“ผ่อนคลายบ้าอะไรพี่ อ๊อยยย ช่างมันแล้ว รีบเย็ดชั้นไวๆเถอะพี่ อรอยากมากแล้ว” อรอนงค์หอบถี่ยิ่งกว่าเมื่อครู่เสียอีก พยายามเอื้อมมือคว้าหาหมายจะคว้าจับอาวุธยักษ์ของไอ้ศักดิ์ที่วางพาดอล่างอยู่ตรงท้องมาใส่รูเสียวของตนให้หายอยาก
ไอ้ศักดิ์เองก็รู้งานดีอยู่แล้ว รีบถอยตัวลงตั้งหลักจับแข้งขาของอรอนงค์แหกออกกว้าง เตรีียมจะใช้ลำยาวตักตวงความเสียวจากเมียสาวของเพื่อนรักให้หน่ำใจ แต่มันก็ไม่มีโอกาสที่จะทำได้อีกต่อไปเสียแล้ว
“เฮี้ย!! นี่มันเฮี้ยอะไรกันเนี่ย ไอ้ศักดิ์!! อร!! พวกมึงทำเฮี้ยอะไรกัน!!” เสียงที่ทั้งคู่ไม่อยากได้ยินที่สุดในเวลานี้แผดขึ้นจากด้านหลัง
“ไอ้กร!! / พี่กร!!” เมียร่านกับเพื่อนชั่วต่างตะโกนตกใจพร้อมเพรียงกันเมื่อหันไปทางต้นเสียง ด้วยความกะทันหัน ทั้งสองคนจึงทำได้เพียงแค่ตะลึงนิ่งงันคล้ายโดนสาปให้เป็นหินไปชั่วขณะ
ไอ้กรเพื่อนซี้ของศักดิ์ หรือ ทินกรผัวรักของอรอนงค์ยืนจังก้าอยู่หน้าประตูห้อง ใบหน้าของเขาแดงก่ำด้วยความโกรธ ดอกไม้ช่อใหญ่ที่ถือไว้เพื่อเตรียมจะมอบให้เมียสาวหลุดมือแทบจะทันทีที่เห็นภาพตรงหน้า นึกขำในความเขลาของตัวเองที่พยายามจะเซอร์ไพรส์เมียสาวในโอกาศครบรอบแต่งงาน ไม่คิดไม่ฝันว่าจะกลายเป็นฝ่ายถูกเซอร์ไพรส์เสียเอง
อารามเลือดขึ้นหน้า หูของทินกรยามนี้อื้ออึงไปหมด คำพูดละลำละลักแก้ตัวของทั้งสองกลางเป็นเพียงเสียงไก่กา ความคิดอ่านของบุคคลชั้นด็อกเตอร์หายวับไปจากสมอง กลายเป็นเพียงหุ่นเชิดของอารมณ์ไปเสียเท่านั้น
ทินกรพุ่งตัวเข้าหาสองชายหญิงอย่างฉับพลัน ไอ้ศักดิ์รู้ดีว่าเพื่อนซี้ของมันเป็นนักมวยเก่า รีบยกสองมือขึ้นป้องใบหน้าอย่างรวดเร็วพร้อมกับร้องเสียงดัง แต่เปล่าเลย ทินกรไม่ได้ใช้หมัด เขามุ่งไปยังข้างเตียงและดึงM.905กระบอกกระชับออกมาจากลิ้นชัก ก่อนจะปลดไกและจ่อแท่งเหล็กเย็นไปยังเพื่อนชั่วทันที
ไอ้ศักดิ์ที่เพิ่งจะลดมือลงเพราะผิดคาดถึงกับเบิกตาโพลง ไม่คิดว่าคนใจเย็นอย่างไอ้กรจะไม่พูดพล่ามทำเพลงแบบนี้ เหลือบสายตาไปสบด้วยก็แน่ใจว่าตายแน่ ภาพเหตุการณ์สำคัญในอดีตตั้งแต่เกิดจนเติบใหญ่พลันผุดวาบขึ้นในหัว คล้ายกำลังนั่งดูหนังชีวประวัติของตัวเองภายในชั่วพริบตา และภาพนั้นก็จบลงพร้อมกับแสงสีขาว เสียงกรีดร้อง และเสียงระเบิดของดินปืนดังลั่น
‘ไม่! กูยังไม่อยากตาย! ไม่เอา! ไม่! ไม่!’ ไอ้ศักดิ์ร้องโวยวาย แต่จะเรียกว่าร้องก็ไม่ถูกนัก เพราะเหมือนนึกกับตัวเองมากกว่า ‘อะไรกัน ทำไมมืดไปหมด หรือเราจะตายแล้ว’ ไอ้ศักดิ์อดแปลกใจกับทิวทัศน์โดยรอบไม่ได้ จู่ๆทุกสิ่งรอบด้านพลันมืดมิดไปหมด เหมือนจะมองเห็น แต่ก็มองไม่เห็น มันพยายามขยับตัว แต่ก็พบว่าไม่สามารถทำอะไรได้เลย
‘หรือเรากำลังฝันอยู่วะ?’ ไอ้ศักดิ์ถามตัวเอง เพราะมันพบว่าความรู้สึกนี้ใกล้เคียงกับความฝันที่สุด มันหวังว่ามันจะลืมตาตื่นขึ้น แล้วพบว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงแค่ฝันไป แต่มันก็ได้แค่หวัง
ไอ้ศักดิ์จมอยู่กับความมืดนี้อยู่พักใหญ่ คล้ายถูกปล่อยทิ้งไว้ท่ามกลางความเวิ้งว้าง ตอนแรกมันก็พยายามดิ้นรนเพื่อให้พ้นจากสภาพอันน่าทรมาณนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากนึกคิดกับตัวเอง พอเวลาผ่านนานไปเข้า สุดท้ายมันยอมแพ้ ได้แต่ทบทวนทิ้งเรื่องราวต่างๆในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องที่ทำผิดพลาด
‘นี่เราคงจะตายแล้วซินะ และนี่ก็คือการลงโทษ ที่เราทำแต่เรื่องเลวๆมาตลอด’ ไอ้ศักดิ์นึกเสียใจกับการกระทำของตน เป็นความรู้สึกเสียใจโดยแท้จริงเป็นครั้งแรกตั้งแต่มันเกิดมา
ทันใดนั้นเอง ไอ้ศักดิ์ก็เริ่มรู้สึกอบอุ่น เป็นครั้งแรกที่อยู่ดีๆมันก็เริ่มรู้สึกถึงร่างกาย และความรู้สึกนี้ก็มาพร้อมกับแสงสว่างจ้า ที่เริ่มจากจุดเล็กๆและขยายใหญ่ขึ้นจนมันต้องหลับตา
“เฮือก!” ไอ้ศักดิ์สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ รู้สึกชาตามเนื้อตามตัวไปหมด
“ฟะ ฟื้นแล้ว!! ผู้ป่วยฟื้นแล้ว! เร็ว!! รีบไปตามหมอมาเร็ว!!” เสียงผู้หญิงวัยกลางคนดังขึ้นข้างกาย จากนั้นก็เป็นเสียงตอบรับ พร้อมกับเสียงความวุ่นวายตามมา
ไอ้ศักดิ์พยายามลืมตา แต่ก็ทำไม่ได้ ความรู้สึกชาตามร่างยังคงไม่หายไป สิ่งเดียวที่ทำได้คือการหายใจเข้าออก แรกๆก็ติดขัด และค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ แต่มันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมากนัก เพราะตอนนี้ไอ้ศักดิ์กำลังดีใจ มันแน่ใจแล้วว่าตัวเองคงยังไม่ตาย และตอนนี้คงกำลังอยู่ในโรงพยาบาล
‘น้องอรคงจะเคลียเรื่องได้ ยังไงไอ้กรก็เพื่อนซี้เรามันคงทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หวังว่าคงจะไม่ถึงพิการอะไรนะ’ ไอ้ศักดิ์นึกก่อนที่มันเริ่มรู้สึกง่วงและพล่อยหลับไป