ตะลุยรักสาวงาม 51 (บทสรุปของรุต 2) ตอนจบ

[twintower]

"ได้อาจารย์ดีนะ"

ผมตอบไปแบบนี้ยุ้ยนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยแต่เธอรีบกลับมาทำสีหน้าเหมือนเดิม ผมจัดการยื่นบัตรเครดิตให้พนักงาน เราคุยกันอีก 2-3 คำก่อนที่จะยุ้ยจะบอกกับผม

"แล้วเย็นนี้รุตมีโปรแกรมอะไรหรือเปล่า"

"ไม่มีนะ ว่าจะไปเดินเล่นที่ชินจูกุ"

"งั้นเย็นนี้เราไปกินข้าวกันไม่ได้เจอกันนานแล้วรุตพักที่ไหนยุ้ยไปรับเอง"

ผมบอกโรงแรมที่พักซึ่งเธอนั้นขอเบอร์โทรศัพท์ผมด้วย ผมยื่นนามบัตรให้ ยุ้ยรับไปอ่านก่อนจะยิ้มและเปิดกระเป๋าหยิบนามบัตรของเธอส่งให้ผม

"6 โมงเย็นยุ้ยไปรับนะ"

เธอพูดก่อนที่ผมพยักหน้าแล้วลาเธอก่อนจะเดินออกจากร้าน ตอนแรกที่เธอเข้ามาในร้านผมเองไม่ได้สังเกตคนที่เดินตามยุ้ยเข้ามา 2 คนเป็นผู้ชายกับผู้หญิง ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ใส่สูทดูท่าจะเป็นคนขับรถ ส่วนผู้หญิงนั้นคงเป็นเลขาของเธอ เพราะจากนามบัตรที่ยุ้ยให้ผม มีทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ ระบุตำแหน่งของเธอเป็น CEO ของกลุ่มธุรกิจกลุ่มหนึ่ง ผมจึงใช้โทรศัพท์เสิร์ชหาข้อมูล ทำให้รู้ว่าเป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่มีประกอบกิจการหลายประเภท และชื่อของเธอนั้นได้ใช้ชื่อญี่ปุ่นตามที่ผมรู้ว่ายุ้ยนั้นมีทั้งชื่อไทยและชื่อญี่ปุ่น ระหว่างที่เดินเล่นไปตามทางผมเมื่อเจอยุ้ยอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะได้เจอ ผมไม่เคยลืมเธอทำให้ผมอดนึกถึงเรื่องในอดีตไม่ได้

ยุ้ยนั้นเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นไทย พ่อเป็นคนญี่ปุ่นแม่เป็นคนไทย เราเรียนโรงเรียนและเรียนชั้นเดียวกันแต่คนละห้อง เลยรู้จักแต่หน้า ไม่ได้พูดคุยอะไรกัน  เธอเข้ามาเรียนที่โรงเรียนตอน ม.4 ด้วยความที่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นทำให้ยุ้ยนั้นสะดุดตามากในโรงเรียนผู้ชายหลายคนต่างชื่นชมและพูดถึงเธออย่างสนุกปาก ทั้งผิวขาวหน้าตาที่หน้ารัก หุ่นที่อวบอิ่มผมเองก็แอบมองอยู่เหมือนกัน จนมาวันหนึ่งช่วงเรียน ม.5 หลังจากที่ซ้อมวงโยธวาทิตเสร็จ ผมเดินมาที่ม้านั่งริมสนามฟุตบอลเพื่อจะมาหยิบกระเป๋าที่วางไว้ ขณะก้มลงไปหยิบกระเป๋าผมเห็น หนังสือการ์ตูนเล่มหนึ่งตกอยู่ข้างเก้าอี้ ผมเลยหยิบขึ้นมาเป็นการ์ตูนโดราเอมอนที่หน้าปกเป็นภาษาญี่ปุ่น  ผมพลิกเข้าไปด้านในพบว่าเป็นการ์ตูนที่บรรยายเป็นภาษาญี่ปุ่นและลำดับหน้านั้นอ่านจากขวาไปซ้าย ผมมองไปรอบๆและชูหนังสือขึ้นพร้อมพูดเสียงที่ค่อนข้างดัง

"ใครทำการ์ตูนหล่น"

ผมมองไปเห็นยุ้ยที่นั่งคุยกับเพื่อนออกไปไม่ห่างนัก เธอก้มไปดูหนังสือที่วางอยู่บนเป้ที่อยู่บนตักยุ้ยรีบหยิบหนังสือขึ้นมาดู แล้วยุ้ยเดินมาหาผมทันที 

"ของเราเอง ขอบคุณนะ"

ผมยื่นให้ยุ้ยเพราะมั่นใจว่ายังมันก็เป็นของเธออยู่แล้ว แต่ก็อดถามไม่ได้

"เธอคงอ่านญี่ปุ่นได้คล่อง"

ยุ้ยยิ้มๆและยังไม่รับหนังสือที่ผมยื่นให้

"เธอลองเอาไปหัดอ่านดูสิ มันอาจจะเป็นประโยชน์ต่อเธอด้วยนะ เรามีเยอะเอาไปเหอะ"

เธอพยักหน้าพร้อมเอามือดันหนังสือกลับมาที่ผม ทำให้ผมจำใจรับ มานั่นเป็นครั้งแรกที่เราได้คุยกัน ผมนั้นรู้จักชื่อเธอมาตั้งนานแต่ดูแล้วยุ้ยในตอนนี้คงไม่รู้จักชื่อผม พอกลับมาถึงบ้านผมพลิกๆหนังสือดูเพราะอ่านไม่รู้เรื่อง แต่พอรู้เนื้อหาเพราะเคยอ่านฉบับที่เป็นภาษาไทยมาแล้ว ผมลองเอามาเทียบกันแต่ไม่สนใจอะไร แต่วันรุ่งขึ้นยุ้ยมาเจอผมอีกครั้งแล้วยื่นหนังสือเล่มเล็กๆแต่หนาพอสมควรให้ผม

"อะนี่เป็นพจนานุกรมไทยญี่ปุ่น ลองเอาไปใช้แปลดูนะ ถ้าคำไหนมันยากมาถามเราได้นะ"

ผมขอบคุณเธอแล้วรับมา แต่ผมเองไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นักพอกลับมาบ้านผมลองดูแล้วมันยากพอสมควรและเห็นว่าเสียเวลาซ้อมดนตรีมากกว่า ผมคิดว่าหาโดราเอม่อนฉบับภาษาไทยได้ง่ายกว่าไม่ต้องมาเสียเวลาแปล จนผ่านไป 2อาทิตย์ ขณะผมกำลังนั่งลองเสียงฟลูตอยู่ที่เก้าอี้ริมสนาม ยุ้ยที่เห็นผมเธอได้เดินเข้ามา

"รุตเป็นไงบ้าง ลองแปลไปถึงไหนแล้ว"

ครั้งนี้เธอเอ่ยชื่อผม ยุ้ยคงไปถามจากเพื่อนๆมา ผมส่ายหน้าก่อนจะตอบ

"ไม่ไปถึงไหนเราไม่มีเวลาเท่าไหร่นะทั้งซ้อมดนตรีทั้งทำงาน"

ยุ้ยนั้นสีหน้าดูผิดหวังพอสมควรแล้วพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินกลับไป

"น่าเสียดายนะสำหรับโอกาสที่จะเรียนรู้อะไรใหม่ๆ"

มันเป็นคำพูดที่ทำให้ผมต้องเก็บไปคิดพร้อมสีหน้าที่แสดงความผิดหวังของยุ้ย ทำให้ผมเกิดความมุมานะขึ้นมา ใช่เธอพูดถูกยุ้ยคงปรารถนาดีกับผมจริงๆ ที่ให้พจนานุกรมมาด้วย ผมจึงเริ่มศึกษาหาความรู้โดยเอาสมุดมาคอยจดคำแปลที่ผมแกะทีละตัว พร้อมหัดอ่านออกเสียงมันต้องใช้ความมานะพอสมควร จนผมตัดสินใจเอาเงินที่เก็บจากการทำงานแตรวงกับอาส่วนหนึ่งมาซื้อพจนานุกรมไทยญี่ปุ่นเล่มใหญ่พร้อมกับการหาข้อมูลเพิ่มในห้องสมุด นั่นเป็นจุดเริ่มทำให้ผมมานะหันมาสนใจการเรียนมากขึ้นจากที่จนทำให้เทอมนั้นคะแนนผมดีขึ้น ผมเริ่มอ่านตัวอักษรญี่ปุ่นได้หลายคำและหัดพูดคำสั้นๆได้บ้างจนวันหนึ่งผมได้มาเจอกับยุ้ยที่งานบวชของญาติทางแม่เธอ ระหว่างที่รอแห่นาครอบโบสถ์  ผมใช้เวลาว่างนั่งอ่านและจดศัพท์ภาษาญี่ปุ่นลงในสมุด

"ไงไปถึงไหนแล้ว"

เสียงของยุ้ยดังมาจากด้านหลังผมหันไปมองเห็นเธอมองมาที่สมุดจด

"ก็ได้นิดๆหน่อยนะ เล่มที่ยุ้ยให้เราอ่านไม่ถึงตอนเลยคลำไปเรื่อยๆ"

ผมตอบเธอ หลังจากที่ไม่ได้คุยกันอีกเลยนับจากวันนั้น ยุ้ยยิ้มแล้วขอดูสมุดที่ผมจด

"ก็โอเคนะ สำหรับคนที่เรียนรู้ด้วยตัวเอง นับว่ามีความพยายามอย่างมาก ตัวอักษรญี่ปุ่นก็เขียนยากแต่รุตก็เขียนได้ดี เราอ่านได้นะ ถ้าสงสัยไม่เข้าใจมาถามเราได้ตลอดนะ "

เธอพูดพร้อมรอยยิ้มพร้อมส่งสมุดคืนให้ผม

"แต่รุตก็แบ่งเวลาเก่งนะ ทั้งเรียนไหนจะทำงานด้วย"

ยุ้ยพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินจากไป หลังจากวันนั้นผมทำตามที่เธอบอก ซึ่งตัวยุ้ยเองก็เต็มใจที่จะอธิบาย จนมีเพื่อนๆแซวว่าผมจีบเธอ ทั้งๆที่เธอนั้นมีแฟนเป็นประธานนักเรียนอยู่แล้ว แต่ใจผมไม่ได้คิดอะไรเพราะต้องการหาความรู้ให้กับตัวเอง จนถึงช่วงปลายเทอม 2  ช่วงบ่ายวันเสาร์ขณะที่ผมออกจากร้านหนังสือที่ตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าในตัวจังหวัด  ผมไปเจอยุ้ยที่ก่อนจะถึงประตูทางเข้าออกของห้าง

"อ้าวยุ้ยมาทำอะไร"

ผมเป็นฝ่ายทักเธอก่อน

"มาหาอะไรกินนะ ไม่มีใครอยู่บ้าน แล้วรุตมาซื้อหนังสือหรือไง"

เธอตอบพร้อมมองไปที่มือผมที่ถือถุงใส่หนังสือ

"ใช่หนังสือติวนะ"

"ขยันจัง"

"มันมาจากการ์ตูนโดเรม่อนที่ยุ้ยให้แล้วก็คำพูดที่ยุ้ยพูดกับเราวันนั้น"

ยุ้ยยิ้มๆก่อนจะพูดตอบผม

"ยุ้ยเองก็นึกไม่ถึงนะ ว่ารุตจะมานะขนาดนี้ แล้วนี่จะกลับบ้านหรือไง"

ผมพยักหน้ายุ้ยนั้นยิ้มให้แต่ก่อนจะเดินจากผมเกิดเปลี่ยนใจกะทันหัน

"แล้วยุ้ยนัดใครไว้หรือเปล่าละ"

"เปล่า  เรามาคนเดียว รุตจะมากับเราหรือเปล่าละ"

เธอเอ่ยปากชวนก่อนที่ผมจะชวนเธอ เราทั้งคู่จึงไปที่ศูนย์อาหารระหว่างที่นั่งทานข้าวยุ้ยเล่าให้ผมฟังว่า พ่อกับแม่เธอกำลังจะเดินทาง ไปญี่ปุ่นเธอเลยติดรถมาลงที่ห้างสรรพสินค้า เธอเล่าต่อไปว่าพ่อของเธอนั้นมีกิจการของครอบครัวที่ต้องดูแลและปู่นั้นสุขภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่จึงต้องเดินทางไปๆมาๆระหว่างไทยกับญี่ปุ่นเป็นประจำบางครั้งแม่ต้องไปด้วยทำให้เธอต้องอยู่บ้านคนเดียวบ่อยครั้ง ผมเองก็ไม่รู้จักพ่อกับแม่ของยุ้ยเคยเห็นหน้าแค่หนเดียวตอนงานบวชของญาติทางแม่เธอ ยุ้ยชวนผมคุยส่วนใหญ่จะคุยเรื่องภาษาญี่ปุ่นที่ผมกำลังเรียนรู้ ผมดูเธอท่าทางหงอยๆ คงมาจากที่เธอพึ่งเลิกรากับแฟนที่เป็นประธานนักเรียนเมื่อไม่นานมานี้ คงเป็นเหตุที่ทำให้เธอไม่อยากอยู่บ้านคนเดียว แล้วจู่ๆยุ้ยชวนผมดูหนังต่อ ผมเองก็ไม่ปฏิเสธเพราะว่างพอดี

ถึงจะเป็นวันหยุดแต่เป็นหนังที่ผมกับยุ้ยดูนั้นฉายมานานพอสมควรแล้วทำให้ในโรงมีคนดูประมาณ20-30คนได้ ทำให้แถวที่ผมนั่งมีแค่ผมกับยุ้ยเพียง 2 คน ตอนแรกเรานั่งห่างกันแต่เวลาผ่านไป จู่ๆยุ้ยที่นั่งด้านขวาเริ่มเอนตัวมาเบียดผม ทำให้แขนของเรานั้นแนบชิดกันบนที่วางแขน จนเธอเอาแก้มมาแนบกับไหล่แถมหน้าอกเธอนั้นมาเบียดกับต้นแขน ผมเองไม่ขยับตัวหนีเพราะจู่ๆเจอแบบนี้ทำไมจะไม่ชอบถือยิ่งเป็นช่วงวัยรุ่นด้วยทำให้ความเงี่ยนบวกกับความคะนองที่มี มือข้างขวาของผมเริ่มไม่อยู่สุขลูบไปมาที่ขาของเธอ ซึ่งยุ้ยตอนแรกนั้นเฉยๆปล่อยให้ผมลูบคลำตามใจชอบ จนมือผมเริ่มสูงขึ้นเกือบจะไปถึงเป้ากางเกง

"รุตไม่เอา"

ยุ้ยเอามือมาจับแขนผมไว้

"ขอจับหน่อย"

ผมกระซิบตอบเธอที่ยังนั่งซบไหล่ผมอยู่พร้อมขยับมือขึ้นไปอีก เธอพยายามดันมือผมให้ออกแต่ไม่สำเร็จมือผมไปจับตรงเป้ากางเกงเธอจนได้ ทำให้เธอหายใจแรงขึ้นพร้อมกระซิบ

"จับอย่างเดียวนะ"

ผมพยักหน้าแต่มือเริ่มขยำไปที่เป้ากางเธอเบาๆพร้อมเอนตัวไปอีกและเอามือซ้ายพาดผ่านตัวไปสัมผัสตรงหน้าอกที่โดนต้นแขนขวาผมอยู่

"รุตมากไปแล้วนะ"

ยุ้ยพูดแต่ตัวยังแนบชิดผมอยู่พร้อมกับการหายใจที่ถี่และแรงขึ้น   ผมไม่สนใจเพราะความคะนองที่มีอยู่ ผมเริ่มใช้มือคลึงนมเธอไปมาก่อนเลื่อนลงมาที่ชายเสื้อยืดแบบรัดรูป มือผมล้วงผ่านชายเสื้อไปสัมผัสยกทรงยุ้ยนั้นขยับตัวให้ผมจับนมเธอได้ถนัดมือขึ้นจนมือผมล้วงผ่านยกทรงไปสัมผัสเนื้อแท้ นมที่ขนาดพอดีตัวของเธอนั้นยังแข็งอยู่ ทำเอาผมใจเต้นระรัวเพราะเป็นครั้งแรกที่ผมได้จับนมผู้หญิง ส่วนมือขวาที่ลูบคลำเป้าเธอนั้นผมเลื่อนขึ้นมาที่ขอบกางเกง ยุ้ยนั้นสวมกางเกงผ้าที่เอวเป็นยางยืด พอมือผมทำท่าจะล้วงผ่านขอบกางเกงยุ้ยกระซิบบอกผม

"รุตเอาหนังสือมาวางบนตักเราหน่อย"

ผมจัดการตามที่เธอบอกเอาถุงใส่หนังสือไปวางที่ตักเธอ ยุ้ยขยับตัวมาเบียดผมชิดมากขึ้นแล้วเอาปากมางับหูเบาๆแถมเป็นฝ่ายที่จับมือขวาผมให้ล้วงผ่านขอบกางเกงเข้าไปในด้านใน ผมไล่มือไปเรื่อยๆจนล้วงผ่านกางเกงใน จนนิ้วผมสัมผัสได้กับขนหมอยผมไล่นิ้วไปถึงร่องหีที่ชุ่มชื้น นิ้วผมเริ่มเขี่ยไปมาที่ร่องหี ซึ่งมือยุ้ยนั้นบีบแขนผมแน่นผมครางออกมาอย่างแผ่วเบา ทำให้ผมนั้นรู้สึกเพลินอย่างมากทุกอย่างมันเกินคาดแถมอีกฝ่ายนั้นไม่ขัดขืน ยอมให้ผมลวนลามอย่างง่ายดาย มือข้างหนึ่งผมล้วงหีอีกข้างนั้นลูบคลำและบี้ไปที่นมอย่างต่อเนื่อง จนเธอนั้นมีอาการเกร็งไปทั้งตัวมือบีบแขนผมแน่น

"เราถึงแล้วรุต พอก่อน"

ยุ้ยกระซิบบอก  ผมเขี่ยร่องหีที่ชุ่มฉ่าไปอีก2-3ครั้งถึงดึงมือออกมาจากตัวเธอทั้งสองข้าง ยุ้ยนั้นยังซบผมอยู่พร้อมเอามือมาลูบคลำที่เป้ากางเกงผมบ้าง

"แข็งเหมือนกันนะ มายุ้ยทำให้เอง"

ผมยังไม่ทันพูดอะไรมือของยุ้ยจัดการปลดกระดุมกางเกงพร้อมรูดซิบเอามือล้วงไปจับควยผม แล้วเริ่มรูดไปมา เป็นครั้งของผมที่ถูกมือของคนอื่นรูดนอกเหนือจากมือของตัวเองเวลาที่ผมช่วยตัวเอง ยุ้ยนั้นดูจะชำนาญเป็นอย่างมาก ไม่นานนักน้ำกามผมได้พุ่งออกมา ยุ้ยเอามือตบไปเบาๆบนควยที่อ่อนตัวผมและจัดการเก็บให้เรียบร้อย เราต่างไม่พูดอะไรกันอีกพอหนังเลิกเป็นช่วงค่ำพอดี ผมขับมอเตอร์ไซด์ไปส่งยุ้ยที่บ้านที่อยู่นอกตัวเมืองและอยู่คนละตำบลกับบ้านผม  ผมเองก็ไม่เคยมาบ้านของเธอ ยุ้ยนั้นนั่งตะแคงตัวตลอดทางมีบางครั้งเธอนั่งซบบ่าผมเป็นระยะมือนั้นคล้องที่เอว จนไปถึงหน้าบ้านของเธอบ้านของยุ้ยนั้นใหญ่โตหรูหราพอสมควร บ่งบอกถึงความมีฐานะยุ้ยได้บอกกับผมหลังจากลงจากมอเตอร์ไซด์

"พรุ่งนี้ตอนสายๆมาหายุ้ยสิ จะได้ช่วยติวภาษาญี่ปุ่นให้"

เมื่อเธอเปิดทางให้ขนาดนี้ผมรับคำทันที คืนนั้นเป็นคืนที่ใจผมเร่งให้ถึงตอนเช้าอย่างเร็วๆ  จนช่วงสายวันต่อมาผมมาตามคำเชื้อเชิญของเธอ ยุ้ยนั้นอยู่แถวประตูรั้วพอดีเธอเปิดประตูให้ผมเอามอเตอร์ไซด์เข้าไปจอดในบ้าน วันนี้ยุ้ยอยู่ชุดกางขาสั้นรัดรูปที่เสมอก้น เห็นขอบกางเกงในชัดเจนพร้อมกับเสื้อกล้ามที่คอกว้างจนเห็นเนินอก ทำเอาผมกลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดๆถึงเมื่อวานจะได้สัมผัสมาแล้ว ยุ้ยพาผมเข้าไปในบ้านเธอเดินนำเข้าไปในห้องรับแขกที่ตกแต่งอย่างหรูหรา ผมเห็นกองหนังสือตั้งอยู่บนโต๊ะ 3-4 เล่ม

"เมื่อวานรุตบอกว่ายังไงนะเรื่องการ์ตูนโดราเอม่อนเล่มนั้นนะ"

เธอถามหลังจากที่นั่งลงบนโซฟาคนละตัวกับผม

"ก็อย่างที่บอกนะเราแกะได้ทีละคำ ได้มา 2 หน้าแล้ว"

"ก็โอเคนะ เพราะเรียนรู้ด้วยตัวเอง และคำศัพท์ในการ์ตูนนะมันเหมือนกับการ์ตูนไทยอย่างขายหัวเราะที่มักใช้คำพูดมาบรรยาย ค่อยๆแกะเป็นคำๆแล้วเอามารวมกันเป็นประโยค มันอาจจะไม่ถูกไวยกรณ์หรือเป็นความหมายแปลกหูตา แต่มันจะเป็นประโยชน์อย่างแน่นอน มานั่งใกล้ๆยุ้ยสิ เราจะลองแปลให้ดู"

ผมเองก็พอรู้ว่ายุ้ยเรียนเก่งอยู่พอสมควรโดยเฉพาะเรื่องภาษาที่นอกเหนือจากญี่ปุ่น เธอเก่งทั้งอังกฤษและฝรั่งเศส ยุ้ยบอกผมเองว่าตอนอยู่ที่บ้านเธอต้องพูดกับพ่อเป็นภาษาญี่ปุ่นตั้งแต่เด็กๆ  ผมลุกเดินไปนั่งโซฟาตัวเดียวกับเธอ ยุ้ยเขยิบตัวเข้ามานั่งชิดผมก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบหนังสือที่อยู่บนโต๊ะ  พอเธอกางหนังสือออกมาให้ผมเห็น มันเป็นหนังสือการ์ตูนโป๊ภาษาญี่ปุ่น ยุ้ยนั้นยิ้มๆเธอชี้นิ้วไปที่ตัวอักษรและบอกให้ผมออกเสียงตาม ผมทำตามจนเผลอตัวยกมือขึ้นไปโอบไหล่เธอ จนยุ้ยหันหน้ามา เช่นเดียวกับผมที่หันหน้าไป หน้าของเรานั้นอยู่ชิดกันเหมือนเป็นแม่เหล็กปากของเราทาบกันสนิท ถึงผมจะไม่เคยแต่เรื่องแบบนี้เป็นไปตามธรรมชาติ ยิ่งถูกกระตุ้นจากหนังสือการ์ตูนโป๊ด้วย เราแลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ผมเอามืออีกข้างยกขึ้นมากุที่หน้าอกเธอ จนยุ้ยเป็นฝ่ายชวนผมขึ้นไปบนห้องนอน

บนห้องนอนผมพยายามระงับความตื่นเต้นที่มี ยุ้ยทอดสายตาให้ผมขณะที่ลงไปนอนบนเตียง ผมไม่รอช้าที่จะลงไปนอนทาบบนตัวเธอ ริมฝีปากของเรานั้นทาบกันสนิทมือทั้งสองของยุ้ยยกขึ้นมาโอบรอบคอ ผมใช้บทเรียนที่เคยเห็นจากหนังโป๊ที่เคยดูกับพวกเพื่อนผู้ชาย หน้าผมเลื่อนมาไซร้ไปตามลำคอของยุ้ย ก่อนจะเลิกเสื้อกล้ามที่เธอสวมขึ้น ยกทรงสีขาวนั้นปิดบังเต้านมที่ผมได้เคลิ้นคลึงมาเมื่อคืน ผมจัดการถอดเสื้อกล้ามให้พ้นตัวเธอ  ยุ้ยกดหน้าผมให้แนบลงมาที่ร่องนม ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆพยามยามบังคับมือไม่ให้สั่น ซึ่งยุ้ยนั้นพูดออกมา

"ไม่ต้องรีบรุต ไม่ต้องตื่นเต้นค่อยๆทำ"

ยุ้ยรู้ว่าเป็นครั้งแรกของผมจากที่เธอถามผมเมื่อคืนตอนที่ผมขับมอเตอร์ไซด์มาส่งเธอ ซึ่งผมก็ยอมรับว่าไม่เคยแบบนี้มาก่อนแต่ยุ้ยบอกว่าผมใช้นิ้วคล่องไม่ทำให้เธอเจ็บ ถึงตอนนี้เธอนั้นคอยนำทางให้ผมจนยกทรงหลุดพ้นตัว หัวนมสีน้ำตาลอ่อนปรากฏให้เห็นซึ่งมันตัดกับผิวที่ขาวละเอียดของยุ้ยอย่างชัดเจน ผมก้มหน้าลงไปใช้ริมฝีปากดูดดื่มหัวนมของยุ้ยทั้งสองข้างสลับไปมา ยุ้ยเริ่มครางออกมาเป็นระยะ นมเธอนั้นยังเต่งตึงอยู่ ส่วนมือผมนั้นล้วงผ่านขอบกางเกงและกางเกงในไปถึงหีของเธอ นิ้วผมเริ่มกรีดไปมาทำเอายุ้ยนั้นส่ายตัวไปมา

จนผมเริ่มจัดการถอดกางเกงเธอ ผมรูดทั้งตัวนอกตัวในออกพร้อมๆกัน และจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองให้พ้นตัว ผมก้มลงไปหีของเธอ หมอยของยุ้ยนั้นดกจริงๆรองรับกับหีที่ค่อนข้างใหญ่ ผมมองไปยังหุ่นที่อวบอัด นมขนาดพอดีกับตัว เอวหนาเล็กน้อย แต่ขานั้นเรียวสวย สิ่งที่ผมแอบคิดแอบเอาไปจินตนาการตอนช่วยตัวเองในบางครั้ง ซึ่งตอนนี้ของจริงอยู่ตรงหน้า ผมก้มหน้าลงไปที่โคกหีของเธอทันทีเป็นสิ่งที่ผมอยากทำมานาน ลิ้นผมเลียเข้าไปในรูหีที่ชื้นแฉะ

"ซี๊ดดดดด อู้วววว"

เสียงครางจากสาวลูกครึ่งนั้นดังออกมาทันทีมือทั้งสองข้างของเธอนั้นจับที่หัวผมแน่น ผมเลียจนตัวผมเองนั้นทนไม่ไหว ผมจึงหยุดเลียและขยับตัวขึ้นมาเอาควยไปจ่อที่รูหี ยุ้ยที่ตาฉ่ำไปหมดนั้นก้มหน้าลงมามองควยผมพร้อมเอามือจับ

"ไม่ต้องเร่งนะรุต ช้าๆผ่อนคลาย"

ผมฟังที่เธอบอกพร้อมดันควยเข้าไปในรูหี ถึงจะรู้มาก่อนว่าไม่ควรบุ่มบ่ามแต่นี่เป็นครั้งแรกของผม หลังจากที่กระเด้าไป2-3ครั้ง ด้วยความตื่นเต้นและไม่เคยมาก่อน ผมกลั้นน้ำกามไม่อยู่ ผมหลั่งน้ำกามเข้าในรูหีของเธอพร้อมซบตัวลงไปนอนทาบบนตัวยุ้ย และหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน มันไม่เหมือนกับช่วยตัวเองและเมื่อคืนที่เธอใช้มือกับผม พอได้เย็ดจริงๆมันทำให้ผมรู้สึกเหนือยมากกว่า ผมนอนทาบบนตัวเธออยู่ครู่หนึ่งถึงพลิกตัวลงมานอนบนเตียง

"ไม่เป็นไร รุตคงตื่นเต้น พักก่อน"

ยุ้ยนั้นปลอบใจผมพร้อมเอามือมาลูบไปตามตัว ผมหลับตาลงพร้อมอาการเหนื่อยส่วนยุ้ยนั้นยังนอนแนบชิดกับผมอยู่ พอเวลาผ่านไปพอสมควร ยุ้ยนั้นเป็นฝ่ายเริ่มก่อน เธอพลิกตัวขึ้นมานอนบนตัวผมหลังจากที่แลกจูบกันอย่างดูดดื่ม ใบหน้าของยุ้ยเลื่อนลงมาที่หัวนมของผม เธอดูดสลับไปมาพร้อมใช้มือบี้ไปอีกข้างยุ้ยทำสลับไปมา ทำเอาผมครางไม่เป็นภาษาจนเธอเลื่อนหน้าลงไปด้านล่าง ควยของผมที่ยังเลอะน้ำกามอยู่นั้นยังแข็งตัวไม่เต็มที่ ยุ้ยใช้มือจับมาที่ปากและใช้ลิ้นเลียน้ำกามอย่างไม่รังเกียจ ตามด้วยเลียไปทั่วลำควยผม

"ซี๊ดดดดดดดดด"

ผมครางออกมามันเป็นครั้งแรกที่ควยผมถูกใช้ปากมันเสียวอย่างบอกไม่ถูกและดูเหมือนเธอจะชำนาญในการใช้ปาก ลิ้นของยุ้ยเลียไปทั่วควยตามด้วยปากที่อม ทำให้ควยผมนั้นแข็งตัวเต็มที่อีกครั้ง ยุ้ยละจากควยผมแล้วเงยหน้าขึ้นมามอง

"ยุ้ยเธอเก่งจริงๆ"

ผมพูดออกมาด้วยเสียงที่สั่นๆจากความเสียวที่พึ่งได้รับ   ยุ้ยยิ้มพร้อมเลื่อนตัวขึ้นมา

"เรานะสบายอยู่แล้ว"

เธอตอบผมขณะที่เลื่อนตัวขึ้นมาถึงควยผมพร้อมเอามือจับควยไปจ่อที่รูหีแล้วหย่อนตัวลงมาทับผมเอามือไปประคองที่เอวเธอทันที ยุ้ยเริ่มเป็นฝ่ายขย่มตัวไปมาอย่างช้าๆและบอกผมให้เอามือมาจับนมเธอ ผมทำตามทันที ผมขยำนมเธอไปแรงๆและบี้ไปที่หัวนม ทำเอายุ้ยนั้นครางออกมาพร้อมขย่มตัวผมไม่หยุด บทรักครั้งนี้นานกว่าครั้งแรก ยุ้ยนั้นพาผมไปถึงจุดหมายอีกครั้ง วันนั้นผมผมออกจากบ้านยุ้ยในช่วงเวลาเย็น ถึงจะเพลียแต่มันเป็นความเสียวที่ได้รับเต็มๆจากผู้หญิงซึ่งยุ้ยได้บอกกับผมตอนที่เราคลอเคลียกันบนเตียง

"รุตบอกก่อนนะเราไม่ได้เป็นแฟนกัน เราแค่มาสนุกกันเท่านั้น อนาคตยุ้ยจะคบกับใครก็ได้ รุตก็เหมือนกันจะคบกับใครเป็นสิทธิ์ของรุตเราจะไม่มาหึงหวงกัน แต่เรามาสนุกกันแบบนี้ได้อีก"

สำหรับตอนนั้นมันดูแปลกๆแต่ผมตกลงเพราะนึกอย่างเดียวผมยังได้เย็ดผู้หญิงที่น่ารักแบบนี้ได้อีก  และที่สำคัญยุ้ยกำชับผมว่าอย่าทิ้งเรื่องเรียนเพราะมาสนุกกับเธอ หลังจากวันนั้นผมได้มาเสียวกับเธอเป็นประจำเรียกว่าผมได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง ได้ทั้งอาจารย์สอนประสบกามเสียวและอาจารย์สอนภาษาญี่ปุ่น  ในตอนนั้นผมยังไม่มีน้ำอดน้ำทนเท่าไหร่ ยุ้ยมักจะให้ผมเลียหีให้เธอก่อนจนจวนจะถึงเธอจึงบอกให้ผมเย็ดเธอ มีบางครั้งที่ผมเลียให้เธอจนเธอถึงไปก็มี หรือไม่เราช่วยกันใช้ปากในท่า 69ให้อีกฝ่ายไปถึงจุดหมาย แถมช่วงเวลานั้นพ่อกับแม่เธอไปญี่ปุ่นเป็นประจำ บ้านของยุ้ยจึงเป็นสวรรค์ของผมกับเธอยิ่งช่วงปิดเทอมมันเป็นสวรรค์ของผมจริงๆ ถ้าพ่อกับแม่เธออยู่ เราไปใช้โรงหนังสร้างความเสียวให้กับเรา จนเราขึ้น ม.6 ผมกับยุ้ยยังแอบเสียวกันตลอด ซึ่งผมเองก็เรียนรู้จากเธอรวมถึงไปการ์ตูนและหนังสือโป๊และหนังโป๊ที่ยุ้ยเองมีเก็บไว้อยู่หลายเรื่อง บ่อยครั้งที่เราต่างดูพวกนี้เพื่อปลุกอารมณ์กัน จนผมกับเธอต่างเย็ดกันได้หลายท่าตามสิ่งที่เราดู

วันหนึ่งช่วงเย็นหลังจากเลิกเรียนผมตามเธอมาที่บ้าน ภายในห้องนอน ยุ้ยนั้นนอนคว่ำท่อนบนเหลือแต่ยกทรงส่วนท่อนล่างใส่กางเกงวอร์ม วันนี้เธอเรียนพละเป็นคาบสุดท้ายจึงไม่ได้เปลี่ยนชุด พอเข้ามาในห้องหลังจากเปิดแอร์ยุ้ยจัดการถอดเสื้อออกและลงไปนอนบนเตียงทันที ยุ้ยบอกผมว่าเธอร้อน   ผมลงไปนั่งข้างๆตัวเธอ เอามือลูบไปมาตามแผ่นหลังที่ขาวโพลนไล่ลงมาถึงสะโพกที่อวบใหญ่แถมเนื้อแน่น ผมเอามือล้วงผ่านขอบกางเกงเข้าไปในสัมผัสกางเกงในแล้วขยำก้นเธอไปมา ก่อนจะจัดการถอดกางเกงวอร์ม ยุ้ยยกตัวให้ผมถอดอย่างสะดวกจนท่อนล่างเธอเหลือกางเกงในสีขาว มือผมล้วงเข้าไปสัมผัสเนื้อแท้พร้อมขยำไปแรงๆ

"ยุ้ยนี้ก้นสวยนะ"

ผมพูดก่อนจะก้มลงไปจูบตามแผ่นหลัง

"บ้า ทั้งกัดทั้งจูบมาไม่รู้กี่ครั้ง พึ่งมาชม"

ผมจูบไม่หยุดพร้อมแกะตะขอยกทรงซึ่งยุ้ยนั้นขยับตัวให้ผมถอดจนพ้นตัว ตามติดด้วยกางเกงในจนเธอนั้นเปลือยเปล่า ผมรีบจัดการถอดชุดนักเรียนให้พ้นจากตัวและก้มลงไปที่ก้นเธออีกครั้งระกว่างที่ผมกัดไปเบาๆบนเนื้อที่แน่น ยุ้ยนั้นถามผมด้วยเสียงที่กระเส่า

"รุตจำหนังที่เราพึ่งดูกันเมื่อวันก่อนได้ไหม"

"ได้สิ มีอะไร"

"ฉากนั้นนะ ที่นางเอกโดนหัวหน้าเอาตูดนะ"

ผมนึกถึงฉากหนังโป๊ญี่ปุ่นที่ผมพึ่งได้ดูกับเธอ ฉากที่เธอพูดมันเป็นฉากที่นางเอกถูกหัวหน้าเย็ดตูด ผมบอกเธอว่าจำได้ยุ้ยนั้นถามผมด้วยเสียงที่กระเส่า

"อยากลองบ้างไหม ยุ้ยว่ามันคงเสียวดี"

ผมกัดไปที่ก้นเธอแรงๆแทนคำตกลง ผมเองก็อยากลองแบบในหนังเหมือนกันจะเป็นฝ่ายชวนเธอผมก็ไม่กล้า แต่เจ้าตัวนั้นเป็นฝ่ายเชื้อเชิญเองผมจึงไม่ปฏิเสธ  ยุ้ยนั้นผวาตัวเล็กน้อยแล้วพลิกตัวมานอนหงาย เธอดึงตัวผมให้ลงมานอนบนเตียงข้างๆตัวเธอ แล้วพลิกตัวขึ้นมานอนทับ ริมฝีปากของยุ้ยประกบกับริมปากผมทันที ก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นมาเอาหัวนมมาจ่อที่ปาก ยุ้ยปล่อยให้ผมดูดดื่มเต้านมเธออยู่ครู่หนึ่งแล้วกลับตัวหันหัวไปทางเท้าผม   ยุ้ยใช้ปากกับควยผมทันทีส่วนผมผงกหัวขึ้นไปหาโคกหีของเธอ เราอยู่ในท่า 69 ต่างใช้ลิ้นกับปากเพื่อช่วยกันปลุกอารมณ์ จนยุ้ยเงยหน้าขึ้นมาและกลับตัวพร้อมพลิกตัวลงไปนอนคว่ำ ผมจึงขยับตัวไปด้านหลังยุ้ยนั้นยกก้นขึ้นมาสูง มือทั้งสองนั้นยันไปบนที่นอน ผมใช้มือลูบไปมาบนก้นที่ขาว แล้วฝังหน้าไปบนโคกหีที่ชุ่มฉ่ำอีกครั้ง

"อูยย รุตทำเถอะทนไม่ไหวแล้ว"

เสียงครางของยุ้ยดังมาหลังจากที่ผมเลียหีเธอไปสักพัก ผมเงยและขยับตัวขึ้นมือข้างหนึ่งจับไปที่เอวอีกข้างจับควยเอาไปจ่อที่รูก้นเธอ

"เบาๆหน่อยนะรุตยุ้ยไม่เคย"

เธอร้องบอกผม ขณะที่ค่อยๆดันควยเข้าไป ผมดันเข้าไปอย่างลำบากช่องทางมันฟิตมาก ขนาดที่ยุ้ยพยายามกลั้นไม่ร้องจากความเจ็บที่ได้รับ ผมหายใจเข้าลึกๆแล้วดันควยเข้าไปจนสุดก่อนจะเริ่มกระเด้า ยุ้ยนั้นร้องออกมาด้วยความเจ็บแต่ไม่บอกให้เอาควยออกซึ่งผมกระเด้าไป2-3ครั้ง น้ำกามผมได้แตกออกมาจากความฟิตและแน่นทำให้ผมกลั้นไม่ไหว ยุ้ยนั้นลงไปนอนราบบนที่นอนหลังจากผมถอนควยออกมา และผมไม่ปล่อยให้เธอค้าง ผมจับตัวเธอพลิกนอนหงายและฝังหน้าลงไปที่โคกหี จนปากกับลิ้นของผมพาเธอไปถึงจุดหมาย

"เป็นไงบ้าง"

ผมถามเธอหลังจากที่เลื่อนตัวขี้นมาด้านบน ยุ้ยเอาปากมาชนกับปากผมก่อนจะตอบ

"เจ็บเหมือนกันแต่เสียวดีไว้ครั้งหน้าลองใหม่"

เธอตอบพร้อมเอามือลูบหน้าผม หลังจากนั้นอีก2-3วันเรามาระเริงรักกันอีกครั้งและสมใจอยากของเธอผมเย็ดตูดเธอและพาเธอไปถึงจุดหมายซึ่งเราทั้งคู่ต่างติดใจกันอย่างมาก แถมผมไม่ต้องมากังวลเพราะยุ้ยกินยาคุมตลอดและผมเองก็ทำตามสัญญาโดยไม่หึงหวงเธอเวลาที่คนมาจีบเธอรวมถึงเรื่องเรียนที่เราทั้งคู่ต่างตั้งใจเรียนแต่ยุ้ยดูจะไม่สนใจใครเป็นพิเศษ หาเวลามาระเริงรักกับผมตลอดแม้กระทั่งตอนไปทัศนศึกษาที่เชียงใหม่เธอยังแอบนัดผมไปเสียวกันในที่ลับตาของรีสอร์ทที่พักถึง2-3 คืน แต่ไม่รู้ว่าไอ้หยอยมันมาเห็นได้ยังไง ต่อหน้าคนอื่นผมกับยุ้ยนั้นทำตัวปกติไม่ทำพิรุธให้ใครเห็น แต่หลังกลับจากเชียงใหม่ ผมไม่ได้ยุ่งกับเธอบ่อยนักเพราะช่วงนั้นพ่อกับแม่เธออยู่บ้านแต่เรายังไปหาความสุขกันในโรงหนังซึ่งไอ้หยอยดันมาเห็นอีก หลังจากนั้นผมต้องสลับเวลาไปให้ไอ้หยอยด้วย

จนช่วงก่อนจะสอบไล่ไม่กี่วันยุ้ยบอกกับผมหลังจากที่เราระเริงสวาทกันเสร็จที่บ้านของเธอว่า หลังจากสอบเสร็จเธอจะต้องย้ายไปอยู่ที่ญี่ปุ่นเพราะพ่อของเธอต้องไปดูแลธุรกิจของปู่ ซึ่งเธอบอกกับผมคร่าวๆว่า อาของเธอที่ตอนแรกจะได้เป็นคนดูแลธุรกิจทั้งหมดได้เสียชีวิตอย่างกระทันหันทำให้พ่อเธอต้องเป็นคนที่มาดูแลธุรกิจทั้งหมดแทน ข่าวนี้มันทำเอาผมใจเสียเหมือนกันเพราะตอนนั้นคิดว่าเหมือนชีวิตขาดอะไรไปบางอย่างและเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมได้เอากับเธอเพราะหลังจากวันนั้นเราไม่มีโอกาสอีกเลย ผมได้เจอกับเธอครั้งสุดท้ายเป็นวันที่รับประกาศนียบัตรที่โรงเรียน

"ยุ้ยไปก่อนนะรุต ขอให้ตั้งใจเรียนเหมือนที่ผ่านโดยเฉพาะเรื่องภาษาญี่ปุ่นอย่าทิ้ง"

เป็นคำพูดสุดท้ายที่เธอบอกผมเพราะเธอจะเดินทางไปญี่ปุ่นในคืนนั้นเลย  หลังจากนั้นผมไม่เจอกับเธออีกและไม่รับข่าวคราวเรื่องของยุ้ยอีกเลย แต่ผมทำตามที่เธอบอก หนังสือการ์ตูนเล่มนั้นที่เธอให้ผม ผมสามารถอ่านและเข้าใจได้ทั้งหมดตอนเรียนมหาวิทยาลัย ปี 2 หลังจากที่ผมได้เรียนภาษาญี่ปุ่นเพิ่มเติมจนมีความเข้าใจเพิ่มขึ้นซึ่งผมเรียนรู้ได้เร็วเพราะมีพื้นฐานมาพอสมควร ส่วนในเรื่องความสัมพันธ์ของเราทั้งคู่นั้นตอนช่วงเรียนมหาวิยาลัยปี 1 ผมลองมานั่งคิดว่าทำไมมันง่ายขนาดนั้นที่จู่ๆยุ้ยถึงได้เชื้อเชิญผมอย่างง่ายดายทั้งๆที่เราไม่ได้รู้จักหรือสนิทกันมากนัก มันคงจะเป็นเพราะเธอพึ่งเลิกกับแฟนที่เป็นประธานนักเรียนซึ่งยุ้ยนั้นคงเสียสาวให้กับแฟนแล้วทำให้เธอมีประสบกามอย่างมาก  ด้วยความสาวและฮอร์โมนที่พลุ่งพล่านหลังจากเลิกกับแฟนเธอคงอึดอัดที่หาทางระบายไม่ได้ แถมเธอนั้นมีความต้องการทางเพศสูง พอดีมาเจอกับผมเธอเองก็คงรู้ว่าผมเองก็แอบมองรูปร่างเธอมาตลอดและเราเริ่มสนิทกันพอสมควร มันจึงง่ายที่จะชวนผมมาเล่นเสียวเพื่อสนองตัณหาของเธอ และผมเองก็ทำตามข้อตกลงทุกอย่าง ทำให้เรามีความสัมพันธ์ลับๆกันร่วมปี ซึ่งเรื่องนี้เองก็ได้ปลุกตัณหาในตัวผมให้กลายเป็นเสือผู้หญิงและเป็นเสือซุ่มจากประสบการณ์ที่ผ่านมากับยุ้ยคือกินเงียบไม่มีพิรุธให้ใครรู้ นับว่าเธอนั้นสอนผมได้หลายเรื่อง

จนถึงวันนี้ในช่วงบ่าย ขณะที่ผมกำลังนั่งเครื่องบินกลับไทยในชั้นธุรกิจ ผมนั่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาช่วง 2 วันก่อนกลับไทยผมได้ระลึกความหลังกับยุ้ยอย่างเต็มที่ เราทั้งคู่ไม่พลาดโอกาสซึ่งยุ้ยเองนั้นก็เต็มใจไฟสวาทครั้งก่อนของผมกับเธอยังคุกรุ่นอยู่ เย็นวันนั้นเธอมารับผมที่โรงแรมยุ้ยขับรถซุปเปอร์คาร์คันหรูมารับผมหลังจากที่ทานอาหารกันเรียบร้อย เธอพาผมไปที่คอนโดแห่งหนึ่ง ซึ่งห้องที่เธอพาผมไปนั้นกินอาณาเขตทั้งชั้นของชั้นบนสุด ระหว่างทานอาหารเราคุยกันหลายเรื่อง ทำให้เธอรู้ว่าก่อนหน้านี้ผมเคยมาเรียนภาษาและเรื่องการตลาดที่ญี่ปุ่นอยู่ 1ปี รวมไปถึงเรื่องของงานที่เธอเองก็นึกไม่ถึงว่าผมจะก้าวหน้าถึงขนาดนี้ ซึ่งหลังจากที่เธอเจอผมในช่วงกลางวันเธอได้ไปค้นหาข้อมูลของผมทำให้เห็นฝีมือการถ่ายรูปและผลงานโฆษณาของผมอยู่หลายชิ้น

ส่วนเธอนั้นไม่ได้กลับเมืองไทยอีกเลย พ่อกับแม่เธอนั้นเสียไปทั้งคู่แล้วทำให้เธอที่เป็นลูกสาวและทายาทที่เหลือคนเดียวต้องมาดูแลกิจการต่อจากพ่อ ที่ทางครอบครัวของพ่อได้ทำไว้ ยุ้ยชมผมอย่างจริงใจทั้งเรื่องหน้าที่การงานและเรื่องภาษาญี่ปุ่นที่ผมไม่ทิ้งและศึกษาต่ออย่างที่เธอบอกไว้ เราได้ลองคุยภาษาญี่ปุ่นกันตลอดเวลาที่กินข้าวผมเล่าเรื่องช่วงผมไปเรียนต่อที่สหรัฐ  ว่าผมได้ฝึกภาษากับคนญี่ปุ่นที่เป็นเจ้าของร้านอาหารด้วย หลังจากนั้นเราไม่พูดอะไรกันมาก คงเป็นเพราะใจของเราตรงกัน ยุ้ยชวนผมไปที่พักของเธอ  ภายในห้องอันหรูหราหลังจากที่นั่งตัวเบียดกันบนโซฟาไม่นานตามด้วยการปลุกเราอารมณ์ของเราทั้งคู่ ยุ้ยชวนผมไปที่ห้องนอน พอเข้าไปในห้องเราต่างช่วยกันถอดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายจนร่างกายนั้นไม่มีอะไรติดตัว ยุ้ยลงนอนหงายบนเตียงด้วยด้วยแววตาที่เชื้อเชิญส่งมาให้ ผมมองไปที่หุ่นของเธอ หุ่นของเธอนั้นดีกว่าสมัยเรียนอย่างมาก ผิวนั้นยังขาวใสเหมือนเดิม เอวนั้นคอดกิ่ว ส่วนนมนั้นดูหย่อนคล้อยลงไปเล็กน้อยและหัวนมเริ่มจะสีคล้ำ หมอยนั้นยังดกแต่เหมือนจะได้รับการตกแต่ง ส่วนยุ้ยมองมาที่ควยผม พร้อมเอาลิ้นมาเลียริมฝีปากเป็นกิริยายั่วยวนที่เธอเคยทำแบบนี้กับผมมาหลายครั้งแล้ว

ผมลงไปนอนทับบนตัวเธอทันที ริมฝีปากของเราประกบกันสนิทเป็นการจูบที่ดูดดื่มและรสจูบของเธอที่มอบให้นั้นมันปลุกอารมณ์สวาทของผมได้อย่างดี แต่ผมยังไม่ทันเลื่อนหน้าลงไป ยุ้ยพลิกตัวให้ผมลงมานอนบนที่นอนตัวเธอนั้นพลิกขึ้นมาอยู่บนตัวผม เธอเลื่อนหน้าลงไปด้านล่างทันที หลังจากแวะดูดดื่มที่หัวนมผม เป้าหมายต่อไปคือควยที่แข็งตัวเต็มที่ ยุ้ยใช้มือรูดไปมาพร้อมพูดออกมาเบาๆ

"ดูมันจะใหญ่กว่าเดิมนะนี่"

เธอจัดการใช้ลิ้นเลียไปมาจนลงมาถึงลูกกระโปก ยุ้ยใช้ริมฝีปากเม้มไปที่ลูกกระโปกก่อนจะใช้ลิ้นเลีย เธอเลียไล่ขึ้นมาจนถึงหัวควย ลิ้นเธอเลียไปมาจนเอาปากครอบทำเอาผมครางออกมาไม่หยุด  ลีลาการใช้ปากของเธอยังเด็ดอยู่เหมือนเดิมยุ้ยใช้ปากสร้างความเสียวให้กับผมไม่หยุดแต่ในที่สุดเธอเงยหน้าขึ้น


"โอยยรุต ยุ้ยเมื่อยปากแล้ว อึดจริงๆสงสัยได้ครูดี"

"ครูดีก็คนนี้ไง"

ยุ้ยค้อนผมแล้วก้มลงไปจับควยผมเอาไปสีกับหัวนมและที่ร่องนมก่อนจะเลื่อนตัวขึ้นม เอานมมาจ่อที่ปากผมดูดสลับไปมาบนหัวนมทั้งสองข้าง จนยุ้ยเลื่อนตัวลงไปเธอจับควยผมไปจ่อที่รูหีเธอหย่อนกายลงมาเอาหีครอบควยผม ซึ่งภายในนั้นมันไม่กระชับเหมือนเก่า  ผู้ชายหลายๆคนรวมถึงผัวเก่าเธอคงใช้งานอย่างสมบุกสมบัน ยุ้ยเริ่มโยกตัวไปมาพร้อมบอกให้ผมเอามือมาจับที่นมของเธอ ผมทั้งบี้ทั้งคลึงนมที่เนื้อไม่แน่นเหมือนเดิม ยุ้ยทั้งขย่มทั้งช้าสลับเร็วจนผมกับเธอไปถึงจุดหมาย

"อึดจริงๆรุต สงสัยสาวๆติดใจกันเป็นแถวแน่อึดขนาดนี้"

เธอพูดหลังจากลงมานอนซบบนตัวผม ผมเอามือไปขยำก้นที่เนื้อแน่นของเธอแทนคำตอบ คืนนั้นเราคุยกันถึงความหลังที่เราเอากันมีหลายครั้งที่หลังเลิกเรียนและพอไปถึงบ้านยุ้ยเราเย็ดกันในชุดนักเรียนเพราะยุ้ยบอกว่าพ่อกับแม่กำลังจะกลับมา เธอดึงหน้าผมมาจูบพร้อมเอามือมาลูบตรงเป้ากางเกงผมส่วนผมใช้มือปลดกระดุมเสื้อนักเรียนของเธอออก2-3เม็ดแล้วดึงชายเสื้อให้พ้นจากกระโปรงก่อนจะเอามือไปจับที่นมของเธอ  จนผมจับเธอพลิกให้หันตัวยุ้ยเอามือไปท้วงที่กำแพงห้อง ผมที่ยืนประกบด้านหลังถลกประโปรงเธอขึ้นหลังจากที่รูดกางเกงในให้พ้นตัวแล้วจัดการถอดกางเกงที่สวมให้พ้นตัวก่อนจะเอาควยไปจ่อที่รูหีเย็ดเธอทันทีมันปลุกอารมณ์ของเราอย่างมากที่คุยกันเรื่องบทรักของเราในครั้งก่อน  หลังจากที่ยุ้ยชวนผมไปอาบน้ำกันในห้องน้ำ ซึ่งเราไม่พลาดที่จะช่วยกันปลุกอารมณ์กันในอ่างน้ำก่อนจะพากันออกมาที่ห้องนอน บนเตียงครั้งนี้เธอไม่รอช้ากดหน้าผมลงไปแนบกับโคกหีเธอทันที

"เลียให้ที"

ผมจูบไปแรงๆบนโคกหีของเธอ ซึ่งปากทางนั้นคล้ำอย่างมาก ครั้งนี้ยุ้ยนั้นครางออกมาไม่หยุดเมื่อเจอลิ้นผมเข้าไป เธอปล่อยให้ผมเลียหีเธอจนเธอไปถึงจุดหมาย แต่ผมไม่หยุดเลียต่อไปอีกสักพักมือของยุ้ยนั้นจับหัวผมแน่น จนผมจับเธอให้พลิกตัว ยุ้ยนั้นทำตามและรีบยกก้นขึ้นทันที ผมเลื่อนตัวไปประกบด้านหลังเธอ พร้อมเอานิ้วล้วงไปในรูหีเอาน้ำเงี่ยนมาทารอบรูก้น ยุ้ยส่ายก้นยั่วผมไปมา ซึ่งผมไม่รอช้าเอาควยดันเข้าไปในรูก้นเธอทันที ยุ้ยครางออกมาสุดเสียงและยิ่งครางดังขึ้นไปอีกเมื่อผมเอานิ้วล้วงเข้าไปในรูหีเธอด้วย

"ซี๊ดดด รุต 2 รูเลย อู้วววว แบบนั้นหละ"

ยุ้ยลืมตัวจนครางออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ลีลารักของเรานั้นเข้ากันได้ดีความรู้สึกเมื่อครั้งสมัยเรียนนั้นหวนกลับมา ผมกระเด้าเธอเด้งรับ เราต่างตอบสนองความต้องการกันได้อย่างดี คืนนั้นเราระเริงรักกันอย่างเต็มที่ให้สมกับที่ไม่ได้เจอกันมานาน ยุ้ยไปส่งผมที่โรงแรมในตอนเช้าและเรานัดเจอกันอีกทีในตอนเย็น ซึ่งในคืนนั้นเราใช้โรงแรมที่ผมพักเป็นรังสวาท เพราะยุ้ยนั้นต้องการให้ผมถ่ายรูปให้

"ไหนได้เจอช่างภาพมือดีแล้วขอถ่ายรูปสวยๆเก็บไว้ดูหน่อย"

ซึ่งผมจัดให้เธอตามที่ต้องการ เริ่มจากแนวเซ็กซี่จนถึงแนวเปลือยทั้งตัว ผมปล่อยให้เธอโพสต์ท่าอย่างธรรมชาติตามที่เธอต้องการซึ่งเธอนั้นพอใจกับภาพที่ออกมาทุกภาพและผมได้มอบการ์ดที่ถ่ายภาพให้กับเธอและคืนนั้นผมกับเธอต่างระเริงสวาทกันไม่หยุดแทบไม่ได้พักทำเอาเราหมดแรงกันทั้งคู่และวันที่ผมกลับยุ้ยนั้นมาส่งผมที่สนามบิน  ซึ่งเธอดึงผมเข้ามากอดก่อนที่จะอำลา

"อย่าลืมที่เราบอกนะรุต"

เธอพูดพร้อมหอมแก้มผมทิ้งท้าย จนผมขึ้นมาบนเครื่องบินและใคร่ครวญอะไรหลายๆอย่างจากที่ผ่านมาพร้อมกับคำพูดของยุ้ย ชีวิตผมเปลี่ยนไปเพราะยุ้ยในหลายเรื่องตั้งแต่เรื่องเรียนที่เป็นเด็กผลการเรียนปานกลาง แต่เพราะการ์ตูนเล่มเดียวและคำพูดขอเธอทำให้ผมกลายเป็นคนที่มุมานะขยันเรียนจนสอบติดเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐ และได้ไปเรียนต่อถึงประเทศอย่างที่ไม่เคยคิดมาก่อน จนถึงตอนนี้ผมกลายเป็นช่างภาพและคนทำโฆษณามือต้นๆของประเทศ มีบริษัทโฆษณาเป็นของตัวเอง จุดเริ่มนั้นมาจากยุ้ยถึงเธอจะบอกว่าถ้าผมไม่พยายามยามด้วยตัวเองผมก็จะไม่มีวันนี้ แต่เธอคือคนที่จุดประกาย

เหมือนกับเรื่องชีวิตเซ็กส์ที่ผมกลายเป็นคนชอบเรื่องแบบนี้จนมีผู้หญิงมาเกี่ยวข้องไม่รู้กี่คนต่อกี่คน แถมเลยเถิดพัวพันจนกลายเป็นเซ็กส์หมู่กับอีกหลายคน ยุ้ยเองก็เป็นคนจุดผมให้ติดรวมไปถึงเรื่องที่ผมชอบเย็ดตูดผู้หญิงมันก็มาจากยุ้ยอีกที่ทำให้ผมติดใจ และมันคงจริงอย่างที่ไอ้หยอยพูดว่าผมเป็นคนเอาเพื่อเอาฝูง เพราะทั้งเพื่อนร่วมห้องและเพื่อนที่เรียนชั้นเดียวกันถูกผมเย็ดถึง 4 ตั้งแต่ยุ้ย มาถึงไอ้หยอย หมอใหม่และผู้พิพากษาสาวโกโก้ที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องของผมกับยุ้ยในตอนนั้น เพราะคืนนั้นที่ผมได้เย็ดกับเธอโกโก้พูดกับผม


"เรารู้นะว่าตอนนั้นรุตไปหาใครบ่อยๆนะ คงได้ประสบการณ์มาเยอะละสิ"
 
ทำให้ผมนึกได้ว่า บ้านของโกโก้นั้นอยู่ก่อนถึงบ้านของยุ้ย เธอคงเคยเห็นผมผ่านไปบ่อยทำให้เดาเรื่องของผมกับยุ้ยออก แต่จากคำพูดที่ยุ้ยพูดกับผมมันทำให้ผมคิดได้  ถึงตัวยุ้ยเองจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่เธอนั้นแต่งงานแล้วกับคนฝรั่งเศสที่เป็นถึงเลขานุการสถานทูตฝรั่งเศสทั้งคู่ไม่มีลูกด้วยกันและได้หย่าขาดจากกันฝ่ายชายนั้นได้ย้ายไปที่ประเทศอื่นแล้ว ผมเองก็พอจะเดาสาเหตุได้จากข้อมูลที่ผมค้นได้หลังจากที่เจอกับยุ้ย ซึ่งหาได้ไม่ยากเพราะสื่อในญี่ปุ่นนั้นลงข่าวอยู่เยอะพอสมควร  ทำให้ผมรู้ว่าตระกูลของพ่อเธอนั้นเป็นตระกูลใหญ่ที่มีอิทธิพลอย่างมากเคยทำธุรกิจทั้งใต้ดินและบนดิน คือเป็นพวกยากูซ่านั่นเอง จากที่ผมอ่านเจอในข่าวอาของเธอที่เสียไปก็เพราะความขัดแย้งระหว่างกลุ่มมีอิทธิพลด้วยกัน ทำให้ผมพอจะเดาได้ว่า พ่อของยุ้ยเองไม่ชอบธุรกิจของตระกูลตัวเองเลยหลบมาทำงานที่เมืองไทย แต่ยังไปๆมาๆเพราะมาดูแลปู่ของยุ้ยที่ป่วยแต่พอน้องชายเสียเลยจำใจกลับไปอยู่ที่ญี่ปุ่น เพื่อสืบทอดธุรกิจ

จนปู่ของยุ้ยเสียพ่อของเธอจึงทำหน้าที่ต่อแต่ได้พยายามปรับปรุงให้เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมายทั้งหมด จนยุ้ยได้มาสืบทอดต่อ ทำให้ผมนึกขึ้นได้คนขับรถเธอนั้นรูปร่างเหมือนบอดี้การ์ด ยุ้ยเองคงมีบารมีและอิทธิพลอยู่พอสมควรจากธุรกิจหลายประเภทที่ต้องบริหารและดูแล มันจึงยากที่เธอจะกลับไปอยู่ไทยและเธอได้ใช้ชื่อญี่ปุ่นเป็นที่เรียบร้อย  ผมปะติปะต่อเรื่องของยุ้ยได้แต่ผมไม่ถามเธอในเรื่องนี้ เราคุยกันแต่เรื่องงานและเรื่องความหลัง แต่คำพูดที่เธอบอกกกับผมขณะที่เรานอนเปลือยกายกอดกันอยู่บนเตียง

"รุต ยุ้ยอยากจะบอกในฐานะเพื่อนคนหนึ่งที่มีความสนิทกับรุตถึงตัวยุ้ยจะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในเรื่องการใช้ชีวิตคู่ของตัวเอง แต่ยุ้ยอยากบอกรุตว่า มันถึงเวลาที่รุตต้องหาใครสักคนมาใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว อย่าปล่อยเวลาให้ผ่านไป ยุ้ยเดาว่ารุตคงมีผู้หญิงมาเกี่ยวข้องด้วยเยอะจนรุตไม่คิดที่จะหาใครมาเป็นคู่ชีวิต แต่ผู้หญิงบางคนอาจจะไม่คิดแบบรุตเพื่อสนุกแต่เรื่องบนเตียงอย่างเดียว อาจจะมีบางคนที่รอรุตอยู่แต่เขาไม่กล้าพูด แต่ถ้าเขารอไม่ไหวเขาอาจจะจากรุตไปตลอด ถึงวันนั้นรุตอาจจะต้องเสียใจไปตลอดที่ปล่อยให้คนที่เขารักเราไป แต่มันขึ้นอยู่กับตัวรุตเองด้วยนะว่าต้องการแบบไหน รักสนุกไปแบบนี้หรือจะหยุดแล้วสร้างครอบครัวเพราะรุตเองก็มีฐานะที่มั่นคงแล้ว ยุ้ยฝากให้รุตคิด"

เธอบอกพร้อมเอามือลูบหน้าผมไปมา ประโยคนี้มันทำให้ผมคิดได้ ใช่มีใครบางคนรอผมอยู่จริงๆแต่ผมแกล้งทำเป็นมองข้ามไม่สนใจ เพราะยังรักสนุกในการใช้ชีวิตนี้ มันทำให้ผมตัดสินใจได้ทันทีและนึกขอบคุณยุ้ยที่เตือนสติผม โชคชะตาคงบันดาลมาให้ผมเจอกับเธออีกครั้งทั้งๆตอนที่ผมอยู่ญี่ปุ่นปีเศษผมไม่ได้เจอกับเธอเลย แต่ครั้งนี้คงเป็นเพราะโชคชะตาและจังหวะที่ทำให้ผมมาเจอกับเธอ ในเช้าวันต่อมาหลังจากที่ผมกลับมาถึงบ้าน ขณะที่ผมเตรียมจะออกไปวิ่งเพราะอยู่ที่ญี่ปุ่นผมได้ออกวิ่งไม่กี่วันและผมไม่มีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทางด้วย แต่ขณะที่ออกจากบ้าน ผมได้ยินเสียงเรียก

"คุณรุตครับ"

ผมหันไปมองเห็นคุณลุงที่อยู่บ้านข้างๆที่ยืนอยู่หน้าบ้านเป็นคนที่ทักผม

"กลับมาแล้วหรือครับ แต่เอเมื่อคืนผมได้ยินเสียงเหมือนฟลูตดังมาจากบ้านคุณรุต"

"อ้าวเสียงดังรบกวนหรือเปล่าครับคุณลุง ผมว่าผมเป่าในห้องที่เก็บเสียงแล้วแต่ยังดังออกมา ยังไงก็ขอโทษด้วยครับ"

คุณลุงยิ้มพร้อมส่ายหน้า

"เปล่าครับ มันเพราะมาก คุณป้ายังชมเลยว่าคุณรุตเป่าได้เพราะมาก อยู่ข้างบ้านกันมานานพึ่งรู้ว่าคุณรุตเล่นเครื่องเป่าเป็น วันหลังถ้าว่างจะชวนมาเล่นด้วยกันเพราะผมกับภรรยาก็เล่นไวโอลินอยู่ เพลงของเคนนี่ จี ที่เล่นเมื่อคืนเพราะมากครับ"

ผมยิ้มรับก่อนจะออกไปวิ่ง  มันเป็นเพราะยุ้ยจริงๆ ที่ทำให้ผมที่เลิกเล่นดนตรีมาหลายปีกลับมาจับเครื่องดนตรีอีกครั้ง หลังจากที่เลิกเล่นเพราะความช้ำใจจากเหตุการณ์ที่เจอตอนมีเรื่องกับไอ้กัปตันที่ไอ้แบงค์คนของมันทำฟลูตที่อาผมมอบให้พังและเป็นฟลูตที่ผมใช้ทำงานหาเงินตอนอยู่อเมริกาพัง มันสะเทือนใจผมมากจนทำให้ผมเลิกเล่นดนตรี แต่พอกลับมาถึงบ้านผมที่อารมณ์ปลอดโปร่งด้วยความสบายใจ จึงนึกอยากจะเล่นขึ้นดนตรีขึ้นมา ทำให้ผมไปเอาฟลูตอีกอันที่เก็บไว้ในกล่องโดยที่ไม่หยิบขึ้นมานานมาก เป็นฟลูตที่ผมใช้ฝีกตั้งแต่ตอนเด็กๆ และเล่นได้พลงตามคำขอของเธอคนนั้น

จากคำพูดของยุ้ย  

เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

[birdramon2]

มีเมียเป็นตัวเป็นตน ก็ดีจะได้้ไม่ตองฟุ้งซ่าน

[พระพาย]

พี่รุต ได้บทสรุปแล้วใช่ไหม 555

[unicrons]

ใครจะมาเป็นเมียรุตได้นะ

[hatdog]

ตามอ่านมาตั้งหลายปี  ถึงตอนสุดท้ายแล้วเหรอนี่ใจหายเลย ..พอเอ่ยถึงฟลุตแล้วเป่าเพลงของเคนนี่จีนี่นึกถึงน้องซินเลย 

[kodzilla]

จบซะละ

[ryg123456]

จะหนุดได้เหรอพี่รุต มีเป็นตัวเป็นตน ใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้วนะ

[ผู้เฒ่าเซราะกราว]

สาวไหนน้อที่เป็นความหลังของรุต ไม่กล้าเดาเลย

[จักรวาลต้องห้าม]

มีเมียเป็นตัวเป็นตน ก็ดี

[Daxamoo]

ใครจะเป็นนางเอกหนอ รักเก่าคนไหนนี่ ลุ้น

[boxingsmall]

กว่าจะหยุด ใช้ชีวิตซะคุ้มเลยนะคุณรุต

[pongjun]

แล้วสาวคนไหนจะได้เป็นผู้ที่โชคดี

[Kengchamp]

จะได้เมียเป็นตัวเป็นตนพี่รุตแต่ใครเป็นผู้โชคดี

[pankea]

ยุ้ยจุดประกายให้รุตคิดถึงการมีครอบครัวที่สำคัญรุตเองรู้อยู่แก่ใจว่าใครคือคนนั้นเพียงแต่ยังไม่มีความคิดเรื่อง"ครอบครัว"แต่พอได้คำเตือนจากยุ้ยเลยคิดได้ อยากรู้จังว่าใครคือคนที่ได้เข้ามาเป็นครอบครัวของรุต

[Wintrans_Bowin]

ใครน้อได้เป็นเจ้าสาว