะทำอะไรเขาจะถามเราก่อนว่าเจาะจงใครไหมเป็นพิเศษที่จะ ให้เป็นนายแบบหรือนางแบบ........แต่ส่วนใหญ่พี่จะปล่อยให้พวกเขาเลือกกันเองนะ ครับไม่ค่อยไปยุ่ง....แล้วนี้หลังจากงานมอร์เตอร์โชว์ที่น้องสองคนไปเป็นพรีเซ็นเตอร์นะ  เราจะมีสปอร์ตภาพยนต์แนะนำรถรุ่นใหม่พอดี....เห็นเขากำลังหานาง แบบอยู่"
"โถ่พี่พจน์ขา.......แนะนำแนนกับเชอรรี่ให้เขาหน่อยได้ไหมค่ะ....น๊ะน๊ะ" สาวแนนกระโดดตัวลอยจากที่นั่งลุกวิ่งอ้อมสุพจน์ด้านหน้าลงมานั่งข้างๆเขาอีกข้างทันที พร้อมกับใช้สองแขนขาวเรียวสวยๆของเธอดึงแขนของสุพจน์ขึ้นมาคล้องแขนทั้งสองข้างของตัวเอง พร้อมเขย่าไปมาเหมือนเด็กน้อยๆที่กำลังรบเร้า ผู้ใหญ่ยามที่อยากได้ของเล่น
เธอหมดความระมัดระวังในกิริยาท่าทางโดยสิ้นเชิงเพราะกำลังอยู่ระหว่าง   ตื่นเต้นกับโอกาสตรงหน้าที่สุพจน์พูดขึ้น ทันทีที่หย่อนก้นงอนๆลงบนโซฟา สองเข่าที่ยามนั่งปกติจะหนีบชิดกันกลับขยับไปมาอ้าๆหุบๆ เนินอวบอูมน้อยๆของสาววัยขบเผาะที่อยู่ภายในชั้นในสีขาวลายตุ๊กตาจึงโผล่พ้น ชายกระโปรงที่ปิดอยู่แค่ต้นขาโผล่ออกมาวับๆแวมๆเล่นเอาสุพจน์ต้องขยับตัว เล็กน้อยเพื่อให้เกิดช่องว่างในกางเกงให้เจ้าดุ้นเอ็นที่เด้งตัวขึ้นทันที ทันใดมีพื้นที่ขยับขยายพองตัว เมื่อสายตาของเขาไปบรรจบกับโคกนูนๆที่อยู่กลางหว่างขาขาวอวบของสาวน้อย
"งั้นเดี๋ยวพี่โทรไปให้เลย.....ผู้กำกับคงยังไม่หลับหรอกเพราะนอนกันดึกอยู่ แล้ว"
สุพจน์หยิบโทรสัพท์ขึ้นมาทำท่าทางกดเบอร์โทรออกแล้วรอสักพักจากนั้นจึงพูดขึ้นเหมือนมีคนสนทนาอยู่ด้วย
"คุณศักดิ์เหรอ...นี่ผมสุพจน์น๊ะเรื่องนางแบบโฆษณารถรุ่นใหม่ของเก่งเป็นไง บ้างครับ..........อ้อได้แล้วเหรอ....คืองี้ครับคุณศักดิ์พอจะเปลี่ยนได้ไหม ผมอยากแนะนำน้องสองคนที่เป็นพริตตี้อยู่กับทางเราให้คุณศักดิ์แทนนะครับ.... จำได้ไหม......ใช่สองคนนั่นแหละครับสวยมากทั้งคู่ ...อ้าวทำไม่ละ" สองสาวได้ยินคำว่าสวยมากทั้งคู่ถึงกับแสดงความตื่นเต้นขึ้นมาทันทีแต่แล้วก็ ต้องหยุดนิ่งลงเมื่อได้ยินประโยคที่ตามมา สุพจน์ทำท่าเหมือนฟังเสียงฝั่งตรงข้ามพร้อมกับทำสีหน้านิ่วคิ้วขมวด แต่หากทั้งสองสาวแย่งโทรศัพท์จากมือเขามาดูก็จะรู้ว่ากำลังถูกหลอกและตกอยู่ ในแผนการณ์เจ้าเล่ห์ของจิ้งจอกสวาทอย่างเขา
"ตายแล้วคุณศักดิ์ทำไมคุณทำอย่างนั้นละ...แล้วนี้แสดงว่านางแบบทุกคนเลยใช่ ไหมครับ....แล้วพอจะบอกเด็กของคุณให้ไปเป็นแบบแทนเรื่องหน้าได้ไหมละ .........คุณมีทางไม๊ละ" น้ำเสียงที่ส่ออาการพยายามช่วยเหลือสองสาวสุดๆทำเอาทั้งคู่มีสีหน้าเศร้า สร้อยลงทันที
"จะบ้าเหรอคุณ.....ผมคงทำไม่ได้....แล้วอีกอย่างผมก็ไม่รู้หรอกน๊ะว่าน้องสาวทั้งสองคนนี้เป็นยังไง......แค่นี้แล้วกันน๊ะครับ"

พูดจบสุพจน์ก็หันมาบอกกับสาวน้อยทั้งสองคนพร้อมแสดงท่าอึดอัดใจให้เธอสองคน เห็น
"เออ...พี่ว่าโอกาสหน้าแล้วกันน๊ะครับพอดีติดขัดนิดหน่อย"
"มีอะไรหรือค่ะพี่พจน์....เห็นเมื่อกี้พี่พจน์บอกว่าไม้รู้แนนกับเชอรรี่เป็นยังไง...หมายความว่าอะไรหรือค่ะบอกเรามาเถอะ"
สาวเชอรรี่ที่อยู่ข้างเขาอีกด้านกล่าวขึ้นด้วยสีหน้ากังวลและเศร้าสร้อย เอ่ยขึ้นพร้อมกับขยับตัวเข้าชิดเขาอีก ทำให้จังหวะขยับก้นเบียดร่างเข้ามาของเธอจึงเผยให้เห็นโคกอวบเท่าฝ่ามือโผล่ พ้นขอบกระโปรงเช่นเดียวกับสาวแนนเมื่อครู่
"อื้อ...นี้ก็นูนเหมือนกันโว้ย" เขานึกในใจขณะรอโอกาสการขยับตัวของหล่อนอยู่ก่อนแล้ว
"เอ่อคือ...ผู้กำกับเขาบอกว่าจะต้องถ่ายทำหนังในอีก 2 วันข้างหน้าน๊ะครับกลัวจะไม่ทัน"
"คงไม่ใช่แค่นี้หรอกมั้งค่ะ.....เพราะพี่ยังไม่บอกเลยเรื่องที่ไม่รู้เกี่ยวกับเรา" สาวแนนเอ่ยขึ้นแบบเคร่งเครียด
"ถ้าพี่บอกเราสองคนต้องไม่โกรธน๊ะ....แต่พี่จะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติในวงการน๊ะ"
"ค่ะพี่....เราสัญญาเพราะพี่พยายามช่วยเราแล้ว...บอกมาเถอะค่ะ"ทั้งสาวแนนและเชอรรี่พูดออกมาแทบจะพร้อมกัน
"คือผู้กำกับเขาบอกว่า.....ปกติคนที่จะเป็นนางแบบเขาจะต้องยอมมีอะไรๆกับเขาก่อนน๊ะครับ"
สุพจน์เอ่ยพร้อมกับหยุดจังหวะลงชั่วครู่จากนั้นจึงพูดขึ้นต่อโดยไม่ได้มองหน้าหญิงสาวทั้งคู่
"นางแบบสองคนนั้นเค้าก็ยินยอมน๊ะ....เค้าก็เลยจำเป็นต้องให้โอกาสทางนั้นก่อน...แต่..."
