ตอนที่ 4
//two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=233101.0....................
แม่หมอหญิงชาวสะกายปรากฏตัวขึ้นเป็นผู้นำพิธีอีกครั้งในช่วงเช้าตรู่ ท้องฟ้าโปร่งอากาศหอมเย็นสบายแสงสีทองสวยทาบทาจากหลังแนวเขา หกโมงสามสิบเก้านาทีฤกดิ์งามยามดีเสียงปี่กลองประโคมผสานกับเสียงสวดมนต์สำเนียงภาษาแปร่งหู สายศีลห้อยระโยงจากเพดานพันเป็นวงสำหรับครอบหัวปลิวตามแรงลมที่อยู่ดีๆก็พักกรรโชกแรงทั้งที่ไม่มีเค้าลางก่อนหน้า เศษใบไม้ฝุ่นผงลอยหมุนวนเสียงใบไม้สะบัดลมอื้ออึงรอบศาลาเป็นที่น่าอัศจรรย์เพิ่มดีกรีความเข้มขลังตลอดเวลาที่แม่หมอชาวสะกายกำลังหลับตาร่ายมนต์
พิธีสำคัญอีกพิธีหนึ่งคือ เปิดกรรม วิทยากรชายวัยกลางคนคนเดิมกล่าวเสริมว่าพิธีเปิดกรรมเปรียบเหมือนการเชื่อมต่อสะพานจิตให้เจ้ากรรมนายเวรสามารถสื่อสารกับเราโดยตรงเพื่อเจรจาแลกบุญที่เกิดจากการบำเพ็ญเพียรตั้งจิตอธิษฐานภาวนา ขอให้ความโกรธเคืองขึ้งอาฆาตพยาบาทลดทอนเบาบางลงบ้างไม่มากก็น้อย ผู้เข้าร่วมพิธีหลายคนเริ่มทำสมาธิ ฉันนั่งเหยียดหลังตรงสองมือประสานที่หน้าตัก หลับตา ลดจังหวะลมหายใจเข้าออกช้าเนิบสงบเย็น
การสำนึกในความผิดบาปที่เราเป็นผู้กระทำเป็นความกล้าหาญอย่างสูงสุด และมันคือกุญแจดอกแรกสำหรับใช้ไขเปิดประตูกรรม
………………..
เจ็ดปีที่แล้ว
เกือบสามทุ่มเสียงน้าหนิงร้องเรียกลั่นให้ฉันรับโทรศัพท์ วิ่งลงบันไดจากชั้นสามพลางนึกแปลกใจว่าใครโทรมาแถมยังโทรเข้าเบอร์บ้านอีกต่างหาก “เพื่อนมั้ง..” น้าหนิงเดา
“สวัสดีค่ะ ..”
“....................”
“สวัสดีค่ะ .. ใครพูดคะ”
“ใครกำลังพูดอยู่น่ะ ใช่แตงกวาจริงๆเหรอ” เสียงกระเส่าแหบแห้งสากน้ำลายแผ่วเบาจนแทบไม่ได้ยิน”
“ค่ะแตงกวาพูด .. นั่นใครพูดอ่ะ ใช่มะเดี่ยวรึเปล่า”
“นี่พี่เอง แตงกวาจำพี่ไม่ได้เหรอ”
“ใครอ่ะ .. ถ้าโทรมาล้อเล่นก็จะวางแล้วนะ” ฉันเริ่มอารมณ์เสีย
“อะไร จำไม่ได้ได้ไง แตงกวาแอบดูพี่เอากับเมียอยู่ทุกคืนเลยไม่ใช่เหรอ”
“....................” คราวนี้ฉันเป็นฝ่ายเงียบบ้าง
“เปล่า .. แค่โทรมาบอกว่าคืนนี้โชว์เลื่อนเวลาไปเริ่มตอนหลังละครจบ กลัวแตงกวาจะคิดว่าคืนนี้พี่กับเมียไม่เอากัน”
“ปัญญาอ่อน .. ไอ้โรคจิต!!”
“อย่าเพิ่งวางนะ!! หรือจะให้พี่ไปฟ้องเฮียยงชัยว่าแตงกวาใจแตกแอบดูพี่เย็ดกับเมียแทบทุกคืน .. ฮึ”
“ตั้งแต่รู้ว่ามีคนน่ารักๆอย่างแตงกวาคอยแอบดูนี่พี่เย็ดมันมากได้อารมณ์สุดๆ อย่าลื…”
ฉันตัดบทวางหูโทรศัพท์ดังโครมรีบวิ่งขึ้นห้องกระโดดขึ้นเตียง หน้าร้อนผ่าวหัวใจเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาข้างนอกสมองหมุนติ้วสับสนอลหม่านไปหมด เกือบสองเดือนที่แล้วสองสามีภรรยาเพิ่งย้ายเข้ามาค้าขายที่ตึกข้างๆคั่นด้วยถนนซอยเข้าตลาดสดห่างกันไม่ถึงสิบเมตร ข่าวว่าเป็นลูกชายเจ้าของตลาดกับเมีย
ฉันแย้มผ้าม่านแนบหน้ากับขอบหน้าต่างเพ่งมองผ่านความมืดเยื้องต่ำลงประมาณสามสิบองศา หน้าต่างบานเกล็ดเปิดม่านโล่งโจ้งจนเห็นบรรยากาศภายในห้องอย่างชัดเจน ภาพในจอทีวีฉายละครเรื่องเดียวกันกับที่น้าหนิงกำลังติดหนึบอยู่ที่ห้องดูทีวีชั้นสอง คนผู้ชายใส่กางเกงขาสั้นสีดำไม่สวมเสื้อคนผู้หญิงใส่เพียงยกทรงสีดำท่อนล่างพันผ้าเช็ดตัว ทั้งคู่นอนอยู่ข้างกันบนเตียงกำลังเพลิดเพลินกับละครทีวี
เสียงโทรศัพท์บ้านที่ชั้นสองดังขึ้นอีกแล้วก็เงียบไป “แตงกวา!! น้าให้เบอร์มือถือเพื่อนไปแล้วนะคุยกันเองโทรมาอยู่ได้คนจะดูละคร..” เสียงน้าหนิงบ่นอุบที่ต้องละจากหน้าจอมารับโทรศัพท์ เพียงชั่วอึดใจเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น ฉันหยิบดูเห็นเป็นเบอร์แปลกทั้งที่ควรจะตัดสายแต่ไม่รู้ทำไมตอนนั้นฉันถึงกดรับ
“เห้ย..!! ไอ้ห่าเอ๊ยกว่าจะรับได้นะมึง พี่โทรหาเอ็งทั้งวันเลย” เสียงผู้ชายพูดจาโผงผาง
“ใครโทรมาอ่ะ” ฉันถาม
“เออๆ เอางี้ เดี๋ยวพี่ส่งเป็นคลิบให้เอ็งดูเลยดีกว่าจะได้เห็นภาพชัดๆจะๆ .. เออ โอเค ยังไงเดี๋ยวเอ็งดูคลิบที่ผืนนี้ก่อนแล้วเราค่อยคุยกันอีกที” เขายังไม่กดวาง เสียงผู้หญิงลอดมาในเชิงถามว่าส่งคลิปอะไรคลิบโป๊รึเปล่า เสียงผู้ชายตอบว่าคลิบวิดีโอที่ดินที่กำลังติดต่อซื้อขายกับรุ่นน้อง
ฉันแง้มผ้าม่านเห็นหนุ่มใหญ่วัยกลางคนลุกจากเตียงเดินมาที่หน้าต่าง เขาแหงนมองขึ้นมาสบตาจนฉันตกใจหลบแทบไม่ทัน ทันใดนั้นเสียงข้อความเข้าก็ดังขึ้นรัวๆ ไฟล์วิดีโอลามกนับสิบๆไฟล์ถูกส่งผ่านกล่องข้อความดาราตัวเอกก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหากแต่เป็นลูกชายเจ้าของตลาดกับเมียนั่นเอง
ถึงแม้จะเคยผ่านวิดีโอโป๊หรือพวกเว็บอโคจรมาบ้างแต่ก็ยังไม่เคยเห็นจะๆขนาดนี้ ภาพโคลสอัพของลับของสงวนของทั้งคู่ชัดเจนจนฉันคอแห้งเผลอเลียริมฝีปาก เสียงเพลงจบละครดังแว่ว ฉันกระเจิดกระเจิงกระโจนไปปิดสวิทช์ไฟจนมืดสนิททั้งห้อง ทั้งสองมาตามนัดขยับกระชับเข้าเบียดกระแซะซุกไซ้ร์นัวเนียกันอย่างกับแม่เหล็กต่างขั้ว เขายืนข้างเตียงถอดกางเกงขาสั้นของตัวเองออก เจ้าท่อนเนื้อหัวแดงก่ำที่เพิ่งเห็นในคลิปวิดีโอปรากฏร่างจริงกระเด้งออกมาจากกางเกง เมียสาวรู้งานประคองไปเคล้าคลึงชักเข้าออกช้าเนิบถูไถกับใบหน้าแลบเลียกลืนกินอย่างหื่นกระหาย ไม่น่าเชื่อว่า เจ๊อุ๋ม จะแรดได้ร้อนผ่าวองศาเดือดถึงเพียงนี้
ยกทรงสีดำถูกปลดออก ลูกชายเจ้าของตลาดซุกหน้าดูดเลียอีกมือก็เคล้นคลึงจนเมียสาวหน้าเหยเกซู๊ดปากเสียว ถึงตอนนี้ฉันไม่แน่ใจว่ายังต้องหลบอยู่หลังม่านอีกหรือเปล่า คืนนี้บทรักของทั้งคู่ยิ่งโลดโผนโจนทะยานเป็นเท่าทวี เขาประคองร่างเธอมายืนเล่นหนังสดโชว์ที่หน้าต่างบานเกล็ด เมียสาวสีหน้าไม่มั่นใจกวาดสายตามองระแวงไปทั่วแต่สุดท้ายก็ยอมตามใจผัว
ดูเหมือนเธอจะไม่เห็นว่าฉันยืนแอบมองอยู่ ชอบสีหน้าเหยเกของเธอตอนโดนผัวกระแทกกระทั้นแรงๆถี่ ฉันเปิดม่านหน้าต่างกว้างเกือบครึ่งยืนสบตากับลูกชายเจ้าของตลาดที่กำลังกระเด้าบั้นท้ายเมียตัวเองอย่างเมามันส์ สองมือบีบเคล้นคลึงบี้หัวนม เราสบตากันเขายิ่งเร่งความเร็วแรงอวดน้ำอดน้ำทนส่วนเมียสาวแกว่งส่ายตูดเด้งรับ ท้องน้อยของฉันวูบวาบเหงื่อกาฬผุดเต็มหน้าผาก เขาทำสัญญาณมือเรียกฉันทำท่าเหมือนอยากให้ถอดเสื้อชุดนอนออก
ถ้ามีใครสักคนเดินผ่านตรอกเข้าตลาดพอดีช่วงเวลานั้นคงต้องเลือกเอาว่าจะแหงนหน้ามองคนเย็ดโชว์ที่หน้าต่างชั้นสองทางซ้าย หรือจะดูนักศึกษาสาวยืนเปลือยอกล้วงมือเข้าไปในกางเกงเขี่ยติ่งเสียวรัวๆแอบข้างผ้าม่านช่วยตัวเองที่หน้าต่างชั้นสาม
………………..
เย็นวันหนึ่งฉันกลับจากมหาลัยแล้วยังไม่ขึ้นไปชั้นบนเหมือนเคยยังยืนคุยโน่นนี่กับพวกพี่พนักงานขายที่กำลังเตรียมตัวจะกลับบ้าน เฮียยงชัยหายหน้าไปตามสมมติฐาน
“ทำไมเดี๋ยวนี้ใส่กระโปรงสั้นจังฮึแตงกวา ใส่ยาวๆแบบตอนปีหนึ่งน้าว่าก็น่ารักดีออก” น้าหนิงถาม
“โหย.. เค้าให้เฉพาะเด็กๆใส่กันขืนกวาใส่ก็โดนหาว่าแอ๊บเด็กกันพอดี”
“เออ แต่ว่าใส่แบบนี้ก็น่ารักดี คนมันมีของดีก็ต้องโชว์อ่ะเนอะห่วงแต่ลมจะพัดกระโปรงเปิดน่ะสิ”
“โชว์เชออะไรกันน้าหนิงพูดน่าเกลียด เดี๋ยวนี้ใครๆเค้าก็ใส่สั้นๆกันแบบนี้ทั้งนั้นแหละ แฟชั่น..” ฉันแก้ตัว
“แล้วเฮียล่ะคะ” ฉันมองกวาดไปทั่ว
“เห็นเพิ่งเดินไปในครัวหลังร้านมั้ง ปกติถ้ายังไม่ปิดประตูนี่แกไม่เคยทิ้งร้านนะ”
ฉันแอบสังเกตุพฤติกรรมของผัวน้าหนิงมาได้สักพัก จากที่ปกติก็แทบจะไม่ค่อยได้คุยกันอยู่แล้วแถมช่วงหลังๆเหมือนเฮียจะหลบหน้า ทุกครั้งที่กลับจากมหาลัยหรือเดินลงมาที่โชว์รูมขายมอเตอร์ไซค์เฮียยงชัยจะเดินหลบหายไปทางหลังตึก เมื่อสงสัยก็พยามคิดหาคำตอบ ค้นคว้า ทดลอง
สังเกตุว่าเมื่อเดินขึ้นบันไดสู่ชั้นลอยสักพักจะได้ยินเสียงฝีเท้าเดินออกมาจากหลังตึก ก้มลงมองลงจากบันไดเห็นหน้าสบตากับเฮียยงชัยที่กำลังแหงนคอตั้งบ่าแอบดูใต้กระโปรงของฉัน
“อ้าว .. แล้วลงมาทำไมอีกฮึ.. เดินขึ้นๆลงๆจนน้าเวียนหัวแล้วเนี่ย” น้าหนิงถาม
“อ๋อ.. พอดีกวาออกกำลังกายอ่ะค่ะ เค้าว่าแค่เดินขึ้นลงบันไดนี่แหละเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด” ฉันอ้างไปเรื่อย
“ข้อเข่าจะพังน่ะสิ ยังสาวยังแส้สาวก็ทำไปเฮอะตีเหมือนกัน”
“กระโปรงบานๆแบบนี้ใส่ซับในรึเปล่าขึ้นๆลงๆสะพานลอยสมัยนี้ต้องคอยระวังพวกโรคจิตมันแอบดู”
“เฮียล่ะคะ..”
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน