สวัสดีวันหยุด ฮู๊ววววว จริงแล้วจำนวนตัวอักษรตอนนี้ ร่วมๆ 60,000 หรือ 2 ตอน แต่หลังจากที่ดู avenger endgame 3 ช.ม. ผมก็คิดว่า เห้ย !!! โคตรจุใจ ผมเลยตัดสินใจยัด 2 ตอนลงในกระทู้เดียวซะเลย เพราะฉนั้นเนื้อเรื่องจะมี 2 reply ครับ ใครอยากเห็นพี่เวย์โชว์โหดคงสมใจในตอนนี้
ตอนนี้มีการซ่อนข้อความตามเคย เนื่องจากเป็นตอนจบ เลยอยากให้ทุกคนแสดงความคิดเห็นทุกข้อจริงๆครับ
1. คอมเมนต์อะไรก็ได้เพื่อขออ่านเนื้อเรื่องที่เหลือ
2. เมื่ออ่านจบแล้ว มีความคิดเห็นอย่างไร และกับใครเป็นพิเศษ
3. 16 ตอนที่ผ่านมายกเว้นพี่มังกร คุณชอบตัวละครตัวไหนมากที่สุดครับ
** ยังมีคำที่เขียนผิดหลายจุด กำลังทยอยแก้ไขครับ
ปล.1 ตอนนี้มีความลับซ่อนหลายอย่างที่ถูกเปิดเผย ถ้าอ่านอย่างละเอียด
ปล.2 ตอนนี้คำ 18+ เยอะมากมาย เพราะผมอยากถ่ายทอด ชีวิตของริวกะในขณะที่ใช้ชีวิตเป็นนักศึกษาธรรมดาๆคนนึงกับเพื่อนวัยเดียวกัน
ปล. 3 ไซด์สตอรี่ของ คิราระเสร็จแล้ว 4 ตอน
•••••
ตอนที่ 16 : วันสบายๆของพวกเรา
ณ. มหาวิทยาลัย
ริวขับรถขึ้นโทลเวย์เพื่อเลี่ยงรถติดและดูเหมือนว่าเขาจะมาถึงซะเช้าเลย เมื่อจอดรถเรียบร้อยเขาก็นึกถึงพลอยทันที ริวจึงไม่รอช้าหยิบมือถือขึ้นเพื่อโทรหาพลอยกะว่าจะถามชื่อหอพักและเดินไปรับด้วยตัวเอง
[ ริว ] : ฮัลโหลค๊าบบบ พลอยจ๋าา
[ พลอย ] : งื๊อ ริวคนบ้า จ๋าอะไรแต่เช้า
อ๊าา ทำไมริวตื่นเช้าล่ะ ทำไมไม่นอนพัก
[ ริว ] : หายแล้วครับ เป็นห่วงริวเหรอ
[ พลอย ] : เง้อออ ริวคนบ้า ก็.... เป็นห่วง งื้อออ ริวแกล้งพลอยอ่ะ หายแล้วจริงๆเหรอ
[ ริว ] : อื้อ ได้แคลเซียมเมื่อคืน ตื่นมาหายเลย
[ พลอย ] : แคลเซียม....
พลอยครุนคิดซักแปปนึก เมื่อคืนริวก็กินแค่อาหารคาวนี่นา ริวไปกินนมตอนไหนนะ ถึงบอกว่าได้แคลเซียม
งืมม นม อ๊าาาาา พลอยรู้แล้วว่าริวหมายถึงอะไร ก็เมื่อคืนเธอกับเขาพึ่งผ่านบทรักอันเร่าร้อนด้วยกัน และริวก็ดูดเลีย นมขาวๆของเธอด้วย
[ พลอย ] : งื้ออออ ริวคนบ้า คนทะลึ่ง
[ ริว ] : ฮรี่ ฮรี่ ฮรี่
[ พลอย ] : คนบ้าไม่ต้องหัวเราะแบบนี้เลย ทะลึ่งงงง
[ ริว ] : ใครกันน้อที่ทะลึ่ง เล่นเป็นฝ่ายรุกมาเองแบบนั้น
[ พลอย ] : งื๊อออ ริวคนบ้า
[ ริว ] : อื้อ บ้าก็บ้า ฮรี่ๆๆๆๆๆ แล้วพลอยอยู่ไหน คิดถึ๊งง อยากไปหา
[ พลอย ] : พึ่งอาบน้ำเสร็จค่ะ อื้อริว วันนี้พลอยไม่ไปมหาวิทยาลัยนะ วันนี้อาจารย์แคนเซิลคลาส พลอยเลยจะอยู่กับคุณป้า
[ ริว ] : อ้าว ไหงงั้นล่ะ ฮืออออ คิดถึงอยากเจอ
[ พลอย ] : ตาบ้ายังไม่ถึง 24 ช.ม. เลยนะ
[ ริว ] : ลืมตาตื่นมาก็คิดถึงแล้วววว
[ พลอย ] : คิดถึงเหมือนกันค่ะ แบร่ แบร่ ริวแค่นี้ก่อนนะ พลอยจะแต่งตัวแล้ว
[ ริว ] : ครับก็ได้
[ พลอย ] : งือ อย่างอนนะริว กินข้าวกินยาด้วยนะ เป็นห่วงค่ะ
[ ริว ] : งือออออ
ริวถึงกับหงอยเลยทีเดียว เขาอุสส่าห์ฝืนใจขับรถมามหาวิทยาลัยด้วยตัวเองเพราะตั้งใจจะพาพลอยไปธุระด้วยกัน ริวนั้นขี้เกียจขับรถมามหาวิทยาลัยจริงๆปกติถ้าไม่อาศัยรถพี่อั้ม ก็ Taxi เพราะถ้าขับมาเองต้องเจอทั้งรถติด ทั้งขี้เกียจหาที่จอดที่สำคัญเพราะรถของเขามันสะดุดตาเกินไป แต่โชคดีที่วันนี้ริวรีบหนีพี่อั้มจึงทำให้รถไม่ติดและนักศึกษาก็ยังมาไม่เยอะ เขาจึงไม่เป็นที่สังเกตุมากนัก
ตรื๊ดดด ตรื๊ดดด ตรื๊ดดด ครั้งนี้มีสายเรียกเข้า ริวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็ปรากฎว่าเป็น คิราระ เขาจึงรับสายทันที
[ คิราระ ] : นายน้อยเจ้าคะ
[ ริว ] : งือออ มีไร
[ คิราระ ] : นายน้อยเป็นอะไรเจ้าคะ ทำไมเสียงซึมๆ
[ ริว ] : หิวข้าว ฮืออออ
ริวที่ทั้งหิวข้าวทั้งแห้วที่ไม่ได้เจอพลอย ก็แสดงอาการงอแงใส่คิราระทันทีโดยที่ไม่รู้เลยว่าตอนนี้อั้มก็ขอฟังคิราระคุยด้วยโดยที่แอบเปิดสปีคเกอร์ไว้ และพอได้ยินว่าหิวข้าวอั้มก็จ๋อยทันที อั้มคิดว่าเพราะตัวเองทำให้ริวนั้นกลัวจนหนีออกมาก่อนได้กินข้าวเช้า
[ คิราระ ] : ไหวมั๊ยเจ้าค่ะ
[ ริว ] : งือ มีอะไรเหรอคิราระ
[ คิราระ ] : คือว่า บ่าวจะโทรมาแจ้งเจ้าค่ะ ว่าคุณท่านให้บ่าวตามไปธุระที่เชียงใหม่ด้วย
[ ริว ] : ฮ๊ะ อะไรนะ ฮือออ ไปกันหมดเลยเหรอ
[ คิราระ ] : เจ้าค่ะหมดเลย
[ ริว ] : ทำไมพ่อให้เธอไปด้วยล่ะ แล้วชั้นจะนอนกอดใครล่ะ ฮือออ
คิราระได้ยินก็หน้าแดงทันทีเพราะมีเหรอที่นายน้อยของเธอจะนอนกอดอย่างเดียวไม่สะกิดไม่ลูบคลำเลย คิราระแอบหันมามองที่อั้มที่ยังซำหน้าจ๋อยอยู่ เธอแอบยิ้มเล็กๆที่มุมปากเพราะว่าคิดจะทำอะไรบางอย่างให้พี่อั้มของเธอนั้นหายเศร้า
[ คิราระ ] : อย่างอแงสิ่เจ้าคะนายน้อย ถ้ากลับมาแล้ว บ่าวจะสะกิดจะกวนไม่ให้นอนทั้งคืนเลย จะรีดพิษมังกรยันเช้าเลยเจ้าค่ะ
อั้มได้ยินก็ถึงกับหน้าแดงทันที เดี๋ยวนี้คิราระกล้าพูดกับริวแบบนี้เชียวเหรอ ปกติจะเห็นแค่ยอมให้ทำ ไม่เคยเห็นเป็นฝ่ายรุกขนาดนี้
[ ริว ] : ก็มาดิ่ค๊าบยัยตัวแสบ จะไม่ให้นอนเลยคอยดู อย่าร้องขอนอนไปก่อนล่ะ
[ คิราระ ] : ไม่กลัวหรอกเจ้าค่ะ บ่าวจะจัดให้ยันเช้าเลย เพราะฉนั้นนายน้อยอย่างอนนะเจ้าคะ คนดีของบ่าว
[ ริว ] : งือ...ก็ได้ แล้วพี่อั้มไปด้วยมั๊ย
อั้มได้ยินริวถามถึงตัวเองก็ถึงกับตาโตดีใจ และ เอี้ยวตัวเข้ามาฟังใกล้ๆมากกว่าเดิม คิราระก็เหมือนรู้ใจอั้ม จึงตั้งคำถามปลายเปิดเพื่อให้นายน้อยของเธอตอบกลับมา
[ คิราระ ] : ไปด้วยเจ้าค่ะ มีอะไรรึเปล่าเจ้าคะนายน้อย
[ ริว ] : อือ.. ก่อนไปเธอดูให้หน่อยว่าน้ำยาคอนแทคเลนส์ของพี่อั้มหมดรึยัง หยิบไปเผื่อด้วยก็ได้เอาขวดสีฟ้านะ แล้วก็เอาแว่นไปด้วยจะได้พักสายตา
[ คิราระ ] : เจ้าค่ะนายน้อย นายน้อยเป็นห่วงพี่อั้มเหรอเจ้าคะ
[ ริว ] : อือ แต่ไม่ต้องบอกนะว่าชั้นให้ไปหยิบ
[ อั้ม ] : เจ้าค่ะนายน้อย เดี๋ยวบ่าวขอตัวไป เก็บกระเป๋าก่อนนะเจ้าคะ
[ ริว ] : อือ เอ่อ... ยาดมสมุนไพรในห้องชั้น เธอไปถ่ายรูปไว้แล้วไปซื้อที่สนามบินทีนะ ซื้อแล้วเอาเก็บไว้กับตัวเลย เอาไว้ให้พี่อั้มตอนเมาเครื่องบิน ถ้าเสร็จจากธุระของพ่อก็หาเวลาเที่ยวบ้างล่ะ ไปเชียงใหม่ทั้งที
[ คิราระ ] : เจ้าค่ะนายน้อย รักนายน้อย 3000 นะเจ้าคะ
คิราระกดวางสายและมองไปที่อั้มทันที ซึ่งเป็นอย่างที่เธอคาด เพราะตอนนี้อั้มยิ้มหน้าบาน ตาหยี ย่ำเท้ารัวๆดีใจที่นายริวไม่ได้โกรธแถมยังห่วงใยใส่ใจเธอขนาดนี้
[ อั้ม ] : งื๊ออออออออออออออ
[ คิราระ ] : ฮี่ๆ เห็นมั๊ยคะ คิราระบอกแล้ว นายน้อยไม่ได้โกรธ
[ อั้ม ] : อื้อออ งื๊อออดีใจจัง
[ คิราราะ ] : พี่อั้มคะ ที่คิราระบอกว่าจะรีดพิษนายน้อย พี่อั้มต้องช่วยด้วยนะคะ ถ้าคิราระทำคนเดียวคงไม่ไหวแน่ เพราะนายน้อยอึดมากเลยค่ะ
[ อั้ม ] : บ่ะ บ้าคิราระ พูดอะไรก็ไม่รู้
อั้มถึงกับเขินพูดไม่ออกที่คิราระชวนกันตรงๆ เธออายไม่รู้จะอายยังไงถึงกับวิ่งไปที่ห้องเพื่อเก็บกระเป๋า โดยที่คิราระก็ยืนยิ้มอย่างมีความสุขและเดินไปยังห้องของอั้มเพื่อหยอกล้อและช่วยเก็บกระเป๋า
ริวถึงกับหงอยเป็นหมาป่วย เพราะพลอยก็ไม่ว่างแถมศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ก็ยังต้องอยู่คนเดียวอีกรันทดแท้ๆชีวิตของนายมังกร แต่แค่ไม่ถึงนาทีก็มีสายเรียกเข้ามาอีกแล้ว ริวคิดว่าเป็นคิราระจึงรับสายทั้งๆที่ไม่ได้มองชื่อ
[ ริว ] : ค๊าบบบ
[ เวย์ ] : ค้าบเหี้ยอะไร แดกยาผิดหรือไงมึง
[ ริว ] : เออไอ้เวนเหรอ ว่าไงวะ
[ เวย์ ] : เออกูเองมึงคิดว่าเป็นใครล่ะ เห้ย มึงเป็นไงบ้างไอ้มังกร
[ ริว ] : เออ หายดีแล้ว อยู่มหา'ลัยและเนี่ย
[ เวย์ ] : เอ้า แทนที่จะนอนพักมึงรีบมาทำไมเนี่ย ยังเช้าอยู่เลยฟายเอ๊ย
[ ริว ] : เออน่ะ มึงอยู่ไหนเนี่ย
[ เวย์ ] : อยู่ตลาดข้างซอยหอ จะเอาไรป่าว
[ ริว ] : ซื้อของกินมาให้หน่อย ยังไม่ได้กินข้าวเลย
[ เวย์ ] : เออ เดี๋ยวรีบไปงั้น เจอที่แลปเลย
เรียกว่าเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันจริงๆ 2 หนุ่มนี้ เวย์โทรมาสอบถามอาการของริวเพราะคิดว่ายังคงไม่หายเพลีย แต่ก็กลายเป็นว่าเขาอยู่มหาวิทยาลัยซะแล้ว สุดท้ายก็ต้องซื้อของกินตอนเช้ามาให้ที่มหาวิทยาลัย ริวอาศัยรถบัสในมหาวิทยาลัยเพื่อเดินทางจากที่จอดรถไปยังตึกเรียน เขาก็ได้แต่สงสัยว่าทำไมวันนี้ตึกนิเทศฯดูวุ่นวายแปลกๆทั้งๆที่ยังเช้าอยู่ แต่เขาก็นั่งรถเลยไปเพื่อขึ้นไปยังห้องแลปเพื่อทำแลปอิ๊งเก็บคะแนน ไอ้ริวเว้ยย !!![/b][/color] มีเสียงเรียกเขาจากด้านหลัง ริวก็หันกลับไปทันที
[ ริว ] : เออ มีไรวะไอ้มะกรูด
มะกรูดเพื่อนร่วม sec ของริวเขาเป็นผู้ชายตัวผอมๆใส่แว่น ตัวสูงราวๆ 170 หน้าธรรมดาๆดูซื่อๆ และเขาเป็นโอตาคุ เขาคลั่งไคล้ในประเทศญี่ปุ่นมากๆ เขาศึกษา เรียนรู้ทุกวัฒธรรมของญี่ปุ่นตั้งแต่เรียน.ปลาย เมื่อตอนเข้ามาเรียนปี 1 พอเขารู้ว่าริวเกิดที่ญี่ปุ่นเขาก็อยากจะเข้ามาคุย แต่ตอนแรกๆนั้นหน้าตาริวไม่รับแขกเลยเขาจึงไม่กล้าที่จะคุยอีกทั้งวันจับรหัส ริวก็สำแดงเดชเตะบอลอัดเสาจนบอลแตกใส่รุ่นพี่อีก ทำให้มะกรูดยิ่งไม่กล้าเข้าไปคุย แต่พอผ่านไปร่วมเดือนเขาเห็นริวเริ่มมีปฏิสัมพันธ์กับเวย์ เริ่มคุยกับเพื่อนๆคนอื่นบ้าง เขาจึงเข้ามาขอคุยกับริวโต้งๆเลย แรกๆริวก็รำคาณเพราะมันถามชนิดที่ว่าหูดับตับไหม้เลย
แต่พอนานๆไปริวก็เริ่มชิน การคุยกับมะกรูดมันทำให้เขาหายคิดถึงบ้านได้เยอะ เพราะไอ้มะกรูดนี้รู้ทุกเรื่อง รู้ลึกเกี่ยวกับญี่ปุ่นเลย เหมือนริวได้พูดคุยกับคนประเทศเดียวกันเลยเพราะมะกรูดก็สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้ ถึงจะไม่คล่องเท่าเจ้าของภาษาแต่ก็ถือว่าใช้ได้ และมะกรูดก็ได้ริวนี่แหละที่ช่วยติวภาษาญี่ปุ่นให้ เคาะนั่นนิด ปรับนี่หน่อย จนมะกรูดพูดภาษาญี่ปุ่นได้คล่องปร๋อเลย
[ มะกรูด ] : มึงดูนี่ยัง มึงกับไอ้เวย์ดังแล้วเนี่ย
[ ริว ] : ไรวะ
มะกรูดยื่นโทรศัพท์ให้ริวดูคลิปๆหนึ่ง มันเป็นคลิปที่เขาขึ้นไปร้องเพลงและมีเวย์เล่นเปียโนเมื่อคืน ยอดวิวถือว่าใช้ได้เลยถ้าดูจากเวลาการโพสต์คลิปแล้ว แต่ริวก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะมันก็มืดถ้าคนไม่รู้จักเขาจริงๆคงไม่รู้ว่าเป็นใคร
[ มะกรูด ] : สาวๆไลค์เพียบเลยนะเมิงง
[ ริว ] : ช่างมัน ว่าแต่มึงเหอะมาเช้าจังวะวันนี้ กลับมาจาก ออกทริปถ่ายภาพเมื่อไรเนี่ย
[ มะกรูด ] : กลับมาวันก่อนเอง วันนี้มีดารามาถ่ายโฆษณาที่ตึกนิเทศนะเว้ย ที่ชื่อ นานะ ไงที่กูเคยเล่าให้ฟัง
[ ริว ] : นานะ นานะไหนวะ ที่มึงบอกว่าหยิ่งๆนิสัยเสียๆป่ะ
[ มะกรูด ] : เออๆนั่นแหละ หยิ่งแต่น่ารักนะ นิสัยส่วนตัวช่างแม่งกูเสพผลงานเว้ย เดี๋ยวทำแลปเสร็จจะไปดูสักหน่อย
[ ริว ] : ตามสบายเลยไอ้มะกรูด กูไม่ค่อบชอบดารา นางแบบ
[ มะกรูด ] : ทำไมวะเคยโดนดาราทิ้งเหรอ 55555 มึงนี่ไม่สนโลกตามเคยเลยเว้ย เออนี่กูซื้อมาฝาก
[ ริว ] : อะไรวะ จิ๋มกระป๋องกูไม่เอานะ 5555
[ มะกรูด ] : รุ่น Flip hold เลยนะเว้ย ถุ้ยยย จวยเหอะ ใครจะไปพกของแบบนั้นวะ ของดีเว้ย ของดี แต่แกะแล้วเก็บดีๆนะเว้ย
ริวรับของมาแถมยังแซวอีก สิ่งที่มะกรูดซื้อมาให้คือ กล่องไม้ที่ทำมาจากไม้ฉำฉาขัดอย่างดี และ สลักอักษรคันจิ ลงหมึกสีดำ อ่านว่า ชิโนบิ เมื่อเปิดออกก็พบว่าข้างในกล่องนั้นเป็นคุไน 3 แฉก 1 เล่ม
[ มะกรูด ] : กูเห็นมันสวยดี คุไน 3 แฉกนั่น สเกล 1/1 เลยนะเว้ย แต่คงไม่ใช่ของลิขสิทธิ์ กูผ่านหมู่บ้านตีเหล็กพอดีเลยซื้อมาฝาก
[ ริวกะ ] : ไม่ต้องลิขสิทธิ์หรอก นั่นมันของเด็กเล่น ถ้ามีคมมันจะอันตรายกับเด็กๆ เอามาใช้งานจริงๆไม่ได้หรอก
มะกรูดซื้อคุไนมาเป็นของฝากให้ริว เขาบอกว่าไปออกทริปแล้วผ่านหมู่บ้านช่างตีเหล็กโบราณ เห็นมันสวยดีเลยอยากซื้อมาฝาก และยังมีอีกอย่างที่เขาซื้อมาให้ริวอีก มันถูกห่อใส่ผ้ามาอย่างดี เมื่อริวแกะออกก็พอว่าเป็น ดาวกระจาย 4 แฉกสีดำทำจากเหล็กจำนวน 3 อัน ริวทำการทดสอบอะไรบางอย่าง เขานำดาวกระจายทั้ง 3 อันมาวางบนนิ้วโดยวางไว้กึ่งกลางและยกขึ้นยกลงทั้ง 3 อัน ปรากฎว่าทั้ง 3 อันไม่ตก ไม่เอนเอียงเลย อีกทั้งคุไน เขาก็เอานิ้วสอดเข้าไปและควงอย่างรวดเร็วจนมองแทบไม่ทัน
[ ริว ] : เห้ย บาลานซ์ใช้ได้เลย น้ำหนักก็พอดีมือ ของดีนี่หว่า เท่าไรวะไอ้มะกรูด
[ มะกรูด ] : เห้ย ไม่ต้อง กูได้เงินรับจ๊อบถ่ายรูปมาเยอะ 4 อันนี้ 5000 ( เยน ) กว่าๆเอง
[ ริว ] : เห้ย ของซื้อของขาย
[ มะกรูด ] : ว่างๆก็ปาแม่นๆให้กูดูก็พอ เงินไม่ต้องให้กูหรอก 5555
มะกรูดยืนยันว่าไม่ต้องการรับเงินจากริวถึง 2 ครั้ง เมื่อได้ฟังดังนั้นริวจึงรับดาวกระจาย 3 อันและคุไน 1 เล่มนั้นไว้ด้วยความยินดีเพราะมะกรูดยืนยันว่าอยากให้ ริวยื่นกล่องไม้ที่บรรจุคุไนคืนให้มะกรูด แรกๆมะกรูดก็งง แต่ริวให้เหตุผลว่า กล่องไม้ให้มะกรูดเก็บไว้สะสม ส่วนคุไนกับดาวกระจายเขาเก็บใส่กระเป๋าก็พอโดยที่พูดติดตลกว่า เวลาจะใช้ก็หยิบออกมาขว้างเลยง่ายดี มะกรูดก็เออๆออๆตามไป ใครจะบ้าไปเชื่อ ดาวกระจายไม่ใช่ปากันง่ายๆ ยิ่งคุไน 3 แฉกยิ่งแล้วใหญ่ เพราะเป็นเหล็กทั้งแท่งถ้าขว้างล่ะหมุนติ้วแน่ๆ พอจบการพูดคุยทั้ง2 จึงพากันเดินไปยังห้องแลปและระหว่างที่ทั้ง 2 กำลังจะเดินเพื่อไปยังห้องแลปต่อนั้น
[ เวย์ ] : อายยย แอมมมม กรูดดดดดดด 55555
[ มะกรูด ] : เหี้ยเวย์ ไอ้สาด
เวย์มาแล้วและในมือก็ยังมีถุงของกินมามากมาย ดูเหมือนทั้ง 3 คนนี้จะรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเวย์นั้นชอบเรียก มะกรูดว่า กรูด ไอ้กรูด ซึ่งมันจะไปเหมือนกับตัวละคร
ของมาร์เวลพอดิบพอดี ส่วนมะกรูดก็ไม่ได้เคืองอะไรเพราะรู้ว่าเพื่อนล้อกันเล่นๆ
[ เวย์ ] : เอ้าของแดก ไอ้มังกร
[ ริว ] : เออขอบใจ หิวใส้จะขาด
[ เวย์ ] : ส่วนมึงโทษทีว่ะไอ้กรูด กูไม่รู้ว่าจะเจอมึง เลยไม่ได้ซื้อปุ๋ยมาให้ งั้นเอาน้ำไปแดรกก่อนนะ โตไวๆนะลูกพ่อ 55555
[ ริว ] : 5555555
[ มะกรูด ] : พวกมึงนี่มันคู่หู่นรกแตกจริงๆ kuy all
[ เวย์ ] : รีบ all ไปไหนกูฟาร์มอยู่ 55555
[ ริว ] : รอตัวแทงค์แปปค่อย all 55555
[ มะกรูด ] : ค้วยยยย !!!
เวย์ก็แซวตามนิสัยของเขาจนทำให้ริวถึงกับขำตาม มะกรูดก็อดไม่ได้ที่จะแจกกล้วยไปคนละใบ ซึ่งดูจากปฏิกิริยาของริวกับเวย์แล้ว ท่าทางนายมะกรูดคนนี้ถือว่าสนิทกันใช้ได้เลยถึงมีการแซวการแจกกล้วยแต่ไม่ยักจะโกรธเคืองกัน และทั้ง 3 ก็พากันเดินเข้าไปในห้องแลปเพื่อนั่งคุยและนั่งกินข้าวก่อนที่จะเริ่มทำแลปตามประสาเด็ก ปี2ทั่วไป
ทั้งสามก็นั่งทำแลปไปคุยไปกินไปช่วยกันบ้างแกล้งกันบ้างตามประสาเพื่อน จนเมื่อครบ 1 ช.ม. มะกรูดก็จะขอแยกตัวไปที่ตึกนิเทศฯเพื่อที่จะเจอตัวจริงของนานะนางแบบจากญี่ปุ่น
[ เวย์ ] : แล้วมึงไปกับใครวะไอ้กรูด
[ ก๋อย ] : กับกูนี่งาย ว่าไง ไอ้คู่หูนรกแตก !!!!
[ ริว , เวย์ ] : ครวยยยย !!!!
เวย์พูดยังไม่ทันขาดคำเลยเพื่อนอีกคนก็พูดสวนมาทันที ไอ้ก๋อยนั่นเอง ก๋อยกับมะกรูดนี่รู้จักกันเพราะความชื่นชอบที่คล้ายๆกัน แต่ก๋อยนั้นจะชื่นชอบแค่ดาราหรือไอดอลของญี่ปุ่นเท่านั้นต่างกับมะกรูดที่คลั่งไคล้ทุกอย่างที่เป็นญี่ปุ่น ( ไอ้ก๋อยคือคนที่ถามริวในตอนที่ 7 ว่าเป็นนินจารึเปล่าและได้เห็นริวนั่นต่อสู้มากับตา )
[ เวย์ ] : ว่าไงไอ้ก๋อย ไอ้คลั่ง2D
[ ก๋อย ] : 2D หน้ามึงอ่ะ นี่นานะมาตัวเป็นๆนะโว้ย
[ เวย์ ] : กูเลิกตามข่าวมานานละ นิสัยแย่ๆไม่ใช่แนวเลยกูตาม อันริ โอคิตะ ดีกว่า
[ ก๋อย ] : เห้ยๆ นานะกับอันริ คนละแนวเลยไอ้จวย แล้วอย่าทำเป็นเล่นไป โพลล์จัดอันดับไอดอลสาวผู้มีอิทธิพลต่อวัยรุ่นญี่ปุ่น 10 อันดับ นานะติด ที่ 4 นะเว้ย
[ เวย์ ] : ก็แค่ที่ 4 ล่ะว๊า
[ ก๋อย ] : มันไม่ใช่แค่ที่ 4 นะเว้ย เพราะไอ้โพลล์นี้มันไม่ได้สำรวจแค่ดารา แต่คือไอดอลหญิงจากทุกวงการเลยนะเว้ย ทั้งธุรกิจ กีฬา การเมือง ดารา และ นักเขียน นานะที่ติดอันดับ 4 เธอเป็นดารานางแบบที่ติดอันดับดีที่สุดนะเว้ย ถึงบ้านเราเขาจะไม่ดังมาก แต่ที่ญี่ปุ่นนานะนี่ the best เลยนะเว้ย
[ เวย์ ] : ง่อววว the best ซะด้วย อย่าไปเก็บข้อมูลลงข้อมือนะไอ้สัด
[ ก๋อย ] : ค๊วยย !!!
[ มะกรูด ] : ไอ้ก๋อยมันพึ่งซื้อ แว่น VR กับ จิ๋มกระป๋องแบบออโต้ตัวท๊อปมา มันไม่ต้องชักเองแล้วเว้ย 555555
[ เวย์ ] : เหี้ยก๋อย ล้ำสัดอ่ะ 5555555
ทั้ง 2 คุยเฮฮากันไปเรื่อยๆโดยที่มีมะกรูดแจมด้วยยกเว้นริวที่ไม่ได้สนใจอะไร นอกจากกินข้าว กินขนม และ ทำการบ้าน แต่อีก 3 คนก็ยังคุยกันต่อไปตามประสา
[ ก๋อย ] : อีก 3 คนนี่ the best ของแท้นะเว้ย
อันดับ 3 นี่เป็นนักกีฬาว่ายน้ำ คุณ จุนโกะ ขาวจั๋วน่าเจี๊ยะ
อันดับ 2 เป็นนักเขียนชื่อดัง คุณ ฮานะ นี่ก็บักแตงโม
ส่วนอันดับ 1 นี่ คนที่คุณก็รู้ว่าใครเลย
[ เวย์ ] : ใครวะ
[ มะกรูด ] : รู้ๆกันยู่ก็ คุณมิไร ไง อิซานางิ มิไร นักธุรกิจสาว ลูกบุญธรรมของตระกูล อิซานางิไง คนนี้เรียกว่า โคตรเพอร์เฟค นิสัย การวางตัว การศึกษา หน้าที่การงาน ที่สำคัญสวยมากๆ
[ ก๋อย ] : ใช่ๆ พี่สาวมึงไงไอ้ริ~
[ ริว ] : แค่กกกก !!!!
ริวถึงกับต้องสำลักน้ำเพื่อเบรคไอก๋อยไว้ ไม่งั้นมันคงหลุดปากเรื่องที่ริวนั้นเป็นทายาทของอิซานางิเลยก็ว่าได้
[ มะกรูด ] : พี่สาวอะไรวะ มึงสำลักไรวะริว
[ ริว ] : เหี้ยเวย์ดิ่ ซื้อน้ำมะนาวมาหวานเจี๊ยบสำลักเลยสาด
[ เวย์ ] : เอ้อออ ใช่ๆๆ คุณมิไรนี่พี่สาวกูเลยนะ คลานตามกันมา 5555555555555
[ มะกรูด ] : ซุยเหลือเกินไอ้สาด พี่น้องคนละพ่อละแม่อ่ะดิ่
ดูเหมือนว่าริวจะรอดตัวไป เพราะเวย์นั้นช่วยแก้หน้าได้ทัน ทั้งริวและเวย์มองไปที่ไอ้ก๋อยด้วยสายตาอำมหิตเลยทีเดียว ไอ้ก๋อยก็รู้ว่าพูดมากเกินไปจนเกือบหลุดปาก มันจึงเดินอ้อมไปหลังมะกรูดและทำท่าไหว้ขอโทษตามประสาพื่อนที่พลาดไปแล้ว ไอ้ก๋อยถึงกับพูดแบบไร้เสียงว่าอย่าทำกูเลย ให้ริวและเวย์เห็นซึ่งทั้งคู่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรแค่แกล้งทำให้มันกลัวเฉยๆ
[ มะกรูด ] : เฮ้ยงั้นเดี๋ยวกูไปก่อนนะ กูนัดรุ่นน้องไว้ด้วย
[ ริว ] : นั่นแน่ เดี๋ยวนี้มีนัดเด็กด้วย ร้ายจริงเว้ยลวกเพี่ย
[ เวย์ ] : เย็ดไปยังวะไอ้กรูด
[ มะกรูด ] : พ่องเถอะ น้องที่บ้านอยู่ซอยเดียวกันโว้ย รู้จักกันตั้งแต่เด็กๆแล้ว อีกอย่างขืนไปแตะต้องมัน กูโดนเตะตายพอดี คาราเต้สายดำเลยนะมึง สวยแต่ดุชิบหาย 5555
[ เวย์ ] : เฮ้ย เดี๋ยวไอ้กรูด บ้านมึงอยู่ซอยหล่อพระนี่หว่า
[ มะกรูด ] : เออ มีไรวะ
เวย์พึ่งนึกอะไรออก เพราะเมื่อวานเขาพึ่งขับรถไปส่งปาล์มที่บ้าน และ ปาล์มขอให้เขาจอดตรงซอยหล่อพระเพราะบอกว่าถึงบ้านแล้ว ถ้าตามที่ไอ้มะกรูดพูดว่าน้องเล่นคาราเต้สายดำและอยู่ซอยเดียวกัน หรือจะเป็นปาล์ม
[ เวย์ ] : น้องมึงนี่ชื่อปาล์มอยู่ นิเทศฯ ป่าววะ
[ มะกรูด ] : เออใช่ รู้ได้ไงวะ ไปม่อมาเหรอวะ
[ เวย์ ] : โน โน โน้ววว นู่นๆโจทย์ไอ้มังกรมัน 55555 แต่เมื่อวานก็นอนกอดกันกลมดิ๊กอยู่หลังรถกูเลย 55555 ด๊วบปากกันด้วยนะเว้ยพวกมึง เห็นรถกูเป็น Fake taxi หรือไงก็ไม่รู้ 55555
[ มะกรูด ] : เฮ้ยยย ไอ้ริวจริงเหรอวะ
ริวถึงกับหน้าเหวอเลย เพราะไม่คิดว่าปาล์มกับไอ้มะกรูดจะรู้จักกัน แถมไอ้เวย์ยังเห็นว่าเขาจูบเธออีก
[ ริว ] : เหี้ยเวย์ ไรมึง
[ เวย์ ] : โถ่ กอดกันกลมดิ๊ก แถมนัวเนียกันขนาดนั้น มึงคงไม่เห็นสิ่นะ ว่าตอนน้องมันลุกขึ้นมา ปากน้องเขาเลอะ ( เลือด ) อ่ะ 55555 จะตายห่าอยู่ละยังจะปักธงอีก
[ ก๋อย ] : จิ๊กกิ้ววว ไอ้ริวสอยเด็กไอ้มะกรูดแล้ว เยสแน่นอน แบบนี้เยสแน่นอน
[ มะกรูด ] : ไม่ใช่เด็กกู น้องกูจริงๆ กูรักมันเหมือนน้องสาวแค่นั้น ไอ้ริวถ้ามึงจะจีบน้องมันก็จีบให้สุดนะเอาให้ได้เป็นแฟนเลยช่วยมันหน่อย น้องมันเป็นโรคเกลียดผู้ชาย ยิ่งหล่อๆแบบมึงนี่นะ เกลียดเข้ากระดูกดำ
[ ก๋อย , เวย์ ] : ทำไมวะ ?
ก๋อยและเวย์ถามขึ้นพร้อมกันด้วยความสงสัย ริวก็เช่นกันถึงจะไม่ได้เอ่ยปากถาม แต่เขาก็หยุดทำการบ้านและหันมาตั้งใจฟังอย่างจริงจัง เพราะเจอกันครั้งแรกปาล์มก็จะบวกกับริวเสียแล้ว ริวจึงอยากรู้เหตุผลด้วย
[ มะกรูด ] : พี่สาวปาล์มน่ะ ถูกแฟนเก่าทิ้งไปมีแฟนใหม่ ด้วยความเสียใจพี่สาวปาล์มเลยโดดกระโดดน้ำฆ่าตัวตายหลังมหาวิทยาลัยเนี่ย ปาล์มก็เลยฝังใจเรื่องผู้ชายมาตั้งแต่ตอนนั้น
[ ริว ] : หลัง มหาวิทยาลัย ? ทะเลสาบ ?
ริวสะดุ้งถามขึ้นทันทีเมื่อได้ยินว่า หลังมหาวิทยาลัย เพราะเขาก็ได้พบกับวิญญาณสาวที่นั่น เวย์ก็ถึงกับสะดุ้งตามทันที เพราะเขาแทบจะเดาได้เลยว่าริวต้องเคยเห็นดวงวิญญาณนั้นแน่ๆ เพราะไอ้เพื่อนรักของเขา มันชอบเดินไปแถวๆหลังมหาวิทยาลัยเสียด้วย
[ มะกรูด ] : เออ หลังมหาวิทยาลัยนั่นแหละ มึงไม่รู้ก็คงไม่แปลก เพราะเรื่องมันเกิดตอนพวกเราอยู่ ม.5 มึงก็ยังอยู่ที่ญี่ปุ่นแหละ
[ เวย์ ] : งั้นมหาวิทยาลัยนี้ก็มีผีอ่ะดิ่วะ
[ มะกรูด ] : เออดิ่ อย่างน้อยก็ตนนึง หึหึหึหึ มึงไม่สังเกตุเหรอ หลัง 6 โมงไม่มีใครไปหลังมหาวิทยาลัยเลย ก็มีแต่ไอ้ริวนี่แหละที่ไปนอนเล่นบ่อยๆ
[ ก๋อย ] : เอาจริงๆนะ กูว่าไอ้ริวมันมีอะไรพิเศษๆ แปลกๆวะ
[ มะกรูด , เวย์ ] : หาาาาาาา มึงหันมาชอบถั่วดำแทนหอยแล้วเหรอวะ
[ ก๋อย ] : ไม่ใช่โว้ย กูยังจงรักภักดีกับหอยอยู่ แต่ที่กูบอกว่ามันพิเศษกูหมายถึงในตัวมันนั่นแหละ คือบ้านเก่าที่กูอยู่ตอนเด็กๆ ข้างๆบ้านกู เขาพูดกันว่าเป็นบ้านของคนทรง
[ เวย์ ] : เย็ดเข้ ชาแมนคิง
[ ก๋อย ] : เงียบก่อนไอ้เวย์ ต่อๆ คือ บ้านข้างๆกูเป็นคนทรงมาตั้งแต่บรรพบุรุษเลย นะ กูเคยขอให้แม่กูเล่าให้ฟังเพราะท่านรู้จักกัน แม่กูเล่าว่าคุณน้าข้างบ้านเป็นคนทรงที่แบบเก่งเหี้ยๆ อัญเชิญวิญญาณมาประทับร่างแบบจังๆเลย จะบอกว่าเป็นชาแมนคิงแบบไอ้เวย์บอกก็ไม่แปลก กูเคยไปเล่นบ้านเขาตอนเด็กๆเหมือนกัน
[ มะกรูด ] : เจอผีเปล่าวะ
[ ก๋อย ] : ไม่เจอๆ แต่ตอนเด็กๆกูรู้สึกแบบ สงบๆ เย็นๆ แถมมีกลิ่นที่เฉพาะตัวมากๆ แต่แม่กูบอกว่าคุณน้าเขาไม่ได้เปิดสำนักอะไรนะ คุณน้าเขาจะช่วยแค่คนที่เดือดร้อนจริงๆ เหมือนเขาไม่อยากจะวุ่นวายหรือข้องเกี่ยวกับพวกนี้ แต่เพราะถูกสืบทอดมาทางสายเลือดมันเลยเลี่ยงไม่ได้
[ เวย์ ] : โถ่เว๊ยเหี้ยก๋อยมีแต่น้ำไหนวะเนื้อ ที่บอกว่าไอ้มังกรมันพิเศษยังไง
[ มะกรูด ] : เออๆ มันติดลม ที่บอกว่าได้ริวมันพิเศษคือ กูรู้สึกว่ามึงกับคุณน้าคนนั้นคล้ายๆกัน มันพูดไม่ออกว่ะ แต่มันรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ถ้าให้พูดแบบดูเวอร์ๆหน่อย คือ ออร่าแผ่ คล้ายๆกัน แต่ถ้าให้พูดแบบหลักวิทยาศาสตร์ก็คือ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมานั่นแหละ มันดูสงบๆเย็นๆเป็นโทนสีฟ้า
เวย์และมะกรูดฟังก็เข้าใจได้ทันที เวย์นั้นรู้อยู่แล้วจึงไม่ได้แปลกใจอะไรมาก แต่มะกรูดนั้นถึงจะไม่รู้เรื่องของริวแต่ตลอด 1 ปีที่เขาคุยกับริว ถึงตัวเขาจะไม่ได้สนิทกับริวเหมือนเวย์ แต่เขาก็สัมผัสบางอย่างเกี่ยวกับริวได้จริงๆ ส่วนริวนั้นก็รับรู้ได้ทันทีว่า วิญญาณที่ไอ้มะกรูดพูดถึงต้องเป็นพี่ปิ่นแน่นอน มิน่าล่ะเขาถึงสงสัยว่าทำไมปาล์มหน้าตาคล้ายพี่ปิ่นนัก
[ ริว ] : และทุกวันนี้ยังมีคนเห็นอีกไหมวะ วิญญาณดวงนั้น
[ ก๋อย ] : ตัวกูอ่ะไม่เคยเห็น แค่เฉียดไปยังไม่กล้าเลย แต่บางคนก็ว่าได้ยินแค่เสียง บางคนก็ว่าเจอผู้หญิงยืนร้องไห้อยู่ตรงทะเลสาบ บางคนหนักหน่อยก็ว่าเห็นเป็นตัวๆเลยใส่ชุดนักศึกษากระโดดน้ำ พอจะเข้าไปช่วยก็ไม่เห็นอะไร แถมผิวน้ำก็นิ่งสงบไม่มีคลื่นจากการกระโดดเลย เลยรู้ว่าโดนหลอกกันแล้ว
[ มะกรูด ] : กูก็ไม่เคยเห็นนะ แต่กูรู้ว่าคงเป็นพี่เขาแหละ เพราะบาปจากการฆ่าตัวตายมันหนักมาก ต้องชดใช้กรรมไปจนกว่าจะหมดอายุขัยนั่นแหละ จะเจอก็ไม่แปลกเพราะพี่เขาคงชดใช้กรรมอยู่ตรงนั้นแหละ ฆ่าตัวตายซ้ำไปซ้ำมาจนกว่าจะหมดอายุขัย แต่ข่าวลือมันหนาขึ้นๆ คนก็เลยไม่ค่อยกล้าไป จะมีก็แต่ปาล์มนั่นแหละที่เอาของไปไหว้ทุกวันพระ
ริวได้ฟังก็กระจ่างทันที เพราะลุงเจ้าที่เคยบอกว่าจะมีก็แต่น้องสาวของพี่ปิ่นที่นำของมาไหว้เท่านั้น และ เขาก็สงสัยอะไรบางอย่างจึงได้ถามกลับไปอีก
[ ริว ] : แล้ววิญญาณนั่นเคยหลอกใครมั๊ยวะ แบบออกมาตุ้งแช่เลยอ่ะ
[ ก๋อย ] : เท่าที่ฟังๆมาไม่เคยวะ ไอ้ที่แบบโผล่มาแฮ่ๆ ไม่เคยมีใครโดนนะ ส่วนมากจะเห็นแค่เดินวนๆตรงทะเลสาบหลังมหาวิทยาลัย
[ มะกรูด ] : อืม ตอนมีชีวิตอยู่พี่เขานิสัยดีนะ อันนี้กูรับประกัน ไอ้ริวถ้ามึงพิเศษอย่างที่ไอ้ก๋อยรู้สึก แล้วถ้ามึงเจอพี่เขาแล้วสื่อสารได้ มึงถามเขาทีว่าอยากได้อะไรไหม กูจะทำบุญไปให้ เพราะปาล์มมันก็ยังไม่ได้ทำงาน ไอ้จะให้ไปซื้ออะไรแพงๆมาทำบุญให้ก็คงเกินกำลัง ตอนเด็กๆพี่เขาก็ดีกับกู กูก็อยากตอบแทนพี่เขาบ้าง
[ ริว ] : เออ ถ้ากูเห็นกูจะบอกให้
[ มะกรูด ] : เออ ขอบใจมาก งั้นกูกับไอ้ก๋อยไปก่อนนะ เดี๋ยวสาย
[ เวย์ , ริว ] : เออเจอกัน
_ _ _ _ _ _
ทั้งสองเดินลงมายังชั้นล่าง ก่อนที่จะพากันเดินไปยังตึกนิเทศฯเพราะมันไม่ได้ไกลมาก มะกรูดนั้นยังสงสัยเรื่องที่ก๋อยพูดมาจึงได้สอบถามอีกครั้ง
[ มะกรูด ] : ไอ้ก๋อย มึงพูดจริงพูดเล่นวะเนี่ยเรื่องไอ้ริว ที่มึงบอกว่ามันอาจจะเห็นผีเหมือนน้าร่างทรงข้างๆบ้านมึง
[ ก๋อย ] : อันนี้กูพูดจริงๆ บอกไปมึงอาจไม่เชื่อแต่กูรู้สึกได้ ว่ามันไม่ได้มีดีแค่เรื่องต่อยตี
[ มะกรูด ] : หะ ต่อยตีอะไรวะ ตั้งแต่ ปี 1 ยังไม่เคยเห็นมันมีเรื่องกับใครเลย
[ ก๋อย ] : เอ้ย...กูหมายถึง กวนตีนจนน่าโดนต่อยโดนตีน่ะ 55555
นาย
ไอ้ก๋อยเกือบอีกแล้ว เกือบหลุดเรื่องที่ริวฝีมือนั้นเข้าขั้นเทพ เพราะมะกรูดนั้นติดไปทริปถ่ายรูปที่ญี่ปุ่นเลยไม่ได้รู้เรื่องตอนงานวันรับน้องว่าริว
กระทืบพวกไอ้นพจนเละ และดูเหมือนว่าริวจะไม่อยากให้คนอื่นๆรู้เสียด้วย
[ มะกรูด ] : อ่อเออ มันก็กวนตีนเป็นปกติของมันอยู่แล้ว ก็อยู่กับไอ้เวย์ตลอดก็งี้แหละ แล้วเรื่องของมันล่ะมึงว่าไงต่ออ่ะ มันจะเห็นวิญญาณได้มั๊ย
[ ก๋อย ] : กูเชื่อว่ามันพิเศษจริงๆ กูอ่ะเคยแอบตามมันไปครั้งนึง คนเหี้ยอะไรเดินดุ่ยๆไปนอนตรงริมทะเลสาบที่เขาลือกันว่าผีดุได้หน้าตาเฉย แถมยังนอนกระดิกตีนสบายใจอีก มืดก็มืด วังเวงก็วังเวงไอ้เหี้ย ยอมใจแม่งเลย
[ มะกรูด ] : 5555 ยอมใจแม่งเลยว่ะ แล้วตอนนี้คุณน้าข้างบ้านมึงยังอยู่มั๊ย กูอยากให้เขาช่วย กูอยากเจอพี่เขา
[ ก๋อย ] : ไม่ได้แล้วว่ะ ตอน 7 ขวบกูก็ย้ายมาบ้านหลังปัจจุบันนี้แล้วล่ะ อีกอย่างตอน กู 10 ขวบ แม่กูก็บอกว่าคุณน้ากับสามีก็โดนโจรฆ่าตายไปแล้วด้วย
[ มะกรูด ] : โอยย หมดกัน เฮ้อความหวังกูไปซะแล้ว
[ ก๋อย ] : ทำใจเหอะไอ้มะกรูดตั้ง 10กว่าปีแล้ว เอาจริงๆกูก็ลืมไปแล้วด้วย ถ้ามึงไม่พูดเรื่องวันนี้กูก็คงนึกไม่ออกว่ะ ไปเหอะ น้องนานะรออยู่ เห็นบอกกันว่าไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะ คนก็เลยไม่ได้สนใจมากมาย
[ มะกรูด ] : เหรอวะ ดีๆจะได้ใกล้ชิดหน่อย
[ ก๋อย ] : ระวังไว้หน่อยก็ดีนะ กูได้กลิ่นไม่ค่อยดี เพราะปกติถ้ามีกองถ่ายโฆษณามาลงกองถ่าย พวกเด็กนิเทศฯจะมาดูงานตลอด แต่นี่น้อยมามากๆเท่าที่คุยๆกัน แทบจะไม่มีเลย
[ ปาล์ม ] : พี่มะกรูด ตรงนี้ๆๆๆ
เสียงใสๆตะโกนเรียกมะกรูดทันทีที่เดินมาถึงตึกนิเทศฯ ทำให้บทสนทนาของมะกรูดและก๋อยจบลง เจ้าของเสียงนั้นซึ่งคือปาล์มนั่นเอง และข้างๆก็มีฝนอยู่ด้วยเพราะว่าคลาสเรียนถูกยกเลิก ปาล์มเลยชวนมาด้วย หลังจากที่ทักทายกันเรียบร้อยทั้ง 4 คนก็เดินไปยังจุดที่ตั้งกองถ่ายทำโฆษณาของซุปตาร์นานะทันที
แต่ดูเหมือนฝนจะไม่ตื่นเต้นเท่าไรนัก ก็เพราะเธอเคยเจอคุณมิไร สาวสวยนัมเบอร์วันมาแล้วน่ะสิ่ ถึงนานะจะสวยก็จริงแต่ถ้าให้เทียบกับมิไรที่เก่งในทุกๆด้าน มิไรนั้นกินขาดแบบไม่ต้องสงสัย ก๋อยและมะกรูดจึงหยุดคุยเรื่องกองถ่ายที่ผิดปกติและเดินไปพร้อมกับปาล์มและฝนทันที
_ _ _ _ _ _
•••••
กลับมาที่ห้องแลปที่ริวกับเวย์นั่งทำการบ้านอยู่
•••••
[ เวย์ ] : ฮืออออ ไอ้กรูดไปซะแล้ว ไม่น่าเลยเพื่อน
[ ริว ] : เดี๋ยวๆมันไปขอนางแบบถ่ายรูป ไม่ได้ไปตายไอ้เวน
[ เวย์ ] : เอ้าเหรอ 55555+
[ ริว ] : มึงนี่แม่ง ชอบไปแกล้งมันจัง
[ เวย์ ] : กูรู้ลิมิตน่าไอมังกร ก็แค่แซวฮาๆ กูรู้น่าว่ามันชอบญี่ปุ่นแค่ไหน อีกอย่างมันก็เดินสายอาชีพนี้เต็มตัว เพื่อนกันไม่บั่นทอนจิตใจกันหรอก เออ..มึงก็พามันไปทัวร์รอบโตเกียวแบบ vip สักรอบดิ่ เดี๋ยวกูไปด้วย
[ ริว ] : กูก็คิดงั้นแหละ เห็นไปแต่ละทีก็ไปทำแต่งาน ไม่ได้ไปเปิดหูดเปิดตาเลย ไว้กลับบ้านรอบนี้ก่อนค่อยว่ากัน เดี๋ยวให้รินนะจัดการชุดใหญ่ไฟปริ๊ปๆให้ เออ..ว่าแต่นานะที่ไอ้มะกรูดกับไอ้ก๋อยจะไปดูนี่ใครวะ เห็นบอกดังแต่นิสัยไม่ค่อยดี
[ เวย์ ] : นางแบบญี่ปุ่นแท้ๆเลยสัด ตอนช่วงกูเห่อหมอยก็ตามข่าวอยู่ช่วงนึง ตอนแรกก็น่ารักดีพอขุดข่าวไปลึกๆ อื้อหืม อย่างหยิ่งเลยไอ้สัด ต่อหน้าผู้หลักผู้ใหญ่ก็ดูเฟรนด์ลี่ มีมารยาท ตัวจริงนี่ทำตัวสูงส่งเกิ๊น
[ ริว ] : อ่อ ยังไงวะ
[ เวย์ ] : ถ้าว่าในภาษาไทยคงเป็นมองหัวจรดตีนว่ะ ดูถูกคนชิบหาย ข่าวล่าสุดว่าปัดกล้องแฟนคลับตกพื้นเลย กูไม่เข้าใจทำไมยังมีคนป้อนงานให้อีก ตอนเดบิวต์นะอ่อนหวาน เรียบร้อย สารพัด พอดังจนมีชื่อเสียงก็นิสัยเปลี่ยน
[ ริว ] : เฮ้อ งี้แหละด้านมืดวงการบันเทิง นานะอะไรของมึงคงจะดังจนฐานแฟนคลับเยอะ ต้นสังกัดเลยไม่กล้าแตะต้อง เพราะเป็นตัวทำเงินทำรายได้เลย ถ้าไม่มีข่าวร้ายแรงอย่างทำผิดกฎหมายหรือชู้สาว ก็ยังมีงานได้เรื่อยๆแหละถ้ากระแสไม่ตกนะ
[ เวย์ ] : อ๋อ ตัวเงินตัวทองนี่เอง เดี๋ยวไอ้สัดอย่าเปลี่ยนเรื่อง ที่ไอ้ก๋อยพูดเมื่อกี้ มึงบอกกูมาตรงๆมึงเคยเจอวิญญาณนั่นแล้วใช่มั้ย
เวย์ที่พูดติดตลกในช่วงแรกๆ แต่พอเขานึกได้ว่าไอ้ก๋อย พูดถึงเรื่องวิญญาณหลังมหาวิทยาลัยและพูดถึงริวกะว่าเป็นคนพิเศษ เวย์จึงคิดว่าริวนั้นต้องเคยเจอวิญญาณนั่นมาแล้วแน่ๆจึงได้ถามเพื่อความชัวร์ ส่วนริวนั้นก็คิดว่าคงไม่มีอะไรต้องปิดบังเวย์จึงได้บอกความจริงไป
[ ริว ] : เออเคยเจอ อยู่กับลุงเจ้าที่เจ้าทางหลังมหาวิทยาลัยนู่น
[ เวย์ ] : เชี้ย มีเจ้าที่เจ้าทางด้วย ตกลงมึงไม่ได้เห็นแค่ภูติหรือผีญี่ปุ่นเหรอวะ นี่เห็นผีไทยด้วย
[ ริว ] : กูก็ไม่แน่ใจว่ะ กูไม่เคยหาคำตอบด้วย เพราะบางอย่างมันก็ถูกกำหนดไว้แล้ว เจอก็เจอไม่เจอก็ช่าง
[ เวย์ ] : ฟวย กูว่าแล้วทำไมชอบหายไปนอนหลังมหาวิทยาลัย ดีนะกูไม่ตามไปด้วย แล้วไหนเรื่องที่มึงปลดปล่อยวิญญาณได้อีก ตกลงมึงเป็นตัวอะไรกันแน่วะ
[ ริว ] : 55555 มึงจะกลัวอะไรวะ ภูติบ้านกูมึงก็เคยเห็นแล้ว
[ เวย์ ] : ไอ้สาด ภูติบ้านมึงถือศีล บำเพ็ญเพียรเว้ย แบบนี้ยังพอน่าคบ ผีไทยแม่งชอบออกมา แฮ่ !!! ตุ้งแช่ !!! กูหัวใจจะวาย
[ ริว ] : 55555 อ่อนแอสัดๆ เอ้าเห้ย แลคเชอร์ของไอ้มะกรูดนี่หว่า ลืมไว้เหรอวะ
[ เวย์ ] : นั่นไง แม่งลนจัด รีบไงกลัวไม่ได้ถ่ายรูป แล้วเอาไงดีวะ เอาไปให้แม่งมะ หรือ เก็บไว้ก่อน
[ ริว ] : การบ้านมึงเสร็จยังล่ะ
[ เวย์ ] : เสร็จแล้ว
[ ริว ] : อืมไปดิ่ เผื่อไอ้มะกรูดต้องใช้งาน
ในระหว่างที่คุยกันอย่างสนุกสนานนั้น ริวก็ได้เหลือบไปเห็นสมุดสีเทาเล่มหนาๆเต็มไปด้วย Post it เพื่อระบุเนื้อหาในแต่ละหน้า ริวจึงจำได้ทันทีว่าคือ สมุดแลคเชอร์ของมะกรูด ทั้งสองตกลงกันว่าจะเอาสมุคแลคเชอร์ไปให้มะกรูดที่ตึกนิเทศฯ ทั้งสองเก็บสมุดเก็บของส่วนตัวเก็บซากขยะออกมาทิ้ง และพากันเดินไปไปยังตึกนิเทศซึ่งห่างออกไปราวๆ 300 เมตร เพราะมะกรูดน่าจะอยู่ที่นั่นแล้ว
•••••••••••••
ณ. ตึกนิเทศศาสตร์ เวลาเดียวกัน
กองถ่ายโฆษนาของนานะ ซุปเปอร์สตาร์ของญี่ปุ่น ตอนนี้กองถ่ายทำกำลังพักกองอยู่เพื่อ Set back drop นักศึกษาที่เข้ามาร่วมชมถูกสั่งห้ามไม่ให้ถ่ายรูปเพราะมันความลับทางการตลาด ทั้งนางแบบ ทั้งเสื้อผ้า และ อุปกรณ์ประกอบฉาก ถ้ารูปหลุดไปทางบริษัทคู่แข่งอาจจะเร่งทำสินค้ามาตัดฐานลูกค้าก็เป็นได้ เพราะถูกห้ามถ่ายรูปและยังเช้า จึงทำให้ไม่ค่อยมีคนมากเท่าไร จะมีก็คนที่ชื่นชอบและเสพผลงานของเธอเท่านั้น
[ นานะ ] : โอ๊ย ร้อน ร้อนตับจะแตก ใครรับงานมาเนี่ย
[ ผู้จัดการส่วนตัว ] : น่าๆ นานะจ๋า เงินมันดีพี่เลยรับมา ไอ้ตัวดีลเลอร์คนไทยมันฟิกซ์มาเรื่องสเปคงานและนางแบบ พี่เลยเลือกนานะนี่ไงเพราะหนูตรงคอนเซปท์งานเลย
[ นานะ ] : พวกนี้ก็เหมือนกันจะมามุงอะไรนักหนาร้อนก็ร้อน โอ๊ย นานะบอกแล้วใช่มั๊ยว่าขอความเป็นส่วนตัว
ดูเหมือนว่าข่าวลือที่ว่านานะนิสัยเสียจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว เพราะดูเธอขี้เหวี่ยง ขี้วีน ซะเหลือเกิน ส่วนไอ้ผู้จัดการส่วนตัวที่รับงานนี้ก็เพราะเงินจริงๆ ทั้งคู่รู้จักกันตั้งแต่นานะเดบิวต์ใหม่ๆ ตอนอายุ 15 ย่าง 16 แต่พอนานๆไปนานะเริ่มสวยขึ้นตามวัย
มันจึงไม่รอช้าที่จะเดินเรื่องให้ตัวเองไดดูแลเธอ และเผด็จศึกทันทีและดูเหมือนนานะจะยินยอมพร้อมใจเสียด้วยเพราะมันก็ถือว่าหล่อดูดีไม่ใช่ย่อย แน่นอนว่ามะกรูดก็ตามมาดูนานะอย่างตื่นเต้น
[ มะกรูด ] : สวยจังแฮะ
มะกรูดก็ได้แต่ชื่นชมอยู่ห่างๆ เขาทำตามกฏระเบียบทุกอย่าง ไม่ใช้มือถือ ไม่ส่งเสียงดัง เมื่อดูรอบๆก็เห็นว่ามีบอดี้การ์ดในสูทสีดำทั้งไทยและต่างชาติรวมกันอยู่ถึง 4 คน
[ ปาล์ม ] : พี่มะกรูด ปาล์มกับฝนไปซื้อน้ำก่อนนะ หิววว เอาน้ำไรมั๊ย
[ มะกรูด ] : ไม่เป็นไร ไอ้ก๋อยมึงล่ะ
[ ก๋อย ] : ยังเหมือนกัน
[ ปาล์ม ] : เคค่ะ งั้นไปก่อนนะ
ฝนกับปาล์มแยกตัวกันไปเพื่อซื้อน้ำ เพราะอากาศมันร้อนมากอีก ซึ่งดูแล้วเหมือนฝนจะไม่ค่อยอยากจะดูเท่าไรด้วย
ทั้งคู่แยกตัวออกมาทันทีและตรงไปที่ร้านค้าข้างๆตึกนั่นเอง
เลิกกอง !!! คำสั่งของผู้กำกับดังขึ้น ทุกคนก็ต่างปรบมือกันดังกึกก้อง นานะก็ทำเหมือนจะออกมาขอบคุณแต่เธอแกล้งทำเพื่อเรียกเรทติ้งเท่านััน แค่โบกมือหยอยๆ 2 ทีก็เตรียมตัวกลับ ปล่อยให้ผู้ตัดการส่วนตัวไปคุยกับดีลเลอร์ชาวไทยแทน
บทสนทนาภาษาอังกฤษ
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : แหม ต้องขอบคุณ คุณผู้จัดการนะครับ ที่ยอมรับงานนี้และบินมาตามคำเชิญ
[ ผู้จัดการส่วนตัว ] : ยินดีครับ ขอบคุณสำหรับ บอดี้การ์ดฝรั่งทั้ง2 นะครับ ช่วยได้มากเลย
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : เช่นกันครับ
ทั้งคู่ต่างแกล้งตีสีหน้าชื่นมื่นใส่กัน เพราะต่างคนก็ไม่ได้ชอบขี้หน้ากันมากมาย ไอ้ดีลเลอร์ก็จู้จี้น่ารำคาณ ส่วนไอ้ผู้จัดการก็เห็นแก่เงิน ทั้งคู่ก็ได้แต่แสดงว่าเป็นมิตรที่ดีต่อกันทั้งๆที่ในใจนั้นต่างก่นด่ากันและกัน
[ ผู้จัดการส่วนตัว ] : ถ้าเงินไม่ดีกูไม่เสียเวลามาหรอก ร้อนก็ร้อน
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : ถ้าไม่ใช่เพราะกูต้องการนานะ กูจะไม่จ้างมึงเลย
เพราะเงินคือตัวแปลทั้งหมดธุรกิจจึงเกิดขึ้น นานะเดินมาขึ้นรถที่จอดรอไว้ตรงหลังตึกนิเทศศาสตร์เกือบถึงหลังมหาวิทยาลัย ที่เป็นตรงนี้เพราะไม่ค่อยมีคนเพ่นพ่านนัก ซึ่งนานะต้องการความเป็นส่วนตัวมากจึงเลือกตรงนี้เป็นจุดจอดรถ แต่ก็ยังมีแฟนๆที่ชื่นชอบเดินมาส่ง แน่นอนว่ามะกรูดกับก๋อยก็เดินมาด้วย และเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
มะกรูดนั้นคิดว่าคงสามารถถ่ายรูปได้แล้วเขาจึงใช้กล้องที่สะพายมาถ่ายไปยังนานะเพื่อต้องการเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดี
แชะ แชะ เสียงดังจากชัตเตอร์ดังขึ้นชัดเจนจนบอดี้การ์ดได้ยิน บอดี้การ์ดชาวต่างชาติเดินเข้าหามะกรูดด้วยความรวดเร็วเพราะพวกเขาถูกกำชับไว้ว่าห้ามให้มีการถ่ายรูป ถ้าสังเกตุเห็นให้จับกุมทันที
มะกรูดที่กำลังถ่ายภาพก็ตกใจสะดุ้งโหยง เป็นใครก็สะดุ้งบอดี้การ์ดชายชาวต่างชาติตังสูงยังกับยักษ์ปักหลั่นเดินยื่นมือมาปิดกล้องเขาและทำท่าจะหยิบไป มะกรูดก็ตกใจยื้อแย่งกล้องถ่ายภาพของหวงสุดชีวิต แต่ชายไทยธรรมดาๆมีหรือจะสู้บอดี้การ์ดมืออาชีพ 2 คน ที่เป็นถึงอดีตกองกำลังทหารรับจ้างอิสระของสหรัฐได้ พวกเขาสองคนเข้าจับกุมมะกรูด และอีก 2 คนที่เป็นคนไทยและญี่ปุ่นก็ยืนคุมเชิงที่นานะและผู้จัดการส่วนตัว ซึ่งนานะได้ขึ้นไปรอบนรถเรียบร้อย ไอ้ก๋อยนั้นก็พยายามช่วยมะกรูดอย่างสุดชีวิตเช่นกัน จึงเกิดเสียงดังโวยวายขึ้นมาดังไปถึงจุดที่ไอ้ผู้จัดการส่วนตัวยืนอยู่
••••
บทสนทนาภาษาอังกฤษ
••••
[ ผู้จัดการส่วนตัว ] : มีอะไรกันอีกวะ ร้อนชิบหายมีอะไรอีก
[ บอดี้การ์ดชาวไทย ] : มีเหตุวุ่นวายครับท่าน ตอนนี้บอดี้การ์ด 1 และ 2 กำลังเข้าระงับเหตุแล้ว
••••
บทพูดภาษาญี่ปุ่น
••••
[ ผู้จัดการส่วนตัว ] : อะไรนักหนาวะ ไอ้พวกประเทศด้อยพัฒนาเอ๊ย เวลาของกูเป็นเงินเป็นทองนะเว้ย เสียเวลาจริงๆเว้ย
มันสอบถามบอดี้การ์ดชาวไทยด้วยภาษาอังกฤษอย่างหัวเสียเพราะอากาศร้อนแล้วยังต้องมาเสียเวลาอีก เมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นมันถึงกับด่าเป็นภาษาญี่ปุ่นเพื่อไม่ให้การ์ดชาวไทยเข้าใจ แต่บอดี้การ์ดชาวญี่ปุ่นข้างหลังเมื่อได้ยินที่มันพูด ก็ถึงกับแสดงสีหน้าไม่พอใจที่ไอ้ผู้จัดการส่วนตัวพูดเช่นนั้น บอดี้การ์ดฝรั่ง 2 คนนำกล้องและมะกรูดเดินเข้าไป เป็นไปตามที่คิดมะกรูดกับไอ้ก๋อยจะไปสู้อะไรไอ้พวกนี้ได้ ไอ้ก๋อยนั้นก็โดนผลักล้มกระเด็นเช่นกัน มันพยายามเข้ามาช่วยแต่ก็ถูกนักศึกษาคนอื่นๆดึงไว้
••••
บทสนทนาภาษาอังกฤษ
•••••
[ บอดี้การ์ด 1 ] : ขอประทานโทษครับท่าน ชายหนุ่มคนนี้ถ่ายภาพไว้
[ ผู้จัดการส่วนตัว ] : ไหนอะไรเอามาดูหน่อย
ผู้จัดการส่วนตัวเปิดกล้องดูภาพก็พบรูปของนานะ 3-4 รูป และดูเหมือนจะเป็นภาพล่าสุดด้วย ผู้จัดการส่วนตัวจึงสอบถามกับมะกรูดว่าถ่ายไปทำไม แต่มะกรูดนั้นตอบเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า ที่ถ่ายเพราะเห็นว่าเลิกกองแล้วเลยคิดว่าสามารถถ่ายภาพได้แล้ว อีกอย่างเพราะชื่นชอบในตัวนานะจึงอยากได้ภาพถ่ายไว้ พอพูดมาถึงตรงนี้ไอ้ผู้จัดการถึงกับมองด้วยสายตาที่เหยียดหยามมากกว่าเดิมอีก และอยู่ดีๆไอ้ดีลเลอร์คนไทยก็รีบวิ่งเข้ามาชกมะกรูดดัง
ผัวะ มะกรูดถึงกับงุนงงว่าตนทำผิดอะไรแค่ถ่ายรูป
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : ใครส่งมึงมา ใครจ้างมึงมาสืบ
ตอนนี้สถานการณ์เริ่มวุ่นวายแล้ว เพราะมะกรูดนักศึกษาที่ดูไม่มีพิษภัยกลับโดนต่อยซะเฉยๆ
[ มะกรูด ] : ผมเปล่านะครับ ผมมาถ่ายรูปคุณนานะเฉยๆ
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : ไอ้โกหก
ผัวะ !!! มะกรูดโดนต่อยอีกแล้ว มะกรูดทั้งเจ็บตัวทั้งงุนงง เขาจะมาแค่ถ่ายรูปเท่านั้นเอง ไอ้ดีลเลอร์เหมือนจะขาดสติแล้วมันคงกลัวข้อมูลสินค้าตัวนี้หลุดรั่ว และคงคิดว่ามะกรูดจะมาล้วงความลับทางการตลาดของมัน
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : เอากล้องมันมา มันต้องซ่อนอะไรไว้อีก เอาไปชำแหละเผื่อมีกล้องตัวจิ๋วซ่อนอยู่ จะได้จับมันส่งตำรวจ
[ มะกรูด ] : เห้ย อย่าเอากล้องผมไป
ไอ้ผู้จัดการส่วนตัวพอสอบถามจนรับรู้เรื่องราวจากดีลเลอร์มันก็ยุยงให้เอากล้องไปชำแหละ เพราะนักศึกษาแบบเขาจะมีปัญญาซื้อกล้องแพงๆได้ไงถ้าไม่ใช่นักสืบ ดูเหมือนไอ้ดีลเลอร์จะเชื่อง่ายๆเสียด้วย ไอ้ผู้จัดการส่วนตัวถึงกับแอบยิ้มอย่างสะใจที่ได้ปั่นหัวทั้งสองคนจนวุ่นวาย
[ มะกรูด ] : เอากล้องผมคืนมา ผมเก็บเงินซื้อมา อย่าเอาไป คุณผู้จัดการส่วนตัวครับ ช่วยพูดให้ผมด้วย ผมขอร้อง
มะกรูดพูดกับไอ้ผู้จัดการด้วยภาษาญี่ปุ่น ไอ้ดีลเลอร์ชาวไทยก็ยิ่งลนลานเข้าไปใหญ่เพราะมันฟังภาษาญี่ปุ่นไม่ออก
พลั่ก มันเตะเข้าท้องมะกรูดเต็มจนมะกรูดถึงกับจุก นักศึกษาหลายคนที่อยู่ในเหตุการณ์พยายามจะเอากล้องขึ้นมาถ่ายเหตุการณ์ไว้ แต่พอเจอบอดี้การ์ดชาวต่างชาติขยับตัวมอง ก็ถึงกับไม่กล้ายกมือถือขึ้นมาเลย
•••••
บทสนทนาภาษาอังกฤษ
•••••
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : เฮ้ย จับตัวมันไป เอาไปสอบสวน มันอาจจะเป็นคนที่คู่แข่งส่งมา
มะกรูดได้ยินดังนั้นก็พยายามลุกทั้งๆที่จุกเพื่อไปแย่งกล้องของเขาคืน กล้องตัวนี้เขาอุสส่าห์ทำงานเก็บเงินเพื่อที่จะใช้มันในการรับจ๊อบถ่ายภาพเพื่อหาเงิน มันจึงเป็นทั้งของรักและอุปกรณ์ทำมาหากิน
ของเขา
[ มะกรูด ] : เอามา เอาคืนมา
มะกรูดพูดขึ้นอย่างน่าสงสารและพยายามยื้อแย่งกล้องจากไอ้ดีลเลอร์ จนกล้องนั้นหลุดมือทั้งคู่จนตกลงบ่อน้ำพุข้างๆไป
[ มะกรูด ] : ไม่นะกล้องผม
มะกรูดเหมือนใจสลายเมื่อกล้องถ่ายรูปของตนตกน้ำ ไอ้ดีลเลอร์ถึงกับโกรธจัดที่มะกรูดเข้ามายื้อแย่ง จนมันคิดว่ามะกรูดพยายามทำลายหลักฐาน และที่สำคัญเสื้อราคาแพงของมันก็ขาดเพราะแรงกระชากของมะกรูด
[ ดีลเลอร์ชาวไทย ] : มึง มึงทำเสื้อกูขาด
ผัวะ !!! มันต่อยใส่หน้ามะกรูดอีกครั้งจนล้มลงไปกอง มันส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดทั้ง 2 จัดการมะกรูดเพื่อสั่งสอน ไอ้บอดี้การ์ดฝรั่งทั้ง 2 เดินเข้าหามะกรูดก่อนที่จะกระชากคอขึ้นมาตีเข่าใส่หน้าท้องอย่างจังและเหวี่ยงลงพื้นอย่างรุนแรง จนมะกรูดอ่วมไปทั้งตัวท่ามกลางสายตาของนักศึกษาเกือบ 20 คน
••••••••
*ด้านปาล์มกับฝนที่แยกตัวมาซื้อน้ำ
[ ปาล์ม ] : เป็นอะไรรึเปล่าฝน ทำไมดูแปลกๆ
[ ฝน ] : งือปวดฉี่
[ ปาล์ม ] : รีบไปรีบมานะ เดี๋ยวถ้าเลิกกอง จะไม่เห็นนางแบบนะ
[ ฝน ] : เราไม่ค่อยชอบนางแบบคนนี้อ่ะปาล์ม
[ ปาล์ม ] : หืม ทำไมล่ะ
[ ฝน ] : ข่าวคาวๆ เยอะมากๆเลยปาล์ม อีกอย่างกองถ่ายทำวันนี้ ไม่มีการขออนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย
[ ปาล์ม ] : มิน่าล่ะ เราไม่เห็นรุ่นพี่คณะนิเทศฯเลย
[ ฝน ] : อื้ม พวกรุ่นพี่เขาเลี่ยงกันหมดแหละ ไม่มีใครอยากเดือดร้อนถ้าเกิดอุบัติเหตุจากการถ่ายทำ และ อีกอย่างเพราะชื่อเสียงเสียๆของนานะเองด้วย ทำให้ความนิยมในบ้านเราตกฮวบ
[ ปาล์ม ] : อื้อๆ
[ ฝน ] : งั้นเราไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ
[ ปาล์ม ] : อื้อ งั้นเราเอาน้ำไปให้พี่มะกรูดก่อนนะ
ปาล์มกับฝนก็แยกกันตรงห้องน้ำ ปาล์มนั้นเดินกลับมายังที่เดิมแต่ก็ไม่เห็นมะกรูดแล้ว แต่ปาล์มสังเกตุกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุงอะไรกันอยู่ เธอจึงรีบเดินเข้าไปชะเง้อๆตรงบริเวณเสา ก็พบว่ามะกรูดโดนทำร้ายจนลงไปกองกับพื้น ปาล์มจะวิ่งเข้าไปช่วยแต่ก็ถูกใครบางคนดึงไว้ นั่นคือก๋อยนั่นเอง เมื่อเห็นว่าเป็นก๋อยปาล์มจึงสอบถามทันที เพราะก่อนเธอจะไปซื้อน้ำเมื่อกี้ยังดีๆอยู่เลย แล้วตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น
[ ปาล์ม ] : พี่ก๋อยเกิดอะไรขึ้น
[ ก๋อย ] : ไอ้มะกรูดแค่ไปถ่ายรูปนานะ ไม่รู้ทำไมโดนซ้อม เห้ยอย่าเข้าไป
[ ปาล์ม ] : ปล่อยปาล์ม ปาล์มจะเข้าไปช่วยพี่มะกรูด
ปาล์มเห็นมะกรูดโดยทำร้ายก็พยายามจะเข้าไปช่วย แต่ก๋อยก็ห้ามไว้เพราะถ้าปล่อยให้เข้าไป ปาล์มได้เจ็บตัวด้วยแน่ๆ ปาล์มเองนั้นก็ทำท่าจะเข้าไปอย่างเดียวเลย ก๋อยนั้นก็พยายามจะกันไม่ให้ปาล์มเข้าไป เพราะเหตุการณ์มันอาจจะบานปลายไปกว่านี้ก็เป็นได้ถ้าปาล์มโดนทำร้ายเพิ่มอีกคน
[ บอดี้การ์ด 1 ] : hahaha stupid monkey
[ บอดี้การ์ด 2 ] : hahaha go the hell
ไอ้บอดี้การ์ดฝรั่งทั้ง2 มันด่ามะกรูดที่ล้มกองอยู่อย่างน่าสมเพช และกำลังจะเตะใส่มะกรูดที่ท้อง....... ฟิ่วววววว
ฉึก !!! ฉึก !!! เสียงวัตถุบางอย่างพุ่งแหวกอากาศมาอย่างรวดเร็ว และมันพุ่งไปปักที่ขาของไอบอดี้การ์ดผิวขาวที่ตีเข่าใส่มะกรูดและปักที่ชายกางเกงของไอ้ดีลเลอร์ติดหนึบกับพื้น มะกรูดตะลึงกับภาพที่เกิดเพราะสิ่งๆนั้นมันคือดาวกระจายสีดำมันเหมือนที่เขาซื้อให้ริวเลยและทันใดนั้นก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้นมาทันที
ไอ้มะกรูดหลบ !!!•••••••••••
ก่อนหน้านั้น
นักศึกษารูปหล่อทั้งสองคนกำลังเดิน คุยกันไปเรื่อยระหว่างทาง ริวกับเวย์นั่นเองเพราะรีบร้อนออกมาจากบ้าน วันนี้ริวเลยไม่ได้ใส่ชุดที่เรียบร้อยนัก เสื้อเชิร์ตสีขาว กางเกงยีนสีดำ รองเท้าผ้าใบยี่ห้อดัง
อีกทั้งกระเป๋าสะพายข้างใบกระทัดรัดที่ดูแปลกตาอีก
ส่วนเวย์นั้นวันนี้มาในชุดที่ถููกระเบียบจนผิดปกติ เสื้อเชิร์ตสีขาว กางเกงสแลค รองเท้าคัทชู แถมยังใส่ เนคไทอีกแน่นอนว่าทั้งสองนั้นมาแบบแตกต่างกันสุดขัว นายริวที่ดูเงียบๆไม่ค่อยสนใจใครแต่วันนี้แต่งตัวมาได้ กร้าวใจสาวๆมาก ส่วนเวย์ที่ได้ชื่อว่าแบตบอยตัวพ่อกลับแต่งตัวมาได้เรียบร้อยผิดปกติ และตลอดระยะทางที่เดินไปมีสาวๆมองไม่วางตาเลย
[ เวย์ ] : เบื่อเว้ย ทำไมไอ้มะกรูดต้องมาตึกนิเทศฯด้วยว๊าาา ร้อนก็ร้อน นานะนั่นแม่งนิสัยก็ไม่ใช่ว่าจะดีมากมาย
[ ริว ] : ขนาดนั้นเชียว
[ เวย์ ] : เออดิ่ กูได้ข่าวด้วยว่า ยอมทิ้งแฟนเพื่อมาเป็นดาราเลยนะเว้ย แถมยังใช้เต้าไต่ด้วย ยอมขึ้นเตียงกับโปรดิวเซอร์เพื่อจะให้ดันเป็นดาราแถวหน้าด้วย
[ ริว ] : นี่ขนาดมึงไม่ค่อยใส่ใจนะเนี่ย ข้อมูลแน่นชิบหาย
[ เวย์ ] : ก็ว่างๆ กูก็กดเข้าไปเรื่อยๆ ข้อมูลแม่งก็มาเอง วุ้ววว
[ ริว ] : แค่เอาของมาให้มันเอง จริงๆกูก็ไม่อยากมาหรอก แต่มึงกับกูตอนปี 1 ก็ได้ไอ้มะกรูดช่วยไว้หลายวิชา ช่วยมันแค่นิดๆหน่อยๆเอง
[ เวย์ ] : เออ ไอ้มังกร ออกค่ายอาสารอบนี้ รสาไปด้วยนะเว้ย
[ ริว ] : รสาไหนวะ กูจำไม่ค่อยได้อ่ะ
[ เวย์ ] : มึงเป็นมังกรหรือปลาทองกันแน่วะ ขาวๆสวยๆหมวยๆ ตู้มๆไง
[ ริว ] : เอ้าไอ้ห่าจำไม่ได้จริงๆ ปี2 คณะฯเรา ก็มีมึงกับกูแค่ 2 คนที่อยู่อาสาพัฒนาไม่ใช่เหรอ
[ เวย์ ] : ไม่ได้อยู่คณะเรา อยู่นิเทศฯการแสดง ที่เป็นดาราไง ตอนนี้กำลังรุ่งเลย
[ ริว ] : น่ะ กูไม่ผิดมึงผิดเองไอ้ควาย ไอ้เควี้ย ไอ้เหี้ย ไอ้สัด
[ เวย์ ] : เดี๋ยวๆ ด่าอ่ะกูไม่ว่า แต่เว้นช่วงให้กูสำนึกบ้าง ฟวย
[ ริว ] : แล้วรสาอะไรนั่นจะไปทำไมวะ เหยาะแหยะชิบหาย ไปถ่ายหนังเถอะไป๊
[ เวย์ ] : กูก็ไม่รู้ แต่พี่ประธานแจ้งมา โจทย์เก่ามึงนี่ถ้าจำไม่ผิด
[ ริว ] : - - เรียกว่า มาหาเรื่องกูเองจะดีกว่ามั้ง โมเมว่ากูเป็น สตอกเกอร์มั่ง โรคจิตมองกางเกงในมั่ง เป็นใครกูยังไม่รู้จักเลย กูจะไปแอบตามทำไม
[ เวย์ ] : 555555+
ทันใดอีกไม่ถึง 100 เมตรนั้นก็เกิดเสียงโวยวายขึ้นมาทันที
เฮ้ย ไอ้มะกรูดโดนกระทืบ ใครก็ได้ช่วยมันด้วย [ เวย์ ] : เห้ยไอ้มังก~
ฟู่ว ไม่ทันแล้วริววิ่งไปทันทีที่ได้ยินแล้ว ตัวไอ้มะกรูดนั้นไม่ใช่คนที่จะหาเรื่องใครก่อนแน่ๆ ริววิ่งไปทันทีที่มีคนตะโกนขึ้นมา เวย์จึงวิ่งตามไปติดๆเพราะเขาก็รู้ว่า ไอ้กรูดนั้นไม่ใช่คนนิสัยเสียที่จะหาเรื่องใครก่อนเช่นกัน
[ เวย์ ] : โถ่ เว้ย อุสส่าห์อยากอยู่เงียบๆแล้วนะ
เวย์กล่าวขึ้นอย่างปริศนาในขณะที่วิ่งตามริวอย่างสุดฝีเท้า ส่วนริวนั้นก็วิ่งมาด้วยความรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อจนเวย์ตามแทบไม่ทัน และท่ามกลางฝูงคนที่กำลังแตกฮือ เขาเห็นมะกรูดโดนผู้ชายแต่งตัวดูดี ( ไอ้ดีลเลอร์ ) ต่อยเข้าอย่างจัง อีกทั้งยังถูกชายชุดดำกำลังกระชากคอและเหวี่ยงลงพื้น
[ ริว ] : เหี้ยเอ๊ย !!! ทำไงดีวะ ไปไม่ทันแน่ คนเยอะแบบนี้ ใช้เทพอัสนีเหินไม่ได้ด้วย
ริวถึงกับจนปัญญากับสถานการณ์ตอนนี้ ถ้าคนไม่เยอะเขาคงใช้พลังของเทพอัสนีเข้าไปช่วยแล้ว ภาพตรงหน้าก็ยิ่งทำให้เขาเจ็บปวดเพราะไอ้มะกรูดเพื่อนชาวไทยเพียงคนเดียวที่พูดคุยกับเขาด้วยภาษาญี่ปุ่น ตอนนี้ใบหน้านั้นเต็มไปด้วยเลือด และเหมือนไอ้ชายชุดดำก็กำลังจะลงมือทำร้ายเขาอีก
[ ริว ] : ทำไงดีโว้ย
ในขณะที่ริวกำลังมืด 8 ด้านนั้น
กริ๊ก กริ๊ก เขาได้ยินเสียงเหมือนโลหะกำลังกระทบกันในกระเปาสะพายข้างของเขา นั่นมันเหมือนเสียงสวรรค์เลยเพราะมันทำให้ริวนึกขึ้นได้ ว่ามีของบางอย่างที่อาจจะใช้เพื่อซื้อเวลาได้ไม่มากก็น้อย
ครูดด ริวรูดซิบกระเป๋าสะพายของเขาและหยิบมันออกมาทันที
[ ริว ] : เสา เสา เสา
ริวพูดขึ้นระหว่างที่กำลังวิ่งไปเพื่อจะมองหาเสา และสังเกตุเห็นใครบางคนที่รู้จัก นั่นคือปาล์ม สาวน้อยนักคาราเต้ ซึ่งการจะเจอปาล์มที่นี่ก็ไม่แปลกนัก เพราะปาล์มเป็นเด็กคณะนิเทศฯและเด็กปี 1 จะเรียนที่ตึกนี้แทบทุกวิชา อีกทั้งมะกรูดก็บอกไว้แล้วด้วยว่านัดกับปาล์มไว้
[ ริว ] : ปาล์มหลบ !!!
ปาล์มหันไปตามเสียงก็พบว่าเป็นไอ้โรคจิตคนเดิมคน ที่พาผู้ไปหญิงไปร่วมรักในห้องชมอาสาพัฒนาอีกทั้งยังจูบเธออีก
[ ริว ] : ปาล์มหลบไปเร็ว !!! หลบออกจากเสา
ริวตะโกนย้ำอีกครั้งเพื่อให้ปาล์มออกจากตรงนั้น แต่มีเหรอที่ปาล์มจะทำตาม สำหรับปาล์มแล้วภาพลักษณ์ของริวนั้นติดลบตั้งแต่พบกันครั้งแรกที่พบกันเสียแล้ว ไหนจะเรื่องเขาพาผู้หญิงไปหาเศษหาเลยในห้องชมรมอาสาพัฒนา ไหนจะเรื่องที่เขาจูบเธออีก มีเหรอที่ปาล์มจะยอมหลบง่ายๆตามคำสั่งของริว ด้วยทิฐิในใจพร้อมกับความเกลียดส่วนตัวมันทำให้ปาล์มลืมเรื่องมะกรูดทันทีและหันมายืนจังก้าขวางริวเต็มๆแถมยังพูดสวนไปอีก
[ ปาล์ม ] : ชั้นไม่หลบ นายเป็นใครมาสั่งชั้น
ริวหัวเสียทันทีกับสิ่งที่ปาล์มทำเพราะมันอาจจะทำให้ริวเข้าไปช่วยมะกรูดไม่ทันก็ได้ แต่ดูเหมือนว่าดวงของมะกรูดจะยังไม่ถึงฆาตเพราะข้างๆนั้นมีไอ้ก๋อยอยู่ด้วย
เขาจำเสียงได้ว่าเสียงที่ตะโกนเป็นเสียงของริว เขาจึงหันมาตามเสียงและก็พบว่าเป็นริวจริงๆ เขาจำได้ติดตาในวันรับน้องว่าริวนั้นเก่งขนาดไหนและริวคือความหวังเดียวที่จะช่วยมะกรูด
[ ก๋อย ] : ไอ้ริวช่วยไอ้มะกรูดด้วย
ริวได้ยินเสียงเรียกชื่อตน เขาจึงมองไปตามเสียงก็พบว่าเป็นไอ้ก๋อย เขาเห็นไอ้ก๋อยยืนอยู่ใกล้ๆปาล์มจึงรีบสั่งการทันที
[ ริว ] : ไอ้ก้อยดึงน้องคนข้างขวามึง ออกจากเสา เร็ว !!! ตำแหน่งอะไรบอกด้วย
ก๋อยฟังก็ทำตามทันทีโดยที่ไม่รีรอ เขาออกแรงดึงปาล์มทันที แต่ปาล์มนั้นก็ยังจะดื้อฝืนอีก
[ ก๋อย ] : อยากให้ไอ้มะกรูดตายหรือไง
ก๋อยตะโกนลั่นใส่ปาล์มจนปาล์มตกใจชะงักไป เขาจึงใช้จังหวะนั้นดึงปาล์มออกทันที ไอ้ก๋อยไม่รู้หรอกว่าริวจะทำอะไร แต่ว่าก๋อยนั้นก็เชื่อใจริวเพื่อนของมันอย่างไม่มีเหตุผล เชื่อว่าริวต้องสร้างปาฏิหารย์ได้แน่ๆ
[ ก๋อย ] : ไอ้ริว หน้า 2 หลัง 1 ไอ้มะกรูด 6 - 10 - 2 - 11
[ ริว ] : เยี่ยม ไว้กูจะให้ไอ้มะกรูดเลี้ยงข้าว
ก๋อยพูดอะไรบางอย่างออกมา ซึ่งเหมือนริวก็จะเข้าใจ ริวจึงนำคุไนที่ถืออยู่มาคาบไว้และใช้ทั้งมือซ้ายขวาจับดาวกระจายไว้
กริ๊กก !!!แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ปาล์มนั้นพยายามดิ้นแต่ไอ้ก๋อยก็ดึงแขนไว้อย่างสุดแรง ตึ้ก ตึ้ก ตึ้ก ริววิ่งผ่านหน้าปาล์มและไอ้ก๋อยอย่างรวดเร็ว
พรึ่บบบ ริวกระโดดลอยตัวถีบเสาแนวเฉียงและถีบส่งตัวเองลอยไปบนอากาศอย่างไม่น่าเชื่อ
ทันทีที่ลอยตัวไปบนอากาศริวก็มองไปยังทิศทางที่ไอ้ก๋อยบอก และเพียงไม่ถึงเสี้ยววินาที ริวก็ขว้างดาวกระจาย 2 อัน และ คุไน 1 เล่ม แหวกอากาศไปทันที
ฉึก !!! ครึ่กก !!! ดาวกระจายพุ่งไปปักที่ขาของไอ้บอดี้การ์ด 1 ดอกอย่างแม่นยำ และอีก 1 ดอกริวขว้างอัดด้วยมือขวาเต็มแรง ดาวกระจายพุ่งแหวกอากาศเลยไปที่ไอ้ดีลเลอร์อย่าง รวดเร็ว
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เหวอออ !!! เสียงไอ้ดีลเลอร์ดังขึ้นและมันก็ล้มลงทันที
โอ้ยยย !!! มันถึงกับร้องลั่นด้วยความตกใจเพราะเมื่อกี้มันตั้งใจจะวิ่งหนีแต่เหมือนมีบางอย่างมากระชากขาของมันไว้ทำให้มันล้มลง พอมันมองไปที่ข้อเท้าก็ถึงกับตกใจเพราะว่ามีดาวกระจายปักอยู่ที่ขากางเกงราคาแพงของมันและตรึงไว้กับพื้นปูนอย่างแน่นหนา จนดึงไม่ขยับเลย
[ ริว ] : ไอ้มะกรูดหลบ !!!!!
ตุ้บบ ริวกระโดดลงพื้นและย่อตัวเพื่อกระจายน้ำหนักพร้อมบอกให้มะกรูดหลบทันที ทุกคนอ้าปากเหวอไปหมด มันทำได้ยังไง นี่คงเป็นคำถามที่เกิดขึ้นมาในหัว ยิ่งปาล์มยิ่งแล้วใหญ่เธอนั้นคิดแค่ว่าริวจะวิ่งฝ่าเข้าไปเฉยๆ เธอไม่คิดว่าริวจะกระโดดถีบเสาแบบนี้ ที่สำคัญริวยังขว้างดาวกระจายได้แม่นยำราวกับเป็นนินจาเสียอีก
- - - - - -
ปัจจุบัน
[ ริว ] : ไอ้มะกรูดหลบ !!!
ริวตะโกนบอกเพื่อนของตนเพื่อต้องการให้มันหลบ แต่สภาพของมะกรูดตอนนี้แม้แต่แรงจะพูดยังไม่มี เพราะมันทั้งเจ็บทั้งจุกไปหมด เขาทำได้แค่ส่ายหน้า เพื่อจะบอกริวว่า ขยับไม่ไหว และดูเหมือนว่าริวจะรับรู้ได้ทันที
[ ริว ] : แม่งเอ๊ย !!!
และแล้วมังกรก็พิโรธ ริวคำรามด้วยอารมณ์ที่โมโหสุดๆ เพราะมันทั้ง 2 อัดจนมะกรูดนั้นขยับไม่ไหว เสียงที่คำรามออกมาด้วยความพิโรธของริวนั้นดังขนาดที่คนอยู่ใกล้ๆยังต้องเอามืดปิดหู เวย์ได้ยินเสียงริวตะโกนดังลั่นจึงเร่งฝีเท้ามาจนตามทัน และเมื่อเวย์เห็นไอ้กรูดนอนสะบักสะบอมก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้าเหมือนกัน เขาจึงวิ่งเข้าใส่กลุ่มบอดี้การ์ดอย่างรวดเร็วเช่นกัน
[ เวย์ ] : เหี้ยก๋อยหลบ !!!
ไอ้ก๋อยเห็นเวย์วิ่งตามมาก็หลบเพื่อเปิดทางให้ทันที ด้านริวนั้นหลังจากคำรามด้วยความโกรธ เขาก็วิ่งใส่พวกมันทันที ไอ้ฝรั่งก็ถึงกับผงะเหมือนกันเพราะท่าทีของริวที่แสดงออกมานั้นราวกับจะเอาชีวิตพวกมันทั้ง2 และนี่คือภัยคุกคามระดับ A ส่วนไอ้ดีลเลอร์ก็คิดว่าตัวเองจะโดนทำร้ายจากคู่แข่ง มันจึงพยายามหนีแต่เพราะโดนดาวกระจายปักขากางเกงจึงหนีไปไหนไม่ได้
มันจึงได้แต่สั่งให้บอดี้การ์ดที่จ้างมานั้นให้ปกป้องมันอย่างเต็มที่ มีอะไรมันเคลียร์เอง ริววิ่งใส่ไอบอดี้การ์ดผิวขาวที่โดนขว้างดาวกระจายปักขาอย่างรวดเร็วและถอดกระเป๋าสะพายข้างขว้างเข้าที่หน้าของมันทันที ไอ้บอดี้การ์ดนั้นก็ตกใจนึกว่าริวจะขว้างอะไรมาใส่อีกบวกกับอาการเจ็บจากดาวกระจายปักขาจึงทำให้มันชะงักไปหลายวินาที
และนั่นคือสิ่งที่ริวคาดการณ์ไว้เพราะเขาจงใจขว้างใส่เพื่อบดบังทัศนวิสัยในการมองเห็นของมันเพื่อซื้อเวลาสัก 3-4 วินาที และเมื่อริวเห็นว่ากระเป๋าได้เข้าเป้าแล้ว เขาจึงเปลี่ยนเป้าหมายทันที วุ่บบ ชุนโป ริวใช้วิชาที่เรียกว่าชุนโปเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนเป้าหมายไปกระโดดหมุนตัวเตะใส่บอดี้การ์ดผิวสีอีกคนที่อยู่ข้างๆอย่างรวดเร็ว
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ซึ่งมันก็เอี้ยวตัวหลบได้อย่างสบายๆ แต่มันคิดผิด เพราะริวนั้นตั้งใจเตะหลอกในจังหวะแรกที่เตะกวาดขึ้นข้างบน ริวเล็งจังหวะที่มันเอี้ยวตัวหลบตอนนี้ต่างหาก ฟุ่บ วูบ
เปรี้ยงง !!! ริวหมุนตัวถีบซ้ำเต็มๆด้วยความแรงจนมันกระเด็นไปหลายก้าว
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
จากนั้นเขาก็หันมาเล่นงานไอ้บอดี้การ์ดที่ทำร้ายมะกรูดต่อทันที
ฉึก !!! อ๊ากกก มันถึงกับร้องเสียงดังลั่น ริวใช้เวลาเสี้ยววินาทีที่มันถูกกระเป๋าบังหน้า จัดการเพื่อนของมันและพุ่งเข้าประชิดตัวมันอีกครั้งทันที เขาดึงดาวกระจายออกจากขาอย่างเลือดเย็นและต่อยซ้ำไปที่แผลทันที ถึงแผลจะเล็กแต่เมื่อโดนต่อยเข้าจังๆมันก็สร้างความเจ็บได้ไม่ใช่น้อยเลย
อ๊ากก !!! มันตะโกนลั่นด้วยความเจ็บปวด ริวจับหัวของมันในขณะที่ตัวมันทรุดลงด้วยความเจ็บโน้มลงมาแทงเข่าใส่หน้าเต็มแรงจนมันถึงกับหงายท้อง
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เสร็จไป 1 เหลือ อีก 1 ริวหันควับไปทางบอดี้การ์ดผิวดำอีกคนที่ริวพุ่งเตะจนกระเด็นไป และตอนนี้มันกำลังวิ่งใส่ริวอย่างรวดเร็วเพื่อจะเอาคืน มันกระโดดจ้วงต่อยเข้าใส่ริวทันทีเพราะคิดว่าด้วยน้ำหนักตัวของมันและแรงหมัดจะสามารถทำให้ริวน็อคได้ในหมัดเดียว แต่มันคิดผิดเพราะตอนนี้ประสาทสัมผัสทุกส่วนของริวถูกปลุกให้พร้อมตอบสนองทุกการเคลื่อนไหวเพราะความโกรธเสียแล้ว
ฟุ่บ ฟุ่บ ไอ้ฝรั่งกระโดดพุ่งมาพร้อมยิงหมัดขวาๆตรงใส่ริว แต่ริวนั้นถอยครึ่งก้าวหลบและต่อยอัปเปอร์คัทใส่ทันที แต่ไอ้ฝรั่งก็หันเอามือกันไว้ได้เกือบทัน แค่เกือบทัน มันไวก็จริงแต่ริวไวกว่า หมัดอัปเปอร์คัทนั้นแหวกการ์ดเข้าไปโดนลิ้นปี่อย่างจังจนมันถึงกับจุกตัวงอ
ยัง มันยังไม่จบ ริวยังมีแถมให้อีก ริวหมุนตัวเตะฟาดกลับหลังด้วยขาซ้ายจนหน้าสะบัด ริวหมุนตัวจนครบแล้วจึงใช้ขาซ้ายที่เตะไปนั้นมาเป็นฐานและใช้ขาขวาในการเตะ ผั๊วะ ผั๊วะ ผั๊วะ ริวเตะ 3 จังหวะล่างขึ้นบนอย่างรวดเร็วและรุนแรง
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ต้นขา เอว ก้านคอ มันโดนเตะเข้า 3 จุดอย่างรุนแรงจนถึงกับแทบทรุด ริวหมุนตัวตามแรงเตะและย่อขาลงไปกึ่งนึงและยืดตัวส่งพลังหมัดต่อยอัปเปอร์คัททันที ในเวลาเดียวกันที่ริวเริ่มเตะนั้น ไอ้ฝรั่งผิวขาวก็ถึงกับเลือดขึ้นหน้า มันล้วงปืนออกจากซองที่แนบกับสีข้างออกมาจะยิงริวทันที แต่ริวก็แอบยิ้มในใจเพราะริวนั้นเชื่อใจว่าเวย์ต้องมาแน่ ตึ้กๆๆ เวย์วิ่งตามมาอย่างกระชั้นชิดจึงได้เห็นว่ามันชักปืนใส่ริว เขาวิ่งไปสไลด์กับพื้นปูนขัดเงาและใช้ท่อนแขนตัวเองดึงข้อศอกของมันลงกระแทกพื้นดังปักจนมันชะงักไป
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
พรืดด ตึ่ก ตึ่ก เวย์ใช้แรงจากการสไลด์ตัวยืนขึ้นและประเคนลำแข้งใส่ทันที ผั๊วะ เวย์เตะเข้าเต็มๆหน้าของไอ้บอดี้การ์ดจนสะบัดไป และ ใช้เสี้ยวเวลานั้นกระชากคอเสื้อของมะกรูดและเหวี่ยงเขาออกจากพื้นที่ต่อสู้ทันที ทำให้ตัวมะกรูดนั้นไถลออกมาจนได้ ปาล์มและก๋อยจึงไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยมะกรูดทันที
ไอ้บอดี้การ์ดฝรั่งนั้นเจ็บทั้งข้อศอกแถมยังโดนเตะหน้าเต็มๆอีก มันจับปืนอีกครั้งและเปลี่ยนเป้าหมายมาที่เวย์
มั่บ !!! เวย์ใช้มือซ้ายจับไปที่ตัวปืนและกำไว้สุดแรงทำให้ไม่สามารถยิงได้ และเวย์ก็ใช้มือขวากดไปที่เส้นเอ็นตรงข้อมือของมันทันที แกร๊กก เวย์หมุนมือแค่นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้นก็ปลดปืนได้สำเร็จ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แต่ก็ต้องชมว่าไอ้บอดี้การ์ดคนนี้ผ่านการฝึกฝนมาดีจริงๆ มันโดนเวย์แย่งปืนไม่ถึง 2 วินาที มันก็เตรียมตัวแย่งปืนคืน แต่มันประเมินเวย์ต่ำไป... เวย์ที่ว่องไวกว่าได้ชักปืนขึ้นลำกล้องทันที มันอยู่ใกล้ๆแค่นั้นมีเหรอจะไม่ได้ยิน มันถึงกับชะงักไป 1 วินาที ก่อนที่จะตัดสินใจเอื้อมมือไปที่รองเท้าเพราะหวังว่าจะกระชากให้เวย์ล้มและแย่งปืนกลับ แต่....
ผั๊วะ !!! เวย์ใช้ด้ามปืนฟาดไปที่หน้ามันอย่างแรงจนหน้าสะบัดกองลงพื้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ริวกระโดดต่อยอัปเปอร์คัทใส่ไอ้บอดี้การ์ดผิวดำจนลอยตามแรงและตามไปเหยียยหน้าอกของไอ้บอดี้การ์ดทันที ทั้ง 2 เอ่ยขึ้นพร้อมกันทันที
[ ริว ] : มึงทำอะไรเพื่อนกู
[ เวย์ ] : มึงทำอะไรเพื่อนกู
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน