ช่วงเวลายามเช้าบนถนนที่ใช้เป็นทางเดินเท้าในหมู่บ้านแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน มีผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันออกมาจับจ่ายซื้อของกันหนาตา บริเวณนี้เปรียบเสมือนตลาดกลายๆเพราะ 2ข้างทางนั้นมีพ่อค้าแม่ค้าที่นำทั้งรถเข็น หรือโต๊ะมาตั้งขาย ของที่ขายส่วนใหญ่จะพวกอาหาร แต่ชาวบ้านที่มาจับจ่ายนั้นดูจะสะดุดตากับโต๊ะที่ขายแซนวิชเพราะนอกจากคนขายที่เป็นหญิงวัยกลางคนที่ปกคิจะมาคนเดียวหรือไม่ก็มีลูกสาวมาช่วยขายในวันหยุด แต่วันนี้คนมาช่วยขายนั้นรูปร่างสูงใหญ่ดูขรึมๆและสุภาพ แต่การทำแซนวิชนั้นดูคล่องแคล่วอย่างมาก จนมีหญิงสูงวัยที่เดินซื้อของมาทัก
“แม่นิ่มวันนี้มีใครมาช่วยขายละดูคุ้นๆหน้า”
หญิงวัยกลางคนที่กำลังก้มหน้าทำแซนวิชอยู่ได้เงยหน้าขึ้นมาตอบ
“ก็เจ้าชายไง ลูกพี่อนันต์กับพี่วิไล จำไม่ได้หรือ”
“อ๋อมิน่า ดูคุ้นๆหน้าไม่เจอกันนานร่วม10ปี แล้วไปไงมาไงละลูก”
“ลาพักร้อนกลับมานะครับมาได้วันสองแล้ว เบื่อๆไม่มีอะไรทำเลยมาช่วยอานิ่มขายแซนวิชแก้เบื่อครับ”
เป็นคำตอบสั้นๆที่ตอบกลับจากชายหรือชัยพรที่คนเก่าๆในหมู่บ้านนั้นพอจะรู้จัก ชายหนุ่มคนนี้หายหน้าจากหมู่บ้านไปเกือบ 15 ปี จากที่ไปเรียนต่อที่สหรัฐและชาวบ้านรู้ว่าไปได้งานทำบริษัทที่ขุดเจาะน้ำมันในประเทศโอมาน โดยไม่ได้กลับมาที่บ้านอีกเลยมีแต่ส่งเงินมาให้เท่านั้น
“แล้วนี่จำน้าได้ไหม น้าอารีย์ไง”
“พอจะจำได้ครับ”
อีกฝ่ายทักทายกันอยู่พอสมควรจนเดินจากไป แต่ไม่นานนักแม่ค้าที่ขายขนมครกที่อยู่ข้างๆได้บ่นออกมา
“ไอ้พวกเวรนั่นมาอีก แจ้งตำรวจไปก็ไม่เคยทำอะไรได้”
ทำให้ชายหันหน้าไปมองตามทำให้เห็นผู้ชาย 3 คนเดินมาและมีแวะไปตามแผงขายของหลายๆแผงโดยคนที่เดินนำนั้นหยิบของที่ขายขึ้นมาโดยไม่มีการจ่ายเงินให้พ่อค้าแม่ค้าทั้ง 3 นั้นดูจะไม่สนใจกับสายตาที่มองมาที่พวกมัน
“ใช่พวกมันไหมอานิ่ม”
ชายหนุ่มถามไปที่อาสะใภ้
“ใช่”
เป็นคำตอบที่สั้นๆแต่น้ำเสียงนั้นดูไม่ค่อยสบายใจ
“งั้นอาทำเฉยๆนะ ผมจัดการเอง”
ชายพูดพร้อมมองไปที่ 3 คนโดยไม่สนใจว่าอาสะใภ้นั้นจะดูวิตกขนาดไหน
จนทั้ง 3เดินมาถึงโต๊ะที่ขายแซนวิช ผู้ชายคนเดินนำหน้ามาได้มาหยุดที่หน้าโต๊ะพร้อมสายตาที่มองกวาดไปทั่วโต๊ะ
“รับแซนวิชไหมครับ มีหลายไส้ทำสดๆ ชุด ละ20ครับ”
ชายพูดด้วยเสียงสุภาพ แต่ถ้าใครสังเกตดีๆในแววตานั้นดูเหี้ยมอย่างมาก แต่อีกฝ่ายนั้นดูจะไม่รับรู้อะไร ตอบมาด้วยน้ำเสียงห้วนๆและวางอำนาจ
“ไหนเอามามาสักชุดสิ”
“รับไส้อะไรครับ”
ชายตอบด้วยเสียงสุภาพ โดยไม่สนใจกับน้ำเสียงของอีกฝ่าย
“เอาแฮมกับไส้กรอก”
มันตอบห้วนๆ ชายก้มหน้าลงไปทำให้จนเรียบร้อยหลังจากชายยื่นถุงที่ใส่แซนวิชโดยที่อาสะใภ้มองดูอย่างหวั่นๆ เพราะรู้ว่าหลานชายนั้นไม่ได้มาช่วยขายอย่างที่บอกใครๆไว้ แต่อีกฝ่ายกระชากแล้วแกะแซนวิสขึ้นมากินไป 1คำพร้อมเดินออกไปโดยไม่สนใจ ชายนั้นบอกทันที
“คุณครับค่าแซนวิส 20 บาทครับ”
อีกฝ่ายนั้นหันมามองทันทีอย่างไม่พอใจ พร้อมด้วยเสียงที่ตะคอกกลับ
“อะไรวะ มึงไม่รู้หรือไงกูเป็นหลานเถ้าแก่มี แล้วคนแถวนี้รู้หมดว่าคนอย่างกูไม่ต้องจ่าย ร้านนี้กูก็กินฟรีเป็นประจำอยู่แล้วมึงมาใหม่มึงถึงไม่รู้ ไม่เชื่อมึงถามไอ้พวกพ่อค้าแม่ค้าแถวนี้ดูจะได้รู้จักว่ากูคือใคร”
