พูดคุยก่อนอ่าน : สวัสดีครับ มาพบกับมินิซีรีย์เรื่องใหม่ของผมอย่าง 'คุณหนูร้อนรัก' หรือ 'แหวกกลีบสาวน้องแพรวคนสวย ภาค 2' นั่นเองครับ 55555+
นี่คือเรื่องราวภาคต่อจากภาคแรก เกิดหลังจากตาเกริกเสียชีวิตประมาณ 2 ปี (ซึ่งมีทั้งฉบับใต้ดินและฉบับบนดิน ข้อแตกต่างระหว่างสองฉบับคือ ฉบับบนดินจะมีรายละเอียดเยอะกว่าทั้งเรื่องราวและฉากอีโรติก รวมถึงรายละเอียดเรื่องไทม์ไลน์ อายุของตัวละครในเรื่อง) จะบอกว่าเป็นไซด์สตอรี่ของเกมรักฯ ก็ว่าได้ เพราะมีตัวละครที่เชื่อมโยงกันอย่างหมอพลอย นางเอกนับเบอร์วันของเรื่องนั่นเองครับท่านสามารถติดตามตอนเก่าใน Xonly ได้จากลิงค์ด้านล่างครับตอนที่ 1 : //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=211025.0 ตอนที่ 2 : //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=213437.0ตอนที่ 3 : //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=218316.0ตอนจบ : //two-hitchhikers.ru/eroticasearch/index.php?topic=236844.0บทนำ“เป็นไงบ้างเรา? อยู่อังกฤษสบายดีไหม?” พลอยพรรณเอ่ยปากถามแพรวพรรณน้องสาว ที่เดินทางไปเรียนต่อในคณะบริหารธุรกิจที่ประเทศอังกฤษ “ได้ไปเที่ยวที่ไหนบ้างไหมเรา?”
“ส่วนใหญ่ก็อยู่แต่ในลอนดอนคะพี่พลอย อ้อ!!! เคยขึ้นไปที่เมืองแมนเชสเตอร์กะแก๊งค์เด็กเอเชียที่นัดพวกกันไปดูบอลกัน แพรวไม่รู้เรื่องฟุตบอลอะไรด้วยหรอก ดูไม่เป็น รู้แค่ว่าอากาศหนาว ไม่ค่อยเจอแดด อาหารไม่อร่อย น่าเบื่อ จริง ๆ ทุกที่ในอังกฤษคือน่าเบื่อทั้งหมด!!!” แพรวพรรณรายยาวถึงประสบการณ์ที่อยู่อังกฤษ “คิดถึงเมืองไทยมาก คิดถึงอาหารไทย ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณพ่อถึงส่งให้แพรวมาเรียนที่อังกฤษเร็วขนาดนี้ รอให้จบปริญญาตรีที่ไทยก่อนก็ไม่ได้”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“คุณพ่อคงอยากให้เราได้ภาษาน่ะ…” หมอพลอยผู้เป็นพี่สาวพยายามหาเหตุผลมาอธิบายคำถามของน้องสาว “เอาเป็นว่าอย่าบ่นให้มากนัก เดี๋ยวกลับมาพักที่บ้านหน้าร้อน อยากกินอะไรบอกมา เดี๋ยวพี่เลี้ยง!!”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“พูดแล้วอย่าคืนคำนะคะพี่พลอย!!!” น้องสาวคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุลยิ้มร่า ผ่านโปรแกรมวิดีโอคอลเฟสบุ๊ค “อยากกินอาหารทะเล น้ำจิ้มซีฟู๊ดเปรี้ยว ๆ รสจัด ๆ อ่ะ เบื่ออาหารอังกฤษจะแย่อยู่แล้ว!!! มีแต่ฟิชแอนด์ชิพ จังค์ฟู๊ด เลี่ยน!!!”
“จ๊ะ…” พลอยพรรณยิ้มให้น้องสาวบนโต๊ะทำงานภายในคอนโดของตัวเอง “เดี๋ยวพี่ขอตัวก่อนนะ ที่ไทยตอนนี้ก็จะเที่ยงคืนละ
“ค่ะ แล้วเจอกันนะคะพี่พลอย…” แพรวพรรณยิ้ม
“อ้อ!!! เกือบลืม!!” พลอยพรรณนึกอะไรบางอย่างออก “พี่เห็นเราโพสต์ภาพที่ไปกินเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยน่ะ พี่เข้าใจนะเรื่องวัฒนธรรมของฝรั่ง แต่ไอ้ภาพที่เราถือแก้วเบียร์น่ะ ถ้าเป็นไปได้ คราวหลังอย่าเอาลงอีก เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่จะไม่สบายใจ”
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ค่า…ทราบแล้ว!!!” แพรวพรรณคนน้องลากเสียงยาว “จะเคร่งอะไรนักหนานะ? นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว!!”
“แพรว…” พี่สาวคนโตของบ้านจารุศิริการกุลร่นคิ้วใส่น้องสาว “พี่เตือนเพราะความหวังดีนะ เราเป็นคนเอเชีย ยังไงบางสิ่งบางอย่างมันก็ไม่สามารถอิสระได้แบบพวกฝรั่งหรอกนะ อย่าทิ้งรากเหง้าความเป็นไทย ความเป็นคนของบ้านจารุศิริการกุล ฝากให้คิดด้วย!!”
“ค่ะ เข้าใจแล้ว” น้องแพรวทำหน้าจ๋อย “เดี๋ยวแพรวลบภาพนั้นให้”
“ไม่ต้องหรอก แล้วก็แล้วกันไป” พลอยพรรณปฏิเสธ “แต่คราวหน้า ระวังนิดนึง”
หลังจากการวิดีโอคอลสิ้นสุดลง พลอยพรรณก็เอนตัวบนเก้าอี้ทำงานของตัวเอง พลางเหลือบไปมองภาพถ่ายครอบครัวที่วางอยู่บนโต๊ะ น้องแพรวไปเรียนต่อที่อังกฤษได้สองปีแล้ว
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ตอนแรกท่านวิทยาและคุณหญิงพนิดาตั้งใจว่าจะให้แพรวพรรณเรียนให้จบปริญญาตรีที่ไทยไปก่อน แล้วถึงค่อยให้ไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษในสาขาบริหารธุรกิจ แต่ภายหลังทั้งสองคนได้เกิดเปลี่ยนใจ ให้แพรวพรรณเทียบเกรดจากมหาวิทยาลัยในไทยไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยที่อังกฤษ โดยมีป้าแอน อรวรรณ แม็คคัลลาแฮน ที่แต่งงานกับนักธุรกิจชาวอังกฤษและเปิดร้านอาหารไทยที่กรุงลอนดอนคอยช่วยดูแลน้องแพรวอีกคน
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
“ใครจะไปคิดว่าเด็กขี้แยคนนั้น จะโตมาได้เปรี้ยวเข็ดฟันแบบนี้” พลอยพรรณยิ้มที่มุมปาก เมื่อมองภาพน้องสาวของเธอสมัยที่ยังเป็นเด็กประถมอยู่พร้อมกับรอยยิ้ม “เฮ้อ!!! เริ่มง่วงแล้วแหะ!!! รีบเข้านอนดีกว่า พรุ่งนี้มีประชุมแต่เช้า!!”
ว่าแล้วหมอพลอยในชุดนอนสีขาวก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจไปมา ก่อนเดินไปปิดสวิตซ์ไฟแล้วล้มตัวนอนบนเตียงนุ่มพักผ่อนเอาแรง เพื่อทำกิจวัตรประจำวันในวันพรุ่งนี้ต่อไป
………………………….
ตัดมาที่บ้านจารุศิริการกุล หลังจากการเสียชีวิตของตาเกริกได้ไม่นาน ท่านวิทยาได้รับคนสวนคนใหม่มาทำหน้าที่แทน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นตาเทิด หนึ่งในคนงานที่สวนจารุศิริการกุล สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่ท่านวิทยากว้านซื้อที่ดินจากคนละแวกนั้นเพื่อสร้างสวนดอกไม้ของตัวเองขึ้นมาในเขตอำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี
“ตาเทิด!!! ฝากดูแลดอกกล้วยไม้ให้ดีนะ!!!” ท่านวิทยาเอ่ยปากทักทายตาเทิด เทิดศักดิ์ ชายวัยกลางคนอายุประมาณ 55 ปี รูปร่างสันทัด ผิวคล้ำ ผมยาว ไว้นหนวด ตาเทิดคนนี้จบแค่ ป.6 แต่ด้วยความขยันขันแข็ง เลยทำให้พ่อของท่านวิทยาสมัยที่ยังมีชีวิตเมตตา ก็เลยให้มาทำงานด้วย จนภายหลังพ่อของท่านวิทยาเสียชีวิต ท่านวิทยาก็ดูแลลูกน้องที่เหลือเป็นอย่างดี
“ครับนาย ผมจะดูแลดอกกล้วยไม้พวกนี้ให้ดีที่สุดครับ” ตาเทิดในชุดคนสวนเอ่ยปากกับเจ้านายในชุดเสื้อยืดโปโลสีฟ้า กางเกงสแล็คสีดำ คนสวนของบ้านคนใหม่รับรู้ได้ทันทีว่าเจ้านายของบ้านจารุศิริการกุลจะมีนัดไปตีกอลฟ์กับเพื่อนร่วมพรรคในจังหวัดชลบุรี
“เดี๋ยวลูกสาวข้าก็จะกลับมาแล้ว…” ท่านวิทยายิ้มที่มุมปาก พลางเหลือบมองสวนดอกไม้ที่อยู่หลังบ้านด้วยความสุข “น้องแพรวชอบมาเดินเล่นที่นี่มาก ลูกสาวคนเล็กบ้านข้าชอบดอกไม้ ไม่เหมือนลูกสาวคนโต น้องพลอย ไม่สนใจเลย!!!”
ตาเทิดยิ้มที่มุมปาก หนุ่มใหญ่เคยเห็นลูกสาวของท่านวิทยาทั้งสองคนมาแล้ว แต่นั่นมันก็นานมาก น้องพลอย ลูกสาวคนโต ตาเทิดเคยเจอเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นน้องพลอยยังเรียนอยู่ในโรงเรียนมัธยมชื่อดังของจังหวัดชลบุรี ส่วนน้องแพรว ตอนที่เจอกันครั้งแรก ตอนนั้นน้องแพรวยังเป็นเด็กทารกอยู่เลย
“นายครับ…รถพร้อมแล้วครับ” คนขับรถในชุดเครื่องแบบแขนสั้นสีกรมท่าใส่แว่นดำท่าทางน่าเกรงขามเดินมาบอกเจ้านายว่าใกล้ถึงเวลาที่จะต้องออกเดินทางแล้ว
“ยังไงก็ฝากด้วย!!! เดี๋ยวข้าไปก่อนนะไอ้เทิด!!” ท่านวิทยาเดินขึ้นไปบนรถตู้สีดำ โดยมีลูกน้องคนสนิทเปิดประตูให้ ส่วนตาเทิดก็ก้มหน้าก้มตาเดินกลับไปทำงานที่ได้รับมอบหมายที่สวนหลังบ้านต่อไป
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ตาเทิดรู้จักกับตาเกริกที่นับถือกันเป็นเพื่อนเป็นรุ่นพี่ ทำงานมาด้วยกัน กินข้าวหม้อเดียวกัน ความจริงแล้วถ้าในอนาคต ถ้าหากตาเกริกเกษียณตัวเอง ตาเทิดได้ถูกวางตัวเป็นตัวแทนคนสวนของบ้านจารุศิริการกุล แต่ที่นี้ ตาเกริกมาเสียชีวิตเสียก่อน เลยทำให้ตาเทิดได้มาเป็นคนส่วนของบ้านจารุศิริการกุลเร็วขึ้น
แน่นอนว่าตาเทิดได้มีโอกาสไปในงานศพของตาเกริก ซึ่งทุกคนต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ตาเกริกยังไม่ถึงที่ตาย
“ตาเกริกออกจะแข็งแรง? เห็นอยู่ลัด ๆ ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงตาย?”
“เหล้าก็ไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ มันแปลกมากนะ”
เรียกได้ว่าความตายของตาเกริกเป็นหนึ่งในปริศนาที่เหล่าบรรดาคนรับใช้ของบ้านจารุศิริการกุลต่างร่ำลือกันไปต่าง ๆ นา ๆ แต่ก็ไม่มีใครรับรู้ความจริงนอกจากเหตุแห่งการเสียชีวิต ที่หมอได้ลงความเห็นว่า ‘นายเกริกฤทธิ์เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน’ นั่นเอง
“เฮ้อ…ทำงานของเราต่อดีกว่า” หลังจากคิดอะไรฟุ้งซ่านไปได้สักพัก ตาเทิดก็ทำงานที่ได้รับมอบหมายของตัวเอง คือการรดน้ำ พรวนดิน กำจัดวัชพืชภายในสวนหลังบ้าน เพื่อต้อนรับแพรวพรรณ ลูกสาวคนเล็กของบ้านจารุศิริการกุล ที่กำลังจะเดินทางกลับมาที่นี่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
…และนั่นจะเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความรักและโศกนาฏกรรมครั้งใหม่ ภายในคฤหาสน์หรูของบ้านจารุศิริการกุล
โปรดติดตามตอนต่อไป...