คุยก่อนอ่าน สวัสดีครับนันคุงกลับแล้ว ขอโทษที่หายไปนาน พอดีมีปัญหาเยอะไปหน่อยจึงไม่ได้เขียน แต่ก็พยายามอ่านนักเขียนท่านอื่นอยู่เรื่อย ๆ นะครับ สำหรับนักอ่านหน้าใหม่ที่ยังไม่เคยอ่านจะทำวาปตอนเก่า ๆไว้ให้นะครับ ขอบคุณครับ
หลังจากคุยกันเสร็จ วันรุ่งขึ้นพ่อก็จัดการทุกอย่างให้ เริ่มจากซื้อพื้นที่ข้างบ้านเพิ่มอีก 3 ไร่ ถมเดินปรับระดับและทำรั้วเป็นลวดหนาม ส่วนผมนำต้นไม้ต่างๆที่นิยมปลูกเป็นรั้วบ้านมาปลูกแซม ซึ่งทั้งหมดให้เวลาครึ่งเดือนกว่า ระหว่างนี้ 3 สาวไม่ได้เข้ามาที่บ้านเลยจนงานพ่อผมเสร็จงานและกลับกรุงเทพไป
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
วันอาทิตย์วันหยุดวันสุดท้าย ในระหว่างที่ผมให้อาหารสัตว์และจดบันทึกอยู่นั้น ผมเห็นน้องส้มสาวห้าวเดินเข้ามาในบริเวณบ้านจึงเรียกทักทายน้องเค้า
ผม “ไงเราเป็นไงบ้างไม่เห็นนานเลยนะ”
ส้ม “ดีพี่นัน สบายดีพี่ พอดีมีข่าวมาบอก”
ผม “ข่าวอะไรหรอ”
ส้ม “ยัยทรายโดนให้ย้ายไปเรียนในกรุงเทพพี่ มันเลยให้หนูมาบอกแทน”
ผม “หรอแล้วย้ายไปที่ไหนละ เพื่อวันไหนพี่เข้ากรุงเทพจะไปหาบ้าง”
ส้ม “มันขอไม่ให้บอกอะพี่”
ผมฟังดังนั้นแล้ว ก็คิดคงมีปัญหาอะไรแน่แต่ก็ได้ตอบกลับว่า “อือ” แล้วทำงานต่อโดยไม่สบตามองส้ม ก่อนส้มที่จะบอกว่า “ทรายมันให้หนูมอบอย่างหนึ่งแทนมัน แต่พี่ห้ามหันมามองนะ” ผมได้ยินก็ทำงานต่อโดยไม่หันไปมองพร้อมบอก “อือ”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ส้ม
ผมยืมจดบันทึกได้สักพักก็รู้สึกเหมือนมีมือจับตรงน้องชายและขยำเบา ๆ ผมสดุ้งกำลังจะหันกลับไปก็ได้ยิงเสียง “อย่าหันมามองนะพี่ มันให้หนูมาทำแทนมัน แต่ตอนนี้หนูยังไม่พร้อม ขอทำแบบนี้แทนไปก็นะพี่”
ส้มพูดเสร็จก็เอามือเล็กๆล้วงเข้าในกางเกงบอลผ่านกางเกง จับท่องมังกรน้อยรุดขึ้นลงอย่างช้า ๆ ผมเริ่มทนไม่ไหวทิ้งสมุดปากกาไว้กับพื้นและยืนเอามือทั้ง 2 ข้างยันขอบบ่อ ส้มปล่อยมือออกแล้วถกกางเกงผมออก และมุดมาข้างหน้าจับมังกรน้อยมาจ่อตรงหน้า ลิ้นเลียปลายหัว 2 รอบก่อนจะดูดเข้าปากรวดเดียวมิดแท่ง ผมคราญ “ซี๊ดดดดดดด” ส้มโยกปากพร้อมเอามือชักไปด้วย ผมก็คราญไปบอกไม่ไหวแล้วจะแตกน้องจ้า ส้มละปากหันขึ้นมามองบอกว่า “เสร็จได้เลยพี่หนูรออยู่” แล้วไปดูแต่หัวบานแต่มือเร่งชักเหมือนอยากจะกินน้ำเร็ว ๆ ผมร้อง “อ๊ากกกกกก”พอปล่อยน้ำเอาปากจดหมดแม็ค เธอดูดต่อจนคิดว่าหมดจริง ๆ ก็ปล่อยน้องชายแล้วเก็บจนเรียบร้อยค่อยลุกขึ้นมา “หนูทำให้แค่นี้ก่อนนะพี่ หนูพร้อมเมื่อไหร่ พี่เตรียมฟ้าเหลืองได้เลย ไปละ”
แล้วเธอก็เดินออกไปปล่อยให้ผมยืนงงโดยไม่บอกลาสักคำ
วันจันทร์วันเปิดเทอมวันแรก ผมตื่นแต่ตี 5 ให้อาหารสัตว์และแต่งตัวออกไปเรียน ผมถึงโรงเรียนตื่น 6.30 น ไม่ใช่เพราะหรอกครับแค่จะเลือกที่นั้งได้ก่อน แบบมาก่อนเลือกก่อนประมาณนี้ ผมมาถึงเป็นคนแรกดังนั้นผมจึงเลือกโต๊ะแถวที่ 2 จากหน้าต่าง ตัวที่ 2 จากกระดาน เพราะครูชอบมองจุดนี้เสมอ ผมจะแอบหลับได้ง่ายไง เหตุแค่นี้จริง ๆ
เมื่อเลือกโต๊ะเสร็จผมก็นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้น นักเรียนคนอื่นเริ่มทยอยมาเลือกที่นั่งของตนเองจนเต็มห้อง แต่ที่แปลกก็คือไม่มีใครมานั่งข้างผมเลย ผมเองก็ไม่ได้สนใจมากนักจน 7.30 น นักเรียนหญิงคนนึ่งเดินมาถามผมว่า
“ ขอนั่งด้วยได้ไหม โต๊ะเต็มหมดแล้ว”
ผมตอบโดยไม่หันไปมอง “ได้สิ”
เธอนั่งลงพร้อมแนะนำตัวเอง “สวัสดี เราชื่อแตงกวานะ เป็นนักเรียนใหม่ นายละ”
ผม “ดี เราชื่อนัน เป็นนักเรียนใหม่เหมือนกัน” ผมพูดพร้อมหันไปมอง เห็นเป็นนักเรียนหญิงขาวสวย หน้าตาน่ารักมาก
แตงกวา “จริงสิ แล้วนายมาจากไหนหรอ” ผมกำลังจะตอบพอดีเสียงเพลงเข้าแถวดังขึ้น เราจะออกไปเข้าแถวกันก่อนโดยไม่ได้คุยกันอีก
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แตงกวา
หลังจากเข้าแถวกันเสร็จก็ได้เวลาโฮมรูม ครูสาวสวยผิวออกทางสาวแขกเข้ามาในห้องพร้อมกล่าวสวัสดีนักเรียน ซึงทางนักเรียนกล่าวสวัสดีกลับ ครูกล่าวแนะนำตัวว่า ชื่อครูอร เป็นครูใหม่ และขอให้นักเรียนทุกขานชื่อพร้อมแนะนำตัวว่ามากจากไหนกันบ้าง โดยเริ่มจากชายสลับหญิงกันไป ทั่วทั้งห้องเฮฮา แซวกันไปแหย่กันมา จนถึงแตงกวาแนะนำตัว กลุ่มผู้ชายแซวกันเกรียวกราว แต่ฝั่งผู้หญิงกลับนั่งซุบซิบกันทั้งห้อง และในที่สุดก็มาถึงผม แนะนำตัวไปว่า ชื่อนัน ย้ายมาจากกรุงเทพ และพักอยู่ที่หมู่บ้าน...... ในระหว่างแนะนำตัวได้ยินแค่เสียงกระซิบ แต่เมื่อบอกชื่อหมู่บ้านทั้งห้องกับเงียบกริบเหมือนไม่มีใครมาเรียน บรรยากาศอึมครึมไปทั้งห้องแตงกวาทำหน้ากังวลอย่างเห็นได้ชัด จนครูอรบอกในนักเรียนคนอื่นแนะนำตัวแต่ก็ไม่มีการแซวกันอีกหรือมีเสียงอะไรอีกเลย จนจบคาบเช้า
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ครูอร
ระหว่างพักเที่ยงผมรีบทานข้าวและหนีจากผู้คนมานั่งอ่านหนังสือการ์ตูนข้างสนามบอล ได้มีชายกลุ่มหนึ่ง ประมาณ 5-6 คน เดินเข้ามาทางผม เมื่อกลุ่มนั้นมาถึงโต๊ะตัวที่ผมนั่งชาย 1 ในนั่นเดินนำก้าวข้างหนึ่งวางไว้บนโต๊ะวางท่อนแขนไว้บนเข่าแล้วพูด “แกเป็นเด็กใหม่ที่เขาลือกันสินะ”
ผม “ไม่รู้สิครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าใครเขาลืออะไรกันด้วย”
อีกคนตะโกน “มึงวอนหรือไง”ที่กำลังจะทำท่าพุ่งเข้าหาผมก็โดนห้ามเสียก่อน “กูคุยกับมันเอง”
คนที่วางเท้าอยู่นั้นประกาศตัวว่า “กูชื่อกฤษ คุ้มอยู่ที่นี้ ในเมื่อมึงไม่ใช่คนที่เขาลือกัน กูให้เลือก 2 ทาง มึงจ่ายค่าคุ้มครองมา หรือมึงโดนพวกกูกระทืบแล้วจ่ายค่าคุ้มครองมา”
ผมนั่งคิดบวกความงกไปด้วย จึงลุกขี้นบอกไปว่า “คุณมาตัวๆกับผมดีกว่า ถ้าผมชนะอย่ายุ่งกับผมอีก แต่ถ้าผมแพ้ ผมยอมเป็นลูกน้องให้”
เมื่อผมเสนอออกไปทั้งกลุ่มหัวเราะลั่น ก่อนที่กฤษจะสั่งให้หยุด “ได้เอาตามนั้น” จะพุ่งเข้าสาวหมัดขวาใส่หน้าผม แต่ด้วยที่ผมเคยฝึกการป้องกันตัวจากศาสตร์มืดแห่งโรงเรียนวัดโพ-ไซ-ดอน ผมเบี่ยงขวาหลบพร้อมยื่นมือขวาจับข้อมือและใช้เท้าซ้ายขัดไปที่ข้อเท้าขวา ผลคือกฤษหน้าทิ่มมือขวาโดนจับบิดล๊อก คอโดนล็อกด้วยหน้าแข้ง ผมตะโกน “อย่าเข้ามาไม่งั้นแขนมันหักแน่” ลูกมันจึงไม่กล้าเข้ามา ผมก้มไปคุยกับกฤษว่า “ไม่รู้ว่าเขาลืออะไรกัน แต่ท่าลือว่าผมมาจากหมู่บ้าน.... เขาลือกันถูกแล้ว และอย่ามายุ่งกับผมอีก” เสร็จค่อยๆ คล้ายการล๊อกพร้อมถ่อยออกมาโดยยังมองยังกฤษที่นอนอยู่จนคิดว่าปลอดภัยจึงหันจะไปเก็บหนังสือแต่ต้องพบอาจารย์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก 1 ในนั้นเข้ามาบอกว่า ไปที่ห้องผู้ปกครองด้วย
ในห้องปกครองผมโดนอาจารย์ปกครองต่อว่านิดหน่อย แล้วครูอรจัดการเรื่องการทำโทษ ซึ่งก็แค่ให้ทำเวรเย็นคนเดียว 1 อาทิตย์ แล้วปล่อยตัวกลับห้อง เมื่อถึงห้องเรียนห้องทั้งห้องเงียบยิ่งกว่าเดิม ทุกไม่มีแม้แต่การคุยไม่มีแม้แต่การลุกทำธุระส่วนตัวระหว่างคาบนั่งนิ่งจนจบคาบเรียนสุดท้าย สำหรับแตงกวานั้นไม่ต้องพูดถึง เธอล้มหน้าอย่างเดียวจนเลิกเรียนเลยทีเดียว
เมื่อกริ่งจบคาบสุดท้ายดังขึ้นก็ไร้วี่แววการขยับตัวกัน ผมเห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้นจัดกระเป๋าแล้วปล่อยลม เฮ้อ แล้วเดินออกมา ขี้จักรยานกลับบ้านได้ไม่ถึง 500 เมตรก็มีรถมอเตอร์ไซค์ 4 คันมาประกบ ล้อมหน้าหลัง คนที่ขับประกบข้างเปิดบังแดดบอกให้ขับตามมาถ้าไม่อยากตาย ติดตามตอนต่อไป..............
วาร์ปตอนเก่า
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น