หวัดดีจ้าคุณซีดีเลขคี่

จิ๋วยังไม่เก่งนะ ออกตัวก่อน ยังอยู่ระหว่างฝึกหัด (แต่ไม่ค่อยมีเวลาฝึกเลยช่วงนี้ งาน + เกมส์ ชุลมุน
จนไม่รู้คนอ่าน จะงอลไหม แหะ ๆ)
แวะมาบอกว่า จุดเริ่มต้นที่มาเขียนเพราะความชอบ และอยากลองลงมือเขียนมานานแล้ว
แต่ไม่เคยกล้าสักที พอลงมือเขียนก็ยิ่งรู้ว่า เออ มันยากจริงแหะ..... แต่ก็นะ ค่อย ๆ เล่า
ถ้าสังเกตุจะเห็นว่า จิ๋วเล่า ภาษาพูดมาก ไม่ค่อยจะเป็นภาษาเขียนด้วยซ้ำ แต่ว่ามันก็โอเคนะ
คนอ่านเก็ท เข้าใจ และไหลไปได้เรื่อย ๆ
เวลาเขียน จิ๋วจะมีเค้าโครงเรื่อง (พล็อตเรื่อง) ไว้ในใจ ว่าตอนนี้จะเล่าเรื่องอะไร
แล้วก็พิมพ์ไปเรื่อย ๆ มีบางครั้งเหมือนกันที่ทรยศตัวเอง คือตั้งใจไว้อย่างนึง
แต่บทพาออกไปเจอทางออกอีกทางหนึ่งจนไกลกว่า ที่ตั้งใจไว้ก็มี (แต่รุ่นพี่บอกว่า อย่างนี้ไม่ดี
เอิ๊ก ๆ ส่งครูคงโดนหักคะแนน โทษฐานไม่ทำตามแผน 55555 แต่ออกนอกแผนมันหนุกกว่านิ๊นา อิอิ)
เรื่องส่วนใหญ่ อ่าน + แก้ +อ่านซ้ำใหม่ ไม่ต่ำกว่า 20 รอบต่อต่อน อ่านจนกว่าตัวเองจะพอใจว่า
เออ เนียน เออ ไม่สะดุด แต่ถ้าติด ก็จะไม่เร่งรัดตัวเอง ไปทำอย่างอื่น หรือ ไปผ่อนคลาย
แล้วค่อยกลับมาใหม่ ตอนสมองโล่ง ๆ หน่อย จะดีกว่า ส่วนอารมณ์ เกี่ยวอย่างแรง ไม่มีอารมณ์
ก็เขียนไม่ออก (โดยเฉพาะเวลาเคือง งอลตาพัดลม ต้องไปยิงมอนสเตอร์ให้ไส้ทะลักจนพอใจก่อน
ค่อยเขียนต่อ)
จิ๋วคิดว่า ความสำคัญของการเขียนคือ ต้องไม่ลืมว่า เราทำไปทำไม
ทำเพราะสนุก ถ้าเขียนแล้วติดไม่สนุก ก็หยุด นึกสนุกค่อยมาเขียนต่อใหม่
ไม่ใช่การบ้าน ไม่ใช่รายงาน ที่ต้องเร่งส่ง เร่งจบ สบาย ๆ แล้วค่อยว่ากันไป
แต่ถ้าถึงเวลาที่อารมณ์มา ไอเดียมา ก็ต้องรีบจ้วงเลย อย่าช้า ไม่งั้นจะลืม 55555
จิ๋วจะมีจดพล็อตไว้ในมือถือด้วย กันลืม (กลัวอัลไซเมอร์อยู่เหมือนกัน)
วันนี้นึกได้เท่านี้ วันหน้านึกไรได้อีกจะมาบอกเพิ่มละกันนะ
ขอให้สนุกกับการเขียนค่ะ มันเป็นทักษะที่ฝึกแล้ว เป็นแล้ว จะติดตัวไปจนตาย
เหมือนขี่จักรยานเลยหล่ะ....

เชื่อพี่ไอ้น้อง อิอิ
ปล. ถ้าเขียนบทธรรมดาไม่ค่อยออก ให้เขียนทีละประโยค บรรทัดละประโยค
แล้วค่อยจับมันมารวมกันทีหลัง อ่านซ้ำว่า งงไหม รู้เรื่องไหม ค่อย ๆ ไป
ทีละประโยค จนรวมเป็นย่อหน้า ทีละย่อหน้า ก็จะรวมได้หลายหน้าเองจ้า