ลูกมังกรหยก ภาค พิสดาร ดัดแปลงโดย wattana2015แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เซียวเหล่งนึ่ง
ลูกมังกรหยก ภาคพิสดาร ตอนที่ 5 เปิดตัวสำนักสุสานโบราณความเดิม อึ้งย้งเองก็เงี่ยนง่านหงี่จนทนมาไหวน้ำแตกตามเจ้าเด็กแสบเอี้ยก้วยไปในเวลาไล่เลี่ยแทบจะในทันที นางเอง ก็รีบขมิบหีดูดตอดรัดควยของเอี้ยก้วยเมื่อนางถึงจุดสุดยอดครั้งแรกในรอบหลายเดือน เมื่อคลายความอยากในตัณหาลดลงแล้วนางก็ดันร่างของเด็กแสบเอี้ยก้วยออกไป ก่อนจะรีบหลบหน้าด้วยความเขิน ยังไงๆนางก็มีฐานะเป็นป้าของมันแม้จะไม่ใช่ป้าแท้ๆก็เถอะ.... ณ เขากังหนำด้านหน้านั้นเป็นที่ตั้งของสำนักช้วนจินก่าอันอันเลื่องชื่อในแผ่นดิน และในส่วนด้านหลังเขากังหนานั้นยังเป็นที่ตั้งของสำนักสุสานโบราณอันเป็นสถานที่ปกปิดมีสถานที่ไม่แจ้งในยุทธภพ อีกทั้งในอดีตเคยเป็นสถานที่ส่วนหนึ่งของสำนักช้วนจินก่า เพราะเป็นสถานที่อดีตปรมาจารย์เฮ้งต้งเอี้ยงผู้ก่อตั้งสำนักช้วนจินก่าเป็นผู้สร้างไว้ จึงได้มีสถานะได้รับการปกป้องจากสำนักช้วนจินก่าหนึ่งในสำนักฝ่ายธรรมะที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของยุทธภพ อันตำแหน่งของสำนักสุสานโบราณนั้นอยู่ในส่วนของเขาปกปิดด้านหลังสนามฝึกของสำนักช้วนจินก่า เขตที่ตั้งสำนักสุสานโบราณนั้นถือเป็นเขตต้องห้ามมิให้คนในสำนักช้วนจินก่าทุกคนไปล่วงล้ำตามคำสั่งเสียของท่านปรมาจารย์เฮ้งต้งเอี้ยง
ทั้งสำนักช้วนจินก่าและสำนักสุสานโบราณนั้นก่อตั้งในสมัยต้นราชวงศ์ซ่งใต้โดยเจ้าสำนักเฮ้งต้งเอี้ยงที่เดิมทีนั้นก่อตั้งเพื่อต่อต้านทหารกิมก๊กที่เข้ามาข่มเหงชาวบ้านอยู่เนืองๆ เพื่อช่วยชาวบ้านให้อยู่อย่างสงบสุขและต่อสู้ขัดขวางและขับไล่กิกก๊กที่ฉวยโอกาสเข้ามารุกราน สำนักยึดถือแต่ความเป็นจริงมุ่งศึกษาหาหนทางหลุดพ้นจึงเน้นไปทางลัทธิเต๋าแบบสำนักพรต ด้านวรยุทธนั้นถือว่าช้วนจินก่านั้นยอดเยี่ยมลึกล้ำถูกยกย่องให้เป็นสำนักฝ่ายธรรมะและเป็นหนึ่งในแผ่นดิน วิชาที่มีชื่อเสียงของสำนักนั้นคือวิชาค่ายกระบี่เจ็ดดาวเหนือช้วนจินก่าที่บัญญัติโดยปรมาจารย์เฮ้งต้งเอี้ยงที่เคยเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งแห่งแผ่นดินในยุค เนื่องมาจากการประลองเพลงกระบี่ที่เขาหัวซานกับสี่ยอดฝีมือของยุทธภพอันได้แก่ มารบูรพา พิษปัจฉิม ราชันทักษิณ ยาจกอุดร จนได้รับชัยชนะเป็นยอดฝีมืออันดับหนึ่งของแผ่นดินนั่นเอง ไม่มีสำนักอื่นใดหาญกล้ามาต่อกรกับช้วนจินก่าแต่อย่างใด
ที่มาของสำนักสุสานโบราณนั้นก่อตั้งมาจากปรมาจารย์หญิงท่านหนึ่งซึ่งอยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกับปรมาจารย์เฮ้งต้งเอี้ยง ซึ่งนางนั้นมีวรยุทธ์สูงส่งเช่นเดียวกับเฮ้งต้งเอี้ยงนามของนางลิ้มจิวเอง นางนั้นมีวรยุทธ์พอๆกับเฮ้งต้งเอี้ยงที่มีวรยุทธ์อันดับหนึ่งของแผ่นดิน แต่วรยุทธ์ทั้งสองไม่อาจทำการระบุชัดเจนลงไปได้ว่าใครเหนือกว่าใคร อีกทั้งฝ่ายเฮ้งต้งเอี้ยงนั้นวุ่นวายกับภารกิจต่อต้านทหารกิกก๊กผู้รุกรานจึงไม่มีเวลาฝึกปรือวรยุทธ์ทำให้วรยุทธ์ของลิ้มจิวเองเหนือกว่าเฮ้งตงเอี้ยงอยู่ขั้นหนึ่ง แต่ด้วยเหตุว่านางนั้นไม่เคยออกไปท่องยุทธภพภายนอกคนในยุทธภพจึงไม่มีใครรู้จักนาง เวลาต่อมาการต่อต้านทหารกิมก๊กนั้นล้มเหลวเฮ้งต้งเอี้ยงจึงกลับมาเก็บเพื่อฝึกวิชาอยู่ภายในสุสานแห่งนี้การประลองครั้งนี้เฮ้งต้งเอี้ยงเป็นฝ่ายเหนือกว่า จนในที่สุดทั้งคู่ก็ตกลงที่จะประลองชี้ขาดกันอีกครั้งในครั้งนี้กลับเป็นเฮ้งต้งเอี้ยงที่เป็นฝ่ายปราชัยจึงได้มอบสุสานแห่งนี้ให้กับนาง นางจึงได้ก่อตั้งสำนักสุสานโบราณนี้ขึ้นมาแต่นั้น หลังจากนั้นที่ตั้งสำนักสุสานโบราณแห่งนี้ก็แยกออกจากการที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสำนักช้วนจินก่ามาเป็นอีกสำนักโดยเอกเทศแต่กลับไม่เป็นที่รู้จักในยุทธภพแต่อย่างใดด้วยเหตุนี้
ในสำนักสุสานโบราณนับแต่ปรมาจารย์ลิ้มจิวเองนั้นผู้ก่อตั้งมานั้นมีผู้สืบทอดมาเพียงสามรุ่นเท่านั้น คือรุ่นแรกปรมาจารย์ลิ้มจิวเอง รุ่นที่สองคือศิษย์ของนาง และรุ่นที่สามนั้นคือลีมกโช้วและเซียวเหล่งนึ่ง โดยที่ทั้งหมดในสำนักล้วนแล้วแต่เป็นสตรีทั้งสิ้น โดยเฉพาะรุ่นที่สามของสำนักล้วนเป็นสตรีที่สวยงดงามปานนางฟ้าทั้งสิ้นไม่ว่าจะลีมกโช้วหรือเซียวเหล่งนึ่งศิษย์ผู้น้อง
ตอนนี้จะขอแนะนำตัวละครฝ่ายหญิงจากสำนักสุสานโบราณกันคร่าวๆก่อนละกันนะครับ จะมีการเกริ่นปูเรื่องไปก่อน ยังไม่บทเสียวแต่อย่างใด ถ้าใครไม่ชอบก็อ่านข้ามได้ครับไม่ว่ากัน แต่ท่านก็จะไม่รู้ที่มาของตัวละครเอกของฝ่ายหญิงอีกสองตัวทั้งนางเอกและนางร้ายของภาคนี้ ตอนนี้จะเกริ่นให้ทราบที่มาของตัวเอกสองคนให้คนที่ไม่ใช่แฟนนิยายท่านกิมย้งทราบเป็นหลักนะครับ ส่วนท่านที่เป็นแฟนมังกรหยกจะรู้เรื่องพวกนี้ดีอยู่แล้วครับ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ลี้มกโช้ว
ลี้มกโช้ว เป็นศิษย์ผู้พี่สำนักสุสานโบราณ รุ่นที่ 3 ฉายา “เชียะเลี่ยงเซียนจื้อ” หรือ "เทพธิดาไหมแดง" เป็นศิษย์ผู้พี่ของเซียวเหล่งนึ่ง ลี้มกโช้วนั้น เดิมที่นางเป็นหญิงสาวที่งดงามนุ่มนวล ได้มาพบรักกับ เล็กเต็งง้วนแต่แล้วทุกสิ่งก็เปลี่ยนไปเมื่อความรักไม่สมหวัง นางถูกพิษแห่งความรักกัดกร่อนจิตใจจนกลายเป็นนางมารร้ายคนหนึ่งของยุทธภพ เป็นหญิงสาวที่มีความชั่วร้ายอำมหิตยากจะหาใครเทียบเทียม
ลี้มกโช้วแม่จะเป็นมารร้าย แต่สุ้มเสียงนางอ่อนโยนนุ่มนวล ท่าทางแช่มช้อยงดงาม บวกกับตาดำขลับฟันขาวสะอาด ผิวพรรณละเอียดอ่อน อยู่ในชุดนักพรตสีเหลืองอ่อน นับเป็นหญิงงามที่โดดเด่น เพียงแต่จิตใจภายในกลับไม่ได้งดงามตามรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งนี้ก็เนื่องจากพิษแห่งความรักที่มักแปรเปลี่ยนผู้คน วรยุทธของลี้มกโช้วมีพื้นฐานมาจากวิชาของสำนักสุสานโบราณ โดดเด่นที่วิชาแซ่ปัดที่อ่อนนุ่มแต่บังคับได้ดังใจ และด้วยความสามารถของนาง นางยังสามารถบัญญัติวิชาฝ่ามือเบญจพิษขึ้น ซึ่งเป็นวิชาฝ่ามือที่รุนแรง เป็นที่ครั่นคร้ามแก่ชาวยุทธจักรยิ่งนัก นอกจากนี้ยังมีอาวุธลับคือ เข็มเงินน้ำแข็งเย็นที่มีพิษรุนแรงร้ายกาจ แค่เพียงสัมผัสก็สร้างความปวดร้าวสุดทนทาน หากถูกแทงเข้าไปย่อมไม่สามารถมีชีวิตสืบต่อ
ทุกครั้งที่ลี้มกโช้วจะลงมือ จะประทับรอยฝ่ามือสีแดงไว้เท่ากับจำนวนคนที่ต้องสังหาร และมักจะลงมือในช่วงเวลารุ่งสาง ความอำมหิตของนางมีมาให้เห็นตั้งแต่เริ่มปรากฏตัว นางก็ลงมือสังหารสาวใช้ของเล็กลิบเตี้ยไปสามคนรวด หลังจากนั้นก็สังหาร เล็กลิบเตี้ยกับภรรยา และยังไล่ล่าพยายามสังหาร เทียเอ็งและเล็กบ่อซัง ซึ่งในเวลานั้นมีอายุเพียงเก้าขวบเท่านั้น
ลี้มกโช้วมีศิษย์อยู่สองคน คนแรกคืออั้งเลงปอ ซึ่งถือเป็นสาวสวยอีกคนหนึ่ง แต่นิสัยก็ไม่ได้ดีไปกว่าผู้เป็นอาจารย์เท่าไหร่ คนที่สองคือเล็กบ่อซัง นางเป็นเด็กที่ถูกลี้มกโช้วสังหารบิดามารดา แต่กล้ำกลืนความแค้นแกล้งทำดีต่อนาง เพื่อรักษาชีวิตไว้ รอคอยโอกาสล้างแค้น ภายหลังเล็กบ่อซังก็หนีออกมาได้ ส่วนอั้งเลงปอก็เสียชีวิตด้วยน้ำมืออาจารย์ผู้เหี้ยมโหด ลีมกโช้วนั้นนางมีวลีอมตะประจำตัวอยู่ว่า “ถามไถ่ทั่วโลกหล้า อันว่ารักเป็นฉันใด จึงได้มอบแก่กันด้วยชีวิต" เซียวเหล่งนึ่ง ไม่ทราบบิดามารดา เซียวเหล่งนึ่งถูกทิ้งไว้นอกนอกตำหนักเต้งเอี้ยงของสำนักช้วนจินก่าตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่ตำหนักเต้งเอี้ยงเป็นสถาบันพรต ย่อมไม่สะดวกกับการเลี้ยงดูเด็กทารก บังเอิญสาวใช้ของลิ้มจิวเองผ่านมาเห็น ด้วยความเวทนาจึงได้รับอุปการะไว้ นำกลับไปเลี้ยงดูที่สุสานโบราณและรับเป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาให้ สตรีแซ่เล้งมีนามว่ากระไร บุคคลภายนอกย่อมไม่อาจทราบได้ จึงเรียกขานนางเป็น เซียวเหล่งนึ่ง ซึ่งแปลว่า ธิดามังกรน้อย เซียวเหล่งนึ่งปรากฏตัวครั้งแรกให้ผู้อ่านได้ยลโฉม ด้วยฉากในสุสานโบราณ ตอนที่ยายซุนสาวใช้ของนาง นำเอี้ยก้วยมารักษาอาการพิษจากผึ้งหยก โดยกิมย้งท่านได้บรรยายไว้ว่า นางอยู่ในชุดสีขาวราวแพรเบาบางห่อหุ้มคลุมกาย คล้ายกับเรือนร่างอยู่ท่ามกลางหมอกควัน นอกจากผมเผ้าที่ดำขลับ ตลอดทั้งร่างขาวผ่องราวหิมะ วงหน้างามพิลาสล้ำเหนือหญิงใดในโลกหล้า เมื่อเอี้ยก้วยได้เห็นถึงกับรู้สึกว่าสตรีนางนี้สดใสสะคราญ จนไม่อาจจับจ้องมองตรง ๆ
ที่มาเซียวเหล่งนึ่ง ไม่ทราบบิดามารดา เซียวเหล่งนึ่งถูกทิ้งไว้นอกนอกตำหนักเต้งเอี้ยงของสำนักช้วนจินก่าตั้งแต่ยังเป็นทารก แต่ตำหนักเต้งเอี้ยงเป็นสถาบันพรต ย่อมไม่สะดวกกับการเลี้ยงดูเด็กทารก บังเอิญสาวใช้ของลิ้มจิวเองผ่านมาเห็น ด้วยความเวทนาจึงได้รับอุปการะไว้ นำกลับไปเลี้ยงดูที่สุสานโบราณและรับเป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาให้ สตรีแซ่เล้งมีนามว่ากระไร บุคคลภายนอกย่อมไม่อาจทราบได้ จึงเรียกขานนางเป็น เซียวเหล่งนึ่ง ซึ่งแปลว่า ธิดามังกรน้อย เซียวเหล่งนึ่งปรากฏตัวครั้งแรกให้ผู้อ่านได้ยลโฉม ด้วยฉากในสุสานโบราณ ตอนที่ยายซุนสาวใช้ของนาง นำเอี้ยก้วยมารักษาอาการพิษจากผึ้งหยก โดยกิมย้งท่านได้บรรยายไว้ว่า นางอยู่ในชุดสีขาวราวแพรเบาบางห่อหุ้มคลุมกาย คล้ายกับเรือนร่างอยู่ท่ามกลางหมอกควัน นอกจากผมเผ้าที่ดำขลับ ตลอดทั้งร่างขาวผ่องราวหิมะ วงหน้างามพิลาสล้ำเหนือหญิงใดในโลกหล้า เมื่อเอี้ยก้วยได้เห็นถึงกับรู้สึกว่าสตรีนางนี้สดใสสะคราญ จนไม่อาจจับจ้องมองตรง ๆ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เซียวเหล่งนึ่ง
ความงามของเซียวเหล่งนึ่ง
เซียวเหล่งนึ่งนั้นมีใบหน้าดูสงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ดังหิมะ และเย็นชาราวน้ำแข็ง เอี้ยก้วยเองยังเคยครุ่นคิดว่าสตรีนางนี้ สร้างจากแก้วผลึก หรือว่าเป็นมนุษย์หิมะหรืออย่างไร ที่แท้เป็นคนหรือภูตผี หรือว่าเป็นเทพธิดาสวรรค์กันแน่ มิใช่เพียงแต่เฉพาะกับเอี้ยก้วยเท่านั้น ไม่ว่ากับผู้ใดทุกครั้งที่นางปรากฏกาย ล้วนตรึงสายตาผู้คนให้จับจ้อง กิมย้งได้บรรยายถึงความงามของนางไว้ในหลายฉากหลายตอน ดังเช่นเมื่อครั้งที่เซียวเหล่งนึ่งปรากฏตัวที่งานชุมนุมชาวยุทธ ได้หยุดสายตาของเหล่าชาวยุทธที่มาร่วมงานให้จับจ้องไปที่นาง
กิมย้งได้บรรยายในตอนนี้ว่า
ชนชาวโลกมักใช้คำ งดงามปานเทพธิดา เปรียบเปรยความงามของอิสตรี แต่ที่แท้เทพธิดางามสะคราญปานใด ไม่ว่าผู้ใดก็ไม่ทราบ แต่พอได้เห็นเซียวเหล่งนึง ในใจผู้คนล้วนประหวัดนึกถึงคำงดงามปานเทพธิดา ซึ่งมีผิวขาวผ่อง รอบกายคล้ายปกคลุมด้วยหมอกบางเบา คล้ายจริงคล้ายมายา หาใช่คนในโลกีย์วิสัยไม่ (เล่ม 2 หน้า 113)
บุคลิกลักษณะนิสัย
นอกจากความงามที่เหนือจากมนุษย์ทั่วไปแล้ว นางยังมีบุคลิกที่โดดเด่นแปลกพิสดาร เนื่องด้วยนางเติบโตมาในสุสานโบราณ จากการเลี้ยงดูของอาจารย์และยายซุน ผ่านชีวิตราวกับน้ำนิ่งไม่กระเพื่อม ไม่เคยได้ออกมาสู่โลกภายนอก จึงไม่รู้จักขนบธรรมเนียมใดๆ ประกอบกับอาจารย์ให้นางฝึกวิชากำลังภายในตั้งแต่เล็ก สั่งนางขจัดซึ่งอารมณ์ยินดี เดือดดาล โศกเศร้า สุขสันต์ หากเห็นนางหัวเราะหรือร้องไห้จะลงโทษ ดังนั้นจึงเพาะสร้างเป็นนิสัยสันโดษเย็นชา ความรู้สึกต่างๆบังเกิดขึ้นในจิตใจก็ผ่านเลยไป ล้วนไม่ผ่านการแสดงออกทางสีหน้า แต่ภายหลัง หลังจากเอี้ยก้วยเข้ามา ทำให้ความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไป นางเริ่มมีจิตใจที่พลุกพล่านในบางครั้ง นิสัยที่เยือกเย็นไร้ความรู้สึกก็ถูกบั่นทอนลง เซียวเหล่งนึ่งเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก แต่ก็มิใช่คนโง่ บุคลิกที่โดดเด่นอีกอย่างของนางคือความใจเย็น มีสมาธิที่แน่วแน่ ทั้งดูสง่าน่าเลื่อมใสและดูน่าทะนุถนอมในเวลาเดียวกัน บุคลิกที่สง่างามของเธอนั้นติดตัวเธออยู่ตลอดเวลา ทั้งเวลาพูดจา เวลาต่อสู้ หรือแม้กระทั่งเวลานอนก็ยังคงดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ โดยนางจะนอนบนเส้นเชือก ซึ่งเริ่มนอนแบบนี้ตั้งแต่เอี้ยก้วยเข้ามาในสุสานโบราณ นางยกเตียงหยกเย็นให้เอี้ยก้วย ตัวเองเลยใช้เส้นเชือกแทนเตียง และก็นอนแบบนี้เรื่อยมา
วรยุทธ
ในด้านวรยุทธ นางก็มีวรยุทธที่ไม่ธรรมดา วิชาของสำนักสุสานโบราณเป็นวิชาของ ลิ้มเฉียวเอ็ง ยอดจอมยุทธหญิงในยุคก่อน มีวิชาที่หลากหลายทั้ง กระบี่ ฝ่ามือ อาวุธลับ และวิชาตัวเบาที่สูงส่งไม่เป็นสองรองใครในยุทธภพ ยังวิชาสุดยอดอย่างวิชาใน คัมภีร์สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ (คัมภีร์สาวหยก สตรีหยกก็ว่า) นางยังได้นอนเตียงหยกเย็นตั้งแต่เด็กจนมีพลังภายในสูงส่ง อีกทั้งยังได้ฝึกวิชาเก้าอิมจินเก็งบางส่วนที่เฮ้งเต็งเอี๊ยงสลักไว้บนเพดานในสุสานโบราณอีกด้วย ภายหลังยังคงได้เรียนวิชาสองมือขัดแย้งจากจิวแป๊ะทง ทำให้สามารถใช้วิชากระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ ด้วยตัวคนเดียวได้ นับเป็นวิชาที่ไม่มีใครเคยใช้มาก่อน มีความว่องไวสุดเปรียบปราน
อาวุธประจำกาย
สายรัดแพรสีขาว 2 เส้น ส่วนปลายผูกไว้ด้วยลูกกลมสีทอง เวลาขยับจะมีเสียงดัง ติ๊กๆ แม้ไม่ดังนัก แต่เวลาใช้ในการต่อสู้สามารถคุกคามจิตใจคนได้ สายรัดนี้คล่องแคล่วปราดเปรียวดุจอสรพิษ สามารถวกอ้อมได้กลางอากาศ บังคับลดเลี้ยวได้ดังใจปรารถนา เป็นอาวุธที่สวยงามและประหลาดยิ่ง ถุงมือถักทอจากเส้นใยทองคำขาวอันเล็กละเอียดและหยุ่นเหนียว เป็นสิ่งที่อาจารย์ของอาจารย์ (ลิ้มเฉียวเอ็ง) ตกทอดทิ้งไว้ แม้อ่อนนุ่มเบาบาง แต่ดาบหรือทวนมากระทบก็ไม่ระคาย เข็มผึ้งหยก เป็นอาวุธลับพิเศษเฉพาะของสำนักสุสานโบราณ โดยเป็นเข็มทองที่เล็กละเอียดดุจขนวัว ประกอบด้วยทองคำหกส่วน ผสมกับเหล็กกล้าสี่ส่วน ที่เหล็กในของผึ้งหยกผ่านการแช่น้ำพิษ แม้นมีขนาดเล็ก แต่เนื่องด้วยทองคำมีน้ำหนักมาก ขณะที่ซัดสามารถออกพุ่งไปได้ไกล
เซียวเหล่งนึ่ง เวอร์ชัน หลิวอี้เฟย ในปี 2006 เซียวเหล่งนึ่งคนล่าสุด ที่แสดงโดยหลิวอี้เฟยได้สร้างความสนใจไม่น้อย เนื่องจาก กิมย้ง ได้ออกปากว่า หลิวอี้เฟยเป็นเซียวเหล่งนึ่งที่ใกล้เคียงจินตนาการของท่านมากที่สุด ทำให้หลิวอี้เฟยเป็นที่จับตามอง มีเสียงวิภาควิจารณ์ต่างๆมากมาย ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บ้างว่าเธอดูเด็กเกินไป บ้างว่าความสามารถทางการแสดงยังไม่ถึง บ้างก็ชื่นชมบอกว่าเป็นเซียวเหล่งนึ่งที่หลุดออกมาจากนิยายเลยทีเดียว ถ้าพูดถึงตามบทแล้วหน้าตาหลิวอี้เฟยในช่วงแรกก็ไม่ถือว่าเด็กไป เพราะในช่วงที่เซียวเหล่งนึ่งเปิดฉากออกมา นางอายุได้ 18 ปี ในขณะที่หน้าตายังอยู่ที่ประมาณ 16-17 ซึ่งหน้าตาที่อ่อนวัยของหลิวอี้เฟยก็ค่อนข้างจะตรง แต่ถ้าเปรียบเทียบในแง่ความรู้สึก เธอก็อาจจะดูเด็กไปจริงๆ ในด้านเสื้อผ้าที่ใช้ในภาคนี้มีความหรูหราอลังการ ค่อนข้างจะพิถีพิถัน มีรายละเอียดมาก และได้ออกแบบให้ดูทันสมัย มีกลิ่นอายทางยุโรปเข้ามาผสมอย่างลงตัว ถ้าพูดถึงความสมจริง ออกจะดูหรูหราผิดจากความเป็นจริงไปหน่อย แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามแล้วหลายคนก็ให้ความเห็นว่าสวยงามตระการตาดีทีเดียว อีกส่วนหนึ่งที่หลายคนพูดถึงคือฉากต่อสู้ ในเวอร์ชันนี้มีการลงทุนสูงเทคนิคการถ่ายทำก็พัฒนาขึ้น เมื่อรวมกับความสามารถของหลิวอี้เฟยในการเต้นบัลเล่ต์ ทำให้ท่วงท่าในการต่อสู้ต่างๆออกมาอ่อนช้อยพลิ้วไหวสวยงาม ถือเป็นอีกจุดเด่นของเซียวเหล่งนึ่งภาคนี้ โดยรวมก็ถือเป็นเซียวเหล่งนึ่งอีกเวอร์ชันที่น่าดู ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างออกไปจากเวอร์ชันก่อนๆ
รายละเอียดตอนนี้ส่วนมากเอามาจากวิกีพีเดียนะครับบอกตรงๆก็แล้วกัน แต่ไม่ทั้งหมดมีที่ผมปูพื้นเรื่องด้วยบางส่วนครับเข้าใจกันนะครับท่านผู้อ่าน ^_^