"แต่อะไรค่ะ...พี่พูดมาเถอะ" สาวแนนนถามกลับมาอย่างรวดเร็วเมือสุพจน์พูดค้างแค่นั้น
"เอ่อ...พี่ว่าเขาเปลี่ยนได้แต่......คงอยากให้น้องสองคนทำแบบนั้นเหมือนกัน "
พูดจบเขาก็รีบลุกขึ้นยืนทันทีทำเอาสองสาวที่ตกอยู่ในภวังค์ถึงกับสะดุ้งตัว ตกใจ
"ไปเรากลับกันเอะครับ....พี่ยอมไม่ได้หรอก...แต่ครั้นจะให้พี่ใช้อำนาจ เปลี่ยนตัวก็ไม่ดี.....เพราะนางแบบสองคนนั้นก็มีอะไรๆกับผู้กำกับไปแล้ว .......อีกอย่างทางเราจ่ายเงินไปแล้วด้วยครับขืนไปขัดเขาเดี๋ยวทำหนังให้ไม่ ดีจะไปกันใหญ่..........และที่สำคัญเค้าบอกว่าถึงน้องแนนกับเชอรรี่จะยินยอม น้องสองคนต้องไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ด้วยเพราะเขากลัวจะมีปัญหาภายหลัง......อัน นี้แหละที่ทำให้พี่บอกเขาไปว่าจะรู้ได้ไง"

ทั้งคู่นั่งเงียบหันมาสบตากันด้วยท่าทางผิดหวัง โดยที่เขาเองก็ไม่รู้หรอกว่าภายในใจแต่ละคนกำลังคิดอะไร
"ไปกันเถอะครับดึกแล้ว....พี่เซ็งด้วยที่ช่วยแนนกับเชอรรี่ไม่ได้...แหมเสียดายครั้งนี้ถ่ายหนังโฆษณาเสร็จ...เรากะจะลองให้ไปเทศกล้องแสดงละครต่อพอดี สองคนนั้นเลยโชคดีไป" สุพจน์กล่าวเสริมความสำคัญของการถ่ายแบบครั้งนี้เพิ่มอีกเพื่อเป็นแรงจูงใจ ให้กับเธอทั้งคู่ที่จะเข้าสู่หลุมพรางของตัวเอง
"เดี๋ยวพี่ออกไปจ่ายเงินข้างนอกก่อนน๊ะครับ....จะได้กลับกัน"
พูดจบเขาก็ก้าวเดินออกจากห้องไปทันที ปล่อยให้สองสาวนั่งเงียบมองสบตากันไปมาภายในห้องสูทคาราโอเกะหรูห้องนั้น
"ไม่น่าเลยเนอะแนน.....ไม่งั้นได้ทั้งถ่ายโฆษณา และได้ลองเล่นละครด้วย"
สาวแนนนั่งเงียบไม่ตอบ จนกระทั้งเอ่ยขึ้นมาช้าๆ
"เราเคยได้ยินเหมือนกันเชอรรี่...เรื่องแบบเนี้ยะ...เห็นเพื่อนๆเราก็พูดกัน บ่อยว่านักแสดงนักร้องใหม่ๆก็ใช้วิธีนี้และถึงได้ดังกันเร็วไง" ยังไม่ทันที่ทั้งสองคนจะพูดอะไรต่อภายในจอโทรทัศน์ที่เดิมเป็นสีน้ำเงิน เพราะรอการเลือกเพลงกลับมีเสียงซีดซาดครวญครางออกมา พร้อมกับภาพการร่วมรักกันของหญิงชายต่างชาติคู่หนึ่งปรากฎขึ้นมาแทน การร่วมรักในภาพเป็นไปอย่างดุเดือดเผ็ดร้อน ฝ่ายหญิงนอนอ้าขาถ่างจากกันสุดหล้าอยู่บนโต๊ะกินข้าว ร้องครวญครางเสียงดังกระเส่าเป็นจังหวะๆตามแรงกระเด้าส่งท่อนเอ็นดุ้นขนาด น้องๆม้าทั้งยาวและใหญ่ของชาวนิโกรซึ่งกำลังยืนแอ่นกระแทกท่อนเอ็นสีดำสนิท เหมือนถ่านแหวกเข้าออกร่องกลีบของหญิงสาวฝรั่งผิวขาวอย่างเมามัน สองสาววัยขบเผาะนั่งมองภาพที่เห็นนิ่งเงียบทั้งคู่สองกลีบแคมวัยสาวเริ่มมี อาการขมิบไปมาเข้าหากันเป็นระยะๆตามจังหวะกระแทกท่อนลำขนาดมโหฬารของชายผิว ดำในโทรทัศน์

review1972

อ่านกี่ครั้งก็เรียกน้ำได้ตลอด555