หัวใจรักที่ปิดตาย (6)

ในวันต่อมาแพงนั้นอบรมทั้งวัน  แต่ช่วงพักกลางวันเธอได้แอบมองหายูแต่ก็ไม่เจอ  เพราะยูนั้นไปประชุมที่สถานทูตสเปน เมื่อคืนแพงนั้นได้ใคร่คำพูดครวญอะไรบางอย่างที่ได้ฟังจากยู เธอนั้นบอกยูไม่หมด เพราะทั้งพ่อและแม่เธอเกษียณทั้งคู่   พ่อของแพงนั้นทุกวันนี้ไปดูแลสวนที่เมืองนนท์มีที่อยู่ประมาณ 5-6 ไร่  ส่วนแม่ของเธอนั้นทางโรงเรียนยังจ้างพิเศษให้ไปช่วยสอนภาษาอังกฤษอยู่ แต่การที่เธอได้กลับมาคราวนี้แม้จะเป็นช่วงสั้นๆแต่มันก็สร้างความอบอุ่นให้กับเธอได้อย่างดี  จนเธออยากให้ระยะเวลา 1 อาทิตย์นี้ยืดยาวออกไปนานแสนนาน  แต่เธอนั้นไม่รู้หรอกว่าหลังจากที่ยูขับรถออกไปหลังจากส่งเธอแล้ว ชายหนุ่มนั้นยังหัวเราะกับพฤติกรรมของเธอที่แสดงออกมา  ยูนั้นคิดออกมาว่า

“ไม่ห่วงสวยเลย  ไม่มีมาดแถมดูโก๊ะๆ  แต่ก็ดูจริงใจดี”

จนถึงช่วงเย็นวันพุธ แพงกับทีมงานได้เดินทางไปโดยรถตู้เพื่อไปโรงแรมที่จัดเลี้ยงโดยที่ยูนั้นไปถึงก่อน  ในห้องจัดเลี้ยงยูได้แต่ยิ้มให้เธอ   ก่อนจะเดินไปคุยกับเจ้าหน้าที่ของสเปนจนได้เวลางานเริ่ม แขกพากันทยอยมา   แต่แล้วยูก็พบว่าตรีนั้นมาร่วมงานเพื่อทำข่าวเช่นกัน ซึ่งเธอนั้นเดินตรงมาที่ยูทันทีก่อนจะทักว่า

“สวัสดีคะคุณยู”

“เช่นกันครับคุณตรี”

“แล้วนี่คุณยูมาร่วมงานในฐานะอะไรคะ แขกหรือเจ้าหน้าที่ของไทย”

“ทั้งสองอย่างครับ”

นักข่าวสาวนั้นรีบฉวยโอกาสทันทีโดยมุ่งไปที่ประเด็นว่าเธออยากจะขอสัมภาษณ์ยูเป็นการส่วนตัวแต่ยูนั้นตอบไปว่า

“คุณตรีผมรู้ว่าคุณอยากจะคุยกับผมเรื่องอะไร  แต่ผมว่าผมจะขอนัดคุณคุยอีกครั้งหนึ่งแล้วกันครับ  แต่ผมไม่รับปากนะว่าจะให้คุณสัมภาษณ์หรือเปล่า ตกลงแบบนี้ไหมครับ”

นักข่าวสาวรีบรับคำทันที  เพราะเธอรู้ว่าอย่างน้อยจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับยู  แต่พอเธอจะพูดอะไรต่อเป็นจังหวะที่ รัฐมนตรีของสเปนกับทูตสเปนมาถึงพอดี  ทำให้เธอต้องรีบขอตัวเพื่อจะไปทำข่าว  ยูยิ้มตามหลังของเธอ  ยูนั้นพอจะรู้อะไรอยู่บ้าง  เพราะมิเกลนั้นได้มีการรายงานเรื่องของเธอที่สเปนมาให้ยูทราบ  แต่แล้วทั้งรัฐมนตรีกับทูตสเปนได้เดินตรงเข้ามาหายูทันที ก่อนจะยื่นมาให้จับพร้อมกับทักว่า

“จูเนียร์สบายดีนะครับ”

กิริยาที่ทั้งคู่แสดงออกทำให้หลายๆคนในงานหันมาจับตาดูทันทีเพราะเป็นกิริยาที่นอบน้อมกับชายหนุ่มไทยหน้าตาดี โดยที่ยูหารู้ไม่ตนเองถูกจ้องมองจากอัปษรที่มาร่วมงานนี้เหมือนกัน    เธอมาในฐานะคู่ควงของไฮโซหนุ่มที่เริ่มจะมีชื่อในสังคม  พอจังหวะที่รัฐมนตรีกับทูตของสเปนเดินไปทักทายคนร่วมงานคนอื่น   เธอตรงเข้าไปหายูทันที โดยไม่สนใจคนที่มากับเธอ  ตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นเธอไม่มีโอกาสที่จะมาทำความรู้จักกับยูเพิ่มขึ้น  เพราะตัวเธอนั้นติดถ่ายละครและเป็นพิธีกรรายการทีวีและไม่รู้ว่าจะติดต่อกับยูได้ยังไง   แต่วันนี้เมื่อมีโอกาสเธอจึงรีบคว้าทันที  ยูนั้นไม่ทันตั้งตัวเมื่อหญิงสาวเข้ามาทัก ซึ่งยูนั้นตอบไปตามมารยาทแต่พอการสนทนาชักจะยาวนานขึ้นโดยที่ยูนั้นระหว่างที่พูดก็คิดจะหาวิธีหลบฉากโดยวิธีที่นุ่มนวล  เพราะอัปษรนั้นทำท่าจะขอเบอร์โทรศัพท์ของยูแต่เหมือนระฆังช่วย  เพราะมีเสียงทักมาว่า

“ยูพี่ขอโทษนะคะ”

ทั้งคู่หันไปมองที่เสียงเรียก  เจ้าของเสียงคือแฮ็คนั่นเองที่กำลังส่งยิ้มมาให้ทั้งคู่ ยูลอบถอนหายใจออกมาก่อนจะบอกไปว่า

“สวัสดีครับพี่แฮ็ค”

อัปษรที่พอจะคุ้นเคยกับไฮโซสาวอยู่พอสมควรก็ทักเธอเช่นกัน

“อ้าวพี่แฮ็ค   สวัสดีคะพี่แล้วพี่แฮ็ครู้จักคุณยูด้วยหรือคะ”

“รู้จักกันมานานแล้วคะ  ตั้งแต่ยูทำงานใหม่ๆ  แต่คุณษรพี่ขอโทษจริงๆนะคะที่เสียมารยาทเข้ามาแทรก  พอดีพี่มีเรื่องด่วนที่ต้องปรึกษายูนะคะ  คือเผอิญว่าพี่ไปยุโรปมาและนั่งสายการบินที่พ่อทูนหัวของยูเป็นกรรมการบริหารอยู่นะคะพอดีกระเป๋าใบหนึ่งของพี่ยังไม่ได้คืนเลยคะ  พี่ตามมาหลายวันแล้วพอดีเจอยู  พี่จะรบกวนให้ยูช่วยดูให้นะคะ  ขอโทษคุณษรจริงๆนะคะ”

เธออธิบายโดยเร็วและไม่เปิดโอกาสให้ดาราสาวพูดต่อเธอดึงแขนยูเดินมาทันทีชายหนุ่มขอโทษอัปษรด้วยท่าทีสุภาพแต่ไว้ตัว ทำเอาดาราสาวรู้สึกขุ่นเคืองไม่ใช่น้อยแต่ไฮโซหนุ่มที่ควงเธอมารีบเดินเข้ามาหาพร้อมกับมองตามไปที่ยูอย่างไม่พอใจ  และพอเห็นดินห่างออกมายูถอนหายใจแบบโล่งอกก่อนพึมพำว่า

“ขอบคุณครับพี่”

“พี่นะเห็นเธอทำท่าไม่ดีแล้ว เลยเข้าไปกันให้”

“เกือบไปครับพี่  กำลังนึกหาวิธีแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นอยู่  พอดีพี่เข้ามาช่วยซะก่อน  ถ้าเป็นที่สเปนก็จบไปนานแล้วมีทั้งมิเกลทั้งคาร์รอส “

“เธอระวังตัวให้ดีนะยูแม่นั่นจากประวัติถ้าต้องการใครแล้ว รอดยาก  พี่ได้ข่าวมาอัปษรไปคุยไว้ทั่วจะจัดการเธอมาเป็นแฟนให้ได้  สงสัยไปรู้ประวัติเธอมาบ้างแล้ว”


ยูนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะบอกถึงเรื่องที่ตนเองเคยเจออัปษรที่สเปนมาก่อน  แฮ็คจึงย้ำมาอีกครั้งให้ยูระวังตัวก่อนที่ทีมผู้บริหารของเมนเตซกรุ๊ป ที่นำโดยบ็อบและมีแมรี่ตามมาติดๆ ได้เดินเข้ามาหายูซึ่งแฮ็คนั้นพอจะรู้จักกับบ็อบอยู่แล้วจึงทักทายกันเล็กน้อยก่อนที่เธอจะขอตัวไปคุยกับนักธุรกิจชาวฝรั่งเศส   บ็อบหันมาจับมือกับยูแล้วต่างกอดกันโดยบ็อบกระซิบบอกมาว่า

“ลูกชาย”

ก่อนที่ยูจะหันไปทักแม่รี่ซึ่งเธอสวมกอดชายหนุ่มเช่นกัน แล้วบอกมาว่า

“มาคราวนี้ไม่มีเวลาไปเยี่ยมแม่จูเนียร์เลย  พรุ่งนี้เย็นก็บินไปมาเลเซียแล้ว”

“งั้นไปเจอกันตอนคริสต์มาสครับ  แม่จะไปที่สเปนด้วยครับ  ส่วนฝอยทองกรอบได้ข่าวว่าหมดแล้วนี่”

เธอทำตาโตพร้อมหัวเราะก่อนที่ยูจะหันไปทักทายผู้บริหารคนอื่นๆและหันไปถามบ็อบว่าคุยกับเกมส์เรียบร้อยหรือยัง        บ็อบบอกมาว่าคุยกันเรียบร้อยก่อนจะมาร่วมงานเลี้ยง และเห็นด้วยกับข้อเสนอของเกมส์ ยูพยักหน้าออกมาอย่างพอใจก่อนจะคุยกับคนอื่นๆต่อ โดยไม่รู้ว่า มีสายตาลอบมองมาที่ตนเองอยู่หลายคู่ และแฮ็คที่ยืนมองอยู่ไม่ไกลเท่าไหร่ แต่แล้วหนุ่มไฮโซที่ควงมากับอัปษรได้เดินเข้ามาหาเธอเพราะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ก่อนจะถามมาว่า

“พี่แฮ็คไอ้ผู้ชายคนนั้นมันทำงานกระทรวงการต่างประเทศใช่ไหมแล้วมันเป็นใคร”

เธอหันไปมองชายหนุ่มที่เดินมาหาซึ่งแฮ็คพอจะรู้จักครอบครัวของผู้ชายคนนี้  หนุ่มไฮโซที่ควงอัปษรมานั้นชื่อขิงเป็นลูกคนรองของตระกูลนักธุรกิจชื่อดังที่จบมาจากเมืองนอกและพ่อแม่กำลังผลักดันลูกให้เข้ามาในวงการ เธอแกล้งถามกลับไปว่า

“คนไหนละขิง”

“ก็ไอ้คนกำลังที่คุยกับมิสเตอร์โรเบิร์ต CFO ของเมนเตซกรุ๊ปไง  ผมรู้นะว่าพี่รู้จักกับมันเพราะเห็นคุยกันอย่างสนิทสนม”

หนุ่มไฮโซที่ความหึงเข้าครอบงำและดูเหมือนตนเองจะถูกลดความสนใจเพราะความสนใจนั้นจะไปอยู่ที่ยูซะส่วนใหญ่ได้ถามไฮโซรุ่นพี่  แฮ็คยิ้มออกมาก่อนถามไปว่า

“เธอรู้จักคุณบ็อบและเมนเตซกรุ๊ปด้วยหรือ”

ขิงตอบไปด้วยความลำพองใจว่า

“รู้จักสิพี่  มิสเตอร์โรเบิร์ตเป็นมือขวาของ CEO เมนเตซกรุ๊ป  พรุ่งนี้ช่วงบ่ายหลังจากที่คณะของสเปนออกมาจากการหารือที่ทำเนียบแล้ว  ผมกับพ่อจะไปคุยกับพวกเค้าเรื่องจะขอเสนอเป็นตัวแทนขายรถหรูๆพวกรถสปอร์ต,ซุปเปอร์คาร์ ไม่ก็รถรุ่นที่หายากในเมืองไทย  เพราะทางนั้นเป็นเอเยนต์ใหญ่อยู่ทางยุโรปบางยี่ห้อเหมือนจะถือหุ้นอยู่ด้วยตอนนี้เค้ามีตัวแทนในไทยอยู่เจ้าหนึ่งแล้ว แต่เราจะไปขอแชร์เพิ่มนะพี่  ถ้าได้ทำธุรกิจกับกลุ่มบริษัทนี้ มันจะเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทพ่อผมเข้าไปอีก”

แฮ็คถามต่อโดยทำทีเป็นไม่สนใจกับคำถามที่ยังค้างอยู่ของขิงต่อไปว่า

“แล้วเมนเตซกรุ๊ปละ  เธอรู้จักขนาดไหน”

ขิงตอบไปอย่างมั่นใจว่า

“ก็เป็นบริษัทใหญ่ในสเปนแต่มีอิทธิพลบารมีไปทั่วยุโรปแม้กระทั่งทางการเมือง ทำธุรกิจครอบคลุมหลายอย่างดูเหมือนจะถือหุ้นใหญ่ในบริษัทผลิตอาวุธ  และกองทัพไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ด้วย ส่วนCEO ชื่อ มิสเตอร์โรแบร์โต้ “

แล้วไฮโซหนุ่มก็วกกับไปเรื่องที่ถามค้างคาว่า

“พี่ยังไม่เห็นบอกผมเลยมันคือใคร”

“แล้วเธอคิดว่ายังไงละ”

“ก็น่าจะเป็นแค่ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศที่บ้านมีฐานะดีหรือไม่ก็พวกผู้ดีเก่าเพราะดูจากการแต่งตัวสูทก็ของอิตาลีน่าจะสั่งตัด แต่กระทรวงนี้เราก็รู้กันอยู่นี่พี่  ลูกท่านหลานเธอเยอะ”

แฮ็คส่ายหัวด้วยความสมเพชกับท่าทีที่อวดฉลาดของขิงก่อนตอบไปว่า

“ขิงเธอยังขาดประสบการณ์จริงๆ  เธอน่าจะสังเกตเห็นนะว่าทั้งท่านรัฐมนตรีทั้งท่านทูตของสเปนเป็นฝ่ายเดินเข้ามาทักยูก่อนด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมและเธอยังดูไม่ออกอีกหรือไงว่าตอนนี้นอกจากคุณบ็อบที่ยืนคุยกับยูด้วยแล้วคนอื่นที่เป็นระดับผู้บริหารของเมนเตซกรุ๊ปที่มาด้วยรวมถึงนักธุรกิจสเปนคนอื่นๆ จะดูให้เกียรติยูเป็นพิเศษ”

ขิงมองไปที่ยูแล้วพบว่าจริงอย่างที่แฮ็คพูด  คนอื่นที่ยืนรายล้อมยู ยกเว้นมิสเตอร์โรเบิร์ตและผู้หญิงผิวสีดูจะนอบน้อมกับผู้ชายที่ตนเองไม่ชอบหน้าเป็นพิเศษแต่ยังไม่วายที่จะปากแข็งบอกไปว่า

“อ๋อชื่อยูแล้วพี่บอกได้หรือยังมันเป็นใคร”

ตอนแรกแฮ็คกะจะไม่บอกแต่ด้วยความหมั่นไส้ในท่าทีผยองไม่เลิกและนิสัยที่ดูถูกคนของขิงที่แฮ็คนั้นเกลียดยิ่งนักเลยตัดสินใจบอกไปว่า

“ขิงเธอนะยังอ่อนประสบการณ์จริงๆ เพราะเธอไม่รู้อะไรเลยจริงๆว่ากำลังทำอะไรอยู่  เอาละพี่จะบอกอะไรให้มิสเตอร์โรแบร์โต้กับมาดามเทเรซ่า เมนเตซ มาดามนะได้เสียชีวิตไปแล้วประมาณ 2-3ปี จริงๆทั้งคู่ไม่มีลูกนะ แต่ก็มีทายาทที่เป็นลูกของเพื่อนสนิทคนไทยอยู่คนหนึ่งที่พร้อมจะสืบทอดตำแหน่งและอำนาจทุกอย่างจากมิสเตอร์โรแบร์โต้”

“พี่พูดอะไรผมไม่เข้าใจ”

ขิงตอบมาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเพราะเหมือนกับตนเองกำลังถูกสั่งสอนอยู่

แฮ็คส่ายหน้าออกมาให้เห็นก่อนตอบไปด้วยน้ำเสียงแบบไม่ถือสาว่า

“เธอนี่ไม่เฉลียวใจเลยใช่ไหม เพราะพี่บอกใบ้เธอขนาดนี้แล้ว เอาละพี่บอกตรงๆ  มิสเตอร์โรแบร์โต้กับมาดามนะ เป็นพ่อและแม่ทูนหัวของยู เท่ากับว่ายูนะจะเป็นคนที่รับตำแหน่งต่อจากพ่อทูนหัวเค้าในอนาคต   เธอน่าจะสังเกตออกตั้งแต่แรกแล้วว่าทำไมคนระดับรัฐมนตรีกับทูตของสเปนถึงเดินมาทักเจ้าหน้าที่ของไทยก่อน  ถ้าไม่ใช่คนสำคัญจริงๆเค้าจะเดินมาหาหรือไง และภาพที่เธอเห็นตอนนี้มันน่าจะทำให้เธอฉลาดขึ้น แต่เธอก็ไม่รู้ดูไม่ออก  อย่าถามนะว่าพี่รู้ได้ยังไง  เรื่องแบบนี้บางทีเราก็ต้องสืบหาเอาไว้บ้างถ้าอยากทำธุรกิจกับเค้า และถ้าเธอบอกว่าทำไมไม่มีข่าวออกมา  พี่บอกได้  ก็เพราะทางนั้นเค้าปิดข่าวไว้นะซิเค้ายังไม่อยากจะเปิดเผยเรื่องของจูเนียร์ของตระกูลนี้ แต่ในวงการที่ยุโรปเค้ารู้กันหมดแล้ว        ยูนะได้รับฉายาว่าพรินซ์ออฟบาร์เซโลน่า  พี่สงสารเธอนะถึงมาบอกไว้ก่อน ทำเป็นหมั่นไส้เค้าทำเป็นหึงเพราะผู้หญิงคนเดียวธุรกิจที่หวังไว้อาจจะพังก็ได้  ถ้ายูส่ายหน้าทุกอย่างก็จบนะ  พี่บอกไว้ก่อน  เพราะมิสเตอร์โรแบร์โต้รักลูกชายคนนี้มาก”

พอพูดจบ ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าแฮ็คนั้นหน้าถอดสีออกทันที  ก่อนที่สาวรุ่นพี่จะสำทับต่อไปว่า


“พี่ถึงไงว่าเธอยังอ่อนประสบการณ์ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ  ถ้าพรุ่งนี้เธอลงถามดูถึงเรื่อง พรินซ์ออฟบาร์เซโลน่าดูสิว่าทางนั้นเค้าจะเปิดเผยไหมว่าเป็นใคร  แต่พี่ทายว่าทางนั้นไม่เปิดเผยนะไม่งั้นคอขาดกันเป็นแถว”

เธอพูดจบแล้วเดินออกมาทันทีโดยไม่สนใจกับไฮโซรุ่นน้องที่ยังหน้าถอดสีอยู่ เพราะดูเหมือนจะตาสว่างขึ้นเมื่อเธอได้คลายความสงสัยให้เจ้าตัวก่อนจะเดินกลับไปหาหญิงสาวที่ตนเองควงมาด้วยอารมณ์ที่ไม่ปลอดโปร่งเท่าไหร่นัก  ฝ่ายยูหลังจากคุยกับบ็อบเรื่องบริษัทของเกมส์แล้ว ซึ่งทุกอย่างดูจะไม่มีปัญหา ยูเลยสั่งแมรี่บอกว่าให้เตรียมเรื่องงบสำหรับการเพิ่มทุนในส่วนของตนเองกับแด้ดให้เรียบร้อย  แล้วในส่วนของตนถ้าเสร็จแล้วให้โซเฟียร์ทำเรื่องให้ตนอนุมัติได้ทันที  เลขาของพ่อทูนหัวตนเองรีบบันทึกคำสั่งลงในโทรศัพท์ทันที

ก่อนที่จะแยกย้ายโดยบ็อบไปพูดคุยกับบรรดานักธุรกิจของไทยส่วนยูนั้นเป็นจังหวะที่ปลัดกระทรวงการต่างประเทศไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่สุดของฝ่ายไทยที่เข้าร่วมงานนี้เข้ามาพูดคุยด้วย  เพราะงานนี้จะเป็นงานที่จัดโดยเฉพาะให้ฝ่ายนักธุรกิจของทั้ง2 ฝ่ายเข้ามาพบปะพูดคุยหารือกัน   แต่สักพักแมรี่เดินมากระซิบบอกยูว่า  บ็อบกับท่านทูตเชิญมาพบด่วน  ทำให้ยูต้องรีบขอตัว  และเดินตามแมรี่ไปอีกห้องหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างนัก ที่มีทีมรักษาความปอดภัยยืนอยู่หน้าห้องอยู่ 2คน   หญิงสาวทำกิริยาเชิญให้ชายหนุ่มเข้าไปโดยที่ 1   ในทีมคุ้มกันเปิดประตูให้ โดยแมรี่ไม่ได้ตามเข้ามา ยูเดินเข้าไปทันทีพบบ็อบกับรัฐมนตรีช่วยพร้อมท่านทูตนั่งรออยู่แล้ว  ทั้งหมดรีบลุกขึ้น และมาทักทายยูอีกรอบโดยที่บ็อบยืนอยู่ใกล้ๆ  แล้วรัฐมนตรีเป็นฝ่ายเชื้อเชิญให้ยูนั่งพร้อมรินไวน์ให้  ก่อนจะส่งแก้วให้ ยูกล่าวขอบคุณก่อนจะยื่นมือไปรับ  และมองไปที่หน้าของบ็อบเหมือนจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น

บ็อบนั้นเริ่มอธิบายทันที  บอกว่าทางสเปนจะมีเลือกตั้งในปีหน้าและทางท่านรัฐมนตรีช่วย  อยากขอความมั่นใจในเรื่องการให้การสนับสนุนจากกลุ่มเมนเตซที่ให้การสนับสนุนมาตลอด และโรแบร์โต้อยากให้ยูเข้ามามีส่วนในเรื่องนี้ทำเอาชายหนุ่มอุทานในใจว่า

“เวรแล้วละสิกู  สิ่งที่พยายามเลี่ยงมาตลอดก็มาเจอแบบไม่ตั้งตัว แด้ดนะแด้ด จะบอกก่อนก็ไม่ได้”

แต่แล้วก็คิดได้ว่า  น่าจะเป็นอีกบททดสอบหนึ่งที่พ่อทูนหัวให้ยูเรียนรู้  เพราะในอนาคตสิ่งเหล่านี้ยูในฐานะทายาทไม่อาจจะหลีกเลี่ยงได้  ชายหนุ่มนั้นไม่มองไปที่บ็อบ แต่มองไปที่รัฐมนตรีช่วยแล้วตอบกลับไปว่า ถ้าตอบในฐานะของทายาทตระกูลเมนเตซ  ตนเองนั้นต้องบอกก่อนว่าต้องขอขอบคุณทางการสเปนที่อำนวยความสะดวกให้ตนเองกับครอบครัวทุกครั้งเวลาไปที่สเปน   และยังยืนยันว่าให้การสนับสนุนพรรคการเมืองของฝ่ายรัฐบาลต่อไป   แต่ถ้าจะตอบในฐานะของเมนเตซกรุ๊ป ตนเองก็บอกได้ว่าทางผู้บริหารของเมนเตซกรุ๊ปนั้นยินดีที่จะบริจาคเงินสนับสนุนพรรคการเมืองทุกพรรค พอได้ยินคำตอบแบบนี้ทำเอารัฐมนตรีนั้นยิ้มออกมาด้วยความพอใจในคำตอบ  ก่อนจะตอบยูไปว่า ตนเองในฐานะตัวแทนพรรคพอใจกับคำตอบที่ได้รับและรู้สึกซาบซึ้งกับธุรกิจที่พ่อทูนหัวทำอยู่เพราะช่วยเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างดี

ส่วนบ็อบที่นั่งฟังอยู่ด้วยนั้นแอบยิ้มอย่างพอใจ  เพราะตนเองรู้แต่ตนในเรื่องนี้ตั้งแต่มีการขอเข้าหารือจากทางพรรคของรัฐบาลในเรื่องนี้ที่สเปนแต่โรแบร์โต้นั้นตอบไปว่า  อยากให้บุตรชายมีส่วนร่วมในการตัดสินใจจึงเป็นที่มาของการพูดคุยในครั้งนี้       บ็อบมองชายหนุ่มแล้วนึกไปถึงยูเมื่อครั้งเยาว์วัยที่ตนเองอุ้มพาเดินไปทั่วบริษัทและรู้ถึงสาเหตุที่ทำไมยูถึงได้รับการพิทักษ์ยิ่งกว่าไข่ในหินตั้งแต่เริ่มไปเรียน   พร้อมทั้งเรื่องที่ตนเองเคยติงไปยังผู้เป็นเพื่อนและเจ้านายว่า จูเนียร์อาจจะรับไม่ไหวในสิ่งที่เพื่อนกับภรรยาจะมอบให้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนที่เรียนหนักกว่าเด็กทั่วๆไป การอบรมที่เข้มข้น  แต่ทั้งโรแบร์โต้และเทเรซ่านั้นเชื่อมั่นว่ายูต้องทำได้ และยูนั้นทำได้จริงๆพร้อมกับความคิดว่า

“ลูกชายสอบผ่านแล้วนะ ใช้การตอบแบบการทูตและนักธุรกิจ สมกับที่พ่อและแด้ดของจูเนียร์ตั้งใจไว้”

บ็อบดูจากการที่ยูนั้นพอรู้ว่าถูกเชิญมาให้พบเรื่องอะไร  ยูนั้นไม่หันมามองตนเองเลยเหมือนจะแสดงให้อีกฝ่ายเห็นว่าเป็นการตัดสินใจของเจ้าตัวไม่ต้องการใช้คำแนะนำจากตนเองการสนทนาจบลงด้วยดีก่อนที่ยูจะเดินออกจากห้องตามรัฐมนตรีช่วยกับท่านทูตออกไป บ็อบโอบที่ไหล่ของยูและบอกว่า

“ลูกชาย เอบวกเลยนะ”

“แต่ไม่บอกกันล่วงหน้าเลยนะบ็อบ”

“ก็บอสสั่งมาว่าอย่าบอก จะได้ทดสอบจูเนียร์ไปด้วย ถ้าขืนบอกโดนไล่ออกสิ”

“อ้าวถ้าโดนไล่ออกแล้วใครจะดูแลตึกใหญ่ให้ละ”

ทำเอาอีกฝ่ายหัวเราะออกมาไม่หยุด เพราะรู้กันว่าตึกของเมนเตซกรุ๊ปนั้นบ็อบจะเป็นคนดูแลรับผิดชอบทั้งหมด เพราะนั่งทำงานที่นั่น ส่วนพ่อทูนหัวของยูนั้นส่วนใหญ่จะนั่งทำงานที่ตึกเก่า ก่อนที่ยูจะเดินเข้าไปห้องจัดเลี้ยงโดยทำตัวตามปกติ  แต่ชายหนุ่มนั้นไม่รู้ตัวว่า ช่วงเวลาที่ตนเองได้พูดคุยกับอัปษรหรือแม้ระทั่งแฮ็คนั้น  อยู่ในสายตาของแพงตลอด ทำให้เธอคิดไปว่า ยูนั้นเนื้อหอมไม่เบา เพราะมีสาวสวยๆมาพูดคุยตลอดและสาวผิวสีอีกคนที่ทั้งสวยและรูปร่างดีจะยืนไม่ห่างชายหนุ่มเท่าไหร่ ไม่รวมถึงบรรดาสาวๆที่ต่างซุบซิบถึงยู  จนถึงเวลาที่งานเลี้ยงเลิกหลังจากบรรดาแขกต่างทยอยกลับ  ยูได้เดินมาพบกับแพงก่อนจะถามว่า

“คุณแพงแล้วคุณจะกลับยังไง”

“นั่งรถตู้กลับไปที่กระทรวงกับเพื่อนๆก่อนคะแล้วค่อยเรียกแท็กซี่”

“งั้นผมไปส่งคุณดีกว่าครับ  จะได้ไม่เสียเวลา จากที่นี่ไปบ้านคุณในช่วงนี้ไม่น่าจะนานรถคงไม่ติดแล้ว”

เธอนิ่งคิดแต่เห็นสีหน้าที่แสดงออกถึงความตั้งใจของยู เธอจึงพยักหน้าตอบรับ  ก่อนจะขอตัวไปบอกกับเพื่อนที่มาด้วยกันว่าเธอจะไม่กลับด้วย  แล้วเดินกลับมาหายูท่ามกลางสายตาของบรรดาเพื่อนๆเธอที่มองมา  ยูเดินนำเธอไปที่ลานจอดรถ  พอไปถึงรถ  เธอเผลออุทานมาว่า

“คนละคันกับเมื่อวาน”

ยูที่กำลังถอดสูทพร้อมปลดเน็คไทค์ออกแล้วโยนไปไว้เบาะหลังได้ยินจึงหันมาตอบว่า


“บีเอ็มคันนี้ผมใช้ประจำครับ”


หลังจากที่ทั้งคู่ขึ้นไปบนรถแล้ว  พอยูขับออกถนนใหญ่  ทั้งคู่ต่างคุยกันเรื่องของงานเลี้ยงจนได้จังหวะหญิงสาวได้ถามชายหนุ่มว่า

“คุณยู คุณรู้ดาราชื่ออัปษรด้วยหรือไง เห็นคุยกับคุณนานมาก”

ยูส่ายหัวแบบเซ็งๆก่อนจะอธิบายให้หญิงสาวฟังถึงเรื่องการเดินทางไปสเปนครั้งก่อนที่เจอกับอัปษร ทำเอาหญิงสาวอมยิ้มอย่างพอใจ  แล้วยูก็พูดไปถึงแฮ็คเหมือนจะรู้ว่าแพงจะถามอะไรต่อ  ยูอธิบายคร่าวๆว่ารู้จักกับแฮ็คมานานแล้วตั้งแต่ตนเองทำงานใหม่ๆเลยมีความสนิทสนมกันพอสมควร  หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนถามต่อไปว่า 

“แพงดูท่านรัฐมนตรีกับท่านทูตจะคุยกับคุณนานเป็นพิเศษนะ”

“บารมีของแด้ดผมนะสิ  ถ้าผมเป็นแค่เจ้าหน้าที่ของไทยอย่างเดียว เค้าไม่มาคุยด้วยหรอกครับ “

เธอพยักหน้าแล้วถามต่อไปว่า

“แล้วฝรั่งกลุ่มใหญ่นั่นหละ  เห็นสนิทกับคุณ”

“อ๋อ”  กลุ่มนั้นเป็นคนจากบริษัทแด้ดผมนะ คนที่มีอายุมากที่สุดเป็นมือขวาของแด้ดชื่อบ็อบ  ผมรู้จักตั้งแต่เด็กๆแล้ว”

“งั้นผู้หญิง ผิวสีก็เป็นเลขาเค้าสิ เห็นตามตลอด”

“แมรี่เป็นเลขาแด้ดผมเอง   งานนี้แด้ดไม่มาเลยส่งตัวแทนมา ผมเลยปฏิเสธการเป็นคณะติดตามไงครับ  เพราะกลัวข้อครหา”

“มิน่าคุณถึงแค่เป็นคนประสานงาน  แพงก็สงสัยอยู่  แต่เลขาของแด้ดคุณนี่สวยนะ “

“แมรี่ เคยเป็นนางงามประจำรัฐมาก่อนครับ เธอเป็นคนอเมริกัน  แต่พูดสเปนได้คล่องมาก  มาทำงานกับแด้ดได้ 4-5 ปีแล้ว”

“มิน่า  ถึงสวยมากๆ  แพงยังอิจฉาเลย  แต่คุณไม่รำคาญนะที่แพงถามโน่นถามนี่”

ประโยคหลังเธอพูดเหมือนรู้ตัว

“ไม่หรอก ผมฟังคุณแล้วก็เพลินดี  ปกติผมมักจะเป็นฝ่ายตั้งคำถามกับใครๆ พอถูกถามแบบนี้ก็สนุกดีครับ”

ทำเอาหญิงสาวเผลอยิ้มออกมาด้วยความดีใจ  แต่สายตาเธอเหลือบไปเห็นร้านขายบะหมี่เกี๊ยวที่อยู่ริมถนน เธอจึงบอกชายหนุ่มว่า

“คุณยูช่วยจอดหน่อยคะ  แพงจะซื้อบะหมี่ไปฝากที่บ้าน”

ยูยิ้มออกมาและชะลอรถก่อนนำไปจอดริมฟุตบาทที่เลยร้านไปเล็กน้อยแล้วหันมาถามหญิงสาวว่า

“งั้นผมว่าเราไปกินด้วยกันเลยดีกว่าครับ  ผมหิวเหมือนกันในงานก็ไม่ได้กินอะไรเลย ไปครับ”

แพงแอบยิ้มออกมาเพราะนึกว่าชายหนุ่มจะไม่ชวน และที่สำคัญเธออยากทานบะหมี่เกี๊ยวเป็นอย่างมาก  หลังจากที่เดินไปสั่งแล้วกลับมานั่งรอทั้งคู่ต่างคุยกันเรื่องทั่วๆไป  แต่พออาหารมาเสิร์ฟยูนั้นถึงกับ หัวเราะออกมา เพราะที่อยู่ตรงหน้าหญิงสาวนั้นมีทั้งบะหมี่เกี๊ยวแห้งและอีกชามนั้นเป็นเกี๊ยวน้ำ  ทำเอาหญิงสาวถามด้วยใบหน้าจริงจังว่า

“หัวเราะอะไร”

“คุณทานหมดหรือสั่งมา 2 ชาม”

“ไม่รู้สิ  แต่แพงอยากกิน ไปอยู่ที่นั่นไม่มีให้กินถึงมีก็แพง กลับมาเมืองไทยยังไม่ได้กินเลย ไหนๆก็มีโอกาสแล้วก็ขอกินให้สมใจอยากหน่อยสิ”

เธอตอบด้วยท่าที่เขินอาย  ก่อนจะสั่งเพิ่มให้ใส่ห่อไปให้ที่บ้าน แล้วเปลี่ยนเรื่องไปถามยูว่า

“แล้วคุณทำงานดึกๆแบบนี้แล้วแม่คุณละไม่รอหรือไง”

“ถ้าวันไหนผมกลับดึก  แม่ผมก็ไม่รอครับ  ทานข้าวก่อนแล้วเข้านอนเลย”

เธอพยักหน้าก่อนจัดการปรุง พอกินเข้าไปคำแรก  ชายหนุ่มถามว่า

“รสชาติสมใจอยากหรือเปล่า”

“ก็พอใช้ได้นะคุณ  คนที่ไม่ได้กินมานานก็ต้องบอกว่าคุ้มค่าแล้วคุณว่าไงละ”

ยูลองกินแล้วตอบไปว่า

“สู้หน้าหมู่บ้านผมไม่ได้อร่อยกว่านี้”

“คุณอยู่หมู่บ้านไหนละ”

พอชายหนุ่มตอบเธอนึกอยู่ภายในใจว่า

“อ๋อหมู่บ้านคนรวย”

ยูนั้นได้ชวนเธอคุยเรื่องอื่นจนวกไปถามว่า

“เห็นคุณบอกพ่อคุณเกษียณแล้ว”

“ใช่พ่อแพงเกษียณแล้ว  ตอนกลางวันก็ไปดูแลสวนที่เมืองนนท์นะ  พ่อมีที่อยู่5-6 ไร่ เลยปลูกผลไม้ ก็ดีไว้ทำแก้เหงาไม่งั้นคงบ่นแย่  ส่วนแม่แพงก็เหมือนกันเกษียณแล้ว  แต่ยังดีที่โรงเรียนยังจ้างพิเศษไปสอนอยู่นะ ส่วนน้องสาวชั้นตอนนี้เป็นฟรีแลนท์ทำกราฟฟิกส์ดีไซน์อยู่แต่บ่นๆว่าอยากทำงานประจำแล้ว”

ทำเอาชายหนุ่มสะดุดทันที  เพราะพี่น้อยบ่นๆมาว่ายังหาไม่ได้ตอนที่ไปขี่จักรยานด้วยก่อนที่ยูจะไปสเปนเที่ยวล่าสุด ยูจึงบอกไปว่า

“ผมพอจะมีแนะนำ บริษัทของ  เอ่อ  พี่ที่ผมรู้จักเค้ากำลังหาตำแหน่งอยู่พอดี  เค้ามาบ่นๆกับผม2-3 ครั้งแล้ว  เอ้านี่ถ้าน้องสาวคุณสนใจในส่งเรซูเม่ไปที่อีเมล์พี่เค้า”

ยูพูดพร้อมส่งนามบัตรของพี่น้อยไปให้ก่อนจะบอกต่อไปว่า

“ก่อนจะส่งเรซูเม่คุณบอกผมก่อนนะ  ผมจะได้โทรบอกพี่เค้าก่อน  ส่วนพอร์ทงานนะยังไม่ส่งไปนะ  พี่เค้าจะขอดูทีหลัง ส่วนนี่เบอร์โทรผม”

ยูพูดจบแล้วส่งนามบัตรของตนเองไปให้  หญิงสาวรับมาก่อนบอกไปที่ยูว่า

“ขอบคุณ คุณมากนะ แพงก็อยากให้น้องสาวได้ทำงานประจำสักที”

ยูได้แต่ยิ้มๆไม่ตอบอะไร   และแพงนั้นกินหมดทั้งสองชาม ทำเอายูนั้นแซวออกไปว่า

“กินเก่งนี่คุณ”

เธอยิ้มแบบละห้อยก่อนตอบว่า

“ชั้นอยากกินนี่  และไม่รู้จะได้กลับมากินอีกเมื่อไหร่”

เป็นจังหวะเดียวกันกับของที่เธอสั่งไว้เสร็จพอดี  แพงทำท่าจะจ่ายเงินแต่ถูกชายหนุ่มตัดหน้าไปซะก่อนทำเอาเธอพูดว่า

“เฮ้ยคุณไม่เป็นชั้นเกรงใจ เมื่อวานชั้นกับเพื่อนก็ยังไม่ได้ขอบคุณเลยเรื่องที่คุณเลี้ยงไอติม”

ยูตอบมาว่า

“ไม่เป็นไรหรอกคุณ เรื่องแค่นี้”

“แต่ชั้นเกรงใจไหนคุณขับรถมาส่งอีก ไม่เอาชั้นจ่ายเอง”


เธอพูดพร้อมพยามยัดเยียดเงินให้ยูแต่ยูตอบกลับมาว่า


“ไว้พรุ่งนี้กลางวันคุณค่อยเลี้ยงข้าวผมก็ได้”

เธอพยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปที่รถ  ระหว่างทางก่อนถึงบ้านคราวนี้ส่วนใหญ่ยูจะเป็นฝ่ายถามเธอถึงเรื่องการทำงานและการปรับตัวในช่วงที่เธอย้ายไปที่สเปนใหม่  ซึ่งหญิงสาวก็ตอบไปตามความจริงว่าช่วงแรกๆทำเอาเธอเครียดเหมือนกันเพราะคิดถึงบ้าน ดีที่เบญนั้นคอยเป็นพี่เลี้ยงให้ แต่เธอก็บอกไปตรงๆว่ารู้สึกใจหายเหมือนกันเพราะคืนวันเสาร์นี้เธอจะบินกลับแล้ว  แต่ยูก็พูดมาว่า

“แล้วคุณเคยไปที่บาร์เซโลน่าหรือยังละ”

“เคยสิชั้นไปเที่ยวกับเพื่อนๆและพี่เบญนั่งรถไฟไปแล้วค้าง 1 คืน  แต่ยังเที่ยวไม่ทั่วเลยนะ”

“แล้วคุณคิดว่ายังไงกับเมืองนี้ละ”

“สวยนะ  พวกสิ่งก่อสร้างต่างๆสมกับเป็นมหานครจริงๆ  เออนี่แล้วแพงไปเห็นคฤหาสน์เมนเตซมาแล้วด้วย สวยมากๆ”

“คุณดูจากจุดชมวิวสินะ”

“ใช่แล้ว”

“ถ้าครั้งหน้าผมไปเยี่ยมแด้ด คุณจะไปเที่ยวบ้านผมไหมละ  ผมจะไปรับ”

ชายหนุ่มชวนเอาดื้อๆ  ทำเอาหญิงสาวชะงักไปนิดก่อนตอบไปว่า

“แพงขอดูก่อนแล้วกัน แต่บอกล่วงหน้าหน่อยนะ”

ประโยคแค่นี้ทำเอาชายหนุ่มรู้สึกชุ่มชื่นหัวใจขึ้นมา  และแพงนั้นเธอไม่รู้ตัวว่าตลอดเวลาในคืนนี้ถ้าเธอเผลอตัวเธอจะเรียกแทนตัวว่าชั้นมาหลายครั้ง จนไปถึงบ้านหลังจากที่ยูขับรถออกไป หญิงสาวที่ถือถุงบะหมี่ได้เดินเข้าบ้านแล้วพบกับผู้เป็นบิดาที่นั่งดูทีวีรออยู่ ส่วนแม่กับน้องสาวนั้นเข้านอนแล้ว เธอรับจัดแจงเอาบะหมี่ที่ซื้อมาไปใส่จานแล้วนำมาให้พ่อทาน และระหว่างนั้นเธอได้ถามพ่อเธอขึ้นมาว่า

“พ่อถ้าวันหนึ่งแพงอยากจะย้ายกลับมาอยู่เมืองไทย พ่อว่าจะดีไหม”

“ก็ดีสิลูกจะได้ไม่ห่างกัน  แล้วทำไมแพงถามแบบนี้ละ มีอะไรหรือเปล่า”

“แต่แพงก็ยังลังเลอยู่ เพราะกลับมาเงินเพิ่มที่ได้ก็ถูกตัด แต่อีกใจนึงแพงอยากกลับมาอยู่พร้อมหน้ากับพ่อกับแม่แต่เรื่องจะย้ายกลับมามันไม่ใช่ง่ายๆด้วยนะสิ”

ก่อนที่พ่อของเธอจะถามถึงเหตุผล  เธอก็ได้เล่าเรื่องของยูให้ฟังที่ชายหนุ่มนั้นไม่อยากย้ายไปต่างประเทศและเดินทางไปสเปนบ่อยๆ  เพื่อไปหาพ่อทูนหัวเหตุผลคืออยากใช้เวลาอยู่กับทั้งคู่ให้มากที่สุด มันทำให้เธอคิดไปถึงใบหน้าที่สลดของยูที่เล่าเรื่องการจากไปของบิดาและแม่ทูนหัว  เลยกลายเป็นเหตุผลที่เธออยากจะกลับมาเมืองไทยจะได้อยู่กับพ่อและแม่ให้นานที่สุด  พ่อเธอตอบมาหลังจากที่เธอพูดจบว่า

“อยู่ที่แพงนะลูก  ลูกโตแล้วตัดสินใจได้เอง  แต่ลูกอย่าลืมว่าอนาคตลูกก็คงออกเรือนไปอยู่กับคู่ชีวิตของลูกนะ”

เธอไม่ตอบอะไรนอกจากเอามือของผู้เป็นบิดามาแนบที่แก้ม แต่ก่อนที่เธอจะเข้านอนนั้นเธอเริ่มรู้สึกอะไรบางอย่างกับยู แต่เธอก็ไม่พยายามคิดเพราะสิ่งที่เตือนเธอตลอดนั้นคือเธอรู้ว่าฐานะของยูกับเธอนั้นมันต่างกันมาก แทบจะไม่มีทางที่คนอย่างยูจะมาสนใจเธอ  แต่หญิงสาวหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มนั้นสนใจในตัวเธอเป็นอย่างยิ่ง  เพราะยูนั้นรู้ตัวดีว่าความผิดหวังในเรื่องของความรักในอดีตนั้นทำให้ตนเองสร้างกำแพงหัวใจขึ้นมาเพื่อปิดกั้นความรู้สึกดีๆที่หญิงสาวๆหลายๆคนพยายามจะมามอบให้ จนเหมือนกลายเป็นคนเฉยชาในเรื่องนี้และยิ่งมีผลกระทบเรื่องของความสูญเสียของบุคคลอันเป็นที่รักเข้ามา ยิ่งทำให้ยูนั้นแทบปิดตายในเรื่องของความรัก 

แต่เมื่อเจอแพงแล้วความรู้สึกบางอย่างสามารถที่จะทะลายกำแพงหัวใจของตนเองได้ เพราะแพงนั้นมีอะไรหลายๆอย่างที่ตนเองชื่นชอบ  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการช่างถามที่ถูกกาละเทศะ การไม่ห่วงสวย การไม่วางมาดวางฟอร์มเหมือนผู้หญิงทั่วๆไป  ซึ่งยูดูแล้วคิดว่าแพงนั้นเป็นคนที่จริงใจเป็นอย่างยิ่ง  ทำให้ชายหนุ่มขับรถกลับบ้านด้วยอารมณ์ที่แจ่มใสเป็นอย่างยิ่ง

ฝ่ายอัปษรนั้นหลังจากที่ถูกแฮ็คขัดจังหวะทำให้เธอนั้นขุ่นเคืองใจขึ้นยิ่งนัก เพราะครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสอันดีที่สุดที่จะได้รู้จักกับยูให้มากขึ้น และหนุ่มที่ควงเธอไปนั้นก็มีทีท่าหัวเสีย  แต่เธอนั้นไม่ใส่ใจเพราะถ้าเทียบกันแล้วขิงนั้นสู้ยูไม่ได้ในทุกเรื่องและทั้งคู่อยู่ไม่ถึงงานเลิก  เธอเป็นฝ่ายชวนขิงออกมาก่อนเพราะความไม่พอใจ  และขิงนั้นก็เหมือนกันด้วยความรู้สึกที่ตนเองด้อยค่าลง เพราะหลังจากมาใคร่ครวญกับคำพูดของแฮ็คแล้วขิงนั้นตาสว่างมากยิ่งขึ้น  และตัวเองนั้นลองไปแอบสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของสถานทูตสเปนและนักธุรกิจที่มาร่วมคณะแต่ไม่ใช่คนของกลุ่มเมนเตซต่างบอกว่าพอจะรู้เรื่องพรินซ์ออฟบาร์เซโลน่า และทั้งคู่ต่างก็พูดในทำนองเดียวกับที่แฮ็คบอก

โดยเฉพาะนักธุรกิจที่ร่วมคณะมานั้นบอกเพิ่มด้วยว่า พรรคการเมืองใหญ่ๆในยุโรปนั้นกลุ่มเมนเตซบริจาคเงินสนับสนุนทุกพรรค  ทำให้ขิงนั้นรู้สึกว่าตนเองนั้นด้อยค่าและมีความอิจฉายูเพิ่มขึ้นเพราะที่ผ่านมาใครๆมักจะมองตนเองเป็นดาวเด่นแล้วจู่ๆพอรู้เรื่องของยูมันทำให้ตนเองนั้นดูด้วยคุณค่าลงไป  ยิ่งโดนหญิงสาวที่ควงมาไม่ให้ความสำคัญมันยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดให้ตนเองเข้าไปใหญ่   จนไปถึงคอนโดของดาราสาว อัปษรนั้นเหมือนพึ่งจะรู้ตัว ว่าทำอะไรลงไปเพราะตลอดทางนั้นทั้งคู่ไม่พูดอะไรกันเลย เธอเลยพูดออกไปเหมือนจะเป็นการขอแก้ตัวว่า

“ขิงขึ้นไปนั่งดื่มอะไรที่ห้องษรก่อนไหมคะ  หรือจะทานอะไรษรมีของแช่เย็นไว้หลายอย่างคะที่งานเราแทบไม่ได้ทานอะไรเลย”

ไฮโซหนุ่มพยักหน้าทั้งคู่ได้เดินเข้าไปในคอนโดและขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องพักสุดหรูราคานับสิบล้านของดาราสาวหลังจากที่เข้าไปในห้อง  อัปษรเชิญให้ขิงนั่งก่อนที่ตนเองจะไปรินไวน์มาให้ ดาราสาวนั่งลงบนโซฟาร์ตัวเดียวกับขิง แล้วส่งแก้วไวน์ให้ หนุ่มไฮโซรับมาจิบ  ก่อนถามไปว่า

“คุณรู้จักคนที่ชื่อยูได้ยังไง”

“ก็ไม่ได้รู้จักอะไรมากแค่เคยคุยกันตอนษรไปถ่ายแบบที่สเปนเท่านั้น  เพราะษรเจอเค้าทั้งบนเครื่องกับที่บาร์เซโลน่าก็เลยทักตามประสาคนไทยด้วยกัน”

“แล้วเรื่องอื่นๆละ”

“เรื่องอะไรละ”

“คือเรื่องที่เค้ามีพ่อทูนหัวที่รวยมากนะ”

“ไม่รู้  รู้ว่าเค้าแค่ทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศ”

เธอโกหกทันทีเพราะยังน้อยเธอก็ยังต้องหวังพึ่งขิงอยู่ในเรื่องของธุรกิจที่ตอนนี้บริษัทของพ่อไฮโซหนุ่มนั้นเป็นสปอนเซอร์หลักรายการที่เธอเป็นพิธีกรอยู่ เธอยังอยากที่รักษาความสัมพันธ์ไว้ก่อนเพราะเรื่องของเธอกับยูนั้นคงต้องใช้เวลา เธอถึงตัดสินใจเชิญขิงขึ้นมาบนห้องอย่างน้อยถึงจะพลาดจากยูก็ยังมีขิงที่ดูจะกลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเธออย่างง่ายดายเพราะถ้าเธอบอกว่ารู้เรื่องของยู   อาจทำให้ขิงนั้นโกรธเธอเพิ่มขึ้นจนอาจจะเป็นผลกระทบต่อหน้าที่การงานของเธอก็ได้  เธอจึงใช้วิธีออดอ้อนเอาน้ำเย็นเข้าลูบ  เธอจึงแกล้งย้อนถามไปว่า

“แล้วคุณรู้ได้ยังไงว่า คุณยูมีพ่อทูนหัวที่รวยนะ”

ขิงตอบกลับมาว่าแฮ็คเป็นคนเล่าแถมตนเองไปหาข้อมูลจากทางฝ่ายสเปนมาซึ่งก็ยืนยันตรงกันเลยอยากจะรู้ว่าษรรู้หรือไม่  ถ้าไม่รู้ก็ไม่เป็นไร  ดาราสาวลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก เพราะถ้าบอกว่ารู้ก็ไม่รู้จะเกิดอะไรขึ้นตามมา แต่ขิงนั้นเงียบลงไปอีก  อัปษรเลยเอาใจด้วยการรินไวน์เพิ่มเข้าไปให้ จนขิงนั้นหันมามองหญิงสาวด้วยวันนี้เธอใส่ชุดราตรี ที่เน้นเนินอกที่ขาวสล้าง ด้วยฤทธิ์ของไวน์และภาพที่อยู่ตรงหน้ามันกลายเป็นการปลุกอารมณ์ของขิงได้อย่างดี พร้อมนึกเข้าข้างตัวเองไปด้วยว่าหญิงสาวเชื้อเชิญขึ้นมาบนห้อง คงเป็นการให้ท่าด้วยและคิดย้อนไปว่าเมื่อไม่นานมานี้มีข่าวซุบซิบจากข่าวบันเทิงว่าอัปษรไปปิ๊งรักหนุ่มกระทรวงการต่างประเทศที่ประเทศสเปนทำให้ขิงยิ่งรู้สึกโกรธเพราะพอจะเดาได้ว่าหนุ่มกระทรวงการต่างประเทศคนนั้นคือยูแน่นอน 

คิดได้ดังนั้น ขิงจึงตัดสินใจที่จะรวบรัดดาราสาวทันทีเพราะที่ผ่านมาตนเองลงทุนไปพอสมควรแล้วกับอัปษร  ขิงวางแก้วไวน์ลงพร้อมหันไปหาอัปษรและก่อนที่ดาราสาวจะตั้งตัว  ขิงนั้นดึงเธอเข้ามากอดพร้อมซุกไซร้ไปตามใบหน้าและลำคอที่ขาวผ่อง  อัปษรนั้นรู้สึกตกใจ เพราะเธอไม่ต้องการอย่างนี้ เธอพยายามดันตัวของไฮโซหนุ่มให้ออกห่าง

“ขิงหยุด หยุดๆๆ ไม่นะ  ไม่ใช่แบบนี้”

เธอดิ้นรนพยายามดิ้นให้หลุด แต่สุดท้ายทุกอย่างมาหยุดนิ่งตอนที่ปากของไฮโซหนุ่มมาประกบกับปากเธอกลิ่นไวน์ในปากมันปลุกอารมณ์เธอได้ มือของเธอทั้งสองข้างจากที่เคยพยายามดันตัวของไฮโซหนุ่มให้ออกห่างเปลี่ยนมาเป็นคล้องรอบคอแทน  เธอรับการจูบของฝ่ายชายอย่างเต็มใจ ปล่อยให้ฝ่ายชายโลมเร้าเธอได้อย่างเต็มที่ทั้งใบหูและซอกคอ ไฮโซหนุ่มซุกไซร้ไปทั่วและหน้าอกที่พุ่งตระหง่านฝ่ายชายเอามือมาลูบคลำขยำไปมา จนขิงทำท่าจะดันตัวเธอในเอนลงไปบนโซฟาร์แต่เธอร้องมาว่า

“ไม่เอาที่นี่คะขิง  ไปที่เตียงดีกว่า”

แต่ฝ่ายชายนั้นไม่สนใจพยายามดันร่างอันงดงามของดาราสาวลงไปนอนบนโซฟาร์ได้สำเร็จพร้อมบดขยี้จูบอย่างเร่าร้อน ซึ่งอัปษรนั้นตอบสนองอย่างดี แขนทั้งคู่ของเธอโอบรอบตัวของไฮโซหนุ่ม  พอขิงเลื่อนหน้าลงไปซุกไซร้ที่ลำคอ ดาราสาวครางออกมาทันที ยิ่งพอใบหน้าของไฮโซหนุ่มซุกไปตรงร่องอกเธอนั้นแอ่นกายรับ จนเธอเป็นฝ่ายช่วยฝ่ายชายถอดเสื้อสูทและปลดทั้งเน็คไทค์และกระดุมเสื้อออก ก่อนจะช่วยกันถอดชุดราตรีของเธอออกจนเหลือแต่ชุดชั้นในเท่านั้น และไม่นานชุดชั้นในทั้งสองชิ้นก็ปลิวหลุดจากร่างอันงดงามที่เจ้าของดูแลอย่างดี  ผิวอันขาวผ่องปรากฏให้ไฮโซหนุ่มเห็น    ขิงก้มหน้าลงไปที่ยอดเต้าสีน้ำตาลที่ท้าทายสายตาของตนเองอยู่  อัปษรแอ่นหน้าอกที่ผ่านการศัลยกรรมรองรับการโลมเล้าทันทีเสียงครางดังไม่หยุดออกจากปากของเธอ

ขิงดูดสลับไปมาทั้งสองเต้า  ส่วนมืออีกข้างเลื่อนต่ำลงไปตรงโคกหีของดาราที่มีหมอยปกคลุมประปรายก่อนจะเอานิ้วกรีดไปตรงร่อง ทำเอาดาราถึงกับเผลอร้องออกมาดัง

“ซี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด อู๊ยยยยยยยยยยววเสียวจัง  ดีคะดี”

ขิงเลื่อนหน้าขึ้นไปจูบกับอัปษรอีกครั้ง ซึ่งเธอรับการจูบอย่างดูดดื่ม  และเงยหน้ารับการไซร้อีกครั้งตรงซอกคอ ก่อนที่ไฮโซหนุ่มจะไปฟอนเฟ้นเต้านมของเธออีก  ขิงกัดเบาๆที่ตุ่มสีน้ำตาลที่บานขยายออกมา แล้วดูดสลับไปมา ส่วนนิ้วนั้นเริ่มล้วงเข้าไปในช่องหีของดาราสาวที่เจ้าตัวอ้าขาออก จนเธอนั้นร้องออกมาว่า

“ขิงทำเหอะ ษรทนไม่ไหวแล้ว”

ไฮโซหนุ่มรีบปลดกางเกงทั้งตัวนอกตัวในออกทันที  ควยที่แข็งเต็มที่แล้วปรากฏต่อสายตาของดาราสาวซึ่งขนาดของมันสร้างความผิดหวังให้กับเธอพอสมควร แต่ไฮโซหนุ่มนั้นไม่ทันสังเกตเห็นสายตาของหญิงสาว เจ้าตัวรีบลงมานอนคร่อมล่างของดาราสาวทันที เพราะคิดไปว่าอย่างน้อยตนเองก็ได้เชยชมดาราสาวแล้ว  ส่วนอนาคตจะเป็นยังไงนั้นไม่สนใจเพราะความเงี่ยนเข้าครอบงำ ขิงจับควยของตนเองยัดเข้าไปในรูหีของดาราสาวทันทีและดันเองเข้าไปโดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง 

แต่แล้วด้วยความตื่นเต้นบวกกับความไม่ชำนาญในเกมส์รัก ไฮโซหนุ่มที่พยามกลั้นบางอย่างตั้งแต่เล้าโลมดาราสาว  แต่ก็กลั้นไม่ไหวทันทีที่ควยของตนเองเข้าไปในรูหีของอัปษร ทุกอย่างที่กลั้นมาก็พังทลาย น้ำรักหลั่งออกมาทันที พร้อมความรู้สึกที่เหมือนกับจะหน้ามืดของตนเอง ไฮโซหนุ่มซบไปบนตัวของดาราสาวแต่ก่อนแล้วร่างของตนเองก็ถูกดันขึ้นมาให้พ้นตัวของดาราสาวพร้อมน้ำเสียงที่ฉุนเฉียวของอัปษรที่พูดมาว่า

“ทุเรศ  ได้แค่นี่เองหรือ”

ก่อนที่ตนเองจะพูดอะไรออกมา หญิงสาวที่ลุกขึ้นมานั่งนั้นได้ตบหน้าของไฮโซหนุ่มอย่างเต็มแรงพร้อมกับบอกว่า

“ทุเรศจริงๆ  ทำได้แค่นี้อย่าทำเลย  ไปออกไป จากห้องชั้นเดี๋ยวนี้ไป”

ขิงด้วยความตกใจจนพูดอะไรไม่ออกและพอมาเห็นท่าทีที่เกรี้ยวกราดของดาราสาว  ขิงจึงรีบแต่งตัวอย่างรีบร้อนและทั้งที่ยังไม่เรียบร้อยดี ตนเองก็ถูกตวาดไล่ออกจากห้องไปอีกรอบ หลังจากที่ไฮโซหนุ่มพ้นออกจากห้องแล้วดาราสาวที่อยู่ในร่างเปลือยได้เดินตามไปล็อคประตูและยังพึมพัมมาว่า

“ทุเรศนึกว่าจะแน่  ที่ไหนได้เล็กก็เล็ก แถมนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ  ซวยจริงๆเลยเราไม่น่าไปยอมเลย”

เธอพยายามระงับอารมณ์ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปล้างคราบน้ำรักที่ไฮโซหนุ่มฝากไว้ ซึ่งการอาบน้ำก็ไม่อาจจะลดอารมณ์ที่พุ่งพล่านของเธอได้  อัปษรไม่อยากจะช่วยตัวเองทั้งๆที่เธอมีอุปกรณ์อยู่พร้อม  พอออกจากห้องน้ำเธอจึงตัดสินใจว่า

“ออกไปหาเหล้ากินดีกว่า  จะได้หายเงี่ยน ไอ้ขิงนะไอ้ขิงไอ้ไม่มีน้ำยา”

ทันทีที่แต่งตัวเสร็จเธอขับรถสปอร์ตราคาแพงออกไปร้านที่เธอไปนั่งประจำทันที พอไปถึงระหว่างที่เธอกำลังมองหาโต๊ะว่างอยู่  สายตาเธอเหลือบไปเห็นแฮ็คกำลังนั่งคุยกับผู้ชายชาวต่างชาติอยู่  อัปษรมองเห็นโต๊ะที่อยู่ไม่ห่างจากแฮ็คนั้นว่างอยู่เธอจึงเดินไปนั่งก่อนจะสั่งเครื่องดื่ม ผ่านไปครู่ใหญ่เธอเห็นผู้ชายตาสงชาติที่มากับไฮโซสาวได้ลุกขึ้นและทั้งคู่ได้จับมือกันหลังจากนั้นผู้ชายชาวต่างชาติได้เดินออกจากร้าน   แฮ็คที่เห็นดาราสาวแต่แรกแล้วจึงเดินมาที่โต๊ะพร้อมทักว่า

“พี่นั่งด้วยคนได้ไหมคะคุณษร”

“เชิญคะพี่ แล้วฝรั่งที่มากับพี่ละคะ”

“อ๋อ คุณโรแบร์นะ เป็นคนฝรั่งเศส พี่กำลังจะทำธุรกิจกับเค้าเลยมีเรื่องต้องคุยกันหน่อย  แล้วคุณษรทำไมมาคนเดียวละ”

“เบื่อๆนะคะพี่เลยมานั่งดื่มแก้เบื่อ”

“แต่เอ  พี่ไม่เห็นคุณษรในงานเลยกลับก่อนพี่หรือเปล่าคะ  เพราะพี่ออกมาตอนงานจะเลิกแล้ว  ถึงมาคุยงานต่อกันที่นี่”

“ออกมาก่อนคะ  รู้สึกไม่ค่อยสนุก”

“อ้าวเหรอคะ แล้วคุณขิงละคะ”

ดาราสาวเบะปากออกมาแล้วตอบมาว่า

“อย่าไปพูดถึงคนๆนั้นเลยคะพี่   อารมณ์เสียเปล่าๆ”

แฮ็คได้ยิ้มๆไม่พูดอะไรก่อนจะสั่งเครื่องดื่มมาเพิ่ม  แล้วเธอก็เป็นฝ่ายเริ่มทันทีเพราะเห็นดาราสาวอยู่ในอารมณ์ที่ขุ่นมัวและสงวนทีท่า  เพราะเธอพอจะเดาออกว่าอัปษรต้องการรู้อะไร  และแฮ็คเห็นว่านี่น่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่ให้อัปษรเลิกยุ่งกับยู  เพราะยังไงนอกเหนือจากความสัมพันธ์อันลึกซึ้งของเธอกับยูแล้ว  เธอยังรักและเป็นห่วงยูเหมือนน้องชายคนหนึ่งเธอจึงพูดไปว่า

“คุณษรคงอยากรู้เรื่องของยูจากพี่ละสิ”

ซึ่งได้ผลจริงๆ ดารามองหน้าเธอทันทีแต่ปากนั้นบอกมาว่า

“พี่รู้ได้ยังคะ  ษรแค่เจอเค้าไม่กี่ครั้งเองยังไม่รู้จักอะไรกันเลยแค่คนที่เคยเห็นหน้ากันเท่านั้น”

แฮ็คอมยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า

“แล้วอยากรู้หรือเปล่าละ”

ดาราสาวย้อนถามแฮ็คมาว่า

“พี่แฮ็ครู้จักกับยูมานานแล้วหรือไงคะ”

“6-7 ปีได้แล้วตั้งแต่ยูทำงานที่กระทรวงใหม่ๆ เจอกันตามงานเลี้ยงของสถานทูตนะเลยทำให้คุ้นเคยกัน”

ก่อนที่จะเล่าเพิ่มว่าพอจะรู้อะไรบ้างซึ่งเป็นข้อมูลเดียวกับที่อัปษรพอจะรู้และก่อนที่แฮ็คจะถามกลับว่า

“แล้วตอนที่คุณษรไปเจอยูที่สเปนเป็นยังไงบ้างละ”

ดาราสาวนั้นยอมรับมาตรงๆว่าเจอ2 ครั้ง ที่มาดริดกับที่บาร์เซโลน่า ซึ่ง 2 ที่นั้นต่างกันมาก เพราะที่มาดริดยูนั้นมีบอดี้การ์ดล้อมรอบตัวแต่เจอที่บาร์เซโลน่าเป็นอีกแบบหนึ่ง  พอดาราสาวพูดจบแฮ็คจึงถามไปว่า

“งั้นให้พี่เดาว่า คุณษรก็ต้องสนใจยูแน่ๆ ใช่หรือเปล่า”

เธอนิ่งไปชั่วขณะก่อนจะพยักหน้ายอมรับ  แฮ็คเห็นแบบนั้นจึงรีบเดินหมากทันที และถามต่อไปว่า

“เพราะอะไรละคะ  หรือนอกจากเห็นยูเค้าหน้าตาดี ที่พี่ถามไม่ใช่อะไรหรอกนะ  เพราะพี่รู้จักกับยูจนอาจเรียกได้ว่ายูเหมือนน้องชายพี่คนหนึ่ง”

อัปษรจึงตัดสินใจบอกเพราะเธอเห็นว่าอย่างน้อยแฮ็คอาจจะช่วยเป็นสื่อกลางในการติดต่อยูให้กับเธอ

“คะพี่แฮ็คตอนแรกก็อาจเป็นเพราะหน้าตาและบุคลิกที่ษรเจอบนเครื่องก็ได้  ษรว่าใครๆเจอแบบนี้ก็อยากจะรู้จักคะ”

ประโยคหลังเธอนั้นยังออกตัวอยู่ว่าคงไม่ใช่เธอคนเดียวแน่นอนที่อยากจะรู้จักกับยู  แต่แฮ็คนั้นไม่สนใจก่อนจะถามไปว่าษรนั้นพอจะรู้เรื่องของยูที่สเปนหรือไม่ เธอถามไปทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าดาราสาวนั้นต้องรู้แน่นอนไม่งั้นไม่ปล่อยข่าวออกมาทางสื่อแน่นอน  ซึ่งอัปษรก็ยอมรับว่าพอจะรู้อยู่บ้าง  แฮ็คแกล้งนิ่งเหมือนใช้ความคิดก่อนจะบอกไปว่า

“แล้วคุณษรจะทำยังไงต่อไป”

“ไม่รู้คะ เพราะษรคงจะไม่มาจมปลักกับผู้ชายคนเดียวแน่นอนต่อให้ทั้งหล่อทั้งรวยขนาดไหน”

เธอตอบไปตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริง  ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าทางของอีกฝ่ายทันที  แฮ็คจึงแกล้งพูดต่อไปว่า

“พี่ก็ว่าแบบนั้นละ  เพราะสวยอย่างคุณษรผู้ชายแย่งกันจีบจะตาย”

ดาราสาวนั้นยกแก้วเครื่องดื่มมาจิบทำท่าจะไม่สนใจ แต่ก็อดใจไม่ได้ที่จะถามต่อไปว่า

“แล้วคุณยูนี่มีแฟนหรือยังคะพี่แฮ็คพอจะรู้หรือเปล่า”

ไฮโซสาวแกล้งทำเป็นคิดก่อนตอบว่า

“เท่าที่พี่รู้ไม่มีนะ แต่ก็ไม่ชัวร์ เพราะยูตอนอยู่ที่สเปนนี่  ทั้งพวกไฮโซที่นั่นหรือลูกสาวของนักธุรกิจชื่อดังของยุโรปรุมตอมกันเพียบนะ  แต่พี่เห็นมีอยู่3-4 คนที่ดูเหมาะสมกันดีนะ แต่มีอยู่คนหนึ่งที่พี่เห็นเหมาะกันดี  ดูเหมือนแม่จะเป็นราชนิกูลด้วยส่วนพ่อเป็นนักธุรกิจอยู่  เห็นว่าควงออกงานกัน2-3ครั้งแล้วด้วย”

ทำเอาดาราสาวหูผึ่งขึ้นมา  แต่หารู้ไม่ว่าเธอโดนแฮ็คนั้นอำเพราะผู้หญิงที่เธอพูดถึงนั้นคือเพื่อนสนิทของยูคนหนึ่งที่เรียนไฮสคูลมาด้วยกัน  เธอเคยเห็นคู่นี้ควงกันออกงานที่อิตาลีเมื่อหลายปีก่อนตอนที่เธอรู้จักยูใหม่ๆ  พอเธอถามยูก็หัวเราะก่อนบอกว่า งานนั้นไม่รู้จะควงใครไป มัมก็ไม่ค่อยสบาย พอดีเพื่อนยูคนนี้ได้รับเชิญไปด้วยยูเลยถือโอกาสควงออกงานซะเลย  แต่มันได้ผลเพราะดาราสาวนั้นหันมาถามทันทีว่า

“แล้วยังไงต่อคะพี่”

“เอ่อพี่ก็ไม่รู้อะไรมากนักนะ “

ท่าทีของอัปษรนั้นดูอยากรู้เรื่องนี้มาก เธอจึงพยายามคาดคั้นให้ได้แฮ็คจึงตอบกลับไปว่า

“เอ่อ  พี่ว่าถ้าคุณษรอยากรู้จริงๆ เราคุยกันที่นี่ไม่สะดวกนะคะ”

“ได้คะพี่แล้วเราจะไปคุยกันที่ไหนดี ไปห้องษรก็ได้ไม่ไกลเท่าไหร่”

“คอนโดพี่ดีกว่าคะ  อยู่ไม่ไกลจากร้านนี่เท่าไหร่  ขับรถไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงเราคุยกันได้นานคะ  เพราะลูกพี่ฝากให้พ่อกับแม่พี่ดูแล”

อัปษรพยักหน้าทันทีก่อนจะชำระค่าเครื่องดื่มแล้วเดินตามไฮโซสาวออกไปจากร้าน และขับรถตามแฮ็คไปที่คอนโดซึ่งไม่ไกลจริงๆตามที่แฮ็คบอก หลังจากจอดรถด้านหน้าคอนโด  เธอเดินเข้าไปหาแฮ็คที่ยืนรออยู่ก่อนจะขึ้นลิฟท์ไปที่ห้องของไฮโซสาว  และถ้าอัปษรรู้ว่าคอนโดแห่งนี้รังรักของยูกับไฮโซสาวมาก่อนเธอคงจะกรี๊ดออกมาลั่น แน่นอน  แต่ตอนนี้ใจเธอพะวงอยากรู้เรื่องของยูกับผู้หญิงคนอื่นมากขึ้น

พอเข้าไปในห้อง  แฮ็คเชิญอัปษรให้นั่งที่ชุดรับแขกสุดหรู  อัปษรมองไปรอบๆห้องและคิดว่าราคาของห้องนี้คงไม่แตกต่างจากราคาห้องของเธอเท่าไหร่นักและมีการตกแต่งอย่างหรูหรา   แฮ็ครินแชมเปญให้กับดาราสาวก่อนที่จะนั่งลงฝั่งตรงข้าม  อัปษรไม่รอช้าเธอเริ่มถามทันที  แฮ็คนั้นพยายามบอกว่าตนไมรู้อะไรมากแค่เคยเห็นที่เมืองนอกเท่านั้นและเธอก็ถือว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของยู เธอไม่อยากจะไปก้าวก่ายเท่าไหร่นัก 

พอเห็นอีกฝ่ายยังอ้ำๆอึ้งๆอยู่อัปษรเลยตัดสินใจที่ยอมรับความจริงว่าที่เธอสนใจยูนั้นเป็นเพราะอำนาจและบารมีที่ยูจะได้รับจากพ่อทูนหัว  เธอเปรียบตัวเองว่าคงจะรับบทนางเอกได้อีกไม่กี่ปี เธออยากมีอนาคตที่มั่นคงและคิดว่ายูนั้นคงจะเหมาะที่สุด แฮ็คเลยแกล้งบอกไปว่ายูนั้นดูเหมือนจะชอบใช้ชีวิตแบบเงียบๆมากกว่า แต่อัปษรก็ยืนกรานว่าเรื่องแบบนี้ปรับกันได้และเธอตัดสินใจที่จะบอกกับแฮ็คว่า  เธอนั้นอยากให้แฮ็คเป็นแม่สื่อให้เธอกับยู  แฮ็คนั้นยังไม่ตอบอะไรเพียงแต่ชวนดาราสาวคุยเรื่องอื่นและรินแชมเปญให้อัปษรถี่ขึ้น   ยิ่งเธอดื่มไม่หยุดเธอยิ่งพูดมากขึ้น  กว่าเธอจะรู้ตัวไฮโซสาวก็นั่งบนที่เท้าแขนเก้าอี้ตัวที่เธอนั่งแล้วเชยคางเธอขึ้นมาแล้วบอกมาว่า

“ษร เธอรู้อะไรไหม  พี่จะบอกอะไรให้เธอ  เธอนั้นไม่เหมาะกับยูในทุกเรื่อง ยูนั้นควรจะมีคู่ครองที่เหมาะสมกับตัวของยูเองแต่ไม่ใช่เธอ”

ทำเอาอัปษรแทบจะหายมึนก่อนจะตอบไปด้วยความไม่พอใจว่า

“ทำไมละพี่  ษรไม่เหมาะกับคุณยูตรงไหน  ใช่ว่าษรจะไม่รวยษรก็มีเงินเก็บหลายสิบล้านษรไม่ใช่จะไปปอกลอกคุณยูนี่  ษรแค่อยากได้หลักประกันในอนาคตและคนที่สมน้ำสมเนื้อกับษรแค่นั้นเอง”

แฮ็คถอนหายใจเบาๆเพราะดูแล้วดาราสาวนั้นยังจะไม่รู้ตัว จึงทำให้เธอพูดต่อไปอีกว่า

“ษรลองมองย้อนไปดูก็ได้นะว่าทำไมถึงไม่เหมาะสมกันพี่ยอมรับนะษรเก่งที่ทำให้ตัวเองมาถึงระดับนี้ด้วยความสามารถล้วนๆ แต่พี่คงจะปฏิเสธที่จะทำหน้าที่เป็นแม่สื่อให้เธอกับยู”

“ทำไมละคะพี่ เพราะ...........”

เธอพูดยังไม่ทันขาดคำใบหน้าของเธอที่แหงนขึ้นเพราะถูกอีกฝ่ายเชยคางขึ้นมาก่อนหน้านี้  ก็เงียบหายเพราะแฮ็คก้มหน้าเอาปากมาประกบเธอทันที ทันทีที่ลิ้นของแฮ็คมาสัมผัสกับลิ้นเธอ  อารมณ์ของดาราที่ถูกยังค้างคาอยู่ก็เหมือนกองฟืนที่กำลังคลุกกรุ่นและถูกลมพัดจนลุกติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย  มือของแฮ็คนั้นมาสัมผัสลูบไล้อย่างแผ่วเบาที่หน้าอกของเธอ  ซึ่งเจ้าตัวนั้นแอ่นอกให้ไฮโซสาวลูบคลำ  เพราะอารมณ์สวาทที่ถูกปลุกขึ้นอีกครั้ง   จนมือทั้งสองของเธอเผลอขึ้นมาตวัดรอบคอของไฮโซสาวรุ่นพี่ ทั้งสองสาวแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม จนแฮ็คเปลี่ยนไปกัดที่ติ่งหูอัปษรเบาๆ  ก่อนจะไปซุกไซร้ที่ลำคอ พร้อมบอกว่า

“ษรไปที่เตียงพี่ดีกว่านะ”

สติของดาราสาวนั้นกระเจิงไปหมด เพราะความเงี่ยนที่ถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง ร่างอันอ่อนระทวยของเธอถูกแฮ็คเดินประคองไปห้องนอน จนอัปษรถูกแฮ็คประคองร่างลงนอนบนเตียง  แฮ็คเดินไปเปิดแอร์ก่อนจะปลดชุดราตรีที่สวมใส่ออก จนเหลือแต่ชุดชั้นในก่อนจะนอนไปทับร่างที่งดงามของดาราสาวที่นอนตาปรืออยู่บนเตียง  อัปษรกอดรัดร่างของแฮ็คแน่น ปากทั้งคู่ประกบกันอีกครั้ง ชายเสื้อที่ถูกทับอยู่ในกางเกงโดนแฮ็คใช้มือดึงออกมาก่อนล้วงเข้าไปข้างใน เพื่อลูบคลำหน้าอก  แต่ดาราสาวนั้นเป็นฝ่ายปลดกระดุมเสื้อของเธอเอง  แล้วโยนเสื้อไปที่ข้างๆเตียงอย่างไม่สนใจ ก่อนจะกดหน้าของแฮ็คลงไปร่องอกซึ่งไฮโซสาวตอบสนองทันทีเอาจมูกไปสูดดมความหอมจากร่องอกของเธอ ส่วนมือของเธอเลื่อนไปตรงเป้ากางเกงของอัปษรแล้วขยำอย่างเบาๆ  แต่แล้วดาราสาวดึงมือข้างนั้นขึ้นมาแล้วมาวางตรงหน้าอกก่อนจะจับให้ล้วงผ่านยกทรงของเธอ  เพื่อให้แฮ็คสัมผัสกับเนื้อแท้

แฮ็คสนองตอบทันทีพร้อมใช้นิ้วเขี่ยไปที่หัวนม  ก่อนที่จะปลดตะขอหน้าของยกทรงของอัปษรออกซึ่งเธอปลดยกทรงของเธอด้วย  หน้าอกที่เปลือยของทั้งสองทาบกันสนิท หน้าอกของแฮ็คนั้นเป็นของแท้แต่หัวนมของเธอนั้นคล้ำกว่าอัปษร ทั้งคู่ต่างใช้หน้าอกถูไถกันไปมา จนแฮ็คเป็นฝ่ายที่ใช้ปากกับหัวนมสีน้ำตาลเพราะเจ้าของเต้าดันหัวเธอไปที่เต้านม อัปษรแอ่นกายรองรับการดูดดื่มจากแฮ็คทันทีทำเอาเธอครวญครางไม่หยุด

“พี่แฮ็คขาดี คะดี ษรเสียวโอ้วววววววววววว คะๆๆๆพี่ขา”

แล้วกางเกงของเธอถูกถอดออกทั้งชั้นนอกชั้นในซึ่งดาราสาวอำนวยความสะดวกให้เต็มที่  แต่แฮ็คกับยังไม่ทำในสิ่งที่ดาราทำกิริยาร้องขอที่พยามยามดันไหล่เธอลงไปด้านล่าง  ไฮโซสาวฝืนตัวดันตัวขึ้นบนแล้วเอาเต้านมไปจ่อที่ปากของดาราสาวซึ่งอัปษรสนองตอบทันทีเช่นกัน  เธอดูดดื่มที่หัวนมค่อนข้างคล้ำของแฮ็คสลับไปมาทั้งสองข้าง  ทำให้แฮ็คเป็นฝ่ายสูดปากแล้วครางด้วยความเสียวบ้าง

“อูยยยยยยยยยยยษร  โอ้ววววววววววววแบบนั้นแหละ”

อัปษรดูดไปมาจนพอใจแล้วถึงดันให้แฮ็คไปที่กลางลำตัว  ซึ่งแฮ็คนั้นใช้ปากพรมจูบวนเวียนตรงหน้าท้องที่แบนราบของดาราสาว เพื่อเพิ่มความเสียวให้กับเธอ จนอัปษรเป็นฝ่ายร้องขอว่า

“พี่แฮ็คขาเลียให้ษรหน่อยคะ”

พร้อมดันไหล่ของแฮ็คลงไปอีก  ครั้งนี้แฮ็คสนองตอบตามความต้องการของดาราสาว เธอใช้ปากจูบไปเบาๆตรงปากทางที่เริ่มคล้ำและชุ่มชื้นไปด้วยน้ำของอัปษรก่อนจะใช้ลิ้นแตะเลียไปมาแล้วกวาดเข้าไปในร่องหี  ทำเอาดาราถึงกับผวาและครางออกมาเสียงดัง  เพราะเป็นสิ่งที่เธอต้องการ แฮ็คเลียอย่างชำนาญสลับกับการใช้นิ้วล้วงเข้าไปโดยที่เจ้าของโคกหีร้องครางออกมาไม่หยุด  เพราะลิ้นของผู้หญิงนั้นมันเร้าใจกว่าลิ้นของผู้ชายที่อัปษรเคยผ่านมา

ก่อนที่แฮ็คจะหยุดเลียแล้วถอดกางเกงในตัวเองออกแล้วมาคร่อมร่างของดาราสาวแล้วเอาโคกหีขอเธอไปประกบกับโคกหีของดาราสาวอัปษรกอดรัดแฮ็คแน่นก่อนที่ทั้งคู่จะใช้โคกหีของตนเองสีไปมากับโคกหีของอีกฝ่าย  พร้อมกับเสียงครวญครางของทั้งคู่  อารมณ์ของอัปษรที่ค้างคาเพราะขิงนั้นบัดนี้ถูกปลดปล่อยออกมาอย่างเต็มที่ เธอแหงนหน้าร้องครางอย่างเต็มที่สลับรับการจูบอย่างดูดดื่มของหม้ายสาวที่อยู่บนร่างของเธอ  ยิ่งพอเธอรู้ว่าเธอกำลังจะถึงจุดหมายเธอได้ร้องออกมาว่า

“พี่แฮ็คขา  ษรจวนแล้วคะอีกนิดคะพี่ โอ้วดีจังเลยซี๊ดดดดดด  โอ้ววววววววววววววววววว”

เธอร้องครางอย่างสุดเสียงเมื่อไฮโซสาวพาเธอไปถึงจุดหมาย  เธอโอบกอดแฮ็คแน่นยิ่งขึ้นก่อนจะเกร็งตัวพร้อมแอ่นกลางลำตัวขึ้น  ส่วแฮ็คนั้นถูไถไปอีก2-3 ครั้ง  เธอก็ถึงจุดหมายในเวลาไล่ๆกัน  ก่อนจะเอาปากไปประกบกับดาราสาวอีกครั้งซึ่งอัปษรรับการจูบอย่างเต็มใจ แล้วแฮ็คได้พลิกตัวลงมานอนข้างๆ แล้วหายใจอย่างหอบเหนื่อยเหมือนกับอัปษร  แต่แล้วสติของอัปษรได้กลับมา  เธอถึงกับผวาลุกขึ้นนั่งแล้วหันไปถามแฮ็คว่า

“พี่แฮ็คนี่มันอะไร กันทำไมทำกับษรแบบนี้”

แฮ็คยิ้มออกมาก่อนตอบด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบว่า

“ทำไมหรือ  พี่ข่มขืนษรหรือไง และษรก็ดูมีความสุขดีนี่ตอบสนองพี่อย่างดี  พี่เองก็มีความสุข  พูดอย่างกับว่าเธอเองไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน”

อัปษรรวบเอาผ้าห่มมาปิดตัวและเงียบไปเพราะเธอเองก็รู้อยู่แก่ใจว่า  ตอนที่เธอยังไม่มีชื่อเสียงสมัยเข้าวงการใหม่ๆเธอมีผู้จัดการส่วนตัวที่เป็นทอมและตอนนั้นเธอได้ใช้ชีวิตอยู่กับผู้จัดการที่เป็นทอมก่อนที่เธอจะมีชื่อเสียงและมาเปลี่ยนผู้จัดการเป็นดีดี้ ซึ่งคนในวงการหลายคนนั้นพอจะรู้เรื่องในอดีตของเธอ ซึ่งเธอยอมรับว่าในตอนนั้นชีวิตเซ็กส์ของเธอนั้นค่อนข้างจะมีความสุขเพราะความรู้ใจจากผู้หญิงด้วยกัน จากที่เธอพยายามจะปฏิเสธในตอนแรกแต่สุดท้ายก็ขัดขืนความต้องการของร่างกายไม่ได้  และสิ่งที่เธอได้จากแฮ็คมาสดร้อนๆนั้น  มันก็คือความต้องการของเธอเองที่อยากจะดับอารมณ์ที่ขิงนั้นปลุกให้และมันได้รับการสนองอารมณ์เธอตอบอย่างดี

ส่วนแม่หม้ายสาวนั้นยิ้มออกมาอย่างพอใจเพราะรสสวาทที่ได้จากอัปษร ถึงแม้แฮ็คจะไม่ใช่เลสเบี้ยนแต่ชีวิตในวัยสาวของเธอช่วงสมัยเรียนอยู่ที่เมืองนอกเธอได้เคยลองรักกับเพื่อนผู้หญิงชาวต่างขาติของเธอมาแล้ว2-3คน ทำให้เธอมีประสบการณ์ในการเล่นรักเพศเดียวกันมาก่อน  และวันนี้เธอนั้นมีความต้องการขึ้นมาตอนแรกนั้นเธอเองก็อยากจะชวนยูมาแต่เธอเห็นยูที่ลานจอดรถกับแพงซะก่อนเธอเลยล้มเลิก และพอดีมาเจออัปษรซึ่งตอนแรกเธอไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแต่ในที่สุดเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ประกอบการที่เธออยากหาวิธีให้อัปษรเลิกยุ่งกับยูทำให้เธอลองใช้วิธีนี้และคิดว่าคงได้ผล  แถมอัปษรนั้นตอบสนองเธอได้อย่างดี  เธอดูออกว่าตอนนี้อัปษรแค่สับสนเท่านั้น

ยิ่งเห็นอีกฝ่ายนิ่ง แฮ็คจับมือของอัปษรแล้วดึงร่างของเธอเข้ามาอัปษรนั้นไม่ขัดขืน แฮ็คใช้มืออีกข้างดึงผ้าห่มที่ดาราสาวเอามา ปิดร่างกายออก ก่อนที่ร่างเปลือยเปล่าของทั้งคู่จะแนบสนิทกันอีกครั้งแฮ็คบรรจงเอามือมาลูบที่ใบหน้าของอัปษรเบาๆแล้วบอกว่า

“มีความสุขหรือเปล่า”

ดาราสาวหลบตาอย่างเอียงอายแล้วพยักหน้า ก่อนที่สายตาทั้งคู่จะสบกันและเหมือนมีแรงดึงดูดใบหน้าของอัปษรเข้ามาชิดที่ใบหน้าของไฮโซสาวก่อนที่ปากของอัปษรจะมาทาบกับปากของแฮ็คอีกครั้ง  ทั้งคู่แลกจูบกันเนิ่นนานพอถอนปากออกมาอัปษรกระซิบที่ข้างหูของแฮ็คว่า

“คราวนี้ษรจะมอบความสุขให้พี่แฮ็คเองคะ”

พูดจบเธอเลื่อนตัวมาคร่อมบนตัวของแฮ็ค ก่อนจะบรรจงจูบลงไปอีกครั้ง มือของแฮ็คเลื่อนลงลูบคลำสะโพกที่เต่งตึงของอัปษรแล้วขยำ ส่วนดาราสาวเอาจมูกไปซุกไซร้ที่ลำคอของแฮ็ค แล้วใช้ลิ้นเลีย แฮ็คครางออกมาอย่างแผ่วเบา  อัปษรเลื่อนหน้าลงไปที่หน้าอกของไฮโซสาวแล้วดูดดื่มหัวนมสีคล้ำทั้งสองข้างสลับไปมามีบางครั้งที่เอามือรวบเต้าทั้งสองมาชิดกันเพื่อดูดหัวนมทั้งสองข้าง  พอเห็นแฮ็คครางเสียงดังขึ้น  เธอจึงเลื่อนหน้าลงไปที่กลางลำตัว  แล้วใช้ลิ้นเลียไปที่โคกหีที่แฉะไปด้วยน้ำรักของเธอผสมกับน้ำรักของเจ้าของ  อัปษรเอื้อมเอามือไปจับมือของแฮ็คให้มาจับที่นมของเธอ  แฮ็คนั้นขยำทันทีทำเอาเจ้าของเต้าที่ผ่านการศัลยกรรมมาแล้วนั้นร้องครางออกมาอย่างสมใจที่คู่ขาตอบสนองความต้องการของเธอ   แฮ็คแอ่นตัวขึ้นมารองรับการลงลิ้นของดาราสาว    อัปษรนั้นใช้ลิ้นเก่งเกินคาดจนแฮ็คนั้นร้องออกมาว่า


“ษรขา  69 กันเหอะ  พี่อยากเลียให้ษรด้วย”

ดาราสาวเลียที่โคกหีของไฮโซสาวอีกสักพักก่อนจะทำตามความต้องการ เธอเงยหน้าขึ้นก่อนจะพลิกกายจัดท่าจนโคกหีของเธอมาจ่อตรงหน้าแฮ็คและเธอฝังหน้าลงไปที่โคกหีของแฮ็คเพื่อลงลิ้น  แต่เธอผวาอีกอีกครั้งเมื่อเม็ดแตดเธอถูกลิ้นของแฮ็คแตะก่อนลิ้นนั้นจะคว้านลึกเข้าไปในรูหีของเธอเช่นเดียวกับที่เธอกำลังทำให้แฮ็คอยู่  และพอแฮ็คเจอแบบเดียวกับที่เคยทำให้กับอัปษรคือเจอทั้งลิ้นทั้งนิ้วเข้า ตัวเธอยิ่งส่ายไปมาแต่ก็ทำแบบเดียวตอบแทนดาราสาวเช่นกันทำเอาร่างที่อยู่บนตัวเธอนั้นมีอาการคล้ายกัน จนต้องพลิกตัวลงมานอนตะแคง  และเร่งลงลิ้นกับใช้นิ้วล้วงเข้ารูหีของอีกฝ่าย จนทั้งคู่มีอาการเกร็งกันอีกครั้ง  แต่ดูเหมือนแฮ็คจะไม่หยุดยังใช้ลิ้นเลียไปที่โคกหีของดาราสาวที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำรักจนอัปษรต้องร้องบอกว่า

“พี่แฮ็คขา  พอก่อนคะ  ษรเพลียแล้ว”

แฮ็คจูบแรงๆที่รูหีของดาราสาวก่อนจะให้อัปษรกลับตัวมานอนข้างๆเธอ โดยดาราสาวเข้ามานอนซุกในอกของเธอและบอกว่า

“พี่แฮ็คษรมีความสุขมากๆเลยพี่แฮ็คเก่งจริงๆขนาดเคยแต่งงานมีลูกแล้วนะ”

“ษรก็เก่งจ๊ะ  ไม่น่าเชื่อเหมือนกัน”

เธอตอบพร้อมเอามือไปลูบที่แก้มของดาราก่อนจะบอกว่า

“พี่ว่าเรามาพูดถึงเรื่องที่เราค้างคากันก่อนดีกว่าจ๊ะ  เรื่องที่บอกว่าทำไมษรถึงไม่เหมาะกับยู อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้  ยูนะมีชีวิตอีกแบบ  ไม่ใช่ชีวิตแบบที่ษรมีอยู่ทุกวันนี้  ถ้าอยู่ประเทศไทยยูจะเก็บตัวไม่เที่ยวไม่ออกงานแต่ถ้าอยู่ที่สเปน รอบตัวเค้าจะรายล้อมด้วยบอดี้การ์ด ตลอดชีวิตต้องอยู่ในกฎระเบียบมีแบบแผนไม่มีอิสระเท่าที่ควร  แต่ษรเป็นคนรักอิสระษรจะทนได้หรือไงหรือต่อให้คบกันพี่ก็ว่าใช้เวลาไม่นานก็เลิกกัน นิสัยของยูที่พี่รู้นะ เอาแต่ใจตัวเองพอสมควร  เพราะถูกเลี้ยงมาแบบเจ้าชาย  ไม่มีใครกล้าขัดใจ ษรรับไหวหรือไง  ตอนนี้ษรมีแต่คนมาเอาใจแต่ไม่ใช่ยู เพราะยูไม่เคยเอาใจใคร  พี่พอจะดูออกนะเพราะรู้จักมาหลายปี แถมไม่แคร์ความรู้สึกใครด้วย ดีไม่ดีษรอาจจะเป็นแค่ของเล่นของยูเท่านั้น

 ที่ษรบอกว่าจะหาหลักประกันนะ พี่ว่าษรตอนนี้ก็ยืนด้วยตัวเองสบายๆแล้ว หรืออยากจะหาใครสักคนพี่ว่าษรน่าจะคนที่เหมาะสมกับษรมากกว่าซึ่งพี่มั่นใจว่า ษรต้องหาได้แน่นอน และอีกอย่างพี่เดาว่าอนาคตยูคงไปใช้ชีวิตอยู่ที่สเปนแน่นอน  เพราะสุขสบายกว่าที่เมืองไทย  ษรลองคิดดูนะ  พี่พูดนะไม่ใช่เพราะหวังดีกับษรแต่พี่พูดเพราะพี่รู้จักยูมานานแล้ว  “

เธอเน้นคำพูดประโยคสุดท้ายแล้ววางหน้าเฉยส่วนมือยังลูบที่ใบหน้าและเรือนผมของดาราสาวอยู่  และพอเห็นดาราสาวที่นอนชิดแนบกายอยู่นั้นทำท่าเหมือนคิดหนัก ทำให้เธอพอจะเดาได้ว่าทุกอย่างนั้นเกือบจะลงล็อกแล้ว  เพราะสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นสิ่งที่เธอเสริมเติมแต่งเข้าไปทั้งนั้น  เพราะเธอรู้ดีว่า อัปษรนั้นชอบให้คนมาเอาใจตามประสาซุปเปอร์สตาร์ และคนอย่างอัปษรนั้นจะไปคอยเอาใจใครได้ ยิ่งเธอบอกว่าเหมือนของเล่นของยูเหมือนจี้ใจดำเพราะเธอรู้ดีว่าอัปษรนั้นเคยเป็นของเล่นพวกไฮโซมาก่อนและพวกผู้ชายก็เอามาเม้าท์กันสนุกปากในวงเหล้า 

และทุกอย่างดูจะเป็นผลสำเร็จเพราะอัปษรนั้นมาคิดไตร่ตรองอย่างหนักแล้ว  เธอก็กลัวเหมือนที่ผ่านๆมาคือยูอาจจะเห็นเธอเป็นของเล่นเอามาเชยชมแค่ชั่วครั้งชั่วคราวเหมือนกับที่เธอเคยเจอมาในอดีต และยิ่งต่างฝ่ายต่างเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองโดยเฉพาะยูที่ดูจะเป็นคุณหนูตามที่แฮ็คเล่ามานั้นอาจจะทำให้คบหากันได้ไม่นาน  เพราะเธอเองตอนนี้ก็มีแต่คนมาเอาใจและเธอเชื่อมั่นว่าแค่เธอกระดิกนิ้วผู้ชายอีกหลายคนก็พร้อมจะมาเสนอหน้ากับเธอ  ดาราสาวนั้นหลงเชื่อสนิทเพราะความมั่นใจที่แฮ็คบอกมาว่ารู้จักยูมานานแล้ว  อัปษรจึงตอบแฮ็คไปว่า

“ษรว่าษรจะลองคิดทบทวนดูคะ”

ทำเอาแฮ็คนั้นแทบจะยิ้มออกมาแต่ต้องทำหน้าเรียบเฉยก่อนจะยืนหน้าเอาปากไปประกบกับดาราสาวซึ่งอัปษรรับการจูบของเธอแต่โดยดีและแฮ็คพูดว่า

“ไปเราไปอาบน้ำกันดีกว่า”

แล้วเธอเดินจูงมือดาราสาวไปที่ห้องน้ำโดยไม่การขัดขืนใดๆจากอัปษร  ในห้องน้ำแฮ็คจัดการผสมน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำก่อนจะเทครีมอาบน้ำและตีเป็นฟองและประคองร่างของดาราสาวลงไปนั่งในอ่างและเธอก้าวตามไปติดโดยไปนั่งซ้อนด้านหลัง ก่อนที่เธอจะจัดการถูหลังให้อัปษรซึ่งดาราสาวยินยอมแต่โดยดี  พอเธอเอื้อมไปจับลูบคลึงหน้าอกของอัปษรดาราสาวนั้นเอนตัวมาพิงเธอทันทีก่อนบอกว่า 

“พี่ขายังไม่พออีกหรือไง”

แต่แฮ็คนั้นไม่ตอบเธอหอมแก้มอัปษรจนดาราสาวตะแคงหน้ามารับการจูบของหม้ายสาวและแฮ็คยังคลึงเคล้นนมทั้งสองข้างของอัปษรไม่หยุด จนอารมณ์ของดาราสาวลุกโชนอีกครั้งหัวนมสีน้ำตาลเริ่มบานขยายออก  ใบหน้าขอแฮ็คไปซุกที่ลำคอของอัปษรก่อนจะใช้ปากเม้มเบาๆ  ทำเอาอัปษรถึงกับห่อไหล่ด้วยความเสียวจนมือของแฮ็คไปคลึงตรงเนินของเธอ อัปษรรีบลุกขึ้นและกลับตัวมานั่งหันหน้าหาแฮ็ค และยื่นปากไปจูบกับแฮ็คอย่าเร่าร้อนส่วนมือก็ลูบคลำทั้งหน้าอกและโคกหีของไฮโซหม้ายสาวเช่นเดียวกัน  พอนิ้วของแฮ็คล้วงเข้าไปในรูหีของเธอ อัปษรก็ตอบกลับแฮ็คแบบเดียวกัน ทั้งคู่แลกจูบกันอย่างดูดดื่มส่วนนิ้วต่างฝ่ายต่างล้วงที่รูหีเพื่อสร้างความเสียวกับมอบความสุขให้อีกฝ่าย จนทั้งคู่ต่างถึงจัดหมายปลายทางกันอีกครั้ง ก่อนจะแลกจูบกันอย่างดูดดื่มก่อนจะอาบน้ำอย่างจริงจัง

ทั้งคู่ต่างช่วยกันเช็ดตัวให้อีกฝ่ายและกลับมาที่เตียงนอนอันกว้างใหญ่และอัปษรหลับลงในอ้อมกอดของแฮ็คด้วยความอ่อนเพลียโดยที่ทั้งคู่ต่างไม่สวมใส่อะไรกันเลย แต่แฮ็คนั้นยิ้มออกมาด้วยความพอใจเพราะสามารถทำให้อัปษรเลิกยุ่งกับยูได้และยังมากลายเป็นลูกไก่ในกำมือของเธออีก  เพราะเธอรู้ว่าอัปษรนั้นหลงใหลในบทรักที่เธอมอบให้เข้าแล้วถึงกับเป็นฝ่ายขอนอนค้างที่ห้องของเธอ

คำเตือน  ก่อนคอมเม้นต์ จากเจ้แว่น
………………………………………………………………………………………………….
ใครจะอ่านผลงานทุกตอนในห้องนี้ ถ้าทำตามกติกา-เงื่อนไขนี้ไม่ได้ แล้วรีพลายมักง่ายผ่านไปที หรือ รีพลาย ขอบคุณครับ,ขอบคุณ,ขอบคุณค่ะ,ติดตามครับ,สนุกมากครับ,ติดตามต่อ. อะไรประมาณนี้ จะแบนเลยนะ ขอบคุณมากๆครับ ก็ไม่ต้อง thank,thank you,thx ขี้หมาหลายแหล เหล่านี้ก็อย่าให้เห็น จัดรูดแบนไปยาวๆถ้าเจอ นี่เป็นข้อตกลงไว่ก่อนอ่านระหว่างเจ้าของงาน กับสมาชิก ถ้า รีพลายผิดเงื่อนไขมาหรือ โชว์พาล์วอยู่มานาน โชว์เก๋า โชว์สด โชว์เกรียน ทำมึนลองมาจะแบนเลย เพื่อสมาชิกอีกส่วนที่พร้อมทำตามกติกา เพราะไม่เช่นนั้น รีพลายคุณอาจทำให้ สมาชิกที่ปฏิบัติตามพลอยอดอ่านไปด้วย ฉะนั้นไม่แน่ใจ อย่าพิมพ์เอามักง่ายมั่วๆ..ถ้าคิดว่า กฏนี้มันยากก็ไปหาที่อื่นเสพนะ อย่าเข้ามาใช้มาอ่านงานที่ห้องนี้ อ๋อ ใครโดน pm เตือนถ้ายังมึนจะแบนจาก 6 เดือนเป็น 1ปี. .

กฎที่วางนี่ไม่ได้เขียนเอา ฮา เนอะ แบนจริงใครอยู่นานแล้วคงรู้จัก แว่น ดี..คิดว่า ฉันแบนจริงหรือเตือนเอาสนุกเล่นๆ..อย่าๆลอง เดี๋ยวจะเสียความรู้สึกด้วยรีพลายคุณเอง ทำตามเงื่อนไข ยากอะไร หรือ จะโชว์เกรียน..เตือน,ขอร้อง,ขอความร่วมมือ แล้วเมื่อไม่รักษาสิทธิ์-ประโยชน์คุณเอง ก็แบนไปใช้เวปอื่น. .
………………………………………………………………………………………………….

ไม่เคยตอบกลับเรื่องนี้เลย บอกตรงๆว่าชอบมาก เนื้อหาดีจริงๆ เป็นนิยายในฝันเรื่องนึง ไม่จำเป็นต้องมีบทเสียวก็อ่านครับ ขอบคุณมากครับ

สาวแพงมาแรงแซงทุกอย่างจริงๆ

เชียร์น้องแพงเต็มที่ครับ

ส่วนคุณขิง ทำผิดหวังมากกกกกอะครับ

เนื้อหายังเข้มข้นเหมือนเดิมครับ พระเอกก็เจอคนที่ใช่สำหรับตัวเอง บทบนเตียงสำหรับสองสาวก็เขียนอ่านได้อารมย์มาก ขอบคุณมากครับ นึกว่าจะไม่ได้อ่านแล้วตอนนี้รอนานกว่าทุกตอนเลย แต่พอได้อ่านก็คุ้มค่าสำหรับการรอคอยครับ

รออยู่เลยครับ สนุกมากๆครับ
รอลุ้นต่อไปจะเป็นบังไง

พี่แฮ็คจัดการอัปษรสะ อยู่หมัดเลย

ตอนแรกชวนหวาดเสียวรถไฟหลายขบวนเฉียวกันไปเฉียวกันมา แต่ขบวนแพงแซงทุกขบวนเรียบร้อย ลงตัวที่สุด ขอบคุณครับ

ฮอทแล้วนะยู มีทั้งดาราและไฮโซมารุมตอม โปรไฟล์ดีแบบนี้ ความสามารถขนาดนี้ นางเอกถือว่าโชคดีแล้วแหละ สงสารแฟนเก่ายูเนาะ สำนึกได้เมื่อสายไปแล้ว

บทรักแบบเลสนี่ฟินมากเลยครับ  อ่านแล้วเคลิ้มตามได้เห็นภาพ  เนื้อเรื่องยังละมุนละไมเป็นเอกลักษณ์เช่นเดิมเลยครับ  ชอบมากๆ   

Dearest writer,

We have been waiting for this story , but dearest wrtter took more time to write soooooooo many more stories. Hope dearest writer will finish every one na kha. 

In the beginning I didn't think that this story will be like reading a romance novel. It is great that this story has less drama than I thought.  Wonderful & hope that you keep it this way na kha.. writer tee ruk !!

Can't wait to see how will you tie all this together. But I think that they have toooo much gap between them, their lifestyles are soooooo much difference ... Usually opposite attracts BUT it will not last ! Meaning even though they will hook-up , but in the long run their relationship might suffer the big difference in lifestyle!

In real life , it is very very hard to overcome this lifestyle difference, but this is just a novel ... right ?  So... I guess you will make it work somehow ! We trust you in your talent of story telling !!

Much love to one of my fave writer na kha ,
Joob Joob

ขอบคุณครับ ตอนนี้รอนานเลยแต่ก็ได้อ่านจุใจ อัปษรจะเอายูแต่โดนแฮ็กเอาแทน บทเลสดีครับ

อา...บทรักแบบ ญ-ญ นุ่มนวล ได้อารมณ์ครับ แต่งได้อารมณ์จริงๆ
แฮ็คนี่น่ากลัวจริงๆ ดีที่หวังดีกับยู ไม่คิดจะจับยูจริงๆ
ได้ดาราสาวมาตอบสนองอารมณ์แล้วยังช่วยแก้ปัญหาให้ยูได้อีก

ชอบ​ผลงาน​ของ​คุณ​ twintower​ มาก​ครับ​ อยาก​ให้​มี​เหมือน​ผู้​ประพันธ์​ใน​ตำนาน​ใต้​ดิน​ ที่​มี​เส้น​ทาง​ลัด​ รวบรวม​ผลงาน​ของ​คุณ​ twintower​ นะ​ครับ​ หรือ​ช่วย​เอา​ไป​เพิ่ม​ใน​เส้น​ทาง​ลัด​ได้​ไหม​ครับ​