เนื้อหาในตอนนี้มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อส่วนบุคคล ความเชื่อในแต่ละภูมิภาค
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
ต่อจากตอนที่แล้ว กลับมาบ้านแล้ว พ่อแยกไปคุยกับอาพุฒ เรามาหลังบ้านกับแม่ ก็สงสัยเรื่องที่พี่จวบเจอก็เลยถาม พี่จวบบอกว่าตอนนั้นไม่ได้เห็นพ่อทศ แต่เห็นเป็นเสือตัวใหญ่ เดี๋ยวนะพี่จวบ ที่พี่จวบพูดน่ะหมายความว่ายังไง ที่บอกว่าไม่ได้เห็นพ่อทศเป็นพ่อทศ แต่เห็นเป็นเสือ แล้วแต่ละก้าวที่พ่อทศเดินเข้าไปหามันสะเทือนเลื่อนลั่นน่ะ และจากที่พี่จวบบอกมา เราคงหาภาพประกอบได้ประมาณนี้แหละ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ก้าวเข้าไป1 ก้าวพื้นดินก็สะเทือน 1 ก้าว ทุกก้าวก็สะเทือนทุกก้าวและพอเข้าไปใกล้ๆ กลับกลายเห็นเป็นเสือ คือเอาตรงๆเรื่องที่พี่จวบเล่ามันดูแฟนตาซี เหนือธรรมชาติมากเลยนะ เพราะว่าทั้งเรา ทั้งพ่อแม่ ทั้งอาพุฒ ก็อยู่ตรงนั้นหมดและทุกคนก็ไม่เห็นว่าพื้นดินจะสะเทือนอะไรอย่างที่พี่จวบบอก
แต่จะเป็นไปได้หรือเปล่านะ ที่พ่อทศเขาจงใจทำให้พี่จวบเห็นคนเดียว เพราะเท่าที่จับใจความได้ พี่จวบเองก็คงจะเป็นคนที่บูชาและสักอะไรมาเหมือนกัน เราถามไปนะว่าเห็นแบบนั้นจริงๆเหรอพี่จวบ พี่จวบพยักหน้าบอกครับคุณหมิว เราก็มองหน้าแม่เรานะตอนนั้น มันจะเป็นไปได้เหรอที่คนจะแปลงร่างเป็นเสือได้ แม่เราก็พูดว่าตอนนี้ไม่เป็นอะไรแล้วใช่ไหมจวบ พี่จวบบอกครับคุณผู้หญิง พ่อของโทนเขาไม่ได้กะเอาให้ตายหรอกครับ
เราก็ตกใจถามว่าถึงตายเลยเหรอพี่จวบ พี่จวบก็เงียบไปแปปนึง เราก็บอกมาขนาดนี้บอกมาเถอะพี่จวบ อาทิตย์นี้หมิวเจอเรื่องแปลกๆมาเยอะแยะแล้ว จะรู้เพิ่มอีกเรื่องคงไม่เป็นไรหรอก พี่จวบก็บอกว่า ที่คุณหมิวไม่เห็นเพราะพ่อของโทนอาจจะไม่ได้ทำให้คุณหมิวเห็นก็ได้ครับ ของพวกนี้น่ะคนที่ตบะสูงเขาสามารถกำหนดขอบเขตได้ เราก็ห๊ะ! พี่จวบตบะเลยเหรอ พี่จวบเขาบอกเราว่า ด้วยที่บ้านของพ่อโทนเป็นแบบนั้น การที่ต้องคุมคน คุมลูกน้องมามากมาย การที่สามารถสักยันต์พญาเสือคู่ได้ การที่คุมของที่อยู่ในตัว ผมเชื่อว่าพ่อของโทนทำได้ครับ พอพี่จวบพูดแล้วเรานึกถึงตอนนั้นเลย ที่เสี่ยต่างจังหวัด กับ พี่ชายเสี่ย ทะเลาะกันในบ้านจนจะยิงกัน
แต่พอพ่อทศขู่ขึ้นมา 2 คนนั้นก็นิ่งหน้าถอดสี แล้วพี่ชายเสี่ยพูดว่าไม่ถึงขั้นต้องปลุกของเลย กรณีพี่จวบจะเป็นแบบนั้นหรือเปล่านะที่เห็นพ่อทศกลายเป็นเสือ เราก็เลยพูดว่าพ่อทศจะแปลงร่างได้เหรอ พี่จวบก็บอกว่า สำหรับคนที่มีวิชา คนที่ศึกษามาถูกทาง ก็อาจจะใช้คาถา นารายณ์แปลงรูป นะครับ ทำให้เราเห็นเขาเป็นคนอื่น เราก็บอกเดี๋ยว ๆ ๆ พี่จวบอันนี้แปลงร่างเลยนะ มันไม่เว่อร์ไปเหรอเนี่ย พี่จวบก็บอกว่า เพราะเรื่องนี้ยังไม่ถูกพิสูจน์ไงครับคุณหมิว มันก็เลยเป็นความเชื่อเรื่อยมา แต่ผมเห็นเป็นเสือตัวใหญ่จริงๆนะครับ เราก็ฟังนะแล้วคือพี่จวบตอนนั้นทรุดลงไป หน้าเหน้อนี่เสีย ซีด เหมือนกลัวสุดขีดจริงๆ คือโอเคเรื่องลี้ลับในบ้านไอ้ลิงน่ะ มีแน่ๆอันนี้เราเชื่อ แต่กับพี่จวบเราไม่ได้เห็นแบบพี่จวบไง เราก็เลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอ่ะ
เราก็มองหน้าแม่เลยนะตอนนั้น แม่เราก็บอกเอาล่ะๆในเมื่อทศเขาไม่ได้คิดจะเอาให้ถึงชีวิต จวบช่วยลืมๆหน่อยได้ไหม พี่จวบพูดเลยนะทุกคนว่า ผมไม่กล้าคิดแม้แต่นิดเดียวที่จะไม่พอใจเลยครับคุณผู้หญิง พี่จวบพูดแล้วก็หน้านิ่งเลย แม่เราก็พูดว่าเอาล่ะจวบชั้นก็พอรู้ว่าตอนหนุ่มๆจวบเองก็ผ่านอะไรมาเยอะ แต่การที่จวบเสียอาการแบบนั้น ทศเขาก็คงไม่ธรรมดาจริงๆนั่นแหละนะ พี่จวบตอบกลับมาทันทีว่าใช่ครับคุณผู้หญิง พ่อของโทนเขาไม่ใช่ธรรมดาเลยครับ ถ้าจะให้ผมพูดตรงๆก็คือไม่ธรรมดาทั้งบ้านมากกว่าครับ อาจจะรวมถึงตัวของโทนด้วยครับคุณผู้ญิง
เราก็ถามทำไมง่ะพี่จวบ ไอ้ลิงบ้าทำไมเหรอ ก็ไอ้ลิงบ้าบอกเองว่าไม่เคยร่ำไม่เคยเรียนอะไรจากพ่อทศ หรือ ปู่เทียนเลยอ่ะ แบบนั้นไอ้ลิงบ้าจะทำอะไรได้เหรอ..... ตอนนั้นเราก็ชะงัก แบบตัวโยกเลยแบบเหมือนคนสะอึก เพราะเรามานึกได้ว่าสิ่งทีไอ้ลิงบ้าทำไปอ่ะ หลายครั้งแล้วที่ทำให้เราหัวใจหายว่าบบบบ ไหนจะเรื่องที่มีสุกี้น้ำไปเฝ้าที่โรงพยาบาล ไหนจะการประกบมือกังเพี๊ยะเหมือนอีริวกะ แล้วกลิ่นในห้องหายไปหมดเลย ก็ใช้ที่ไอ้ลิงบ้าบอกว่าไม่เคยฝึก ไม่เคยร่ำเรียนอะไรมาเลย แต่เศษเสี้ยวคุณไสยในตัวไอ้ลิงบ้าล่ะ นั่นจะเป็นเหมือนสื่อกลางหรือเปล่า
คือเอาตรงๆต่อให้เห็นมากับตาอ่ะ เราก็ไม่ค่อยจะเชื่อนะเรื่องที่แบบท่องๆ ๆ ๆ บริกรรมคาถา แล้วจะทำให้มีพละกำลังมหาศาลอะไรได้อ่ะ ที่ไอ้ลิงบ้ายกกระสอบปุ๋ย ยกลำโพงได้แบบนั้นเราว่าเพราะการออกกำลังกายจนมีแรงขนาดนั้นมากกว่า ไม่รู้อ่ะด้วยความที่โตมาแบบนี้อ่ะ มันทำให้เราไม่ค่อยเชื่อเท่าไร คือโอเคเรื่องที่พูดและสื่อสารกับสิ่งบางสิ่งได้ อันนี้เราเชื่อว่าไอ้ลิงบ้าทำได้แน่นอน ยังไงก็ทำได้แน่นอน อย่างน้อยก็กับน้องกุมารอ่ะ เพราะน้องกุมารก็บอกเราเองว่า กลัวพี่ตะวันเตะ.... เอ๊ะ เดี๋ยวก่อน แบบนี้มันมากกว่าสื่อสารแล้วอ่ะดิ่
ขนาดน้องกุมารยังกลัวโดนเตะแบบนี้ แสดงว่าเคยโดนมาแล้ว งั้นไอ้ลิงบ้าก็สามารถสัมผัสและจับได้ด้วยน่ะซิ่ เง้ออออ อะไรเนี่ย แล้วบอกว่าไม่ได้เรียนอะไรมา ไอ้ลิงบ้ามาโกหกเหรอ ต้องหยิกให้แก้มเขียวเลย ตอนที่เราคิดๆอะไรอยู่ หน้าเราคงจะมุ่ยๆมั้ง แม่ก็ถามเราว่า เจ้าหมิวเป็นอะไรไปน่ะลูก เราก็งึ้ยย หันไปมองแม่แล้วก็เผลอพูดไปตรงๆว่า น้องกุมารเคยมาบอกหมิวอ่ะว่ากลัวพี่ตะวันเตะ อย่าไปฟ้องพี่ตะวัน แสดงว่านอกจากจะสื่อสารกันได้แล้ว ไอ้ลิงบ้านั่นต้องสัมผัสหรือแตะได้แน่ๆเลยค่ะแม่..... เราหันไปมองหน้าพี่จวบเลย
เราถามอีกว่าพี่จวบคะ ตอนที่โรงพยาบาลอ่ะหมิวยังไม่ได้ถามพี่จวบเลย พี่จวบถามตอนไหนครับคุณหมิว เราก็บอกไปว่าก็ตอนที่พ่อไปรับไอ้ลิงบ้าออกจากโรงพยาบาล แล้วตอนจะกลับบ้านไอ้ลิงไปที่มุมห้อง หรือ เสาห้องนี่แหละ และประกบมืออะไรทีนึง แล้วพี่จวบก็ทำท่าผวาอ่ะค่ะ พี่จวบเห็นไรง่ะ แม่ถามอะไรอีกนั่นเจ้าหมิว เราก็บอกว่า งืมม อาจจะดูเว่อร์นะคะแม่ แต่ดูเหมือนว่าก่อนจะออกมาจากโรงพยาบาล โทนเหมือนทำพิธีบอกกล่าวหรืออะไรนี่แหละค่ะแม่ . . . เพราะว่า... เราพูดแล้วหันหน้าไปมองพี่จวบ แล้วเราก็บอกว่าเพราะก่อนที่จะเข้าไปในห้อง
มีเด็กกับผู้หญิงคนนึงเดินผ่านมา น้องคนนั้นเขาโบกมือให้หมิวค่ะแม่ แต่พี่จวบบอกว่าน้องคนนั้นเป็นคนเดียวกับที่พี่จวบเจอหน้าบ้านเรา แม่เราก็มองนะ แล้วหันไปถามพี่จวบว่า ว่าไงล่ะจวบถ้าไม่ตอบมา เจ้าหมิวก็คงถามไม่หยุดแน่ๆล่ะ พี่จวบก็มองเราแล้วถอนหายใจนะ พี่จวบบอกว่าเห็นผู้หญิงโผล่ออกมาจากกำแพงครับ เราสะดุ้งเลยนะเกาะแขนแม่แน่นๆเลย แม่เราก็ลูบมือเราเบาๆนะ เราก็ใจแข็งถามไปว่า แล้วไงต่อพี่จวบ พี่จวบก็บอกว่าคนที่โผล่มาจากกำแพงน่ะมองมาที่โทน แล้วเหมือนพยักหน้ารับรู้ เราก็ร้องฮือเลยตอนนั้นกอดแขนแม่แน่นเลยอ่ะ
แต่พี่จวบก็บอกว่า แต่พอออกมาแล้วก็ไม่เห็นอะไรอีกแล้วนะครับคุณหมิว แล้วก็ไม่มีอะไรแปลกๆหลังจากนั้นด้วย เราก็บอกฮืออ ไอ้ลิงบ้าอ่ะไปซื้อที่นอนแน่ๆเลย แม่เราก็ถามอะไรหืมเจ้าหมิว เราก็บอกไปว่าก็เอาเหรียญไปวางไว้ใต้หมอน หนูดู google เขาบอกว่าเป็นการซื้อที่นอนจากอะไรที่มองไม่เห็นน่ะค่ะแม่ แม่เราก็บอกว่าหืมม นี่ลูกสาวแม่รู้เรื่องพวกนี้ได้ไงเนี่ยหืม เราก็บอกเง้อออ ช่วงนี้เจออะไรแปลกๆบ่อยๆนี่นา หนูก็ต้องรับมือให้ถูกวิธีบ้างซิ่คะแม่ แม่เราก็ลูบหัวเบาๆแล้วบอก โอ๋ ๆ ๆ ลูกสาวแม่ เราก็กอดแขนเลยแล้วบอก เกิดมาก็ไม่เคยเจออะไรพวกนี้เลย หมิวจะทำตัวยังไงง่ะ
แม่เราก็บอกนะว่า ก็ทำตัวเหมือนเดิม จริงๆสิ่งพวกนี้น่ะอยู่รอบตัวโดยที่พวกเราอาจจะมองไม่เห็นหรือไม่ใส่ใจมาโดยตลอดนี่นา หนูก็แค่ทำเหมือนเดิมนั่นแหละ แม่เราก็ถามว่างั้นลูกสาวแม่ไหนลองพยายามเพ่งมองหน่อยซิ๊ ว่าตอนนี้เห็นอะไรไหม เราก็บอกเง้ออออ แม่ง้ะ อย่าแกล้งหมิวซิ่ แม่เราก็ขำๆนะแล้วบอกว่า เท่าที่แม่ฟังๆเรามาก็เท่ากับว่าหนูจะมองเห็นก็ต่อเมื่ออยู่ใกล้ๆเจ้าโทนที่เป็นเหมือนสื่อกลางใช่ไหม งั้นตอนนี้เราอยู่บ้านเรา หนูก็คงไม่เห็นอะไรหรอกนะเจ้าหมิว เราก็กอดแขนแม่แล้วก็งื้มๆ ๆ แม่เราก็บอกว่าส่วนจวบน่ะ เป็นแบบนี้มาตั้งแต่สมัยหนุ่มๆแล้วล่ะ จะมองเห็นอะไรบางอย่างแปลกๆ เราหันไปถามเหรอคะพี่จวบ พี่จวบก็บอกครับแล้วก็พูดเสียงเบาๆว่า ครับ
แม่เราก็ลูบหัวเบาๆแล้วบอกว่า พรุ่งนี้จะไปงานเรียกขวัญเจ้าโทนนะ จะไหวไหมเนี่ยลูกสาวแม่ เราก็บอกไหว ๆ ๆ ๆ หนูอยากไปนี่นา แม่เราก็บอกอื้มม แล้วแม่เราก็นิ่งนะแปปนึง แล้วก็พูดว่าแต่แปลกนะ ทำไมเจ้าโทนถึงทำอะไรแปลกๆแบบนั้นได้ แม่ก็เชื่อว่าเจ้าโทนไม่ได้โกหกหรอกที่บอกว่าไม่ได้เรียนอะไรมาเลย แต่ก็แปลกๆนะ ง้ะ !!!!! เราอยากพูดแต่ก็ไม่รู้จะพูดยังไงว่า แม่ทิพย์เคยโดนทำของใส่ และเศษเสี้ยวคุณไสยนั้นก็มาถึงโทนด้วย ง้ะจะพูดยังไงดี แต่ว่าตอนนั้นพี่จวบก็พุดนะว่า
คุณผู้หญิงครับ มันจะมีอีกความเชื่อนึงของคนที่มีวิชา มีของนะครับ แม่เราก็หืมว่าไงจวบ พูดมาเลยชั้นเองก็จะได้เปิดหูเปิดตาเหมือนกัน พี่จวบบอกว่า แถวบ้านผมก็มีความเชื่อครับว่าถ้าคนที่มีของ มีอาคม เกิดมีลูกขึ้นมา พวกของต่างๆจะถูกดูดไปที่ลูกส่วนนึงครับ และของจากตัวผู้ที่เป็นพ่อก็จะเสื่อมลงตามกาลเวลา เราพูดถามบ้า จะเป็นแบบนั้นเหรอพี่จวบ พี่จวบก็บอกว่า มันก็เป็นแค่ความเชื่อของคนในจังหวัดของผมนั่นแหละครับคุณหมิว แต่ถ้าลองคิดเผื่อๆไปว่ามันเป็นจริง และของในตัวของพ่อโทนถูกดูดไปอยู่ที่โทน มันก็พอจะสมเหตุสมผลนะครับ เง้อออ เราคิดในใจ ไม่อ่ะ ไม่ใช่แน่ๆ
 
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน