ขอพูดคุยนิดนึง นี่เป็นจักวารใหม่ของดอนป่าไม้ ที่ผมทำเละไป เรื่องนี้ผมจะสร้างใหม่ให้มันไม่เละเหมือนดอนป่าและจะค่อยๆดำเนินเนื้อเรื่องไป อีกอย่างเรื่องนี้จะเป็นเรื่องแรกที่ผมเขียนบนดิน #ขอบคุนทุกท่านที่อ่านครับ
ณ.ร้านอาหารริมทางแห่งหนึ่ง เวลานี้นอกจากรถที่วิ่งผ่านไปมาไม่ขาดสาย ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต่างพากันเดินสวนไปมา บ้างก็เดินกลับบ้าน บ้างก็เดินหาซื้อของ บ้างก็เดินเล่น บ้างก็มีธุระมากมาย หรือบ้างก็หากินข้าวตามร้านค้าที่เรียงรายตามริมถนน ในร้านค้าร้านขายจำนวลมากมายมีเป็นสิบๆร้าน ณ.ร้านๆหนึ่ง ตรงโต๊ะหมายเลข9มุมนึงของร้าน หนุ่มสาวรุ่นใหม่กำลังนั่งกินข้าวสังสรรค์กันอย่างสนุกสนาน ตามความสนิทคุ้นเคยกัน ชายหนึ่ง หญิงสาม นั่งรวมโต๊ะคุยกันไม่หยุดปาก บ้างก็ยิ้มบ้างก็หัวเราะ เป็นเพราะทั้งสี่คนต่างจบการศึกษาและได้ใบประกาศนียบัตรไว้ทำงานต่อแล้ว วันนี้ทั้งสี่ต่างคิดตรงกันและพร้อมจะไปด้วยกัน ไม่ว่าสายที่เรียนมาจะต่างกันแต่ทั้งสี่ที่เป็นเพื่อนกันก็ตกลงกันว่าจะไปเริ่มต้นทำงาน ณ.ที่เดียวกัน!
ย้อนกลับไปในช่วงปี 2533-34 ณ.บ้านเลี้ยงเด็กกำพร้าแห่งในเขตเมืองหลวงอย่างกรุงเทพ เด็กชาย วสันต์ อายุ 6-7ขวบ กำลังนั่เล่นกับ เด็กสาวสามคน น้ำ เนตร บลู ที่มีอายุ 5-6ขวบ ใกล้ๆกัน
"พี่...สันต์...โตขึ้นพี่จะเป็นอะไรหรอ..
"ถามทำไมหรอ...บลู...
"อืม..ถามทำไมหรอ...บลู"เนตรและน้ำสงสัยเมื่อบลูเด็กน้อยเอ่ยถามวสันต์ผู้เปรียบเสมือนพี่ชาย
"ก็เห็นพี่สันต์ตั่งใจเรียนทุกวัน...จนแม่สีดากับครูญานีชมอยู่บ่อยๆว่าพี่สันต์เก่ง...ฉลาด...ตั่งใจเรียน...โตมาต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี...บลูเลยอยากรู้ว่าพี่สันต์โตขึ้นอยากเป็นอะไร..."
"อ๋อ...งั้นเราสองคนก็อยากรู้...ว่าทำไมพี่สันต์ถึงจั่งใจเรียนมาก..."เนตรและน้ำมองวสันต์และเอยถามอย่างสงสัยเหมือนกับบลูเพื่อนของทั้งสอง
"ถ้าน้องๆสามคนอยากรู้พี่ก็จะบอกให้..โตขึ้นอยากเป็น...หมอ! พี่ถึงตั่งใจเรียน!"วสันต์กล่าวอย่างจริงใจ
"ทำไมพี่..สันต์..ถึงอยากเป็นหมอละ..."เนตร น้ำ บลู ถามต่อเมื่อรู้สิ่งที่วสันต์อยากจะเป็นเมื่อโตขึ้น
"ก็เป็นหมอ...จะได้ช่วยรักษาคนเยอะๆไง..เท่จะตาย...แล้วพวกน้ำ..เนตร..บลูละโตขึ้นอยากเป็นอะไร"วสันต์กล่าวอย่างภาคภูมิ พร้อมถามถึงสิ่งที่น้องสาวทั้งสามคนอยากจะเป็นเมื่อโตขึ้น
"น้ำอยากเป็นพยาบาล...
"เนตรอยากเป็นดารา...
"บลูอยาก...เป็นครู...
เด็กสาวทั้งสามคนตอบคำถามของวสันต์เด็กชายคนที่ น้ำ เนตร บลู นับถือเป็นพี่ชายอยางรวดเร็ว แม้จริงๆแล้วทั้งสี่คนรวมวสันต์จะยังเด็ก แต่ทั้งสี่ก็ตั่งใจจะเป็นดั่งที่พูดออกมา จนเกิดเป็นความคิดและเส้นทางที่เกินกว่าเด็กๆจะคิดกันได้
"งั้นเราสี่คนพี่น้องมาสัญญากันไหม...ว่าเราจะทำความฝันให้เป็นจริงเมื่อโตขึ้น..."วสันต์กล่าวกับน้องๆที่ต่างก็แสดงจัดมุ่งหมายออกมา
"ได้...เราสี่คนจะตั่งใจเรียนและทำมันให้ได้เลย.."น้ำ เนตร บลู กล่าวตรงกันเมื่อวสันต์กล่าวขอสัญญา
ทั้งสี่จึงคนตกลงว่าจะตั่งใจเรียนจนบรรลุความฝั้นที่วาดกันไว้ และตั่งใจเรียนกันเอาเป็นเอาตาย แม้จะเป็นแค่เด็กกำพร้าในบ้านเลี้ยงเด็กแม่สีดา!
หลังจากนั้นหลายปีเมื่อทั้งสี่ต่างโตขึ้นถึงวันที่เข้ามหาลัย สั้งสี่ก็สามารถหาเงินส่งตัวเรียนได้ วสันต์ได้เรียนแพทย์อย่างที่ตั่งใจตอนเด็ก ส่วนน้ำเองก็ได้ก็ได้เข้าเรียนที่เดียวกับวสัต์ในสาขาวิชาแพทย์ ด้านบลูและเนตรนั้น บลูสมหวังเธอได้เรียนสายครู แต่เนตร..ไม่ได้..เพราะเธอได้เข้าเรียนต่อในสายครูเช่นเดียวกับบลู ตลอดเวลาที่เรียนแท้ทั้งสี่จะต้องแยกกันอยู่เป็นคู่ๆเพื่อเรียน แต่ทั้งสี่ก็ไม่ทอดทิ้งกันยังคงรักกันเหมือนพี่น้องอย่างเก่าและไปมาหาสู่กันตลอด บางวันก็มีไปกินข้าวกันบ้าง ดูหนังบาง จนเมื่อทั้งสี่อายุย่างเข้า20กลางๆ ก็เริ่มมีความคิดใหม่? และเมื่อวันหยุดมาถึงทั้งสี่คนก็มาพบกันที่ร้านอาหารเดิมๆที่ทั้งสี่เคยกินกันประจำ!
"เราสามคนต่างก็จะเรียนจบกันแล้ว...คิดไว้รึยังว่าจะไปใช้วิชาที่เรียนมาที่ไหน..."วสันต์ในวัย26ที่พึ่งเรียนจบใหม่ๆถามน้องๆทั้งสามที่พึ่งจะว่างมาเจอกันหลังห่างหายกันเกือบปี
"เนตร...กับ..บลูยังไม่ได้คิดเลยค่ะ...พี่สันต์..."เนตรกล่าวเมื่อจบคำถามของวสันต์
"แล้ว...มีที่คิดไว้คราวๆไหม...สองสาว..."วสันต์ถามต่อเมื่อน้องสาวทั้งสองยังไม่มีที่จะไปใช้วิชาที่เรียนมา
"บลูคิดว่า...อืม~อืม...อยากจะใช้วิชาที่เรียนมาให้เกิดประโยชน์ที่สุดค่ะ...เลยคิดคราวๆว่าอาจจะเป็นครูอาสาตามชนบทบ้านนอก"บลูกล่าวบอกวสันต์
"อืมม~ความคิดดีนะ...บลู...แล้วทำไมถึงอยากเป็นครูอาสาละ..."วสันต์ถามด้วยความสงสัย?
"เออออออ~ใช่บลู...ทำไมแกถึงอยากเป็นครูอาสาสอนตามชนบทละ"น้ำกล่าวถามเสริม?
"อืออออ~ก็บลูคิดว่า...ในชนบทที่ห่างไกลยังมีเด็กๆอีกมากมายที่ยังขาดโอกาสที่จะเพิ่มความรู้ ไม่ว่าจะการศึกษาหรือชีวิตที่ดี...บลูเลยอยากจะเป็นผู้ให้บ้างเหมือนที่แม่สีดาที่รับเลี้ยงพวกเรา...เหมือนครูญานีที่สอนพวกเราให้ความรู้ให้โอกาส...จนโตมาถึงทุกวันนี้ค่ะ...บลูเลยอยากจะส่งต่อสิ่งที่ได้รับมาขยายไปสู่ชนบทที่ห่างไกล.."บลูกล่าวอย่างภูมิใจเมื่อน้ำและวสันต์ถาม
"อ๊าไรเนี้ยยายบลู!...อยู่ด้วยกันมาตั่งนานฉันไม่รุ้เลยนะเนี้ยว่าแกคิดไปไกลขนาดนี้"เนตรกล่าวอย่างสงสัยเมื่อรู้สิ่งที่บลูคิดไว้
ด้วยความฝันที่ยิ่งใหญ่ บวกกับความุ่งมั่นและตั้งใจ วสันต์จึงสนใจในสิ่งที่บลูคิด มันเป็นเรื่องดีที่จะกระจายความรู้ไปสุู่ชนบทห่างไกล นอกจากจะเป็นการมอบโอกาสให้ผู้คนในชนบทได้เรียนรู้ ยังเป็นการสร้างสิ่งดีๆขึ้นอีกในช่วงนึงของชีวิต!
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน