ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_KaohomLM

มนตรา สงคราม ความรัก ตอนที่ 74: ปีกสีขาว

เริ่มโดย KaohomLM, พฤศจิกายน 15, 2024, 05:45:18 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

KaohomLM

   ร่างสี่ร่างหล่นตุ๊บลงบนผืนหญ้าข้างน้ำตกใหญ่
   ข้าวหอมที่บาดเจ็บน้อยสุดแล้วดันตัวลุกขึ้นมาอย่างทุลักทุเล
   "ทุกคน ไม่เป็นไรนะคะ"
   ชาคริตครางแผ่ว ๆ เบญหลับตาลงและเหมือนจะสลบไปอีกรอบ พี่นทีหน้าซีดเผือด ฟุบลงไปกับพื้นหญ้า เหน็ดเหนื่อยจนขยับลิ้นยังไม่ไหว
   ข้าวหอมเหลียวมองรอบตัว
   ใช่ นี่เกาะสวรรค์ของเธอกับพี่นที
   "รออยู่นี่นะคะ เดี๋ยวหนูไปเอายาก่อน" เธอบอก แล้วรีบวิ่งไปที่ตัวบ้าน

   ข้าวหอมต้องปฐมพยาบาลกันนานพอสมควร ก่อนที่เบญจะฟื้นขึ้นมาร่ายคาถาเยียวยาได้
   "เบญ...ขอบคุณมากนะ" ชาคริตกระซิบ หลังจากที่เบญซ่อมฟันที่หักไปหกซี่ให้ ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นมองนทีกับข้าวหอม "นี่ผมไม่ได้ฝันไปใช่ไหม เรื่องปิศาจ เรื่องเวทมนตร์"
   "ไม่ได้ฝัน คริต มันเป็นจริง" เบญบอก "เราก็มีพลังเวทมนตร์จริง ๆ"
   "แล้วถ้ามหาปิศาจตัวนั้นได้สังเวยน้องชาคริต มันก็จะได้พลังพอจะเปลี่ยนโลกเราเป็นแดนปิศาจแห่งใหม่" นทีบอก
   "สังเวยนี่คือ...." เบญถาม
   "ก็ฆ่าทิ้งนั่นแหละ แค่ฆ่าในสถานที่ประกอบพิธี คล้าย ๆ ตอนพี่เผาแบงค์ร้อยของเจ๊แล้วได้พลังมายกตัวน้องเบญนั่นแหละ แค่งานใหญ่ระดับจะปราบดาภิเษกเป็นราชินีปิศาจ มันต้องมีเตรียมอย่างอื่นหลายอย่างหน่อย" นทีตอบ
   พอเริ่มขยับตัวไหว เขาก็ดึงเอาพลังที่แฝงเร้นในเกาะสวรรค์มาเป็นพลังสำรองในร่าง การถ่ายทอดพลังจากอาคมบนสิ่งของที่ไม่มีชีวิตอย่างเหล็กหินมาสู่กายเนื้อที่เปราะบางเป็นสิ่งที่เขาไม่แนะนำอย่างยิ่ง เขาสัมผัสได้ว่าอวัยวะภายในของเขาบอบช้ำหลายจุด (และอีกสิ่งที่เขาไม่แนะนำอย่างยิ่ง คือการใช้พลังเวทมนตร์มารักษาอวัยวะที่บอบช้ำเพราะรับพลังเวทมนตร์) แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ขยับได้ เดินได้ พูดได้ ร่ายคาถาได้
   "ที่นี่ปลอดภัยไหมคะ" เบญถาม "หนูสัมผัสได้ว่ามีพลังปกป้องแกร่งกล้ากว่าห้องพี่เจ๊อีก"
   "ไม่ว่าพลังไหนก็กันมหาปิศาจนานไม่ได้หรอก" นทีส่ายหัว "แต่อย่างน้อย ๆ ตอนนี้ มันก็ยังไม่ได้ตามเรามา"
   "มหาปิศาจคือตัวอะไรครับ" ชาคริตถาม
   "ปิศาจที่ทรงพลังมาก ๆ" นทีตอบ ก่อนจะหันมาหาข้าวหอม "เจ๊เก่งมากเลยนะ ที่วาดวงเวทย์ของคาถาแสงสูรย์ได้สำเร็จ มันเป็นคาถาที่ซับซ้อนมาก"
   "ค่ะ...แต่ หนูทำเพื่อพี่ หนูก็ต้องทำได้ค่ะ"
   นทียิ้ม ข้าวหอมยิ้มตอบ
   "แต่....พี่นทีเคยบอกหนูว่า นั่นเป็นคาถาที่พี่ใช้ฆ่าราชาปิศาจไม่ใช่เหรอคะ แล้วยัยคนนั้นก็เป็นแค่มหาปิศาจ ทำไมมันยังไม่ตาย"
   "หนึ่ง ราชาปิศาจไม่ได้โดนแสงสูรย์ดอกเดียว แต่โดนเป็นดอกสุดท้าย ก่อนหน้านั้นมันโดนอะไรไปเยอะแล้ว" นทีอธิบาย "สอง ตอนนั้นพี่ยังมีปีกสีขาว พลังของพี่แข็งแกร่งกว่าตอนนี้มาก (เบญขยับตัวไปมาอย่างรู้สึกผิด) สาม มหาปิศาจตัวนี้ซ่อนตัวบนโลกของเราแล้วดูดซับพลังราคะมาเป็นร้อยปีแล้ว พลังของมันเหนือกว่ามหาปิศาจตัวอื่น ๆ ที่พี่เคยฆ่ามาเยอะมาก อีกแค่ก้าวเดียว มันก็จะได้เป็นราชินีปิศาจแล้วอย่างที่มันบอกนั่นแหละ"
   "แล้วจะฆ่ามันยังไงคะ" ข้าวหอมถาม
   นทีเงียบ
   "พี่นทีใช้คาถาแสงสูรย์ใส่มันอีกสักดอกสองดอกได้ไหมครับ" ชาคริตถาม   
   นทีลูบคางตัวเอง "แล้วมันจะโง่ยืนบ้าน้ำลายให้เราวาดวงเวทย์อีกรอบไหมล่ะ"
   "ตอนที่พี่สู้กับพญาปิศาจตัวนั้น..."
   "พี่วาดวงเวทย์ไว้ตั้งแต่สองคืนก่อนแล้ว ก็เรารู้ล่วงหน้าแล้วนี่ ว่าพญาปิศาจจะโผล่มาที่ไหน"
   "ถึงว่า ก่อนจะสู้กัน พี่ชิลมากเลย"
   "แล้วงานนี้เราจะทำอะไรได้คะ" เบญถาม
   "เจ๊ โทรไปบอกพี่เก่งให้ระดมพลผู้พิทักษ์ทุกคน"
   "จะไหวเหรอคะ" ข้าวหอมถาม เธอรู้ดีว่าผู้พิทักษ์ในยุคนี้ง่อยแค่ไหน ครั้งที่สู้กับพญาปิศาจก็เหมือนกัน แม้ว่ามันจะกระจอกกว่ามหาปิศาจมาก แต่การโจมตีของพวกผู้พิทักษ์คนอื่นก็ไม่สะกิดผิวมันเลย
   "ไม่น่าไหว" นทีถอนหายใจ "แต่ถ้าจำเป็น เราใช้พวกนั้นเป็นโล่มนุษย์ ให้พี่กับน้องเบญได้ร่ายคาถาแรง ๆ"
   ข้าวหอมเบะปากด้วยความสยอง "ตายกันหมดพอดี"
   "ปล่อยมันทำสำเร็จ เราก็ตายหมดเหมือนกันนั่นแหละ" นทีแย้ง "พี่ยังไม่อยากเป็นนักล่ากามนะ พี่มีเจ๊คนเดียวพี่ก็พอใจแล้ว"
   "แต่เอาชีวิตคนอื่นมาล้มตายกันเป็นเบือ ก็ไม่ไหวนะคะ" ข้าวหอมบอก พยายามเต็มที่ที่จะไม่สนใจคำหวานที่พี่นทีหยอดมา
   "พี่ก็กลัวว่ามันจะไม่สำเร็จนั่นแหละ" นทีถอนหายใจ "แต่นอกจากนี้มิอะไรที่เราทำได้ล่ะ"
   เบญหยิบเศษเหล็กสีขาวชิ้นหนึ่งออกมาจากในชุดนางฟ้า
   "พี่นทีคะ...." เบญเรียกเบา ๆ "เราต้องสร้างปีกสีขาวใหม่ค่ะ"
   นทีมองเบญเคือง ๆ "ก็ถ้าทำได้ พี่ทำไปแล้วแหละ"
   "แต่หนูเชื่อว่ามีหนูช่วย เราจะทำได้ค่ะ"

   "เอ้า ไหนว่ามาซิ พี่พลาดอะไรไปตรงไหน" นทีถาม หลังจากพาเบญ ชาคริตและข้าวหอมมาที่เตาหลอมแล้ว ผลงานที่ล้มเหลวชิ้นล่าสุดยังคงกองระเกะระกะอยู่
   "คืออย่างนี้นะคะ" เบญบอก "เท่าที่หนูสัมผัสได้ในเศษเกราะชิ้นนี้ ปีกสีขาวมีพลังอยู่มากจนไม่น่าจะเป็นไปได้"
   นทีพยักหน้า "ว่าต่อไปสิ"
   "มัน....สมมาตร....." เบญพยายามหาคำอธิบาย "ทุกอย่างที่จารึกลงบนเกราะตัวนี้มีแรงตรงกันข้าม ที่ควรจะขัดแย้งและต้านทานกันเอง แต่กลับทำงานสอดประสานกันอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าอัดพลังงานเท่านี้ใส่ลงไปโดยไม่มีความสมดุลนี้ เกราะมันต้องฉีกตัวเองออกเป็นชิ้น ๆ แน่"
   นทีพยักหน้า เขาเคยเห็นเกราะฉีกตัวเองออกเพราะพลังด้านในมาแล้วเมื่อเขาพยายามเสกอาคมลงไปเหมือนที่ใช้ในปีกสีขาว "อืม"
   "และ...มีบางอย่างที่หนูสัมผัสไม่ได้เหนี่ยวนำให้ทุกอย่างสอดประสานกัน แค่นิดเดียวนั่นแหละ...แต่หนูคิดว่ามันคือ.........."
   "พลังปิศาจ"
   "ค่ะ"
   "ใช่ ปีกสีขาวถูกสร้างขึ้นมาโดยอุบัติเหตุ พวกปิศาจโจมตีเตาหลอมตอนที่เราพยายามสร้างเกราะอยู่" นทีบอก "พลังปิศาจหลงเหลืออยู่ในเกราะ แต่กลับกลายเป็นว่าทำให้เกราะสามารถลบล้างพลังปิศาจทุกอย่างรอบตัวได้"
   เบญกวาดสายตามองเศษเหล็กรอบตัว "พี่พยายามสร้างเกราะใหม่.....หลายครั้งมากเลย..."
   "เอาหล่ะ...เบญ ลองบอกพี่ซิ เราคิดว่าจะทำยังไง ถึงจะสร้างปีกสีขาวใหม่ได้ เพราะที่เราพูดมาพี่ก็เข้าใจอยู่ แต่พี่คิดไม่ออกจริง ๆ ว่าจะทำยังไงให้เกิดลักษณะแบบนี้ขึ้นมาได้โดยตั้งใจ"
   "ก็ต้องมีสามข้อค่ะ" เบญยกนิ้วขึ้นมา "หนึ่ง หนูว่าที่พี่ผิดพลาดที่สุด คือพยายามสร้างชุดเกราะใหม่ด้วยตัวคนเดียว ความสมดุลในเกราะตัวแรกแสดงให้เห็นว่าแหล่งพลังงานต้องมาจากสองแหล่งที่เท่าเทียมกัน จึงได้เกิดความสมมาตร"
   นทีขมวดคิ้ว
   "สองแหล่ง...ที่เท่าเทียมกัน"
   "ค่ะ....เหมือนที่พวกปิศาจปล่อยพลังเข้าใส่เตาหลอมไงคะ พลังของเตาหลอมจากข้างหนึ่ง พลังจากพวกปิศาจอีกข้างหนึ่ง แต่บังเอิญพลังจากสองด้านมันเท่ากัน รอบนั้นมันบังเอิญนะ แต่เราจงใจเสกให้มันเท่ากันได้ค่ะ"
   "สอง อย่างที่หนูบอก พลังส่วนใหญ่ในเกราะเป็นเวทมนตร์ธรรมดานั่นแหละค่ะ มีส่วนเสี้ยวนิดเดียวที่เป็นพลังปิศาจ ที่ยาแนวทุกอย่างเข้าด้วยกัน เพราะฉะนั้น พลังที่เราใช้ในการสร้างเกราะใหม่ ต้องมีพลังปิศาจด้วยบางส่วน ไม่เยอะ แต่ ต้องมี...."
   "สาม ทุกอย่างที่เราทำเพื่อให้พลังกับเกราะ ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน"
   "แปลว่า?"
   "ก็...เอ่อ เกราะเป็นตัวเดียวใช่ไหมคะ พลังงานทุกอย่างทำงานด้วยกัน พี่ไม่เคยรู้สึกเหมือนใส่สองตัว ตอนสร้าง เราก็ต้องใส่พลังจากทั้งสองแหล่ง และพลังปิศาจเข้าไปพร้อม ๆ กัน เป็นหนึ่งเดียว พร้อมกัน เพื่อที่ผลลัพธ์มันจะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียว พี่จะมาใส่พลังส่วนหนึ่งก่อน หยุด แล้วค่อยใส่พลังอีกส่วน แบบนี้ไม่ได้ค่ะ"
   ถึงตอนนี้ เบญหน้าแดง
   "แล้ว........................ราคะก็เป็นพลังปิศาจใช่ไหมคะ"
   "หือ!!!!!!!!!" ข้าวหอมร้อง
   "เบญ...." ชาคริตเรียก
   "น้องเบญ........." ข้าวหอมพูดเสียงเขียว
   "ฟังนะคะ.....ให้พี่นทีเป็นแหล่งพลังที่หนึ่ง หนูเป็นแหล่งที่สอง แล้ว.....เอ่อ..........." เบญหน้าแดงก่ำ
   "พี่ร่ายคาถาลงอาคมให้ชุดเกราะในส่วนหนึ่ง เบญก๊อปปี้พลังของพี่ เสริมในส่วนที่ตรงข้าม เท่ากัน" นทีบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ครุ่นคิด มือลูบคางตัวเอง "ใช่ ส่วนนี้เราทำได้ แต่ที่พี่ยังไม่เข้าใจในส่วนนี้คือ เราจะใส่พลังปิศาจเข้ามาพร้อมกันได้ยังไง"   
   "เค้าจะเอาพี่!!!!!!" ข้าวหอมรีบบอก
   "เห้ย!!!!!!!!!!!!!!!!!" นทีร้องเหมือนว่าเพิ่งจะตระหนักว่าเบญต้องการสื่ออะไร ตัวเขาเองมัวแต่คิดเรื่องหลักการและเหตุผลในเวทมนตร์ที่จะลงในชุดเกราะอยู่ "พี่ไม่เอาด้วยนะ!!!!"
   "มะ ไม่ใช่อย่างนั้นค่ะ" เบญรีบบอก หน้าเธอแดงก่ำอีกแล้ว "แต่....ถ้า....พี่นทีกับพี่เจ๊ แล้วก็หนูกับชาคริต.....พร้อมกัน................................"
   
   "โธ่เว๊ยยยยยยย" ไอ้ชัยตะโกนจากห้องสวีทหรูในโรงแรม สายตาจับจ้องที่ซากที่เหลืออยู่ครึ่งเดียวของเพชรมายาทาวเวอร์ ที่ยังยืนตระหง่านอยู่ใจกลางเมือง เปลวเพลิงพวยพุ่งรายล้อม
   ทุกอย่างที่มันทำมาด้วยความมุ่งมั่นวิริยะอุตสาหะ ไปหมดแล้ว
   นี่กูทำผิดอะไรว๊ะ ทำไมทุกอย่างที่ทำถึงได้พังทลายลงแบบนี้
   ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ
   กูก็พยายามอย่างหนักแล้ว แต่ทำไมถึงได้.....
   แอดดดดด
   ประตูด้านหลังเปิดออก ไอ้ชัยสะบัดตัวหันไปมอง
   พวกตำรวจหรือผู้พิทักษ์จะตามมาจับมันหรือเปล่า
   "นายหญิง!!!!" ไอ้ชัยร้องด้วยความโล่งอก
   หญิงสาวเดินกระโผลกกระเผลกเข้ามา เนื้อตัวหลายส่วนมีแผลไฟไหม้ ชุดดำที่สวมขาดรุ่งริ่ง เผยให้เห็นเนื้อหนังเนียนสวย
   ได้อารมณ์ว่ะ
   ไอ้ชัยรีบเข้าไปประคองตัวนายหญิงของมัน พาไปนอนบนเตียง
   "นายหญิง ไม่เป็นไรนะครับ" ไอ้ชัยถามด้วยความเป็นห่วง มือก็ปลดชุดดำออกจนร่างนายหญิงเปลือยเปล่า
   "ให้ชัยปลอบนายหญิงนะ" มันพึมพำ และลากลิ้นไปตามลำคอขาวผุดผาด "อา สุดยอดดดดดดดด"
   นายหญิงมองหน้ามันด้วยสายตาเย้ายวน
   ไอ้ชัยรีบถอดกางเกง แล้วกระโจนขึ้นคร่อมนายหญิง ท่อนเอ็นแข็งทิ่มแทงเข้าไปในร่องหลืบที่แสนคับแน่น
   อา มันอยากจะทำแบบนี้ตั้งแต่วันที่นายหญิงไปช่วยมันออกมาจากในคุกแล้ว
   "อาห์" ไอ้ชัยคราง
   กรวบบบบบบบบบ
   "อาห์ โอยยยยสุดยอดเลย นายหญิง ฟินมาก อาห์" ไอ้ชัยร้อง สะโพกยังเด้งใส่เข้าหานายหญิงที่มันรักไม่หยุด
   กรวบ กรวบ
   "อาห์ จะแตกแล้ว กูจะแตกแล้ว อาห์"
   ไอ้ชัยปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในร่างของนายหญิง พร้อม ๆ กับอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ความรัก และชีวิตที่เหลืออยู่ของมัน
   กรวบ กรวบ กรวบ
   ฟันของมหาปิศาจกัดเนื้ออีกคำออกจากไหล่ของไอ้ชัย เลือดไหลพุ่งทะลักออกท่วมเตียงนอนหรู
   "อาห์"
   ไอ้ชัยเป็นลูกน้องที่ดี ขยันหาเหยื่อมาให้เธอในแบบที่ยากจะโยงมาจนถึงตัวเธอได้
   แต่ในขณะเดียวกัน ร่างกายที่เต็มไปด้วยอารมณ์หื่นของมันก็เป็นสารอาหารชั้นดีให้กับแธอในยามนี้ ที่เธอต้องการพลังมาซ่อมแซมร่างที่เสียหาย
   กร้วมมมมมม ฟันแหลมกัดทะลุผ่านกระดูกหัวไหล่ เธอสัมผัสได้ถึงเลือดอุ่น ๆ ไขกระดูกที่นุ่มเนื้อ
   "อาห์ นายหญิง" ไอ้ชัยคราง ช่วงล่างปล่อยน้ำกามเข้าไปในตัวเธออีกหนึ่งระลอก
   กร้วมมมมมมมมมมม แขนข้างซ้ายไอ้ชัยหล่นลงไปกองกับพื้น ชายหนุ่มร่างอ้วนไม่รู้ตัว มือขวายังคงเกาะแน่นอยู่ที่หัวไหล่ของเธอ ขณะที่ท่อนเอ็นยังคงรัวเข้าออกไม่หยุดยั้ง
   "โอยยยยย สุดยอดอะไรอย่างนี้" ไอ้ชัยคราง
   มหาปิศาจยิ้ม อ้าปากออกอีกครั้ง
   กร้วมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
   การเคลื่อนไหวของไอ้ชัยเริ่มช้าลงจากร่างกายที่เสียหายมากเกินไป แต่ดวงตาของมันยังคงวาวโรจน์ด้วยพลังแห่งราคะ
   ดวงตา ที่มหาปิศาจล้วงออกมากลืนกินทีละข้าง
   แผลตามลำตัวเริ่มเลือนหายเมื่อพลังราคะที่ได้รับมาใหม่เริ่มฟื้นฟูร่างกายให้เธอ
   "อะ อะ อาห์..." ไอ้ชัยครางออกมา หลั่งน้ำอสุจิออกจากร่างเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะแน่นิ่งไป
   พลังแห่งเพลิงราคะมอดไหม้ลงแล้ว แต่ราคะก็ไม่ใช่พลังปิศาจชนิดเดียว
   คมเขี้ยวฝังลงไปบนเนื้อนุ่มอีกครั้ง ร่างที่แน่นิ่งไปเมื่อสักครู่เริ่มกลับมาขยับอีกครั้ง เสียงครางในคอดังขึ้นอีกหน แต่คราวนี้ไม่ใช่เสียงแห่งความสุขเสียวแล้ว
   "อะ.....อ๊ากกกกกกกก"
   กร๊วมมมมมมมม
   มืออ้วนหนาที่เหลืออยู่ข้างเดียวยกขึ้นปะป่ายบนใบหน้าราวกับสงสัยว่าทำไมมันจึงมองไม่เห็น
   ทันทีที่มือปาดไปโดนเบ้าตาที่กลวงโบ๋และเลือดที่ไหลรินอาบแก้ม อันก็เริ่มร้องโหยหวน
   "อ๊ากกกก นะ อ๊ากกกก นายหญิง โอ๊ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย ทำไม........................"
   ฟันแหลมคมฝังจมลงอีกครั้ง มหาปิศาจดื่มด่ำกับทั้งความกลัวและเจ็บปวดในร่างของเหยื่อ
   ยิ่งเครื่องสังเวยมีค่าเท่าไหร่ การสังเวยยิ่งได้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น
   และในฐานะลูกน้องคนสนิทและสาวกอันดับหนึ่ง ไอ้ชัยก็มีค่ากับเธอมาก
   ความหื่น ความกลัว ความเจ็บปวดของมันจึงมอบพลังให้เธอมากมายมหาศาลเช่นกัน
   และยิ่งเธอยืดให้เวลาแห่งความสยดสยองนี้ยาวนานออกไปได้เท่าไหร่ เธอก็ยิ่งดูดกลืนพลังงานได้มากเท่านั้น
   กร้วมมมมมมมมมมมมมม
   คราวนี้ไอ้ชัยไม่ใช่แค่ครางด้วยความเจ็บปวด แต่ร้องโหยหวนลั่นโรงแรม
   "อืมมมมมมม"
   เธอเกิดมาเป็นปิศาจราคะ รสชาติของพลังงานที่เธอโปรดปรานที่สุดคือรสชาติแห่งราคะ
   แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความกลัวกับความเจ็บปวดนี้ รสชาติก็ไม่เลวเลย
   กร๊วมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
   "อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก"
   หน้าอกอ้วน ๆ ถูกฉีกจนเห็นหัวใจที่ยังเต้นตุบ ๆ เลือดสาดกระเซ็นเปรอะไปทั่วผนังห้องทั้งสี่ด้าน
   มีเสียงทุบที่ประตู แต่พลังของเธอก็ปิดผนึกห้องไว้อย่างแน่นหนา
   กร๊วมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
   อืมมมมมม รสชาติของไขกระดูกซี่โครงก็ไม่เลวเลยนะ
   มือที่เหลือข้างเดียวของไอ้ชัยสะบัดไปมา แต่ก็เบาลงทุกที เห็นได้ชัดว่ามันใกล้สิ้นลมแล้ว
   มหาปิศาจลุกขึ้น ลูบไล้ไปที่ใบหน้าอ้วนท้วนของสาวกอันดับหนึ่งอย่างรักใคร่ ก่อนจะเอาหัวมันเข้าปากแล้วกัดกร้วมลงไปบนลำคอ ดื่มด่ำกับประกายสุดท้ายของชีวิตที่ค่อย ๆ ดับวูบลง
   ด้วยพลังที่ฟื้นฟูกลับมา มหาปิศาจทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เงาดำถักทอรายล้อมร่างของเธอเสมือนผ้าคลุมดำตัวใหม่
   เธอพลาดไปแล้ว
   ตอนนี้ ที่ต้องทำคือแก้ไขความผิดพลาด
   ข้อแรก เธอมัวแต่คิดเรื่องการจับตัวไอ้หนุ่มชาคริตมาสังเวย และไว้ใจเชื่อใจในกลุ่มสาวกให้จับตัวผู้หญิงห้าคนของชาคริต
   ทั้ง ๆ ที่เธอรู้อยู่ว่าหนึ่งในนั้นคือบทเพลงทั้งห้า
   เธอจับตาดูพวกมันมานาน นานจนเชื่อว่าแม้จะมีพลังควบคุมเวทมนตร์ทุกอย่างของมนุษย์ได้ แต่บทเพลงทั้งห้าที่อาศัยอยู่ในร่างของหญิงสาวที่ไม่มีความรู้ล้ำลึกใด ๆ ในด้านเวทมนตร์ก็ไม่อาจจะเป็นปัญหากับเธอได้ แม้แต่ตอนสู้กัน พลังเวทมนตร์ที่สาวน้อยคนนั้นใช้ยังเป็นเวทมนตร์ระดับพื้นฐานจนน่าหัวเราะ พลังเวทมนตร์ที่โยนใส่เธอด้วยความมุ่งจะทำลายอย่างเดียว ไม่มีการถักทอให้เป็นคาถาใด ๆ ที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพเหนือกว่าพลังเวทมนตร์เปล่า ๆ ให้ขนพลังแบบนี้มาทั้งโลกก็สร้างแม้แต่รอยขีดข่วนให้เธอไม่ได้หรอก
   แต่เธอคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่านังนั่นจะรู้คาถาเคลื่อนย้ายมวลสาร
   ตลอดเวลาที่จับตาดู ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเธอรู้คาถาที่ซับซ้อนกว่าลูกไฟ แต่อยู่ ๆ....คาถาเคลื่อนย้ายมวลสารที่เป็นเวทมนตร์ชั้นสูงก็ร่ายออกมาเร็วเกินกว่าที่เธอจะยับยั้งให้ทัน
   ข้อที่สอง เมื่อได้ตัวไอ้หนุ่มชาคริตอยู่ในมือ เธอมีทางเลือกจะตามล่าบทเพลงทั้งห้า หรือกลับมาทำพิธี
   เธอเลือกพิธี
   เธอเลือกผิด
   เธอเชื่อว่า เมื่อพิธีสำเร็จ และเธอขึ้นปราบดาภิเษกเป็นราชินีปิศาจแล้ว เธอก็ไม่มีอะไรต้องกลัวจากใครทั้งสิ้น แม้แต่ไอ้นที
   องค์ราชันย์องค์ก่อน ขึ้นมาบนโลกได้สำเร็จในยุคทองของเหล่าผู้พิทักษ์ ยุคที่ผู้พิทักษ์เข้มแข็งจนปราบปิศาจได้แทบจะสิ้นซาก ในเวลาไม่กี่วันหลังจากองค์ราชาขึ้นมาสู่โลกนี้ได้ พวกผู้พิทักษ์ก็ล่มสลายจนผ่านไปห้าสิบปีก็ยังไม่ฟื้นตัว เป็นแค่ปาฏิหาริย์ที่ช่วยให้พวกมันโค่นองค์ราชันย์ลงได้
   ในยุคนี้ ผู้พิทักษ์ไม่มีกำลังจะทำเช่นนั้นได้แล้ว พวกมันอ่อนแอ โง่เขลา และแม้แต่ไอ้นทีก็เสียปีกสีขาวไปแล้ว
   ถ้าเธอได้เป็นราชินี ไม่มีทางที่พวกมันจะสู้เธอได้
   จริง ๆ แล้ว ไม่มีปีกสีขาว พวกมันไม่มีทางจะรอดพ้นจากพลังที่จะครอบงำจิตใจของพวกมันด้วยซ้ำ ทุกคนจะกลายเป็นของเธอ ลูกน้องของเธอ ทาสของเธอ แม้แต่ไอ้นที
   คิดดังนั้น เธอจึงรีบกลับมาที่เพชรมายาทาวเวอร์ ร่ายคาถาปกป้องอาคาร และเริ่มเตรียมพิธี
   พิธียังไม่ทันเสร็จ ไอ้นทีก็มา
   แถมมันยังหาทางสอนให้นังบทเพลงทั้งห้าร่ายคาถาปกป้อง ที่ทำให้เธอไม่อาจจะควบคุมพวกมันได้ดังที่เธอควบคุมคนอื่นในอาคาร
   อีกครั้ง ที่เธอประเมินพลังของพวกมันต่ำไป
   แต่เธอก็ยังชนะพวกมันได้ บทเพลงทั้งห้าสลบลงไป ไอ้นทีบาดเจ็บสาหัส
   เป็นธรรมชาติของเธอ ของปิศาจทุกตัว ที่จะดื่มด่ำในชัยชนะ ใช้เวลาเต็มที่ สูบกลืนความหยิ่งยโสในชัยชนะ ความภาคภูมิใจ อิ่มอร่อยกับความสิ้นหวังของเหยื่อ ความสิ้นหวังที่ไอ้นทีปล่อยออกมามากมายดังที่เธอไม่เคยคาดว่าจะได้จากคนอย่างมัน
   เธอช้าไปแค่เสี้ยววินาที มองข้ามสาวงามผู้เป็นเอกแห่งยุคสมัยไป รู้ตัวอีกที เธอก็โดนมหาเวทย์ไปเต็ม ๆ
   เธอมีพลังแข็งแกร่งเกินกว่ามหาเวทย์จะทำลายได้ ถึงกระนั้นเธอก็บาดเจ็บใช่น้อย
   แต่เธอก็รู้ว่าไอ้นทีบาดเจ็บหนักกว่าเธอหลายเท่า
   เมื่อฟื้นพลังแล้ว เธอต้องตามล่า ต้องฆ่ามัน ต้องทำลายมันให้สิ้นซากก่อนที่มันจะฟื้นตัวได้
   คนอย่างไอ้นที ไม่อยู่เฉย ๆ แน่ ยิ่งปล่อยนานเท่าไหร่ มันยิ่งมีโอกาสหาทางมาทำลายเธอได้มากเท่านั้น
   เธอพุ่งตัวไปอย่างเงียบเชียบผ่านท้องฟ้าราตรี มุ่งหน้าตรงสู่เกาะที่ไอ้นทีใช้เป็นที่กบดานมาช้านาน เงาดำลอยตามราวกับเมฆทะมึนที่ปกคลุมฟ้าทั้งมหานคร

   "ไม่ได้เด็ดขาด!!!" นทีร้อง "พี่ไม่มีวันยอมให้...."
   "พี่นที นี่เรื่องส่วนรวมนะคะ..." เบญบอก
   ข้าวหอมยืนนิ่ง หน้าแดง ทำไมเรื่องมันต้องมาลงเอยที่เธอต้องทำอะไรแบบนี้ทุกทีเลยนี่
   ชาคริตเหลือบมองหน้าพี่เจ๊ แล้วก็ต้องรีบหลบตา เธอเป็นคนสวยจริง ๆ สวยจนเขาไม่เคยคิดว่าจะมีโอกาสได้มาอยู่ใกล้ ๆ ด้วยซ้ำ
   "พี่นที..." ข้าวหอมพูดเบา ๆ "มันก็คงไม่ต่างกับ...ตอนนั้น....หรอกมั้งคะ"
   "ต่างสิ!!!" นทีแย้ง พลางก็เหลือบตามองชาคริตอย่างเคือง ๆ "ตอนนั้น ไม่ว่าจะยังไง มันก็เป็นเรื่องระหว่างเราสองคน แต่พี่จะไม่ยอมให้มีคนอื่นมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องของเรา"
   ชายหนุ่มหันกลับไปหาเบญ "ใช้เวทมนตร์ปิศาจอื่นไม่ได้เหรอ โทสะ..."
   "แล้วคือพี่จะร่ายคาถาไปยืนต่อยต้นไม้ไปเหรอ หนูไม่เอาด้วยนะ" เบญท้าวสะเอว "นี่หนูว่าหนูยอมสละตัวแล้วนะ ก็ไม่ได้อยากให้พี่มายืนดูหนูเอากับชาคริตหรอก"
   นทีผงะ
   "งั้น ตะกละก็ได้...เดี๋ยวพี่ไปหาอาหารมาให้...."
   เปรี้ยงงงงงงงง
   สายฟ้าสีม่วงฟาดตรงเข้ามาที่เกาะสวรรค์แต่โครงข่ายเวทมนตร์ที่ปกป้องเกาะต้านทานไว้ได้
   "มหาปิศาจมาแล้ว!!!!" นทีร้อง
   "ด่วนเลยค่ะ ไม่มีเวลาคิดอย่างอื่นแล้ว!!!" ข้าวหอมร้อง
   "เดี๋ยวหนูจะร่ายคาถาเชื่อมจิตให้พี่นทีกับชาคริตนะคะ" เบญบอก "สองฝั่งจะได้ทำทุกอย่างเหมือนกันจริง ๆ"
   นทีอ้าปากจะเถียง แต่เบญรีบร่ายคาถาเชื่อมจิตที่เธอลอกมาตอนพี่นทีใช้กับเธอ
   "เห็นทีเดียวก็ก็อปได้เลยเหรอ" นทีกับชาคริตพูดขึ้นพร้อมกัน
   มัน.....ประหลาดมาก ชาคริตรู้สึกได้ถึงมือซ้ายสองข้าง ขวาสองข้าง รู้สึกถึงตัวเอง แต่ก็รู้กถึงสิ่งที่พี่นทีมองเห็น รู้สึก ได้ยิน สัมผัส รู้สึกถึงเวทมนตร์ที่ไหลเวียนในร่าง พอเขาพยายามยกมือขวา แขนของพี่นทีก็ยกขึ้นมาด้วย
   "เร็ว คริต ไม่มีเวลาแล้ว" เบญร้อง
   แต่พอถึงเวลาจริง เธอก็รู้สึกว่าสิ่งที่กำลังจะทำมันน่าอายกว่าที่คิด
   เธอสูดหายใจลึก หันหน้าเข้าหาชาคริต และจับชายเสื้อยืดของชายหนุ่มยกขึ้น
   ที่ด้านหลังเธอ เธอสัมผัสได้ว่าเจ๊ข้าวหอมเข้าประจันหน้ากับพี่นทีในลักษณะเดียวกัน
   ชุดนางฟ้าสีขาวหล่นลงพื้น ตามด้วยเสื้อนอนกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มของพี่เจ๊
   ชาคริตอดไม่ได้ เหลือบมองแผ่นหลังเปลือยเปล่าของเจ๊ข้าวหอมผู้แสนสวย
   แม้แต่แค่ความเรียบเนียนของหลังเธอยังเร้าอารมณ์มากกว่าทรวงอกของสาวเบญที่ยืนตรงหน้า หรือทรวดทรงของสาวคนไหนที่เขาเคยหลับนอนด้วย
   ความโกรธพุ่งปรี๊ดขึ้นมาบนหัวเมื่อพี่นทีรู้ว่าเขามองอะไรอยู่
   มือของชาคริตยื่นออกไปลูบที่สะเอวของเบญ ขณะที่ด้านตรงข้าม กางเกงนอนของข้าวหอมก็ไหลลงพื้น เผยก้นงอน ๆ ให้ชาคริตได้......พี่นที อย่าหึงงงงงงงง.....แต่ทำไมความรู้สึกจากที่ลูบไล้เอวบางของพี่เจ๊มันวิเศษขนาดนี้.....พี่นที หยุด อย่าหึงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
   เบญเหลียวไปมองนที "พร้อมนะคะ"
   นทีและชาคริตพยักหน้า
   โลหะเทพไหลลงไปในเตาหลอม นทีเริ่มวาดมือร่ายคาถา หล่อสร้างเป็นพลังป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด เบญทำตาม พลังที่เท่าเทียมแต่ตรงข้ามไหลเข้าประสานกันก่อนจะค่อย ๆ ซึมซับลงในโลหะที่อยู่ในเตาหลอม
   "อื๊อออออออออออออออออออออออ"
   ชาคริตสัมผัสได้ถึงสองอย่าง เต้านมอวบอิ่มในมือของเขาเอง กับเนื้อนุ่มสุดแสนจะเนียนมือ ที่แม้ไม่มีความอวบใหญ่แต่กลับรู้สึกวิเศษในฝ่ามือจนทำให้เขาขนลุกชันได้ยิ่งกว่า.......
   นทีกัดฟันแล้วกัดฟันอีกเมื่อรู้ว่าชาคริตดื่มด่ำแค่ไหนกับที่ได้สัมผัสร่างของข้าวหอมเหมือนที่เขาเองกำลังทำ
   "พี่นที...." เบญกล่าวเตือน ๆ
   เปรี้ยงงงง
   การโจมตีครั้งที่สองพุ่งเข้ามา พลังที่ปกป้องเกาะเริ่มอ่อนลง
   "ฟังนะคะ" ข้าวหอมเขย่งขึ้นกระซิบข้างหูนที "ถึงเราต้องทำแบบนี้ แต่ก็เป็นมือพี่ ร่างพี่ ที่อยู่ในตัว และในใจหนู หนูรักพี่ และรักพี่คนเดียวค่ะ"
   โทสะของนทีคลายลงไปหน่อยหนึ่ง
   แต่ชาคริตเห็นแล้วว่าพี่นทีคงไม่เริ่มอะไรต่อเองแน่
   "โอ๊วววววว" เบญร้อง เมื่ออยู่ ๆ ชาคคริตก็เริ่มรุกหนักเธอ ปากนุ่มจูบเข้าที่ปากเธอเต็มรัก ขณะที่มือหนาก็ดันร่างของเธอจนถอยหลังไปสัมผัสกับร่างนุ่มนิ่มของพี่เจ๊ "อือออออ คริตตตตต ดีจังงงงงงง"
   พลังแห่งราคะเริ่มหลั่งไหลออกมา หลอมรวมให้พลังของเบญกับนทีประสานเป็นหนึ่งเดียวมากขึ้น
   "โอ๊วววววววววววววววววววววว" ข้าวหอมร้องดังยิ่งกว่าเบญ เมื่อนทีซุกใบหน้าลงที่คอของเธอพร้อมกับที่ช้อนขาขึ้นมาละสอดแท่งรักเข้าใส่
   ช่องทางแห่งรักของเธอไม่ได้ผ่านการใช้งานมาหลายต่อหลายเดือนแล้ว แต่ทันทีที่ตัวตนของพี่นทีกลับมาหา ร่างของเธอก็ทำการกอดรัดด้วยสุดแสนแห่งความโหยหา
   ขณะเดียวกัน ชาคริตก็แทบเป็นลมกับสิ่งที่ได้รู้สึก เจ้าตัวเล็กของเขาเสียบคาอยู่ในเครื่องเพศของเบญ ผจญกับความคับแน่นตอดรัดที่เขาเคยนับว่าคือจุดสูงสุดแห่งความเป็นยอดหญิง
   แต่ขณะเดียวกัน เขาก็รู้สึกถึงความร่องรักที่วิเศษกว่าไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า ที่แทบจะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับของของเขา....ไม่สิ ของของพี่นที...
   "อา...." เบญร้อง  "ชาคริต...เอาเลยยย"
   "อืม....พี่นที หนูคิดถึงพี่"
   "อ๊าา" เบญอ้าปากค้าง เมื่อของลับของชาคริตเริ่มเดินเครื่องภายในร่างกายของเธอ
   "อื๊อออ... พี่นที...."
   "อร๊ายยยยยยยยยยยย"
   ศีรษะของสองสาวชนกันดังเป๊าะเมื่อต่างคนต่างก็ถูกรุกไล่โดยชายหนุ่มของตน ผมดำยาวสะบัดไปมาผสมผสานจนแทบดูไม่ออกว่าผมใครเป็นผมใคร แผ่นหลังนุ่มชนแผ่นหลังเนียน บั้นท้ายใหญ่แน่นถูไถกับบั้นท้ายงอนเพรียว
   "ซี๊ดดดดด พี่นที......หนู โอยยยยย อร๊ายยยยยยยยยยยยยย"
   "อ๊าววววววววววววววว" ชาคริตร้อง เขาไม่เคยรู้สึกถึงอะไรแบบนี้มาก่อนเลย จุดสุดยอดของพี่เจ๊มันวิเศษมาก ๆ จริง ๆ
   "คริตตตต เรายังไม่เสร็จจจจ" เบญครางเมื่อสัมผัสได้ว่าท่อนเอ็นของชายหนุ่มชะลอลง
   "โทษที เบญ อื๊ออออออ" ชาคริตกัดฟันทิ่มทะลวงต่อ จนเขาสัมผัสได้ถึงสุดมดลูก....ของพี่เจ๊
   "อร๊ายยยยยยย พี่นที หยุดก่อน ให้หนูพักก่อน หนูเพิ่งถึง อร๊ายยยยยย จะ อร๊ายยยยยย จะไม่ให้พักกันเหรอ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยย"
   "เอิ๊วววว คริตตตตต อ๊า" เบญร้อง
   "ซี๊ดดดดดดดด เบญ" ชาคริตข่มใจบังคับให้ตัวเองครางชื่อสาวคนรัก
   จะทำอะไรน่ะ อย่านะ
   ชาคริตสัมผัสได้ถึงแรงต่อต้านจากพี่นทีเมื่อชายหนุ่มสัมผัสได้ว่าเขาอยากจะทำอะไร
   แต่พอมาเรื่องหื่น ๆ พลังใจของเขาเข้มแข็งไม่แพ้ใครหรอก!!!!   
   เขาเอื้อมทั้งสองมือไปอุ้มตัวเบญลอยขึ้นจากพื้น แม้ตอนนี้ร่างของเบญจะบังตาเขาเต็มที่ แต่เสียงร้องว๊ายและสัมผัสของเขาก็พอบอกเขาได้ ว่าพี่ข้าวหอมก็กำลังโดนแบบเดียวกัน
   เขาพลิกตัวเบญทั้งที่แก่นกายของเขายังเสียบลึกอยู่ในร่างเธอ หญิงสาวกรีดร้องด้วยความเสียว ขณะที่ร่างของเธอถูกพลิกหันไปเผชิญหน้ากับร่างของข้าวหอม
   "เฮือกกกกกก"
   ชาคริตก้าวขึ้นไปข้างหน้า บังคับให้เบญอิงแอบแนบชิดเข้ากับข้าวหอมมากขึ้น หน้าสวยแนบเคียงคู่หน้าหวาน หน้าอกอวบใหญ่บดเบียดแทบจะประสานกันกับทรวงอกขนาดเหมาะมือ เอว อก สะดือนุ่มเนียนชิด แขนบางสี่ข้างกอดเกี่ยวกันเป็นที่ยึดเหนี่ยวไม่ให้ร่วงหล่นลงพื้น
   "อะ อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย" เอวของทั้งนทีและชาคริตออกแรงกระแทกกระทั้นแบบจัดเต็ม ร่างของข้าวหอมกับเบญบดเบียดเข้าหากันจนแทบคลั่ง แม้แต่ท่อนล่างของพวกเธอยังแนบชิดจนติ่งเสียวสัมผัสกันทุกครั้งที่ร่างถูกดันไปข้างหน้า
   "อร๊ายยยย คริตตตตต เราไม่ไหวแล้ววววว อร๊ายยยยย"
   "กรี๊ดดดดดด พี่นที..."
   "เราจะเสียสติแล้วววว อร๊ายยยยยยยยยยยย  คริตตตตตต"
   "เอิ๊ววววววว ทำไมมันเสียวอย่างนี้หล่ะ หมะ ไม่ไหวแล้ววววว อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย"
   ข้าวหอมกอดเบญแน่น ร่องรักรัดแน่นลงไปบนความเป็นชายของพี่นทีอีกครั้งน้ำเสียวใสไหลจนหยดเป็นสายลงพื้น
   "หนะ หนูถึงอีกแล้ว หยะ หยุดก่อน อร๊ายยยยยยยยยย"
   "พี่เจ๊ หนูถึงแล้วค่ะ อร๊ายยยย ชาคริตตตตตต"
   "เบาก่อน เบาก่อน อรื๊อออออออออด"
   ฮิฮิฮิ แม้แต่พี่นทียังหยุดคิดเรื่องหึงหวงมาพักใหญ่ ๆ แล้ว ตอนนี้ในใจสองหนุ่มเหลือแต่เพียงอารมณ์ราคะที่ทำเอาแทบเสียสติ ลีลาที่สอดประสานกันจากทั้งสองฝั่งทำเอาสองสาวได้แต่แข่งกันครางเสียว น้ำแตกกลางอากาศรอบแล้วรอบเล่า ใบหน้าสวยสดบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความซ่านเสียว  
   "สำเร็จไหมคะ...." เบญถามเสียงอ่อย ๆ พลางก็ปลดคาถาเชื่อมจิต
    

พูดคุยกับผู้เขียน
ตอนหน้าจะจบแล้วนะครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่เป็นกำลังใจให้กันเสมอมา
วันนี้ เราต้องบอกลาตัวละครที่หลาย ๆ ท่านรักอย่างทั่นชัยแล้วนะครับ ทั่นชัยคนนี้ หลังจากเริ่มค้นพบตัวเองเป็นต้นมา ก็เป็นที่กล่าวขวัญถึงในคอมเม๊นท์กันมาก เรียกว่าตอนใดทั่นชัยออก ตอนนั้นความเห็นจะแทบไม่กล่าวถึงอย่างอื่นเลยนอกจากทั่นชัย บางท่านก็สนับสนุน บางท่านก็เรียกร้องให้กรรมตามทันมันเร็ว ๆ ในที่สุด การเดินทางของทั่นชัยก็มาถึงจุดจบแล้วนะครับ ส่วนตัวละครอื่นจะเป็นอย่างไรต่อไป โปรดติดตามต่อนะครับ
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

teerawatc

ดีใจที่เรื่องลงวันนี้ วันลอยกระทง

ได้อ่านก่อนออกไปลอยกระทง ก็ถือว่าเป็นสิ่งเล็กๆที่ประทับใจในวันสำคัญวันนี้

นึกว่าจะได้เห็นฉากสลับคู่ระหว่างชาคริตกับข้าวหอม

แต่แบบนี้ก็ใกล้เคียงหรือจะเป็นจุดเรื่มต้นสู่วงการสวิงก็น่าจะสนุกดี

ทึ่งที่ผู้แต่งอธิบายขั้นตอนการสร้างเกราะอย่างละเอียด รู้สึกเหมือนได้นั่งในชั้นเรียน สนุกมากครับ



First10

ผิดคาด ทั่นชัยหมดโอกาสแก้แค้นขาคริตกะน้องปิ้งแล้ว อาเมร

kk2016

เป็นลูกน้องปิศาจ สิ่งตอบแทนก็ได้พลังมา แต่สุดท้ายยังไงก็ไม้พ้นโดนฆ่าตายอยู่ดี ทั่นชัย

Gearzap

ผิดคาดกับท่านชัยคิดว่าจะได้สู้กับชาคริตสักยก

gunners

ใกล้จบแล้ว ตอนแรกอ่านแต่นักเปิดซิง พอเอามาคอลแลปกับเรื่องนี้ก็สนุกไปอีกแบบ ว่าจะกลับไปตามอ่านตอนก่อนๆของเรื่องนี้ด้วย ขอบคุณไรต์มากๆครับ

Mosser12345

โถ่ว อยากเห็นท่านชัยเสียบน้องปิ้งสักทีแท้ๆ

natt4556


zavior

สำเร็จมั้ยไม่รู้ แต่น่าจะเสร็จกันทั้งสี่คนนะครับ

peddo

นึกไม่ถึงว่าความหื่นสามารถสร้างพลังอันมหาศาลได้ อย่างที่ทั้งคริตและชัยได้แสดงให้เห็น แถมแอบได้ความรู้สึกว่าได้ร่วมกับข้าวหอมด้วย โชคดีหลายค่อจริงๆ

tarapong


เลิศ2024


joenop


1819

กรุงเทพเป็นเมืองที่มีคนเหงา มากกว่าเสาไฟฟ้า