“น้าโจ.. ได้ที่ตัดเล็บรึยัง” พี่นิ้งถาม
“ยังครับ” ถึงแม้จะเย็นย่ำแล้วแต่กลิ่นน้ำหอมของพี่นิ้งก็ยังหอม และเหมือนผมจะชอบมันมากๆ
“ขึ้นไปเอาสิยัยนัดอยู่ข้างบนห้องน่ะ”
"เดี๋ยวมากินข้าวด้วยนะ" พี่จอยพูดเสียงดังบอกทุกคน
ประตูครึ่งไม้ครึ่งมุ้งลวดมีผ้าม่านเนื้อบางสั้นสีฟ้าปิดกั้นสายตา มองทะลุผ่านผ้าม่านหลอดไฟเพดานเผยบรรยากาศภายในห้องลางๆ พี่นัดยืนใส่กางเกงในตัวเดียวหันหน้าเข้าตู้เสื้อผ้า เรียวขาขาวสองแก้มก้นอัดแน่นอยู่ในกางเกงในสีขาว ผมภาวนาขอให้พี่นัดหันกลับมา ผมนึกขอให้วิญญาณพี่ตุ๋ยช่วย
“น้าโจ.. ทำไรอ่ะ” พี่แจงเรียกผมผ่านมุ้งลวดประตูห้องข้างๆ เธอมองผมแอบดูพี่นัดอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมรู้สึกผิดและอับอายขนาดนี้ คำแก้ตัวต่างๆนาๆวิ่งวนอยู่ในสมองแต่ก็ไม่ได้พูดออกไป ผมทำได้เพียงก้มหน้ารอรับผลของการกระทำ นึกโกรธตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่รอบคอบดูที่ดูทางให้ดีเสียก่อน
“ผม.. ป่าว”
“เปล่าอะไร ไหนเข้ามานี่เลย” พี่แจงเปิดประตูครึ่งมุ้งลวดครึ่งไม้ดึงแขนผมเข้าไปในห้อง
กลิ่นหอมแบบที่ผมชอบลอยมาเตะจมูกเป็นความรู้สึกแรกเมื่อเข้ามาภายในห้องของพี่จอยกับพี่แจง ทุกอย่างถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบต่างกับห้องของพี่นัดที่ออกจะรกๆอยู่สักหน่อย
“ผม.. ขอโทษครับ”
“ขอโทษเรื่อง..” พี่แจงเลิกคิ้วถาม
“เรื่องที่ผมแอบดู” ผมสารภาพเพราะจนแต้ม
“แอบดูใครก็ไปขอโทษคนนั้นสิ น้าโจไม่ได้แอบดูพี่สักหน่อยจะมาขอโทษพี่ทำไม”
“อ้าว เลยมัวแต่คุย ไปแล้วมั้งเนี่ย” พี่แจงเดินไปดึงปฏิทินออก แนบหน้าลงกับรอยแยกแตกของผนังไม้เก่า
“น้าโจ น้าโจ เร็ว!!”
เธอกวักมือเร็วพลางก้าวถอยให้ผมรีบก้าวไปยืนแทนที่ พี่นัดยืนอยู่เกือบจะตรงหน้าร่องไม้แตกนั้นพอดี เธอค่อยๆบรรจงก้มโค้งตัวถอดกางเกงในท่าทางคล้ายสติ๊กเกอร์ท้ายรถบรรทุก เนินสามเหลี่ยมปกคลุมด้วยเส้นไหมสีดำจางๆสะกดให้ผมไม่อยากกระพริบตาเลย สองเต้าใต้ร่มผ้าของยอดอัจฉริยะสาวเผยตัวให้ผมเห็นในที่สุด หัวนมสีน้ำตาลอ่อนสวยน่าชมสมกับที่รอสองเต้าแน่นเนียนเต่งตึง ผมมองเธอไม่เห็นแล้ว เสียงพี่นัดเปิดประตูออกไปอาบน้ำเล่นเอาสะดุ้ง ตอนนี้บนชั้นสองของบ้านเหลืออยู่แค่ผมกับพี่แจง
“ไหนดูซิ” พี่แจงตะปบเข้าที่เป้ากางเกงจนผมสะดุ้งถอยหนี “หืม แข็งเลย”
“พี่แจง..”
“น้าโจเคยอยู่กับแม่ที่คาเฟ่ใช่ป่ะ ไม่เคยเห็นผู้หญิงพวกหางเครื่องโป๊เหรอ” พี่แจงถาม
“เคยครับ”
“แล้วผู้หญิงแก้ผ้าแบบหมดเลยอ่ะ เคยเห็นมั้ย”
“เคยครับ..”
“แล้วทำไมถึงยังชอบแอบดูอ่ะ ก็เคยเห็นแล้วนี่” พี่แจงสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เหมือนกันเหรอ”
“ไม่รู้ครับ” ผมยังก้มหน้านิ่ง
“หรือว่าแอบดูแต่คนสวยๆ”
“ป่าวครับ”
“ก็ไม่รู้นี่ ไม่เคยเห็นน้าโจมาแอบดูพี่ ก็เลยคิดว่าชอบดูแต่คนสวยๆ”
“พี่แจงก็สวยครับ” ผมกุมเป้าก้มหน้างุด
“ทำให้มันอ่อนลงได้มั้ยอ่ะ” สายตาของพี่แจงมองต่ำ แก้มสีแดงระเรื่อ
“ไม่ได้ครับ”
“เคยอ่านเจอในหนังสือเค้าบอกว่าถ้าแข็งอยู่อย่างนี้มันจะปวดไม่ใช่เหรอ”
“..........”
“แล้วน้าโจไม่ปวดเหรอ” พี่แจงขยับประชิด
“ไม่ครับ”
“ทำยังไงให้มันอ่อนอ่ะ ต้องเอาน้ำออกใช่ป่ะ”
“ขอดูได้มั้ย” พี่แจงยิ้มตาปรือ
“..........”
พี่สาวม.ปลายทรุดตัวคุกเข่า เธอแหงนหน้าสบสายตาเชื่อมแล้วโน้มตัวลงบรรจงจูบที่เป้ากางเกง ผมเสียวท้องน้อยเหมือนอยู่ในลิฟท์สายที่เคเบิ้ลขาด เธอค่อยๆแตะมันเบาๆด้วยปลายนิ้วกรีดลงไปบนส่วนหัว
“ขอดูนะ”
สองมือของพี่แจงดึงขอบยางกางเกงของผมลง เจ้าน้องชายผงกหัวกล่าวทักทาย สัมผัสของอุ้งมืออันอบอุ่นส่งผ่านเส้นประสาทจี๊ดเข้าหัวใจ ผมหนาวจนสั่นเกร็งไปทั้งตัว เหมือนสวรรค์ตีระฆังช่วยไม่ให้ผมต้องเสียญาติ เสียงพี่จอยตะโกนเรียกกินข้าวดังจากชั้นล่าง ผมรีบดึงกางเกงตัวเองขึ้นแล้วเปิดประตูห้องวิ่งออกไป
………………..
บรรยากาศโต้ะอาหารบ้านสาวโสดค่ำนี้เงียบเหงากว่าที่เคย น้าต่ายไปนอนเวรที่โรงเรียนน้ากฤษก็เลยไม่มาไปด้วยอีกคน เมนูอาหารบนโต้ะก็แปลกตากว่าที่เคย มีทั้งข้าวเหนียวไก่ย่างส้มตำต้มเครื่องใน และที่เซอไพรส์สุดๆคือเหล้าขาวกับลาบเลือดสีแดงสด
“อารมณ์ไหนเนี่ยยัยจอย ฉลองน้าต่ายไม่อยู่บ้านเหรอไง” พี่นิ้งมองกับข้าวด้วยความสงสัย
“ไหนบอกว่ากินอาหารรสจัดไม่ดีไง” พี่นัดจ้วงจานส้มตำ
“ไหนบอกว่าอาหารจืดๆชืดๆจะทำให้พวกเราอยู่กันไปนานๆไม่เจ็บไม่ป่วย” ติวเตอร์สาวหยิบน่องไก่ย่างใส่จานตัวเองเพิ่มอีก
“ไม่รู้สิ อยู่ดีๆก็รู้สึกอยากลองทำของพวกนี้ ตอนสั่งของแม่ค้าที่ตลาดยังงงเลย” พี่จอยทำหน้างง
“นั่นไง อร่อยอยู่คนเดียวเลยน่ะเลือดสดๆไม่รู้กินเข้าไปได้ยังไง”
“น้าโจ!! ไม่เผ็ดเหรอน่ะส้มตำนั่นพริกแดงๆทั้งนั้นเลยนะน่ะ”
“ดูสิกินไม่พูดไม่จา ยกจานลาบเลือดนี่ไปใกล้ๆน้าโจเลย ..ขนลุก” พี่นิ้งย่นคอทำหน้ายู่
“ยัยจิ๊ก ไม่สบายรึเปล่าเนี่ย เงียบเชียว” พี่นัดถาม
“เปล่า.. ปวดแขน” จิ๊กซอว์ตอบ
“ไปทำอะไรมาปวดแขน”
“ซักผ้า..” น้องสาวสุดท้องของบ้านบีบนวดแขนตัวเองไปด้วย
“ยัยแจง!! กินข้าวยังจะเอาหนังสือมาอ่านอีก!!” พี่นิ้งรับบทผู้ดูแลน้องๆเมื่อพี่ต่ายไม่อยู่บ้าน
“ก็นี่แจงกินอยู่ซะที่ไหนล่ะ ไม่เห็นมีอะไรกินได้ซักอย่าง ขึ้นไปอ่านบนห้องก็ว่าลงมาอ่านข้างล่างยังว่าอีก”
“ไหนเอามาดูดิ๊.. วิวาห์ขัดดอก” พี่นัดแย่งหนังสือไปพลิกซ้ายพลิกขวา อ่านออกเสียงคำโปรยหลังปก
“ท่านชี้ค.. ยืนเปลือยท่อนล่างอยู่ตรงหน้า นาทีนี้แม้หยาดน้ำตาของสาวบริสุทธิ์ก็มิอาจรดล้างราคะของเขาได้ รมิดาไม่เคยล่วงรู้ถึงจำนวนตัวเลขที่แท้จริง รู้เพียงแค่มารดาของเธอเป็นหนี้ท่านชี้คและเธอต้องเป็นคนชดใช้”
“รมิดาได้แต่ทำใจดีสู้เสือ เจ้าสิ่งนั้นคงไม่ต่างจากไอติมแท่งเขื่องที่เคยซื้อดูดเล่นตอนเด็กๆ”
“นี่มันหนังสือโป๊ชัดๆเล่นนี่หว่า!!” พี่นัดกำลังสนุกปาก
“เอาคืนมานี่เลย!! ..ปัญญาอ่อนว่ะ!!” พี่แจงแย่งหนังสือนิยายคืนแล้ววิ่งขึ้นไปชั้นสองเก็บตัวเงียบเหมือนเคย
“แจงมันก็ชอบอ่านของมัน แกก็ไม่น่าไปล้อมันเลย” พี่จอยเคืองแทนน้องสาว
“เราว่าแกดูน้องสาวตัวเองดีกว่านะ อ่านแต่หนังสือแบบเนี้ยป่านนี้ใจแตกเตลิดเปิดเปิงไปถึงไหนต่อไหนแล้วก็ไม่รู้” พี่นัดส่งสายตากร้าวตอบ
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“นี่ดีกว่าสบายดีไม่ต้องสนใจใครเลย ดูน้าโจกินแล้วน่าสนุกนะ น้องจอย.. เอาขวดเหล้าไปเก็บทีเถอะซื้อมาทำไมก็ไม่รู้ พี่ขี้เกียจโดนน้าต่ายแพ่นกบาล” พี่นิ้งยิ้มฝืดๆยื่นกระดาษทิชชู่ให้ “เช็ดปากซะหน่อยน้องโจ กินซะอย่างกับแดร็กคิวล่า”
………………..
ผมนั่งอยู่บนเตียงเกือบจะห้าทุ่มแล้วยังแสบปากแสบคอไม่หาย ยกน้ำดื่มขวดสุดท้ายจากตู้เย็นที่ถือติดเข้ามือมาในห้องด้วย รู้สึกคาวในปากในคอไปหมด จริงๆตอนกินของพวกนั้นผมก็รู้ตัวดีนะแต่มือมันไปเอง นึกถึงลาบเลือดสดๆแดงๆแล้วแขยงแปรงฟันสี่ห้ารอบก็ยังไม่หาย นี่ยังโชคดีที่พี่จอยเอาเหล้าขาวสี่สิบดีกรีไปเก็บเสียก่อนไม่งั้นป่านนี้คงได้อ้วกแตกอ้วกแตนเป็นแน่
ถ้าเป็นอย่างที่วิญญาณพี่ตุ๋ยบอก ผมจะหลุดพ้นจากสภาพสนามบินส่วนตัวที่แกนึกจะร่อนลงเมื่อไหร่ก็ได้ตามอำเภอใจแบบนี้ก็ต่อเมื่อผมชนะการแข่งขันมวยนักเรียนไทยอะไรนั่น นึกถึงที่เคยเตะกันไปเตะกันมาเหยาะแหยะกับเพื่อนบนเวทีตอนชกมวยโชว์ฝรั่งสมัยอยู่ภูเก็ต สังเวียนปลอมๆแบบนั้นมันคงจะห่างไกลกับของจริงมากมาย
“น้าโจ..” เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงเรียก
“ผมหลับแล้วครับ”
“หลับแล้วเหรอ ..พี่แค่เอาหนังสือการ์ตูนมาให้”
เสียงปลดล็อกกลอนประตูดังคล็อกแคล็ก พี่แจงใส่เสื้อยืดตัวโคร่งกางเกงกีฬาขาสั้นจุ๊ดเผยต้นขาเนียนขาวยืนถือตั้งหนังสือการ์ตูนอยู่ที่หน้าห้อง
“ลูกสาวนังติ๋มนี่เอง.. นึกว่าใคร”
“หืม.. อะไรนะ”
“เปล่า.. เข้ามาสิ” หนุ่มสิบห้าเปลือยท่อนบนเห็นรอยมัดกล้ามถอยหลีกให้พี่สาวเดินเข้าห้อง เสียงลงกลอนประตูทำเธอสะดุ้งเล็กน้อย
“เอาการ์ตูนมาให้อ่าน เผื่อน้าโจไม่มีอะไรทำ” พี่แจงวางตั้งหนังสือการ์ตูนลงบนโต้ะ
“นั่งคุยกันก่อนสิ”
“คุยอะไรอ่ะ” พี่แจงนั่งลงบนเตียง เธอมองไปตามเนื้อตัวของหนุ่มรุ่นน้องคล้ายตอนหนึ่งจากนิยายเรื่อง รุ่นน้องก็ท้องได้
“กอดกันมั้ย” โจยิ้มชวน
“เฮ้ย.. เดี๋ยวนะ กอดเหรอ” พี่แจงนั่งตัวตรงปัดจัดเสื้อยืดใส่นอน
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน