ตอนนี้ซ่อนหน่อยนะครับ เช็กเรทคนอ่านจริงๆ
สามารถคอมเมนท์อะไรก็ได้ครับ ที่ไม่ผิดกฏบอร์ด
เขียนตอนหน้าเสร็จอาจจะกลับไปซัด ผู้คุมจิตยาวๆแล้วนะครับ อยากให้จบพาร์ทแม่เสียที
ตอนหน้าพบกับตอนที่มีชื่อว่า "ความลับของครูอารียา"
มาไวไม่ไวขึ้นกับกำลังใจเหมือนเดิมครับ
สุดท้าย สวัสดีปีใหม่ไทยครับ
อ่านตอนก่อนหน้า หรือผลงานเรื่องอื่นๆ ได้ที่ลายเซ็นต์ด้านล่างครับ
และ
สนับสนุนให้กำลังใจเพิ่มเติมและอ่านตอนใหม่ได้ตามช่องทางดังนี้ครับแสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
อย่าลืมเข้าไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ผมเดินตามพี่เอมไปยังอาคารที่ตั้งของชมรมซึ่งแยกจากอาคารเรียนที่ผมอยู่
และเนื่องจากเป็นวันรับสมัครชมรม ทำให้บริเวณนี้ไม่ค่อยมีคนเดินเตร็ดเตร่อยู่มากเท่าไหร่ ส่วนใหญ่น่าจะพากันออกไปชักชวนแย่งชิงสมาชิกมาเข้าชมรมกัน
ก้าวเดินของรุ่นพี่สาวนั้นไม่ได้รวดเร็วนักเพราะขาของเธอค่อนข้างสั้น ผมจึงสามารถตามเธอทันได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเราเข้าไปในอาคารและไม่เห็นใครในบริเวณใกล้เคียง ผมจึงเดินไปข้างเธอและจับมือเธอกุมไว้
แม้จะแปลกใจอยู่บ้าง แต่พี่เอมก็ไม่ขัดขืน เธอกลับกำมือผมแน่นขึ้นกว่าเดิมเสียอีก
ถ้าเกิดมีคนมาเห็นเราเข้าตอนนี้ เขาต้องคิดว่าเราเป็นคู่รักกันแน่นอน
แต่ผมไม่ต้องการแบบนั้น ผมจึงคอยมองดูรอบข้างอยู่เสมอและจะรีบปล่อยมือทันทีหากพบใครเข้าสักคน
"ห้องชมรมของเราอยู่ที่ชั้นสาม" พี่เอมบอกผมเมื่อเราไปถึงบันได และขณะที่กำลังเดินขึ้นไป
“วันนี้พี่ก็ยังน่ารักเหมือนเหมือนเดิมนะครับ” ผมโน้มตัวกระซิบที่ข้างหูเธอและเห็นได้ชัดว่าขนคอเธอลุกชัน
“ภ..ภูมิ อย่าล้อพี่เล่นสิ”
ผมหยุดตรงชั้นพักของบันไดก่อนจะผลักพี่เอมไปชิดผนังตรงหัวมุม
ไม่มีความเสี่ยงที่จะถูกมองเห็นมากนักจากจุดนี้ เพราะผมจะได้ยินก่อนเสมอหากมีคนมาไม่ว่าจะจากชั้นบนหรือชั้นล่าง
“ผมรอให้ถึงห้องชมรมไม่ไหวแล้วครับพี่เอม ผมขอจูบพี่ได้ไหมครับ”
“ท.ที่นี่ไม่ได้นะ ด..เดี๋ยวก็มีคนเห็นหรอก”
ซ่อนตรงนี้ครับ 
หลังจากนั้น เราก็กลับมาจดจ่ออยู่กับจุดหมายที่ส่งพวกเรามาที่ห้องชมรมแห่งนี้ ผมช่วยพี่เอมจัดเอกสารและลองอ่านผลงานก่อนหน้าของชมรม
และเนื่องจากไม่มีวี่แววของใครอื่นเลย พวกเราจึงเริ่มหยอกเย้ากันและกันอีกครั้ง
พี่เอมมักจะมาขบหูผมเล่นเพื่อกวนสมาธิในทุกครั้งที่ผมเริ่มจดจ่ออยู่กับการอ่านเนื้อหาที่เธอหยิบมาให้ และผมก็ตอบโต้กลับด้วยการทิ้งรอยจูบไว้ที่ไหล่ของเธอเมื่อสบโอกาส
จากนั้น ผมก็จะพาเธอขึ้นมานั่งบนตักเพื่อให้พี่เอมอธิบายเนื้อหาก่อนที่เธอจะเริ่มเล่นกับหูผมอีกครั้ง รอยพวกนั้นคงจะไม่มีใครเห็นได้เว้นแต่ว่าพี่เอมจะถอดเสื้อออก
ทั้งหมดนั่นคือช่วงเช้าของเราระหว่างที่อยู่ในห้องชมรมวรรณกรรมอันเงียบสงบ
โดยต้องไม่ลืมว่า อาจจะมีคนเปิดประตูเข้ามาและเห็นว่าพวกเรากำลังทำอะไรอยู่ได้ทุกเมื่อ
เมื่อเสียงกริ่งเข้าแถวดังขึ้นและไม่มีสมาชิกชมรมคนอื่นกลับมาเลย เราจึงตัดสินใจที่จะกลับไปยังชั้นเรียนของเรา
ระหว่างทาง เราก็เจอเข้ากับพี่จ๋าที่ถือข้าวของพะรุงพะรังเดินสวนกลับมา
เธอบอกพี่เอมว่าพี่บิ๊กและสมาชิกชมรมคนอื่นๆ ยังอยู่ที่เต็นท์
ผมไม่รู้ว่าพี่จ๋าจะรู้สึกเอะใจอะไรหรือเปล่า เพราะเธอเอาแต่มองสลับไปมาระหว่างผมกับพี่เอม
บางทีเธออาจเริ่มสงสัยว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเรา
แต่แม้จะเป็นแบบนั้น ผมก็ไม่สนใจอยู่ดี เพราะผมไม่เคยทิ้งหลักฐานไว้อยู่แล้ว
พี่เอมบอกให้ผมกลับห้องเรียนไปก่อน พวกมอหกยังพอมีเวลาให้อ้อยอิ่งอยู่ได้อีกพักใหญ่ๆ แต่กับมอสี่อย่างผมไม่
ผมจึงแอบจูบเธออีกครั้งก่อนที่เราจะจากกัน ตอนนี้ตัวตนของผมคงจะสลักลึกเข้าไปในใจของพี่เอมแล้ว
สิ่งเดียวที่เหลือคือการได้ครอบครองร่างกายของเธออย่างสมบูรณ์
ไม่ต้องเร่งร้อนรีบเร้าใดๆ
เพราะเวลานั้น..
จะมาถึงในอีกไม่ช้านานนี้…
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน