ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_nato87

เกมรักภารโรงเฒ่า ปี 2 ตอนที่ 44 : จดหมายรักสื่อใจ Part 8

เริ่มโดย nato87, ธันวาคม 19, 2024, 06:19:40 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 1 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

nato87

พูดคุยก่อนอ่าน : กลับมากันต่อครับ Part นี้เน้นการพักยกสนทนาเป็นหลักนะครับ ไม่รู้จะคุยอะไรกันนักกันหนา 55555+

ถือว่าเป็นช่วงพักยก ก่อนที่จะถึงฉากสำคัญที่ทุกคนรอคอย นั่นคือฉากเข้าหลังบ้านครูเบสท์คนสวย อีกแล้วครับท่าน ดังนั้นตอนนี้ผมไม่ซ่อนละกัน

ครูเบสท์เจอลุงพลทีไร โดนเข้าหลังบ้านตลอด สมใจกันแล้วละซิ แต่ว่า ตอนนี้ยังเป็นแค่การพัก Cool Down ก่อนครับ ตอนหน้าของจริง เพราะฉะนั้นไปเตรียมทิชชู่ซะนะ เพราะ Part9 ในวันพรุ่งนี้ ช่วงค่ำ ๆ ดึก ๆ เราจะได้เห็นฉากนี้อีกครั้ง และนี่จะเป็นฉากเล่นตูดครูเบสท์ที่โรแมนติกและอีโรติกที่สุดเท่าที่ผมจะเขียนได้ในตอนนี้ครับ


ความเดิมตอนที่แล้ว

//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=292679.0

ลุงพลโอบกอดภัคจิรา ที่โอนอ่อนผ่อนตามความปรารถนาของตนเองและชายชรา หญิงสาวและชายชราละเลียดความซาบซ่านจากปลายลิ้นของกันและกัน

"จ๊วบ...จ๊วบ...จ๊วบ" เพราะความสวยและอ่อนหวานของแม่สาวเจียงฮาย ทำเอาตาเฒ่าแก่งคอยอดใจไม่ไหว เลยเผลอแสดงความมูมมามด้วยการบดเบียดและโลมเลียริมฝีปากของสาวเหนือคนสวย ที่ออกอาการเกร็งบ้างเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร

"ซ๊วบ...ซ๊วบ...ซ๊วบ"

"จ๊วบ...จ๊วบ...จ๊วบ"

"แผล๊บ...แผล๊บ...แผล๊บ"

ลุงพลเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ ด้วยการโลมเลียต้นคอ ลามไปถึงแนวกรามและคางของครูเบสท์ จนเธอเริ่มกลั้นขำไม่อยู่

"พอได้แล้วมั้งลุง!!" ด้วยความเป็นกุลสตรีศรีล้านนา ภัคจิราจึงเบือนหน้าหนีความปรารถนาอันแรงกล้าของชายชราจากแก่งคอย ประตูสูภาคอีสานของไทย "เบสท์ไม่ใช่ไอศกรีมนะ!!"

"เป็นซิครับครู" ลุงพลยิ้ม และมองใบหน้าครูเบสท์ที่เปื้อนด้วยน้ำลายที่เกิดจากจูบอันดูดดื่มเมื่อครู "คุณครูคือไอติมรสสตรอเบอร์รี่สำหรับผมเสมอครับ"

"ว่าเบสท์สตอเหรอ!!??"

"ไม่ใช่ครับ!!! ผมหมายถึงครูเบสท์อ่อนหวานเหมือนสตรอเบอร์รี่ต่างหาก!!"

"ก็แล้วไป!! เห๊อะ!!"

ภัคจิราที่แกล้งทำหน้าตึงใส่ลุงพล จนลุงพลออกอาการหงอให้เห็น ก่อนที่เธอจะก้มลงไปมองตรงเนินหัวหน่าวเบื้องล่าง ที่เธอกำลังเอามือปิดอยู่

"ขอทิชชู่หน่อยได้ไหมคะลุง" ครูเบสท์เอ่ยปากขอให้ลุงพลช่วย "เบสท์จะเอามาเช็ดน้ำ"

"น้ำอะไรครับครู?" ลุงพลก็รู้ ว่าน้ำในร่องหีของครูเบสท์คือน้ำอะไร แต่แกก็ยังจะหาเรื่องแกล้ง ตามประสาผัวแก่ได้เมียเด็ก "บอกผมหน่อยซิ"

"นี่!! แก่จนผมหงอกเต็มหัวแล้ว!!" ภัคจิราเริ่มหงุดหงิดในความขี้เล่นแบบไม่เข้าเรื่องของลุงพล จนต้องโวยขึ้นมาบ้าง "ยังจะมาทำเป็นเล่นอีก!! เดี๋ยวเถอะ!!"

"ขอโทษครับ" พอโดนด่าแบบนี้ ลุงพลเลยทำหน้าจ๋อย จนต้องรีบไปหยิบกล่องกระดาษทิชชู่ให้ครูเบสท์ นำมาเช็ดคราบน้ำรักในช่องคลอดของเธอ

"อ๊ะ!! ทำตัวให้มีประโยชน์หน่อยค่ะลุง" มาถึงจุดนี้แล้วคงไม่มีอะไรต้องอาย ครูเบสท์ยื่นกระดาษทิชชู่ที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำรักของทั้งคู่ให้ลุงพล "ฝากทิ้งให้ด้วย"

"ได้ครับครู"

"ยังมีอีก อ่ะ!!"

"ครับครู"

ลุงพลก็ทำตามคำสั่งของครูเบสท์ ด้วยการรับกระดาษทิชชู่ที่เพิ่งเช็ดคราบรักตรงร่องเนื้อ เพื่อนำไปทิ้งถังขยะ บรรยากาศภายในห้องนอนของโรงแรมอบอวลไปด้วยความเงียบสงบปนความโรแมนติก

ภัคจิราเช็ดคราบน้ำตรงร่องเนื้อจนคิดว่าแห้งด้วยท่าคุกเข่ากับเตียง พอคิดว่าเช็ดจนแห้ง นางฟ้าพยายามก็ทิ้งตัวนั่งพับเพียบแล้วเอาหมอนมาหนุนบนหน้าตักเพื่อพักผ่อนอิริยาบถด้วยท่าทางที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น โดยมีลุงพลนั่งแก้ผ้ามองเธอตรงขอบเตียงด้วยรอยยิ้ม

"ยิ้มอะไรนักหนาคะลุง?"

"ยิ้มเพราะครูเบสท์น่ารักยังไงครับ"

"ฮึ..."

"ครูเบสท์ครับ" แล้วลุงพลก็เขยิบเข้ามาหาครูเบสท์ ที่ตอนนี้ดูอ่อนโยนมากขึ้น ตาเฒ่าประคองร่างนางฟ้าพยาบาลด้วยความอ่อนโยน พร้อมกับพรมจูบที่ไหล่ ใช้มือสางปอยผมที่ปิดแก้มออก "ฟ่อด...ฟ่อด...ฟ่อด"

"ทำแบบนี้กับผู้หญิงมากี่คนแล้วละ?"

"ก็หลายคนครับครู"

"ฮึ..."

"แต่ถึงยังไง" ลุงพลกอดครูเบสท์ไว้แนบแน่น "จากนี้ไปหมดทุกข์หมดโศกแล้วนะครับครู ขอให้ครูใช้ชีวิตอย่างมีความสุขตลอดไปนะครับ"

"อารมณ์ไหนเนี่ยลุง?" ภัคจิราหันไปถามด้วยสีหน้าสงสัย "หมายถึงเรื่องเครื่องบินเหรอ?"

"ใช่ครับครู" ตาเฒ่าแก่งคอยผู้มากรัก แต่ก็รักจริงทุกคนยิ้ม "ปลอดภัยแล้วนะครับ"

"แล้วถ้าเบสท์บอกว่า" นางฟ้าพยาบาลตอบกลับไป "เบสท์จะไม่เลิกล้มความตั้งใจ ที่จะกลับไปเรียนต่อละ? ลุงจะว่ายังไง?"

"ไม่กลัวเหรอครับครู"

"กลัวอะไร? เครื่องบินตกเหรอ?"

"ใช่ครับ"

"อะไรจะเกิด มันก็ต้องเกิด" ครูเบสท์แสดงจุดยืนของเธออย่างแน่วแน่ "เพราะเบสท์เป็นครูพยาบาล หน้าที่ของเบสท์คือสอนหนังสือให้เด็กเป็นพยาบาลที่ดี เพื่อช่วยเหลือผู้คน"

ลุงพลรู้สึกชื่นชมในความมีอุดมการณ์ในวิชาชีพพยาบาลของภัคจิรา เธอคือคำนิยามของความเป็นแม่พิมพ์ของชาติและพยาบาลผู้ยอมอุทิศตนเพื่อส่วนรวมโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย และไม่สนด้วยว่าเธอจะต้องเหนื่อยยากลำบากกายลำบากใจแค่ไหน เพราะนี่คือคำขอพรของเธอจากอดีตชาติ สมัยที่เธอยังเป็นภัคจิราวดีบนสรวลสวรรค์

"หากแม้นข้าจักต้องลงไปเกิดบนโลกมนุษย์ ข้าจักขออุทิศตนเพื่อช่วยเหลือมวลมนุษย์เบื้องล่างโดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ข้าจักขออุทิศบุญกุศลของข้าเมื่อครั้นยังเสวยชาติเป็นภัคจิราวดี บุตรีองค์รองแห่งองค์ตุลาการสรรค์เพื่อประโยชน์สุข บำบัดทุกข์มวลมนุษย์เบื้องล่าง เพื่อสะสมเป็นบุญบารมีของข้าต่อไป"




"ครูเบสท์ครับ" ลุงพลนึกถึงนิมิตของตัวเองในอดีตชาติ ที่ได้เห็นภัคจิราวดีอธิฐานจิตก่อนลงไปเกิดบนโลกมนุษย์ในครอบครัวข้าราชการที่มีฐานะ จึงเอ่ยปากถามครูเบสท์ในชาติภพปัจจุบันด้วยความรัก "ครูเบสท์รู้ตัวไหมครับ ว่าครูเบสท์สวยทั้งกายและใจจริง ๆ"

"ของมันแน่อยู่แล้ว" ภัคจิราก็แกล้งรับมุก "คนสวยนินะ"

"ฮึ ๆ ๆ" ลุงพลอดใจกับความน่ารักขี้เล่นนั้นไม่ไหว ภัคจิราคนเดิมเริ่มกลับมาแล้ว จึงดึงร่างของครูเบสท์เข้ามากอดและหอมจนอีกฝ่ายทำหน้ามุ่ย "แบบนี้ซิครับ ถึงสมกับเป็นครู"

"นี่!! จะหอมอะไรนักหนาเนี่ย!!" นางฟ้าพยาบาลที่ตกอยู่ภายใต้อ้อมแขนของตาเฒ่าแก่งคอยบ่น "ช้ำหมดแล้วนะ"

"ครูเบสท์ครับ" อดีตจอมทัพสวรรค์เอ่ยปากเรียกชื่อคนรัก "ไม่ไปเรียนต่อที่อเมริกาได้ไหมครับครู"

"ทำไมถึงขอแบบนั้นละ" ใบหน้าที่เปื้อนด้วยรอยยิ้มเมื่อครูของภัคจิราเหือดหายไป "รู้ใช่ไหม ว่านี่คือความฝัน คือความตั้งใจของเบสท์นะลุง"

"ผมแค่อยากให้ครูเบสท์" ลุงพลตอบ พร้อมกับใช้มือลูบไล้พวงแก้มและปลายคางของหญิงสาวด้วยความอ่อนโยน "ทำตัวเพื่อตัวบ้างยังไงครับ"

"ก็นี่แหละความสุขของเบสท์" สาวเจียงฮายยืนหยัดในจุดยืนของตัวเองอย่างมั่นคง "ความสุขของเบสท์คือการได้สอนหนังสือเด็ก ได้ช่วยเหลือคน สมัยที่เบสท์เรียนพยาบาล อาจารย์เคยสอนเบสท์เสมอว่า คุณช่วยหนึ่งชีวิต คุณเป็นฮีโร่ แต่ถ้าคุณช่วยหนึ่งร้อยชีวิต คุณคือพยาบาล เบสท์ไม่เคยเสียใจเลย กับการเลือกที่จะเรียนพยาบาลแทนที่จะเรียนหมอ"



ภัคจิราได้เปิดเผยเรื่องส่วนตัวของลุงพลได้รู้เป็นครั้งแรก ว่าแท้จริงแล้ว เธอสามารถเรียนหมอได้ ถ้าเธอต้องการ แต่เธอกลับเลือกเรียนพยาบาลแทน ทั้งที่ใครต่อใครต่างมองว่า อาชีพหมอดูจะมีภาษีดีกว่าพยาบาลเสียด้วยซ้ำ

"ทำไมถึงไม่เรียนหมอละครับครู?"

"ความกดดันมั้งคะลุง เรียนหมอเครียดจะตาย"

"แล้วเรียนพยาบาลไม่เครียดเหรอครับครู?"

"เครียดซิ" นางฟ้าพยาบาลตอบตามตรง "แต่มั่นใจว่าเครียดน้อยกว่าหมอแน่นอน แล้วอีกอย่างนะ คนเรียนหมอ สุดท้ายแล้วไม่ว่ายังไงคนก็จะจดจำว่าคน ๆ นั้นเป็นหมอ มันเหมือนเราถูกคาดหวังจากคนในสังคมไว้สูง แต่เรียนจบพยาบาล สุดท้ายแล้วถ้าไม่ได้เป็นพยาบาล ก็ยังมีอาชีพอื่นให้ทำ"

"แล้วถ้าครูเบสท์ไม่ได้เป็นพยาบาล ไม่ได้เป็นครูสอนพยาบาล" ลุงพลเลยถามต่อ "ครูเบสท์อยากจะทำอาชีพอะไรเหรอครับ?"

"คงเป็นดารามั้งคะ" ภัคจิรายิ้ม นัยน์ตาของเธอเป็นประกายกับความทรงจำในช่วงวัยทีน ตอนที่เธอลงมาเรียนพิเศษที่สถาบันกวดวิชาแถวสยาม ได้มีโมเดลลิ่งมาติดต่อทาบทามให้เธอเข้าสู่วงการ ได้ถ่ายโฆษณา และได้ประกวดเวทีนางงามวัยรุ่น ที่เป็นเวทีผลิตนางเอกชื่อดังคู่วงการบันเทิงมาแล้วหลายคน "รู้ไหมว่าเบสท์เคยประกวดมิสทีนทาเลนท์ไทยแลนด์ไทยแลนด์ด้วยนะ"

(ปล.เวทีที่ครูเบสท์ประกวด ก็คือมิสทีนไทยแลนด์ ที่พวก เชียร์ มีน แพนเค้ก เอเมี่ อาเมเรีย แจ้งเกิดนั่นแหละครับ แต่ผมใช้ชื่อแฝง)


"เหมือนเคยได้ยินชื่อ แต่จำไม่ได้จริง ๆ ครับ"

"ดารานางเอกผู้หญิงหลายคนก็มาจากเวทีนี้ทั้งนั้นค่ะลุง"

"แสดงว่าสมัยเด็ก ๆ ครูเบสท์ต้องน่ารักมากเลยนะครับเนี่ย"

"ของมันแน่อยู่แล้ว!!" นางฟ้าพยาบาลยิ้ม กับความฝันในวันวาน ก่อนจะถอนหายใจด้วยความเสียดาย "เบสท์ขอคุณพ่อกับคุณแม่ว่าเบสท์อยากเข้าวงการบันเทิง พวกท่านก็ตอบตกลง แต่มีเงื่อนไขว่าเบสท์ต้องติดอันดับหนึ่งในสาม แต่สุดท้ายเบสท์ได้แค่รองอันดับห้า เพราะคู่แข่งปีนั้น มีแต่คนที่น่ารักกว่าเบสท์ทั้งนั้นเลย เบสท์ก็เลยตัดใจจากวงการบันเทิง แล้วกลับมาเรียนพยาบาล"

"ดีแล้วละครับครู" ลุงพลยิ้ม "ผมว่าครูไม่เหมาะกับอาชีพดาราหรอก"

"นี่ลุง..." แล้วภัคจิราก็เอ่ยปากเรียกลุงพล "เบสท์มีอะไรจะบอก นี่คือเรื่องที่เบสท์ไม่เคยเล่าให้ใครฟังมาก่อนเลยนะ"

"เล่ามาซิครับครู" ตาเฒ่าแก่งคอยขานรับ ก่อนเอื้อมมือลูบไหล่อีกข้างของสาวเจียงฮายด้วยความอ่อนโยน "ผมรอฟังอยู่ครับ"

"ที่จริง..." ใบหน้าของสาวเชียงรายที่เคยสดใสดูเศร้าสร้อยลง "เหตุผลที่เบสท์อยากเป็นครูพยาบาล อยากไปเรียนต่อที่อเมริกา เพราะเบสท์รู้สึกผิดกับแฟนเก่าของเบสท์ที่ตายไป พี่วิน"

"เหรอครับ" ดูเหมือนว่าภัคจิราจะยอมเปิดเผยเรื่องส่วนตัวให้ลุงพลได้รับรู้ เพื่อหวังแชร์ความรู้สึกต่อกัน "เล่ามาเถอะครับครู ผมฟังอยู่"

"สมัยที่เบสท์เรียนพยาบาลปีหนึ่ง" ภัคจิรากำลังเล่าเรื่องของนพวินท์ แฟนคนแรกและคนเดียวในชีวิตของเธอสมัยเรียนพยาบาลปีหนึ่ง "เบสท์รู้จักกับพี่วิน พี่วินเรียนคณะบริหารธุรกิจปีสาม เราเป็นแฟนกัน แต่เรายังไม่ได้มีอะไรกัน เต็มที่ก็แค่กอด หอม แล้วก็จูบ"

"ไม่เป็นไรครับครู" ตาเฒ่าแก่งคอยเข้าใจสถานการณ์ของสาวเจียงฮาย ที่ดูกระอักกระอ่วนใจกับเรื่องนี้ "มันเรื่องธรรมดาครับ ผมยินดีรับฟัง"

"พี่วินเค้าเป็นสุภาพบุรุษและดีกับเบสท์มาก" ครูเบสท์เล่าไป น้ำตาก็คลอเบ้าไป "แต่เบสท์เอาแต่ใจเกินไป เราทะเลาะกัน ตอนนั้นเบสท์อยู่กรุงเทพ พี่วินไปทำธุระที่ต่างจังหวัด เบสท์ขู่ว่าถ้าพี่วินไม่กลับมาง้อเบสท์ เบสท์จะขอเลิก สุดท้ายพี่วินก็เลยรีบขับรถกลับมา แต่..."

"ถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องเล่านะครับครู"

"ฮือ...ฮือ...ฮือ"

"ไม่ใช่ความผิดครูเบสท์หรอกครับ"

"มันจะไม่ใช่ได้ยังไงละ!!" ภัคจิราตอบทั้งน้ำตา "เพราะเบสท์เนี่ยแหละ ที่ทำให้พี่วินต้องตาย แล้วก็ทำให้เบสท์ต้องผิดใจกับเพื่อนเบสท์ที่เป็นน้องสาวของพี่วิน แล้วลุงรู้ไหมคะ? คุณป้านราพร ตรอมใจหนักมากหลังจากพี่วินเสีย จนคุณป้าป่วยเป็นโรคมะเร็ง แล้วคุณป้าก็เพิ่งเสียไปได้ไม่นาน โดยที่เบสท์ไม่สามารถไปกราบศพท่านเพื่อขอขมาได้ ฮือ..."




"ไม่เอาซิครับครู" ลุงพลเห็นท่าไม่ดี เลยรีบคว้าศีรษะของครูเบสท์มาซบที่ไหล่ของตัวเองเพื่อปลอบโยน "อย่าแบกรับความผิดนี้ไว้กับตัวอีกเลยนะครับ ปล่อยวางมันเถอะ ยิ่งครูปล่อยได้เร็วเท่าไร ครูก็รู้สึกสบายใจขึ้นเท่านั้นนะครับ"

"จะให้วางได้ยังไงละลุง" ครูเบสท์สะอื้น "ที่เบสท์ทุ่มเททุกอย่างเพื่อวิชาชีพพยาบาล ที่เบสท์อยากจะไปเรียนต่อที่อเมริกา ส่วนนึงก็เพราะเบสท์อยากจะชดใช้ความผิดของตัวเอง ที่ทำให้พี่วินกับคุณป้านราพรต้องตาย"

"ความเจ็บ ความตาย มันห้ามกันไม่ได้นะครับครู ของแบบนี้มันห้ามกันไม่ได้หรอกครับ ครูไม่ผิดหรอก" ตาเฒ่าแก่งคอยหอมหน้าผากของครูเบสท์ที่ซบแนบอกเปลือยเปล่าของตนอย่างแผ่วเบา "อย่าถือมันอีกเลยนะครับครู วางมันเถอะ นะครับ"

"ฮือ...ฮือ...ฮือ" ภัคจิรายอมเผยมุมที่อ่อนแอที่สุดของตัวเองให้ลุงพลได้เห็น หญิงสาวนั่งพับเพียบซบอกตาเฒ่าที่ตนมองว่าเป็นคนบ้าโดยไม่มีท่าทีขัดขืนหรือต่อต้านอีกต่อไป ราวกับว่าอกของชายสูงวัยคนนี้ คือที่พึ่งทางใจที่เธอค้นหามาทั้งชีวิต



"สำหรับผมแล้ว" ตาเฒ่าแก่งคอยลูบไล้เรือนผมนุ่มสลวยของสาวเจียงฮาย "ครูเบสท์สวยทั้งกายและใจ ครูเบสท์คือคนสำคัญของเด็ก ๆ พยาบาลที่นี่ และครูเบสท์ก็สำคัญกับผมมากเลยนะครับ"

"ฮือ...ฮือ...ฮือ"

"มองหน้าผมทำไมเหรอครับครู?"

"ปากหวานจริงนะลุง คิดว่าเบสท์จะเคลิ้มงั้นซิ"

"ฮึ ๆ ๆ" ดูเหมือนครูเบสท์จะไม่ได้ซึ้งกับคำหวานเลี่ยน ๆ เสี่ยว ๆ ของลุงพลในสถานการณ์แบบนี้เท่าไร ตาเฒ่าแก่งคอยเค้นหัวเราะแก้เขิน "ผมแค่อยากให้ครูไม่เครียดน่ะครับ"

ภัคจิรามองลุงพลหน้านิ่ง เหมือนไม่ได้อินและไม่ได้ซึ้งกับคำหวานเลี่ยน ๆ ของตาเฒ่าเลยแม้แต่น้อย แต่มันก็ช่วยให้เธอหายเศร้าได้เยอะเลย

"ขอโทษนะครับครู ถ้าผมพูดอะไรผิดไป"

"ยังไม่ได้ว่าอะไรเลยเหอะลุงก็!! ร้อนตัวทำไมเนี่ย!!"

"อ่าว?"

"นี่ลุง...." ครูเบสท์ปาดน้ำตาออกจากแก้ม เริ่มมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าอีกครั้ง "ขอบคุณนะคะ ที่ฟังเบสท์พูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ แต่มันก็ช่วยให้เบสท์รู้สึกดีขึ้นมากเลย"

"ไม่เป็นไรครับครู" ครูเบสท์ถูกลุงพลที่กอดอยู่โยกตัวไปมาเหมือนปลอบเด็กน้อย "ผมยินดีรับฟังครูทุกอย่างนะครับ คนดีของลุง"

"ปากหวานแบบนี้ซินะ" นางฟ้าพยาบาลยิ้มที่มุมปาก "สายน้ำแข็งอย่างพี่พลอยถึงละลายได้ ร้ายไม่เบาเลยนะลุง"

ลุงพลยิ้มรับโดยไม่พูดอะไร ตาเฒ่าเริ่มเรียนรู้ว่าถึงจุดหนึ่ง ตัวเองไม่ควรพูดเปรียบเทียบระหว่างใครกับใครอีก ขณะกำลังคิดอะไรเพลิน ๆ ครูเบสท์ก็เอื้อมมือทั้งสองข้างตะปบที่แก้มของตาเฒ่าเพื่อประกบปาก

"จ๊วบ...จ๊วบ...จ๊วบ"

"ลุงพลคะ"

"จ๋า"

"จ๋าเลยเหรอ?" ภัคจิรายิ้มร่า ก่อนเชิดหน้าทำฟอร์มขรึมใส่ลุงพล "นี่ลุง เที่ยงกว่าแล้ว ไม่หิวเหรอ? เบสท์เริ่มหิวแล้ว โทรหาฟร้อนท์ข้างล่างสั่งอาหารดีกว่า อยากกินอะไรอะไรดีละลุง?"

"เดี๋ยวลุงลงไปก็ได้ครับครู"

"โทรไปก็ได้ ไม่เห็นต้องลงไปให้เหนื่อยเลยนิคะ"

"พอดีลุงจะแวะซื้อของที่เซเว่นสักหน่อยน่ะครับครู"

"ถ้างั้นก็ได้" ครูเบสท์ตอบตกลง ก่อนสั่งเมนูอาหารง่าย ๆ อย่างข้าวหมูผัดกะเพราไข่ดาว น้ำส้มปั่น ส่วนลุงพลอยากกินอะไรก็แล้วแต่สะดวก ก่อนเธอจะควักแบงค์พันให้ลุงพลเป็นค่าอาหารและค่าเครื่องดื่ม



"ขอบคุณนะครับครู" ลุงพลรับแบงค์พันจากมือของครูเบสท์ "เดี๋ยวผมเอาเงินทอนมาให้นะครับ"

แล้วลุงพลก็ลุกขึ้น สวมใส่เสื้อผ้า ก่อนเดินออกจากห้องลงลิฟต์ไปสั่งอาหารชั้นล่าง แล้วจึงแวะเดินออกมาจากโรงแรมในช่วงเที่ยงครึ่ง ที่ตอนนี้ฝนซาลง โดยจุดหมายปลายทางของตาเฒ่าก็คือร้านสะดวกซื้อ

ตาเฒ่าเดินเข้าไปในเซเว่น แวะซื้อ M-150 ในตู้เย็น ก่อนเดินแวะไปหยิบหลอด KY เจล พร้อมด้วยถุงยางที่วางบนชั้นวางหน้าเคาน์เตอร์ร้านสะดวกซื้อ

"คิดเงินด้วยหลาน" ลุงพลวางขวด M-150 หลอด KY เจล และกล่องถุงยางอนามัย บนเคาน์เตอร์เพื่อคิดเงิน

"ขนมจีบซาลาเปาเพิ่มไหมคะลุง?"

"ไม่จ๊ะ ขอบคุณนะหลาน"

"มีสมาชิกไหมคะลุง?"

"ไม่มีจ๊ะ" ตาเฒ่าตอบ

"ไม่สนใจสมัครเหรอคะลุง?" เด็กร้านสะดวกซื้อถามต่อ "แป๊ปเดียวเอง ช่วยหลานหน่อยได้ไหมคะ"

"พอดีลุงรีบน่ะจ๊ะ" ลุงพลผายมือปฏิเสธอย่างสุภาพ "ขอโทษที"

...ดูเหมือนลุงพลจะวางแผนทำอะไรบางอย่างกับครูเบสท์ ด้วยการเตรียม KY เจล และถุงยางอนามัยกลิ่นสตรอเบอรี่ พร้อมด้วยยาชูกำลัง M-150 ดูทรงแล้ว หลังบ้านครูเบสท์ไม่ปลอดภัยแน่นอน


โปรดติดตามตอนต่อไป...

ฝากติดตามเพจเฟสบุ๊คของผมด้วยนะครับ


pin1969


xonly-1786

ขอบคุณมากครับ ครูเบสท์สุดยอดเลย ลุงพลชอบเล่นประตูหลังจัง สาวๆทุกคนโดนกันหมดเลยครับ

pankea

ครูเบสท์ต้องสังเวยหลังบ้านให้ลุงพลอีกแล้วแน่นอนเพราะมีทั้งKYและถุงยางที่ลุงพลซื้อเตรียมไปเผด็จศึกประูหลัง

sdtop1108

หลังบ้านครูเบสท์น่าจะเร็วๆนี้ลุงเบาๆกับครูหน่อยนะครับ 

ผู้เฒ่าเซราะกราว

ลุงพลซื้อทั้งถุงยางอนามัย ทั้งเจลแบบนี้อ่ะ ครูเบสท์โดนเปิดบริสุทธิ์ประตูหลังแน่ๆเลย


g9898


veget

ดูท่าครูเบสท์ก็เริ่มมีใจให้ลุงพลบ้างแล้ว
คงยินยอมทั้งกายและใจแหละ

jetdo100

ดูท่า การเคลียร์กันครั้งนี้คงไม่จบลงง่ายๆแน่ มีแวะไปเติมพลังด้วย

zaar65


Sudyod.pra

จัดยาวๆ ใช้เวลาทั้งคืนให้คุ้มอย่าได้หยุดครับลุงพล

therasak

เตรียมอุปกรณ์พร้อมแบบนี้ครูเบสน่าจะเจ็บน้อยหน่อย ลุงพลมาสยบยอมครูเบสแบบนี้เหมือนเสือสิ้นลายเลย

Prince Ma


asiakook

โห ตอนนี้เรทติ้งดี โฆษณาแฝงมาเพียบเลยน้า อิอิ ขอบคุณครับ