“คุณจะเป็นใครก็แล้วแต่ผมไม่สน แต่คุณต้องจ่ายเงินค่าแซนวิชมา 20 บาท”
ชายพูดพร้อมเดินออกมาหน้าโต๊ะ และผู้คนต่างเริ่มหันมามอง ทำให้อีกฝ่ายนั้นดูไม่พอใจหันไปบอกลูกน้อง 2 คนที่ยืนอยู่ไม่ห่าง
“เฮ้ยสั่งสอนไอ้หน้าใหม่นี่ทีให้มันรู้จักกูเฮียนนหลานเถ้าแก่มี ให้มันจำรสตีนของพวกมึงไว้ มันจะได้รู้ว่าที่นี่คนอย่างกูจะกินอะไรก็ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน”
สิ้นเสียงไอ้คนที่รูปร่างอ้วนใหญ่พุ่งเข้ามาทันทีตามคำสั่ง แต่มันยังไม่ได้ทันได้ทำอะไร เท้าข้างขวาของชายนั้นสัมผัสไปที่กลางอก ทำเอามันผงะถอยหลังเพราะแรงถีบ ส่วนอีกคนที่รูปร่างล่ำสันพุ่งตามมานั้น หมัดขวามันพุ่งมาที่หน้าของชายแต่ชายยกมือซ้ายกันพร้อมกับมือขวาที่พุ่งสวนไป เป้าหมายคือขมับของคู่ต่อสู้ แต่มือที่กำหมัดนั้นไม่ใช่กำปั้นที่เรียบๆแต่มีข้อนิ้วกลางยื่นออกมาจากสันหมัด ทำเอาอีกฝ่ายที่โดนชกด้วยข้อนิ้วแบบยิวยิตสูเข้าไปตรงขมับนั้นร่วงสลบกลางอากาศไปทันที ท่ามกลางเสียงร้องอุทานของคนที่เห็นเหตุการณ์
ส่วนไอ้คนที่อ้วนใหญ่นั้นถลาเข้ามาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันโดนเท้าข้างขวาที่เตะยกขึ้นสูงขึ้นไปเหนือหัวมันฟาดเอาส้นเท้าลงมาที่กลางกระบาลของมัน ทำให้มันมีอาการหลับกลางอากาศแบบเพื่อนของมันไปอีกคนเมื่อเจอการเตะของนักเทควันโดสายดำ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมากจนดูแทบไม่ทัน ชั่วเวลาไม่ถึง 1 นาที มีคนถูกน็อคไปถึง 2 คน ชัยมองไปที่นนที่ยืนมองด้วยความตกใจ
“มึงจะจ่ายเงินค่าแซนวิชหรือเปล่าไอ้เหี้ยนน”
เสียงที่เข้มขึ้นจากชายถามไปที่นน ทำให้มันได้สติ รีบล้วงมีดสปริงจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมาพร้อมกดปุ่มให้ใบมีดเด้งออกมา มันนึกเสียดายที่ไม่พกปืนมา
“อย่าอยู่เลยมึง”
นนตะโกนขึ้นพร้อมกำมีดพุ่งเข้ามาหาชายเป้าหมายคือหน้าท้องท่ามกลางเสียงกรีดร้องของคนที่มุงดู แต่ชายดึงกระบองแบบหดได้ที่เหน็บอยู่ในที่กระเป๋าหลังของกางเกงขึ้นมา แล้วตวัดให้กระบองยืดออกมา พร้อมเบี่ยงตัวไปเล็กน้อยก่อนจะเอากระบอกตีไปที่ข้อมือของนน มีดนั้นร่วงลงไปที่พื้นทันทีพร้อมเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด ชายไม่รอช้าขยับตัวตามติดพร้อมหวดกระบองนั้นใส่ตัวนนแบบไม่ยั้งจนทำเอานนนั้นถอยหนีแต่หนีไม่พ้น ชายหวดแบบไม่ปราณีจนนนนั้นล้มตัวลงไปนอนกับพื้นและร้องด้วยความเจ็บปวด
“โอ๊ยๆๆๆกลัวแล้วครับ ผมกลัวแล้วอย่าทำผมเลย”
มันร้องออกมาพร้อมยกมือไหว้ร้องขอ ทำเอาหลายๆคนที่เห็นนั้นรู้สึกสะใจ แต่มีบางคนร้องห้ามพร้อมกับอาสะใภ้ที่เข้ามาห้ามด้วยน้ำเสียงที่ตกใจเพราะนึกไม่ถึงว่าหลานชายจะกล้าทำได้ถึงเพียงนี้ ชายเลยหยุดหวด พร้อมมองไปอีกฝ่ายด้วยความสะใจ เนื้อตัวของนนตอนนี้มีทั้งรอยเลือดและรอยเขียวช้ำไปทั่ว มันนอนร้องด้วยความเจ็บปวดที่ได้รับพร้อมร้องไห้อย่างสะอึกสะอื้นออกมาอย่างไม่อายใครหลังจากนั้นไม่นานนักตำรวจที่ได้รับแจ้งเหตุจากคนที่เห็นเหตุการณ์ได้โทรไปที่โรงพักได้มาถึงที่เกิดเหตุ ตามด้วยรถพยาบาลของพวกกู้ภัย ตำรวจได้สอบถามเหตุการณ์ก่อนจะเชิญตัวชายกับอาสะใภ้ไปที่โรงพัก
พอไปถึงโรงพักกระหว่างที่ชายกับอาสะใภ้นั่งให้ปากคำในห้องร้อยเวร โดยที่นนนั่งอยู่อีกมุม ร่างกายของมันมีผ้าพันแผลไปเกือบทั้งตัวมันนั้นก้มหน้านิ่งไม่กล้าเงยหน้า ส่วนอีกลูกน้องอีก 2 คนนั้นฟื้นขึ้นหลังจากที่มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยมาปฐมพยาบาลและนำส่งโรงพยาบาลเพราะดูแล้วยังมีอาการมึนงงและพูดจาไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ จนมีชายสูงวัยและคนติดตามอีก2-3คนขึ้นมาบนโรงพักแล้วเข้ามาที่ห้องร้อยเวรทันที ชายที่รออยู่แล้วนั้นลุกขึ้นมาเผชิญหน้าทันที
“ไอ้มีมึงจำกูได้ไหม”
บุญมีหรือที่ใครๆเรียกเถ้าแก่มีอดีตผู้มีอิทธิพลในแถบนี้มองไปที่หน้าชายอยู่ชั่วครู่เหมือนจะทบทวนความจำแล้วผงะทันที
“ไอ้ชาย กลับมาเมื่อไหร่”
ชายไม่ตอบแต่ยิ้มเหยียดๆแล้วนั่งลงบนเก้าอี้เหมือนเดิมโดยไม่สนใจอีกฝ่าย ส่วนเถ้าแก่มีมองไปเห็นนิ่มที่นั่งอยู่ใกล้ชายและเห็นหลานชายที่นั่งอยู่อีกมุมได้รับเข้าหาทันที แต่พอพูดคุยไปได้2-3คำ ผู้กำกับสถานีตำรวจได้เข้ามาที่ห้องร้อยเวร พร้อมเชิญเถ้าแก่มีกับนนไปที่ห้องทำงาน เถ้าแก่สั่งให้คนที่มาด้วยซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กกับคนขับรถให้ช่วยประคองหลานชาย ส่วนตัวแกมองมาที่ชายอย่างวิตก เพราะรู้ว่าเรื่องมันไม่จบเท่านี้ หลังจากที่เข้าไปในห้องทำงานผู้กำกับ เถ้าแก่มีสั่งให้คนที่ตามมาออกไปรอนอกข้างนอกหลังจากประคองนนให้นั่งเรียบร้อย
“เถ้าแก่มี ผมพูดตรงๆเลยนะเรื่องที่เกิดขึ้นเช้า ผมอยากให้ยุติ”
ผู้กำกับพูดขึ้นหลังจากที่เถ้าแก่มีนั่งลงบนเก้าอี้
“อ้าวทำไมละครับ หลานผมกับลูกน้องมันโดนซะน่วมขนาดนี้ และโทษทะเลาะวิวาทนี่มันคดีอาญานี่ครับผู้กำกับ”
“เถ้าแก่ครับ ถ้าอย่างนั้นเรื่องมันยาวแน่นอนนะครับ เถ้าแก่ไม่ถามหลานชายเถ้าแก่ก่อนหรือว่าเรื่องมันเกิดขึ้นเพราะอะไร และผมเชื่อว่าหลังจากนี้จะมีชาวบ้านมาแจ้งความเรื่องพฤติกรรมของหลานชายผู้ใหญ่แน่นอน ที่ผ่านอย่านึกว่าผมปล่อยปละละเลยเรื่องพฤติกรรมของหลานชายผู้ใหญ่นะครับ แต่ผมหาพยานหลักฐานมามัดตัวไม่ได้ พอมีคนมาแจ้งความแต่สุดท้ายก็ถอนแจ้งความไปทุกราย เพราะอะไรเถ้าแก่คงรู้ดีแต่เรื่องที่เกิดเมื่อเช้านี้ มีชาวบ้านหลายคนกล้าที่จะมาเป็นพยานว่านายชานนท์เป็นคนเริ่มก่อน จะเบ่งกินฟรีเหมือนทุกครั้งพออีกฝ่ายไม่ยอมก็สั่งให้ลูกน้องรุมทำร้าย อีกฝ่ายเขาอ้างว่าป้องกันตัวนะครับและมันเป็น 3รุม 1นะครับเถ้าแก่ แถมนายชานนท์จะเจอคดีพยายามฆ่าด้วย จะเอาแบบนั้นก็ได้นะครับ มีดของกลางก็นี่ครับ”
ผู้กำกับพูดพร้อมยกถุงซิปล็อคที่มีมีดของนนอยู่ในถุงให้ดู เถ้าแก่มีหันไปมาหลานชาย ที่นั่งก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไรออกมา แกกำหมัดแน่นแต่ยังไม่ทันพูดอะไรเสียงโทรศัพท์มือถือของผู้กำกับดังขึ้น ผู้กำกับนั้นรีบรับทันที
“ครับท่าน ผมกำลังคุยอยู่ครับท่าน ถ้าผลเป็นยังไงผมจะรีบโทรไปรายงานท่านครับ”
