คุยกันก่อนอ่าน สวัสดีปีใหม่อีกครั้งกับตอนแรกของปี หลังจากไปดื่มด่ำธรรมชาติใกล้ชิดโควิดก็กลับมาลงงานเขียนต่อ หวังว่าว่าปีนี้จะติดตามเรื่องราวของเจษฎากันอย่างสนุกนะครับ ขอบคุณครับ เนื้อหามีการซ่อนพูดคุยกันซักนิดเพื่อเนื้อหาที่ครบถ้วน *21/01/64 มีการเพิ่มชื่อจริงตัวละครเล็กน้อย โบ้=รตน ณุ=ภาณุ พงษ์=พงษ์ศักดิ์
Darkness Circle / วงจรแห่งความมืด ตอนที่ 6
ร่างของหนุ่มใหญ่ถูกลากเข้ามาในห้องที่เต็มไปข้าวของเครื่องใช้สำหรับงานเกษตรและเครื่องมือช่าง ห่างจากตัวบ้านทรงไทยหลังใหญ่ไปทางด้านหลัง ชายหนุ่มกำยำสี่คนจับเขามัดมือทั้งสองข้างแล้วแขวนไว้กับคานของอาคาร ร่างผอมสูงลอยเกือบพ้นจากพื้นมีเพียงปลายเท้าเท่านั้นที่ยังพอแตะถึงด้านล่างได้
“ปล่อยกู!!!” เจษฎาคำรามเสียงดังลั่น
“ไอ้แก่นี่ปากมากจังหวะ ขอทำให้มันเงียบสักหน่อยละกัน” หนึ่งในชายฉกรรจ์ มีชื่อว่าโบ้ หรือ รตน เป็นชายที่ตัวใหญ่ที่สุดในกลุ่มตัดผมสกินเฮดไว้หนวดเคราหน้าตาดุดัน ตรงเข้าไปหาร่างเนื้อที่แขวนอยู่และใช้เขาเป็นกระสอบทรายมีชีวิต
“เบามือหน่อยนะ เดี๋ยวมันจะตายซะก่อน” วิศวัทที่เหมือนเป็นหัวหน้าของชายกลุ่มนี้ ต้องออกปากเตือนเพราะรตนนี้มีนิสัยค่อนข้างห่ามและเลือดร้อนเกรงว่าจะทำอะไรเกินเลยเกินคำสั่งของผู้เป็นนาย
“เอาซักหนึ่งสลบก็พอ นายหญิงมาค่อยปลุกมัน” รตนตอบกลับเสียงดังก่อนจะลงมือเข้าทำร้ายเจษฎาอย่างไม่มีความปราณี
ไม่ทราบว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว ตั้งแต่ถูกจับมา ในความรู้สึกของเขาเหมือนถูกทำร้ายร่างกายมาต่อเนื่องยาวนาน ทั้งหมัดเท้าเข่าศอกสารพัดของคนทั้งสาม ที่พอคนหนึ่งเหนื่อยก็สลับสับเปลี่ยนให้อีกคนมาแทนที่ ช่วยกันมาป้อนความเจ็บปวดเข้าใส่ร่างไร้ทางสู้ของหนุ่มใหญ่ แรงกระแทกตามส่วนต่างๆ กระทบกระเทือนทั้งสมองและร่างกายจนเจษฎาไม่สามารถรับรู้สิ่งรอบตัวได้อย่างชัดเจน
“แม่งทนมือทนตีนชิบหาย โดนไปตั้งขนาดนี้ยังไม่สลบอีก” รตนถึงกับออกปากบ่น เพราะเขาออกแรงจนเหนื่อยอย่าว่าแต่ทำให้หนุ่มใหญ่รายนี้หมดสติเลย แค่ทำร่างกายมีแม้รอยแตกรอยบวมหรือรอยฝกช้ำสักนิดก็ยังทำไม่ได้เสียด้วยซ้ำ
“อย่างน้อยก็ทำให้มันก็เงียบไปบ้างแล้วละ” ชายหนุ่มกำยำอีกคนที่นักพักสูบบุหรี่อยู่ พงษ์ หรือ พงษ์ศักดิ์ ชายหนุ่มร่างสูงกำยำไว้ผมรองทรงสั้น มีหนวดดูเข้มขรึม ที่เป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ ยังต้องออกปากพูดเพราะรู้สึกทึ่งในความทนทายาดของเหยื่อไม่ต่างกัน
“ทำอะไรกันเบาๆ ไม่เป็นรึยังไง เสียงดังไปถึงข้างนอก” สาวใหญ่แสนสวยในชุดคลุมยั่วน้ำลายเดินทางมาถึงเมื่อเวลากลางดึก บ่นใส่ชายหนุ่มทั้งสี่อย่างเบื่อหน่าย
“ขอโทษครับนายหญิง” วิศวัทรีบเข้าไปต้อนรับเจ้านายและออกหน้ารับผิดชอบแทนทุกคน
“มันเป็นยังไงบ้าง” ณัฐฐามองทอดสายไปที่ร่างที่ถูกแขวนนิ่งอย่างสนใจ
“เหมือนจะสิ้นฤทธิ์แล้วครับ” รตนใช้มือใหญ่จับใบหน้าของเจษฎาให้เงยขึ้นมาพลิกไปมาอย่างง่ายดายไม่มีการขัดขืน
“พวก...มึงมี...ปัญญาทำ...ได้แค่นี้เองเหรอ..ถุย!..” เจษฎาถมน้ำลายใส่หน้าของรตนเข้าอย่างจัง แถมด้วยการยิ้มเยาะอย่างท้ายทาย ร่างกายปวดร้าวไปทั้งตัว ใบหน้าอิดโรยเหนื่อยอ่อนดวงตาแทบจะลืมตาไม่ขึ้นแต่แววตากลับไม่มีความหวาดกลัว
“อ้าว...ไอ้แก่นี่วอนซะแล้ว” รตนใช้มือปาดคราบน้ำลายออกจากใบหน้าอย่างฉุนเฉียว เงื้อหมัดจะชกใส่หนุ่มใหญ่ที่กำลังกวนโมโห
“พอได้แล้ว ออกไปข้างนอกก่อน ฉันจะคุยกับมัน” ณัฐฐาร้องห้ามเสียงเรียบ สิ้นเสียงคำสั่งชายสามคนก็ออกไปจากห้องอย่างเชื่อฟังเหลือเพียงวิศวัทที่ยังยืนอยู่ด้านหลังของเจ้านายอย่างกับเงาตามตัวคอยดูแลความปลอดภัย
ชายสามคนทยอยกันออกมานอกห้องมายืนรอคุมเชิงกันอยู่ที่ด้านนอก รตนออกอาการหงุดหงิดเล็กน้อย ส่วนพงษ์ศักดิ์ยืนสงบนิ่งไม่มีทีท่าอะไร ด้าน ณุ หรือภาณุ ชายอีกคนที่เด็กสุดและตัวเล็กที่สุดในกลุ่มเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ รตน จับไหล่เหมือนจะอยากให้สงบสติอารมณ์
“ไอ้เอิร์ธอีกแล้วเหรอวะ” รตนพูดเสียงเบาน้ำเสียงไม่พอใจที่ถูกไล่ออกมา
“เอาน่า อยู่ๆ มีผู้ชายแอบเข้ามาถึงในบ้าน นายหญิงคงอยากให้มีคนรู้เรื่องน้อยที่สุดนั้นแหละ” ภาณุพยายามปลอบใจ
“แล้วทำไมให้ไอ้เอิรธอยู่ได้ละ แบบนี้มันไม่ไว้ใจเราชัดๆ”
“บ้าถ้าไม่ไว้ใจ จะเรียกเรามาทำไม แค่พี่เอิร์ธเขาเป็นคนปากหนัก ให้อยู่ดูแลข้างในก็เหมาะสมแล้ว” ภาณุพยายามอธิบายให้รตนเข้าใจ เผื่อจะทำให้ใจเย็นลง
“แต่ว่ามัน…” รตนไม่ทันได้พูดจบประโยคก็หันไปเห้นสายตานิ่งๆ ของพงษ์ศักดิ์ที่จ้องเขาอยู่
“หยุดได้แล้ว รอคำสั่งเงียบๆ เถอะ” พงษ์ศักดิ์พูดน้ำเสียงเย็นยะเยือก จนทั้งคู่ไม่กล้าพูดอะไรต่อ
ภายในห้องหลังจากทั้งสามคนออกไปก็เงียบลง วิศวัทหยิบเก้าอี้มาให้ณัฐฐานั่งตรงด้านหน้าของร่างเจษฎา ณัฐฐานั่งยกขาขึ้นไขว่ห้างด้วยท่วงท่าน่ามองสะกดสายตาของชายทั้งคู่ที่อยู่ในห้อง สายตาของเจษฎาปรือหรีแต่ก็ยังพยายามจ้องหน้ามองคนรักเก่าด้วยสายตาที่บ่งบอกถึงความสับสนปนกันระหว่างความเคลียดแค้นและความคิดถึง
“เป็นยังไงบ้างไม่เจอกันนาน โทรมไปเยอะเลยนะ” เสียงไพเราะของณัฐฐาเปิดการสนทนาทำลายความเงียบภายในห้อง
“แต่เธอดู...ไม่ค่อยเปลี่ยน...ไปเลยนะ..หึหึ” เจษฎาสอดสายสายไปที่โคนขาขาวผ่องที่ลอดผ่านออกมาจากชายเสื้อคลุมและเนินออกที่สาปเสื้อปิดคลุมไว้แทบจะไม่มิด
“พลั่ก” กำปั้นของวิสวัทกระแทกเข้าใส่หน้าเจษฎาจนสะบัด
“มึงมองอะไร” วิศวัทมองเจษฎาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ
“อูย...คงจะเจ็บแย่เลย ว่าแต่มาที่นี้ได้ยังไง” ณัฐฐานั่งยิ้มสวยชอบอกชอบใจกับใบหน้าเจ็บปวดของคนรักเก่า สองขาที่ไขว้กันเบียดแน่นจนกลีบสวาทเสียดสีกัน
“.......” เจษฎาเงียบรับรู้ถึงเลือดเย็นของผู้หญิงตรงหน้าเขา สำนึกเสียใจไม่น่าใจร้อนแล้วแอบเข้ามาคิดว่าจะขู่เธอได้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงคนเดิมที่เขารู้จักอีกแล้ว หรือที่จริงแล้วเขาอาจจะไม่เคยรู้จักตัวตนจริงๆ ของเธอเลยก็เป็นได้
“...ทศพลสินะ ที่มันโทรมาขอเงินฉัน ฝีมือเธอใช่ไหม” สาวสวยคาดการณ์ได้แม่นยำ ส่งสายตาหลานฉ่ำกดให้ชายตรงหน้าต้องจ้องมองสีหน้าคนโดนทรมาน
“ทำไม เป็นห่วง....ชู้เก่า...เหรอ” เจษฎาแข็งใจลองยั่งเชิงดูท่าที
“อ้าวรู้เรื่องแล้วเหรอ” เธอยกมือขึ้นมาปิดปากทำท่าราวกับประหลาดใจจนเกินพอดี แบบที่ใครเห็นก็รู้ได้ทันทีว่าแกล้งทำ
“ใช่...เรื่องเลวๆ ของเธอ....กับมัน...ฉันรู้หมดแล้ว”
“รู้แล้วก็ยังไม่มีปัญญาทำอะไร น่าสมเพจจริงๆ”
“สมเพจ...งั้นเหรอ” หนุ่มใหญ่นึกถึงเรื่องของสองคนนี้ขึ้นมาทีไร อารมณ์ก็พุ่งพร่านเดือดดาลขึ้นมาทุกครั้ง
“ทศมันก็แค่คนโง่คนมักมาก คนเลวอย่างนั้นไม่มีอะไรให้นึกถึงสักนิด ตอนแรกทศมันก็ไม่อยากทำตามหรอก แต่พอฉันหลอกล่อนิดหน่อยมันก็แทบจะยอมทำตามทุกอย่าง เธอก็ไม่น่าไปทำรุนแรงกับมันอย่างนั้นเลย”
“ทั้งหมด...นี่..เป็นฝีมือเธอ...งั้นเหรอ” หนุ่มใหญ่เสียงสั่นทั้งโกรธและไม่คาดคิดว่าคนที่เขาเคยรักจะร้ายกาจได้ขนาดนี้
“ใช่...ฉันนี่แหละที่หลอกให้ทศหักหลังเธอ แต่ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะไหวตัวทัน ฉันต้องขอบคุณเธอเลยที่เอาของไปซ่อน ฉันเลยเอามันไปได้โดยที่ไม่มีใครตามมายุ่งกับฉัน จะว่าไปเธอนี่มันโง่ยิ่งกว่าทศอีกนะ” ณัฐฐาเปิดเผยรอยย้ิมเยาะอย่างสะใจ
“มึงทำแบบนี้ทำไม กูทำ...อะไรผิด...กับมึง...งั้นเหรอ” เจษฎาถึงกับสติแตกพยายามจะตะเกียกตะกายพุงเข้าใส่ณัฐฐาทั้งที่ถูกจับแขวนอยู่ แล้วยังมีวิศวัทที่เข้ามาชกใส่ที่ท้องของเขาอีกหลายครั้งจนร่างที่ถูกแขวนอยู่นิ่งไป โดยสาวสวยที่มองดูอยู่ก็หัวเราะชอบใจ หนำซ้ำภาพการดิ้นทุรนทุรายของชายตรงหน้ายังช่วยกระตุ้นอารมณ์ให้เลือดสูบฉีดแรงอีกด้วย
“เปล่า เธอไม่ได้ทำอะไรผิด เธอแค่โชคไม่ดีที่เข้ามาอยู่ในวังวนนี้เฉยๆ ฉันแค่เบื่อที่จะต้องทำอะไรแบบนั้นแล้ว ฉันต้องการเป็นอิสระ ของที่เธอเอาไปซ่อนไว้มันช่วยฉันได้ เลยต้องทำก็แค่นั้น ไม่โกรธไม่ได้เกลียดเธอหรอกนะ” ณัฐฐายังคงยิ้มสบายใจไม่คิดว่าชายเบื้องหน้าของเธอจะเป็นภัยคุกคามเลยสักนิด
“มะ...มะ...หมาย...ความว่า...ยะ...ยังไง” เจษฎาเริ่มหายใจลำบาก
“พูดไปเธอก็ไม่เข้าใจหรอกเก็บชีวิตเน่าๆ ของเธอไว้ให้ดีเถอะ แค่นี้ก็ถือว่าฉันใจดีมากแล้ว จะไปไหนก็ไปอย่ามายุ่งกับฉันก็พอ...” ณัฐฐาลุกขึ้นยืนมองหน้าเจษฎาาวกับเป็นมดปลวก ในขณะที่หนุ่มใหญ่จ้องกลับมาที่เธอแบบอยากจะฆ่าเธอให้ตายทันทีที่เป็นอิสระจากพันธนาการ ร ก่อนจะหันหลังกลับแล้วเดินไปทางประตู
“เดี๋ยวก่อน...คืนของนั้นมาซะ แล้วกูจะเลิกยุ่งกับมึง” เจษฎาพยายามต่อรองทั้งที่ไม่อยู่ในสถานะที่จะทำได้
“ของนั้นเธอก็ขโมยมา เธอเองก็ไม่มีสิทธิ์เรียกร้องอะไรทั้งนั้น ไม่ว่าเธอจะต้องการอะไรมันก็ไม่สำเร็จหรอก” สาวใหญ่ถือไพ่เหนือกว่าไม่สนใจข้อเรียกร้อง ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองคนที่เคยใช้ชีวิตร่วมกันมาในอดีต
“เข้ามา” เสียงของนายหญิงของบ้านสั่งไม่ดังมาก แต่กลับรู้สึกได้ถึงอำนาจที่เธอมี ชายหนุ่มสามคนรีบเข้ามาในห้องแทบจะทันทีที่สิ้นเสียงโดยไม่ให้เจ้านายต้องรอนาน
“เอายังไงกับมันดีครับ” ภาณุรีบขอคำสั่งอย่างกระตือรือร้น
“เอามันไปทำเป็นอาหารปลาที่แพปลาบนเขื่อนดีไหมครับ” รตนเสนอความเห็นสุดโหด
“ไม่จำเป็น สั่งสอนมันอีกสักหน่อย แล้วเอาไปทิ้งไกลๆ ก็พอ”
“เดี๋ยวมันย้อนกลับมาวุ่นวายอีก จะรำคาญเอานะครับ” รตนดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นด้วยเท่าไหร่
“กระจอกอย่างมันทำอะไรไม่ได้หรอก ทำตามที่สั่งฉันจะขึ้นไปนอนละ” ณัฐฐาทิ้งท้ายอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเดินหายออกไปจากห้อง
“ครับ” วิศวัทรับคำสั่ง แล้วเดินกลับไปในห้องทำตามอย่างเคร่งครัดโดยเริ่มจากการสั่งสอนเจษฎาอยู่พักใหญ่...
บ้านเดี่ยวราคาแพงในหมู่บ้านจัดสรรย่านชานเมือง บรรยากาศดูน่าอึดอัดและเงียบเหงาไร้เสียงพูดคุยของผู้อยู่อาศัย แม้เรื่องสะเทือนใจที่เกิดขึ้นในบ้านจะผ่านมาได้หลายวันแล้ว สองสามีภรรยาก็ยังไม่ได้พูดคุยกันจริงจัง แม้ร่างกายจะได้รับการเยียวยาจากเวลาบ้างแล้ว แต่เวลาแค่นั้นยังไม่มากพอจะเยียวยาจิตใจของคนทั้งคู่
อริสานั้นถึงจะทำหน้าที่ของแม่บ้านอยู่เป็นปกติแต่ก็มีอาการเหม่อลอยเป็นบางครั้งและไม่ค่อยกล้าจะเผชิญหน้ากับสามีตรงๆ ส่วนทศพลเลือกที่ใช้สุราเป็นทางหลบหนี้ปัญหา เขามักจะหลบหน้าอาริสาด้วยการกลับบ้านดึกดื่นบางวันก็ไม่กลับ วันไหนที่กลับมาก็เมาแทบจะไม่ได้สติและแยกไปนอนที่ห้องทำงาน วันนี้ก็เช่นกันถึงจะเขาจะกลับบ้านเร็ว แต่ก็ไม่ยอมคุยกับภรรยาเลือกที่จะหลบมานั่งดื่มเหล้าอยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน เป็นภาพที่ทำให้อริสาเห็นแล้วไม่อาจจะปล่อยให้ปัญหานี้ดำเนินต่อไปได้อีกแล้ว เธอตัดสินใจเข้าไปคุยทศพลอย่างเปิดใจ เพื่อแก้ไขปัญหาระหว่างคนทั้งคู่
“พี่ทศ พี่จะเป็นแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่” อริสาน้ำตาคลอ กริยาท่าทางที่เปลี่ยนไปราวกับเป็นคนที่เธอไม่เคยรู้จักของผู้เป็นสามีนั้นสร้างความสะเทือนใจให้เธอจนรู้สึกเจ็บปวด
“ทำไม...พี่มันเป็นยังไง” ทศพลเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง มือยังกำแก้วเหล้ายกดื่มไปพลางๆ หน้าเริ่มมีสีแดงจางๆ เนื่องจากฤทธิ์ของวิสกี้เพียวๆ ไม่มีการผสมโซดา ไม่มีแม้แต่น้ำแข็ง
“พี่จะกินเหล้ามากแค่ไหนก็ไม่ทำให้อะไรดีขึ้นหรอก” หญิงสาวเอื้อมมือไปคว้าแก้วเหล้าหยุดไม่ให้ทศพลดื่มต่อ
“เอามานี่ ถ้าไม่ให้พี่กินเหล้า พี่ทนไม่ได้หรอก” ทศพลพยายามจะคว้าแก้วเหล้ามากจากมืออริสาแต่เธอขยับหลบ ชายหนุ่มจึงหันไปคว้าขวดเหล้าแล้วยกกระดกดื่มแทน
“พี่ต้องทนอยู่คนเดียวรึยังไง แล้วฉันละ นี่พี่ไม่รู้สึกผิดกับฉันบ้างเหรอ เรื่องทั้งหมดมันก็เป็นเพราะพี่ ที่มันมาบ้านเราก็เพราะพี่นะ” หญิงสาวเองก็รู้สึกไม่ยุติธรรม เพราะเธอเองก็ต้องร่วมแบกรับความทุกข์ที่เธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
“แล้วพี่ผิดอะไร ทำธุรกิจมันก็อย่างนี้แหละ มันโง่เองที่ถูกหลอก พี่ไม่ผิด” ชายหนุ่มไม่เพียงคิดไม่ได้ยังขึ้นเสียงใส่คนรักอย่างไร้สำนึก
“นี่พี่...” อริสาแทบจะทนฟังไม่ไหว ผู้ชายที่เธอรักจะทำตัวได้แย่ขนาดนี้ เขาไม่ได้สำนึกผิดอะไรเลยที่นำพาเรื่องเลวร้ายมาสู่ครอบครัว แล้วที่แย่กว่าก็คือเขาไม่แม้แต่จะคิดหาออกหรือทางแก้ไข ทำได้แค่หนีปัญหา
“แล้วเธอจะต้องทนอะไร ก็เห็นยอมมันทุกอย่าง” ทศพลมองหน้าอริสาที่แสดงความเอือมระอาออกมาก็เกิดอาการหงุดหงิด ภาพหญิงคนรักที่กำลังถูกกระทำชำเราก็ผุดขึ้นมาในหัว
“มันไม่ใช่อย่างงั้นนะ พี่ก็เห็นว่าฉันโดนบังคับ...” อริสาเถียงด้วยเสียงอันเบาเนื่องจากอ่อนใจในความคิดของสามี สายตานอกจากจะแสดงอาการผิดหวังที่สามีหยิบยกกเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ยังมีความเจ็บปวดที่เหมือนถูกจี้ใจดำแฝงอยู่อีกด้วย
“หึหึ บังคับงั้นเหรอ ทั้งครางทั้งร่อนซะขนาดนั้น คงถูกใจของคนคุกอย่างมันละสิ” ถ้อยคำเชือดเฉือนจิตใจยังหลั่งไหลออกจากปากทศพลราวกับคนขาดสติ
“พี่จะดูถูกกันมากเกินไปแล้ว ที่ฉันทำอย่างงั้นก็เพราะจะช่วยพี่นะ” อริสาที่ดวงตามีน้ำใสมาคลอที่เบ้าตาแล้วค่อยๆ หยดลงมาอย่างช้าๆ โผร่างเข้าไปสวมกอดสามี เพื่อยืนยันว่าเธอที่ยังซื่อสัตย์ยังรักและห่วงใยเขาอยู่ ถึงเรื่องทั้งหมดจะไม่ใช่ความผิดของเธอ แต่เธอก็ยังพร้อมที่จะยอมลงให้เพื่อรักษาชีวิตคู่ แม้จะต้องโดนเขาทำร้ายจิตใจก็ตาม
“เผี๊ยะ” ทศพลที่พยายามแกะร่างของอริสาออกเหมือนไม่อยากยอมรับความรักและความห่วงใย ด้วยความโกรธจากภาพเมียสาวและคู่แค้นที่ติดตาทำให้ขาดสติ จนเผลอตัวฝาดมือหนาไปกระทบเข้าที่แก้มเนียน อย่างแรงจนทำให้เกิดเสียงดัง อริสาใช้มือเล็กกุมไปที่ใบหน้าฝั่งที่โดนทำร้าย ยืนตัวสั่นอึ้งกับเหตุการณ์ที่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น ทศพลก็ยืนนิ่งพูดอะไรไม่ออกเหมือนกัน
“ พี่ทศ!!!” ตลอดเวลาที่อยู่ร่วมกันมาก็มีบ้างที่ทะเลาะกันแต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่จะลงไม้ลงมือกัน จึงเหมือนฝางเส้นสุดท้ายขาดสะบั้นลง ทั้งที่เธอพยายามทำให้สถานการณ์ดีขึ้นแต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากผู้เป็นสามี นั้นคงทำให้เธอไม่สามารถที่จะทนอยู่กับเขาในบ้านหลังนี้ได้แล้ว
“พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจ” เสียงเรียกชื่อทศพลเพมือนทำให้เขาได้สติรีบเข้าไปกุมมือขอให้หญิงสาวอภัยให้กับความผิดพลาด
อริสาทั้งโกรธทั้งกลัว และรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หญิงสาวสะบัดมือสามีทิ้งวิ่งขึ้นห้องหายไปพักใหญ่ ทศพลนั่งสงบสติอยู่ด้านล่างยังไม่กล้าตามขึ้นไปกลัวเรื่องจะลุกลามบานปลาย ก่อนที่ภรรยาสาวจะลากกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ลงมา
“นั้นเธอจะไปไหน พี่ไม่ยอมให้ไปนะ...ขอร้องละอย่าไปไหนเลยนะ” ทศพลพยายามรั้งตัวอริสาไว้ เหมือนอยากจะขอโอกาส
“ฉันไปอยู่บ้านพ่อสักระยะจะได้คิดทบทวนเรื่องระหว่างเรา ส่วนพี่อยู่นี่ก็คิดให้ดีเถอะว่าจะเอายังไงต่อ มีสติคิดได้เมื่อไหร่เราค่อยมาคุยกัน” อริสาแกะมือทศพลออกแล้วเดินออกจากบ้านไปโดยไม่สนใจทั้งคำห้ามปรามทั้งคำขอร้องอ้อนวอนของทศพล เธอขับรถออกจากบ้านไปทั้งที่หลั่งน้ำตาและจิตใจที่บอบช้ำ
“โธ่โว้ย!” ทศพลตะโกนดังลั่นบ้าน หมดหนทางเหนี่ยวรั้งภรรยาสาว กลับเข้ามานั่งภายในบ้าน มองสำรวจไปก็มีแต่ความทรงจำที่เจ็บปวด เขาเองก็ทนที่จะอยู่ในบ้านนี้ต่อไปไม่ไหวเหมือนกัน จึงโทรเรียกแท็กซี่แล้วโดยสารไปสถานบันเทิงที่ใกล้ที่สุดเพื่อหลีกหนีจากความจริงอันขมขื่น
เสียงดนตรีสดเสียงดุดันกระแทกกระทั้นกระตุ้นเลือดลมที่ปะปนไปด้วยแอลกอร์ฮอลของนักเที่ยวทั้งหลายที่อยู่ในอาคาร ผู้คนมากมายทั้งชายหญิงแต่งกายด้วยชุดที่ดึงดูดเพศตรงข้าม บ้างก็ไปสนุกกับคนแปลกหน้า บ้างก็สนุกกันอยู่แค่ในกลุ่มของตัวเอง
ด้านในของบาร์แห่งนั้นที่มีแสงไฟเพียงสลัวๆ ทศพลกำลังนั่งดื่มทานอยู่ที่บาร์ตรงนั้น เขามองภายในผับบาร์นั้นไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมาย เสียงเพลงที่อื้ออึงและน้ำเมาช่วยให้สมองของเขาไม่อาจโฟกัสไปที่ความคิดในหัวได้ ได้แต่ปล่อยมันไปตามสายตาเห็นอะไรก็คิดถึงสิ่งนั้น
ก่อนที่สายตาของเขาจะหยุดหรือสะดุดอยู่ตรงที่หญิงสาวใบหน้าคมเข้ม สวยเก๋สไตล์นางแบบ ผมดำยาวสลวย ที่อยู่ในชุดที่แสนเซ็กซี่ หล่อนที่สวมชุดเดรสสีแดงสายเดี่ยวตัดกับผิวสีน้ำผึ้งเนียนละเอียด ที่ค่อนข้างจะเว้าลึกจนเกือบจะโชว์ให้เห็นเต้านมเนียนสวยขนาดพอสมควรกับร่างกายเกือบท้ังลูก แถมความยาวของกระโปรงส่วนล่างก็ยาวพ้นสะโพกที่กลมกลึงและผายกว้างลงมาแค่ไม่ถึงหนึ่งฝ่ามือ กำลังเดินเข้ามานั่งที่บาร์ห่างจากเขาไม่มาก และทันทีที่เขาและเธอต่างสบตาจ้องมองกันและกัน ก็เป็นทางหญิงสาวที่ส่งยิ้มหวาน และขยับเดินตรงเข้ามาหาเขาที่นั่งอยู่
“มาคนเดียวเหรอคะ” สาวสวยทักทายด้วยท่าทางเป็มมิตร คำพูดติดสำเนียงแบบคนคุ้นเคยกับการใช้ภาษาอังกฤษ
“ใช่ครับ...” ชายหนุ่มยิ้มตอบเล็กน้อย
“กันธิชาค่ะ จะเรียกธิช่าก็ได้” หญิงสาวแนะนำตัวด้วยท่วงท่ามีเสน่ห์
“ผมทศ...ทศพลครับ”
“สีหน้าคุณทศดูเครียดๆ มีปัญหาอะไรรึเปล่าคะ”
“นิดหน่อยครับ เรื่องทั่วๆ ไป”
“ให้ธิช่า อยู่คุยเป็นเพื่อนไหมคะ จะได้ไม่เหงา”
“ได้คนสวยอย่างคุณอยู่เป็นเพื่อน ก็คงไม่มีปัญหาอะไรทำให้ผมคิดมากได้แล้วครับ”
“ปากหวานจังนะคะ”
“เฉพาะกับคนที่ใช่เท่านั้นแหละครับ” ทศพลโปรยยิ้มมีเสน่ห์ไม่ทิ้งลายอดีตเสือร้ายที่คอยออกล่าสมันน้อย
ทั้งสองคนนั่งดื่มกินพูดคุยกันอย่างถูกคอ ด้วยความที่ทศพลอยากจะทิ้งเรื่องวุ่นวายทั้งหลายไว้แม้จะแค่ชั่วคราวก็ยังดี ประกอบกับสาวหน้าสวยคม รูปร่างยั่วยวนชวนฝันตรงหน้าก็มีที่ท่าชอบพอเขาอยู่มากทีเดียว ความสัมพันธ์แบบวันไนท์แสตนด์คงจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนที่ดูมีความมั่นใจสูงแบบเธอ ส่วนตัวเขาแม้จะมีภรรยาแล้วแต่ในเวลานี้ที่เขารับแอลกอฮอร์ไปจนได้ที่เขาก็ไม่สนใจอะไรแล้ว
“อยากเปลี่ยนบรรยากาศไหมคะ” หญิงสาวไม่พูดเปล่า ยังมองส่งสายตามองเข้าไปในตาของทศพลราวกับมีข้อความเชิญชวนแฝงไว้ ฟันขาวเรียงสวยขบกัดริมฝีปากบอกเป็นนัย มือเรียวนุ่มก็ลูบไปที่ต้นขาของทศพลอย่างแผ่วเบา แต่ออกแรงเน้นตรงง่ามขาใกล้จุดยุทธศาสตร์
ทศพลเปิดประตูพาร่างสวยของหญิงสาวที่เพิ่งรู้จักเข้ามาในห้องที่ส่วนต้อนรับเป็นพื้นไม้ระแนงด้านบนเปิดโล่มองเห็นท้องฟ้ายามค่ำคืน ด้านข้างมีอ่างอาบน้ำทรงรี มองผ่านประตูเลื่อนที่ทำจากกระจกเข้าไปพบเตียงใหญ่หนาฟูคลุมด้วยชุดเครื่องนอนสีขาวสะอาดสีเดียวกับพื้นและผนังห้อง ด้านในสุดหลังหัวเตียงเป็นห้องที่มีผนังทำจากกระจกด้านในมีเครื่องสุขภัณฑ์สีขาวเช่นกัน
เพียงแค่สิ้นเสียงปิดปะตู ร่างชายหญิงก็ปรี่เข้าหากัน อย่างกับคนที่หลงทางกลางทะเลทรายได้พบเข้ากับบ่อน้ำใส่สะอาดใต้ร่มไม้ที่เย็นฉ่ำ สองปากบดเบียดเข้าหากันอย่างโหยหา ลิ้นทั้งคู่พัวพันดูดดื่ม สี่แขนกอดรัดกันและกัน มือทั้งคู่สัมผัสทั่วร่างเริ่มสำรวจสัดส่วนควานหาจุดสยิว
“อูยยยยย ดีจังเลยค่ะ..” สาวสวยครางสยิวถูกทศพลไซ้เข้าที่ซอกคอเนื้อเนียนและอ่อนไหวของเธอ
“คุณสวยมากเลย ผมแทบจะทนไม่ไหวตั้งแต่อยู่ที่ผับแล้ว” หนุ่มร่างสูงกำยำยิ่งกอดรัดแน่นมากกว่าเดิม มือไม้ก็เลื้อยไปมาราวกับปลาหมึก
“ฉันก็เหมือนกัน แต่ไม่ต้องรีบร้อนเรามีเวลาทั้งคืน” กันธิชาคลายตัวออกจากวงแขนปลาหมึก จูงมือทศพลเข้าไปด้านในของห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ ร่างสวยในชุดเซ็กซี่วางกระเป๋าถือไว้ที่โต๊ะรับแขกตัวเล็ก ก่อนจะหนุมตัวกลับมามองชายหนุ่มด้วยท่วงท่ายั่วยวน
“เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า” ทศพลสลัดความคิดฟุ้งซ่านและความเคลียดทุกอย่างทิ้งออกไปพร้อมกับเสื้อผ้าที่หลุดลอยออกจากร่างเหลือเพียงกางเกงชั้นในไปอย่างรวดเร็ว โชว์สัดส่วนร่างกายกำยำ มีร่องรอยฝกช้ำที่จางลงบ้างแล้วให้เห็นบ้างประปราย
กันธิชาเห็นดังนั้นก็ย้ายร่างงามระหงด้วยส่วนสูงหนึ่งร้อยหกสิบเจ็ดเซนติเมตรบวกกับรองเท้าส้นสูงอีกสี่นิ้วและน้ำหนักสี่แปดกิโลกรัม รูปร่างราวกับนางแบบ ทำให้ทุกครั้งที่ก้าวเดินดูสง่างาม มานั่งลงที่ปลายเตียงไม่ต่างจากนางพญาส่งสายตาเชิญชวนให้ทาสหนุ่มเข้ามาปลดเปลื้องเสื้อผ้าและอารมณ์ของเธอ
ทศพลตรงเข้าไปใกล้รางสาวสวยสูดดมกลิ่นน้ำหอมราคาแพงที่ผสมด้วยกลิ่นของเครื่องดื่มมึนเมา จนเป็นกลิ่นที่แปลกประหปลาดแต่ก็กระตุ้นความอยากได้เป็นอย่างดี
มือใหญ่ลูบไล้ผิวกายแล้วเลื่อนไปปลดชุดแซ็กของสาวสวยออกไปทางปลายเท้าอย่างง่ายดายด้วยความช่วยเหลือของเจ้าของชุดที่ยกสะโพกลอยขึ้นจากเตียง
เผยให้เห็นร่างเนียนสีน้ำผึ้ง สองก้อนเนื้อนุ่มหยุนขนาดเหมาะมือก็ปรากฏออกมาให้เห็นเต็มตาเพราะไม่มีบราเซียร์สวมใส่มาแต่แรก ด้านล่างมีเพียงกางเกงชั้นในตัวจิ๋วสีแดงลายลูกไม้แบบซีทรูที่ปิดส่วนโคกนูนใหญ่ที่รัดติดกายไว้ด้วยเส้นสายที่เล็กราวกับเส้นเชือก
มือเรียวนุ่มคว้ากุมไปที่ก้อนเนื้อที่อัดแน่นอยู่เต็มเป้ามือน้อยลูบไล้จนมันเริ่มพองตัวและยืดออก และขยับถอดชิ้นผ้าชิ้นสุดท้ายออกจากกายของฝ่ายชาย
“พร้อมจะมีความสุขรึยังคะ” ดวงตาคมดุแต่ยั่วอารมณ์ทางเพศจ้องมองชายหนุ่มราวกับนักล่าจ้องเหยื่อ จนหนุ่มหล่อถึงกับสยิวกายท่อนเนื้อกระตุกหงึกๆ เหมือนเป็นการพยักหน้าตอบรับ
หญิงสาวส่งสายตาท้าทายและใบเปื้อนรอยยิ้ม ก้มหน้ากดริมฝีปากตรงเข้าใส่ท่อนเนื้อของอีกฝ่ายส่วนหัวจมหายเข้าไปในปากอิ่มที่เผยอออกอย่างเซ็กซี่ จนเจ้าของแท่งเนื้อเสียววาบมือหัวเห็ดรับรู้อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันและความชุ่มชื่นเหนี่ยวลื่น ร่วมถึงลิ้นสัมผัสนุ่มจากลิ้นนิ่ม
“อูยยยย…” ทศพลส่งเสียงลากยาวความเสียวแล่นผ่านไปถึงครึ่งลำเนื้อพร้อมกับปากสวยที่ดันเข้ามา เมือนิ่มข้างหนึ่งยังทำการลูดหนังหุ่มแท่งที่ส่วนโคนไปมา อีกมือก็บีบนวดต้นขาเพิ่มอารมณ์
ร่างกำยำยืนเกร็งซึบซับความเสียวท่อนเนื้อที่ถูกกระทำลำแข็งอย่างที่ไม่ได้แข็งขนาดนี้มานานแล้วด้วยเพราะผิดรสผิดกลิ่น แก่นเนื้อกำยำเปียกเปื้อนไปด้วยคราบน้ำลาย ชายหนุ่มส่งเสียงซี๊ดซาดไม่ขาดปาก แต่ได้ฤทธฺิ์แอลกอฮอร์ช่วยทำให้ทนทานต่อสิ่งเร้าไว้ได้ไม่ปลดปล่อยน้ำกามออกมาให้เป็นที่ขายหน้า
“ธิช่าคุณเก่งมากเลยเล่นซะผมเกือบแตกแหนะ” ชายหนุ่มอดชื่นชมในลีลาการสร้างสุขจากปากของหญิงสาวไม่ได้ มันสุดยอดกว่าผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยเจอมา
“ขอบคุณค่ะ” สาวทรงเสน่ห์ถอนปากออกจากดุ้นเนื้อตอบรับอย่างภูมิใจ ก่อนจะกลืนแท่งเสียวกลับเข้าไปอีกครั้งจนมิดโคน แล้วโยกเข้าออกอย่างเร็วแบบไม่ขัดเขินด้วยความเชี่ยวชาญ
“อูยยยย...เดี๋ยวก่อน...ถ้าขนาด...นี้...ผมจะ..จะ…” ทศพลเอื้อมมือไปจับผมดำยาวสลวยแน่น ด้วยเสียวที่รุนแรงเกินไป ด้านสาวสวยก็รับรู้ได้ถึงท่อนเนื้อที่กระตุกอยู่ในปากแต่ก็ไม่ได้สนใจแรงทัดทาน ปากสวยยังทำหน้าที่ต่อไป จนชายหนุ่มจิกนิ้วเท้าแน่นจนปวดหวังว่าจะช่วยชะลอการหลั่ง
“ฮึบ…” ชายหนุ่มส่งแรงดันศรีษะสาวสวยออกจากแก่นกายให้ออกไปได้ หยุดการพังทลายของเขื่อนกั้นน้ำเหนี่ยวได้ทันท่วงที
“ฮืมมม...ดื้อเหรอ รู้ไหมว่าคนดื้อจะโดนอะไร” หญิงสาวทำหน้าตาเหมือนคุณครูใจร้ายกำลังดุนักเรียนไม่ตั้งใจเรียน ร่างเพรียวไม่รู้ไปเอาแรงมาจากไหนดึงชายกำยำเพียงครั้งเดียวก็ส่งร่างนั้นขึ้นไปนอนบนเตียงได้อย่างง่าายดาย อาจเพราะร่างใหญ่นั้นไม่ได้คิดจะขัดขืน
หญิงสาวนอนทาบร่างอยู่ด้านข้าง ใช้มือนิ่มจบรูดแท่งเนื้อต่อเนื่อง หน้าสวยขยับเข้าใกล้ใบหน้าหล่อ พรมจูบไปทั่วใบหน้า ก็จะประกบปากแลกลิ้น แล้วลากลิ้นไปต่อที่ใบหู ซอกคอ และลงต่ำมาที่หัวนม
ร่างกำยำกระตุกหลายครั้ง จากการโดนโจมตีที่จุดเสียวต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ยอมโดนเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว มือใหญ่เอื้มไปจับบีบเค้นก้อนเนื้อขนาดพอเหมาะ ทั้งคลึงทั้งบี้ที่ส่วนหัวจุก อีกมือก็สอดประสานล้วงควักเข้าตรงหว่างขาจากทางด้านหลังสัมผัสกลีบนุ่มและรูเนื้อที่กำลังเปียกเหนี่ยว
สองร่างช่วยกันเล้าโลมจนได้ที่ หญิงสาวผละออกมาจากเตียงไปค้นหาของบางอย่างในกระเป๋า ก่อนหยิบเครื่องป้องกันออกมากหนึ่งชิ้น แล้วฉีกแกะซองใช้ปากคาบออกมาอย่างเย้ายวน ก่อนจะเลื่อนกายลงไปสวมใส่ถุงที่ทำจากยางพาราชนิดบางพิเศษเข้าใส่แท่งลำด้วยริมฝีปาก
หญิงสาวที่สวมใสเพียงกางเกงชั้นในแบบจีสตริงและรองเท้าส้นสูงนั้นดูมีแรงดึงดูดทางเพศอย่างประหลาดสำหรับทศพล เธอก้าวข้ามร่างใหญ่ขึ้นคร่อมทับแท่งเนื้อ นิ้วเรียวสาวชักเตรียมความพร้อมอีกมือก็แหวกเป้ากางเกงชั้นในออกด้านข้างเผยให้เห็นกลีบสวยเนียนตาและเส้นขนเล็กละเอียดที่ตัดแต่งให้ปกคลุมเนินเนื้ออย่างสวยงาม ก่อนจะจับส่วนหัวที่มีถุงยางบางกั้นถูเข้ากับร่องแฉะ
“ถ้าดื้อก็ต้องโดนลงโทษนะ” เสียงแหบนิดๆ เปล่งออกมาจนทศพลรู้สึกสยิวจนเอวกระดก ร่างงามทิ้งน้ำนักลงมาคาบอมเอาท่อนเนื้อเข้าไปทั้งหัว
ชายหนุ่มถึงกับแปลกใจในสัมผัสแรกที่สอดใส่ ด้วยท่าทีจัดจ้านเจนเวทีของหญิงสาวเขานึกว่าช่องสวาทคงจะไม่กระชับมากสักเท่าไหร่ แต่ผิดคาดร่องเนื้อนั้นช่างคับแน่นและนุ่มนวลไม่ต่างจากเด็กสาวที่ไร้ประสบการณ์เลยทีเดียว
“อูยยยย...ซี๊ด…” ทศพลส่งเสียงร้องระบายความอึกอัดและความเสียวจากการถูกช่องเนื้อแน่นบีบรัดเมื่อหญิงสากลืนกินท่อนเนื้อส่วนที่เหลือเข้าไปหมดลำในคราวเดียว ต่างกับหญิงสาวที่แสดงรอยยิ้มสะใจที่มองเห้นชายหนุ่มทำหน้าบิดเบี้ยว
“อ๊าาาา...อาาาา…” เสียงสวยครางระงมเมื่อเอวพลิ้วเริ่มขยับจากช้าไปเร็วทั้งบดขยี้ทั้งโยกขย่มสลับกับการใช้เอวคอดส่ายหมุนวนร้อนแรง หญิงสาวนั้นควบคุมเกมได้อย่างเก่งฉกาจ เหมือนเธอสามารถรับรู้ได้ว่าทศพลนั้นจะถึงขีดสุดเมื่อไหร่ สามารถผ่อนแรงให้ชายคู่ชกได้พักยกเพื่อชลอการหลั่งได้อย่างรู้ใจ และเธอที่อยู่ด้านบนก็รับรสเสียวได้อย่างไม่ขาดตอน
ทศพลใช้สองมองกุมจับไปที่สองเต้าขนาดพอเหมาะขยำบีบอย่างมั่นเขี้ยวกระดกเอวเด้งสวนรุนแรงขึ้นตอบโต้เหมือนกับอยากปลดปล่อยน้ำเหนี่ยว แต่ร่างเล็กรู้ทันกดร่างลงมาแนบทับตัวลดความเร็ว ปากเล็กประกบปากใหญ่ส่งลิ้นสวยล้วงลึกลงเข้าไปในปาก
“ผม..จะไม่ไหวแล้ว” ทศพลบอกความในใจเสียงกระเส่ากับใบหน้าอยู่ใกล้แทบจะติดกัน
“ฉันก็ใกล้แล้วเหมือนกัน” หญิงสาวยิ้มรับด้วยริมฝีปากสวย
ทศพลพลิกกายพร้อมกับร่างเล็กอย่าง่ายดายอาวุธคู่กายไม่หลุดออกจากถ้ำฉ่ำ ชายหนุ่มขึ้นมาอยู่ด้านบนบ้างเปลี่ยนหน้าที่ฝ่ายรุกเข้าใส่อย่างรุนแรง
“อืออออ...อราาาา….อาาาา…” กันธิชาส่งเสียงร้องครางระงมด้วยสีหน้าที่เหยเกอาการดูเสียวเอามากๆ จากการกระทุ้งกระแทกของอีกฝ่าย ที่ได้ขยับเข้าใส่ร่องหลืบของเธออย่างเร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ซี๊ดดดด...ของคุณนี่มันสุดยอดจริงๆ...เอามันส์สุดๆ เลย” ชายหนุ่มชื่นชมทั้งร่างกายและลีลาที่ร้ายกาจไม่ขาดปาก เพราะหญิงสาวนั้นเป็นรสชาติร้อนแรงที่ถูกใจเขาจริงๆ
“อราาาา...จะ...ซี๊ดดดด...เสร็จแล้ว” หญิงสาวร้องลั่น ด้วยความเสียซ่านอย่างสุขสม ก่อนที่เธอจะกอดร่างกำยำแน่น ก่อนจะคลายตัวออก
“อูยยยย...ผมก็เสร็จแล้ว” ชายหนุ่มนั้นก็มีท่าทีเสียวสุขไม่แพ้กัน ปลดปล่อยน้ำกามออกระลอกใหญ่อัดแน่นเต็มส่วนปลายของถุงยาง
ทศพลพลิกกายมานอนหงายอย่างอ่นแรง ช่างเป็นการเสพกามที่สุดยอดสำหรับเขา โดยมีหญิงสาวตามไปถอดถุงยางแล้วทำความสะอาดแท่งเนื้อให้ด้วยริมฝีปากอิ่ม
ชายหนุ่มเคลิ้มผ่อนคลาย แก่นกายที่สิ้นฤทธิ์ไปแล้วถูกกระตุ้นด้วยโพร่งปากอุ่นชุ่มชื่นกลับฝื้นตัวขึ้นมาได้ประหยาด เขาไม่ได้แข็งพร้อมรบหลังจากเสร็จกิจไปแล้วหนึ่งรอบอย่างนี้มานานแล้ว เขาต้องยอมรับกับตัวเองเลยว่าผู้หญิงคนนี้มีฝีมือทางกามเหนือกว่าเขามากจริงๆ
เมื่อแท่งเนื้อแข็งแกร่งขึ้นมาเตรียมพร้อมสำหรับการดำเนินกิจกามต่อได้ หญิงสาวก็สวมถุงยางอันใหม่ใให้ชายหนุ่มด้วยวิธีเดิม ก่อนจะทิ้งร่างหมอบคลานสี่ขาโชว์บั้นท้ายงามงอน และกลีบเนื้ออวบอิ่มอัดแน่นเป็นพูสวยเมื่อมมองจากด้านหลัง
ชายหนุ่มไม่รอช้าให้เป็นการเสียน้ำใจของสตรีสาวสวยที่เชื้อเชิญ พาร่างกำยำเข้าประกบเข้าด้านหลัง ถึงตอนนี้เขาจะต้องแห้งตายคาหว่างขาของสาวสวยคนนี้เขาก็ยอม
“มาสิคะ มันอยากได้ของคุณจะแย่แล้ว” กันธิชาส่ายสะโพกเบาๆ เหมือนเป็นการล่อเป่า ร่องสวยพราวด้วยน้ำใส่และคราบฟองจากครั้งแแรกราวกับถูกราดด้วยน้ำเชื่อมและฝองนม
“อืมมมม....อาาาา…” ชายหนุ่มส่งแท่งเนื้อเข้าไปตามคำเชิญ ออกแรกระเด้ากระทุ้งอย่างเอาเป็นเอาตาย ราวกับอยากประกาศศักดาว่าเขาเองก้ไม่น้อยหน้าเธอเช่นกัน
“อ๊าาาา...แรงอีก อย่างน้นแหละ ดีมาก” หญิงสาวยังคงไม่เพลี้ยงพล้ำแม้จะอยู่ในท่วงท่าที่เสียเปรียบยังคงเรียกร้องให้ชายหนุ่มจ้วงแทงเธอให้ถึงใจ
“โอ้ยยยย...โคตรเสียวเลยเว้ยยย...” ทศพลสติกระเจิงกระเจิงปลดปล่อยอารมณ์ไปตามเกมสวงาทอย่างเมามัน จนหญิงสาวไม่อาจยันกายไว้ได้ไหวทิ้งตัวลงนอนราบไปกับเตียงโดยที่ชายหนุ่มก็ทิ้งตัวลงมาสองมือกุมหัวไหล่หญิงสาวไว้แน่นแล้วออกแรงกระแทกรัว
“อ๊าาาา...อาาา...จะถึงแล้ว...จะถึงอีกแล้ว” สาวสวยสไตล์นางแบบครวญครางลั่นจากกระทำที่รุนแรงและการเคลื่อนตัวของแท่งเนื้ออย่างรวดเร็ว
“อืมมม...ผมก็ด้วย…” ทศพลกดอัดแท่นเนื้อเข้าใส่แบบไม่สนสุขภาพเอว เป้าหมายคือพาตัวเองและสาวสวยด้านล่างไปให้ถึงฝั่งฝัน ยิ่งส่งความเสียวไปให้มากเท่าไหร่ก็ได้กลับคืนมามามากเท่านั้น
“อ๊าาาาา....” ทั้งสองคนส่งเสียงประสานเสร็จสมในเวลาไล่เลี่ยกัน นอนกอดกันกลมบั้นท้ายของทั้งคู่ยังคงกระตุกบดใส่กันเบาๆ เป็นระยะ
จนความเสียวคลายตัวออกจากร่างจนหมดก็พากันเข้าไปอาบน้ำ ค้ำคื่นนั้นทศพลสามรถปลดล่อยน้ำออกจากร่างได้ถึงสามน้ำ แต่ละน้ำก็ยาวนานกว่าปกติและหลั่งไหลออกมาได้มากอย่างไม่เคยเป็นจนเขาหลับไหลไปด้วยความอิ่มเอมในรสกาม หลังจากทศพลหลับไปกันธิชาก็ลุกขึ้นมาล้วงเข้าไปในกระเป๋าถือกดหยุดการบันทึกภาพเคลื่อนไหวของโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะหยิบมือถืออีกเครื่องในกระเป๋ามาติดต่อไปหาคนคนหนึ่ง
“เรียบร้อยแล้วค่ะเสี่ย...”
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน