พูดคุยก่อนอ่าน : หายไปสักพักใหญ่ ตอนนี้ผมต้องยึดงานหลักไว้ให้แน่น ก็อย่างที่ทราบกันนั่นแหละครับ วิกฤติโควิททำให้หลาย ๆ คนลำบากกันถ้วนหน้า
ก็พอมีเวลา มาเขียนอะไรให้ได้อ่านแก้เซ็งกัน (หรืออาจจะเซ็งมากกว่าเดิม?) เป็นตอนพิเศษ บทสัมภาษณ์ของหมอพลอยเค้านะครับ ซึ่งได้ไอเดียจากบทสัมภาษณ์ของเหล่าบรรดานางเอกจากภาคสอง
โดยบทสัมภาษณ์นี้ จะเป็นการอ้างอิงถึงลักษณะนิสัยที่เป็นเปลือกนอกของหมอพลอย เป็นฉบับเจ้าหญิงน้ำแข็งที่ยังไม่ถูกไฟราคะลุงพลหลอมละลายนะครับ 555
ปล.ลิงค์ตอนสัมภาษณ์ครูเบสท์ตอนเก่าอยู่ด้านล่างครับ//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=204099.0....................................................
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
สวัสดีค่ะ ดิชั้นชื่อพลอยพรรณ หรือถ้าจะเรียกแบบเป็นทางการหน่อยก็แพทย์หญิงพลอยพรรณ จารุศิริการกุล เกิดและเติบโตที่จังหวัดชลบุรี พอมาถึงช่วง ม.ปลาย ก็มาเรียนต่อที่กรุงเทพ จนถึงระดับปริญญาตรีในคณะแพทย์ศาสตร์ แล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการแพทย์ที่สหรัฐอเมริกา ก่อนกลับมาทำงานเป็นอายุรแพทย์ ที่ทำหน้าที่วิเคราะห์โรค แล้วก็หาวิธีการรักษาด้วยการใช้ยา โดยปกติหมอจะทำงานให้ห้องพยาบาลสลับกับเข้าเวรตรวจผู้ป่วยนอกบ้าง ก่อนหน้านั้นเมื่อไม่กี่ปีก่อน หมอเคยรับงานเป็นติวเตอร์สอนพิเศษในสถาบันกวดวิชา แต่ก็เลิกทำไปแล้ว เพราะไม่มีเวลา
อายุเหรอ? ขอไม่บอกแล้วกัน เป็นเรื่องส่วนตัวของผู้หญิงนะคะ ไม่มีใครบอกเหรอว่าถามเรื่องอายุกับผู้หญิงมันเป็นเรื่องเสียมารยาท?
ชีวิตตอนเด็กของหมอ ก็มีแต่เรียนและอ่านหนังสือ เพราะคุณพ่อกับคุณแม่ต้องการให้หมอตั้งใจเรียน จะได้มีอาชีพการงานที่ดีทำ ซึ่งหมอเองก็ยอมรับว่าชีวิตช่วงนั้นเครียดเหมือนกัน เพราะด้วยพัฒนาการด้านสติปัญญาของเด็ก ก็ควรจะเติบโตไปตามวัย วิ่งเล่นกับเพื่อน แต่หมอตอน ป.1 ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบสำหรับเด็ก ป.3 แล้ว ซึ่งมันเป็นอะไรที่หนักหน่วงสำหรับเด็กอย่างหมอในตอนนั้นมาก
ซึ่งน้องสาวของหมอ อย่างน้องแพรวก็ต้องเจออะไรแบบนี้เหมือนกัน ตอนนี้น้องแพรวเรียนอยู่ที่อังกฤษ มีคนบ่นคิดถึงเธออยู่พอสมควรเลย (ยิ้ม) ก็แน่ล่ะ แพรวเป็นน้องสาวที่น่ารักของหมอ ก็ไม่แปลกที่จะมีคนพูดถึงบ่อยอยู่พอสมควร แต่หมออยากให้น้องสาวคนนี้ของหมอตั้งใจเรียนไปก่อนจะดีกว่านะ หมอยังไม่อยากให้แพรวมีแฟนในตอนนี้
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ชีวิตของหมอในวัยเด็กก็ไม่ได้มีอะไรมากมายหรอก ส่วนใหญ่ก็มีแต่เรื่องเรียน ถ้าจะเครียด ก็เครียดเรื่องเรียน บางครั้งพอนึกอะไรไม่ออก หมอก็มักไปเดินชมสวนดอกไม้หลังบ้าน ตอนนั้นตาเกริกที่เป็นคนสวนยังมีชีวิต ไม่รู้หมอคิดไปเองหรือเปล่า ว่าตาเกริกชอบมองหมอด้วยสายตาแปลก ๆ แต่ช่างเถอะ แกเสียไปหลายปีแล้ว พูดไปจะบาปปากเอา
ความประทับใจของหมอในตอนเด็กอย่างเดียวก็คือ ถ้าหมอเรียนเก่งได้เกรดเฉลียดี ๆ หมออยากได้อะไร คุณพ่อกับคุณแม่จะซื้อมาให้ ส่วนใหญ่พลอยก็ไม่ค่อยอยากได้อะไรมากมาย ก็แค่อยากไปเที่ยวดิสนีย์แลนด์ที่อเมริกา แล้วก็ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นเนี่ย หมอชอบมากเลยนะ หมอรู้สึกว่าที่นั่นน่าอยู่น่าทำงานดี แล้วก็คนญี่ปุ่นเนี่ยดูจริงจังและเป็นระเบียบด้วย
เอ๋? นี่หมอพูดอะไรซีเรียสไปเหรอ? จะให้พูดอะไรเกี่ยวกับบทบาทในเกมรักฯ พลอยพรรณราย? อดีตชาติเหรอ? อืม…หมอไม่ค่อยอยากออกความเห็นเท่าไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ค่ะ โดยส่วนตัว หมอไม่ค่อยเชื่อในเรื่องชีวิตหลังความตาย หมอเป็นเอทิสต์ เอทิส์ตก็คือกลุ่มคนที่ไม่เชื่อในศาสนาไม่เชื่อในพระเจ้า ฟังดูแปลกไหม หมอคิดว่าคนเราเกิดมาจากการที่เสปิร์มของผู้ชายเข้าไปปฏิสนธิกับเซลล์ไข่ของผู้หญิง ส่วนจะเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย ก็มาดูที่โครโมโซมกันอีกที ขอโทษทีนะคะที่พูดอะไรออกจะขวานผาซากสักหน่อย หมอเชื่อในหลักวิทยาศาสตร์มากกว่านะ ไม่ใช่ว่าหมอลบหลู่ศาสนาอะไรหรอก แต่หมอเป็นนักวิทยาศาสตร์ หมอต้องยึดตรรกะและเหตุผลมาก่อนความเชื่อ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
อืม…คิดว่าเชิญมาผิดคนแล้วมั้งคะ หมอไม่ค่อยสันทันเรื่องการพูดคุยสันธนาการกับใครเท่าไร หมอไม่ใช่คนที่พูดจาสนุกสนานเหมือนคนอื่นซะด้วยซิ ถ้ามีอะไรที่หมอพูดแล้วทำใหทุกคนไม่สบายใจ ก็ต้องขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วย
ส่วนลุงพล? (ทำหน้าเครียด) ถ้าไม่ได้พูดถึงบทบาทในเกมรักฯ หมอก็คงต้องบอกว่า แกดูเป็นผู้ใหญ่ใจดีคนนึง เป็นภารโรงที่ดูมีความรู้ความสามารถเกินตัว ส่วนเรื่องความสัมพันธ์…….(ร่นคิ้ว ส่ายหน้าหนักมาก)
พูดกันตรง ๆ นะคะ หมอเข้าใจว่าเรื่องเซ็กส์มันเป็นเรื่องธรรมชาติ หมอเองก็เคยมีช่วงเวลาที่ฮอร์โมนในร่างกายมันพลุ่งพล่านเหมือนกันตอนวัยรุ่น แต่บางทีหมอเองก็รู้สึกลำบากใจ รู้สึกตะขิดตะข่วนใจเหมือนกัน ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้ มันควรจะเป็นเรื่องส่วนตัว พูดกันในที่ลับหรือเปล่าคะ? เพราะฉะนั้นประเด็นนี้ หมอไม่ขอตอบนะคะ!!!
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ถ้าถามว่าหมอรักใครมากกว่ากันระหว่างพี่กรกับลุงพล? เห้อ…
หมอจะพูดแบบนี้นะคะ ความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม แต่เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้ ถ้าหมอจะรักใครสักคน คน ๆ นั้นต้องเข้าใจในสิ่งที่หมอเป็น และเข้าใจในหน้าที่การงานของหมอ หมอไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไปเท่าไร และที่สำคัญก็คือ หมอไม่จำกัดความรักไว้ที่เพศสภาพใดเพศสภาพหนึ่ง หมอคิดว่าหมอเปิดโอกาสให้ทุกเพศได้เข้ามาในชีวิตของหมอ
ความรักมันไม่ได้จำกัดแค่ผู้ชายกับผู้หญิงหรอกนะคะ สมัยนี้เรื่องเพศสภาพมันเปิดกว้างไปมากแล้ว หมอคิดแบบนั้น ดังนั้นหมอจึงเลือกที่จะพูดเกี่ยวกับความรักในแง่มุมกลาง ๆ จะดีกว่า ก็ถ้าคนมันใช่ก็คือใช่ ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ ไม่สำคัญว่าจะเป็นเพศไหน
ส่วนครูเบสท์? ได้ข่าวว่าบทสัมภาษณ์ครูเบสท์พูดหมอเยอะพอสมควร อืมมม โดยส่วนตัว หมอคิดว่าครูเบสท์สวยและมีเสน่ห์มากเลยนะ เป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วรู้สึกมีความสุข อยู่ด้วยแล้วรู้สึกโพซิทีฟ ติ้งกิ้ง หมายถึงคิดบวก มองโลกในแง่บวกน่ะคะ คิดว่าทุกคนน่าจะชอบเธอได้ไม่ยากในอนาคตอันใกล้นี้
สุดท้ายนี้ มีอะไรจะฝากถึงทุกคนที่ติดตามหมอเหรอคะ? หมอไม่คิดว่าทุกคนจะชอบหมอขนาดนั้น หมอให้คำนิยามเกี่ยวกับตัวเองว่าเป็นผู้หญิงที่น่าเบื่อที่สุดในโลก ก็แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมมีคนชอบหมอเยอะขนาดนี้