คุยกันก่อน จากตอนเก่าเอามาคุยกันพิศวาสมังกรหยก 7 ตอน ยอดพลังดูดดาว แวะเข้ามาครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่ชื่นชอบและให้กำลังใจครับ
และขอบคุณ คุณ areja ด้วยที่ช่วยนำผลงานมาลงไว้
และขอยืนยันว่าเป็นผู้อนุญาคิให้คุณ areja นำผลงานมาลงได้จริง
แต่เดิมเรื่องนี้เคยคิดว่าจะแต่งให้กับบอร์ดครอบครัวเพราะมีเนื้อหาเกี่ยวกับครอบครัว
จึงไม่อยากให้หลุด แต่ส่วนใหญ่ว่ารับได้ จึงตัดสินใจให้นำมาเผยแพร่ได้
( จริงๆมันก็หลุดออกมานานแล้ว ก็ไม่เคยหวงอะไรครับ
หากมีเวลาจะเข้ามาคุยใหม่ครับ )
เดชคัมภีร์นางฟ้า( คัมภีร์มังกรหยก ) 4 ตอน กำเนิดตัมภีร์นางฟ้าพล็อตยอดนิยมจากหนังจีนครับ อาจบังเอิญเยอะ
พระเอกตกเขา ต้องไปเจออาจารย์ หรือไม่ก็ตัมภีร์ หรือของวิเศษที่จำเพาะเจาะจง
ต้องเป็นช่วงเวลานั้นพอดีเป๊ะ และอาจารย์ที่เป็นสุดยอดฝีมือส่วนใหญ่ชอบสร้างบ้าน
ในหุบเขามืดๆ บางทีก็ถูกขังในรั้วไม้ไผ่ผุๆ ไม่มีปัญญาหนีออกมาได้ แทนที่จะไปสร้างบ้านบนภูเขาเพื่อชมทิวทัศน์
เตียบ่อกี้ตกเขา เจอคัมภีร์เก้าเอี๊ยงในตัวลิงยักษ์ รักษาพิษไอเย็นของมารดำขาว.. เข้าห้องลับของเม้งก่า ฝึกวิชาเคลื่อนย้ายจักรวาล ถึงขั้นเจ็ด
เซียวเล่งนึ่งก๋กระโดดหน้าผาในมังกรหยกภาคสองก็ไม่เป็นไร แถมได้พบเอี้ยก๊วยอีก 18 ปีต่อมา ที่โดดหน้าผาตามลงมา
ให้ผู้ร้ายได้ตกเขาแล้วมีวาสนามั่ง อย่าว่ากัน เอาฮาครับ 5555
ในKill Billภาคหลัง นางเอกปีนเขา(บันได)ขึ้นไปหานักพรตไป่เม่ย
แสดงว่า ถ้าอยากเจอจอมยุทธแบบตั้งใจไปเจอ จะต้องปีนเขาไปหา
แต่ถ้าอยากให้จอมยุทธ์มาเจอโดยบังเอิญ ให้ไปโดดเขาลงเหวซะ
เรื่องตกเขาแล้วมีปาฎิหารย์คงมีแต่ในหนัง อย่าไปทำมั่ง ได้ม่องเท่งอย่างเดียว
COBRA......................................................................
(แว่น คัดเอามาจากสำนวนต้นฉบับเลยจึงมีข้อความท่านครบถ้วนสมบูรณ์ เรื่องนี้ลงบอร์ดบ้านเมื่อ สิงหาคม 29,2016,11:58:54 PM )แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เจ็ดตัวประหลาดกังหน่ำ "
กรี้ด ...มีผู้ชาย...มีคนร้าย..ช่วยด้วย "
เจ้ากังปังต้องสดุงตื่นขึ้น เมื่อได้ยินเสียงร้อง จึงพบตัวมันนอนเป็นขีเปลือยอยู่บนแท่นวางโลงแก้วแต่เพียงผู้เดียว แล้วศพของอึ้งย้ง ไปไหนแล้ว หรือ ข้าฝันไป มันจึงรีบลุกขึ้นลนลานใส่เสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว ผลุนผลันออกมานอกสุสานก็พบเห็นผู้คนมากมายยืนอยู่ด้านนอก
“
นั้นไง คนนี้แหละที่นอนอยู่ในโลงข้างใน อุบาทว์แท้ ” นางชีน้อยพูดพร้อมกับเอามือปิดตาร้องยี้ อย่างขยะแขยง
สาเหตุมาจากบรรดาเพื่อนนางชีที่เข้าเวรดูแลสุสาน สั่งให้นางชีน้อยผู้นี้กลับไปเก็บอุปกรณ์และปิดประตูสุสานที่ลืมเปิดไว้ พอนางกลับมาเห็นเจ้ากังปังนอนเปลือยกาย อวดอวัยวะเพศ เข้าเต็มตา ความที่เป็นดรุณีแรกรุ่นที่เห็นของผู้ชายเป็นครั้งแรก เลยตกใจส่งเสียงร้องวิ่งหนีออกไป ร้องบอกให้คนมาช่วย
” ห
ยุดก่อน เจ้าเป็นใครกัน เข้าไปทำอะไรในสุสานบรรพชนง่อไบ๊ “
กังปังกำลังงุนงงอยู่เช่นกัน ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องราวอะไรกันแน่ กำลังคิดปะติดปะต่อ
“
ชิงเอ๋อ ลองเล่าอีกทีว่าเจ้าพบเห็นอะไร ”
“.เออ...ข้าเห็นไอ้นั่นของมัน น่าเกลียดยิ่ง..”
“
ช่างเหลวไหล ข้าให้เจ้าเล่าเหตุการณ์ “
นางชีชิงเอ๋อ เลยพยายามรวบรวมเหตุการณ์ ว่า
“ ข้ากับ
ซุ่ยเม่ย ,เออลี่ เข้าไปทำความสะอาดท่านอาจารย์ย่าทวดอึ้งย้ง แต่เกิดฝนตกหนักเลยกลับมาหลบฝนที่ห้องพักกันก่อน พอฝนหยุดข้าจึงกลับมาดูที่สุสานอีกที จึงพบคนผู้นี้นอนอยู่บนโลงของท่านอาจารย์ย่าทวดอึ้งย้งแต่ไม่ทราบว่าตอนนี้ศพท่านย่าทวดมันเอาไปซ่อนที่ใด เรื่องเป็นเช่นนี้แหละ
ซือเจ๊หว่านชิง ”
นางชีหว่านชิงพอฟังจบจึงหันกลับไปพูดกับกังปังต่อ
“ เจ้าเข้ามาขโมยศพอาจารย์อึ้งย้งไปไว้ที่ใด "
เจ้ากังปังมองดูแม่ชีหว่านชิง รูปร่างหน้าตาสะสวย ขนาดโกนหัวเหน่งยังดูสคราญตา จึงเกิดความเสน่หาตามสันดานเจ้าชู้ของมัน
“ ใจเย็น แม่ชีโฉมงาม ข้าไม่ได้เป็นขโมยอย่างที่ท่านคิด "
“
แล้วเจ้าเข้าไปทำอะไรในสุสานนั้น ”
เจ้ากังปัง กลืนน้ำลายเอื้อก เพราะไม่อาจบอกความจริงได้จะยิ่งไปกันใหญ่
“ เออ..ข้าเพียงแต่เข้าไปหลบฝนชั่วคราว ”
“ ข้าต้องขอคุมตัวไปสอบสวนแล้ว ”
กังปังไม่อาจให้เกิดการจับกุมสอบสวนมันได้ เพราะหากความจริงปรากฎว่าสาเหตุที่ศพอึ้งย้งอันตรธานหายไป
มาจากความบัดสีของมัน พวกง่อไบ๊ต้องเอามันตายแน่จึงเล่นลิ้นตอบไปว่า
“ วันนี้ข้าไม่สะดวก แต่หากท่านต้องการพบปะสนทนาใดกับข้า เราสามารถนัดหมายพบกันเป็นการส่วนตัวจะสะดวกจะดียิ่ง "
" ฮึ...ซิ.." แม่นางชีหว่านชิงส่งสียงขึ้นจมูก
แลเห็นแววตาเจ้ากังปังเป็นประกายส่อแววกรุ้มกริ่มน่าชิงชังรังเกียจนัก ก่อนนางออกบวชก็เพราะมีคนรักที่เจ้าชู้หลายใจ จึงเกลียดคนชนิดนี้ วันนี้กลับมาเจอเจ้ากังปังพูดจาทำนองเกรี้ยวพาราศรี ทั้งๆที่นางเป็นบรรพชิตจึงยิ่งรังเกียจยิ่ง
“ รบกวน
อากอ(
พี่ )
เซิง กับ
กอเต๋า ช่วยคุมตัวมันไปที่ห้องโถงเถอะ ”
อาเต๋า กับอาเซิง คือคนงานที่มีหน้าที่ดูแลสวนแปลงผักของสำนักง่อไบ๋ ในบางเรื่องที่ต้องใช้แรงงานและซ่อมแซมสถานที่ ทางง่อไบ๊จึงได้จ้างบุรุษมาทำงาน อาเต๋ากับอาเซิงมีรูปร่างอ้วนใหญ่ในมือท่อนเหล็กใหญ่อยู่คนละท่อน พอได้ยินแม่ชีชิงเอ๋อสั่งการก็ไม่รอช้า ตรงรี่เข้าหาเจ้ากังปังทันที กะว่าหากมันขัดขืนจะเอาตะบองฟาดให้เข็ดหลาบ
เจ้ากังปังเห็นสองคนนั้นตรงเข้ามาดูท่าจะไม่ดีแน่ จึงส่งเสียง
“
ข้าบอกแล้วไง ว่ายินดีจะไปพบกับท่านวันอื่นเป็นการส่วนตัว "
“
หนอย ปากดีนักต้องเจอท่อนเหล็กสักหน่อย กล้าพูดจาสามหาวล่วงเกินซือเจ๊ของเรา ”
อาเต๋าพูดขึ้นพร้อมกับเอามือคว้าไปจับแขนกังปัง แต่กังปังกลับพลิกมือตวัดกลับอย่างพิสดาร อาเต๋างุนงงเห็นกังปังขัดขืนเลยเงื้อท่อนเหล็กตะบองขึ้นหมายฟาดไปที่ตัวเจ้ากังปังเป็นการสั่งสอน หากเป็นก่อนหน้าเจ้ากังปังเป็นต้องเจ็บตัวแน่ แต่ตอนนี้มันก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน มันกลับยกมือขึ้นโบกปัดตามสัญชาติญาณ
อาเต๋าก็งงที่เงื้อท่อนตะบองที่ฟาดลงไปบนตัวเจ้ากังปังแท้ๆกลับเปลี่ยนไปฟาดที่ตัวอาเซิงที่อยู่ด้านข้างแทนจนร้องโอยออกมา
“
เจ้าตาถั่วมาตีข้าทำไม ”
“
ข้าไม่ได้ตั้งใจ จะตีเจ้านั่นตะหาก ”
อาเซิงไม่ยอมเจ็บตัวฟรี จึงยกตะบองจะขึ้นฟาดเจ้ากังปังมั่ง แต่กลับไปตีถูกอาเต๋าแทนเช่นกัน
“
อ้าวแล้วเจ้าทำไมมาตีข้า ”
“
ข้าเปล่า งั้นเราไปตีมันพร้อมๆกัน "
ทั้งคู่จึงยกตะบองหมายตีไปที่ร่างเจ้ากังปัง กังปังโบกมือสบัดอีกหน กลายเป็นทั้งคู่เอาตะบองตีหัวกันเอง
ทั้งคู่เลยล้มไปนอนส่งเสียงร้องโอดโอย แม่ชีหว่านชิงเห็นดังนั้นต้องตกใจ มองไม่ออกว่าเจ้ากังปังใช้กระบวนท่าใดจึงทำเช่นนั้นได้
ไม่เพียงแต่แม่ชีหว่านชิงเท่านั้นแม้แต่เจ้ากังปังเองก็ยังประหลาดใจว่า
“ จริงๆข้าเป็นคนเก่งอย่างนี้เชียวหรือ ความจำเสื่อมเลยไม่รู้มาก่อน ”
พอได้ลงมือต่อสู้มันจึงพบว่าตัวมันเองมีวิชาฝีมืออยู่หลากหลาย ที่ใช้เมื่อสักครู่ เป็นวิชาฝ่ามือมายากลของ
จูชง ฉายามือวิเศษ (
หนึ่งในเจ็ดตัวประหลาดกังหนำ )ซึ่งเป็นอาจารย์ดั้งเดิมคนหนึ่งของก๊วยเจ๋ง ก่อนที่จะมาพบกับอั้งชิงกง ประมุขพรรคกระยาจก
“
เจ้ากล้าทำร้ายคนของสำนักเรา น้องเซี่ยวหลิง มาช่วยกันเถอะ ชิงเอ๋อไปตามอาจารย์มา ”
“
คะ ”
เซี่ยวหลิงที่อยู่ด้านช้างชักกระบี่ออกมาสมทบกับแม่ชีว่านชิงทันที ทั้งคู่ต่างเป็นศิษย์เอกของ
แม่ชีตันหยง รองเจ้าสำนักง่อไบ๊ แม่ชีตันหยงแม้เป็นรองเจ้าสำนักก็จริง แต่นับเป็นผู้ที่มีวรยุทธสูงกว่า
แม่ชีอุงหลิง ทีเป็นเจ้าสำนักเสียอีก แต่
อาจารย์เฒ่าเซี่ยงจื้อเหนียง ซึ่งเป็นเจ้าสำนักคนก่อนกลับแต่งตั้งแม่ชีอุงหลิงแทน จึงสร้างปมขัดแย้งการเมืองชิงเด่นกันระหว่างศิษย์ของเจ้าสำนักและรองเจ้าสำนักขึ้น
เมื่อทั้งว่านชิงและเซี่ยวหลิงต่างออกโรง จึงทำให้แม่ชีทางสายเจ้าสำนักอุงหลิงยืนชมดูไม่สอดมือมายุ่งเกี่ยว
กังปังสัมผัสถึงพลังการต่อสู้ที่ออกมาทั้งสองเห็นท่าไม่ดีแน่ เลยก้มลงหยิบท่อนเหล็กที่อาเต๋าทำตกไว้มาถือในมือ
ทดลองกวัดแกว่งดู ท่อนเหล็กแม้หนาและหนักเมื่ออยู่ในมือของกังปังกลับกวัดแกว่งอย่างแคล่วคล่องด้วยกำลังภายในสูงที่มีในตัวมัน ส่งเสียงหวือหวา
“
ดีละในเมื่อเจ้าก็มีอาวุธเช่นกัน ก็ไม่ถือว่าเอาเปรียบแล้ว กระบี่คุณธรรมง่อไบ๊ ”
แม่ชีว่านชิงพูดเพื่อส่งสัญญาณให้แม่ฃีเซี่ยวหลิงทราบถึงเพลงกระบี่ที่จะใช้สยบคู่ต่อสู้ แม่ชีว่านชิงแทงกระบี่ตรงเข้าหากังปังอย่างรวดเร็วปานฟ้าแลบ กังปังจึงใช้ท่อนเหล็กปัดออก ท่อนเหล็กทั้งใหญ่และหนัก จึงทำให้มันคิดไปถึงมือกระบี่หญิงแห่งแคว้น(
อ้วก )
หันเสียวหยง ที่ใช้ดาบพม่าที่ทั้งหนาและหนัก(
หนึ่งในเจ็ดตัวประหลาดกังหน่ำ )
ซึ่งแต่เดิมก๊วยเจ๋ง ฝึกวิชาหลากหลายมาจากทั้งเจ็ดตัวประหลาดเพื่อใช้ประลองยุทธกับเอี้ยคังตามนัดหมาย
เดิมก๊วยเจ๋งเป็นคนโง่เขลาเลยฝึกวิชาจากเจ็ดประหลาดกังหน่ำได้นิดหน่อย(
หาอ่านเอาจากมังกรหยกภาคแรก )
ในตอนนี้กังปังได้มีพลังวรยุทธสูง แม้วิชาสามัญธรรมดาเมื่อถูกใช้ออกจากยอดฝีมือก็กลายเป็นวิชาสุดยอดไปแล้ว
เพลงกระบี่คุณธรรมแห่งง่อไบ๊ ถูกบัญญัติโดยปรมาจารย์ก๊วยเซียงที่ก่อตั้งง่อไบ๊ มีความล้ำลึกเหลือคณา
แต่ละท่ามีความว่องไว เต็มไปด้วยกระบวนท่าล่อหลอก ด้วยไม่มีเจตนาจะหมายชีวิตฝ่ายตรงข้ามแต่ต้องการให้อีกฝ่ายตกสู่หลุมพรางและจำนน จึงได้ชื่อว่า
กระบี่คุณธรรม กังปังปัดกระบี่ของว่านชิงออกได้ก้าวหลบมาด้านข้างตามสัญชาติญาณ จึงพบว่าเป็นกระบวนท่าหลอก กระบี่ของเซี่ยวหลิงที่สอดประสานเข้ามาบีบให้กังปังต้องถลันหลบไปด้านหลังตามกับดักของกระบวนท่ากระบี่ที่วางไว้ ทั้งคู่สมเป็นยอดฝีมือชั้นแนวหน้าของสำนักง่อไบ๊ต่างลงมือสอดรับประสานโดยไร้ที่ติ
หากเป็นยอดฝีมือธรรมดาเมื่อเจอกับเพลงกระบี่คุณธรรมนี้ต้องทิ้งกระบี่ยอมแพ้ไม่เกินสามกระบวนท่าแล้ว กังปังต้องหงายตัวหลบอีกครั้งเมื่อว่านชิงตวัดกระบี่จู่โจมเข้ามา ตามกระบวนท่ากระบี่ที่บีบให้ทำเช่นนั้น อีกหนที่เซี่ยวหลิงก็ดักทางเข้ามาได้ถูกตวัดกระบี่ใส่ข้อมือกังปัง จนต้องยอมทิ้งท่อนเหล็กในมือออกเพื่อรักษามือไว้ ตีหลังกาถอยหลังไปคุกเข่าข้างหนึ่งกึ่งยืนข้างหนึ่ง
ว่านชิงยิ้มตรงมุมปากคิดว่าสยบกังปังได้โดยง่ายแล้วกระบวนท่าสุดท้ายที่ทั้งคู่จะใช้คือเอากระบี่ไปจ่อลำคอของคู่ต่อสู้ให้ยอมจำนน กังปังกลับรู้สึกถึงอันตรายที่กำลังเข้ามาด้วยว่านชิงรู้สึกชิงชังในตัวกังปังหมายจะแทงมันสักแผล มันเลยเอาสองมือประกบส้นมือทั้งสองเข้าหาตัวแล้วดันไปเบื้องหน้าตามสัญชาติญาณ เกิดคลื่นพลังฝ่ามือออกไป ส่งเสียงดัง
ครืนนน..น ก้องไปทั่วนภา ราวกับเสียงคำรามของมังกร ตามกระบวนท่าที่ใช้จริงๆ
ว่านชิงและเซี่ยวหลิงที่กำลังเข้ามาพิชิตชัย ต่างต้องถลันหลบออกไปอย่างว่องไวเพื่อไม่ให้ได้รับอันตราย สมกับเป็นยอดฝีมือเช่นกัน
“
หา...ฝ่ามือมังกรคำราม ”
เป็นเสียงของรองเจ้าสำนักตันหยง ที่เดินทางมาถึง เจ้ากังปังมองไปตามเสียง ตอนนี้ที่บริเวณโดยรอบกลับเต็มไปด้วยผู้คนที่มากมายเต็มไปทั่ว แทบจะเรียกได้ว่าผู้คนทั้งสำนักง่อไบ๊มาอยู่ในบริเวณโดยรอบสุสานเต็มไปหมดกระมัง
“
คาราวะท่านอาจารย์ คาราวะท่ารองเจ้าสำนัก ”
ทุกคนในที่นั้นต่างยกมือคำนับแม่ชีตันหยง จนนางต้องโบกมือ
“
ตอนนี้ไม่ใช่เวลาต้องมากความ เจ้าเป็นใครในพรรคกระยาจก ”
ประโยคหลังรองเจ้าสำนักตันหยงกล่าวกับกังปัง
“
พรรคกระยาจกอันใด ข้าไม่เข้าใจ ”
“
ก็ฝ่ามือที่เจ้าใช้เมื่อสักครู่ มันคือ กระบวนท่ามังกรคำราม หนึ่งในสิบแปดฝ่ามือสยบมังกรชัดๆ ยังกล้าปฎิเสธอีก ”
สิบแปดฝ่ามือสยบมังกร คือวิชาฝ่ามือที่ข้าใช้งั้นหรือ แบบนี้หรือ เจ้ากังปังครุ่นคิดพร้อมกับร่ายรำกระบวนท่าสิบแปดฝ่ามือสยบมังกรออกกมาตามความทรงจำที่ปรากฎขึ้น
“
เจ้าคนนี้ดูท่าเป็นคนเสียสติหรือไง ”
แม่ชีตันหยงรำพึงแล้วจึงหันไปกล่าวกับศิษย์ง่อไบ็ทุกคน
“
เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ พวกเจ้าอย่ามัวแต่เล่นการเมืองกัน ต้องร่วมมือกันทุกคน ”
“ ใครเป็นเวรยามกันทำไมปล่อยปละละเลย ให้คนผู้นี้ขึ้นเขามาได้ยังไงโดยไม่มีการแจ้งเตือน ต้องเอาโทษให้หนักหลังจบเรื่อง "
คำพูดนี้เหมือนพูดจี้ตำหนิไปยัง
ศิษย์ฝ่ายเจ้าสำนักอุงหลิง ที่ต่างมีหน้าที่เป็นเวรยามในวันนี้ ทุกคนต่างหน้าเสีย ไม่ใช่ว่าทุกคนบกพร่องต่อหน้าที่เพราะกังปังขึ้นเขามาได้โดยสายลมพิสดารจึงไม่ผ่านเวรยามใด
“
ชิงเม่ย ซุนเอ๋อ เออลี่ เจ้าทั้งสามก็ต้องโดนลงโทษหนักเช่นกัน ตอนนี้พวกเจ้าต้องช่วยกันอย่าทำเป็นเล่นเพราะเป็นเรื่องใหญ่ "
“
คะ ”
"
พวกเจ้าพาอาเต๋า อาเซิง และคนงานเข้าไปค้นในสุสานใหม่ ควบคุมค้นให้ละเอียดว่า ศพอาจารย์ทวดอึ้งย้งอยู่ที่ใด ศพทั้งคนจะหายไปได้อย่างไร และตรวจสอบดูว่ามีอะไรหายไปอีก ไปจัดการโดยด่วน "
“
คะ ” ทั้งสามรับคำรีบไปดำเนินการโดยด่วน
รองเจ้าสำนักสั่งการเด็ดขาดรวดเร็ว ศิษย์ง่อไบ๊ล้วนเกรงในความเข้มงวดของนางต่างเงียบงัน
“ เจ้าเลิกทำบ้าๆบอๆได้แล้ว ”
แม่ชีตันหยงหันไปตวาดใส่กังปังที่กำลังซ้อมร่ายรำสิบแปดฝ่ามือสยบมังกรอยู่ พลางล้วงมือเข้าไปในอกเสื้อ
ชูป้ายหยกสัญลักษณ์ของง่อไบ๊ขึ้น
"
ข้าขอสั่งการตามอำนาจป้ายประกาศิตนี้ ให้ศิษย์ง่อไบ๊ทุกคนตั้งค่ายกลกระบี่ง่อไบ๊ "
สิ้นเสียงคำสั่งนาง แม่ชีทั้งสำนักง่อไบ๊ที่อยู่รอบบริเวณ ต่างชักกระบี่ วิ่งกันครึกคัก เป็นวงล้อมกังปังไว้แน่นหนา
ประจำตำแหน่งพรึ่บพั่บ ราวกับกำแพงศาสตรวุธที่เป็นระเบียบแข็งแรงยากที่ใครจะหลบหนีออกไปได้
เรื่องยาวแล้วกังปังเอย เล่นมากันทั้งสำนัก แถมรองเจ้าสำนักที่วรยุทธสูงสุดในง่อไบ๊ ควบคุมค่ายกลกระบี่ด้วยตนเองเช่นนี้
จะทำยังไงละ คงต้องติดตามต่อไปแล้วมั่ง ในตอนหน้า ค่ายกลกระบี่ง่อไบ๊ จะมีความล้ำลึกแค่ไหน กังปังจะรอดไหม
โปรดติดตามตอนต่ไป...
อันนี้แถม....................................................
หอคัมภีร์ ผลงานของ คุณ Cobraพิศวาสมังกรหยก1 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
2 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
3 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
4 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
5 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
6 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
7 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
8 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
9 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
9 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เดชคัมภีร์นางฟ้า(
คัมภีร์มังกรหยก )
1 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
2 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
3 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
4 :
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
......................................
( แว่นได้นำลงให้ คุณ cobra ตามคำอนุญาตโดยตรงที่จะแบ่งปันสมาชิกใน บอร์ด two-hitchhikers.ru.
แว่น เลยคัดสำเนาต้นฉบับมาลงชนิดไม่มีเล็ดแม้ตัวอักษรเพื่อเป็นเกียรติ์แก่เจ้าของผลงานผู้อนุญาต และไว้ใจให้ดูแลผลงานท่าน
15/9/2559 )