สวัสดีครับ สวัสดี ซีรีย์ทะเลมาแล้วครับ
ซีรีย์นี้เป็นอีกเรื่องนึงที่ผมทำแยกออกมา
มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างตอนที่ 28 กับ 29
ระหว่างผมกับเหมียว ยังไงก็หวังว่าสมาชิกร้านเกะ จะชอบเรื่องนี้เช่นกันนะครับ
เช่นเดิมครับตอนนี้มีการซ่อนข้อความ ท่านต้องแสดงความคิดเห็นก่อน
ซึ่งสำหรับผมนั้น Free Style ครับ ท่านจะคอมเมนต์อะไรก็ได้
และถ้าแสดงความคิดเห็นหลังอ่านจบด้วย จะสวยงามมากครับผม
.................
ปล. หน้าตาของเหมียว หุ่นของเหมียว ประมาณนี้เลยครับ ใช่เลย แต่หน้าของเหมียวจะหวานกว่านี้นิดนึง
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
.....................
ปล.2 Link สำหรับย้อนไปอ่าน ตอนเก่าๆครับผม
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
................
ปล.3 อ่าน ระวังหลังด้วยครับ
......
ความเดิมตอนที่แล้ว
ผมจะทำยังไงดีนะ ผมสารภาพไปแล้วว่าเคยชอบเธอ
ทั้งๆที่พยายามปิดมาตลอด แต่สิ่งที่ผมไม่คาดคิด ก็คือ
ผมกับเธอกำลังจะมี SEX กัน
............................
ซื๊ดด อะไรนะยาคุม เชื่อป่ะ ว่าสมองผมมันชะงักนะ แต่ร่างกายที่มันเต็มไปด้วยความงุ่นง่านแม่งไม่หยุดว่ะ ผมยังไม่ได้เสียบเพื่อนร่วมงาน แต่แท่งหรรษาของผมก็พาดอยู่บนโคกสำราญของเธอไปแล้ว
คิดภาพตามผมสิ่ครับท่านผู้อ่าน น้องชายของเราๆกำลังนอนกระตุกอยู่บนเนินเนื้อแฉะๆ แบบถ้าแซะอีกนิดก็จะสุขแล้ว ผมดันชะงักคำว่ายาคุมซะงั้น เอ้ออิหยังวะ เอาต่อๆกำลังเซี่ยน
ผมดันเอวให้ท่อนเอ็นของผมถูไถกับรูเสียวร่องสวาทของเหมียวเรื่อยๆ เรื่อยๆ แต่รู้อะไรมั้ยครับท่านผู้อ่าน เหมียวฟิตมากเลยนะ ตอนนั้นผมอยากลองไง อยากลองว่าถ้าไม่ใช้มือแต่ใช้แค่เอวดัน มันจะเข้ามั้ย
สรุปไอ้จ้อนของผมปลิ้นออกว่ะทุกท่าน คืออาจจะเพราะความเปียกแฉะเพราะเหมียวน้ำเยอะมาก มันเลยทำให้ไอ้จ้อนของผมแฉล่บออกไป แต่ในทางกลับกัน เฮ้ยถ้าเปียก ถ้าแฉะขนาดนี้มันก็ต้องเสียบได้แล้วสิ่
ผมยังไม่ลดความพยายามที่จะใช้แค่ “ เอว “ ในการเบิกทางสวรรค์ครับ อีกนิด ซื๊ดดด หัวรบผมเข้าไปได้แล้วครับ ซื๊ดด เชี่ยเอ๊ยหลุดอีกแล้ว ทันทีที่หัวรบของผมมันหลุดและปลิ้นไปเสียดสีกับเม็ดละมุดของเหมียว
เพื่อนร่วมงานของผมก็แอ่นอกร้องซื๊ดทุกครั้งเลย มือสองข้างของเธอวางอยู่เหนือหัวและกำผ้าปูที่นอนจนติดคามือ เธอก้มมามองทุกครั้งที่ผมพยายามจะดันท่อนซุงของผมให้เข้าโพรงสวาทของเธอ
[ เหมียว ] : ซื๊ดดด โทนเจ็บจัง ซื๊ดดด
เหมียวร้องเจ็บขึ้นมาครับ ซึ่งแปลกนะ แฉะขนาดนี้แล้วแถมนี่ก็ไม่น่าจะใช่ครั้งแรกของเหมียวด้วย คือผมไม่ได้มีเจตนาที่จะอ้างว่าเธอซิงไม่ซิงนะ ผมแค่คิดว่าทำไมเธอยังบอกว่าเจ็บหล่ะ
แต่ตอนนั้นผมแม่งก็แบบเงี่ย_ อ่ะบอกเลย คือคนที่เคยชอบกำลังนอนเปลือยอ้าขารอให้เสียบ เป็นคุณคุณจะทำไง ผมก็พยายามเสียบครับ จนสุดท้ายผมก็ยอมแพ้และใช้มือช่วย
ผมจับแท่งหรรษาเขี่ยลากยาวตรงรอยแยกหว่างขาของเหมียว ทุกครั้งที่ลากเธอก็จะซื๊ดด แล้วเงยหน้ามามอง ผมมองเธอทุกครั้งนะ ผมอยากเห็นสีหน้าของเธอเวลาที่เสียวซ่านจนต้องกัดริมฝีปาก
พอเหมียวเห็นว่าผมดู เธอก็รีบเอามือปิดหน้าเลย อูยย ทำไมมันเสียวแบบนี้ ผมกดซึ้บ !!! ลงไปโอยแน่นมากครับ ขนาดเข้าไปแค่หัวผมยังหายใจไม่ทั่วท้องเลย
โอ๊ยย โทนเราเจ็บจัง อ๊อย เสียงเหมียวร้องขึ้นมาเลยครับทันทีที่ผมแหวกกลีบเธอเข้าไปได้ ในใจผมคิดนะตอนนั้นว่า อีกนิดเดียวน่า อีกนิดเดียว แล้วผมก็ฝืนกดซึ้บบ ซึ้บบบ เข้าไปจนอาวุธประจำตัวผมจมหายไปครึ่งลำแล้ว
คราวนี้แหละครับเกิดเรื่อง เหมียวร้องอ๊อยย โทนเราเจ็บ อ๊อยยไม่ไหวอ่ะ เอาออกก่อนได้มั้ย มือสองข้างของเหมียวกำผ้าปูที่นอนจนยุ่ย ขาของข้างยกเกร็งไปหมด ปากก็เม้ม ตาก็ปรือ เหมือนเจ็บมากจริงๆ
แต่แบบตอนนั้นนะ ว่าถ้าเอาออกแล้ว เหมียวเปลี่ยนใจล่ะเฮ้ย อดนะ คือเข้าไปครึ่งลำแล้วอ่ะครับท่านผู้อ่าน พูดง่ายๆเลยคือสันดานแว๊ปนึงของผมคือกลัว “ อด เย “ หรือ “ เอด ยด “
ผมกลัวที่แบบว่า เฮ้ยมาขนาดนี้แล้วอ่ะ ถ้าไม่ได้นี่เสียหายหลายแสนเลยนะ แล้วก็ไม่มีอะไรยืนยันด้วยว่าเหมียวจะให้อีก เพราะงั้นผมต้องเชื่อในเอวของตัวเอง ผมซอย ฟื๊ดด เชี่ยไม่เข้าจริงๆครับ คือไม่ใช่ว่าแค่เหมียวเจ็บนะ
ผมเองก็เริ่มมีอาการละ เพราะเส้นสองสลึงมันตึงแล้วครับ ผมดึงออกมาเหมียวก็อ๊อย สะดุ้งตัวตาม ผมใช้ทั้งน้ำลายและน้ำของเหมียวชโลม ให้ทั่วๆหัวรบสีม่วง และเขี่ยๆๆ กดซ้ำเข้าไปอีก
เหมียวก็ยังอ๊อย โทนเราเจ็บ อ๊อยย ไม่เอาแล้วพอก่อนนะ อ๊อยย พอเห็นแบบนี้ผมแม่งก็แบบเฮ้อฟังแล้วอาจจะดูพระเอกจนน่าหมั่นใส้ แต่ตอนนั้นผมตัดสินใจไม่ทำต่อครับ คือแบบพูดมาขนาดนี้แล้วอ่ะ
แล้วเราจะเอาแบบเสียว แบบสุขได้ไงวะครับ ถ้าต้องซอยไปแล้วฟังผู้หญิงร้องอ๊อยเจ็บ อ๊อยเจ็บ เฮ้อหำหดหมด ตอนแรกผมคิดนะว่าจะจับให้เธอขึ้นขย่มให้ แต่เฮ้ยขนาดผมแค่ดันเอว เหมียวยังร้องเลย
ถ้าจับให้ขึ้นขย่มมันจะไม่แย่เหรอ ผมเลยพอละไม่ทำดีกว่า อย่างน้อยก็ถือว่าได้อะไรนิดหน่อยๆ อย่างน้อยก็ได้เข้าไปครึ่งลำล่ะวะ
ผมถอนออกดังบั๊วะ เหมียวก็เด้งเอวตามพร้อมกับนอนตะแคงหายใจหอบๆๆๆ เกร็งมือไปหมด ผมก็คิดในใจคงต้องกอดเธอเพื่อให้ความรู้สึกทางกายทำให้เธอดีขึ้น
ผมทิ้งตัวลงไปกอดเหมียวทั้งๆที่ร่างกายของเราสองคนเริ่มมีเหงื่อ เธอรีบเข้ามากอดผมทันทีครับ บอกขอโทษมันไม่ไหว มันเจ็บไม่ได้ทำนานแล้ว ผมก็แบบอื้มๆไม่เป็นอะไร อย่างน้อยเราก็ได้เหมียวตั้งครึ่งลำแน่ะ
เหมียวตีเผี๊ยะ !!! เลยครับบอกไอ้ทะลึ่ง นายหน้าบึ้งโคตรทะลึ่งเลย เหมียวถามนะเมื่อก่อนที่ชอบเราเคยแอบคิดว่าอยากทำแบบนี้กับเราป่ะ
ผมก็พูดไปตามตรงว่าก็มีบ้างแหละ เพราะยังไงซะถ้าได้เป็นแฟนกัน เราก็ต้องขอเหมียวอยู่ดี พอพูดคำว่าได้เป็นแฟนกันเหมียวก็นิ่งเลย ผมก็ไม่รู้นะครับท่านผู้อ่านว่าช่วงชีวิตนึงของผมทำมันมั่วแบบนั้น
แต่ก็ถือว่าเป็นกำไรชีวิตนะ ผมกอดเหมียวทั้งๆที่เปลือย ทั้งๆที่พึ่งเสียบเธอเข้าไปครึ่งลำ และพูดว่าเอาน่าเรามันไม่ใช่ก็คือไม่ใช่อย่าใส่ใจเลยน่า อย่างน้อยเราก็ขอบคุณเหมียวที่ตอนนั้นทำให้เรามีเรื่องคิดมากขึ้น นอกจากจะคิดเรื่องแฟนเก่าแค่เรื่องเดียว
เหมียวถามนะว่าเรื่องอะไรที่บอกว่าทำให้ผมคิดมากขึ้น ผมก็พูดออกไปทั้งๆที่โหวงๆ หน่วงๆว่า
[ ผม ] : ก็เรื่องที่ว่าจะทำยังไงให้ชนะใจเหมียวไง
ใช่ครับผมตอบไปแบบนั้น ซึ่งมันก็แปลกนะ ผมพยายามหาทางชนะใจเธอ แต่ไม่เคยพูดอะไรออกไป เพราะคิดว่ายังไงซะ ความดี ความผูกพันตลอดเวลา 3 เดือน จะทำให้เธอรู้ตัวว่าผมคิดยังไงกับเธอ
แต่ 5555555555555 กลับกลายเป็นว่าระยะ เวลา 3 เดือนนั้นเธอดันมีแฟนซะแล้ว 5555 เฮ้อตลกสัดๆเลยชีวิต เคยคิดนะ ว่าทำไมทำกับผมแบบนี้ แต่มันเป็นผมเองไม่ใช่เหรอที่ปล่อยใจไปแบบนั้น
ความผูกพันแม่งซื้อความรักไม่ได้จริงๆว่ะทุกคน เหมียวยังคงนอนบอกเจ็บ ผมขยับตัวนอนหงายเพื่อที่จะไม่เบียดเธอเกินไป ผมถอนหายใจฟู่ววว เฮ้อเกือบแล้วไหมล่ะ
แล้วเหมียวก็ลุกขึ้นครับเธอแบบหยิบเสื้อผ้าของเธอขึ้นมาปิดเนินนมและจุดสงวนส่วนล่างเอาไว้ด้วยท่าทีที่เหนียมอายแล้วบอกว่า เรา เรากลับห้องก่อนนะ ผมก็บอกอื้มๆ ฝันดีนะ
ผมพูดไปแบบนั้นเพราะคิดว่าเหมียวคงอาบน้ำแล้วนอนเลยน่ะครับ เฮ้อออ นี่ผมคิดผิดหรือคิดถูกวะ ที่ไม่เดินหน้าต่อไป นี่เท่ากับว่าผมอดที่ได้เชยชมหญิงสาวที่ผมเคยหมายตาเอาไว้นะเนี่ย
แต่ผมว่าผมคิดถูกนะ ส่วนตัวเลยนะผมไม่ชอบซอยแล้วผู้หญิงร้องเจ็บๆ คือแม่งเสียวไม่สุดอ่ะบอกตรงๆ อีกอย่างยังไงผมก็ยังต้องทำงานกับเหมียว ผมคงไม่อยากกลายเป็นไอ้บ้ากามในสายตาเธอหรอกเนอะ
ตรื๊ดดด ตรื๊ดดด ผมนอนเล่นไปอีกแปปนึงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาครับ เป็นพี่จักรโทรมา บอกว่าในเมืองฝนตกหนักชิบหายเลย อาจจะกลับดึกๆนะ ผมก็บอกครับๆพี่ เฮ้อสงสัยว่าพายุจะพัดเข้าไปในเมืองว่ะท่านผู้อ่าน
เพราะว่าที่ที่ผมพัก ฝนมันตกปรอยๆแล้วล่ะ ผมแง้มผ้าม่านดู สังเกตใบไม้ว่าสั่นไหวมากไหม เอ้า !!! ไม่ตกแล้วนี่หว่า โอเคฝนปรอยๆงั้นก็ได้เวลาไปเดินเล่น ใช่ครับผมชอบเดินเล่น ยิ่งเดินป่านี่น่ะ โอ้วบอกเลยว่าสนุกมากชอบมาก
ผมแต่งชิลๆเดินออกมาครับกางเกงขาสั้น เสื้อยืด เสื้อฮาวาย บอกเลยว่าตอนนั้นไม่มี เดอะทอย มีแต่เดอะโทน ผมเดินออกมาเล่น แล้วก็ถือโอกาสเดินไปเช็คห้องสัมมนาด้วยเลย
เข้าไปก็เจอ Staff จัดเตรียมงานอยู่ เขาก็เอ้าสวัสดีครับคุณโทน ผมก็ครับสวัสดีครับ กำลังเช็คอุปกรณ์เหรอครับ แล้วผมก็เข้าไปช่วยดู ช่วย SET ระบบเสียงต่างๆ โชคดีว่าตอนที่เรียนมหาวิทยาลัย เคยทำงาน PartTime
เป็นคอนวอย ยกเครื่องเสียงวงดนตรี เลยได้มีความรู้มานิดๆหน่อยๆ ผมช่วยปรับนิด นี่หน่อย แบกนู่นนั่นนี่ อีกนิด แล้วซักพักเหมียวก็เดินตามมาครับ เชี่ยเอ๊ยไปไม่เป็นเลยทีนี้ คือคิดตามผมนะครับท่านผู้อ่าน
เธอคนนี้เป็นคนที่ผมเคยแอบชอบ เธอคนนี้เป็นคนที่สร้างเฟรนด์โซนมาให้ผม เธอคนนี้ผมพึ่งจะสารภาพว่าชอบออกไป และเธอคนนี้ผมก็พึ่งได้มีสัมพันธ์เล็กๆไปเมื่อกี้ครึ่งลำ
ตอนนี้ก็แบบเกร็งเลยครับ แต่ไม่ได้ๆจะเสียอาการไม่ได้ไอ้โทนเอ๋ย แล้วตอนนั้น Staff ก็เข้ามาคุยว่าไมค์ตัวนี้ ใช้ตรงนี้ ปรับเสียงตรงนี้ สลับถ่านได้บลาๆ ผมก็เช็ค เช่ก เช็ค วัน ทู วัน
แล้วนี่ก็เป็นความน่าเกลียดของผมในตอนนั้นครับ เมื่อพี่เขาให้ผมลองร้องเพลงเพื่อ Test ลำโพงอีกรอบ รู้มั้ยผมร้องเพลงอะไร
ก็ฉันไม่เคยได้อยู่ในชีวิตของเธอ เป็นอยู่เสมอก็แค่คนที่ไม่เคยมีตัวตน
ใช่ครับผมร้องเพลง ไม่เคยของ synkornize เฮ้อ พูดแล้วก็ทุเรศตัวเอง อ่าๆชั่งเถอะ หลังจากร้องจบเหล่า STAFF ก็ โอเคครับเรียบร้อย ผมก็ขอบคุณครับผมแล้วก็เดินไป
[ เหมียว ] : เชอะ ร้องเพลงประชดเราใช่ป่ะ
[ ผม ] : เปล๊า !!!
ผมก็ตอบเสียงสูงไปนะตอนนั้น อื้ม เหมียวแต่งตัวมาแนวน่ารักอีกแล้วว่ะ คือใส่เสื้อกล้ามลายลูกไม้สีขาวแล้วกระโปรงลายลูกไม้สีขาวเหมือนกัน คือมาธีมเดินทะเลเลยอ่ะ
ผมก็ถามว่าไม่นอนพักเหรอหืม เหมียวก็แบบคล้องแขนผมนะแล้วบอกยังไม่ง่วงเลย ผมก็แปลกใจนะทำไมเหมียวถึงคล้องแขนผมล่ะนิ แล้วเหมียวก็บอกว่าไปนั่งเล่นกันมั้ย ผมก็บอกอื้มไปสิ่
แล้วด้วยความที่ตอนนั้นมันค่อนข้างมืดแล้ว เหมียวก็เดินจับมือคล้องแขนผมเหมือนไม่สนใจใครเลยนะ เราสองคนเดินไปที่รอบสระน้ำมันจะมีซุ้มขาวๆอยู่ สวยดีนะ ผมก็ถามว่าอยากถ่ายรูปมั้ย
เดี๋ยวจะไปเอากล้องมาถ่ายให้ เหมียวบอกไม่เอาง่ะแสงไม่สวย ตอนนั้นผมเองก็รู้สึกผิดนะที่ไปร้องเพลงประชดเหมียวแบบนั้น ผมเลยต้องพูดเอาใจเธอหน่อยแหละ ผมบอกไปว่าแสงไม่สวยไม่เป็นไรหรอก คนสวยอยู่แล้ว
เหมียวหันมามองหน้าผมเลย เธอมองแบบเหล่ๆ แล้วถามว่าสงสัยผีเข้าแน่เลยมาชมเราเนี่ย ผมก็บอกว่าเปล่านิ จริงๆก็อยากชมมานานแล้วแหละ แต่กลัวว่าพอชมไปแล้วความลับจะแตก ว่าแอบชอบอยู่ ก็เลยไม่ทำ
แล้วเหมียวก็แบบเหรอ นั่นไงล่ะบอกแล้วเราสวยเหมือนกันนะเนี่ย นายหน้าบึ้งถึงมาชอบเราแบบนี้ ผมก็ยิ้มๆให้แล้วบอกว่าอื้ม เหมียวสวยนะ น่ารักด้วย ผมก็ชมไปจากใจนะตอนนั้น
เราสองคนเดินมาตรงริมสระน้ำตอนนั้นฝนปรอยๆนะ คนก็เลยไม่ค่อยเยอะเท่าไร อ้าส์ สบายจัง ผมนั่งลงในซุ้มไม้สีขาวที่ตอนนี้ประดับไปด้วยดวงไฟสี warm light อารมณ์เหมือนกำลังอยู่ในฉากหนังเรื่อง ราพันเซล
ที่รอบตัวเต็มไปด้วยดวงไฟงดงาม ผมชอบอารมณ์แบบนี้นะ ลมพัดวี๊ดๆๆ กลิ่นฝน กลิ่นลม กลิ่นทะเลผสมปนเปกันไปหมด ที่สำคัญข้างๆผมตอนนี้ก็มีสาวสวยที่ผมเคยแอบชอบด้วย
เหมียวนั่งตุ้บลงก่อน ส่วนผมก็ตามมานั่งทีหลัง ผมนั่งตรงข้ามเธอครับ ซึ่งมันก็ควรเป็นแบบนั้นจริงมั้ยครับท่านผู้ชายหลายๆคน แต่วันนั้นมันไม่ใช่แบบนั้นครับ เพราะทันทีที่ผมนั่งลงตรงข้าม
เหมียวก็ลุกและมานั่งติดๆกับผมว่ะ ผมก็แบบหืมทำอะไรล่ะนั่น เหมียวก็นั่งลงแล้วมองหน้าผมครับ เธอถามว่าทำไม มองไร
ไม่เคยเห็นคนสวยเหรอ ผมก็แบบเชี่ยเสียอาการเลย คือเคยแบบไหมอ่ะครับ โดนจ้องตาจนเสียอาการ ผมเชื่อนะหลายๆคนเคยเป็นแบบผมคือเขินจนต้อง แค่กๆๆๆ แกล้งไอแล้วหันหน้าหนี
เหมียวถามว่าเป็นไรซึ่งผมก็บอกว่าเปล่านี่ เหมียวพูดนะว่า แน่ะเขินเราอ่ะดิ่ กิ๊วๆๆๆ นายหน้าบึ้งเขินอ่ะ
ผมก็แบบโอย อย่าทำแบบนี้ มันไม่ดีต่อหัวใจเลย เหมียวเขย่าๆจนผมต้องฟู่ววว ฟู่ววว แล้วคิดในใจว่า เอาวะลองดูสักครั้งเมื่อกี้ก็ได้เสียบไปแล้ว ถึงจะไม่เสร็จ จะไม่ได้มิดด้ามก็เถอะ คงไม่มีอะไรต้องเขินแล้วล่ะ
ผมหันมาครับ แล้วเหมียวก็เท้าคางจ้องหน้าพอดี ผมถามหืมมีอะไรเหรอ เหมียวบอกเปล่านี่ ผมก็บอกจ้าๆ ไม่มีก็ไม่มี ตอนนั้นผมก็เงียบซักพักนะ เฮ้อปั่นป่วนไปหมดเหมือนกันนะตอนนั้น
แต่มันดีอย่างตรงที่ผมไม่ได้ชอบเหมียวมากเหมือนเมื่อก่อน คือโอเคแหละว่าตอนนี้ยังรู้สึกว่าเธอน่ารัก แต่มันไม่เหมือนเมื่อก่อนจริงๆ คือเอาตรงๆผมปลงเรื่องเหมียวนานแล้วนะ
คือเคยป่ะครับ ชอบใครสักคนทั้งๆที่รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ชอบแบบนั้น ชอบแบบนั้น ชอบจนต้องปลงไปเองว่าเราแม่งเป็นแค่ฝุ่น เอ้าเพลงต้องมาแล้วแบบนี้ เป็นแค่ฝุ่นที่ลอยช้าๆ แล้วแต่สายลมจะพา
แต่เธอไม่มองเศษฝุ่นเช่นชั้น อยู่ใกล้ๆยิ่งรำคาณนักหนา แต่จริงๆแล้วผมก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกครับ เพราะทันทีที่ผมรู้ว่าเหมียวมีแฟนแล้ว ทันทีที่ผมรู้ว่าเธอกับนัทจะไปฉลองกันสองคนแล้ว
ผมก็เฝดตัวออกมาทันทีไม่รอให้รู้สึกแย่ไปมากกว่านี้ คือพูดก็พูดนะครับท่านผู้อ่าน คือวันนั้นที่ผมเดินผ่านร้านกาแฟ แล้วได้ยินว่านัทจะพาเหมียวไปฉลองสองคน คือรู้แหละว่ายังไงคืนนั้นมึงต้องล่อกันแน่ๆ
หัวใจผมแม่งหล่นตุ้บไปอยู่ปลายตีนเลยอ่ะ แต่ผมให้เวลาตัวเองแค่ 24 ชั่วโมงครับที่จะเจ็บปวดเรื่องนี้ คนเราแม่งมีสิทธ์ใช้ชีวิตบัดซบ แต่ควรจบในเวลาอันสั้นครับ ผมบอกตัวเองเลยว่าเฮ้ย ไอ้โทนมึงต้องพอ มึงต้องหยุดไม่งั้นมึงเจ็บหนัก
คืนนั้นผมกลับไปนั่งซึมเป็นส้วมเลย แต่พอตอนเช้าตื่นขึ้นมาผมต้องทำตัวให้ปกติ ในขณะที่เหมียวก็ควงกับนัทไปนู่นไปนี่ ตอนนั้นก็แย่นะครับ เหมือนแบบใจนึงมันชอบไปแล้ว มันเลยเจ็บเวลาเห็นเธอไปกับคนอื่น
แต่เพราะงานที่โถมเข้ามา รวมถึงพี่หมิวที่โทรจิกทุกวันเลยทำให้ผมปลงเรื่องเหมียวได้ไว ผมไม่ได้เลิกชอบนะ ผมแค่ปลงว่าคงไม่มีทางได้เป็นแฟนกันหรอก
อ่ะกลับมาที่ทะเลต่อครับ หลังจากที่เงียบๆผมก็หลับตาฟังเสียงทะเลเฉยเลย จนเหมียวก็แบบกระซิบถามว่าหลับเหรอ ผมก็ตอบไปทั้งๆที่หลับตานะว่าเปล่า ยังไม่ได้หลับ แล้วตอนนั้นรู้สึกเลยนะว่าแก้มผมถูกริมฝีปากของหมิวสัมผัส
อุ้ยโดยขโมยหอม ผมก็บอก แอ้ะ เดี๋ยวนี้หัดขโมยเหรอเนี่ย คือใจนึงมันก็ตื่นเต้นนะ แต่อีกใจแม่งก็แบบเชี่ยคนจะเห็นมั้ยวะ เราสองคนจะโดนนินทาไหมวะ คือต้องขออธิบายน้องๆรีดเดอร์ที่ตอนนี้อายุพึ่ง 20+ นะครับ
ว่าเมื่อ 8-9-10 ปีก่อนเนี่ย จริงอยู่ว่ากล้องมือถือมันยังไม่ชัดกริ๊บแบบปัจจุบัน แถมยังไม่มีการ Live สด หรือ บ้าถ่ายคลิปแบบปัจจุบัน แต่คือตอนนั้นแบบมันก็อายนะ ด้วยความที่ว่าผมยังเด็กด้วย
อีกทั้งยังกลัวคนจะนินทา พูดง่ายๆคือยังหน้าบาง พอเหมียวมาหอมแก้มแบบนี้ผมก็มีแบบเอาไงดีไปต่อดีเปล่าหรือห้าม เพราะบอกตรงๆความรู้สึกคือมันดี แต่ต้องมองรอบๆตัวด้วยนั่นแหละครับ
อ่ะกลับมาต่อ ผมกลับตาอยู่แปปนึง แล้วเหมียวก็กระซิบอีกว่า เมื่อกี้ยังทำมากกว่าหอม กว่าจูบมาแล้ว ทำเขินชิส์ เหมียวพูดแบบนี้ผมก็ลืมตาเลยดิ่ครับ หันมาก็คือหน้าอยู่ติดกันเลย คือเหมือนคู่รักมาสวีทกันแหละครับ
ผมก็บอกเหมียวนะว่า อย่าเล่นแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นเขาก็พูดนินทาหรอก เหมียวก็บอกช่างเขาดิ่ เราเป็นผู้หญิงเรายังไม่ถือเลย อ่าส์ผมนี่ยอมใจแม่นางเลยจริงๆ แล้วเหมียวก็ยื่นมือมาวางบนโต๊ะ เคาะๆๆ ผมก็งงว่าทำอะไรวะ
อ่ะจนสุดท้ายผมก็จับมือเธอขึ้นมาแล้วลูบๆๆ แล้วจุ๊ป !!! เหมียวก็บอกดีมาก คนจะได้ไม่นอนทาอีก ให้เขานึกว่าเป็นแฟนกันนี่แหละ อ่าส์เธอนี่น๊ามันน่าปวดหัวจริงๆ ผมก็แบบเหมียวไปนอนก่อนเลยนะ เราเดินเล่นชายทะเลแปป
[ เหมียว ] : จะทิ้งอีกแล้วเหรอ คราวก่อนก็ทิ้งเราแล้วหายไปเลย ใจร้าย
ผมก็งงดิ่ ผมทิ้งเธอไปตอนไหนวะ ผมก็ถามว่าผมทิ้งเธอตอนไหน เธอก็บอกว่าตอนแรก คุยกันดีๆไปไหนมาไหนอยู่ด้วยกันดี พอมาวันนึงก็หายเลย อ้อผมนึกออกละ คงหมายถึงวันที่นัทมาสิ่นะ
ตอนนั้นผมตอบกลับไปโดยไม่สนใจอะไรเลยนะผมบอกกลับไปว่า
[ ผม ] : เอ้า !!! ก็แฟนเหมียวกลับมาแล้ว เราจะอยู่ทำซากอะไรล่ะ
[ เหมียว ] : โหย !!! แฟนก็ส่วนแฟน เพื่อนก็ส่วนเพื่อนดิ่ ไม่เกี่ยวกันเลย
[ ผม ] : ก็ตอนนั้นเราไม่ได้คิดกับเธอแค่เพื่อนไงเหมียว แล้วจะให้เราไปอยู่ใกล้ๆเหมียวทั้งๆที่รู้ว่าเหมียวมีแฟนอ่ะนะ เราทำไม่ลงหรอก แม่งเจ็บนะเว้ย
[ เหมียว ] : ไม่เกี่ยวเลย.....
[ ผม ] : ไม่เกี่ยวเหรอ !!! ก็วันนั้นที่ร้านกาแฟ นัทบอกว่าจะพาไปฉลองสองคนไม่ใช่เหรอ เหมียวก็ยังยิ้มยังหัวเราะกับเพื่อนๆอยู่เลย ตรงนั้นมันไม่ใช่ที่ของเราตั้งแต่แรกเว้ยเหมียว ถ้าเรายังอยู่ เราก็หมาแล้ว
อารมณ์ผมโคตรสวิงเลยตอนนั้น ทั้งโมโหทั้งน้อยใจ พูดเสร็จผมก็ลุกเลย เฮ้อ เผลอพูดออกไปอีกแล้วดิ่กู ผมก็บอกขอไปเดินคนเดียวแปป แล้วผมก็เดินลงไปข้างล่างครับ ซึ่งมันก็เหลือพื้นที่ไม่มากเพราะน้ำทะเลขึ้นสูง
มันเหลือพื้นที่นิดเดียว แถมเจ้าหน้าที่ก็ไม่อนุญาตให้ไปไกลๆด้วยเพราะมันจะเป็นอันตรายต่อตัวผมเองด้วย แล้วตอนนั้นแหละ มั่บ !!! เหมียวก็เดินตามมาและคว้าแขนผมไว้
[ เหมียว ] : ไม่เห็นต้องโมโหเลยนี่ ก็ตอนนั้นเราคบกับนัทเราก็ต้องไปกับนัทสิ่
[ ผม ] : อ่าาาาาา ไม่ได้โมโห
อ่าส์หน้าสั่นเลย พอโดนตอกหน้าด้วยความจริง ก็ถูกของเหมียว เธอเป็นแฟนกับนัทเธอก็ต้อวไปกับ เธอจะล่อกัน เย_กัน มันก็ไม่ได้ผิดอะไรใช่มั้ย
แม่งมีแต่ผมคนเดียวที่คิดไปเอง ทึกทักไปเอง เฮ้อ ผมก็นั่งนิ่งเลยทีนี้ ผมว่าบรรยากาศตอนนี้ดีมากนะ แต่อย่างที่บอกครับ ว่าฝันยังตกปรอยๆอยู่
ถ้าเป็นที่บ้าน มันก็เป็นแค่ฝนปรอยๆแหละ แต่ตอนนี้มันมีลมทะเลไง เลยทำให้เราสองคนชักจะชื้นๆละ เฮ้อพรุ่งนี้ค่อยมานั่งละกัน พรุ่งนี้มีงานสำคัญเดี๋ยวป่วย
เหมียวถามว่าจะไปไหนอีก ผมก็บอกนะกลับห้อง ผมก็แบบอยากนั่งต่ออีก ผมก็บอกไม่ได้ เดี๋ยวไม่สบาย เดี๋ยวผมที่เป็นหัวหน้าทีม จะโดนตำหนิได้
[ เหมียว ] : โถ๋ ไอ้เราก็นึกว่าห่วงเป็นการส่วนตัว ทำตามหน้าที่นี่เอง
เหมียวทำหน้าเหมือนแบบผิดหวังนิดๆ แล้วยังเม้มปากจนลักยิ้มนี่ออกมาชัดเลย ถึงความรู้ของผมที่ชอบเหมียว จะลดน้อยลงไปแล้ว
แต่ก็ต้องยอมรับนะครับว่าเหมียวยิ้มสวยมาก คืนนี้แหละโดนกูยิ้มแน่ เฮ้ยๆๆๆ !!! ไม่ใช่ๆๆ อ่ะกลับมาก่อนๆ
ผมลูบหัวเธอเบาๆแล้วบอกว่า " ก็ห่วงแหละถึงบอก " แล้วผมก็เดินมาครับ คือก็รู้แหละว่าเหมียวต้องตามมา ก็เลยทำเป็นเดินช้านิ๊ดนึง ดึงจังหวะไว้
มั่บ !!! ตอนนั้นเหมียวคว้าแขนผมไว้ครับ แล้วอยู่ดีๆ หญิงสาวที่ผมเคยชอบ ก็ถามว่า นี่โทนเราถามอะไรหน่อยสิ่ ผมก็ตอบกลับนะว่า หืมมีอะไรเหรอ เหมียวถามผมกลับมาครับว่า
ถ้าสมมติตอนนี้เรา เอ่อ เราเป็นแฟนกัน โทนจะทำอะไรเหรอ......
ผมก็คิดในใจนะว่า หืมอะไรกันเหรอกับคำถามนี่ หรือเพราะว่าเมื่อกี้ผมกับเธอทำเรื่องแบบนั้นไปแล้ว เธอเลยกล้าถาม อื้มแต่ก็ช่างเถอะ เธอถามมาผมก็แค่ตอบกลับเท่านั้นเอง จริงไหมครับรีดเดอร์
ผมประคองหน้าเธออย่างแผวเบาและจุมพิตที่ขมับของเธอเบาๆ เหมียวสะดุ้งตกใจเลยนะ ผมจูบเสร็จแล้วก็พูดว่า เข้าร่มได้แล้ว เดี๋ยวไม่สบาย
นี่แหละครับสิ่งที่ผมจะทำถ้าผมเป็นแฟนกับเธอ เอาจริงๆผมไม่ได้อยากจะหล่อเท่ ให้เธอประทับใจนะ เพราะผมเคยพยายามแล้ว แต่เธอไม่เคยใส่ใจ ตอนนี้ผมก็เลยแบบว่าเลิกคิดเลิกฝันแล้ว
ที่ทำไปเมื่อกี้ เพื่ออยากบอกให้เธอรู้ว่าสิ่งที่ผมอยากทำมาตลอดคืออะไร ผมอยากอยู่ใกล้ชิด ผมอยากสัมผัสมือ ผมอยากกอดเธอ ผมอยากพูดกับเธอให้มันมากกว่าที่ผมสามารถพูดได้ในฐานะเพื่อน
ผมอยากเป็นแฟนเธอ เพราะผมอยากได้พื้นที่ข้างๆที่ผมจะเดินเคียงข้างเธอไปได้ แต่ผมก็ทำไม่ได้ไง แล้วถ้าตอนนั้นผมหลุดปากว่าชอบออกไปนะ แน่นอนแหละกลุ่มอีเพื่อนหัวสูงของเหมียวทั้งหลายต้องมองผมด้วยสายตาเหยียดหยามแน่ๆ
ผมคงไม่อยากจะเจอสายตาแบบนั้น กลัวจะอดใจวิ่งไปเตะปากไม่ไหว อ่ะกลับมาๆ รู้สึกว่าพอผมทำแบบนั้นไป เหมียวจะสตั๊นว่ะทุกคน เหมียวนิ่งไปเลยตอนนั้น
ผมก็บอกนะว่ารีบๆตามมาล่ะ จะได้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะตอนนี้เสื้อผ้าของเราสองคนก็เริ่มชื้นเพราะปรอยๆฝนแล้ว แล้วตอนนั้นผมหันกลับนะ เพราะเอาจริงๆก็ห่วงอยู่ เอ้า !!! ชิบหายละ
เหมียวอยู่ในชุด 2 บิกินีสีขาวครับ ส่วนเสื้อผ้าที่ใส่มานั้น กองอยู่บนโต๊ะ ผมแบบเฮ้ยทำไรนั่น เหมียวก็วิ่งมาลากผมเลย แล้วบอกว่าเล่นทะเลกัน ผมถามจะบ้าเหรอเล่นน้ำอะไรตอนนี้
โอยแล้วแบบบิกินี่ อ่ะเห้ย บิกินี่ คือเกิดมาจนอายุ 23 ปีตอนนั้น ผมยังไม่เคยใกล้ชิดผู้หญิงใส่ บิกินี่ ขนาดนี้เลยนะ นี่เป็นครั้งแรกเลย แล้วแบบดาเมจบิกินี่แม่ง ติดคริ แถมคริดาเมจด้วย
อ่ะๆ ตัดเรื่องหุ่นของสามสาวไปนะ ผมเข้าใจแล้วที่พี่ตั้มบอกว่าเหมียวมันฮอต คือพอผมพิจารณาดี โดยที่สติครบถ้วนแล้ว เหมียวหุ่นดีนะ หน้าอกนี่มองด้วยสายตาหื่นๆของผมก็น่าจะ 31-32 เอวนี่ไม่ต้องพูดถึง
เอวโค้งเชฟมาก แถมตรงจุดที่ผูกเงี่ยน เอ้ยๆๆ ผูกเงื่อนบิกินี่ นี่แบบชวนน้ำลายไหล เหมียวเป็นสาวไซส์มินิ ที่น่ามองมากครับๆ ขานี่เรียวมาก แถมก้นยังอวบแบบ อวบอัดเลยล่ะ
เหมียวก็แบบเร็วๆสิ่ เราลงทะเลก่อนนะ พอเธอหันไปแล้ว ผมนี่แบบเชี่ย เข้าวิน โอ๊วววว บิกินี่เข้าวิน แล้วเหมียวเธอเอานิ้วไปเกี่ยวออกแล้วดึงซึ้บ โอยแย่แล้ว ไม่กูไม่ลงแน่ ถ้าลงไปผมหำแข็งแน่ๆ
ผมรีบเดินไปบอกเหมียวเลยครับว่า ไม่ได้นะมันดึกแล้ว แล้วฝนก็กำลังตกด้วยมันอันตราย รู้ป่ะเหมียวบอกว่าไง โทนก็ดูแลเราสิ่ ผมก็แบบฮึ้ย ผมบอกก็ได้ แต่ห้ามลงไปลึกกว่าหัวเข่านะ
เหมียวบอกอื้อก็ได้ ผมก็หยิบมือถือไว้บนโต๊ะ หยิบเสื้อที่ใส่มาห่อไว้กันละอองฝน เพราะถ้ามันชื้นขึ้นมา แถวนี้คงไม่มีถังข้าวสารให้ผมเอามือถือไปหมกแน่ๆ
เหมียวก็แบบลงแล้วก็แบบสาดน้ำ ซู่วว ซู่วววว เอ่อเหมียวคิดว่าเป็นนางเอกซีรีย์เหรอ เอาจริงๆผมกลัวนะทะเลตอนดึกเนี่ย จริงอยู่ว่าข้างหลังนี่สว่างเลย แต่ข้างหน้ามันคือทะเลที่มืดสนิทแถมยังฝนตกอีก กลัวว่าตัวห่าอะไรจะว่ายมาแล้วไม่เห็นจัง
คือแบบหลอนไปเองพูดง่ายๆเลยครับ แต่มันรู้สึกดีนะ เวลาที่ยืนให้น้ำทะเลมันซัดใส่ เหมียวเล่นน้ำใกล้ๆตรงนั้น พอเธอจะเดินออกไปผมก็รีบไปคว้าแขนเลย
ผมบอกนะว่าห้ามไปไกลกว่านี้ แล้วผมก็โดนเหมียวผลักเลย ผลักเสร็จไม่ว่าพี่แกลงมาทับผมอีก ดีที่ตรงนั้นมันตื้นเลยไม่ได้สำลักน้ำอะไร ผมก็ถามทำไรเนี่ยเหมียวห้ามออกไปไกลกว่านี้แล้ว
เหมียวก็บอกอื้อรู้แล้ว เธอนอนแนบอกเลยครับตอนนั้น แล้วบอกโทนหัวใจเต้นแรงจัง เขินเราเหรอ ผมก็บอกอืม ใครไม่เขินก็บ้าละมาใส่บิกินี่แบบนี้ เหมียวก็บอกอื้มก็ตั้งใจทำให้เขิน
ผมก็แบบเฮ้อเอาอีกแล้ว เมื่อไรเธอคนนี้จะเลิกล้อเล่นกับความรู้สึกของผมสักที ผมยันตัวขึ้นมานั่งเลยนะ เหมียวนอนๆอยู่ก็เหวอเหมือนกัน งือ แรงเยอะอ่ะ อีตาคนบ้าพลัง
เหมียวนั่งตกผมนะตอนนั้น ผมนั่งและเอามือค้ำหลังไว้แล้วผมถามว่าใครบ้าพลัง ก็เปล่านี่ เหมียวบอกก็โทนแหละ ตอนแข่งกีฬาบริษัทก็บ้าพลังวิ่งไม่หยุด คนบ้าอะไรยกของได้เป็น 100 โล แบบนี้ไม่เรียกว่าบ้าพลังและเรียกว่าอะไร
คือต้องขออธิบายก่อนนะครับท่านผู้อ่าน อย่างที่ท่านรู้ว่าผมเล่นยูโด + เวทเทรนนิ่งมาก่อนแล้ว เรื่องแรงเรื่องกำลังนี่ก็คงต้องมีบ้าง ประกอบกับไอ้กีฬาบริษัทที่เหมียวบอกนั้นมันเข้าทางผมพอดี
มันคือแข่งแบกกระสอบข้าวครับ การย่อ การยก มันก็เหมือนจังหวะการทุ่มของยูโด ผมก็สบายสิ่ครับ ผมก็จับปลายกระสอบเหมือนการจับทุ่มด้วยท่ากาต้ากุรุม่าครับ
ดึงขึ้นบ่า ยืดขา และยก แค่นี้เองครับ อ่ะกลับมาต่อครับ ผมก็บอกว่ามันก็ปกติเราเล่นกีฬามันก็ต้องพอที่จะมีแรงบาง เหมียวขยับและนั่งตกผมด้วยท่านั่งพับเพียบ เอ่อนึกภาพออกเนอะ
เธอบอกผมครับว่าเมื่อกี้ที่ทำกันกลัวมากเลย กลัวว่าผมจะไม่หยุด เธอกลัวว่าผมจะทำตามใจตัวเอง พูดแล้วแบบแข็งเลยครับ แข็งจนมันไปโดนขาของเหมียว เหมียวก็แบบว๊ายย ไอ้คนทะลึ่ง
ผมก็บอกนะ แล้วจะพูดถึงเรื่องเมื่อกี้ทำไมเนี่ย พอนึกถึงมันก็ขึ้นดิ่ เหมียวก็แบบมองๆแล้วถามผมว่า เมื่อกี้ผมมีอารมณ์จริงเหรอ ผมก็บอกเอ้า !!! แล้วใครมาซุกผ้าห่ม ใครมานัวเนีย จนทำให้เกิดอารมณ์ก่อนล่ะ
แล้วตอนนั้นผมกับเธอก็เกิดสปาร์คกันขึ้นอีกครับ เชี่ยศัพท์โคตรเก่า ชั่งมันๆด้วยความที่ว่าเราใกล้ๆ กันคุยกัน ไม่นานนัก อ่าส์ ทำไมเหมือนมีแรงดึงดูดอะไรบางอย่าง หน้าของเราค่อยๆเคลื่อนหากัน
ปากของเราค่อยๆ เผยอออกหากัน มันควรจะเป็นรสจูบท่ามกลางฝนที่หวานฉ่ำ แต่ว่า แหวะ !!! เค็ม ใช่ครับเค็ม โอยก็เล่นน้ำจนเปียกไปทั้งตัว มันก็ไหลลงปากมั่งแหละ
ทันทีที่ปากของผมกับลิ้นของเธอแตะกัน พวกผมก็สะดุ้งทันทีมันเค็ม เค็มมากๆๆ พอผละตัวออกจากกัน เราก็หัวเราะเลยครับ เฮ้อนี่กูทำอะไรลงไปกันนะ ผมบอกเหมียวว่ากลับกันเถอะ
เพราะรู้สึกว่าฝนตกแรงขึ้นนิดนึงครับ เหมียวบอกไม่เอายังสนุกอยู่เลย ผมก็บอกอย่าดื้อสิ่ แล้วก็อุ้มเธอขึ้นเลยครับ อุ้มแบบท่าเจ้าสาวนั่นแหละครับ เหมียวก็แบบตกแล้ว ตกแล้ว ตกแล้ว ผมก็บอกยังๆๆๆ
แล้วผมก็อุ้มเหมียวเดินไปที่โต๊ะนั่นแหละครับ ผมวางเธอลงเบาๆ ก็เธอไม่ได้หนักอะไรมากครับ น่าจะ 45+ นิดๆ แต่เนื้อนี่แน่นมากๆ เดี๋ยวๆๆกลับมาก่อนโดน
ผมยังไม่ได้ใส่เสื้อ เพราะยังต้องใช้มันห่อมือถือไว้ แต่เหมียวใส่หมดแล้ว เราสองคนรีบเดินกลับที่พักเลย บรรยากาศแบบนี้มันดีมากๆเลยนะ ใครที่เคยมาที่อมรพัรธ์วิลล่าคงรู้ดีว่าโซนทีที่พักของเขานี่ดีมากๆ
เราสองคนเดิมผ่านโคมไฟ หลายต่อหลายดวง ผ่านพุ่มไม้ ต้นไม้หลายต้น จนกลับมาถึงที่ห้องพักจนได้ ฟู่ววว ฝนตกแรงขึ้นอีกแล้วครับ ผมเริ่มกังวลเรื่องกิจกรรมสัมมนาพรุ่งนี้ซะแล้วสิ่
ผมยื่นมองฝนหยุดแหมะ ยกมือขึ้นมาสัมผัสกับมันเพราะอยากรู้ว่าตกแรงไหม เวรเอ๊ยตกหนักแบบนี้ขอให้พรุ่งนี้งานไม่ล่มเหอะ ผมก็เดินเข้าไปในที่พัก ซึ่งอย่างที่เคยบอกครับมันเป็นห้องโถงใหญ่ และจะมีแยกไป อีก 5 ห้องย่อย
เอ้า !!! เหมียวหายไปไหนหว่า อ่อ น้ำหยดเป็นทางเข้าไปในห้อง คงเข้าไปอาบน้ำแล้วล่ะ ผมเคาะประตูก๊อกๆ แล้วบอกเหมียวว่า ถ้าอาบน้ำแล้วก็เป่าหัวให้แห้งด้วยนะ เดี๋ยวไม่สบาย กินยาพารากันเอาไว้ด้วยล่ะ
เหมียวตอบค่าๆ รู้แล้วค่า ว๊า มีคนมาบอกแบบนี้ปลื้มตายเลย ผมก็แบบอึ้ก !!! ฮึ่ม ๆ ๆ แล้วก็เดินกลับไปที่ห้องพัก ผมจัดการธุระส่วนตัวอาบน้ำอะไรเรียบร้อย ก็มานั่งเป่าหัว และดูนู่นนี่นั่นที่ห้องโถงครับ
เพราะที่นั่นมีชา มีกาแฟ เตรียมไว้รองรับลูกค้า ผมก็เอ๊ะทำไมเหมียวไปนานจังหรือนอนหลับแล้ว ผมก็แบบวุ่นวายอ่ะ ก็คือเป็นห่วงแหละครับ ผมก็เลยเดินไปเคาะประตูก๊อกๆ แล้วถามเหมียวนอนยัง
เหมียวพูดสวนกลับมาว่ามีอะไรเหรอ ผมก็เลยบอกอย่าลืมกินยานะ แล้วก็รีบๆนอนล่ะ พูดแค่นั้นผมก็เดินมานั่งดูงานก่อน ไอ้พวกพี่ๆที่ไปก็หายกริ๊บ หรือว่ามันจะไปปาร์ตี้ สวิงกิ้งกันวะ
แล้วตอนนั้นเหมียวก็ตะโกนเรียกผมจากในห้องครับ เธอบอก โทน โทนว่างเปล่า ผมก็เดินเข้าไปใกล้ๆประตูนะ แล้วบอกอื้มทำไมเหรอ
[ เหมียว ] : เข้ามาห้องเราแปปนึงได้มั้ย
ผมก็หืมอะไรของเขา แต่สิ่งที่ผมคิดเลยนะตอนนั้นคือ ทำไมต้องให้เข้าไปล่ะ ผมบอกเดี๋ยวรอข้างนอกแล้วกัน เหมียวก็ยังบอกเข้ามาก่อนสิ่ ผมบอกตัวเองเลยนะ ไม่เข้า ยังไงกูก็ไม่เข้า
“ เพราะข้างใน มันอันตราย “
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน