วงเวียนชีวิต ตอนที่ 14
ตามั่นตื่นตั้งแต่ ตี 5 อันเป็นเวลาปกติของแก แล้วจัดการทำข้าวต้มไว้รอสองแม่ลูกซึ่งรับศึกหนักไปเมื่อคืน 6.00 น กัญธิชาตื่นขึ้นมาด้วยอาการสดชื่น ประดุจต้นไม่มี่ได้รับการรดน้ำเข้าไปเต็มที่ ด้านน้องพิมพ์ สายตาของเด็กน้อย บ่งบอกอาการเปี่ยมสุข ถึงแม้จะปวดเมื่อยร่างกาย เหมือนคนไม่เคยออกกำลังกาย แล้วมาโหมออกกำลังอย่างหนัก
“เสียดาย ผมต้องรีบกลับ...” ตามั่นกล่าวกับสองแม่ลูกอย่างอาลัย
“จะอยู่ต่อก็ไม่เห็นเป็นไรนี่นา....” น้องพิมพ์ว่า
“แต่ลุงต้องกลับไปทำงาน....” ลุงมั่นตอบนุ่มนวล
“กลัวพี่อิงละไม่ว่า....” น้องพิมพ์ กล่าวเชิงประชด
“ไม่ได้กลัว....แฮะๆ...แต่เกรงใจ.....” ตามั่นว่าพลางยิ้มเจื่อน เพราะแกรู้ดีว่าคุณอิง บทจะร้ายนางก็ร้ายสุดๆ
“ถ้ามากรุงเทพอีกก็มาเยี่ยมพวกเราบ้างนะคะ...” กัญธิชากล่าวจริงจัง
“ครับ ผมสัญญา ถ้าคุณกัญ ยังไม่มีใคร....” ลุงมั่นว่า
“อันนี้ กัญ ไม่รับรองนะคะ.....” กัญธิชากล่าวแล้วหัวเราะ
“เป็นงั้นไป ...” ตามั่นกล่าว แล้วหัวเราะบ้าง
“โอ้ย ! ใครจะไปทนรอส่วนแบ่ง... คนมีเมียอยู่แล้ว ตั้งหลายคน ทั้งคุณอิง ทั้งสามสาวพี่น้อง...“ กัญธิชาว่า
“เอ่อ....น้องวัลย์ ยังครับ....” ตามั่นกล่าว แล้วหัวเราะ เหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“ความจริงยังมีพี่ อิมด้วยอีกคนนะคะ.....” น้องพิมพ์กล่าวหน้าตาเฉย
“ฮ้า...!!!!!....” กัญธิชาถึงกับอุทาน
“จริง ๆ แม่ เมื่อวาน พี่น้อยเล่าให้พิมพ์ฟังหมดแล้ว.........”
น้องพิมพ์ กล่าว แต่ข้าม เรื่องที่ ชลธิชายุให้น้องพิมพ์เข้าหาตามั่น กับเรื่องที่ ชลธิชาสั่งให้เธอถ่ายคลิป แล้วส่งให้เธอดู
............../ ที่แท้ น้อยอยู่เบื้องหลังนี่เอง .../ ตามั่นคิดในใจ
“ว่าง ๆ ก็ไปเที่ยวบ้านลุงบ้างนะ.....” ตามั่นกล่าวกับน้องพิมพ์ เพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย
“ชิ.....คำก็ลุง สองคำก็ลุง.....ใครก็ไม่รุ๊......เมื่อคืนนะ.....เรียกเค้า เมียจ๋า ๆ......” ปากจิ้มลิ้มของเด็กน้อยจีบปากจีบคอพูดแล้วเชิดหน้า ตามั่นกับกัญธิชาถึงกับอึ้งในความก๋ากั่นของน้องพิมพ์
เสียงแตรรถดังขึ้นที่หน้าบ้าน ทุกคนจำได้ว่าเป็นคุณอิง ตามั่นลุกขึ้นไปกอดกัญธิชา หญิงสาวกอดตอบ
“กัญ....จะจำเรื่องของเราค่ะ......” หญิงสาวกล่าว
“เช่นกันครับ....” ตามั่นว่าจูบที่หน้าผากกัญธิชา แล้วหันไปทางน้องพิมพ์ ซึ่งนั่งอยู่แล้วอุ้มขึ้นมากอด
.........” ...รักน้องพิมพ์ที่สุด.....” ตามั่นกระซิบที่หูของน้องพิมพ์ แล้วกัดที่ติ่งหูเบา ๆ เด็กน้อยถึงกับขนลุก
.........” เมีย...ก็รักผัวค่ะ.....” .......น้องพิมพ์กระซิบตอบ ก่อนที่ตามั่นจะวางร่างน้อยของเธอลง
“แล้วหนูจะชวนแม่ไปเยี่ยมนะคะ....” น้องพิมพ์กล่าวให้แม่เธอได้ยิน
“ดีเลย..... แล้วจะรอนะครับ....” ตามั่นว่าพลางหันไปยิ้มให้กับกัญธิชา
....................................
“คุณอิง ทานข้าวด้วยกันนะคะ.....” กัญธิชากล่าวพลางเปิดประตูบ้านให้คุณอิง
“ไม่เป็นไรค่ะ...น้ากัญ อิงเรียบร้อยมาแล้ว.......” คุณอิงตอบยิ้ม ๆ พลางหันไปทางตามั่น “ไงค่ะพ่อตัวดี .... เก็บกระเป๋าหรือยัง.....” กับคำว่าพ่อตัวดี ตามั่นถึงกับสะดุ้ง
“เอ่อ....เรียบร้อยครับ....” ตามั่นตอบยิ้มเจื่อน ๆ ด้านคุณอิงเดินไปทางน้องพิมพ์
“มาคุยกับพี่หน่อย.....” คุณอิงว่าแล้วจูงมือน้องพิมพ์ น้องสาวต่างมารดาไปอีกทาง น้องพิมพ์เดินตามอย่างว่าง่ายสองสาวพูดคุยอะไรกันเบา ๆ แล้วน้องพิมพ์ก็ยื่นมือถือของตนให้ คุณอิง
คุณอิงกดมือถือของน้องพิมพ์ไม่ถึงครึ่งนาที ก็สงคืนให้ น้องพิมพ์ยกมือไหว้ แล้วเดินกอดไหล่น้องพิมพ์กลับมา
“อิงแค่ลบคลิปออกจากมือถือของน้องพิมพ์ค่ะ มันอันตรายเผื่อน้องพิมพ์เผลอให้คนอื่นเห็น.....” คุณอิงกล่าว เมื่อเห็นกัญธิชาทำท่าจะถามว่ามีอะไร
“น้องพิมพ์ส่งคลิปให้น้อย แล้วน้อยเอามาให้อิงดู...” คุณอิงกล่าวเรียบ ๆ กับตามั่น สายตาไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกโกรธเคืองตามั่นอย่างไร ประการนี้จึงทำให้ตามั่นและกัญธิชา สบายใจขึ้นมาไม่น้อย
“แล้วพี่จะแชร์ที่ตั้งของรีสอร์ทให้นะคะ เผื่อน้องพิมพ์กับน้ากัญจะไปเยี่ยม“ คุณอิงกล่าวกับน้องพิมพ์และกัญธิชา
“ค่ะพี่อิง ขอบคุณค่ะ..” น้องพิมพ์กล่าว
“อิงกลับนะคะน้ากัญ ขอบคุณมาก ๆ คะ สำหรับการต้อนรับอย่างดี “ คุณอิงยกมือไหว้กัญธิชา พลางกล่าวขอบคุณ กัญธิชายิ้มให้อย่างฝืน ๆ
“จ้า..... แล้วน้าจะไปเยี่ยมนะคะ....” กัญธิชาว่า
………………………………………………………………………….
“แล้วผมจะมาเยี่ยมนะครับ..... ตั้งใจเรียนนะ น้องพิมพ์...” ตามั่นกล่าวลาสองแม่ลูกแล้วหิ้วกระเป๋าเดินตามคุณอิงมาที่รถ โดยมีกัญธิชาและน้องพิมพ์ เดินตามมาส่ง
................/ เสียท่ามันจนได้”..../ “ คุณอิงบ่นพึมพำ แล้วหัวเราะให้ตนเอง
...........................
“จะขับหรือคะ.....แน่ใจนะว่ามีแรง....” คุณอิงกล่าว เมื่อตามั่นเดินไปทางฝั่งคนขับ
“ลองดูไหมละ...แล้วคุณอิงจะรู้ว่าแรงผมยังดี...” ตามั่นกล่าว ส่งสายตาหวานเยิ้มให้คุณอิง หญิงสาวทุบที่แขนตามั่นอย่างแรง แล้วเดินไปทางฝั่งผู้โดยสาร ตามั่นโบกมือให้สองแม่ลูก แล้วประจำที่คนขับ จัดการปรับกระจกมองข้างให้เข้ากับระดับสายตาของตน แล้วเงยหน้ามองกระจกมองหลัง
พลันตามั่นก็ถึงกับสะดุ้ง เมื่อสายตาของแกประสานกับสายตาคู่หนึ่งที่ส่องประกายวาวเขียวปัดมาจากเบาะผู้โดยสารด้านหลัง ....
ตามั่นหันไปยิ้มให้กับเจ้าของสายตาคู่นั้น แต่เจ้าของสายตานั้นกลับไม่ยิ้มตอบ
“ออกรถได้แล้ว” คุณอิงออกคำสั่ง ตามั่นจึงเคลื่อนรถออกไป เหลือบไปทางคุณอิง ปรากฏว่าหญิงสาว นั่งอมยิ้ม เล่น line เฉย เหลือบตามองที่กระจกมองหลัง คราวนี้พบว่าเจ้าของสายตาคู่นั้นเอามีดพับขนาด 4 นิ้ว ออกมาพับเล่น
“เมื่อคืน ลุงมั่นนอนกับสองแม่ลูกนั่น ใช่ไหมคะ...” เสียงหวานใส แต่ราบเรียบ ประโยคแรกทักทายเข้ามา
“เออ...... เปล่าครับ....คือ...ไม่ได้นอนเลย....แฮะ.ๆ..” ตามั่นตอบทำท่าจะหัวเราะ แต่หัวเราะไม่ออก
“.....ไม่...ตลกนะคะ..... ไม่ตลกเลย...” เสียงนั้นตอบมา
“น้องอิมคะ..... พี่ว่าเก็บมีดดีกว่าค่ะ.....” คุณอิง กล่าวโดยไม่ ละสายตาจากจอมือถือ ตามั่นยังทำหน้าที่ขับรถ สายตายังมองที่ถนน เหลือบตาขึ้นมองน้องอิมเป็นครั้งคราว
“เก็บมีด.... เก็บที่ไหนดีคะพี่อิง....”
“อืมมม.....เห็บไว้ที่พุงของตาคนขับนี่ก็ได้....” คุณอิงว่า
“เฮ้ย...!!!!...ไม่นา......” ตามั่นพึมพำ
“งั้น บอกมา.... ว่าทำไม ลุงมั่นมากรุงเทพฯ ถึงไม่บอกอิม...????..”
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน