ทางเดินที่เลือก 1 | two-hitchhikers.ru

ทางเดินที่เลือก 1

  • 29 ตอบ
  • 8039 อ่าน
*

ออนไลน์ twintower

  • Junior Member
  • ***
  • 255
  • 2990
    • ดูรายละเอียด
ทางเดินที่เลือก 1
« เมื่อ: มกราคม 04, 2017, 03:14:21 pm »
***จากผู้เขียน***

นำเรื่องมาคั่นกลาง เรื่องราคะ ตัณหา ความใคร่ องก์ที่3ตอนจบนะครับ แต่ขอบอกก่อนว่าเรื่องนี้เนื้อหาอาจจะหนักไปนิดไม่ใช่แนวหวานๆแบบที่ผ่านมา และถ้าใครอยากจะอ่านเนื้อหาที่อิโรติคเยอะๆ ขอให้ข้ามไปได้เลยครับ เพราะเรื่องนี้มีบทอิโรติคน้อยมาก และใช้คำบรรยายแบบเบาๆครับ  จะได้ไม่มา comment กันภายหลังว่าบทอย่างว่าน้อยไป ไม่สะใจ เลยบอกไว้ก่อนว่า ถ้าอยากอ่านแนวอิโรติคเยอะๆให้ผ่านเรื่องนี้ไปเลยครับจะได้ไม่มาบ่นภายหลังครับ ผมบอกไว้ก่อน

ขอบคุณที่ติดตามผลงานครับ

****Twin Tower ****

เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะทำงานดังขึ้น เจ้าของโต๊ะที่นั่งทำงานอยู่นั้นรีบรับทันที

“สวัสดีค่ะ “

เจ้าของเสียงหวานนั่งฟังคู่สนทนาทางโทรศัพท์ที่พูดมาค่อนข้างยาวก่อนที่เธอจะพูดปิดท้ายว่า

“ไม่เป็นไรค่ะพี่สิน  คะๆๆยินดีคะ”

พอเธอวางสายเธอเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าสะพายก่อนจะหยิบกระเป๋าสะพายลุกขึ้นพร้อมกับมีเสียงทักจากผู้หญิงอีกคนที่กำลังเดินเข้ามาในห้องทำงาน

“อ้าวจะไปแล้วหรือ”

“ค่ะพี่ใจ กว่าจะเข้ามาคงบ่ายๆคะ”

“แล้วไปยังไงละ “

หญิงสาวตอบหัวหน้าเธอไปว่า

“เอารถมี่ไปค่ะ รถที่การตลาดใช้ประจำเข้าศูนย์พอดี รถตู้บริษัทก็คิวเต็ม พี่สินพึ่งโทรมาบอก”

“อ้าวไหงงั้นละ”

“ไม่เป็นไรค่ะพี่สินขอโทษขอโพยใหญ่จนมี่เกรงใจ  แกบอกให้เบิกค่าน้ำตามไมล์เลทคะกลับมาทางการตลาดจะเบิกให้ทันที”

“อ้อก็ดีแล้วมี่ แล้วมี่ไปกลับใคร คุณสินไปเองหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะพี่พี่สินให้ไปกับคุณกริชที่เป็นผู้ช่วยพี่สินไปนะค่ะ”

“อ๊ายน่าอิจฉาไปกับใครไม่ไปได้ ไปกับหนุ่มหล่อของที่นี่”

“โธ่พี่ มี่ทำงานมาเกือบ 5 เดือน  แทบไม่ได้คุยกับคุณกริชเลย  เจอหน้ายิ้มให้กันอย่างเดียว”

“ไปเหอะพี่ได้ข่าวว่าที่ปรึกษาบริษัทนั้นเป็นคนฝรั่งเศสสนิทกับกริชมากน่าจะคุยง่าย อีกอย่างพี่รับรองว่าไปกับกริช ที่สบายใจได้”

“ทำไมหรือคะพี่”

ใจที่เป็นผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ตอบลูกน้องสาวสวยที่จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยดังของสหรัฐฯที่มาทำหน้าที่เป็นหัวหน้าแผนกลูกค้าสัมพันธ์และดูแลทางด้าน CRM(Customer Relationship Management) โดยตรงไปว่า

“กริชเป็นคนนิสัยดี  อัธยาศัยดี  ไม่ขี้หลีพี่รับรอง  แล้วไปเจอกันที่ไหนละ”

“หน้าลิฟท์คะ พี่สินบอกว่าคุณกริชไปรอแล้ว ไปก่อนนะคะพี่บ่ายๆมา”

“จ๊ะขับรถดีๆละ”

มี่ยิ้มให้กับหัวหน้าแล้วเดินไปที่ลิฟท์ เธอได้เห็นผู้ชายคนที่จะไปกับเธอวันนี้ยืนคุยกับเลขาของ  CEO อยู่  พอเธอเดินเข้าไปใกล้ทั้งคู่หันมายิ้มให้กับมี่และเลขาได้ทักขึ้นมาก่อน

“คุณมี่ไม่ต้องกังวลว่าหลงนะ  ไปกับคนที่ชำนาญทางกริชไปที่โรงงานนั้นบ่อย”

“ค่ะคุณตุ๊กตา  มี่ก็ว่าอย่างนั้น”

กริชกดปุ่มเพื่อเรียกลิฟท์ก่อนจะหันหน้ามาบอกกับตุ๊กตาว่า

“ไปก่อน นะตา กลับมาค่อยว่ากันอีกที”

ตุ๊กตาพยักหน้าก่อนหันมายิ้มให้มี่แล้วบอกขอตัวไปทำงาน  กริชหันมายิ้มให้มี่อีกครั้ง  ทั้งคู่เข้าลิฟท์แล้วลงไปที่ลานจอดระหว่างทางที่มี่เดินนำที่รถของเธอ  มี่ได้หันมาบอกว่ากริชว่า

“คุณกริชจะว่าอะไรไหมถ้ามี่จะรบกวนให้คุณกริชขับรถให้ เพราะทางไปโรงงานลูกค้าที่นครปฐมมี่ไม่รู้ทางนะคะ”

“ยินดีสิครับ  แค่เอารถคุณมี่มาใช้ผมกับพี่สินก็เกรงใจแย่แล้ว”

มี้ยิ้มรับคำตอบก่อนเดินไปที่รถเมื่อทั้งคู่ก้าวไปในรถหลังกดปุ่มสตาร์ทรถ กริชทำหน้างงๆกับปุ่มต่างๆบนพวงมาลัย ก่อนหันไปถามสาวสวยที่นั่งข้างๆว่า

“คุณมี่ครับ ปุ่มปรับกระจกข้างอยู่ตรงไหนครับ  รถแบบนี้ผมไม่เคยขับ”

เธอยิ้มให้และชี้บอกหลังจากกริชได้ปรับเบาะที่นั่งและมุมของกระจก  มี่ได้ยินเสียงชายหนุ่มพึมพำว่า

“ไฟเลี้ยวซ้าย  ปัดน้ำฝนขวา”

แล้วหันมามองหน้าหญิงสาวที่มองอยู่ด้วยความสงสัยก่อนบอกไปว่า

“ผมขับแต่รถญี่ปุ่นนะครับ ไม่เคยขับรถเบนซ์”

มี่ยิ้มแต่ไม่ตอบอะไร  กริชขับรถออกจากลานจอดรถมุ่งหน้าไปที่โรงงานของลูกค้าที่นครปฐม  ระหว่างทาง กริชได้อธิบายกับมี่ถึงอุปนิสัยใจคอของผู้บริหารโรงงานและที่ปรึกษาว่าเป็นอย่างไร จะได้รู้วิธีคุยได้ถูกต้อง จนไปถึงโรงงาน กริชได้พาเธอไปคุยกับผู้บริหารและที่ปรึกษาซึ่งเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ด้านภาษาอังกฤษไม่มีปัญหากับมี่อยู่แล้วเธอสนทนาได้คล่อง แต่เธอประหลาดใจอยู่เล็กน้อยที่กริชนั้นใช้ภาษาฝรั่งเศสได้คล่องแคล่วกับชาวต่างชาติที่เป็นปรึกษาชาวฝรั่งเศส  การพูดคุยเป็นไปด้วยดีจนได้เวลากริชขับรถพามี่กลับมาที่บริษัทซึ่งทั้งคู่รู้ดีว่าต้องกลับมาคุยกันอีก2-3ครั้ง  เพราะงานที่จะต้องทำร่วมกันนั้นมันเป็นโครงการใหญ่และทั้งคู่จะต้องกลับไปทำรายงานส่งผู้บริหารระดับสูงอีกครั้ง แต่เป็นจริงอย่างที่หัวหน้าของมี่บอก  ชายหนุ่มที่มาด้วยเป็นคนอัธยาศัยดีจริงๆ  ทั้งสุภาพพูดจาดีทำให้เธอไม่เบื่อระหว่างนั่งรถกลับ  ทั้งคู่เริ่มสนิทกันมากขึ้น แต่ระหว่างกริชได้ชะลอรถก่อนบอกกับเธอว่า

“คุณมี่ขออนุญาตหน่อยนะครับ  ผมขอจอดซื้อของแป็บนึง”

เธอยิ้มๆไม่ตอบอะไร กริชจอดรถริมทางเพื่อลงไปซื้อแตงโมที่ขายอยู่ข้างทาง  ชายหนุ่มถามเธอว่าจะเอาด้วยหรือเปล่ามี่ส่ายหน้า  แต่เธอมองตามเห็นกริชซื้อมา 2ลูกพอเข้าในรถ กริชหันไปวางที่พื้นด้านหลังรถแล้วขับรถออกไป

“คุณกริชชอบทานหรือคะ เห็นซื้อไป 2ลูก”

“ครับ ผมชอบมันกินง่ายดี บางทีที่บ้านไม่มีอะไรกินผมก็กินแทนข้าวไปเลย”

“อ้าวแล้วคุณกริชอยู่คนเดียวหรือคะถึงไม่มีคนทำกับข้าวให้”

“ครับผมอยู่คนเดียว”

“แล้ว..........”

ชายหนุ่มพูดขึ้นมาก่อนด้วยน้ำเสียงสั่นๆว่า

“คุณแม่ผมเสียไป 2 ปีเศษแล้วครับก่อนผมมาทำงานที่นี่  เป็นมะเร็งในเม็ดเลือด เมื่อก่อนผมอยู่กับแม่ 2คน  ตอนนี้ผมก็ใช้ชีวิตคนเดียว”

หญิงสาวหน้าสลดก่อนบอกว่า

“เสียใจด้วยนะคะมี่ไม่ทราบมาก่อน”

“ไม่เป็นไรครับ”

หญิงสาวเงียบไปชั่วครู่เธอนึกสงสัยมานานแล้วว่าตั้งแต่เธอเข้ามาทำงาน  เธอเห็นนามสกลุของกริชที่เป็นนามสกุลของนักธุรกิจชื่อดังระดับประเทศมีทรัพย์สินอยู่มากมาย แต่กริชกลับขับมอเตอร์ไซด์เก่าๆมาทำงาน และวันนี้เธอลอบสังเกตการแต่งตัวถึงกริชจะแต่งตัวดูดีแต่เสื้อผ้าที่ใส่ก็เป็นแบบธรรมดาไม่ใช่ของที่ยี่ห้อราคาแพงแต่เธอสะดุดตาตรงนาฬิกาข้อมือ มี่พอจะดูออกว่าถึงจะไม่ใช่รุ่นล่าสุดแต่ดูจากยี่ห้อราคาน่าจะประมาณ 6หลัก   เธอพอจะรู้ว่าครอบครัวนี้มีลูก 3 คน ผู้หญิงสองคนผู้ชายที่เป็นลูกคนกลางอีกหนึ่งคน  แต่ไม่ใช่กริช มี่เคยเลยลองไปถามแม่ของเธอที่รู้จักกับภรรยาของนักธุรกิจชื่อดังนี้แม่เธอก็บอกไม่รู้อะไรมากนักเพราะรู้จักกันเผินๆ  แต่มีข่าวแว่วๆว่านักธุรกิจคนนั้นมีลูกอีกคนกับภรรยาน้อย แต่ที่บ้านเหมือนจะไม่ยอมรับในตัวแม่ลูกคู่นี่เท่าไหร่นัก มี่รู้มาเท่านี้แต่เธอก็ได้แต่เก็บความสงสัย มี่เลยเปลี่ยนเรื่องถามไปว่า

“คุณกริช พูดฝรั่งเศสคล่องจังเลยนะคะ”

“ครับผมจบเอกภาษาฝรั่งเศสเพราะแม่เคยเป็นครูสอนภาษาฝรั่งเศสนะครับ”

“หืมจบเอกภาษาแล้วมาทำการตลาดนี่นะ”

“ครับก่อนมาที่นี่ที่บริษัทแรกผมก็ทำการตลาดครับ แต่ดีหน่อยที่มีพื้นทั้งสองภาษาเลยได้งานที่นี่”

“อ๋อ แล้วไม่เบื่อหรือคะที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียว”

“ไม่ละครับผมชินซะแล้ว”

“เอ่อแล้วแฟนละคะ มี่ขอโทษนะคะที่ถาม”

“เรื่องปกติครับคุณมี่ใครก็ถามผมแบบนี้จนผมชินแล้ว  ผมยังไม่มีแฟนแค่ผมตัวคนเดียวก็จะแย่อยู่แล้ว”

“อ้าวแล้วคุณตุ๊กตาละ  มี่นึกว่าคุณทั้งสองเป็นแฟนกันเห็นสนิทกันดี”

ประโยคนี้ทำเอากริชหัวเราะออกมาลั่นรถเปลี่ยนไปจากท่าทีที่ดูซึมๆเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ทำเอาหญิงสาวแปลกใจ

“ทำไมหลายๆคนคิดแบบนี้  ผมกับไอ้ตุ๊กเอ๊ยไอ้ตา  ไม่ใช่สิ  ผมกับตุ๊กตาเป็นเพื่อนกันครับ มันเอ๊ยไอ้ว้าอีกแล้วติดปาก เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนมัธยม แต่คนละห้องนะครับ  พอมาสอบมหาวิทยาลัยก็ติดที่เดียวกันคณะเดียวกันแต่คนละเอก ไอ้ว้าอีกแล้ว  ตุ๊กตามันเอ๊ยเค้าเรียนเอกอังกฤษครับ เฮ่อกว่าจะพูดจบได้”

ทำเอาหญิงสาวหัวเราะขึ้นมาบ้างเมื่อได้ยินคำพูดของกริชที่พูดติดๆขัดๆ 

“อ่อคะ พอเข้าใจแล้ว”

“ครับจะพูดถึงเลขา CEO ต้องพูดแบบสุภาพครับ  เธอสั่งไว้  แต่พออยู่กับผมเธอก็พูดภาษาพ่อขุนครับ แฟนมันผมก็รู้จักเรียนมหาวิทยาลัยมาด้วยกันครับเราเลยสนิทกัน”

ทำเอามี่หัวเราะไม่หยุด ตลอดทางทั้งคู่พูดคุยกันตลอดจนถึงบริษัท  ซึ่งมันสร้างความประทับใจให้กับมี่อย่างขึ้นในความสุภาพและขี้เล่นของกริชจนกลับไปถึงห้องทำงาน เธอถูกถามโดยหัวหน้า มี่ตอบไปตรงๆว่าเป็นอย่างที่หัวหน้าบอกทุกอย่าง แต่ใจบอกต่อ ว่าถึงกริชจะเป็นขวัญใจของสาวๆที่นี่หลายคน แต่กริชก็ไม่เคยจีบใครและค่อนข้างจะถือตัวในเรื่องนี่ มี่ฟังแล้วก็ยิ้มๆ  แต่มี่ก็นึกสงสารตอนที่เห็นใบหน้าที่เศร้าหมองของกริชตอนพูดถึงแม่  หลังจากนั้นมี่กับกริชได้ร่วมงานกันอย่างจริงจังกับโครงการนี้ทั้งคู่เริ่มสนิทกันจนเรียกชื่อเล่นกันได้สนิทปาก  จนวันหนึ่งทั้งคู่ได้ไปคุยงานกันที่โรงงานนครปฐมอีกครั้งนี้ใช้รถของฝ่ายการตลาดช่วงขากลับออกจากโรงานไม่เท่าไหร่  ฝนตกหนักมากจนไม่เห็นทาง  กริชขับรถอย่างช้าๆ จนไปจอดบนไหล่ทางเลยศาลาที่พักรออรถไม่เท่าไหร่

“มี่ ผมจอดรถก่อนนะมองไม่เห็นทางแถวนี้โค้งเยอะด้วยกลัวขับเลยไปลงทุ่งข้างทาง”

หญิงสาวนึกสุนกขึ้นมาเธอเลื่อนตัวไปพึงที่ประตูแล้เอามือกอดที่อกก่อนที่จะเสียงแบบตกใจว่า

“นี่คุณจะทำอะไร ชั้น อย่านะอย่านะ”

กริชทำหน้างงๆก่อนจะบอกว่า

“มี่เป็นอะไรของมี่นะ”

“ก็แบบหนังไทยไง  ฝนตกหนักพระเอกพานางเอกหลบฝนที่กระท่อมปลายนา”

“คุณก็ลูกบ้าเยอะนะ”

กริชพูดพร้อมรอยยิ้ม

“เห็นมี่แบบนี้ สมัยเรียนตอนเรียนตรี  มี่เล่นละครเวทีของคณะด้วยนะ”

“เป็นนางเอกละซิ”

“เปล่าเป็นเพื่อนนางเอกนะผู้กำกับบอกว่า ออร่ามี่ไม่พอที่จะเป็นนางเอก”

ทำเอาทั้งคู่หัวเราะไม่หยุดแล้วก็คุยเรื่องทั่วๆไป จนมี่เล่าให้ฟังถึงที่บ้าน  บ้านเธอก็ลูกสามคนเป็นสามใบเถาทั้งหมดเธอเป็นลูกคนกลาง แล้วเธอก็บอกถึงชื่อเล่นให้ฟังว่า พี่สาวเธอชื่อไหมน้องสาวชื่อหม่อน  กริชที่ฟังอยู่เลยขัดว่า

“ผมฟังแล้วแปลกใจ  ไหมกับหม่อนนะมันไปด้วยกันได้นะ  แต่ชื่อคุณเพี้ยนมาจากมัดหมี่หรือเปล่าเลยกลายเป็นมี่”

“เปล่า พี่ไหมเค้าชอบโดเรมี่ มาก เลยให้พ่อกับแม่ตั้งชื่อน้องที่เกิดมาว่ามี่ อะไรที่เกี่ยวกับโดเรมี่ก็เต็มห้องเค้าไปหมด”

“เข้าใจละ”

“แล้วขื่อกริชละใครตั้งให้”

มี่สังเกตเห็นได้ชัดว่า กริชดูซึมทันทีก่อนบอกว่า

“ปู่ครับ  ปู่อยากให้คล้องกับพวกพี่ๆ”

เธอเลยถามต่อ

“อ้าวไหนบอกว่าอยู่คนเดียวไงแล้วเอ่อ ขอโทษนะที่ถามแบบนี้แล้วพ่อของกริชละ”

ชายหนุ่มถอนหายใจเบือนหน้าไปมองสายฝนที่ตกกระหน่ำไม่มีทีท่าขาดสาย

“ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่อยากเล่าก็ไม่ต้องบอกนะ  มี่ไม่อยากรู้แค่อยากชวนคุยเท่านั้น”

กริชหันมายิ้มแบบเศร้าๆแล้วบอกว่า

“ไม่หรอกครับ ใครๆก็รู้ ผมก็ไม่อยากปิด เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไรในวงสังคมเค้ารู้กันหมด มี่คงสงสัยว่า นามสกุลผมออกจะดังใหญ่โต แต่ทำไมผมถึงซอมซ่อขนาดนี้  ขับมอเตอร์ไซด์เก่าๆมาทำงาน  จริงๆแล้วผมเป็นลูกเมียน้อยครับ  สาเหตุเกิดจากอะไรผมไม่เคยถามแม่ครับ  ชีวิตจริงของผมมันก็เหมือนนิยายน้ำเน่าๆทั่วๆไป กับคำว่าลูกเมียน้อยนี่ละครับ  ความจริงก็น่าเห็นใจป้า  ผมหมายถึงภรรยาของคุณพ่อผมนะครับที่จู่ๆก็มีผู้หญิงกับเด็กอีกคนมาสร้างปัญหาให้ครอบครัวอันอบอุ่น กลัวจะมาแบ่งอะไรหลายๆอย่างไปครับ ผมโตมากับคำๆนี้มาตลอด ผมอยู่ในรั้วบ้านจนคุณปู่เสียผมกับแม่ถึงออกมาอยู่ทาวน์เฮ้าส์กันสองคนแม่ลูกครับ ชื่อเล่นผมก็เลยคล้องกับลูกๆของป้าทั้ง 3 คน  มี่คงเคยคุ้นๆมั่งเพราะออกข่าวหน้าสังคมบ่อย  ไก่ที่ตอนนี้เป็นรอง MD.บริษัทของพ่อผม  ก้องที่เป็น VP ฝ่ายการตลาด  และพี่กลอยตอนนี้ก็เป็น AVP ดูด้านบัญชีอยู่ครับ”

“แล้วกริชไม่คิดไปทำกับพ่อของกริชบริษัทก็ใหญ่โตนะ”

“ไม่ละครับ  ผมอยู่แบบนี้สบายใจกว่า  ทำงานกับฝรั่งมันตรงกับนิสัยผม  อ้าวฝนเริ่มซาแล้วไปดีกว่าครับ”


“เอ่อแล้วกริชเจอกับพ่อกริชบ้างหรือเปล่า”


“ตั้งแต่แม่เสียก็เจอกันไม่กี่ครั้งครับ ไม่ตอนงานวันเกิดพ่อทุกปี ก็งานทำบุญให้แม่ตอนเสียครบปีครับ”

มี่ไม่พูดอะไรต่อ เพราะมันเป็นเรื่องจริงอย่างที่แม่เธอเคยเล่าให้ฟังและฝ่ายชายก็ไม่ปิดปัง แต่มี่นั้นไม่ถามต่อเพราะเห็นว่ากริชค่อนข้างสะเทือนใจเป็นอย่างมากตอนที่พูด  ระหว่างที่ขับรถไปกริชนึกย้อนถึงตอนเด็กๆที่โดนดูถูกเหยียดย่ำจากภรรยาหลวงและพี่อีกสองคนขนาดไหน ดีที่พี่สาวคนเล็กที่อายุห่างกันไม่มากค่อนข้างเห็นใจผิดกับคนอื่นๆ  กริชกับแม่อยู่ในบ้านได้เพราะบารมีและคำสั่งของผู้เป็นปู่เมื่อรู้ว่าลูกชายไปทำอาจารย์สาวที่เป็นแม่ของกริชท้อง  ปู่ให้พ่อกริชรับผิดชอบให้มาเลี้ยงดูในบ้านที่เป็นคฤหาสน์ที่กว้างใหญ่ โดยปลูกบ้านให้ 1หลังให้อยู่ในรั้วเดียวกัน  อีกอย่างปู่ของกริชก็มีภรรยาหลายคนแต่มีลูกคนเดียวคือพ่อของกริช เลยเห็นเป็นเรื่องธรรมดา ในตอนนั้นย่าของกริชเสียไปก่อนหน้านี้นานแล้ว 

ทั้งสองแม่ลูกอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมีแต่ปู่เท่านั้นที่ให้ความเมตตา จัดหารถไปรับส่งให้เด็กน้อยตอนไปเรียน ซื้อของเล่นแบบที่หลานชายคนกลางมีให้  แต่ไม่วายโดนดูถูกตลอดจนเป็นปมอย่างหนึ่ง  พ่อก็มาดูแลเป็นพิธีเท่านั้น  เพราะดูพ่อจะเกรงใจภรรยาหลวงมากนอกจากปู่คือพี่สาวคนเล็กที่คอยมาเล่นกับน้องชายตลอด ตอนแรกปู่จะให้กริชเรียกภรรยาหลวงของพ่อว่าแม่ใหญ่แต่เธอไม่ยอม   กริชเลยเรียกว่าป้ามาตลอดและกริชรู้ว่า ป้าและพี่สาวคนโตเกลียดกริชมากพี่ชายคนกลางก็เหมือนกันแต่สู้พี่สาวคนโตกับแม่ไม่ได้ที่แสดงอาการรังเกียจอย่างชัดเจน  มีแต่พี่กลอยเท่านั้นที่กริชเรียกพี่ได้เต็มปาก

เด็กน้อยโตขึ้นด้วยความเอาใจใส่อย่างดีตามฐานะโดยการดูแลและอบรมผู้เป็นแม่และปู่ โดยผู้เป็นพ่อคอยดูอยู่ห่างๆทำให้กริชไม่ค่อยสนิทกับพ่อมากนัก  สิทธิต่างๆในบ้านแทบไม่มี ถ้าปู่ไม่อยู่หรือพ่อไม่เรียกไปหาอย่างหวังว่ากริชจะได้เข้าไปในบ้านหลังงามเลย  จนช่วงที่กริชเรียนมัธยม ผู้เป็นปู่ได้จากไปด้วยความชรา โดยทำพินัยกรรมมอบเงินก้อนนึงให้กับแม่ของกริช ส่วนที่ธุรกิจหลักพ่อของกริชที่เป็นลูกชายคนเดียวได้รับทั้งหมด มีส่วนหนึ่งที่แบ่งให้กับบรรดาอนุภรรยาที่ยังมีชีวิตอยู่แต่ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว  กริชกับแม่ตัดสินใจที่จะออกมาอยู่ข้างนอก  เพราะไม่อยากเกิดปัญหาขึ้นตอนแรกๆพ่อทำท่าจะทัดทานเพราะคำสั่งเสียของปู่หลายๆอย่างที่มีอยู่ข้อหนึ่งว่าให้สองแม่ลูกอยู่ในบ้านนี้ตลอดไป แต่ทั้งคู่ตัดสินใจออกมาอยู่ข้างนอก

พ่อเลยมาซื้อทาวน์เฮ้าส์ให้สองแม่ลูกอยู่กัน  อีกอย่างตากับยายของกริชก็เสียไปนานมากแล้วตั้งแต่แม่เป็นครูใหม่ๆมีแต่น้องสาวของแม่เท่านั้นแต่ก็มีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยได้ติดต่อกัน  ทั้งสองแม่ลูกใช้ชีวิตความเป็นอยู่อย่างประหยัด แม่ได้ใช้พื้นที่ในบ้านรับสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆเพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว  พ่อนั้นส่งเงินมาให้ใช้รายเดือน โดยแม่บอกว่าเงินที่ปู่ให้นั้นจะเก็บให้กริชไว้เรียนหนังสือ จนกริชเรียนมหาวิทยาลัยกริชได้ช่วยแม่หารายได้พิเศษโดยรับจ้างแปลงานหรือเอกสารที่เป็นภาษาอังกฤษหรือฝรั่งเศสซึ่งกริชแทบไม่ได้เจอกับพ่อเลย  ยกเว้นเวลามีงานของพ่อ แม่จะให้กริชไปช่วยงานตลอดเด็กหนุ่มในตอนนั้นก็จะไปช่วยแบบเงียบอยู่ด้านหลังบ้านไม่ค่อยได้ออกมาในที่จัดเลี้ยงด้วยความเจียมตัวหรือถ้าจัดในโรงแรมกริชจะโผล่หน้าไปให้เห็นแล้วกลับทันที หรือถ้าพ่อมาที่บ้านกริชจะพยายามเลี่ยงหรือปฏิเสธทุกครั้งที่พ่อชวนไปข้างนอก  จนกริชเรียนจบ กริชได้งานที่แรกในตำแหน่งเจ้าหน้าที่การตลาด แต่พอทำงานไปปีเศษๆ ข่าวร้ายก็มาเยือน  เมื่อรู้ว่าแม่ป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือด ตอนแรกกริชใช้เงินที่ได้จากปู่มาใช้ในการรักษาแม่จนเกือบจะหมดแต่พอพ่อมารู้ข่าวภายหลังเพราะสองแม่ลูกไม่ได้บอก   เลยจัดการค่าใช้จ่ายให้พร้อมหาหมอมือดีทางด้านมะเร็งมารักษาแต่ทุกอย่างมันสายไปแล้วโรคร้ายของแม่มันเกินเยียวยา  เธอจากไปอย่างสงบกริชเสียใจเป็นอย่างมากเหมือนกับตอนที่สูญเสียผู้เป็นปู่ ในงานศพของแม่มีแต่คนในหมู่บ้านและเด็กๆที่แม่เคยสอนมาร่วมงาน ในส่วนของบ้านพ่อ มีแต่พ่อกับพี่กลอยและแม่บ้านที่ให้ความเอ็นดูสองแม่ลูกนี้มาตลอด มาร่วมงานน้าสาวของกริชมาได้วันเผาเท่านั้น หลังจากนั้นชายหนุ่มใช้ชีวิตตามลำพังมาตลอด  ทำทั้งงานประจำและรับจ้างแปลเอกสารเพื่อดำรงชีพโดยปฏิเสธเงินจากผู้เป็นพ่อที่จะมอบให้  ส่วนเงินที่ได้จากงานศพของแม่นั้น กริชเอาไปบริจาคมอบให้กองทุนเกี่ยวกับโรคมะเร็งทั้งหมด   หลังจากแม่ได้จากไป กริชเจอกับพ่อไมกี่ครั้ง   

งานทำบุญ1 ปีครบรอบที่แม่เสีย จริงๆกริชแค่อยากใส่บาตรและถวายสังฆทานให้กับแม่ ซึ่งกริชใส่บาตรเป็นประจำอยู่แล้ว แต่พ่อมาบอกว่าจะทำบุญเลี้ยงพระที่วัดให้ตอนแรกกริชไม่อยากให้ทำเพราะไม่อยากรบกวนเงินของพ่อ  แต่พ่อบอกว่าจะขอทำบุญให้แม่กริชเลยยอม ส่วนงานวันเกิดของพ่อนั้น  กลอยที่เป็นพี่สาวคนเล็กขับรถมารับถึงบ้านเป็นการบังคับกลายๆให้กริชต้องไป  และก็เหมือนเดิมกริชจะอยู่ช่วยงานที่ด้านหลังและทานข้าวในห้องครัวอย่างเดียวดาย เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา มีบางครั้งพ่อจะขับรถมาหากริชที่บ้านเช่นวันเกิดของกริช  แต่กริชไม่อยากให้พ่อมาหาเท่าไหร่รวมถึงพี่สาวคนเล็ก  เพราะกลัวทางบ้านของพ่อจะว่าในหลายๆเรื่องกริชไม่อยากให้เกิดปัญหาตามมา

จนกริชมาได้งานกับบริษัทต่างชาติที่มีบริษัทแม่อยู่ที่สวิตเซอร์แลนด์ในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการตลาด และเอาเงินที่พอมีอยู่มาดาวน์มอเตอร์ไซด์มือ 2 เพื่อมาใช้งาน กริชทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจนผู้บริหารชาวต่างชาติต่างชื่นชมและยอมรับในฝีมือของชายหนุ่ม กริชนั้นหาลู่ทางใหม่ๆให้กับบริษัทตลอด    จนCEO มีหนังสือชมเชยรวมถึงคำชมจากผู้บริหารที่อยู่สวิตเซอร์แลนด์ด้วย  กริชกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ของการตลาดที่ใครๆต่างจับตามอง มีหญิงสาวมากมายที่อยากจะเกี่ยวข้อง  แต่ด้วยความที่เป็นคนเจียมตัวและปมที่ถูกกดขี่มาตลอดทำให้กริชไม่กล้าเปิดใจให้กับใครเลย

ความคิดคำนึงของกริชสิ้นสุดลงเมื่อนำรถมาจอดระหว่างที่ทั้งคู่ยืนรอลิฟท์ มี่ได้เอ่ยว่า

“กริชเย็นนี้มากินข้าวกับมี่นะ มี่เลี้ยงอยากขอบคุณทั้งเรื่องงานที่ช่วยมี่อย่างมากรวมถึงขับรถให้นะ”

“ไม่เป็นไรครับ  อีกอย่างผมมีงานที่บ้านต้องทำอีกครับ  รับงานแปลเอกสารมากลัวเสร็จไม่ทันครับขอบคุณครับ”


“งั้นไว้คราวหน้าแล้วกันนะ”

“ได้ครับ”

จนออกจากลิฟท์ทั้งคู่ต่างเดินแยกย้ายกลับไปที่ฝ่ายของตัวโดยกริชไม่รู้ตัวว่าถูกหญิงสาวมองตามหลัง พร้อมด้วยความคิดของมี่ที่ว่า “ ผู้ชายคนนี้ค่อนข้างทะนงตัวเอง ในความอ่อนโยนมีความเฉียบขาดอยู่แต่ความหยิ่งในศักดิ์ศรีอาจจะทั้งช่วยและปิดกั้นโอกาสของเจ้าตัวในบางเรื่องก็เป็นได้ “ จริงๆแล้วมี่ก็แอบสนใจในตัวกริชตั้งแต่ที่ได้ร่วมงานกันวันแรก  แต่เธอนั้นมีคนมาจีบอยู่เยอะ ทำให้เธอได้แต่คิดกับกริชแบบเพื่อนเท่านั้น 

ในที่สุดงานที่กริชร่วมมือทำกับมี่ก็ประสพผลสำเร็จ ในการเจรจาเพื่อจะขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอางยี่ห้อดังที่มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย เพื่อส่งออกเกือบทั่วโลก โดยได้เป็นตัวแทนจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวในภูมิภาคนี้รวมไปถึงออสเตรเลีย  งานแถลงข่าวและเปิดตัวเป็นไปอย่างใหญ่โต โดยที่กริชได้รับคำชมอย่างมากเพราะเป็นคนเสนอแนวคิดเรื่องนี้ให้กับ CEO และหาข้อมูลต่างๆมานำเสนอจนได้รับการเห็นชอบจากทางบริษัทแม่ แต่วันแถลงข่าวเปิดตัว พ่อกับพี่ชายคนกลางของกริชได้รับการเชิญมาด้วย  แต่กริชเลี่ยงที่จะเจอหน้าตลอดงานแม้ผู้เป็นพ่อพยายามมองหาลูกชายคนเล็กตลอดเวลา

หลังจากงานแถลงข่าวผ่านไปได้2-3 วันที่ร้านอาหารในห้างหรูแห่งหนึ่ง   มี่ที่มากินข้าวกับครอบครัวในวันหยุดสายตาเธอมองไปเห็นกริชที่เดินสะพายเป้ที่เธอเห็นจนคุ้นตาเดินผ่านร้านไป  มี่รีบหยิบโทรศัพท์มาเพื่อโทรหาทันที เธอเห็นกริชรับสาย ท่ามกลางสายตาของทุกคนบนโต๊ะที่มองมาที่มี่อย่างสงสัยว่าคุยกันอยู่ดีๆจู่ๆมี่โทรหาใครทันที

“ครับมี่”

“กริชยืนรอตรงนั้นนะ เดี๋ยวมี่ไปหา  อย่าเดินหนีไปไหนละ”

เธอวางสายและหันไปบอกพ่อกับแม่ว่า

“มี่จะขอพาเพื่อนมากินข้าวด้วยอีกคนนะคะพ่อกับแม่  คนที่มี่เคยเล่าให้ฟังนะ  อยากเลี้ยวข้าวขอบคุณเค้าด้วยปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว”

พ่อเธอพยักหน้า  มี่ รีบเดินไปหากริชที่ยืนรออยู่ จากสายตาของทุกคนที่มอง ตอนแรกดูเหมือนกริชทำท่าจะปฏิเสธแต่ดูเหมือนจะทนความอ้อนวอนของมี่ไม่ไหวเลยเดินตามเข้ามาก่อนที่มี่จะแนะนำให้รู้จักว่า

“นี่ไงคะ นักการตลาดดาวรุ่งพุ่งแรงที่มี่เคยเล่าให้ฟัง  “

และมี่แนะนำให้กริชรู้จักครอบครัวเธอเป็นรายคนหลังจากที่กริชนั่งบนเก้าอี้  ตลอดเวลาที่พูดคุยทั้งครอบครัวของมี่ต่างพอใจกับบุคลิกและนิสัยของกริชอย่างมากทั้งความสุภาพและความพูดจาอย่างอ่อนน้อมทำเอาพี่สาวคนโตของบ้านมองชายหนุ่มอย่างพึงพอใจ  และทุกคนต่างตั้งใจฟังเมื่อมี่ถามกริชว่า

“แล้วกริชยังไม่บอกเลยมาเดินซื้ออะไร  หรือมาดูร้านที่จะเปิด”

ร้านในที่มีหมายถึงร้านของบริษัทที่จะมาเปิดขายเครื่องสำอางในเร็วๆนี้

“เปล่าครับ ผมมาดูร้านหนังสือมือสองนะครับ ราคามันถูกกว่ามือ 1 เยอะ”

“หนังสืออะไรหรือกริช”

กริชหยิบเอาหนังสือเล่มใหญ่ที่เป็นภาษาฝรั่งเศสที่เขียนโดยนักการตลาดชื่อดังชาวฝรั่งเศสส่งให้มี่ดู

“นี่ไงถึงจะเป็นมือ 2 ก็สภาพยังดีอยู่ตามหามานานแล้วแต่สู้ราคาไม่ไหว  เจอมือ 2ราคาแบบนี้พอรับไหว”

หม่อนที่เป็นลูกสาวคนเล็กเห็นหนังสือรีบพูดออกมาทันที

“ฮู้  พี่กริช  หนังสือภาษาฝรั่งเศสนี่  พี่ต้องเก่งมากๆเลยสิ”

“ใช่แล้ว  เก่งมาก  รับแปลเอกสารด้วยนะ”

มี่เป็นคนตอบแทนกริชพร้อมส่งหนังสือคืนให้

“ดีจังหม่อนมีเอกสารที่กำลังหาคนแปลให้อยู่พอดีเลย พี่กริชคิดแพงไหม”

กริชที่เก็บหนังสือลงเป้เรียบร้อยตอบไปว่า

“ไม่แพงครับคิดราคาพิเศษจะให้แปลเมื่อไหร่ก็ฝากมี่มาได้ครับ”

“พิเศษนี่ แพงเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ”

เป็นคำถามจากพี่สาวคนโต ทำเอาทุกคนหัวเราะ  จนได้เวลาหลังจากที่กริชอำลา ทั้งครอบครัวได้เดินมาที่รถตู้ที่คนขับรออยู่แล้ว  ภายในรถตู้ที่ตกแต่งแบบหรูหราผู้เป็นพ่อที่นั่งแถวหน้าหลังคนขับได้ถามลูกสาวคนกลางว่า

“มี่นี่หรือลูกชายคนเล็กของคุณพจน์”

“คะพ่อ”

“ดูดีจริงๆ เรียบร้อยไม่หยิ่งเหมือนพี่ๆ ยิ่งพี่สาวคนโตยิ่งหยิ่งมากผิดกับลูกสาวคนเล็กคนนั้นสุภาพนอบน้อมเหมือนกริช”

“พ่อรู้จักครอบครัวนี้ด้วยหรือคะ”

หญิงสาวถามจากเบาะหลัง

“พอรู้จักนะ แต่ไม่สนิท  แต่คุณพจน์พูดถึงลูกชายคนนี้บ่อยนะ เค้าดูภูมิใจมากที่ลูกชายได้ทำงานบริษัทนี้”

“อ้าวไม่เหมือนคนที่เป็นเมียเลยนะ  แทบไม่พูดถึง”

ผู้เป็นแม่พูดขึ้นบ้างก่อนพูดต่อว่า

“แล้วไม่มีใครถามคุณพจน์ต่อหรือทำไม ทำเอาลูกคนเล็กมาทำงานด้วยทั้งๆที่เก่งขนาดนี้ “

“ทำไมจะไม่ถาม ผมเคยได้ยินนะ  แต่คุณพจน์หัวเราะแล้วตอบว่า เค้าไม่มาทำกับผมหรอกเลือดทิฐิของปู่ที่มีอยู่ในตัวลูกชายคนเล็กมันแรง”

แล้วไหมลูกสาวคนโตบอกต่อว่า

“แต่ตาของกริชดูเศร้าๆนะคะแม่”

“ปิ๊งละสิพี่”

หม่อนพูดแซวพี่สาว

“ไม่ละไม่ใช่สเป็ค  ถึงจะหล่อก็ตามทีเถอะ บนความสุภาพดูจะเป็นคนหยิ่งๆในศักดิ์ศรีนะ”

มี่เสริมขึ้นให้ทุกคนฟังว่า  เห็นแบบนี้แล้วอย่านึกว่าจะเป็นคนใจดีนะ  กริชเป็นคนจริงจังกับงานมากฝรั่งถึงชอบเพราะกล้าแย้งถ้าข้อมูลไม่ตรงกันหรือของกริชถูกขนาด CEO กริชยังกล้าแย้ง ไม่เหมือนคนไทยที่ไม่กล้าแย้งกับผู้บริหารนั่งก้มหน้านิ่งอย่างเดียว กริชนั้นแยกออกระหว่างงานกับเรื่องส่วนตัว ขนาดมี่ยังเคยเจอดุในที่ประชุมมาแล้ว

“แล้วพี่กริชมีเฟซหรือเปล่าพี่มี่”

น้องสาวเป็นคนถามขึ้นมาหลังจากที่มี่พูดจบ

“เท่าที่รู้ไม่ได้เล่นเล่นนะ  มีแต่ไลน์เท่านั้น”

แล้วพี่สาวคนโตกับน้องสาวคนเล็กก็พูดคุยกันเรื่องของกริชมี่ที่นั่งฟังตลอดที่ทุกคนคุยกันปล่อยให้ความคิดล่องลอยไปว่า

“กริชถ้าคุณยอมลดปมที่อยู่ในใจคุณที่คุณคิดว่าเป็นปมด้อยจนกลายเป็นความหยิ่งในศักดิ์ศรี คุณจะน่าสนใจมากกว่านี้นะ”

ส่วนกริชเมื่อแยกจากครอบครัวของมี่แล้วก็ตรงกลับมาที่บ้าน  หลังจากเก็บมอเตอร์ไซด์แล้วเอาพวงมาลัยที่ซื้อมาวางบนพานหน้ากรอบรูปของแม่ที่ตั้งไว้ในห้องนอนขอแม่ ก่อนลงมาชั้นล่างหยิบเอาหนังสือที่พึงซื้อมาดู  แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อน กริชดูหน้าจอก่อนกดรับ

“เออตุ๊กตาว่าไง”

“กริชแกอยู่บ้านหรือเปล่า”

“อยู่  แกมีอะไรหรือเปล่าเสียงไม่ดีเลย”

“ชั้นไปหาที่บ้านนะ”

กริชยังไม่ทันพูดอะไรตุ๊กตาวางสายไปก่อน และไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถของตุ๊กตามาจอดหน้าบ้านกริชเดินออกรับเพื่อนที่หน้าตาไม่ค่อยสู้ดีเท่าไหร่นักเข้ามาในบ้าน  ตุ๊กตาบอกกริชว่าจะขึ้นไปไหว้รูปแม่ของกริช ก่อนที่จะเดินลงมาแล้วไปนั่งบนเก้าอี้ เธอมาบ้านนี้บ่อยตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม ทำให้รู้จักกับแม่ของกริชเป็นอย่างดี  แต่ช่วงที่แม่ของกริชเสียเธอเรียนอยู่ต่างประเทศพอดี กลับมาเมืองไทยเธอถึงรู้เรื่อง  ตุ๊กตาค่อนข้างจะรู้ความเป็นไปของบ้านกริชค่อนข้างดี ทำให้เธอเห็นใจสองแม่ลูกนี้อย่างมาก  เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของบ้านที่ค่อนข้างมีฐานะพ่อเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เช่นเดียวกับแม่  เธอมาทำงานเป็นเลขาก่อนที่กริชจะมาทำงานได้ไม่นานเท่าไหร่มิตรภาพของเพื่อนเก่านั้นไม่เคยจืดจาง  เธอนั่งมองหน้ากริชก่อนที่จะระบายความรู้ออกมาเกี่ยวกับเรื่องของแฟนเธอหลายๆเรื่อง เพราะรู้ว่ากริชจะรับฟังได้ทุกเรื่องของเธอ  ตุ๊กตาไม่เคยปิดบังเรื่องของเธอกับแฟน จนเธอเล่าให้ฟังจนจบเหมือนเป็นการระบายสิ่งที่อัดอั้นอยู่ในใจก่อนจะถามเพื่อนเธอว่า

“แกว่าทีทำแบบนี้ถูกหรือเปล่า”

“อืมมมมมแกไม่บอกชั้นสักคำว่าจะมาปรึกษา แล้วแกเล่าจนชั้นไม่มีโอกาสแทรกว่างานชั้นยุ่ง”

“ไอ้บ้า ชั้นยิ่งเครียดๆอยู่ แล้วเป็นแกจะทำยังไง”

“เอิ่มแล้วชั้นไม่เครียดหรือวะ “

“โว๊ยขอคำปรึกษาก็ไม่ได้”

“เบื่อโว้ย  มีแต่ปัญหาไอ้คู่นี้  ก็ต้องปล่อยวางสิ ทีมันก็อีโก้สูงตั้งแต่ตอนเรียนแล้วเอาอย่างนี้แล้วกัน แกลองไปคิดดู”

กริชลองให้คำแนะนำกับเพื่อนซึ่งตุ๊กตาก็นั่งฟังพร้อมคิดไปด้วยเธอฟังเพื่อนตลอดโดยไม่แทรกเมื่อฟังจบเธอก็ยิ้มออกมาและบอกจะไปลองทำดู ก่อนจะบอกว่า

“เออขอบใจมาก จะลองไปคิดดูอีกที ไปละ”

“เออนึกจะมาก็มาจะไปก็ไป”

“ก็แกงานเยอะนี่ คงเตรียมทำงานแปลเอกสารอีกละสิ”

เธอพูดพร้อมปรายตามองบนโต๊ะที่มีคอมพิวเตอร์รุ่นเก่ากับปริ้นเตอร์ วางอยู่พร้อมเอกสาร กริชพยักหน้า ตุ๊กตาลุกขึ้นและเดินไปที่ประตูชายหนุ่มเดินไปส่ง แต่พอถึงประตูตุ๊กตาหันตัวมาสบตากับเพื่อนชาย กริชหยุดและมองตาของเพื่อน  หญิงสาวเดินเข้าใกล้ก่อนเอามือจับที่แขนของกริชและบอกว่า

“ไม่ได้โทรไปหาพ่อเลยใช่ไหม”

“ก็รู้ๆอยู่ว่าเพราะอะไร ทำแบบนี้ทางนั้นจะได้สบายใจไม่อย่างนั้นจะมองว่าเราจะไปสูบจากเค้าอย่างเดียว”

“แล้วพี่กลอยละ”

“ก็นานๆครั้งพี่กลอยโทรมาหาที กริชไม่อยากไปยุ่งมากนัก”

เธอพยักหน้าก่อนที่จะเอามือไปลูบแก้มเพื่อนชาย กริชทำท่าจะหลบแต่สายตาของตุ๊กตามันดึงดูดจนกริชไม่อาจปฏิเสธได้ ยิ่งมือทั้งสองข้างขอหญิงสาวเปลี่ยนมาโอบรอบคอ กริชที่ตอนแรกจะทำท่าถอยออกมาแต่เหมือนมีแรงดึงดูดจากสายตาของหญิงสาวที่ดูออกว่าเชื้อเชิญ   จนชายหนุ่มอดใจไม่ไหวก้มหน้าลงไปปากทั้งคู่ประกบกันเหมือนแม่เหล็กต่างขั้วได้มาพบกันตุ๊กตารับการจูบของกริชอย่างดูดดื่มมือทั้งสองที่โอบรอบคอเหมือนจะรั้งไม่ให้ชายหนุ่มถอนจูบไปอย่างง่ายๆ  จนเมื่อทั้งคู่ถอนปากออกจากกันตุ๊กตาเอาหน้าไปซบกับอกของกริชก่อนจะถามกริชไปว่า

“กริชยังจำเรื่องของเราได้หรือเปล่า”

กริชถอนหายใจเบาๆก่อนจะตอบหญิงสาวที่กอดตนเองอยู่ว่า

“อยากจะลืมเหมือนกันแต่บางทีมันก็โผล่เข้ามาในความจำ”

ตุ๊กตาเขย่งตัวขึ้นไปหอมแก้มของกริชก่อนกลับมากอดพร้อมเอาหน้าไปซบที่อกของชายหนุ่มต่อ  ใช่แล้วทั้งคู่เคยมีความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง ตุ๊กตานั้นแอบชอบกริชชอบตั้งแต่เรียนมัธยม ยิ่งมารู้เรื่องของชายหนุ่มกลายเป็นยิ่งสงสารมากขึ้นแล้วแปรเปลี่ยนมาเป็นความรักข้างเดียวในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย    เธอนั้นไม่กล้าเผยความในใจเพราะรู้ดีว่ากริชเป็นคนนิสัยอย่างไร  กริชมองคนอื่นว่าสูงกว่าตัวเองตลอดจนกลายเป็นคนเจียมเนื้อเจียมตัวและมาจากฐานะที่กริชเคยบอกเธอว่าไม่พร้อมจะมีใครเพราะฐานะทางบ้านจน ตั้งใจจะเรียนอย่างเดียว จบแล้วจะได้หางานทำเพื่อจะดูแลแม่ เธอได้แต่ดูอยู่ห่างๆ จนเธอตัดสินใจคบหากับแฟนของเธอที่คบกันมาถึงทุกวันนี้  พอเรียนจบก่อนที่เธอจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเธอชวนกริชไปที่ห้องพักที่ทางบ้านซื้อให้เพราะอยู่ใกล้มหาวิทยาลัย  กริชนั้นมาที่นี่หลายครั้งแล้วส่วนใหญ่จะมาช่วยติวหรือไม่ก็ทำรายงาน  ตุ๊กตาตัดสินใจที่บอกความรู้สึกของเธอที่มีต่อกริช  โดยเธอไม่หวังอะไรแค่อยากจะให้กริชได้รับรู้เท่านั้น แต่พอเธอได้บอกจนหมด 

กริชไม่มีปฏิกิริยาใดๆตอบกลับ แค่บอกเธอว่า ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆที่มีให้แต่กริชไม่อาจรับได้แต่จะขอเก็บไว้ในใจ พร้อมอวยพรให้เธอที่จะไปเรียนต่อ ทำเอาตุ๊กตาที่เกิดความน้อยใจขึ้นมาโผเข้ามากอดเพื่อนชาย ก่อนจะร้องไห้ออกมา จนกริชที่ตกตะลึงต้องกอดเธอเป็นการปลอบใจ  แต่แล้วความใกล้ชิดของร่างกายที่แนบติดกันสนิททำให้หญิงสาวเงยหน้ามองเพื่อนชายทั้งน้ำตาก่อนที่ปากทั้งคู่จะมาแนบสนิทกันโดยความเต็มใจของเธอ

กริชที่พยายามจะห้ามใจของตัวเองแต่เพราะสิ่งแวดล้อมที่อยู่กันสองต่อสองในห้องพักของเพื่อนสาวและเลือดความเป็นหนุ่มทำให้ห้ามความต้องการของร่างกายไม่ได้   จนทั้งคู่มีอะไรกันด้วยความเต็มใจและยินยอมของหญิงสาวที่มอบความสาวให้กับกริช ตอนแรกกริชพยายามที่จะบอกว่าขอรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นแต่ตุ๊กตาปฏิเสธบอกว่ามันเกิดเพราะความเต็มใจของเธอเองกริชอย่ากังวล และอยากให้ทั้งคู่ลืมเรื่องในวันนั้นแต่ขอให้คงความเป็นเพื่อนไว้ตลอดไป กริชรับคำด้วยสีหน้าไม่ดี จนเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เมื่อเรียนจบกลับมาถึงเมืองไทยเธอถึงรู้ว่า  แม่ของกริชได้จากไปแล้วเมื่อเธอไปเยี่ยมกริชที่บ้าน  เธอได้เห็นน้ำตาของกริชเป็นครั้งแรกเมื่อเธอได้พูดปลอบโยนเพื่อนชาย  กริชตอนนั้นที่ดูอ่อนแอมากเหมือนคนที่ไม่มีหลักไว้ยึดเหนี่ยว ทุกอย่างที่อัดอั้นอยู่ในใจกริชได้เล่าให้เธอฟังทั้งหมดและด้วยความเห็นใจประกอบกับความรักที่ยังมีเยื่อใยเหลืออยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ ตุ๊กตาดึงเพื่อนมากอด จนกลายเป็นห้ามใจไม่อยู่ทำให้ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอีกครั้งซึ่งทุกอย่างเหมือเดิมคือเธอบอกกับกริชว่าอย่าไปสนใจอย่ากังวล

ทั้งคู่ยังติดต่อกันเหมือนเดิมโดยที่กริชพยามยามเลี่ยงไม่ให้อยู่กันสองต่อสองเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก และเห็นใจแฟนหนุ่มของเพื่อนด้วย กริชรู้ดีว่าตุ๊กตากับแฟนหนุ่มนั้นก็มีอะไรกันแล้วแต่พยามยามรักษาความสัมพันธ์ไว้กับคำว่าเพื่อนเท่านั้น และแฟนของตุ๊กตาก็ไม่เคยสงสัยในตัวของกริช จนทั้งคู่ต่างมาทำงานที่เดียวกันแต่ดูเหมือนว่าทั้งคู่ต่างไม่แสดงออกเหมือนไม่สนใจเรื่องที่เคยเกิดขึ้นโดยฝ่ายชายพยายามทำตัวให้เหมือนเดิมแต่ไม่กล้าอยู่ใกล้ชิดฝ่ายหญิงเท่าไหร่นัก แม้กระทั่งเรื่องไปทานข้าวกลางวันกริชก็พยามเลี่ยงมาตลอดไม่ว่าจะไปกันกี่คนก็ตามที

วันนี้ก็เหมือนเดิมกริชนึกไม่ถึงว่าฝ่ายหญิงจะทำแบบนี้แต่ก่อนที่กริชจะพูดอะไรต่อตุ๊กตาโน้นคอของกริชลงมาอีกครั้ง ทั้งๆที่ใจอยากจะหยุดแต่สายตาของหญิงสาวช่างดึงดูเหลือเกินกริชก้มหน้าลงไปอีกครั้ง หญิงสาวรับการจูบด้วยความเต็มใจจนกริชถอนจูบออกมา พร้อมกับเสียงพูดแบบอ้อนๆว่า

“อุ้มตาขึ้นไปที่ห้องสิ”

จิตใจที่อยากจะปฏิเสธมันพลังทลายไปหมด  กริชฝืนความต้องการของร่างกายไม่ได้ อุ้มร่างอันสวยงานของเพื่อนสาวขึ้น  ตุ๊กตาเอามือคล้องคอของกริช เอาหน้าซบไปที่อกของกริช  ในห้องนอนที่ไม่มีอะไรตกแต่งนอกจากที่นอนที่วางอยู่บนพื้น กริชบรรจงวางร่างของหญิงสาวลงบนที่นอน ตุ๊กตากดหน้าของชายหนุ่มลงมาแนบที่หน้าอกทันที เธอกดหน้าให้ชายหนุ่มซุกไซร้ไปมา ก่อนที่จะมีจูบที่เผ็ดร้อน ของหญิงสาวที่มอบให้กับเพื่อนชายที่อยู่ในหัวใจส่วนลึกของเธอมาตลอด กริชบรรจงถอดกระดุมเสื้อเธอระหว่างที่เริ่มไซร้ซอกคอของหญิงสาว พอเสื้อตัวนอกหลุด ตุ๊กตากดหน้าของกริชให้ลงไปสัมผัสความนุ่มของหน้าอกที่ขาวเต่งตึงภายใต้ยกทรงตัวจิ๋ว ชายหนุ่มสัมผัสกับความหอมตรงร่องอกก่อนเอามือล้วงไปในยกทรงเพื่อสัมผัสกับเนื้อแท้ และตะขอหน้าขอยกทรงตัวจิ๋วก็ถูกปลดออกโดยมือเจ้าของเอง  พร้อมกับการแอ่นตัวเพื่อให้ชายหนุ่มสัมผัส กริชเอามือบี้ที่หัวนมสีทับทิมอย่างแผ่วเบา พร้อมกับเอาปากไปสัมผัสบนยอดเต้าที่เริ่มบานขยายรสสัมผัสของปทุมถันอีกข้าง  ตุ๊กตาเริ่มส่งเสียงครางออกมา

“คะๆๆ กริชคะอูววววว”

ก่อนที่เสียงครางจะขาดหายเพราะรสจูบของเพื่อนชาย มือของเธอโอบกอดกริชแน่น แต่มือของกริชเริ่มล้วงผ่านกางเกงผ้าที่เธอสวมมาจนสัมผัสขอบกางเกงในและล้วงผ่านเข้าไปสัมผัสกับขนอุยและกับผืนป่าที่ไม่รกทึบเท่าไหร่  ก่อนจะไปถึงเนินที่ร่องเริ่มชุ่มฉ่ำ  กริชเอานิ้วกรีดไปเบาๆทำเอาเจ้าผวาแต่กริชชักมือออกมา แล้วเลื่อนตัวไปที่ปทุมถันคู่งามอีกครั้ง สลับดูดไปมาทั้งสองข้าง  มือเลื่อนไปปลดตะขอกับซิบกางเกงของหญิงสาวก่อนที่กริชจะลุกขึ้นมานั่งดึงกางเกงออกอย่างง่ายดายและหันมาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองจนหมด ร่างของตุ๊กตาเหลือแต่กางเกงในเท่านั้นที่ติดการอยู่

กริชก้มลงไปจูบหญิงสาวอีกครั้งทั้งคู่แลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มมือของกริชข้างหนึ่งเลื่อนลงไปเพื่อฟอนเฟ้นสะโพกที่เนื้อแน่นเต่งตึงของหญิงสาว ตุ๊กตายกตัวให้ชายหนุ่มลูบคลำได้อย่างสะดวกก่อนที่ชั้นในตัวสุดท้ายจะหลุดออกจากร่าง สายตาทั้งคู่ประสานกัน แววตาของหญิงสาวนั้นทั้งอ้อนวอนและเชื้อเชิญเมื่อเห็นชายหนุ่มเริ่มมีทีท่าสับสน  ตุ๊กตาดันไหล่ของกริชลงไปเบื้องล่าง กริชหยุดตรงหน้าท้องที่แบนราบ ก่อนจูบไปมาอย่างเบาๆทั้งหน้าท้อง  แล้วค่อยลงไปที่ ผืนป่าที่ไม่รกทึบที่ได้รับการดูแลอย่างดีของเจ้าของกริชจูบไปอีกครั้งเบาๆบริเวณผืนป่าที่งดงาม    ก่อนจะฝังจมูกเข้าไปที่ร่องที่เจ้าของอ้าขารอรับอยู่  เพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่ตุ๊กตาปรารถนามากที่สุด กริชเริ่มใช้ลิ้นเลียไปมาสลับกับล้วงเข้าไปข้างใน  หญิงสาวส่ายตัวไปมาด้วยความเสียว  เพราะกริชทำให้เธออย่างเต็มใจทุกครั้งที่ผ่านมา ครั้งแรกของเธอนั้นกริชเป็นคนทำให้จนเธอติดใจผิดกับแฟนที่เธอไม่ยอมทำให้เพราะบอกว่าสกปรก แต่กลับให้เธอใช้ปากให้ฝ่ายเดียว  ตุ๊กตาครางไม่หยุดยิ่งเมื่อเจอลิ้นของเพื่อนชายสัมผัสตรงจุดที่ไวต่อความรู้สึก

“กริชคะ ทนไม่ไหวแล้ว  ทำเหอะ”

กริชเลื่อนตัวขึ้นมาเอาปากประกบกับตุ๊กตาอีกครั้ง  ก่อนจะบรรจงค่อยๆจับความเป็นชายดันเข้าไปในร่างกายของหญิงสาวที่ อ้าขารองรับด้วยความเต็มใจ ก่อนที่จะเริ่มโยกตัวไปมาอย่างช้าๆ  ช่องทางรักของตุ๊กตานั้นยังฟิตอยู่ผ่านการใช้งานมาไม่มากนั้น  ตุ๊กตานั้นตอบสนองกริชด้วยความเต็มใจมีเด้งรับการโยกตัวของกริชในบางครั้งส่วนมือนั้นป่ายไปทั้งที่นอนเพราะความเสียว  มีเสียงครางอย่างแผ่วเบาของคู่พร้อมกับเสียงโยกตัวอย่างช้าๆของกริชที่ไม่รีบเร่งในเกมส์รักครั้งนี้ พร้อมสลับกับการก้มไปจูบกับเพื่อสาวที่หลับตาพร้อมใบหน้าที่บ่งบอกถึงความเสียว  จนตุ๊กตาส่งสัญญาณออกมาเล็บของเธอจิกไปที่หลังของกริชโดยไม่รู้ตัว ร่างของเธอบิดเกร็งเด้งขึ้นรับการกระแทกครั้งสุดท้ายของชายหนุ่ม  กริชนอนทับที่ตัวของเธอโดยไม่ขยับแก้มแนบแกมพร้อมกับเสียงหายใจแรงๆของทั้งคู่ ตุ๊กตายกหน้าของเพื่อนชายขึ้นมามาแล้วบรรจงจูบไปอีกครั้ง กริชรับการจูบแต่โดยดี  ปากของทั้งคู่ประกบกันสนิทก่อนที่กริชจะพลิกตัวลงมานอนข้างๆ  เธอรีบเบียดตัวไปนอนซบไหล่ทันทีพร้อมเอามือลูบไล้ไปบนใบหน้าของกริช

“ดีขึ้นไหมกริช”

“ดี  แต่ไม่อยากให้เกิดขึ้นอีกเลย ทุกวันนี้กริชก็แทบจะไม่กล้าสู้หน้าทีแล้ว”

หญิงสาวเอานิ้วมาแตะที่ริมฝีปากของเพื่อนชายก่อนบอกมาว่า

“ขอร้องอย่าพูดถึงคนอื่น ตอนนี้มีแต่เรา ”

“แต่...........”

กริชพูดขึ้นมาได้คำเดียวหญิงสาวก็เอาปากมาประกบอีกครั้งแล้วบอกทันทีที่ถอนปากออกมา

“ไม่มีแต่กริช  ตาอยากเก็บเวลาตอนนี้ของเราให้นานเท่าที่จะนานได้นะ ขอร้องเหอะ ตอนนี้มีแต่ตากับกริชเท่านั้น”

ชายถึงไม่พูดอะไรออกมา ตาของทั้งคู่ประสานกันอีกครั้งก่อนที่ฝ่ายหญิงจะหลับตาพร้อมกอดชายหนุ่มไว้ตลอด  กริชนอนมองเพดานแบบความรู้สึกสับสน  ตลอดเวลาที่ผ่านมากริชคิดกับตุ๊กตาแค่เพื่อนเท่านั้น ไม่เคยคิดเกินเลย แต่มันก็ห้ามความต้องการของธรรมชาติไม่ได้ ทั้งๆที่รู้ว่าผิด   และฝ่ายหญิงก็รู้ดีว่าตนเองคิดยังไงกับเธอ   ทั้งๆที่หลังจากมีอะไรกันครั้งที่ 2บนที่นอนหลังนี้ ทั้งสองต่างตกลงกันว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก แต่แล้วมันก็เกิดขึ้นอีกบนที่นอนหลังเดิม  ตุ๊กตาเหมือนจะหลับไปแล้ว  กริชปล่อยให้หญิงสาวใช้ไหล่ตัวเองหนุนแทนหมอน  ก่อนที่จะเผลอหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย แต่แล้วกริชก็รู้สึกตัวขึ้นมาเมื่อรู้สึกว่าหัวนมของเองถูกริมฝีปากที่อ่อนนุ่มมาสัมผัส สลับไปมาทั้งสองข้างก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะเลื่อนลงไปที่กลางลำตัว  กริชลืมตาขึ้นทันที  และเห็น ใบหน้าของตุ๊กตากำลังก้มลงไปที่ความเป็นชายของตนเอง พร้อมเอามือจับก่อนรูดไปมา

“อะไรกันตา”

กริชร้องออกมาแต่หญิงสาวเงยหน้ามาแล้วส่งยิ้มให้ก่อนบอกว่า

“ตาจะให้ความสุขกับกริชอีกครั้ง”

ก่อนจะเอาริมฝีปากครอบไปที่ความเป็นชายของกริชที่ยังไม่แข็งตัว  เป็นอีกครั้งที่กริชเจอแบบนี้จากเพื่อนสาวหลังจากที่เจอเป็นครั้งแรกเมื่อมีอะไรด้วยกันครั้งที่แล้วและรู้พิษสงของลิ้นของตุ๊กตาเป็นอย่างดี  เธอใช้ทั้งริมฝีปากและลิ้นตวัดและเลียไปทั่วลำจนกริชแข็งตัวขึ้นอีกครั้งสลับกับการใช้ร่องของเต้าคู่งามรูดลำที่แข็งตัวของชายหนุ่ม  กริชนั้นกัดกรามแน่นพร้อมกับเสียงส่งเสียงครางต่อเนื่องพร้อมกับนึกว่า  ตุ๊กตาจะให้ตัวเองปล่อยน้ำรักออกมาในปากเหมือนครั้งที่แล้วหรือไม่   แต่ผ่านไปได้สักพักหญิงสาวได้หยุดใช้ลิ้น  ก่อนลุกมาคร่อมและหย่อนกายเอาเนินที่สวยงามลงมาครอบพร้อมกับเอามือของชายหนุ่มให้มาสัมผัสกับหน้าอกที่งดงามของเธอ แล้วเริ่มโยกตัวไปมาพร้อมกับเสียงครางที่แผ่วเบา  กริชนั้นเอามือลูบคลำสลับกับบี้ตรงส่วนยอดของปทุมถันของเธอเป็นการสร้างรสชาติให้กับตุ๊กตาได้อย่างดี  เธอโยกไม่หยุดให้สมกับความตั้งใจของเธอ ยิ่งพอรู้ว่าจะถึงจุดหมายตุ๊กตายิ่งเร่งจังหวะขึ้นจนตัวเธอเกร็งอีกครั้งพร้อมภายในที่ตอดรัดและรับน้ำอุ่นๆจากกริชอีกครั้ง 

ก่อนที่เธอจะเป็นฝ่ายนอนซบบนตัวของกริช และเอาปากมาทาบกริชอีกครั้ง แล้วถึงพลิกตัวมานอนซบกริชเหมือนเดิม  มือของเธอลูบไปตามอกของกริชแล้วบอกว่า

“กริชไม่ต้องกังวลนะเรื่องนี้  ตาจะทำตามที่เคยบอกไว้และสัญญาจริงๆว่า ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของเราแล้ว ต่อไปเราจะเป็นเพื่อนจริงๆ ไม่ใช่เพื่อนกันแบบนี้ ตารับปาก  เพราะอีก 2เดือนตาจะหมั้นกับทีแล้ว”

กริชหันไปมองที่หญิงสาวทันทีและถามว่า

“แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”

“ยังจำที่ตาเคยบอกความรู้สึกของตาให้กริชฟังได้ไหม”

เมื่อเห็นกริชพยักหน้าเธอพูดต่อไปว่า

“ทั้งๆที่ตาพยายามตัดใจแต่มันก็ทำไม่ได้ สิ่งเดียวที่จะทำให้ตาไม่รักกริชไปมากกว่านี้คือตาต้องหมั้นเพื่อเตรียมที่จะแต่งงานกับที  มันจะเป็นทางที่ดีที่สุดของตา  เพราะอยากน้อยตาจะทำอะไรต่อไปหรือนึกอะไร ตาก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว  แต่วันนี้ตาขอทำตามใจ ตามความต้องการของตาเป็นครั้งสุดท้าย”

เธอพูดจบเธอก็ชะโงกหน้ามาหอมแก้มของกริช  ก่อนที่จะลุกขึ้นและหยิบเสื้อผ้าเดินไปที่ห้องน้ำชั้นบน ปล่อยให้กริชนอนจมอยู่กับความคิดที่สับสนไปหมด เมื่อหญิงสาวชำระร่างกายและแต่งตัวเสร็จเธอเดินมาหากริชที่ลุกขึ้นนั่งบนที่นอน ตุ๊กตานั่งข้างก่อนหอมแก้มกริชทั้งสองข้างและปิดท้ายด้วยการจูบอย่างดูดดื่ม

“เราจะเป็นเพื่อนกันตลอดไปกริช เรื่องวันนี้กริชจะลืมก็ได้ตาไม่ว่า  แต่ตาจะไม่ลืมแต่จะเก็บไว้ในส่วนลึกที่สุด อีกอย่างตาเห็นว่ากริชตอนนี้ภายนอกดูสดใสแต่จริงๆแล้วใจของกริชยังเศร้าอยู่ อันไหนที่ปล่อยวางก็ปล่อยได้นะ  กริชไม่ได้ต่ำต้อยกว่าใครๆ อย่าเอาตรงนั้นมาเป็นปมปิดกั้นตัวเองไม่เปิดใจให้ใคร  อย่าเอาไปเปรียบกับพี่ๆของกริชและอย่าน้อยใจพ่อ  ตาว่าพ่อของกริชต้องมีเหตุผลของเค้าอยู่เหมือนกัน ทุกวันนี้ใครๆก็ยอมรับฝีมือของกริชว่าเก่งขนาดไหน เป็นดาวรุ่งที่ใครๆจับตามอง อย่าจมกับความทุกข์อยู่เลยกริชตาขอร้องนะ  กริชลองไปคิดดู ตาไปละฝันดีนะ”

แต่พอเห็นชายหนุ่มทำท่าจะลุกขึ้นเธอเอามือกดที่ไหล่และส่ายหน้า พร้อมบอกว่า

“ไม่ต้องไปส่งหรอกตาไปเอง นอนพักเหอะรู้ว่าเหนื่อยมาก  ตาปิดไฟกับล็อกบ้านให้เอง  นอนหลับให้สนิทนะตื่นมาจะได้ปลอดโปร่ง”

ก่อนที่เธอจะลุกขึ้นยืน  เธอหอมแก้มของกริชอีกครั้งและเดินไปที่ประก่อนหันมายิ้มให้ก่อนเดินออกไป  หลังจากประตูห้องนอนปิดแล้วกริชหยิบกางเกงมาสวมก่อนเดินไปที่ห้องนอนที่เคยเป็นห้อของแม่ที่อยู่ด้านหน้าบ้านมองไปที่หน้าต่างเห็นหญิงสาวที่เดินออกจากประตูรั้วและมองขึ้นมาบนบ้านอยู่พักใหญ่ และทำท่าเหมือนจะตัดใจก่อนขึ้นรถขับออกไป  กริชเดินกลับมาที่ห้องนอนอีกครั้งและนั่งลงกับพื้น มองไปรอบๆห้อง  และจมตัวเองลงไปกับความคิดที่สับสน เช่นเดียวกับหญิงสาวที่ขับรถไปพร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลออกมา เพราะรู้ว่าไม่ว่าจะทำอย่างไรเธอไม่มีวันได้หัวใจของกริชมาครอบครอง

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 31, 2017, 10:03:29 pm โดย twintower »

*

ออฟไลน์ thanee

  • Junior Member
  • ***
  • 261
  • 238
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มกราคม 04, 2017, 05:42:33 pm »
ผมนั่งอ่านไปด้วย น้ำตาคลอไปด้วย เพราะรู้สึกสงสายกริช ที่มีปมด้อย และสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปถึง2คน  ::Crying::
แต่ผมก็หวังว่านายกริช คงจะไม่จมปลักกับอดีตที่เจ็บปวดอีกแล้ว ( ของคุณผู้แต่งเรื่องราวด้วยครับ แต่เนื้อเรื่องได้ดีมากๆ ผมรอ ตอนต่อไปอยู่นะครับ )

*

ออฟไลน์ zasde

  • Junior Member
  • ***
  • 297
  • 1
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: มกราคม 04, 2017, 08:55:59 pm »
ขอบคุณครับ
สนุกมากเลย เนื้อเรื่องหนักตั้งแต่ตอนแรกเลย จะรอติดตามตอนต่อไปครับ

*

ออฟไลน์ Pongsathorn Weerahong

  • Senior Member
  • ****
  • 602
  • 0
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #3 เมื่อ: มกราคม 04, 2017, 10:19:23 pm »
ขอบคุณ สำหรับเนื้อหาดีๆที่แต่งมาให้อ่าน อ่านครบทุกตัวอักษร คล้อยตามไปกับตัวละครเลยครับ รอตอนต่อๆไปครับ

*

ออฟไลน์ savana911

  • Gold Member
  • *****
  • 1100
  • 290
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #4 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 12:03:03 am »
น่าอ่านมากครับ มีดราม่าด้วย

*

ออฟไลน์ biochem

  • Junior Member
  • ***
  • 401
  • 353
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #5 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 01:27:25 am »
ขอบคุณมากครับ

เนื้อเรื่องแบบนี้ ไม่ได้ทำให้ความอยากอ่านลดลงสักนิดครับ น่าอ่านมากๆ เหมือนเคย

ขอติดตามเรื่องนี้ และรอราคะฯ อย่างใจจดใจจ่อนะครับ

*

ออฟไลน์ thaint

  • Junior Member
  • ***
  • 443
  • 516
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #6 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 04:38:39 am »
ดรามานิดๆ ชอบครับ
ติดตามผลงานของท่าน twin tower อยู่
ขอบคุณมากครับ

*

itschelsea11

Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #7 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 05:52:52 am »
เป็นเรื่องที่ดึงอารมณ์ได้เศร้ามากครับ แต่ยิ่งอ่านยิ่งอยากรู้ตอนต่อไปซะแล้วสิครับ

*

ออฟไลน์ swss2511

  • Ultimate Member
  • ********
  • 4763
  • 734
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #8 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 09:12:37 am »
เพื่อนแท้ที่พร้อมช่วยเหลือกันได้ทุกเรื่อง. กริชคงต้องปล่อยวางเสียบ้างจะได้หายทุกข์ใจเสียที

*

ออฟไลน์ akepong

  • Gold Member
  • *****
  • 1151
  • 337
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #9 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 11:24:56 am »
ชอบงานเขียนสไตล์นี้มากครับ ไม่ต้องมีอีโรคิคมาก แต่อ่านเพลิน ได้มุมมองอะไรหลายๆอย่างดีครับ  ขอบคุณผู้เขียนมากนะครับที่เขียนเรื่องดีๆมาให้ตามกันเรื่อยๆ

*

ออฟไลน์ elviswhat

  • Ultimate Member
  • ********
  • 3004
  • 988
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #10 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 03:25:42 pm »
สงสารกริชมาจับใจ จากทางฝั่งพ่อ แต่ก็เห็นใจนะครับ อย่าเอาปมมาปิดกั้นตัวเองเลย

*

ออฟไลน์ ood_aspire

  • Full Member
  • **
  • 150
  • 68
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #11 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 04:21:57 pm »
อ่านเพลินเลยครับ เนื้อเรื่อง การบรรยาย อ่านไปจนลืมเรื่องเสียวไปเลย ดีครับชอบๆ ::Shy::  ติดตามรออ่านตอนต่อไปครับ ::Thankyou:: ::Thankyou:: ::Thankyou::

*

ออฟไลน์ kabyala

  • Gold Member
  • *****
  • 1321
  • 1047
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #12 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 05:08:48 pm »
นี้ละครับที่เขาบอกกันว่าผู้ชายก็ร้องไห้เป็น แต่ไม่ใช่ร้องฟูมฟายมันร้องอยู่ข้างใน ยอดมากครับที่บรรยายตัวอักษรออกมาจนทำให้คนอ่านหัวทื้อๆแบบผมรับรู้อารมณ์ความรู้สึกของกริชได้ ขอบคุณครับ

*

ออฟไลน์ biggiggog

  • Ultimate Member
  • ********
  • 3954
  • 1288
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #13 เมื่อ: มกราคม 05, 2017, 09:40:37 pm »
เล่นเอาเคลิ้มตามเลย  ::Foo::
ขอบคุณมากๆครับ

*

ออฟไลน์ fantastica

  • Gold Member
  • *****
  • 1080
  • 421
    • ดูรายละเอียด
Re: ทางเดินที่เลือก 1
« ตอบกลับ #14 เมื่อ: มกราคม 06, 2017, 12:58:45 am »
ชอบอ่านเรื่องของคุณจริง เป็นดราม่าเสียวตลอด

 

ช่องทางแจ้งข่าวเผื่อโดนปิด ติดตามไว้นะ