แวะคุยก่อนอ่าน
สวัสดีมิตรรักแฟนคลับทุกท่าน (ถ้ายังมีนะ) ตามที่เรียนกันให้ทราบว่าช่วงนี้ชีวิตของกระผมเต็มไปด้วยการอ่านหนังสือและการสอบ เพราะการที่รัฐเริ่มผ่อนคลายคือการที่สนามสอบต่างๆที่สมัครไว้กลางปีทยอยประกาศวันสอบที่เลื่อนมานานชนิดที่ว่ารัวเป็นปืนกล คนที่ซวยก็ไม่พ้นคนสอบเช่นผม
แน่นอนว่าไฟแห่งเดดไลน์มันผลาญอารมณ์มานั่งเขียนเรื่องไปด้วย แต่สัญญาว่าจะเขียนต่อให้จบ
และด้วยการที่เรื่องนี้เป็นการเอาเรื่องเก่ามายำใหม่ แถมยังแต่งลวกที่สุดและผมใช้มันคลายเครียดเลยออกมาได้ครบตอนแบบงงๆ ก็เลยขอนำมาลงไว้ให้หายคิดถึง ก่อนจะหายไปอีกยาวๆ
(ขณะที่ท่านอ่านหนังนี้ กระผมก็น่าจะกำลังสอบเข้าทำงานอยู่ 5555555555555)
ขอให้ทุกท่านมีความสุขครับ Enjoy
ตอนที่ 8สถานการณ์ตอนนี้น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง ชายในชุดเกราะยืนขวางหน้าปีศาจดาบเพลิงเล่มหมึมาแผ่ความร้อนและความอันตรายออกมาอย่างชัดเจน โอเวอร์เองก็รู้จักเทเรซ่าพร้อมกับน้องของนาง
แค่ดูสีหน้านางครู่เดียวเขาก็ทราบว่านางแสร้งทำเป็นพร้อมสู้ต่อเท่านั้น
ถ้าเขามาช้าอีกนิดดีเลนคงสังหารนางหรือจับตัวไปแล้วก็ได้ เขาจะเหลือบมองเผ่าสมิงอย่างกังวลใจแต่ก็ตัดสินใจช่วยมัน การที่เผ่าสาปสูญโผล่ที่นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่
“พาไอ้หนุ่มสมิงตนนี้ไปหาอัล รีบไปก่อนมันจะสิ้นใจไปจริงๆ”
พวกอัลกับทหารกำลังรีบตามมา ตอนนี้มีเพียงเอเลน่าที่พุ่งตรงมาก่อนหน้าพร้อมเขานั้น หากไม่มีใครขัดขวางคงช่วยชีวิตมันทันเวลาพอดี
โชคดีที่เขาเคยอ่านเจอเรื่องราวของเผ่าสมิงนอกจากจะต้านทานเวทย์เกือบทุกชนิดและเวลาบาดเจ็บหนักจนถึงตายอย่างไรก็จะไม่ตายในทันที เผ่าสมิงจะมีเวลาก่อนตายครู่หนึ่ง ที่จริงมันคือเวลาสั่งเสีย แต่เวลาครู่เดียวนั้นอัลสามารถยื้อชีวิตของสมิงตนนี้ได้ด้วยฝีมือทางการแพทย์
แม้เขาจะไม่ไว้ใจเผ่าสมิงเลยก็ตามทีก็เถอะ
เทเรน่ามองโอเวอร์อย่างกังวลใจก่อนจะหันไปพยุงร่างไร้ลมหายใจของสมิงตนนั้นถอยออกไปตามคำของสหาย
“แม่หนูเอเลน่า เจ้าตามนางไปปกป้องนางและสมิงนั่นให้ข้าหน่อย”
“แต่ไอ้แวมไพร์ตนนี้มันร้ายกาจมาก ท่านจะ….”
“ข้าบอกให้ถอย...ออก...ไป”
เขากล่าวด้วยเสียงที่แข็งกระด้างผิดกับปกติลับลับ แม่ทัพหนุ่มสืบเท้าออกไปหาดีเลนที่ฉวยโอกาสนำแขนมาต่อไม่นานแขนที่ขาดก็เชื่อมกันจนหายสนิท แม้มันจะยังบาดเจ็บแต่เขาก็จะดูถูกพลังของมันไม่ได้
ก่อนที่เอเลน่าจะเปิดปากแย้งอะไรกระแสพลังเกรี้ยวกราดก็พวยพุ่งออกมาจากตัวโอเวอร์ บรรยายบริเวณนั้นเหมือนกับกำลังจะลุกเป็นไฟจนเอเลน่าถึงกับต้องหลบคลื่นความร้อนออกมา
“ขะ แข็งแกร่งมาก นี่มันเวทย์เพลิงแบบไหนกัน”
เอเลน่าถึงกับตะลึงไม่ต้องจับกระแสเวทย์เป็นก็รู้ได้ถึงระดับพลังที่แตกต่างจากคราวไปบุกรังโจรลิบลับ
เธอกำลังจะได้พบเห็นการต่อสู้ในระดับที่ไม่เคยคาดคิด
แต่ฝั่งดีเลนกลับขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างโมโห มันกำลังจะได้ลิ้มรสเทเรน่าอยู่แล้ว แต่ทั้งไอ้สมิงทั้งไอ้นักดาบเพลิงนี้ ดาบเพลิงงั้นเหรอ!! มันนึกออกแล้วว่าเคยเจอข้อมูลตอนวางแผนออกศึก
“แกคือ ลอร์ดโอเวอร์สินะ”
“เออ จำชื่อคนฆ่าไปบอกยมราชด้วยละ”
"ลองดูก่อนค่อยมาปากดีเจ้ามนุษย์"
ฟุบบบ เคร้งงงงง
แวมไพร์ร้ายโผล่ขึ้นมาอยู่เหนือหัวโอเวอร์และฟาดขาใส่กลางศรีษะแต่ดาบก็ถูกยกขึ้นมาขวางป้องกันไว้ทัน แต่พื้นที่ใต้เท้าโอเวอร์ก็แตกเท้าจมลงไปเล็กน้อย
โอเวอร์เพิ่มแรงดันมันให้ลอยกลับขึ้นไปและกระโดดฟันใส่ด้วยดาบเพลิง
ดีเลนรวบรวมพลังเวทย์หุ้มที่ท่อนแขน ยังไงมันก็ไม่ขอเสี่ยงรับดาบเพลิงนี่ด้วยแขนเปล่าๆ ถึงจะฟื้นฟูได้แต่มันก็ไม่ชอบความเจ็บปวดนัก
พลังสองสีปะทะกันลั่นก่อนเจ้าค้างคาวจะเป็นฝ่ายถอยกลับมาดูเชิงใหม่
เพียงกระบวนท่าด้วยมันก็รู้ว่าลอร์ดผู้นี่มีฝีมือไม่ต่ำกว่าเทเรซ่า ถือว่าตึงมือไม่น้อย
แต่ใช่ว่าจะเอาชนะไม่ได้ มารร้ายพุ่งใส่ตรงๆกำมือสองข้างอัดพลังใส่ชกออกพร้อมกัน นักรบเพลิงยิ้มเหี้ยม เข้ามาตรงแบบนี้ก็สวยสิวะ
ดาบเพลิงตวัดฟันเข้าปะทะ ทั้งสองเร่งเร้าพลังผลักอีกฝ่ายให้กระเด็นแรงปะทะทำให้พื้นใต้พื้นทั้งคู่แตกออกกระแสปั่นป่วน เอเลน่าต้องกระโดดถอยหลบแรงกดดันจากพลังสองสายที่ปะทะกัน
ดีเลนเกร็งแรงแขนผลักดาบเพลิงถอยกลับไปช้าๆ ในใจก็ดูแคลนคู่ต่อสู้เบื้องหน้ามันสืบเท้าไปด้านหน้าทุ่มพลังหมายซัดให้โอเวอร์ปลิวในทีเดียว มันชะโงกหน้าเข้าไปหมายจะดูใบหน้าที่หวาดกลัวของศัตรุ
แต่กลับพบว่านักรบหนุ่มบริกรรมเวทย์อยู่พร้อมๆกับออกแรงต้านการโจมตีของมัน
ทั้งทีพลังของมันก็อยู่ระดับสูงของเผ่าพันธ์แต่มนุษย์คนนี้กลับยืนรับการโจมตีตรงๆได้แถมแบ่งพลังและสมาธิมาร่ายเวทย์แบบซึ่งๆหน้า นี่มันวิธีสู้แบบไหนกัน?
“...ข้าขอวิงวอน โปรดประทานเพลิงกำราบมาร”
โอเวอร์ลืมตาขึ้น ออกแรงผลักหมัดของมันให้ถอยกลับไป ดีเลนพยายามออกแรงต้านแต่กลับโดนผลักให้ถอยหลังอยู่ฝ่ายเดียว เท้าไถลถอยจนเป็นรอยลึก มันสู้แรงอีกฝ่ายไม่ได้เลยแสดงว่าที่ผ่านมาเจ้านี่แค่ถ่วงเวลาเพื่อร่ายเวทย์แค่นั้น ไอ้มนุษย์บัดซบ!
“หึยยยยย ยาาาาาส”
โอเวอร์รีดพลังออกมาดาบยักษ์ฟันลงมาด้วยพลังมหาศาล ปีศาจค้างคาวไม่อาจต้านทานได้ปลิวไปตามแรง ดีเลนถึงจะพลาดท่าแต่ก็ว่องไวสมกับที่เป็นแม่ทัพอสูรมันกางปีกต้านลมร่อนลงพื้น ถึงจะทำแบบนั้นก็ไถลออกไปเกือบสองเมตร แต่นั้นเป็นการโจมตีเปิดฉากแค่นั้น วงเวทย์สีแดงเพลิงเปล่งแสงลำแสงเพลิงรูปเกลียวหมุนพุ่งใส่ตามไล่หลังร่างที่กระเด็นแทบจะทันที ดีเลนที่พึ่งจะทรงตัวได้เห็นแบบนั้นก็ทิ้งตัวหงายหลังหลบเวทย์ทัน ป่าด้านหลังโดนระเบิดลุกเป็นไฟไอร้อนแผ่มาถึงใบหน้าซีดไร้สีเลือดของมัน
มันดีดตัวขึ้นหมายจะพุ่งเข้าไปเอาคืนศัตรู แต่ก็พบดาบเพลิงที่เงื้อเตรียมฟันพร้อมกับวงเวทย์อีกสองวง
ฟิ๊วๆๆๆๆ บรึมๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
คลื่นพลังจากดาบถูกปล่อยมาพร้อมกับลูกไฟจากวงเวทย์ขนาดเท่าส้มโอนับสิบๆลูก การโจมตีปูพรมทำเอาฝุ่นคลุ้งทั่วพื้นที่
“สำเร็จ!!!”
เอเลน่าเฮลั่น มันไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะหลบพ้นแน่ โดนเวทย์เพลิงระดับกลางพร้อมกับดาบเพลิงเข้าไปขนาดนั้นเจ้าผีค้างคาวหน้าซีดนั้นกลายเป็นผงแน่นอน
“ถอยออกไปอีก มันยังไม่จบ”
โอเวอร์หันมาตะโกนบอกเอเลน่า ก่อนกระโดดพุ่งขึ้นไปด้านบนพอดีกับร่างสีดำไปทะลุกลุ่มควันขึ้นมา
ถ้าใช่แค่เวทย์ระดับกลางสองบทแล้วมันตาย เขาคงไม่ต้องถ่อมาถึงนี้หรอก
โอเวอร์คำนวนไว้แล้ว ศัตรูของเขาตึงมือกว่าที่คาดมันน่าจะเป็นศัตรูที่แกร่งที่สุดเขาเจอ
โดนเวทย์ปูพรมไปแบบนั้น ศัตรูคงจะเลือกหุ้มร่างด้วยพลังเวทย์พุ่งผ่าออกมาดีกว่ายืนรับพลังทำลายเต็มๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ถูกต้องแล้ว แต่เขาคำนวนไว้แล้วว่ามันต้องหนี เขาเลือกเตรียมปิดฉากมันอยู่บนนี้ไงล่ะ บางทีความฉลาดก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไปโดยฌฉพาะกับพวกที่คิดว่าตัวเองฉลาดแบบเจ้านี่
“ลาละไอ้ผีดูดเลือด”
ดีเลนที่มีไฟติดตามตัวเล็กน้อย พุ่งขึ้นมาเจอศัตรูที่ดักรออยู่ถึงกับหน้าซีด
เวทย์อีกสามบทถูกปล่อยพร้อมกัน ดาบเพลิง ขวานเพลิง ค้อนเพลิง ลอยออกมาจากวงเวทย์ ดาบยักษ์ในมือโอเวอร์สว่างวาบและฟาดใส่มันพร้อมอาวุธเวทย์อย่างพร้อมเพรียง
ตูมมมมมมมม
เพลิงขนาดยักษ์ปรากฎกลางอากาศ ต้นไม้ที่อยู่รอบบริเวณเอนไปตามแรงระเบิด
โอเวอร์มองไปลงที่พื้น ต้นไม้แถบหนึ่งหักโค่นเป็นทางยาวไม่กี่วินาทีไอ้ปีศาจที่ควรจะตายในการโจมตีกลับเดินออกมาจากทิศนั้น แม้จะมีแผลไหม้ขนาดใหญ่ แต่ในเมื่อมันยังไม่ตายแผลจะใหญ่แค่ไหนก็จะค่อยๆถูกรักษาเอง แถมปัญหาใหญ่ไม่ได้อยู่ตรงนั้น ปัญหาใหญ่อยู่ตรงที่ตอนสู้กับเทเรซ่ามันยังไม่ได้เอาจริงเต็มที่ โอเวอร์มองกระแสเวทย์ที่เปลี่ยนไปและลอบกลืนน้ำลาย
ดีเลนคำรามราวสัตว์ร้ายพลังเวทย์สีดำกลายเป็นสีแดงดุจเลือด มันยอมใช้วิชาลับของมันเวทย์โลหิต
กล่าวกันตามตรงปีศาจทุกตัวใช่ว่าต้องมีธาตุมืดเท่านั้น แต่ระดับชั้นสูงๆล้วนเป็นพวกใช้เวทย์ความมืดแทบทั้งหมด ซึ่งนั้นไม่ได้แปลว่าเวทย์ที่ร้ายแรงที่สุดของปีศาจเป็นเวทย์ความมืดเสมอไป
การซุกเวทย์ลับของเผ่าพันธุ์เอาไว้เพื่อจัดการไอ้พวกนักรบธาตุแสงก็เป็นทริคที่ใช้กันประจำในแวดวงปีศาจชั้นสูง
สำหรับแวมไพร์เลือดแท้แบบมันจะมีอะไรทรงพลังไปกว่าเลือดอีกเล่า แวมไพร์ที่แก่กล้าล้วนใช้เวทย์โลหิตได้ แถมดีเลยก็ช่ำชองในเวทย์ทั้งสองจนนำมาผสมกัน
เวทย์ลับโลหิตทมิฬ
มันเอาชนะเทเรซ่าได้ก็เพราะแอบใช้เวทย์ลับหุ้มร่างเอาไว้ตอนถูกการโจมตีครั้งสุดท้าย โชคดีที่มันคิดถูกไม่งั้นมันคงสลายเป็นผงไปแล้ว
แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มันจะใช้เวทย์นี้สู้กับมนุษย์ มนุษย์เผ่าพันธ์อันต่ำต้อยกลับบีบให้มันต้องพลังสุดยอดได้ ความตายของไอ้นักดาบเพลิงคงไม่พอสำหรับความแค้นนี้
กระแสกดันจากพลังสองสายปะทะกันทำให้บรรยากาศรอบๆแปรปวน
โอเวอร์จ้องดวงตาสีแดงอย่างไม่เกรงกลัวดาบเพลิงลุกโชนเปลวไฟคล้ายเริงระบำ โอเวอร์ตั้งท่าเตรียมพร้อมงานนี้หนักหนากว่าที่คิดแน่
เปรี้ยงงงง
ทั้งสองพุ่งตรงเข้าหากันกรงเล็บสีเลีอดฟาดใส่ดาบเพลิงตรงๆ
"กรอดดด" "ย้ากกกก"
ต่างฝ่ายเร่าเร้าพลังขึ้นหมายจะดันอีกฝ่ายให้ปลิวจากแรงปะทะ พลังเวทย์สองสายพยายามบดขยี้แต่ละฝั่ง ทั้งสองจ้องหน้ากันเขม็งก่อนจะกระเด็นออกไปทั่งคู่
แวมไพร์เซเสียหลักจนต้องตีลังกาหลังและกระโดดขึ้นสลายแรงและสยายปีกขึ้นก่อนร่อนลงอย่างสง่างาม ส่วนโอเวอร์ถ่วงน้ำหนักลงพื้นจนเป็นรอยแตกเป็นทางยาวก่อนจะปักดาบลงพื้นจึงตั้งหลักได้
พลังทำลายกลับกลายเป็นไม่มีใครเสียเปรียบใคร ทั้งสองคำนวณพลังคู่ต่อสู้คราวๆในใจและพุ่งเข้าฟาดฟันกันอีกครา
เปรี้ยง เปรี้ยง ตูมมม เปรี้ยง!!
เปรี้ยงๆๆๆ
ความว่องไวในการออกกระบวนท่าเร่งสปีดขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองฟาดฟันกันหลายสิบท่าโดยไม่มีใครได้เปรียบใคร การต่อสู้ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ จนเอเลน่าเริ่มมองตามไม่ทัน ดาบยักษ์อาบเปลวเพลิงฟันปาดไปมาเห็นเป็นเส้นสีแดงรอบด้านส่วนปีศาจร้ายก็แทบจะกลายเป็นเงาสีเลือดพุ่งเข้าใส่แม่ทัพเพลิงทุกทิศทุกทางเช่นกัน
"ไปได้แล้วแม่หนู ตามข้ามา"
เอเลน่าได้สติจากภาพการต่อสู้เธอกล้ำกลืนความเจ็บปวดลึกในความอ่อนแอลงไปก่อนจะกระชับหอกวิ่งนำเทเรซ่าไปที่ม้าแต่ก็มิวายหันไปมองอย่างกังวล
"เขาไม่แพ้ง่ายๆหรอก ก็หมอนั้นบอกว่าจัดการเองก็คือจัดการเอง เห็นแบบนั้นตานั่นก็เป็นผู้ชายที่รักษาสัจจะคนนึงเลย เขาไม่ผิดคำพูดหรอก"
เทเรซ่าขึ้นม้าพร้อมกับพูดกับเอเลน่า ม้าสองตัววิ่งหายลับเข้าไปในป่าทิ้งให้สองแม่ทัพสองเผ่าเข่นฆ่ากัน
ครู่ใหญ่ๆการปะทะก็หยุดลง ทั้งคู่ทิ้งระยะห่างตั้งหลัก แม้ทั้งคู่จะไม่มีบาดแผลฉกรรจ์อะไรแต่ตอนนี้ความได้เปรียบเอนเอียงไปหาเจ้าอสูรร้ายแล้ว ดีเลนมองที่ปลายเล็บยาวที่เปรอะเลือดศัตรู
"เจ้านี่อันตรายกว่าเทเรซ่าอีก แกร่งกว่ามาก อันตรายยิ่งกว่าแต่…..เสียข้อเดียวเจ้าช้าเกินไป"
โอเวอร์ทรุดลงเอาเข่าซ้ายยันพื้นไว้ ปลายดาบชี้ไปหามันไม่ยอมละสายตา ลมหายใจหอบมีแผลบาดจากกรงเล็บมีอยู่ทั่วร่างแม้จะมีเกราะช่วยให้แผลไม่ลึกนักแต่มันก็บ่งบอกว่าแวมไพรร้ายได้เปรียบ
ไอ้ผีบ้าตนนี้มันไวมากเขาแทบไม่มีโอกาสฟันสวนแค่ปัดป้องก็ยากลำบากแล้ว ลืมเรื่องร่ายเวทย์ไปได้เลย แถมมันไม่รีรอจะแลกกับตนคนละแผล ถึงแม้มันจะบาดเจ็บกว่าแค่ไหนแต่อาการบาดเจ็บก็จะค่อยหายต่างจากเขาที่ยิ่งนานยิ่งอ่อนล้าลงเรื่อยๆ
ดีเลนผ่อนคลายความเคร่งเครียด ชัยชนะอยู่ในกำมือมันเรียบร้อยแล้ว
"พลังแกไม่อาจเอาชนะข้าได้ ข้าฟื้นตัวได้แต่เจ้าไม่ ข้าก็แค่รอให้เจ้าหมดแรงค่อยลงมือสังหารเจ้า"
ถ้ามันใช้พลังเต็มที่เทเรซ่าเสียท่ามันนานแล้วแต่นิสัยชอบทรมานเหยื่อทำเอามันอดเชยชมนางไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งโทสะทั้งหมดเจ้าปีศาจก็จะระบายกับการทรมานไอ้นักรบตรงหน้าแทน
โอเวอร์ก็พยักหน้ายอมรับความจริงเขาค่อยๆชันตัวลุกขึ้นใช้มือปาดรอยเลือดที่มุมปากที่ซึมออกมา
“จริงของเจ้าเป็นแบบนี้ข้าคงยื้อเจ้าไว้ได้ราวหนึ่งวันก่อนจะตาย แต่พอดีนี่ไม่ใช่พลังทั้งหมดที่ข้ามี เจ้ามีวิชาลับ ข้าก็มี"
โอเวอร์หลับตาครู่เดียวเปลวไฟที่ดูอ่อนแรงพุ่งขึ้นฉับพลัน ร้อนยิ่งกว่าเมื่อครู่ดีเลนรีบถอยกรูดออกเพิ่มระยะห่าง
วิชาที่เขาพึ่งค้นพบ
เวทย์เพลิงบรรกาล ผสานร่างพระเพลิง
วิชาดาบของโอเวอร์ก็คือเวทย์เพลิงผสานเพลงดาบ แต่ไม่กี่เดือนก่อนโอเวอร์ฝึกเวทย์ดาบจนค้นพบการเข้าถึงแหล่งอำนาจแห่งโบราณกาล นั้นทำให้เศษเสี้ยวของอัคคีเทพมาอยู่ในตัวเขา
โอเวอร์กู่ร้องเต็มเสียงพร้อมกับพลังที่ล้นทะลักออกมาไหล่เขามีเปลวเพลิงพวยพุ่งออกมาคลุมเกราะ ดวงตาสว่างไสวดุจดั่งดวงตะวัน ดาบในมือแดงฉานราวเหล็กร้อนเปลวไฟที่ร้อนยิ่งทวีคูณขึ้น
“แดนสมรภูมิเพลิง”
เพียงแค่พูดสั้นๆเวทย์อาณาเขตระดับสูงก็ถูกใช้ออกมา วงเวทย์สีแดงกางออกรอบทิศโดยโอเวอร์เป็นศูนย์กลาง เสาหินสีแดงมีลายอักขระฝุดขึ้นมาพร้อมกันห้าต้นเชื่อมกันเป็นทรงห้าเหลี่ยมปิดทางหนีของดีเลนไว้หมดสิ้น เวทย์เพลิงทุกบทที่เขามีจะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นตราบใดที่ยังใช้เวทย์เพลิงบรรพกาลอยู่
เวทย์อาณาเขตที่เคยใช้จึงยิ่งทวีอำนาจจนขังอสูรระดับนี้ไว้ได้
ดีเลนถึงก็เหงื่อตก หากเป็นสภาพที่เต็มร้อยมันก็อยากจะวัดกับเวทย์ผสานร่างของโอเวอร์เหมือนกัน แต่ตอนนี้ไม่ใช้กลางคืนเวทย์ความมืดบางบทก็ใช้ไม่ได้แถมมันเหลือพลังแค่ครึ่งเดียว แถมเวทย์อาณาเขตก็ค่อยเผาผลาญพลังของมันช้าๆ
แต่นั้นก็ยังมีทางชนะหากมันถ่วงเวลาได้นานพอ มันมั่นใจว่าโอเวอร์เองก็ใช้พลังเวทย์นี้ไม่ได้นานเช่นกัน ตอนนี้อยู่ที่ว่ามันจะตายก่อนหรือโอเวอร์จะหมดแรงก่อน
ทุกอย่างยังอยู่ในแผน
แวมไพร์หนุ่มใคร่ครวญถึงแผนการ หน้าที่ของมันคือหลบไปเรื่อยๆ พอคู่ต่อสู้มันหมดฤทธิ์ก็ค่อยฆ่าไอ้กางขวางคอนี่ทิ้งเสีย
“แค่ยืมพลังเสี้ยวเดียวจากเทพเพลิงได้ก็ ปากกล้าแล้ว ข้าจะตัดหัวเจ้าไปให้นางดู”
แต่อีกฝั่งไม่ตีฝีปากให้มากความดาบเพลิงยกขึ้นฟาดฉีกอากาศ คลื่นดาบร้อนระอุพุ่งใส่มัน ดีเลนถอยฉีกไปอีกด้านก็พบว่าโอเวอร์สะบัดดาบปล่อยคลื่นดาบใส่พร้อมกับค่อยๆพุ่งเข้ามาทีละนิด แถมขยับใกล้เท่าไหร่ก็เหมือนการโจมตีจะยิ่งถาโถมใส่มันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ
โอเวอร์ที่กลายเป็นฝ่ายไล่ฟาดฟันร่างขาวซีดที่ตั้งรับอย่างรัดกุม เจ้าปีศาจเลือกเปลี่ยนวิธีสู้ค่อยหลีกเลี่ยงการปะทะตรงๆ พลังทำลายที่โอเวอร์มีฆ่ามันได้ในไม่กี่ดาบ เพราะฉะนั้นอย่าไปโดน
แต่มันก็โดนพลังทำลายล้างกดดันจนไม่มีที่ให้หลบหลีกและเริ่มพลาดท่า
เปรี้ยงงง!! ตูมมมมม!
ดาบไฟในมือตวัดหมุนรอบตัวแล้วปล่อยคลื่นพลังอัดดีเลนที่กางเกราะป้องกันรับแต่ตอนนี้พลังของโอเวอร์นั้นหาได้อยู่ในระดับเดียวกับมันแล้ว ม่านพลังโดนคลื่นดาบระเบิดทิ้ง แรงอัดและเปลวไฟกระแทกดีเลนกระเด็นไปไกล โอเวอร์ไม่รอช้ากระหน่ำคลื่นดาบใส่มันพร้อมเวทย์อีกนับสิบบท เวทย์ธรรมดาตอนนี้ก็เลื่อนขั้นกลายเป็นเวทย์อานุภาพทำลายล้างสูงจนแวมไพร์หนุ่มตั้งรับมือไม่ทัน โดนคลื่นอัดกระแทกพื้นจนยุบลงไปเป็นหลุมลึก
แรงปะทำเอามันสะเทือนไปทั้งตัวและโอเวอร์ก็ตามมาแบบไม่ให้มันได้ฟื้นตัวแต่ก่อนดาบยักษ์จะบดร่างมันแหลก ดีเลนรีบสลายร่างเป็นค้างคาวหลบ
“ไอ้บัดซบ!! ตาข้าบ้าง คลื่นโลหิตผลาญชีพ”
มันที่วกหลบไปด้านหลังยิงคลื่นสีเลือดอัดโอเวอร์เข้าไปหลุมแทน พื้นดินใกล้ๆถูกพลังอัดจนแตกกระจาย ดีเลนรีบฉวยโอกาสกระหน่ำยิงเวทย์หลายสิบบทใส่โอเวอร์ที่ก้นหลุมเอาคืนไม่ยั้งจนมันต้องเป็นฝ่ายเหนื่อยหอบก่อนจะเห็นเปลวไฟที่ก้นหลุม
“ไม่จริง มันแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ”
ดีเลนอุทานก่อนจะลอยหลบคลื่นเพลิงที่ยิงสวนคืนมา ไอร้อนของลำแสงเป่าเสื้อและเนื้อช่วงไหล่มันไหม้ไปแถบหนึ่ง มันกัดกรามด้วยความปวดแสบปวดร้อน
โอเวอร์ค่อยๆลอยออกมาจากหลุมแต่เปลวเพลิงอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัดและมุมปากก็ยังมีเลือดสดๆไหลออกมากช้าๆ
จอมผีร้ายแสยะยิ้มมันต้องค่อยหลบและสวนไปเรื่อยๆ วิธีเดิมยังได้ผลพลังของมันยังทำให้มนุษย์คนนี้บาดเจ็บได้ ต้องเพิ่มบาดแผลไปเรื่อยๆ
“ใกล้หมดพลังแล้วละสิ ไอ้นักดาบ”
พอเห็นช่องทางเอาชัย ปากซีดก็ถากถางอีกฝ่ายทันที
“ยังพอจะเผาแกเป็นจุญได้ละกัน”
โอเวอร์เร่งพลังตนอีกครั้งก่อนทั้งสองจะเข้าปะทะกันอีกรอบ
แต่กลับกลายเป็นดีเลนที่ค่อยๆบาดเจ็บสะสมมากขึ้นๆยิ่งนานเท่าไหร่โอเวอร์ก็เริ่มจะไล่ดีเลนจนจวนเจียนจะเร็วกว่า ปีศาจร้ายเริ่มจนมุมขึ้นเรื่อยๆดายที่ฟันมันได้ถากๆตอนนี้เริ่มเข้าเป้ามากขึ้นบาดแผลเริ่มผุดขึ้นตามตัวแม่ทัพแวมไพร์ บ่งบอกชัดเจนว่ามันเริ่มรักษาตัวเองไม่ทัน ไม่กี่นาทีถัดมาโอเวอร์มันก็ฟันได้จังๆ ร่างสีดำร่วงไปกระแทกพื้นแต่ก็ฉีกตัวหลบดาบที่พุ่งมาซ้ำทันหวุดหวิดใบหน้าที่เคยยิ้มเยาะบัดนี้ซีดเซียว ตอนนี้มันกลายเป็นฝ่ายที่ต้องหลบหัวซุกหัวซุน
มันรู้สึกตัวแล้วว่าที่จริงมันตั้งหากที่เริ่มช้าลง มันประมาทไป เวทย์เขตแดนนี้แรกเริ่มมันค่อยเผาแบบเบาๆทำให้รำคาญ แต่พอเวลาผ่านไปมันยิ่งส่งผลต่อเนื่องขึ้นนานขึ้นเปลวเพลิงที่พลาดไปโดนเขตแดน ตัวเวทย์เขตแดนก็จะสูบเอาความร้อนมาสะสมเพิ่ม
ยิ่งนานความร้อนที่เผาก็มากขึ้นๆจนแผลมันเริ่มหายช้าลงทีละนิดๆ พลังความมืดโดนเขตแดนเวทย์กัดกร่อนเผาช้าๆ พอมันรู้ตัวพยายามทำลายเขตแดนก็พบว่าต้องใช้เวลาสะสมพลัง แต่ตอนนี้มันต้องใช้พลังทั้งหมดกับการหนีตายจากดาบเพลิง ขืนยืนร่ายเวทย์พังเขตแดนเพลิง ดาบใหญ่ก็หั่นมันเป็นชิ้นๆ แวมไพร์หนุ่มหมดมุก หลายครั้งมันต้องยอมเสียมาดกระโจนและคลานหนี ดีเลนมองดาบเพลิงอย่างเจ็บใจมันเสียรู้ศัตรูเข้าให้แล้ว แผนการบ้าอะไรกันวะ มันด่าในใจก่อนจะกระโจนหนีดาบเพลิงที่เฉี่ยวคอมันไปไม่ถึงคืบ ไฟที่ดาบเผาใบหน้ามันแทบไหม้
“ยังทันเวลา”
โอเวอร์คิดในใจและเร่งความเร็วขึ้นอีกขั้น นักรบหนุ่มสูดลมหายใจลึกๆ ดึงเพลิงจากขุมพลังออกมาจนถึงขีดจำกัด
ลุกโชนขึ้นอีก
เผาไหม้กว่านี้
ร้อนให้ยิ่งกว่านี้
ร่างเขาใช่ว่าจะทนได้นาน โอเวอร์เองก็กัดฟันทนเช่นกันเพียงแต่สีหน้ายังเรียบเฉยไม่ให้รู้ว่าสภาพของเขาก็ใกล้วิกฤตขึ้นมาทุกขณะ
ร่างโอเวอร์พุ่งไปเห็นเพียงร่างสีเพลิงโฉบใส่ดีเลนที่กลายเป็นฝ่ายรับไม่อาจกระดิ้กร่างหลบหนีได้อีก มันฝืนรวบรวมพลังที่เหลือป้องกันอย่างจนตรอกม่านพลังสีแดงห่อหุ้มร่างอย่างหนาแน่น
แต่ดาบเพลิงก็กระหน่ำใส่เกราะสีเลือดอย่างไม่ลดละ เมื่อดาบที่ห้าฟาดเข้าไปรอยร้าวก็ปรากฎขึ้น
ดาบที่ยี่สิบเกราะมีแต่รอยแตกร้าว
ในที่สุดดาบที่ยี่สิบห้าก็ฟาดเกราะของดีเลนกระจาย มันปลิวล้มกลิ้งหลายตลบก่อนจะตั้งหลักทะยานหนีต่อ แต่บัดนี้มันกลายเป็นฝ่ายตามความเร็วไม่ทันไปซะแล้ว
ดาบยักษ์ฟันเข้าครึ่งตัวมันจังๆ เลือดที่ติดดาบระเหยเป็นไอแทบจะทันใด
"อ้ากกกก เจ้ามนุษย์บัดซบบบ"
ร่างมันชะงักเพราะแผลฉกรรจ์ ดาบยักษ์ในมือรอเวลานี้มานานหมุนตัวฟันเสยมันขึ้นฟ้าและตามขึ้นไปกระหน่ำมันไม่ยั้ง ดาบตวัดเป็นแสงสีแดงนับสิบๆสายชำแรกร่างมันอย่างโหดเหี้ยม
แวมไพร์หนุ่มมีแผลและเลือดท่วมร่าง โลหิตแดงคล้ำแทบจะระเหยทันทีที่ออกจากปากแผล
"เห็นมั้ยล่ะทันเวลาพอดี"
โอเวอร์จับดาบด้วยสองมือดาบเพลิงสว่างเจิดจ้าฟันสะบัดหัวของเจ้าผีร้าย
"ใช่ ทันเวลา"
มันตอบกลับมาและหลับตาพริ้มน้อมรับชะตากรรม
ดาบสุดท้าย!!!
เวทย์เพลิงบรรพกาล โทสะอัคคี
จบสิ้นเสียที ด้วยท่าที่ทุ่มด้วยพลังไฟที่เหลือทั้งหมดต่อให้มันอึดกว่านี้อีกสามเท่าก็ไม่รอด
ฟ๊าวววววว ฉึกกกกก!!
แต่ทว่าก่อนคมดาบจะถึงลำคอเจ้าผีร้ายลูกธนูยักษ์ดอกหนึ่งก็พุ่งแหวกผืนป่าออกมา ศรลมหมุนเจาะทะลวงฉีกผ่านเวทย์อาณาเขตเข้ามาอย่างรวดเร็ว ศรลมยักษ์พุ่งเข้าปักกลางหลังโอเวอร์ที่กำลังจะเอาชัยได้สำเร็จ ลูกศรขนาดท่อนขามนุษย์ไม่เพียงทรงพลังพอจะเจาะเกราะและร่างเพลิงเทพเจ้าของโอเวอร์ แต่เมื่อมันหมุนทะลวงเจาะคว้านเข้าไปในร่างได้ลูกศรนั้นยังปล่อยเวทย์ลมในร่างโอเวอร์ฉีกบาดแผลจากด้านในซ้ำอีก
โอเวอร์สะท้านเฮือกๆเพราะโดนเวทย์ลมในลูกศรคว้านภายในจนสาหัส เขากระอักเลือดออกเปรอะหน้าแม่ทัพแวมไพร์ดาบเพลิงที่เงื้อฟันค้างชะงัก เปลวไฟหดตัวแทบวูบลง ดีเลนฉีกยิ้มอย่างมีชัยก่อนจะแทงกรงเล็บที่อัดด้วยเวทย์โลหิตใส่โอเวอร์ในระยะประชิด ฉกขิงชัยชนะไปในพริบตาเดียว
"อั่กกกก บ้าที่สุด"
กรงมือนั้นทะลวงร่างเขาเกือบทะลุ โอเวอร์พยายามขยับดาบที่ฟาดคอให้ตัดหัวเจ้าแวร์ไพร์
“ดื้อด้านจริง ตายยากนักใช่มั้ยเอาไปอีกกก”
มันถ่ายพลังเวทย์เพิ่มที่มือฉีกแผลจากกรงเล็บให้ลึกขึ้น โอเวอร์กระตุกตาค้างร้องด้วยความเจ็บปวดสาหัส
แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยดาบ แม้เปลวไฟกำลังริบหรี่ลงเรื่อยๆ เขาพยายามขยับดาบเพื่อบั่นคอแต่ไม่อาจขยับร่างได้อีก ชัยชนะเป็นของอีกฝ่ายอย่างเบ็ดเสร็จ
"ข้าจะเอาหัวเจ้ามาตั้งที่เตียงแล้วลากเทเรซ่ามาย้ำยี น้ำกามที่ทะลักออกจากรูนางข้าใช่กระโหลกเจ้ารองเก็บไว้ ฮะๆๆๆสะใจข้าจริงงง"
ดีเลนอัดพลังใส่ร่างโอเวอร์ที่บัดนี้กลับกลายเป็นเหยื่อในอุ้งมือมัน เลือดสดๆไหลออกจากแผลทะลักหยดลงพื้นดินด้านล่างจนเป็นแอ่ง  
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน