Choice ตอนที่ 4 – พระเอก....................................
Assasin008 2016-07-21 แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
คนเราถ้าลองได้ทำเลวสักครั้ง เราก็จะเลิกทำเลวได้ยาก ผมในตอนนี้ก็คงเป็นแบบเดียวกัน เพราะว่าแทนที่ผมจะเก็บเรื่องที่ผมได้เปิดซิงโบกี้ไว้เงียบ ๆ ผมดันคิดเรื่องชั่วจะป่าวประกาศให้แฟนเธอรู้ทางโทรศัพท์ว่าโบกี้ดาวคณะคนสวยโดนผมเคลมสวาทเรียบร้อยแล้ว
สาเหตุหลักน่ามาจากความหึงมากกว่าความสะใจ ผมไม่อยากเห็นโบกี้กลับไปคืนดีกับแฟน และวิธีนี้น่าจะได้ผลตรงประเด็นที่สุด ผมแทบไม่สนใจด้วยซ้ำว่าภาพลักษณ์ของโบกี้ในสายตาคนอื่นจะเป็นยังไง สิ่งที่ผมสนในตอนนี้ก็แค่อยากให้เธอกับแฟนเลิกกันแบบเด็ดขาด
“โบกี้ทำเป็นไม่ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์นะ แล้วก็ร้องครางออกมาดัง ๆ เลยตอนที่ผมเย็ดโบกี้”
พอตัดสินใจแล้วผมก็จับร่างเกือบเปลือยของโบกี้ไปนอนหงายบนโซฟา ผมจับสองขาของเธอถ่างออกแล้วจัดการขย่มควยใส่เข้าไปในรูเสียวของเธอแบบทันที และคราวผมขย่มแค่สี่ห้าครั้งก็หลุดพรวดจมหายเข้าไปได้มิดด้าม
ผมเริ่มซอยกระเด้าเอวเบา ๆ จนได้ยินเสียงครางของโบกี้ จากนั้นผมก็หยิบเอาโทรศัพท์มือถือของเธอมาวางข้างตัวเธอแล้วกดรับ ตอนนี้ผมได้ยินเสียงแฟนของเธอดังออกมาจากโทรศัพท์แล้ว และเสียงครางของโบกี้ก็น่าจะหลุดไปถึงฝ่ายโน้นเหมือนกัน
“ฮัลโหล โบกี้ พี่ขอโทษจริง ๆ นะ เรามาเจอกันได้หรือเปล่า จะได้คุยให้เคลียร์กันไปเลย พี่ไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนอื่นเลยนะโบกี้เชื่อพี่เถอะนะ พี่สาบานได้”
เสียงแฟนของโบกี้ดังออกมาจนผมได้ยินอย่างชัดเจน เท่าที่ผมรู้เขาเป็นรุ่นพี่ที่มหาลัย เป็นหนุ่มหล่อ รวย สาวหลงกันเป็นพรวน เรียกได้ว่าเหมาะสมกับโบกี้ที่เป็นดาวคณะได้ราวกับกิ่งทองใบหยก แต่สำหรับผมแล้วผมจะไม่ยอมยกโบกี้ให้เด็ดขาด
“ซี้ด ... โอย ... อูย ... เสียวจังเลยผัวขา ... อูย ผัวขา ... เสียวจะตายอยู่แล้ว ซี้ด”
พอได้ยินเสียงแฟนของโบกี้พูดออกมา ผมก็เริ่มแผนด้วยการกระเด้าขย่มใส่โบกี้แบบรัว ๆ จนเธอส่งเสียงครางระงม และแน่นอนว่าคราวนี้ผมยังเพิ่มคำสั่งให้เธอใช้คำหยาบประกอบการร่วมกิจกามด้วย
“... ฮัลโหล โบกี้ พูดว่าอะไรนะ พี่ได้ยินไม่ชัด”
พอโบกี้ส่งเสียงครางออกไป เสียงในโทรศัพท์ก็เงียบหายไปพักหนึ่ง ผมเดาว่าแฟนเธอคงกำลังอึ้งงงว่าทำไมได้ยินเสียงคราง แต่จากนั้นครู่เดียวเสียงของแฟนโบกี้ก็ดังขึ้นมาอีกรอบ ผมเลยเร่งขย่มบั้นเอวใส่จนโบกี้ร้องเสียงหลงออกมาอีกชุดใหญ่
“ซี้ด … อ๊ะ … อ๊ะ … อูย … เสียวจังค่ะผัวขา เย็ดเมียแรง ๆ อีกซิคะ อูย เสียว ซี้ด”
“โอย เสียวจังค่ะผัวขา ซี้ด ขย่มแรง ๆ เย็ดโบกี้แรง ๆ เลย แบบนั้นล่ะค่ะ เย็ดให้หีโบกี้ฉีกไปเลย ซี้ด สุดยอดเลยค่ะผัวขา โอ๊ย เสียวจะตายแล้ว ซี้ด”
ระหว่างที่ผมกระเด้าเอวไป โบกี้ก็ส่งเสียงครางออกมาตามที่ผมสั่งเอาไว้ เสียงครางในตอนนี้ของเธอไม่ต่างอะไรกับกะหรี่ร่านสวาทคนหนึ่ง ทั้งคำหยาบคาบน้ำเสียงการแสดงความเสียวทุกอย่างล้วนแล้วแต่สะท้อนภาพความร้อนร่านออกมา
พอเสียงของโบกี้ดังขึ้น แฟนของเธอก็เงียบนิ่งไป ผมไม่รู้เหมือนกันว่ากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมรู้ว่าแฟนของเธอจะต้องได้ยินเสียงครางของโบกี้อย่างชัดเจน
“โบกี้ ... ทำอะไรอยู่ ... โบกี้ ได้ยินผมหรือเปล่า”
พอสักพักเสียงแฟนของโบกี้ก็ดังขึ้นมาอีกรอบ เพียงแต่เสียงแผ่วลงไปกว่าตอนแรก ผมคิดว่าเขาน่าจะกำลังตกใจจนทำตัวไม่ถูก แต่ที่น่าสนใจก็คือเขาเลือกที่จะพูดเสียงเบาลงแล้วกลายเป็นเงียบ คล้ายกับว่ากำลังแอบฟัง และกลัวว่าถ้าส่งเสียงออกมาแล้วโบกี้จะได้ยินเข้า
ถ้าแบบนี้ก็เข้าทางผมล่ะครับ ผมคิดว่าแฟนโบกี้น่าจะกำลังคิดว่าโบกี้ไม่ได้ยินเสียง เธอแค่เผลอไปโดนปุ่มรับตอนที่กำลังแอบนัวเนียกับผู้ชาย ถ้าคิดแบบนี้จริงแผนของผมก็เป๊ะเลย
“โบกี้จ๋า ขาว สวย แล้วก็นมใหญ่จัง หีก็ตอดสุดยอด ขนาดเย็ดกันทุกวันก็ยังมันสะใจไม่เบื่อเลยสักครั้ง”
ผมสวมบทบาทสามีที่แอบคบหากับโบกี้ด้วยการส่งเสียงหื่น แล้วโหมเร่งกระแทกใส่โบกี้เป็นระวิง ด้านโบกี้เองก็สูดปากร้องซี้ดครวญครางออกมาไม่ขาดปาก
พอเสียงแฟนโบกี้เงียบไป ผมก็หยิบเอาโทรศัพท์มาอยู่ใกล้กับโคกสวาทของโบกี้ จากนั้นผมก็กระแทกจนได้ยินเสียงปั้กปั้กสนั่นหวั่นไหว ผมว่าแฟนโบกี้น่าจะรู้นะว่านี่มันเสียงอะไร
“ซี้ดสสส อืม ผัวจ๋า เสียวจังค่ะ รักผัวที่สุดเลย ซี้ด เสียวจัง”
“รักที่สุดจริงเหรอ ได้ข่าวว่าโบกี้แอบไปมีแฟนที่มหาลัยด้วยนี่นา”
“เปล่านะคะ โบกี้รักผัวคนเดียว พี่คนนั้นเขาเข้ามาจีบโบกี้ก็จริง แต่โบกี้ไม่ได้เล่นด้วยซักหน่อย ยังไงโบกี้ก็รักผัวของโบกี้คนเดียวจริง ๆ นะคะ สาบานได้”
“แน่ใจเหรอ ไม่ใช่ว่าแอบแอ่นให้มันเย็ดเข้าแล้วนะ”
“ไม่นะคะ บอกแล้วไงว่าเมียรักผัวคนเดียว”
“เชื่อก็ได้ มาเดี๋ยวจูบให้เป็นรางวัล”
ผมกับโบกี้สวมบทละครพูดกันไปเรื่อย จากนั้นผมก็ก้มลงไปจูบปากของเธอแล้วแลกลิ้นดูดปากนัวเนียกันดังจ๊วบ และแน่นอนว่าผมไม่ลืมที่จะยกเอาโทรศัพท์มาอยู่ข้างแก้มเพื่อให้อีกฝ่ายได้ยินเสียงของเราพลอดรักกันด้วย
ผมจูบปากจนเธอเคลิ้ม จากนั้นก็เลื่อนไปจูบพวงแก้ม แล้วไซร้ไปที่ซอกคอ ตัวเธอทั้งหอมทั้งนุ่มนิ่มน่าฟัดที่สุด
“นมโบกี้ใหญ่สะใจดีจัง ขอกัดหน่อยได้หรือเปล่า อยากฝากรอยฟันเอาไว้ คนอื่นจะได้รู้ว่านมสวย ๆ สองลูกนี่มีเจ้าของแล้ว”
“กัดเลยค่ะผัวขา อุ๊ย … โอย … ซี้ด … เจ็บ … แต่เสียว … ซี้ด”
ผมพูดแล้วอ้าปากงับตรงปลายถันแล้วขบฟันกัดใส่ก้อนเนื้อขาว ๆ ของเธอแรงกว่าปกติเล็กน้อยจนโบกี้สะดุ้งโหยง เธอคงจะเจ็บแหละ เพราะเผลอร้องออกมาเสียงดังพอดู แต่ผมก็ยังไม่หยุดนะค่อย ๆ กัดลงไปแรงขึ้นแบบช้า ๆ จนโบกี้ตัวเกร็งจิกหลังผมแน่น
เธอหอบหายใจถี่เหมือนทั้งทรมาณทั้งมีความสุข ก่อนจะเริ่มผ่อนคลายเมื่อผมอ้าปากปล่อยเต้าของเธอให้เป็นอิสระ และตอนนี้ผมมองเห็นรอยฟันที่ครอบอยู่รอบหัวนมของเธอ ก็ไม่ถึงขั้นเป็นแผลหรอกนะ แต่คงใช้เวลาสักหน่อยกว่ารอยจะหายไป
“ตีตราจองเต้าขวาแล้ว คราวนี้ขอตีตราจองเต้าซ้ายด้วยนะ”
พอฝากรอยแผลแรกบนเต้าขวาแล้ว ผมก็หันไปมองโทรศัพท์แล้วแอบยิ้ม ก่อนจะก้มหน้าลงมาอ้าปากงับกัดลงไปตรงแถวหัวนมทางด้านซ้ายของเธอ และคราวนี้โบกี้ก็ตัวกระตุกร้องเสียงหลงออกมาเหมือนครั้งก่อน เธอหอบหายใจฟืดฟาดหนักหน่วง และพอผมเงยหน้าขึ้นมานอกจากผมจะเห็นรอยฟันรอบหัวนมทั้งสองข้างแล้ว ผมยังเห็นเธอมีน้ำตาเอ่อออกมาเล็กน้อย ท่าทางเธอคงเจ็บพอสมควร
ผมเห็นน้ำตาเธอแล้วก็รู้สึกสงสาร แต่ก็ไม่สะดวกจะพูดขอโทษ ผมเลยแค่ก้มหน้าลงไปเลียรอบหัวนมตรงรอยฟันทั้งสองข้าง ผมลิ้นเลียวน ๆ ไปเรื่อย ๆ สลับไปมา โบกี้จึงค่อยหายเกร็งแล้วส่งเสียงครางมีความสุข เธอเริ่มแอ่นนมเบียดเข้าหาใบหน้าของผมอีกครั้ง
“โบกี้หุ่นดีจัง เอวเล็กนิดเดียวยังกับไม่มีลำไส้แน่ะ ขอเลียสะดือหน่อยนะ”
พอเธอเริ่มหายเกร็งผมก็เริ่มเลื้อยต่ำลงมา และผมก็ไม่ลืมที่จะส่งเสียงบรรยายประกอบให้แฟนโบกี้นึกภาพตาม พอผมเลียลิ้นลงไป หน้าท้องของเธอก็เกร็งเป็นจังหวะ เสียงครางของเธอในตอนนี้ฟังดูเย้ายวนใจอย่างที่สุด
“หีโบกี้ก็สวย ยิ่งใส่กระโปรงนักศึกษาแบบนี้ก็ยิ่งน่าเย็ดเข้าไปอีก ขนาดเย็ดมาแล้วตั้งหลายครั้ง ยังปิดสนิทเป็นสีแดงแจ๋อยู่เลย ขอเลียหีหน่อยนะเมียจ๋า”
ผมไล่ต่ำลงไปเรื่อย ๆ พร้อมกับส่งเสียงบรรยายแบบหยาบเถื่อนไปพลาง จากนั้นผมก็ก้มหน้าลงไปแลบลิ้นเลียที่รูเสียวของเธอให้เป็นครั้งแรกในชีวิต ผมก็ไม่เคยทำหรอกนะแต่เคยเห็นในหนังมามากกว่าพันครั้งเห็นจะได้
“ซี้ดสสส โอย ... ผัวจ๋า ... เสียว ... อูยสส ... เลียเก่งจังค่ะ ซี้ด โบกี้เสียวจะตายอยู่แล้ว อ๊ะ อูย ซี้ดสสส”
พอผมก้มหน้าลงลิ้น โบกี้ก็ตัวกระตุกเกร็งร้องครางออกมาเสียงดัง สองมือของเธอจิกลงบนหลังหัวของผมพร้อมกับแอ่นสะโพกยกเข้าหาปากของผมด้วยท่าทีร้อนร่าน
โบกี้ล้างของเธอมาสะอาดทีเดียว ผมไม่ได้กลิ่นอับเหม็นอย่างที่เคยอ่านมาเลยสักนิด แถมผมยังรู้สึกหอมหวานสะใจด้วย ตอนนี้ผมเลยซุกหน้าใช้ลิ้นตวัดเลียไปตามร่อง แล้วระรัวใส่ติ่งเสียวสีแดงแจ๋ของเธออย่างเอร็ดอร่อยลิ้น
“โอย ผัวจ๋า ซี้ดด เสียวจัง ซี้ด ผัวจ๋า โอย ซี้ดดสสส เสียว อูยสสสส ผัวจ๋า ... ไม่ไหวแล้วค่ะ อ๊ายยยยยยยย”
โบกี้ยิ่งครางออกมาเสียงดังลั่น สะโพกของเธอแอ่นเด้งอัดใส่หน้าผมไม่หยุด ผมก็เลยยิ่งรู้สึกสะใจลงลิ้นใส่ไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายตัวเธอก็เริ่มเกร็ง เธอกดผมเข้าหาเธอพร้อมกับแอ่นโคกสวาทอัดใส่ผม สองขาของเธอรัดรอบคอของผมแน่นจนผมเกือบหายใจหายคอไม่ออก ยังดีที่ผมฝืนเว้นระยะห่างไว้นิดนึงก็เลยพอหายใจได้
โบกี้ตัวกระตุกเกร็งอยู่นานพอสมควร เธอจึงค่อยยอมปล่อยผมออก ผมเองก็ปล่อยให้เธอพักแล้วหันไปสนใจมองบนโทรศัพท์มือถือ ผมอยากว่าแฟนโบกี้จะมีปฏิกิริยายังไง จะวางสายโทรศัพท์ไปแล้วหรือเปล่า และดูเหมือนว่าสายโทรศัพท์จะยังไม่ถูกตัด แฟนของเธอยังคงฟังอยู่
ผมตั้งใจว่าจะหันไปเย็ดโบกี้ต่อสักรอบ แต่ว่าผมได้ยินเสียงดังแผ่ว ๆ มาจากโทรศัพท์เลยชะงักไปวูบหนึ่ง พอผมกดเร่งเสียงขึ้นมาผมก็ได้ยินเสียงเหมือนเสียงหอบเบา ๆ และยิ่งฟังผมก็ยิ่งคิดว่าใช่ มันคือเสียงหอบครางของผู้ชาย ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่ใครอื่นนอกจากแฟนของโบกี้
ผมนิ่งชะงักไปพักใหญ่ ทีแรกผมกะจะทำให้แฟนโบกี้โกรธและดูถูกโบกี้จนเลิกกัน แต่ว่าตอนนี้ผมกลับได้ยินเสียงหอบครางตอบกลับมา หรือว่าแฟนของโบกี้จะได้ยินเสียงของพวกเราแล้วเกิดอารมณ์จนช่วยตัวเองอยู่
แน่ใจได้เลยว่าที่ผมได้ยินต้องเป็นเสียงครางแน่ ๆ และมันก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย ผมเลยขมวดคิ้วมองไปทางโบกี้ แต่เธอก็ไม่ได้แสดงท่าทีสงสัยอะไรนอกจากมองผมตาหวานฉ่ำ ผมเลยเปลี่ยนใจสั่งให้โบกี้พูดโทรศัพท์กับแฟนของเธอ และแน่นอนผมให้เธอแกล้งทำเหมือนไม่รู้ว่าเผลอกดรับโทรศัพท์เข้า
“… ฮัลโหล ... พี่โต๋ โทรมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
โบกี้รับโทรศัพท์ไปแล้วพูดทำท่าเหมือนตกใจไม่รู้เรื่องได้สมบทบาทมาก ขนาดผมที่เป็นคนสั่งเองก็ยังเกือบเชื่อไปด้วยว่าเธอไม่รู้เรื่องอะไรเลย
“… โทรมานานแล้วล่ะ โบกี้ทำไมไม่บอกพี่ว่ามีแฟนแล้วล่ะ”
แฟนของโบกี้ที่ชื่อโต๋ตอบและถามกลับมา ผมฟังแล้วน้ำเสียงเหมือนจะไม่เชิงโกรธ แต่ออกแนวผิดหวังเสียใจมากกว่า ผมรู้สึกผิดขึ้นมาเลยแฮะ
“คือ ...”
โบกี้สวมบทบาทอ้ำอึ้งเหมือนพูดไม่ออก ถ้าฟังแค่เสียงของเธอล่ะก็ผมคงเชื่อไปด้วยว่าเธอกำลังรู้สึกผิด แต่ถ้ามองเห็นเธอตอนนี้ล่ะก็จะกลายเป็นตรงกันข้ามทันที เพราะว่าเธอกำลังเอื้อมมืออีกข้างมารูดควยให้ผมพร้อมด้วยรอยยิ้มยั่วยวน
“หรือว่าโบกี้ทำไปเพราะหึง ... พี่สารภาพนะว่าพี่เผลอไปมีอะไรกับคนอื่นก็จริง แต่ก็แค่ชั่วคราว พี่รักโบกี้จริง ๆ นะ พี่อยากแต่งงานกับโบกี้ด้วยซ้ำ”
“พี่โต๋ไปมีอะไรกับคนอื่นได้ แล้วทำไมโบกี้จะมีไม่ได้ล่ะคะ”
อยู่ดี ๆ โบกี้ก็เปลี่ยนบทบาทมาแสดงความโกรธ ซึ่งก็น่าจะเป็นท่าทางปกติตอนที่หึงล่ะมั้ง
“โบกี้ทำประชดพี่จริงด้วย พี่ว่าแล้วเชียว เป็นไปไม่ได้หรอกที่โบกี้จะไม่รู้ว่าเผลอกดรับสาย โบกี้ไปมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นเพราะอยากประชดใช่หรือเปล่า บอกมาเถอะโบกี้ ถ้าใช่พี่ก็ขอโทษ เรื่องที่แล้วไปแล้วก็ช่างมันเถอะ เรามาเริ่มใหม่นะ ถึงโบกี้จะเป็นยังไงพี่ก็ยังรักโบกี้อยู่ดี”
แฟนโบกี้ตอบมาเสียงหล่อแบบนี้ผมเลยอึ้ง โบกี้เองก็นิ่งอึ้งไปด้วย เธอหันมามองหน้าผมเหมือนเด็กน้อยที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง และผมเองก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบยังไง เพราะยิ่งฟังไปก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นผู้ร้ายที่เพิ่งแย่งตัวนางเอกมาจากพระเอกที่รักจริงหวังแต่ง
“… โบกี้ไม่ได้รักพี่โต๋ค่ะ โบกี้ไม่เคยรัก ที่เราคบกันก็แค่เพราะโบกี้อยากรู้จักกับพี่โต๋ ไม่ได้มีอะไรมากมายไปกว่านั้น สำหรับโบกี้แล้วพี่โต๋เป็นเหมือนพี่ชายมากกว่า”
ผมนิ่งไปสักพักก็เลือกสวมบทผู้ร้ายต่ออีกหน่อย แต่ความจริงก็ไม่ชิงเสียทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้ผมเคยถามโบกี้ว่าเธอคิดยังไงกับแฟน เธอก็บอกผมว่าไม่ได้คิดอะไรพิเศษ แค่รู้สึกดีที่มีคนคอยดูแล ผมก็เลยบอกให้เธอพูดไปตามนั้น
พอโบกี้พูดความในใจข้อนี้ออกไป แฟนของเธอก็นิ่งเงียบไปครู่ใหญ่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ออกมาเหมือนคนอกหัก
“… พี่เข้าใจแล้ว ... ขอพี่คุยกับแฟนของโบกี้หน่อยได้หรือเปล่า”
โบกี้หันมามองผมเหมือนจะถาม ผมนิ่งไปวูบหนึ่ง แล้วก็ตัดสินใจรับเอาโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูแล้วพูดทักทาย ส่วนโบกี้นั้นขยับขึ้นมากอดคลอเคลียกับผมไม่ห่าง
“สวัสดีครับ”
“ฝากดูแลโบกี้แทนด้วยนะ ขอโทษด้วยที่ไปจีบแฟนของนายเข้า”
“… เอ่อ … ครับ”
แฟนโบกี้พูดหล่อยิ่งกว่าพระเอกในหนัง ผมถึงขึ้นทำตัวไม่ถูก ยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกผิดจนหดหู่ ยังดีที่ตอนนี้มีโบกี้คลอเคลียอยู่ด้านข้าง ไม่งั้นผมคงสำนึกผิดจนต้องวิ่งเอาหัวไปกระแทกพื้นตายแล้ว
“ต่อจากนี้รับรองได้ว่าจะไม่ไปกวนโบกี้อีก แต่ขออะไรสักอย่างได้หรือเปล่า”
“ครับอยากได้อะไร บอกมาเลย”
ผมรีบตอบรับด้วยน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจ ผมรู้ตัวว่าผมเป็นคนผิดมาตั้งแต่ต้น พอมารู้ว่าแฟนของโบกี้ดูเป็นคนดีแบบนี้ ผมก็ยิ่งอยากชดเชยให้เท่าที่จะทำได้
“... อย่าเพิ่งวางสายนะ ขอฟังเสียงครางเพราะ ๆ ของโบกี้อีกสักรอบได้หรือเปล่า”
แฟนของโบกี้นิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงเขิน ๆ ผมเลยชะงักหันไปมองหน้าโบกี้ ก่อนนี้ผมเพิ่งรู้สึกว่าแฟนโบกี้เป็นพระเอก เป็นสุดยอดสุภาพบุรุษ แต่พอฟังประโยคหลังสุดทำให้ผมรู้สึกว่าแฟนโบกี้ก็หื่นเหมือนกับผมนี่แหละ ไม่ได้ต่างกันเลยสักนิด
ผมไม่อยากขัดคำขอของแฟนเธอ ผมเลยชวนเธอไปเข้าห้องนอน ผมจัดการขย่มจนโบกี้เสร็จไปอีกหนึ่งรอบ แล้วผมก็ได้ยินเสียงครางเหมือนแฟนโบกี้ชักว่าวจนเสร็จไปด้วย จากนั้นผมก็กล่าวลากับแฟนของเธอแล้ววางสายแบบงง ๆ
ตอนนี้โบกี้นอนสลบเหมือดไปแล้ว ส่วนผมเองก็กำลังนอนพักเหนื่อยอยู่ข้างเธอบนเตียงนอนของเธอ ในห้องพักของเธอ ผมรู้สึกเหนื่อยจนทนไม่ไหว แต่ก็ยังหลับตาไม่ลง
ก่อนนี้ผมเปิดซิงโบกี้อย่างสนุกสนานด้วยความคึกคะนองและหื่นกาม แต่พอผมได้ปลดปล่อยจนน้ำหมดตัว ผมก็เริ่มรู้สึกผิด ผมรู้สึกผิดที่ทำร้ายผู้หญิงดี ๆ อย่างโบกี้ ผมรู้สึกผิดที่ไปแย่งเธอมาจากคนดี ๆ แบบพี่โต๋ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องราวมันก็ผ่านไปแล้ว ผมกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้
ตอนนี้ผมกำลังสงสัยว่าผมควรจะทำยังไงต่อไป ทางเลือกแรกก็คือวัดกันให้รู้ไปเลย ผมจะนอนกอดกับโบกี้จนเช้า รอให้เธอตื่น แล้วอธิบายให้เธอฟัง พร้อมกับแสดงตัวว่าจะรับผิดชอบทุกอย่าง
ทางเลือกที่สองคือเก็บกวาดทำลายหลักฐานให้หมด ผมจะช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวทำความสะอาดร่างกายของเธอ รวมไปถึงบนโซฟาและบนเตียง แล้วผมก็จะจากไปเงียบ ๆ ในแบบที่พอเธอตื่นขึ้นมาก็จะงงว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง
ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำแบบไหนล่ะ