จากข้อความที่สนทนาแบบนี้อดีตเสือร้ายอย่างบุญมีรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น คนที่โทรมาต้องมีทั้งยศและตำแหน่งเหนือกว่าผู้กำกับอย่างแน่นอน
“เอาละ เถ้าแก่จะว่ายังไงครับ ผมจะได้ดำเนินการต่อ แล้วนี่ผมบอกเถ้าแก่ไว้ก่อนนะครับ ฝ่ายคุณชัยพรก็พร้อมจะสู้คดีนี่ทางเขาเตรียมจะแจ้งความแล้ว แต่ผมขอไว้ก่อน เถ้าแก่เข้าใจนะผมเองก็เสี่ยงกับข้อหาเจ้าพนักงานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ถ้าเถ้าแก่ไม่ยอมหลานชายเถ้าแก่ก็ตกเป็นผู้ต้องหาทั้งคดีทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ พยายามฆ่าและฉ้อโกง ”
ผู้กำกับบอกกับแกหลังจากวางสายโทรศัพท์ บุญมีเม้มปากแน่น นี่มันไม่ใช่เมื่อก่อน แกจะทำอะไรแบบใหญ่คับโรงพักแบบสมัยก่อนก็ไม่ได้สิ่งที่แกเคยทำไว้เมื่อก่อนตอนนี้ย้อนกลับมาที่ตัวแกเองแล้ว เถ้าแก่มีได้แต่พยักหน้าตกลงด้วยความแค้นใจ ผู้กำกับจึงให้ตำรวจไปเชิญชัยพรมาที่ห้องทำงาน พร้อมบอกว่าทางเถ้าแก่มีนั้นไม่อยากให้เป็นคดีความ แต่ทั้งคู่ต้องเสียค่าปรับจากการทะเลาะวิวาท ชายพยักหน้ารับรู้ แต่หันไปพูดกับเถ้าแก่มีและนน
“ไอ้มี มึงต้องให้หลานมึงจ่ายค่าเสียหายมาให้อากูด้วยที่ต้องเสียเวลามาที่โรงพักจนของขายไม่ได้ กูคิด 5พัน “
“มึงจะขูดรีดเกินไปแล้วไอ้ชาย”
“ขูดรีด”
ชายทวนคำของเถ้าแก่แล้วพูดต่อ
“สิ่งที่หลานมึงทำละเรียกว่าขูดรีดหรือเปล่า ไถชาวบ้านกินฟรีมานานแล้วแต่ไม่มีใครกล้าทำอะไร พอมีคนมาแจ้งความมันก็มาขู่ให้เขาถอนแจ้งความ แล้วมึงอย่าลืมสิ่งที่มึงเคยทำไว้เมื่อก่อน มันยิ่งกว่าขูดรีด มึงทำเป็นจำไม่ได้หรือไอ้มี กูลงทุนไปเยอะบวกค่าเสียเวลาด้วย ถ้าไม่จ่ายกูแจ้งความ มึงจะเอายังไง”
คำพูดที่แสดงถึงความไม่เกรงกลัวและไม่ให้ความเคารพ เถ้าแก่มีนั้นพยายามสะพกดอารมณ์พร้อมมองไปที่ผู้กำกับเหมือนจะให้ช่วย ผู้กำกับเลยหันไปพูดกับชาย
“คุณชัยพรครับผมว่า 5,000 นี่มันเยอะไปนะครับ”
“ไม่ครับ ผมคิดราคาตามของที่ซื้อมา เกิดเรื่องแบบนี้และนี่ก็สายแล้วด้วยยังไงก็อาผมขายไม่ได้แล้วผมไม่ยอมขาดทุนให้ไอ้มีเหมือนที่ผ่านมาครับ”
ชายตอบผู้กำกับพร้อมสายตาที่ประสงค์ร้ายมองไปที่เถ้าแก่ ทำให้ตัวบุญมีนั้นหน้าถอดสีออกมาอย่างเห็นได้ชัด เถ้าแก่มีจำใจต้องรีบควักกระเป๋าหยิบแบ็งค์พันออกมา 5 ใบแล้วส่งให้ชายทันที
“เอ้านี่ ถือว่าจบแล้วนะ”
“ยัง”
ชายพูดพร้อมกระชากแบ็งค์จากมือเถ้าแก่มี
“อะไรอีกวะ”
“ค่าแซนวิสอีก 20ที่หลานมึงเอาไปแดกด้วย”
“เฮ้ยมึงจะเกินไปนะไอ้ชาย ก็กูจ่ายให้ไปแล้วนี่ตั้ง 5,000”
เถ้าแก่ตวาดด้วยน้ำเสียงที่ฉุนเฉียว แต่อีกฝ่ายตอบกลับอย่างไม่เกรงกลัว
“ 5,000 นี่กูคิดราคาของที่ยังไม่ขาย ส่วนอีก 20 นั่นหลานมึงเอาไปแดกแล้ว กูบอกแล้วกูไม่ยอมขาดทุน ถ้าไม่จ่ายกูแจ้งความข้อหาฉ้อโกง”
เจอคนจริงที่ไม่ยอมคนและฝ่ายตนเองนั้นผิดทำให้เถ้าแก่รีบจ่ายให้ทันทีก่อนจะพาหลานชายไปจ่ายค่าปรับ จนเรื่องเสร็จเรียบร้อย แต่ชายนั้นยังไม่ยอมจบก่อนจะออกจากโรงพัก ชายมองไปที่หน้าลูกชายคนรองของเถ้าแก่ที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยเรียนมัธยม และมองไปที่เถ้าแก่มีและพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความอาฆาต
“ไอ้มีกูไม่เคยลืมว่าไอ้ไม้ลูกคนโตของมึงทำอะไรไว้กับอากูน้องกู กูไม่ปล่อยไว้อย่างแน่นอน อาสะใภ้กูต้องเป็นม่าย น้องสาวกูต้องกำพร้าพ่อ”
เถ้าแก่ไม่ยอมตอบและทำท่าจะเดินหนีแต่ลูกชายที่เดินตามได้ตอบแทนพ่อ
“ชาย กูอยากจะบอกว่าให้มันจบๆไปเถอะ พี่กูก็ติดคุก ตอนนั้นพ่อกูจะชดใช้ให้มึงก็ไม่รับเอง”
“ไอ้น้ำมึงหุบปากไปเลย ไอ้ไม้ไม่ได้ติดคุกเพราะเรื่องของอากับน้องกู มันติดอีกคดีมึงอย่างเหมารวม แล้วมึงคิดหรือว่าไอ้เศษเงินนั้นนะมันชดใช้แทน 2 ชีวิตที่ถูกพี่มึงฆ่า”
น้ำลูกชายคนรองของเถ้าแก่กำมือแน่นแต่ไม่ตอบโต้อะไรเพราะพ่อส่งสัญญาณไม่ให้พูด ส่วนนนนั้นไม่กล้ามองหน้าชายแถมมีอาการผวากับชายอย่างเห็นได้ชัด สองพ่อลูกมองดูหน้าชายแล้วพากันประคองนนลงไปจากโรงพัก แต่ก่อนที่จะชายเดินลงไปผู้กำกับที่มองดูอยู่ไม่ห่างได้เรียกชายพร้อมบอก
“คุณชัยพรครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงมีเส้นที่ใหญ่ขนาดนี้ ขนาดท่านรองโทรมาสั่งผมเอง แต่ผมขอร้องว่าอย่าก่อเรื่องให้ผมลำบากใจอีกเลยนะครับ แค่นี้ผมก็ลำบากใจพอแล้ว คุณก็รู้อยู่ว่าทำร้ายร่างกายนะมันยอมความกันไม่ได้ แต่นี่ดีที่ฝ่ายเถ้าแก่เป็นฝ่ายก่อเรื่องก่อนไม่อย่างนั้นมันไม่จบลงง่ายๆหรอกครับ”
“ผมนะอยู่เฉยๆอยู่แล้ว อย่าให้พวกมันมาหาเรื่องผมก่อนละกัน”
ชายพูดทิ้งท้ายก่อนจะพาอาสะใภ้เดินลงไปจากโรงพักถึงใบหน้านั้นจะดูเฉยๆแต่มันตรงข้ามกับภายในใจที่รู้สึกสะใจเป็นอย่างมาก เพราะแผนขั้นแรกนั้นสำเร็จไปด้วยดี ยิ่งเห็นอาการผวาของไอ้นนแล้วชายยิ่งสะใจ
ส่วนผู้กำกับมองตามไปอย่างหนักใจ เพราะพอมีคนโทรมาแจ้งมีเหตุวิวาทหลังจากตำรวจสายตรวจเข้าไปถึงที่เกิดเหตุ พอจะนำตัวชายกับนนมาที่โรงพัก แต่ชายยังมาไม่ถึงมีโทรศัพท์สายตรงจากรอง ผบ.ตร.โทรมาถึงผู้กำกับโดยบอกว่าให้ไกล่เกลี่ยเรื่องนี้ให้จบที่โรงพัก แสดงว่าเบื้องหลังของชายคงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
“ไม่น่าจะจบง่ายๆนะครับ”
เสียงของร้อยเวรที่อยู่ไม่ห่างได้บอกกับเจ้านาย
“คอยจับตาดูก็แล้วกัน แต่รายนี้นะเส้นใหญ่ไม่ใช่เล่น ไม่อย่างนั้นท่านรองไม่โทรมาด้วยตัวเองหรอก”
ผู้กำกับตอบไปอย่างหนักใจ ส่วนเถ้าแก่มีพอกลับไปถึงบ้านด้วยความเครียด อาการของนนนั้นไม่ค่อยดีนัก จนต้องพาไปส่งโรงพยาบาล หลังการตรวจอย่างละเอียดหมอแจ้งว่ากระดูกนั้นไม่หัก แต่มีอาการบวมช้ำใน และรอยแผลที่ถูกกระบองฟาดนั้นมีต้องเย็บเพิ่มยังดีที่ชายไม่ตีไปที่หัวไม่อย่างนั้นอาการหนักแน่นอน ส่วนอีก 2คนนั้นคนที่ถูกส้นเท้าฟาดลงมากลางหัวนั้น ตอนที่ฟื้นขึ้นมานั้นจำอะไรไม่ได้มีแต่ความมึนงง ต้องใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ถึงจะจำอะไรได้ ส่วนคนที่ถูกชกเข้าที่ขมับนั้นดูจะอาการหนักกว่า เพราะตอนฟื้นขึ้นมานั้นได้อ้วกออกมา พร้อมอาการมึนงงพูดจาไม่รู้เรื่องอยู่นานพอสมควร ทั้งคู่ถูกหมอสั่งให้ดูอาการที่โรงพยาบาลอีกระยะหนึ่ง เถ้าแก่ที่เงียบมาตลอดตั้งแต่โรงพยาบาลมาถึงบ้าน ได้ถอนหายใจแรงๆขณะที่นั่งในห้องรับแขก
“แล้วจะทำยังไงต่อดีละพี่ อีกไม่มีกี่วันไม้มันจะออกจากคุกแล้ว”
เมียของเถ้าแก่ได้ถามขึ้นหลังจากที่ลูกชายคนรองได้เล่าเรื่องให้ฟัง เถ้าแก่มีส่ายหน้าก่อนจะตอบ
“พี่ก็ยังไม่รู้เลย ดูแล้วไอ้ชายมันไม่ยอมง่ายๆ”
“ฉันจะไปคุยกับมันเองพ่อ”
ลูกชายคนรองบอกขึ้นมา
“น้ำไม่มีประโยชน์อะไร อย่าลืมที่พ่อบอกสิ ไอ้ชายมันต้องเส้นใหญ่อย่างแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่มีตำรวจระดับสูงๆโทรมาสั่งผู้กำกับหรอก และเราก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว พ่อขอเวลาคิดก่อนจะทำยังไงดี”
เถ้าแก่มีพูดด้วยน้ำเสียงที่เครียดๆ
“หรือว่าที่มันไปเรียนเมืองนอก ทำให้มันรู้จักพวกลูกคนใหญ่คนโตไม่ก็ได้นะพ่อ แต่อาการที่มันแสดงออก ฉันแทบทนไม่ไหวมันหยามเรามาก”
“เรื่องมันพ่อบอกให้ใจเย็นมีอะไรขึ้นมาเราลำบาก ส่วนเรื่องที่มันรู้จักลูกคนใหญ่โตตอนเรียนที่เมืองนอกก็เป็นไปได้”
เถ้าแก่มีตอบลูกชายอย่างแบ่งรับแบ่งสู้ พร้อมถอนหายใจแรงๆ แกรู้ดีว่าเรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ช่วงนั้นชายพึ่งไปเรียนต่อที่สหรัฐได้ไม่เท่าไหร่ ไม้ลูกชายคนโตของแกที่มีนิสัยเกเรตั้งแต่เด็กๆและเรียนไม่จบเพราะถูกโรงเรียนไล่ออก เลยทำตัวเป็นนักเลงเพราะถือว่าพ่อนั้นมีอิทธิพลได้ไปก่อเรื่องยิงน้องชายกับอาของชายตาย สาเหตุมาจากที่ไม้ลูกชายคนโตนั้นเมาแล้วไปหาเรื่องน้องชายของชายที่ร้านอาหาร แต่น้องชายของชายนั้นไม่ยอมให้ลูกชายของเถ้าแก่มีข่มเหงอยู่ฝ่ายเดียว ทำให้ทั้งคู่ชกต่อยกันและลูกชายของเถ้าแก่นั้นสู้ไม่ได้ ทำให้ไม้ผูกใจเจ็บ และได้ไปดักฆ่าน้องกับอาของชายขณะที่ น้องของชายกำลังกลับกรุงเทพโดยอานั้นขับมอเตอร์ไซด์ไปส่งขึ้นรถทัวร์ ไม้กับพวกนั้นดักซุ่มอยู่ระหว่างทาง พอมอเตอร์ไซด์ที่อาของชายขับมาถึงจุดที่ไม้ดักรออยู่ ไม้ได้ใช้ปืนยิงไปถูกอาของชาย ทำให้รถล้ม ไม้ได้ตามเข้าไปกระหน่ำยิงซ้ำทั้งคู่ก่อนหลบหนี อากับน้องของชายนั้นตายทันที แต่หลังจากนั้นคดีไม่คืบหน้าถึงตำรวจจะจับตัวไม้มาได้ แต่อยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยเพราะมีเหตุวิวาทกันมาก่อน
ส่วนเถ้าแก่มีนั้นพยามยามวิ่งเต้นทุกวิถีทางและใช้อิทธิพลที่มีอยู่ในตอนนั้นให้ลูกชายหลุดพ้นคดี ตำรวจหาปืนที่ก่อคดีไม่ได้ ส่วนพยานที่เห็นเหตุการณ์ไม่มีใครกล้าชี้ตัวไม้ เพราะถูกเถ้าแก่มีใช้อิทธิพลข่มขู่ ทำให้ศาลชั้นต้นตัดสินยกฟ้อง แต่ขณะที่คดีกำลังอยู่ระหว่างอุทธรณ์ไม้ได้ก่อคดีฆ่าคนตายอีก แต่คราวนี้ไม่รอดเพราะมีภาพที่เห็นได้ชัดจากกล้องวงจรปิด เถ้าแก่มีได้พยายามช่วยลูกชายคนโต ทั้งใช้เงินและให้บรรดานักการเมืองท้องถิ่นที่แกเป็นคนสนับสนุนให้ช่วยเหลือ และตอนนั้นจู่ๆเถ้าแก่มีได้เสนอเงินเพียง2แสนให้กับครอบครัวของชายโดยบอกเป็นการช่วยเหลือที่อากับน้องของชาถูกไม้ฆ่า พร้อมกับการข่มขู่ แต่พ่อกับแม่ของชายปฏิเสธที่จะรับเงิน ในคดีฆ่าคนนี้ไม้ถูกตัดสินลงโทษจำคุก 30 ปีส่วนคดีฆ่าอากับน้องของชายศาลยกฟ้องทั้ง 3 ศาลเพราะขาดทั้งพยานและหลักฐาน
ไม้ได้ถูกลดโทษลงมาเรื่อยๆ จนจะได้รับการปล่อยตัวในไม่กี่วันนี้ การปรากฏตัวของชายในวันนี้อดีตผู้มีอิทธิพลอย่างเถ้าแก่มีนั้นรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องปกติแน่นอน จู่ๆคนที่หายหน้าไป 10 กว่าปี จะมาโผล่ในช่วงนี้ และที่สำคัญชายนั้นไม่ธรรมดา ทั้งเรื่องที่มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่โทรมาสั่งผู้กำกับให้เคลียร์คดี แสดงว่าต้องมีคนที่มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงฝีมือการต่อสู้ หลานของแกกับลูกน้อง 2 คน นั้นหมดสภาพไม่มีทางสู้ในเวลาอันรวดเร็ว นนเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เห็น คนหนึ่งถูกส้นเท้าฟาดลงกลางหัว คนหนึ่งถูกต่อยที่ขมับ และชายหลบมีดที่นนตั้งใจจะแทงอย่างรวดเร็ว แสดงว่าเป็นคนที่มีความชำนาญในฝีมือการต่อสู้ระยะประชิดตัว ยิ่งคิดเถ้าแก่มียิ่งกลุ้มใจ เหมือนกรรมที่แกกับลูกๆได้ก่อไว้กำลังตามสนอง
อีก3วันต่อมา ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพ ชายมายืนอยู่หน้าห้องพักของโรงแรมนี้ก่อนจะเคาะประตู
“นั่นใคร”
เสียงพูดอังกฤษของผู้หญิงดังมาจากในห้อง
“รูม เซอร์วิสครับ”
ประตูห้องถูกเปิดออกทันที หญิงสาวที่เปิดนั้นสวมเสื้อคลุมสีขาว ชายก้าวเข้าไปในห้องทันทีที่พร้อมปิดประตู ชายรวบร่างของผู้หญิงคนนั้นเข้ามาในอ้อมกอด และก้มหน้าลงไปจูบ ซึ่งอีกฝ่ายนั้นตอบสนองทันทีมือทั้งสองโอบรอบคอชาย และจูบตอบอย่างดูดดื่ม มือของชายเลื่อนลงจากแผ่นหลังของอีกฝ่ายลงไปตรงสะโพก ชายจูบพร้อมลูบไล้ไปมาที่ตรงสะโพกที่ใหญ่แล้วดันตัวหญิงสาวไปที่เตียงนอน พอไปถึงเตียงหญิงสาวนั้นค่อยๆหย่อนตัวลงไปพร้อมโน้มเอาตัวชายลงมานอนทาบตามแนวขวางของเตียง ชายใช้จมูกไซร้ไปพวงแก้มและติ่งหู ก่อนจะเอาปากงับไปเบาแล้วเลื่อนหน้าลงไปไซร้ตามลำคอ ส่วนมือนั้นเลื้อยผ่านเสื้อคลุมเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้ของทรวงอกที่เต่งตึงที่เจ้าของไม่ได้สวมยกทรง มือของชายนั้นเคล้นคลึงไปบนเต้านมของหญิงสาว ก่อนจะเลื่อนหน้าลงไป ที่ทรวงอกชายเอาหน้าไซร้ไปมา ก่อนจะจัดการถอดเสื้อคลุมของหญิงสาวแล้วโยนลงไปข้างเตียง ตัวเธอนั้นเปลือยเปล่าไม่ได้สวมอะไรอยู่ภายใต้เสื้อคลุม
ชายลุกขึ้นมานั่งแล้วจัดการถอดเสื้อผ้าของตนเองออกทันที ส่วนหญิงสาวนั้นเลื่อนตัวไปนอนที่หมอนตรงหัวเตียง ชายขยับตัวลงไปนอนทาบบนตัวหญิงสาวอีกครั้ง เธอกดหน้าของชายให้ลงมาแนบทรวงอกที่อวบใหญ่ หัวนมสีน้ำตาลเข้มถูกริมฝีปากของชายดูดสลับไปมาทั้งสองข้าง พร้อมเอานิ้วลงไปกรีดที่ร่องหีที่เริ่มจะชื้นไปมา ทำเอาหญิงสาวครางออกมาไม่หยุด จนเธอเอามือดันหัวชายลงไปด้านล่าง พร้อมอ้าขาออกอีกเล็กน้อย ร่างของเธอนั้นผวาขึ้นทันที เมื่อลิ้นของชายกวาดเข้าไปในรูหีของเธอ มือของเธอทั้งสองข้างบีบที่ไหล่ของชายแน่น ชายนั้นเสียทั้งจูบไปบนโคกหีที่ใหญ่และมีหมอยที่ดกดำปกคลุม ชายเลียหีจนอีกฝ่ายร้องขอ
“ทำเถอะชายฉันทนไม่ไหวแล้ว”
ชายเงยหน้าขึ้นมามองไปที่หญิงสาวที่มองลงมาเช่นกัน แล้วค่อยๆเลื่อนตัวขึ้นไปหา ชายเอาหน้าไปซุกตรงเต้าที่อวบอิ่มอีกครั้งก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นไปด้านบน พร้อมขยับควยให้ตรงกับรูหีของอีกฝ่าย ชายค่อยๆดันควยเข้าไปพร้อมก้มหน้าลงไปเอาปากทาบกับหญิงสาว ช่องทางรักนี้ชายคุ้นเคยเป็นอย่างดีเหมือนกับฝ่ายหญิงที่ตอบสนองเป็นอย่างดี เธอเด้งรับจังหวะการเย็ดของชายตลอด จนเธอพลิกตัวมาอยู่ด้านบน ครั้งนี้หญิงสาวขย่มไม่หยุด พร้อมเอามือของชายทั้งสองข้างมาอยู่บนเต้านมของเธอ ซึ่งชายสนองตอบเธออย่างดี ทั้งบีบทั้งเคล้นคลึงไปบนเต้าที่อวบอิ่ม พร้อมกับเสียงครางอย่างสุขใจของหญิงสาว เกมรักครั้งนี้ทั้งคู่ต่างสอดประสานกันดีเหมือนทุกครั้ง จนไปถึงจุดหมายพร้อมๆกัน หญิงสาวโน้มตัวลงมานอนบนตัวชาย พร้อมหายใจอย่างหอบๆ
“สงสัยคงจะหิวมาก”
ชายพูดพร้อมเอามือลูบไปตามแผนหลังของหญิงสาว
“อย่ามาพูดชาย คุณก็เหมือนกัน แต่มันก็ 2เดือนแล้วนะที่เราไม่ได้เจอกันแบบนี้”
ชายไม่ตอบแต่ดึงหน้าเธอขึ้นมาจูบ ซึ่งหญิงสาวนั้นจูบตอบอย่างร้อนแรงๆ ก่อนจะค่อยๆเลื่อนหน้าลงไป หัวนมทั้งสองข้างของชายถูกริมฝีปากที่หนาอวบอิ่ม ดูดสลับไปมาจนเธอเลื่อนหน้าลงไปด้านล่าง พร้อมลากลิ้นผ่านหน้าท้องที่อุดมไปด้วยมัดกล้ามไปถึงควยที่อ่อนตัว หญิงสาวใช้ลิ้นเลียไปมาบนควยที่ยังมีคราบน้ำรักติดอยู่ และเลียลงไปถึงลูกกระโปกเธอใช้ปากเม้มไปเบาๆก่อนจะใช้ลิ้นเลียแล้วเลียขึ้นมาอีกครั้งถึงเอาปากครอบ ชายถอนหายใจแรงๆ ไฟสวาทที่พึ่งดับไปเริ่มลุกโชนอีกครั้งจากฝีปากของสาวลูกครึ่งคนนี้
“ยังไม่อิ่มหรือ อเล็กซ์”
ชายถามไปด้วยเสียงที่กระเส่าแต่อีกฝ่ายไม่ตอบ ยังใช้ปากปลุกควยของชาย จนควยของชายแข็งตัวขึ้นมาอีกครั้ง หญิงสาวที่ชื่ออเล็กซ์จึงเลิกใช้ปากกับควยของชาย เธอใช้มือรูดไปมาพร้อมขยับตัวขึ้นมาจนหีของเธอมาจ่อที่ควยชาย หญิงสาวจับควยพร้อมค่อยหย่อนตัวลงเอาหีครอบควยที่แข็งตัวเต็มที่ พอได้ที่อเล็กซ์เริ่มโยกตัวไปมาอีกครั้ง ชายปล่อยหญิงสาวให้ขย่มไปมาสักพักก่อนที่ตนเองจะลุกขึ้นนั่งแล้วจัดท่าใหม่ อเล็กซ์เลื่อนตัวขึ้นมาบนตักชายพร้อมเอามือทั้งสองโอบรอบคอ ก่อนจะเริ่มขย่มตัวอีกครั้ง ส่วนชายนั้นมือทั้งสองรวบไปที่เอวของหญิงสาวพร้อมเอาหน้าซุกไซร้ไปบนเต้านมที่อวบอิ่ม เสียงครางเสียงเตียงที่ดังและเสียงเนื้อที่กระทบกันดังผสมกันตลอด ผ่านไปสักพักชายบอกให้อเล็กซ์เปลี่ยนท่าไปเป็น ท่าด็อกกี้หญิงสาวทำตามทันที ชายขยับตัวไปด้านหลังหลังจากที่ก้นของเธอนั้นลอยเด่นขึ้น มือของชายจับไปที่เอวพร้อมเอาควยไปจ่อที่รูหีอันชุ่มชื้น ก่อนจะดันควยเข้าไปจนมิดด้ามแล้วกระเด้าอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับอีกฝ่ายที่เด้งรับตลอด จนทั้งคู่จวนจะถึงจุดหมาย ชายเร่งจังหวะกระเด้าขึ้น เหมือนกับอเล็กซ์ที่เด้งรับแรงขึ้น มือทั้งสองข้างของเธอจิกไปบนที่นอนหลังจากที่ชายกระเด้าส่งซ้ายพร้อมส่งน้ำกามเข้ารูหีเธออีกครั้ง เช่นเดียวกับเธอที่ส่งเสียงร้องออกมาพร้อมอาการเกร็งไปทั้งตัว อเล็กซ์ค่อยๆลงไปนอนราบบนที่นอนโดยมีตัวของชายลงไปนอนทาบ ใบหน้าของเธอนั้นตะแคงอยู่บนหมอน ชายหอมแก้มเธอเบาๆ
“อิ่มหรือยัง”
“ขอพักก่อน ระบมอยู่เหมือนกัน คุณเอาฉันไม่ยั้งเลย”
“คุณก็เด้งรับไม่หยุด และคุณก็ปลุกให้ผผมตื่นเองนะ”
ชายตอบพร้อมใช้จมูกไซร้ไปตามแก้มและใบหูของหญิงสาว อเล็กซ์หลับตาไปครู่หนึ่งเหมือนจะปรับอารมณ์แล้วบอกกับชาย
“เรื่องที่คุณจะทำนี่เสี่ยงมากนะ ชาร์ลีบอกกับฉันว่าเขาต้องตอบคำถามท่านทูตกับเลขาแทบไม่ไหว”
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน