กระบี่เดียวดายท่องยุทธจักร by Man M. 16แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
กระบี่เดียวดายท่องยุทธจักร ตอนที่่ 2ความเดิม“ตามล่าตัวมันให้ได้ ศิษย์ทรยศเอี๊ยงหมึ่งทีและนางมารน้อยยิ่มเสียวเตี๊ยะ มันคงไปได้ไม่ไกลนักเพราะ
นางมารน้อยนั้นบาดเจ็บอยู่ไม่น้อยทีเดียว”
“ครับ อาจารย์” เหล่าศิษย์ในสำนักที่ติดตามมา 4 คนรับคำอาจารย์และเร่งตามไล่ล่าทั้งสองคนต่อไป “เสี่ยวเตี๊ยะเจ้าดีขึ้นบ้างรึไม่ เลือดเจ้าหยุดไหลแล้ว ข้าทำแผลให้เจ้าเสร็จแล้ว”
“ขอบคุณค่ะพี่หมึ่งที ข้ารู้สึกดีขึ้นมากเลยค่ะ ท่านเองก็พักผ่อนบ้างเถอะ ท่านเองก็บาดเจ็บภายใน
ไม่ใช่น้อยเลย”
นางตอบเขา พร้อมกับบอกให้เขาพักผ่อนเอาแรงเหมือนกันเพราะเขาก็ได้รับบาดเจ็บไม่ใช่น้อยเช่นกัน
“เจ้านอนพักเอาแรงเถิด เดี๋ยวข้าจะไปหาฟืนมาสุมไฟ เราจะได้อุ่นขึ้นบ้าง หนาวแบบนี้เดี๋ยวก็ไม่สบาย”
“ค่ะพี่หมึ่งที รีบกลับมานะคะ”
นางรับคำคนรัก และหลับตาพักผ่อนด้วยนางหมดสิ้นเรี่ยวแรงจาก
อาการบาดเจ็บนั้น เอี้ยงหมึ่งทีค่อยๆเดินออกไปจากกระท่อมฝ่าหิมะและลมหนาวออกไปหาฟืนแห้งกับ
อาหาร เพราะวันนี้ทั้งวันยังไม่มีอาหารอันใดตกถึงท้องของเขาทั้งคู่แม้แต่น้อย
ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะเมื่อคู่รักออกไปนั้นนางก็ได้หลับไปด้วยความอ่อนเพลียจากอาการบาดเจ็บและเสีย-
เลือดมากนางหลับลึกเลยทีเดียว เพราะไม่นึกว่าจะเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้นกับตนมาก่อน แต่ชะตาคนเรานั้น
ก็แปลกยามชะตาตกต่ำก็จะยิ่งมีสิ่งที่ทำให้แย่ขึ้นไปอีก เช่นว่าชะตาของนางในตอนนี้ บุรุษหนึ่งก้าวเข้ามา
ยังกระท่อมที่นางหลับอยู่ มันผู้นี้ก้าวเดินอย่างเงียบเชียบแสดงให้เห็นถึงพลังยุทธอันอยู่ในระดับสูงทีเดียว
มันก้าวมาอยู่ข้างๆเตียงไม้ไผ่เก่าๆที่นางนอนหลับอยู่อย่างง่ายดาย มันผู้นี้คือมารบุปผาหรือโจรคร่าสวาทชื่อ
ก้องเถียนป๋อกวง อา...หรือว่าชะตาหีนางจะขาดเสียแล้ว
เถียนป๋อกวงดูโฉมนางอย่างตะลึงลาน นางช่างงามเหมือนเป็นเทพธิดาจริงๆ มันยิ้มร่าช่างเป็นโอ
กาสที่หาได้ยากยิ่งแล้วที่มันจะได้เชยชมสาวที่สวยหยาดฟ้ามาดินเช่นนี้ มันหัวเราะด้วยเสียงอันดังออกมา
ด้วยอาการหื่นกาม ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะได้ยินเสียงหัวเราะดังก็ตกใจผวาตื่น แต่ช้าไปเสียแล้วเจ้ามารบุปผานั้นชิง
ลงมือจี้สกัดจุดไม่ให้นางเคลื่อนไหวโดยพลันไปเสียก่อน นางนั้นทั้งตื่นทั้งตกใจกับสื่งที่เกิดขึ้น
“ท่านเป็นใครทำไมทำกับข้าเยี่ยงนี้ ข้าไปทำสิ่งใดให้กับท่านมาก่อนรึ”
นางถามด้วยความตกใจ
เถียนป๋อกวงมองใบหน้างดงามที่ตื่นตกใจนั้นอย่างพอใจและหื่นกระหาย หัวเราะด้วยเสียงดังก้อง
“แม่นางคนงามเจ้าไม่ต้องกลัวข้าหรอก ข้าแค่ชื่นชมในความงดงามของเจ้าเท่านั้น ข้าเถืยนป๋อกวง
ชาวยุทธทั้งมวลเรียกข้าว่า มารบุปผา เจ้าไม่ต้องกลัวอันใดหรอกข้านั้นจะทนุถนอมเจ้าเป็นอย่างดี ฮาๆ”
ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะได้ยินนามบุรุษที่อยู่ข้างนางก็ตกใจแทบสิ้นสติ แต่ก็ทำอันใดไม่ได้ ได้เพียงร้องขอ
ความเห็นใจทั้งที่รู้ว่าไม่มีทางได้สิ่งนางหวังนั้นตอบแทนด้วยความกลัว ถึงจะใจแข็งอย่างไรนางก็เป็นผู้หญิง
อยู่ดีย่อมต้องกลัวเรื่องนี้ เพราะสังคมจีนสมัยนั้นเรื่องพรรค์นี้เป็นเรื่องน่ารังเกียรติตามลัทธิขงจื้อ
“อย่าทำอะไรข้าเลยท่านผู้กล้า กรุณาเถอะปล่อยข้าไป” นางขอร้องด้วยความสิ้นหวัง
“อย่ากลัวอันใดเลยแม่นางคนงาม ข้ามิใช่ผู้กล้าอันใด เป็นเพียงผู้ชำนาญและชมชอบการชื่นชม
มวลบุปผางามทั่วหล้าเท่านั้น”
พูดเสร็จมือเถียนป๋อกวงก็ล้วงที่หน้าอกได้รูปงามของยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะทันที นางนั้นรู้สึกทั้งขยะ
แขยงทั้งอายแต่ก็ทำอันใดไม่ได้ คิดถึงคนรักนางรู้สึกอดสูในชะตากรรมที่กำลังจะได้รับ นางยอมกัดลิ้น
ตายเพื่อให้พ้นความอัปยศครั้งนี้ ขณะกำลังจะกัดลิ้นฆ่าตัวตาย แต่มารบุปผานั้นกลับไวเท่าทันความคิด
ของหญิงงามพลันใช้พลังดรรชนีสกัดจุดนางเสียก่อนที่นางจะทันฆ่าตัวตายสมปรารถนา นางนั้นคงได้
แต่น้ำตานองหน้ายอมรับชะตากรรมนี้เสียแล้ว
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกแม่นาง จะฆ่าตัวตายเรอะ ฮ่าๆ ฮา ข้านั้นมินิยมชมชอบเด็ดบุปผาที่ไร้
วิญญาณหรอกนะ อีกชั่วยามเจ้าจะต้องสำนึกว่าถ้าตายแล้วเจ้าจะหาความสุขเยี่ยงนี้ไม่ได้อีก ฮา ฮา”
ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะนางทั้งคับแค้นใจและอับอายจนถึงขีดสุดจนน้ำตานองน้าแต่ก็ขัดขวางเจ้าคนเลวที่
นางนั้นทั้งชิงชังและขยะแขยงนั้นไม่ได้อีกต่อไป มันเริ่มคุกคามร่างงามของนางทีละส่วนๆแบบแมวหยอก
หนูเลยทีเดียว มันเห็นท่าทางของนางแล้วก็หัวเราะชอบใจทีเดียว นางนั้นเป็นถึงลูกสาวของประมุขพรรค
มารยังมิเคยได้รับความอับอายเยี่ยงนี้ เพราะถูกเลี้ยงมาอย่างดี ได้แต่ปล่อยให้มารบุปผานั้นลูบคลำเรือนร่าง
งามนั้นจนหนำใจของมัน นางได้แต่ขนลุกเยือกและสะดุ้งไปตามมือที่มันบีบคลำร่างงามนั้น นางนั้นไม่
อยากให้คนรักของนางกลับมาเห็นภาพของนางที่โดนชายอื่นเหยียดหยามถึงปานนี้ นางคิดได้เพียงเท่านั้น
แต่เหมือนว่าฟ้านั้นไม่เมตตานางเลยสิ่งที่นางไม่อยากให้เป็นก็เกิดขึ้นเสียจนได้
เอี้ยงหมึ่งทีกลับมาเห็นภาพบาดตานั้นเสียจนได้ นางได้แต่ร่ำร้องครวญต่อสวรรค์ใยทำกับนางถึง
เพียงนี้ คนรักกลับมาเห็นภาพอันน่าอับอายของนาง เอี้ยงหมึ่งทีตะลึงเล็กน้อยกลับภาพที่เห็นและระเบิด
อารมณ์โกรธถามออกไปด้วยเสียงดัง
“ตัวบัดซบเจ้าเป็นใคร มาทำอะไรกับคู่รักของข้า ตายซะเถอะ”
แล้วเขาก็โถมตัวแทงกระบี่เข้าหามารบุปผาด้วยท่วงท่าเพลงกระบี่พิชิตมารของสำนักเซียนกระบี่
แต่มารบุปผานั้นไม่ใช่ระดับกระจอกที่จะเสียที กับมือกระบี่ชั้นปลายแถวของยุทธภพ มันแค่เบี่ยงตัวหลบ
สภาวะกระบี่เล็กน้อยและส่งพลังดัชนีสุริยันต์ตอบโต้กลับมาก็สามารถตีกระบี่หลุดจากมือเอี้ยงหมึ่งทีได้แล้ว
ทั้งยังโจมตีสกัดจุดไม่ให้เอี้ยงหมึ่งทีนั้นเข้ามาขัดขวางมันได้อีกต่างหาก และที่มันไว้ชีวิตชายหนุ่มจากการ
โจมตีในครั้งนี้เพราะมันอยากให้ชายหนุ่มนั้นเห็นภาพคู่รักที่มันกำลังจะลงมือย่ำยีต่อหน้าโดยที่เจ้าตัวนั้นขัด
ขวางอะไรมันไม่ได้ อา...ช่างเป็นความคิดอันชั่วช้านัก แต่เป็นเรื่องที่มันนั้นโปรดปรานเป็นพิเศษทีเดียว
“ฮา ฮา ไอ้หนุ่มเจ้าต้องเป็นพยานในการเปิดบุปผางามของข้า ฮ่ะๆ” มันเอ่ยขึ้น
เอี้ยงหมึ่งทีนั้นแสนจะเจ็บใจแทบกระอักเลือดทีเดียว แต่โทษที่มันนั้นยังมีวรยุทธที่ไม่กล้าแข็งที่จะ
เป็นคู่ต่อสู้ของมารบุปผานี่ได้เลย
เรื่องราวจะดำเนินไปอย่างไร โปรดติดตามได้ในตอนต่อไปนะครับ ตอนหน้าสาวงามโดนย่ำยีต่อ
หน้าชายคนรักแน่นอน
ถ้าสนใจจะให้มีต่อไปเป็นซีรี่ย์ยาวก็คอมเม้นต์แนะนำกันด้วยนะครับ.