รูปภาพ/ตัวละคร/เนื้อเรื่อง เป็นเพียงเรื่องสมมติแต่งเพื่อความบันเทิงเท่านั้นเจอกันอีกทีน่าจะวันหยุดเลยนะครับ ฮ่า ขอตัวไปทำงานก่อน
.......................................
กรมองผู้ส่งเสียงด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม แม้เขาไม่ชอบการนองเลือด ดูแล้ววันนี้คงยากที่จะหลีกเลี่ยงแล้ว บุญคำชะงักยืนอยู่ครูหนึ่งเมื่อเห็นไอหมายเพื่อนสนิทและลูกน้องนอนสลบอยู่กับพื้น เขาแทบไม่อยากเชื่อเลยจะเป็นฝีมือของหนุ่มแว่นที่เหมือนเด็กเรียนเสียมากกว่า
“ไอหนูมึงทำอะ…..” บุญคำพูดไม่ทันจบ ก็โดนต่อยลงไปนอนกับพื้น ที่จริงเขายืนห่างจากชายหนุ่มเกือบสามเมตร การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วทำให้เขาไม่ทันตั้งตัว โครม!! ร่างอ้วนท้วมน็อคกลางอากาศเมื่อเจอหมัดขวาตรงเสยเข้าไปปลายคาง กรรีบโทรหาพี่ในหน่วยลับช่วยมาเก็บซาก และขอกำลังเสริมให้มาที่น้ำตกแห่งนี้เพื่อกวาดล้างโจรชั่วในระแวกนี้ให้หมดไป
“เอาไงดีวะเนี่ย….สองคนนี้ยังนอนสลบอยู่เหมือนกัน คุณหญิงกับคุณแก้วก็โดนจับตัวไปอีก ตูจะช่วยใครก่อนดีวะ ถ้าย้อนกลับไปที่รถก็เสียเวลา จะทิ้งพวกนี้ไปช่วยสองแม่ลูกก็….”
ในขณะเขาลังเลก็ตัดสินใจ มัดพวกโจรสี่คนไว้กับต้นไม้ใหญ่ก่อน เขาพาสาวสวยและเพื่อนของเธอไปนอนในพุ่มไม้ที่ใหญ่พอสมควร เนื่องจากเขาปลุกยังไงหมอนั่นก็ตื่นสักที หนุ่มแว่นเดินไปค้นตัวของโจรทั้งสี่ปรากฏได้ปืนสั้นมาสองกระบอก ระเบิดน้อยหน่าสามลูก และหยิบมีสั้นสองเล่มมาเหน็บไว้ที่เท้า ก่อนทีไปเขาได้ปลุกลูกสมุนเค้นถามความลับและสถานที่จับตัวพวกคุณหญิงไป ด้วยวิธีการจากหน่วยลับเพียงไม่นานไอสองก็คลายคำสารภาพมาเกือบหมด
เมื่อทราบเส้นทางแล้ว เขาก็ปลุกสาวสวยให้ตื่นจากนิทรา ร่างงามลืมตามองชายหนุ่มผู้มอบความสุขจนเธอแทบตาย กรไม่มีเวลาอธิบายเรื่องราวมากนัก เขาบอกให้เธอไปซ่อนตัวอยู่บริเวณเดียวกับแฟนหนุ่มก่อน หากมีอะไรเกิดขึ้นให้รีบโทรหาตำรวจทันที เธอผงกหัวรับคำอย่างว่าง่าย
ทว่าชายหนุ่มไม่รู้ตัวเลยว่าหญิงสาวคนสวยที่เขาเพิ่งจัดการไปนั้น เป็นถึงนางเอกช่องน้อยสีที่ดังระดับต้นๆ ของเมืองไทย เนื่องจากนายกรไม่ค่อยติดตามข่าวสารวงการบันเทิงสักเท่าไร ทำให้เขาไม่รู้ตัวตนของเธอและชายหนุ่มที่เป็นนักร้องชื่อดังเช่นเดียวกัน
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
อีฟ
……………………………………………………..
โจรที่จับคุณหญิงไปเป็นพวกกลุ่มเสือดำ ค่ายพวกมันแอบซ่อนตัวอยู่หลังน้ำตกแห่งนี้ โดยการจะเดินไปยังค่ายต้องผ่านน้ำตกชั้น 5 แล้วจะมีเส้นทางลัดที่กลุ่มเสือดำทำขึ้นมา พวกมันค้าขายยาเสพติดและของเถื่อน แต่การขยายอิทธิพลของเสี่ยชัยทำให้รายได้ลดลงอย่างมหาศาล ทำให้พวกมันวางแผนเรียกค่าไถคุณหญิงและลูกสาวเสี่ยชัย
หากบอกว่าทำไม่มันกล้าสร้างค่ายใกล้สถานที่ท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะพี่ชายของเสือดำเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอุทยานแห่งชาติ และคนภายในเกือบทั้งหมดโดนพวกมันติดสินบน จนทำให้สถานที่แห่งนี้ไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเลย เพราะโดนกีดกันจากเจ้าหน้าที่นั่นเอง และที่สำคัญยังมีข่าวลือที่ว่าหากผู้หญิงมักเที่ยวที่นี่แล้ว มักจะโดนฉุดลากไปข่มขืนจนกลายเป็นศพ
ความไม่ชำนาญในเส้นทางทำให้เขาเสียเวลาอยู่พอสมควร เขามาสำรวจน้ำตกแห่งนี้ในวันก่อนแค่เพียงชั้นที่ 4 เท่านั้น จากคำสารภาพกลุ่มเสือดำมีอยู่เกือบ 50 คน เรียกได้ว่างานนี้เป็นงานยากของเขาเลย จะให้รอกำลังเสริมคงไม่ทันการ เพราะที่ตั้งหน่วยงานลับห่างจากน้ำตกไกลพอสมควร ต้องใช้เวลาในการเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง ค่ายพักของกลุ่มโจรเสือดำถูกสร้างด้วยไม้แบบง่าย มีกำแพงไม้กั้นสี่ด้าน ภายในมีบ้านหลังใหญ่อยู่ทางด้านซ้ายมือของค่าย และมีบ้านพักอีกหลายหลังปลูกอยู่ใกล้ๆ ด้านหลังเป็นคลังเก็บอาวุธ ด้านหน้าเป็นลานกว้าง
ชายหนุ่มถอดแว่นออกเก็บใส่กระเป๋าเสื้อ เขาเดินมาถึงค่ายของโจรแล้ว แต่เขาไม่ได้คิดว่าตัวเองเป็นพระเอกแบบในหนัง ที่จะได้บู๊เดียวไปช่วยนางเอกได้ด้วยตัวคนเดียว สมองวิเคราะห์สถานการณ์อย่างรวดเร็ว จากที่เห็นมีเวรคุ้มกันรอบค่ายสี่ทิศ แต่ละทิศมีคนเฝ้าอยู่สองคนรวมแล้วเป็นแปดคน โดนเขาจัดการไปสี่และไปทำภารกิจข้างนอกสิบห้าคน ทำให้เขามั่นใจว่าในค่ายมีคนทั้งหมดประมาณสามสิบคน แต่สิ่งสำคัญคือเขาไม่รู้ว่าคุณหญิงถูกจับตัวอยู่ที่ไหน
“เฮ้อ!! แล้วจะช่วยคุณหญิงไงวะเนี่ย ไม่รู้ว่าพวกเธออยู่ไหนด้วย งานยากแท้ๆ”
กรบ่นเบาๆ พร้อมอ้อมไปด้านหลังของค่ายที่เป็นคลังเก็บอาวุธ เขาปีนต้นไม้ใหญ่แล้วหยิบกล้องส่องทางไกลอันจิ๋วที่มักพกติดตัวอยู่ประจำ จากที่เห็นมีเวรยามอยู่นอกค่ายสองคน ด้านในค่ายมีคนเฝ้าหน้าคลังเก็บอาวุธอีกสองคน ข้างๆคลังมีโต๊ะไม้อยู่สองโต๊ะ บริเวณนั้นมีคนเกือบสิบคนมุ่งดูการเล่นหมากล้อมอยู่ บอกได้ว่าถ้าเข้าบุกไปทางนี้จะเจอศัตรูเกือบสิบห้าคน
ในช่วงวิกฤตยังมีโชคดีอยู่บ้างเมื่อเห็นชายคนหนึ่งเดินมาปัสสาวะ เขาย่องไปอย่างแผ่วเบาแล้วจัดการบิดคอดัง กร็อบ!! เหยื่อผู้โชคร้ายไม่ได้ส่งเสียงร้องสักนิด เขาจัดการลอกคาบแล้วใส่ชุดของหมอนั่นแทน ตอนนี้เขามีอาวุธเพิ่มเป็นปืนสั้น 3 กระบอก มีดสั้นสองเล่ม ระเบิดน้อยหน่าสามลูก กับไฟแช็คอีกหนึ่งอัน
‘ถ้ารอพี่หน่วยลับคงไม่ทันการ ช้าเกินไปพวกคุณหญิงก็ไม่แน่ใจว่าจะปลอดภัย งานนี้มีแต่ต้องลุยเองแล้ว’ กรคิดในใจ ความจริงเขาเองก็ไม่อยากลุยเดี่ยวสักเท่าไร แต่เกรงว่าปล่อยเวลาผ่านไปคงไม่ใช่ผลดีเป็นแน่
………………………………………………..
“โอ้ย!!....ช่วยข้าด้วย…..ข้าถูกแทง….โอ้ยยย” เสียงขอความช่วยเหลือดังขึ้นมา ร่างสูงโปร่งก้าวเดินอย่างช้าๆ มือหยาบกร้านกุมบริเวณเอวไว้ เสื้อสีดำเปียกชุ่มไปด้วยเลือดสีแดงสด สมุนผู้เฝ้ายามประตูทิศใต้มองเพื่อนที่ถูกทำร้ายด้วยความตกใจ รีบวิ่งเข้ามาประคองคนเจ็บอย่างรวดเร็ว
“เฮ้ย!!.....ดะ…โด…….” คำถามที่ยังเอ่ยไม่จบ ร่างคนถามก็กลายเป็นไร้ชีวิต เมื่อโดนมีสั้นปาดที่หลอดลมอย่างแม่นยำ เขาประคองเหยื่อผู้โชคร้ายไปตรงประตู ก่อนจะปาระเบิดน้อยหน่าไปตรงกำแพงด้านขวา ตูม!!! เสียงระเบิดดังลั่นไปทั่วบริเวณค่าย ผู้คนมากมายรีบวิ่งออกมา มือของพวกมันถืออาวุธครบมือ
“เกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย ใครมันกล้าบุกค่ายเสือดำวะ” เสียงห้าวถามชายหนุ่มที่นอนอยู่บนพื้น ควันฟุ้งกระจายทำให้บดบังวิสัยทัศน์การมองเห็นไปชั่วครู่
“โอ้ย!!!.....ช่วยด้วย…..มีคนร้ายบุก…อ๊ากกก……เพื่อนเราโดนฆ่าตายแล้ว” เสียงตะโกนของกรดังลั่น ทำให้พวกที่ออกมาพากันตกใจ มันไม่คิดเลยว่าจะมีใครกล้าหยามบุกมาฆ่าครอบครัวมันถึงค่ายแบบนี้ เสียงห้าวคนเดิมมองร่างที่ไร้ชีวิตที่นอนบนพื้นด้วยความอาฆาต
“พวกมันเป็นใครวะ แล้วมันมาจากไหน”
“มันใส่ชุดดำมากันหลายคน วิ่งหนีไปทางนั่นแล้วลูกพี่…โอ้ย!!” เขาแกล้งร้อง พร้อมกับสีหน้าแสดงถึงความเจ็บปวด ศักดิ์มือขวาของเสือดำได้สั่งให้ลูกน้องคนหนึ่งพาเขาไปทำแผล ส่วนคนที่เหลือตามมันไปล่าคนที่บังอาจมาลูบคมพวกมันถึงถิ่น ชายหนุ่มถูกประคองเขาไปในค่าย กรถูกพามาบ้านหลังหนึ่ง เหมือนพระเจ้ายังเข้าข้างเขา เมื่อเห็นร่างของสองแม่ลูกถูกมัดอยู่ในบ้านหลังใหญ่ที่สุดของค่าย บริเวณนอกบ้านมีคนยืนคุ้มกันห้าคน
“มึงนอนไปก่อน กูไปหยิบยาทำแผลก่อน” ชายผู้ประคองเอ่ยขึ้นมา
“เดี๋ยวอย่างเพิ่งไป ข้าขอถามอะไรหน่อย ในบ้านหัวหน้าตอนนี้มีใครอยู่อีกเหรอป่าววะ”
“มึงอยากรู้ไปทำไมวะ”
“ไม่อะไรหรอกน่า กูแค่เห็นสองแม่ลูกนั่นน่าเย็ดชะมัดเลย มึงเห็นด้วยป่าววะ” กรแกล้งพูดด้วยท่าทีหื่นกระหาย คนตรงข้ามได้ยินคำพูดก็หัวเราะเสียงดัง มันพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเขา
“กูเห็นด้วยวะ โดยเฉพาะนังลูกสาวหยิ่งผยองแบบนั้น น่าเย็ดแมร่งให้หายหยิ่งสักที ในบ้านของหัวหน้าตอนนี้ไม่มีใครอยู่หรอก หัวหน้าเพิ่งออกไปเข้างนอกเมื่อกี้เอง” เสียงทุ้มกล่าวพลางหันหลังเตรียมออกไปหยิบยา แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากบ้าน มีดสั้นเล่มหนึ่งก็พุ่งทะลุหัวใจ ขณะจะส่งเสียงร้องมือหยาบกร้านก็ปิดปากเขาแน่น แล้วคอเขาก็สะบัดตามแรงบิดดัง กร็อบ!!
เขาสามารถเข้ามาในค่ายได้สำเร็จแล้ว แต่ปัญหาคือเขาจะทำอย่างไรถึงพาสองแม่ลูกหนีออกไปข้างนอกได้อย่างปลอดภัย ตอนนี้เขาจัดการโจรเสือดำไปอีกสาม บวกกับก่อนหน้านี้สี่รวมทั้งหมดเป็น 7 คน ยามเฝ้าประตูอีกสามทางรวมเป็น 6 คน พวกที่ตามนายศักดิ์ไปอีก 10 คน และออกพร้อมหัวหน้า 15 คน สรุปแล้วในค่ายเหลือโจรกลุ่มเสือดำประมาณ 12 คน
กรสำรวจบ้านหลังที่ตัวเองอยู่ ภายในบ้านไม่มีของตกแต่งอะไรเลย มีแกรลอนและกระป๋องมากมาย ร่างสูงโปร่งเดินสำรวจอย่างใจเย็น มุมปากชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขากำหนดแผนการในใจอย่างรวดเร็ว ‘ลาก่อนค่ายเสือดำ’
……………………………………………………….
“ไฟไหม้……..พวกเราเกิดไฟไหม้………ช่วยไปดับไฟเร็ว” เสียงตะโกนดังลั่นทำให้คนในค่ายที่เหลือ พากันวิ่งหาน้ำเพื่อที่จะดับไฟ ควันสีดำลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณค่าย เพลิงไหม้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื้อจากบ้านทุกหลังในค่ายแห่งนี้ถูกสร้างจากไม้ มันจึงเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
ชายหนุ่มต้นเหตุของเปลวเพลิงทำท่าวิ่งไปหาน้ำ แต่เขาแอบวิ่งไปที่บ้านหลังใหญ่ที่ตอนนี้ไม่มีใครคุ้มกัน เพราะมัวแต่ไปดับไฟที่ลุกลามอย่างรวดเร็ว เมื่อเข้ามาในบ้านเห็นสองแม่ลูกนอนร้องไห้หวาดกลัว “คุณหญิง คุณหนูผมมาช่วยแล้ว แต่ก่อนอื่นช่วยเลิกร้องไห้แล้วตั้งสติหนีออกจากที่แห่งนี้ก่อนดีกว่า”
กรพูดพลางแก้เชือกที่พันธนาการสองแม่ลูกไว้ พวกเธอพยักหน้าอย่างว่าง่าย แก้วที่ตอนแรกมีท่าทีหยิ่งยโส ในตอนนี้กลับทำตามเขาโดยไม่ปริปากบ่นแม้แต่น้อย เขายื่นมีดสั้นให้สองแม่ลูกไว้ป้องกันตัว กรเดินนำพวกเธอไปทางทิศใต้อย่างระมัดระวัง แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลก กลุ่มนายศักดิ์ดันกลับมาจ๊ะเอ๋กลับเขาพอดี
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
คุณหญิงบุ๋ม
“คุณหญิง….คุณหนูไปแอบในบ้านหลังนั้นก่อน เร็วเข้าวิ่ง!!” ชายหนุ่มตวาดเสียงดัง เขาแกะสลักแล้วโยนระเบิดใส่กลุ่มนายศักดิ์ทันที ตูม!! ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!! เสียงระเบิดดังขึ้นตามด้วยเสียงสาดกระสุนถี่ยิบของนายกร ชายทั้งสิบไม่ทันได้เตรียมตัวทำให้โดนระเบิดเข้าไปเต็ม มีสี่นายที่ได้เยี่ยมสวรรค์ในทันที และมีอีกสามโดนยิงเสียชีวิตในเวลาต่อมา สภาพอีกสามคนที่เหลือไม่สู้ดีนัก กรไม่ปราณีศัตรูยิงซ้ำจนพวกนั้นเสียชีวิตหมด เขาถือคติประจำตัวว่า ถ้าศัตรูไม่ตาย เขาเองนั่นแหละที่ตาย
ชายหนุ่มวิ่งตามไปในบ้านที่บอกให้สองแม่ลูกเข้าไปซ่อนตัว ภายในบ้านเต็มไปด้วยอาวุธมากมาย เรียกได้ว่าในบ้านหลังนี้สามารถถล่มอำเภอหนึ่งได้สบายเลย เขาหยิบปืนสั้นส่งให้สองสาวคนละกระบอก อย่างน้อยพวกเธอมีของป้องกันตัว เขาไปหยิบเป้สะพายหลังที่วางอยู่ตรงมุมห้องแล้วขนระเบิดหลากหลายนิด และแม็กกาซีนลูกปืนใส่เข้าไป
เสียงระเบิดและปืนทำให้ลูกสมุนทั้งหมดของกลุ่มเสือดำ มารวมตัวกันอยู่ประตูทางใต้ พวกนั้นจับกลุ่มอย่างแน่นหนาพลางมองลูกพี่ที่นอนตายอย่างอนาถ แววตาอาฆาตแค้นของพวกมันทำให้เขาที่ซุ่มแอบดูอยู่ถึงกับขนลุก แต่โชคร้ายที่พวกนั้นไม่เห็นเขา และนั่นเป็นสิ่งที่พลาดอย่างร้ายแรง เขาหยิบอาร์พีจีแล้วบรรจุกระสุนเล็งไปบริเวณที่พวกนั้นยืนอยู่ มือหยาบกร้านเหนี่ยวไกลแล้วยิง ตูม!!!
เสียงดังสั่นสะท้านแสบแก้วหู สองแม่ลูกกรีดร้องด้วยความตกใจ เขาไม่ปล่อยให้กลุ่มเสือดำได้ตั้งตัว หยิบปืนสั้นสองกระบอกวิ่งไปด้านนอกแล้วหลบอยู่หลังโต๊ะไม้ ปัง!! ปัง!! ปัง!! ปัง!! กรกระหน่ำยิงอย่างถี่ยิบ ก่อนจะวางปืนที่กระสุนหมดลง แล้วแกะสลักโยนระเบิดน้อยหน่าซ้ำไปอีกสามสี่ลูก
ตูม!! ตูม!! ตูม!! ตูม!!
ค่ายเสือดำตอนนี้เต็มไปด้วยเปลวเพลิง บ้านพักพังเละเทะตามแรงระเบิด ไฟที่เริ่มลุกลามมายังบริเวณคลังอาวุธ เขารีบไปหาสองแม่ลูกแล้วพาพวกเธอหนีออกจากค่ายนรกแห่งนี้ คุณหญิงและลูกสาววิ่งตามชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว หัวใจของพวกเธอเต้นระรั่วด้วยความตื่นเต้น ความกลัว ความตาย ทำให้สองขาวิ่งไม่รู้จัดเหน็ดเหนื่อย
“รีบไปกันเถอะครับ” กรจูงมือบุ๋มและแก้วออกไปทางทิศใต้ โดยไม่สนใจพวกกลุ่มเสือดำอีก เนื่องจากควันที่มันลอยฟุ้งเต็มบริเวณ ทำให้เขามองอะไรไม่ค่อยชัดมากนัก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ประมาททุกอย่างก้าวเดินอย่างระมัดระวัง ทว่าสี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แก้ว
“คุณแก้วระวัง” เสียงตะโกนทำให้สาวสวยตกใจ แต่ร่างกายของเธอไม่สามารถขยับได้ตามเสียงของเขา ร่างงามหลับตาอย่างยอมแพ้
ปัง!! โครม!!
เสียงล้มลงของร่างอ้วนท้วม หนึ่งในลูกสมุนของกลุ่มเสือดำนอนหงายอยู่บนพื้น เลือดสีแดงไหลชุ่มไปทั่วร่างของเขา ก่อนจะมีเสียงสาดกระสุนอย่างกระหน่ำ ทำให้ลูกสมุนทั้งหมดของกลุ่มเสือดำนอนเป็นศพเต็มไปหมด กรจ้องมองชายหนุ่มแปลกหน้าที่ยิ้มฟันขาวให้กับเขา
“ฮ่าๆๆ เป็นไงไอน้อง เกือบม่องเท่งแล้วไง” ชายแปลกหน้าพูดอย่างอารมณ์ดี
“ชอบคุณมากพี่ศักดิ์มาช่วยได้ทันเวลาพอดี” กรกล่าวขอบคุณ พลางหันไปมองดูสาวสวยในอ้อมกอด เขาสัมผัสได้ถึงร่างบางที่สั่นระริกด้วยความหวาดกลัว สาวสวยร้องไห้สะอื้นซบบนอกแผ่นกว้าง เสื้อของเขาเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของเธอ ดวงตาแดงก่ำเป็นสีเลือดบ่งบอกเลยว่าเธอร้องไห้หนักแค่ไหน
“คุณแก้วปลอดภัยแล้วนะครับ ไม่มีอะไรต้องกลัวแล้ว ผมรับรองพวกคุณต้องกลับอย่างปลอดภัยแน่ครับ”
กรกระซิบพูดที่ข้างหูของเธอ พลางยื่นมือจับใบหน้าสาวสวยขึ้นมาแล้วซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน แววตาสีดำขลับจ้องมองเขาอย่างแปลกใจ ก่อนสาวสวยจะได้สติผลักร่างชายหนุ่มเบาๆ แล้วเข้าไปกอดมารดาที่มีอาการไม่แตกต่างจากตัวเธอมากนัก ทว่าเสียงร้อง “โอ้ย” ของกรทำให้ทุกคนต้องตกใจ
“เฮ้ย!! ไอกรมึงเป็นไรวะ ไอเวรแล้วทำเก็กตั้งนานไม่บอกกูวะ มึงทนอีกหน่อยไม่นานพวกเราก็ตามมาสบทบแล้ว”
ศักดิ์สบถอย่างหัวเสียเมื่อเห็นรุ่นน้องยอมพูดอะไร มัวแต่ปลอบสาวอยู่นั่น เขาอยากจะเขกหัวมันสักครั้งจริงๆ เจ็บเจียนตายอยู่แล้วยังทำเท่อยู่ได้ สองแม่ลูกช่วยกันพยุงนายกรด้วยความห่วงใย โดยเฉพาะแก้วแววตาของเธอแสดงความเป็นกังวลอย่างชัดเจน
“ผมโดนแค่มดกัดตรงเอวทำเป็นซีเรียสไปได้พี่ ไม่ต้องเป็นห่วงผมไปหรอก คนอย่างผมมันตายยากอยู่แล้วน่า ผมต้องขอโทษคุณบุ๋มกับคุณแก้วด้วยนะครับ ที่ต้องพามาเจอเรื่องอะไรแบบนี้”
กรเอ่ยขอโทษสองสาวอย่างจริงใจ แม้ว่าครอบครัวของเธอจะทำให้ชีวิตเด็กคนหนึ่งต้องเกือบพังพินาศ แต่ว่าเสี่ยชัยก็คือเสี่ยชัย ไออ้วนก็คือไออ้วน พวกเธอเป็นผู้บริสุทธิ์ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่นายกรยึดมั่นคือศักดิ์ศรีและความเป็นมืออาชีพต้องมาก่อนเรื่องส่วนตัวเสมอ
ทว่าสายตาของสองสาวมองชายหนุ่มที่ช่วยชีวิตพวกเธออย่างรู้สึกขอบคุณ แต่กลับนายศักดิ์เขาอยากฆ่าหมอนี้ให้รู้แล้วรู้รอด เขาอยู่กับมันเกือบ 3 ปีมันแทบไม่เคยพูดอะไรเลย พออยู่ต่อหน้าสาวทำไมมันพูดได้มากแบบนี้วะ แทบยังมีการเล่นมุขอีก
‘โว้ย ไอกรตูอยากบีบคอมึงให้ตายเลย ตูจะได้ไปอยู่ตรงกลางมีสาวสวยประคองบ้างโว้ย‘ ศักดิ์พูดด้วยความอิจฉา ในตอนแรกเขาอุส่าเป็นห่วงนึกว่ารุ่นน้องโดนยิง ที่ไหนได้มันดันบอกโดนมดกัด แถมยังตีเนียนโอบกอดสองแม่ลูกไม่ยอมปล่อยอีก ‘ดู...ดู....มันยังเนียนไม่ยอมปล่อย.........ตูละอิจฉาโว้ย’ ศักดิ์คิดในใจ พร้อมเดินหนีทั้งสามไปก่อนจะอดไว้ไม่ไว้จนเผลออัดใครบางคน
“อืออออ” สองแม่ลูกเผลอส่งเสียงครางเบาๆ เมื่อนายกรอาศัยช่วงที่สองสาวประคองเขาซ้ายขวา มือมารของนายกรขยับไปโอบกอดพวกเธอ แล้วเลื่อนไปเล็กน้อยจนสัมผัสหน้าอกของพวกเธอ จากนั้นเขาขยำหน้าอกเธอเบาๆ ก่อนจะปล่อยอย่างแนบเนียนจนแม้แต่สองแม่ลูกยังจับไม่ทัน
จากนั้นนายกรขอบคุณทั้งคู่ที่เป็นห่วง เขาถามพวกเธอต้องการจะเที่ยวต่อหรือว่ากลับไปพักผ่อน ซึ่งพวกเธอมีอารมณ์ที่จะเที่ยวต่อแล้วจึงตัดใจสินกลับไปที่รีสอร์ท เขาเองพยักหน้าก่อนจะพาสองแม่ลูกคนเดินทางกลับ
ทว่าก่อนกลับเขาหันไปมองทิศทางที่ช่วยใครบางคนไว้ ‘สาวสวยคนนั้นจะเป็นอะไรเหรอป่าวนะ’ เขาคิดในใจ แต่พี่ศักดิ์บอกว่าเธอกับชายหนุ่มปลอดภัยแล้ว ตอนนี้พวกเขาถูกคุ้มครองไปส่งถึงบ้านเป็นที่เรียบร้อย
.................................................................
ระหว่างกลับภายในรถยนต์คันหรูไม่ได้มีเสียงพูดคุยเหมือนเดิม สองแม่ลูกพากันนิ่งเงียบ ชายหนุ่มชำเลืองตามองอย่างไม่แปลกใจ เพราะพวกเธอเพิ่งเกือบเสียชีวิตในเหตุการณ์ไม่กี่นาทีก่อน ทำให้ตลอดทางมีเพียงเสียงเพลงที่ดังขึ้นจากวิทยุเท่านั้น
ทว่าช่วงที่ขับรถนายกรอดหวนคิดถึงการฝึกในหน่วยรบพิเศษไม่ได้ หลังจากที่เขาได้พิกัดตำแหน่งของค่ายฝึกหน่วยรบพิเศษแล้ว เขาไม่รอช้าออกเดินทางในทันทีซึ่งจุดหมายของการเดินทางอยู่ที่ภาคเหนือ นั่นคือจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยค่ายฝึกมันอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง กว่านายกรจะไปถึงเรียกได้ว่าเกือบเอาชีวิตไปทิ้ง
เด็กหนุ่มวัย 15 ปี เดินเท้าจากถนนใหญ่ที่ใกล้ค่ายหน่วยรบพิเศษ เด็กหนุ่มเดินเข้าไปในป่าที่มีแต่ต้นไม้สูงใหญ่ นายกรพกเสบียงของกินไปด้วยทว่าตลอดระยะเวลาเกือบสัปดาห์ นายกรพยายามเดินไปยังจุดหมาย แต่เหมือนยิ่งเดินเขายิ่งห่างไกลออกไปทุกที นายกรหลงอยู่ในป่าเกือบ 1 อาทิตย์ เสบียงที่พกมาหมดลงตั้งแต่ 4 วันแรก เขาได้แต่หาอาหารในป่ากินเพื่อความอยู่รอด และเป็นโชคดีของนายกรที่ไม่เจอสัตว์ป่าเลย
ทว่าในวันที่ 8 ในวันที่เขานอนหมดแรงอยู่ตรงโขดหินใหญ่ ได้มีชายชรา 2 คนเดินมาพอดี ก่อนจะส่งสายตามองร่างเด็กหนุ่มที่นอนหมดสติด้วยความประหลาดใจ ก่อนพวกทั้งสองจะช่วยกันพยุงเด็กหนุ่มไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งมันเป็นจุดมุ่งหมายของเขาพอดิบพอดี
นายกรนอนสลบไปเกือบ 1 วันเต็ม ก่อนจะฟื้นขึ้นมา เมื่อเขารู้ว่าอยู่ที่ค่ายหน่วยรบพิเศษแล้ว ถึงกลับดีใจยกใหญ่พร้อมกับเอ่ยปากขอร้องผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเขา (อายุประมาณ 30 ปี) ให้รับเขาฝึกในหน่วยรบพิเศษด้วย ทว่าสิ่งได้ตอบกลับมาดันเป็นเสียงหัวเราะ และบอกให้เขารีบพักผ่อนจะได้กลับบ้าน
ทว่าคนในค่ายต้องล้วนตกตะลึงกลับความตื้อของเด็กหนุ่ม มันไม่เพียงที่จะท้อถอย นายกรไม่ยอมกลับบ้านตามคำพูดของนายทหาร ซึ่งต่อมาเขาได้รู้ชื่อของรุ่นพี่คนนั้นว่า “ภูมิ” กรได้เล่าสาเหตุที่มายังค่ายแห่งนี้ให้พวกทหารฟัง พวกมันจ้องมองเด็กหนุ่มด้วยความสงสาร แต่ยังไม่มีใครกล้าเอ่ยปากที่ตอบรับคำขอ แม้ว่านายกรจะไม่ได้เข้าในหน่วยรบพิเศษทันที เด็กหนุ่มกลับขออนุญาตอยู่ที่นี่ไปก่อน
เพียงไม่นานเด็กหนุ่มวัย 15 ได้อยู่ค่ายหน่วยรบพิเศษเป็นเวลา 1 เดือน ตลอดเวลาที่มันอยู่ ตอนเช้านายกรจะออกไปวิ่งร่วมกับคนในค่าย วันแรกมันวิ่งได้เพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น คนในค่ายพากันหัวเราะสนุกสนาน แต่สายตาของทุกคนไม่ได้แสดงถึงความเหยียดหยามเลย
จาก 5 กิโลเมตร เริ่มขยับเป็น 10 15 จน 1 เดือนผ่านไป นายกรสามารถวิ่งร่วมกับคนในค่ายที่ฝึกวิ่งเช้าเย็นเกือบ 50 กิโลเมตร เช่นเดียวกับการฝึกออกกำลังกายอย่างอื่นๆ เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลา 1 เดือน สมรรภาพทางด้านร่างกายของเด็กหนุ่มพัฒนาอย่างก้าวกระโดด
เช่นเดียวกันนายกรยังไม่รู้ว่าคนที่ช่วยเหลือเขามายังค่ายพัก เป็นชายวัยชราสองคน ซึ่งทั้งสองแอบสังเกตเด็กหนุ่มอยู่แบบเงียบๆ วันเวลาล่วงเลยผ่านไปนายกรเริ่มชินกลับสภาพการฝึกหนักของคนในหน่วยรบพิเศษ เรียกได้ว่ามันแทบจะฝึกทุกอย่างที่พวกเขาฝึกกัน ไม่ว่าจะเป็นวิ่ง แบกกระสอบ ดำน้ำ ว่ายน้ำ ปีนเขา ข้ามเครื่องกีดขวาง การต่อสู้ด้วยมือเปล่า อื่นๆ อีกมากมาย จนเวลาล่วงเลยไปเกือบ 6 เดือนแล้ว มีเพียงอย่างเดียวที่เด็กหนุ่มยังไม่ได้ฝึกคือ การใช้อาวุธเท่านั้น
“ดีใจด้วยไอกร ท่านผู้เฒ่าตกลงยอมให้แกเข้าหน่วยรบพิเศษแล้ว” รุ่นพี่ที่ภูมิเดินมาบอกเขาที่อาศัยอยู่ในค่ายมาเป็นเวลา 6 เดือนแล้ว
แต่ใครจะรู้ว่าเวลาที่ผ่านมาเป็นเพียงการอุ่นเครื่องเท่านั้น จากนั้นในเดือนที่ 7 นั่นเองนายกรได้สัมผัสกับสัปดาห์แห่งนรก ที่มีภารกิจฝึกต่อเนื่อง 150 ชม. โดยเป็นระยะเกือบ 1 สัปดาห์ที่ไม่มีการพักผ่อน เป็นการเรียนรู้ทั้งหมดที่หน่วยรบพิเศษจะเรียน เช่น ดำน้ำ ยิงปืน ระเบิด ทำลายคู่ต่อสู้ การดลาดตระเวน ฯลฯ ซึ่งก่อนที่จะมีสัปดาห์นรกนายกรได้เรียนรู้การใช้อาวุธแทบทุกแขนง
โดยการฝึกของนายกรเป็นไปอย่างเข้มข้น ใครหลายคนแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กหนุ่มในวัย 15 ย่าง 16 จะสามารถทนฝึกอันแสนอันตรายและป่าเถื่อนนี้ได้ ถึงแม้ว่านายกรจะไม่ได้ทำตามเวลาได้ดีอย่างรุ่นพี่ แต่มันก็สามารถผ่านเกณฑ์มาตรฐานไปได้อย่างเฉียดฉิว
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกตะลึงมากที่สุดคือ ตลอดการฝึกนายกรแทบไม่ส่งเสียงร้องเลยสักครั้ง จนทุกคนคิดว่ามันเป็นใบ้เสียอีก ซึ่งบ่อยครั้งที่นายกรเกือบเอาชีวิตไม่รอด หลายครั้งที่นายกรหมดสติขณะการฝึกก็มี แต่สิ่งที่ทุกคนยอมรับในตัวนายกรเป็นความอดทนที่เกินขีดจำกัดของเด็กวัยรุ่นไปแล้ว และสิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของนายกรเป็นเรื่องการใช้สมอง กลยุทธ์และแผนการต่างๆ นายกรสามารถเรียนรู้แล้วนำออกมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพจนเรียกได้ว่าเป็นหัวกะทิของหน่วยรบเลย
สุดท้ายการฝึกนรกเกือบ 2 ปี ได้จบลง จากนั้นนายกรเริ่มได้รับภารกิจต่างๆ ซึ่งเขาได้เป็นสายลับบ้าง หน่วยล่อซื้อบ้าง จนในที่สุดเขาได้มีโอกาสรับภารกิจเป็นบอดี้การ์ด และงานบอดี้การ์ดดันสร้างชื่อเสียงให้เขามากที่สุดอีกด้วย โดยเฉพาะเหล่าคุณนายเมียไฮโซ นายพล คนรวยต่างต้องการให้นายกรไปบอดี้การ์ดเฉพาะกิจ ซึ่งนายกรมีฉายาที่พวกคุณนายหรือคุณหญิงตั้งให้ว่า “ไอแว่นปืนโต”
ซึ่งหน่วยรบพิเศษที่นายกรได้อยู่นั่น ไม่มีชื่อเรียกเพราะหน่วยรบนี้ไม่เคยโผล่ออกมาสู่โลกภายนอก ไม่มีใครรู้ว่าใครเป็นผู้บัญชาการสูงสุด ทำงานอะไรบ้างกันแน่ แต่สิ่งเดียวที่ทุกคนรู้หน่วยรบพิเศษรับคำสั่งโดยตรงจากรัฐบาลเท่านั้น และส่วนใหญ่หน่วยรบแห่งนี้จะทำงานเดนตาย ทำลายกวาดล้างทุกอย่างที่เป็นสิ่งผิดกฎหมาย โดยหน่วยรบพิเศษเหมือนเงามืดที่คอยกำจัดคนชั่ว
..................................
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน