ข่าว:

🎉🎉🎉 XONLY เปิดรับลงทะเบียนสมาชิกใหม่อีกครั้ง จำกัดวันละ 50 คน จนกว่าแอดมินจะขี้เกียจรับ😀

Main Menu
avatar_ΜoNoTΩИ∑ ★★★

ครั้งหนึ่ง ณ ร้านคาราโอเกะ [ Part 10 ] ตอนที่ 169 ( ประสบการณ์ของนายโทน )

เริ่มโดย ΜoNoTΩИ∑ ★★★, มกราคม 06, 2025, 12:37:05 ก่อนเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป

0 สมาชิก และ 2 ผู้มาเยือน กำลังดูหัวข้อนี้

ΜoNoTΩИ∑ ★★★

สวัสดีครับ สวัสดี ร้านเกะมาละครับ

ยินดีต้อนรับสมาชิกร้านเกะท่านใหม่ๆด้วย

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดีของทุกๆท่านครับ

แล้วก็ขอบคุณสำหรับลูกค้าผู้ที่มาเยี่ยมร้านเกะตั้งแต่ตอนที่ 1 มาจนถึง Part 10

รู้สึกขอบคุณมากๆเลยคร๊าบบบบบบ ขอบคุณทุกคอมเมนต์จริงๆครับ  ผมอ่านทุกตอมเมนต์นะครับ สั้นยาวผมก็อ่านหมด

และขอบคุณทุก EDIT และแสดงความคิดเห็นเพิ่มหลังอ่านจบ  มันเป็นกำลังใจอย่างดี

อย่างที่บอกครับกระทู้นี้ Free STYLE คอมเมนต์อะไรก็ได้ครับ เพื่อจะอ่านเนื้อหาที่ซ่อนไว้

ไม่จำเป็นต้อง EDIT ไม่ต้องกลัวผิดกฎใดๆ แต่ระวังกระทู้อื่นๆ หมวดอื่นๆด้วยนะครับ

เราต้องทำตามกฎของบอร์ดและกระทู้นั้นๆนะครับ เพราะเวลา MOD ลงดาบก็เด็ดขาดมา

ปล. สำหรับท่านที่ต้องการอ่าน ซีรีย์คาราโอเกะ หรือ ทุกซีรีย์ย้อนหลัง




สามารถคลิกที่ภาพ เพื่อวาร์ปไปห้องสมุดนายโทนได้เลยครับ







ปล.2 สำหรับใครสมาชิกใหม่ที่พึ่งสมัครเมมยูซเซอร์เข้ามาแล้วพออ่านเรื่องนี้แล้วอยากอ่านต่อก็ง่ายๆครับ
ตามภาพเลย ขั้นตอน 1 2 3  แต่ระวังการคอมเมนต์ไว้ให้ดีๆ อย่ามาแต่ อีโม นะ







ปล.3 ท่านสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมหลังอ่านจบด้วยการดูที่มุมขวาล่างของคอมเมนต์ที่ท่านแสดงความคิดเห็นไว้

เลือกที่เพิ่มเติมและเลือกแก้ไข


★★★★★★★★★★★

แนะนำสองสาวครับ

แก้ม หรือ ยัยตัวแสบ หรือ นังมารตัวน้อย



ท่าทางทะเล้นๆ ขี้เอาใจ ขี้อ้อน ผมเชื่อว่าหลายคนคง
หนุบหนิบๆที่หัวใจเวลาอยู่ใกล้ๆเธอแน่นอน


.................

มิ้นต์ หรือ เจ้าหญิงน้ำแข็ง



ดูแววตาจากภาพก็รู้แล้วว่า เธอเป็นคนยังไง
เย็นชา พูดน้อย แต่ว่าถ้าได้รู้จักตัวตนของเธอ
จะรู้ว่า น่ารักมากๆ


★★★★★★★★★★★


ความเดิมตอนที่แล้ว

พักผ่อนๆหลังจากที่คนของแม่อรกลับไปแล้ว

ผมก็พาเจ๊เตยไปกินข้าวที่เซ็นทรัล

หลังจากนั้นก็กลับมาคุยกันนิดหน่อยครับ

ซึ่งเวลาก็ไม่ได้เยอะมาก เจ๊เตยเลยลงไปหาป๋า

และไม่นานนัก มิ้นต์และแก้ม ก็มาหาที่หอพัก



★★★★★★★★★★★

นายโทนไดอารี่ 169

สองสาวทะเลาะกันเบาๆ ผมก็มานั่งโซฟาสองสาวก็ขยับมานั่งข้างซ้ายขวา แก้มถามไปเที่ยวสนุกมั้ย ผมก็บอกอื้มม แต่พอคิดถึงภาพไอ้พี่อาร์มที่แม่มกวนตีนผมนี่แอบหงุดหงิดนิดหน่อย แปปเดียวมิ้นต์เอามือมาแตะหน้าเบาๆแล้วถามว่าเป็นอะไรทำไมอยู่ดีๆเหมือนอารมณ์ไม่ดี เพราะพวกมิ้นต์มาเปล่า

พูดแบบนั้นเสร็จแก้มก็กอดเอวผมเลยแล้วบอกว่าโกรธพวกหนูหรอออออ ผมบอกเปล่า ๆ ๆ จะไปโกรธได้ไงอุตส่าห์มาหาเนี่ย ผมพูดแล้วก็สอดมือเข้าไปกอดเอวทั้งสองสาวไว้และโอบเข้ามากอดไว้ทั้งคู่แน่นนิดนึง อื้ยยยยยย สองสาวก็เอียงตัวเข้ามาตามแรงกอดแหละครับ แต่ผมไม่ได้กอดแรงขนาดท่า แบร์ฮัก นะ ผมกอดเข้ามาเฉยแล้วก็ผ่อนแรงออกแล้วบอกว่า

พอดีไปเที่ยวแล้วเจอพี่ชายอ่ะ แล้วมันชอบสร้างงาน สร้างเรื่องให้ ผมบอกว่านั่นน่ะเห็นมั้ยกันดั้มน่ะ มิ้นต์กับแก้มก็มองตาม ผมเลยบอกว่ากองนั้น 2 หมื่นกว่าบาท นี่ยังไม่รวมพวกอุปกรณ์อีก ผมก็เล่าให้ฟังว่าพี่อาร์มมันใช้เหลี่ยมแบบไหนที่ผมต้องยอมรับของไว้ เพราะถ้าไม่รับไม่เซ็นคนงานติดตั้งชั้นเก็บดาบก็จะไม่ได้เงิน

และผมบอกไปอีกว่ามันเหลี่ยมใส่หลายรอบๆมากตอนอยู่พัทยา ผมก็ถอนหายใจเฮ้ออออออออ แก้มบอกง้ะ !!! ทำไมพี่โทนดื้อจังเลยอ่ะ เหมือนพี่ชายพี่โทนเขาอยากทำให้ อยากให้นู่นนี่นั่นแต่พี่โทนดื้ออ่ะ ผมหันควั่บเลย แก้มแลบลิ้นใส่แบร่ ผมหันไปมองมิ้นต์ มิ้นต์ถามนะว่าพี่ชายแท้ๆเหรอ ผมบอกไม่ใช่หรอก พี่อาร์มเป็นลูกชายแม่อรน่ะ

มิ้นต์เอียงคอถามแม่อร..เหรอ ผมก็อื่มม จำแม่เล็กได้มั้ยที่ตอนไปบ้านสวน ผมพูดแล้วหันไปมองแก้มด้วย สายตายัยตัวแสบนี่วิบวับเลย พยักหน้า อื้อ ๆ ๆ ๆ ๆ จำได้ มิ้นต์ก็บอกจำได้ ผมก็พูดต่อว่า แม่เล็กน่ะเป็นแฟนเก่าพ่อสมัยตอนหนุ่มๆ แต่พอเลิกกันไปแล้ว ก็ยังไปมาหาสู่ตลอดและรับพี่เป็นลูกอีกคน พี่ก็เลยเรียกแม่เล็ก

ส่วนแม่อรก็เหมือนกัน ส่วนแม่อรก็เป็นแฟนเก่าพ่อ อาเอก.. อื่มม... ผมใช้คำจำกัดความยังไงดี พอผมทำท่าคิดๆ ๆ ๆ อื่มมมม เรื่องของอาเอก อื่มมม พอแค่เคยบอกว่าเคยให้คำปรึกษาไปนิดๆหน่อยๆเท่านั้นเอง อื่ออออ ผมใช้คำว่าอะไรดีน๊ออออ

•••••••••••••
°° ดาว °°
ถ้าเป็นดาวที่ได้ฟังเรื่องที่คุณอาร์มเล่ามา ดาวก็จะบอกว่าคุณเอก เป็นเด็กปั้นของพ่อทศอ่ะ
•••••••••••••

ผมบอกอื่มม อื่มม อาเอกเคยเป็นที่ปรึกษาให้พ่อมั้ง มิ้นต์ก็หือออ แก้มก็หือออ ผมเลยบอกไปว่าพี่โชคดีที่ทั้งอาเอก กับ แม่อร เอ็นดูพี่นะ เคยพูดไปเล่นๆว่าถ้าเรียนจบอยากได้ดาบสักเล่ม ผมก็บอกนู่นน่ะดูสิ่ อาเอกก็จัดหามาให้เลย

ตีขึ้นใหม่หมดเลย สั่งทำพิเศษให้พี่เลย แก้มลุกบอก หนูขอดูได้มั้ย มิ้นต์บอกดูด้วย ผมก็อื้มมาสิ่ สองสาวลุก ผมก็ลุกตาม หยิบคาตานะขึ้นมาให้แก้มลองถือ แก้มส่ายหัวบอกไม่เอา ผมหันไปหามิ้นต์ เธอก็ไม่เอา

ผมเลยขยับชักดาบออกมา กริ๊ก !!! ผมก็อธิบายบลา ๆ ๆ ๆ ข้ามไปแล้วกันเพราะน่าจะได้อ่านจากข้างบนแล้ว จนกระทั่ง ฮึ๊ !!! ผมพึ่งเห็นที่มีการสลักอักษรเอาไว้ด้วย ผมถือดาบตั้งขึ้น แล้วจ้อง สองสาวถามอะไรอ่ะพี่โทน

ผมบอกอ๋อ พึ่งสังเกตว่ามีสลักอักษรไว้ แก้มบอกไหนๆ เธอก็เดินอ้อมมาด้านหลังผม รวมถึงเจ้าหญิงด้วย ผมก็ยกให้ดู แก้มถามว่า เขียนว่าอะไรเหรอพี่โทน ผมบอกเป็นอักษรคันจิฝั่งนึงอย่างที่เคยบอกไปครับ สลักคันจิคำว่า " กุเร็น " ซึ่งเป็นชื่อของดาบ


紅蓮


และอีกคำที่ผมมองข้ามไป ซึ่งถ้าบรรดาพี่น้องรู้นี่โดนรุมบ่นแน่นอน ซึ่งมันคือคำว่า อาชิตะ ซึ่งแปว่า วันพรุ่งนี้  บรรดาพี่น้องทุกคนจะมีตัวอักษรนี้อยู่กับทุกคนครับ ผมก็บอกสาวๆไปว่ามันแปลว่า วันพรุ่งนี้


明日


สองสาวถามว่าวันพรุ่งนี้เหรอ ผมบอกช่ายยยยย สองสาวก็มองหน้ากันและมองมาที่ผมและบอกอื้อออ ผมก็บอกว่าจริงๆแล้วพี่น้องของพี่จะมีคำนี้ติดตัวทุกคน มิ้นต์บอกอื้อ แล้วแก้มก็ลูบหัวผมเบาๆ แล้วบอกว่าดีใจจังพี่โทนก็มีพี่น้องกับเขาด้วย ผมก็หืมอะไรล่ะนั่น

แก้มมองหน้ามิ้นต์แล้วบอกว่า ก็หนูอ่ะเห็นว่าพอพี่ทำงานเสร็จปุ๊ปก็กลับมาห้องตลอดเลย มันแปลกอ่ะ พนักงานออฟฟิศเวลาเลิกงานเขาก็ต้องไปปลดปล่อยไป Relax บ้างสิ่ ผมเลยถามว่านี่ดูเป็นต่อมากไปป่ะนิ ใครมันจะไปมีเงินเที่ยวทุกวันแบบนั้น อีกอย่างพี่ก็ไม่ใช่พวกที่ขาดเหล้าไม่ได้ด้วย กินน่ะกินพอสนุกได้ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ได้จิบแล้วมือสั่น

ผมบอกว่ากลับมานอน กลับมานั่งเล่นเกมส์ แบบนี้สนุกกว่าอีกมันก็แล้วแต่คนน่ะนะ อีกอย่างพี่ก็ไม่ใช่พวกไม่มีสังคมนี่หน่า แก้มก็เห็นว่างานนู่นงานนี่เต็มไปโม๊ดดดดด แก้มบอกอื้ออ ก็แค่แปลกใจเพราะพี่ไม่ออกไปสังสรรค์ไหนเลย กลัวพี่จะเหงา มิ้นต์บอกอื้อไม่คิดว่าพี่จะมีคนคบด้วยอ่ะ ผมบอกเดี๋ยววววว ผมเก็บดาบแล้ววางเก็บไว้ที่เดิม และไปนั่งโซฟา ผมบอกว่าเพื่อนพี่ก็มี ไอ้คิงไงที่ไปบ้านน่ะ แก้มบอกอื๊อออ ใช่ ๆ ๆ เป็นเพื่อนกันตั้งแต่โรงเรียนเก่าเลยเหรอพี่โทน

ผมบอกอื้ม ก็ตั้งแต่ ม.ต้นนั่นแหละ มิ้นต์ถามอยู่ห้องเดียวกันเหรอ ผมบอกเปล่าๆ อยู่ห้องติดกันน่ะ แต่ว่าเพราะชื่อจริงตัวอักษรเดียวกัน ตอนเรียนลูกเสือก็เลยได้อยู่หมู่เดียวกัน เข้าค่ายลูกเสือก็เลยได้ไปอยู่ด้วยหมู่เดียวกันอีก ก็เลยรู้จักกัน นอกจากซ้อมกีฬาหรือทำกิจกรรมโรงเรียน พี่ชอบอยู่คนเดียวเงียบๆน่ะ ส่วนมันก็นอกจากเวลาเรียนลูกเสือก็เจอแต่สาวๆชวนคุย มันก็คงเบื่อล่ะมั้ง

มิ้นต์ถามอ้าวพี่ล่ะก็นักกีฬาโรงเรียนไม่ใช่เหรอ คงจะฮอตล่ะดิ่ แล้วเธอก็ยกนิ้วขึ้นมา นักกีฬา ยกอีกนิ้วแล้วบอกนักดนตรี ยกอีกนิ้วแล้วบอกคนดัง ผมเลยบอกว่านั่นต้องหมายถึงหน้าตาดีด้วยนะและบ้านต้องมีฐานะระดับนึงด้วย เพราะงั้นไอ้คิงทั้งหน้าตาดี นิสัยดี บ้านก็ฐานะดี เพราะงั้นมันเลยฮอตมาตั้งแต่ตอนนั้น แต่มันก็ไม่ได้ชอบอะไรแบบนั้นเท่าไร บางจังหวะมันก็อยากนั่งเฉยๆ

ประกอบกับพี่เป็นคนเดียวมั่งที่ไม่ค่อยชวนมันคุย มิ้นต์ถามแล้วเกี่ยวอะไรง่ะหนูไม่เข้าใจ ผมก็เลยบอกว่าบางทีพวกผู้ชายที่ชวนๆมันคุยเพราะอยากให้มันเป็นสะพานไง เวลามีสาวๆมาคุยกับไอ้คิงแล้วถ้าพวกมันอยู่ด้วย มันก็จะได้เนียนๆคุยและจีบคนนั้นต่อ ไอ้คิงก็เลยหน่ายๆ แก้มถามโห พี่คิงเขาหน้าตาดีมาตั้งแต่ ม. ต้นเลยเหรอ

ผมก็เลยบอกว่าเรื่องหน้าตายังไม่ออกมากเหมือนตอนนี้นะ แต่มันก็ถือว่าหล่อแหละสำหรับเด็ก ม.ต้น มันขาวแบบลูกผู้ดีด้วย พวกรุ่นเดียวกัน รวมถึงรุ่นพี่ก็มาคุยกับมันบ่อยๆ ส่วนพี่ก็ซ้อมแต่ยูโด เย็นก็กลับบ้าน 5 5 5 5 5 มิ้นต์บอกเดี๋ยวดิ่เล่ามาเนี่ยยังไม่รู้เลยว่าสนิทกันได้ไง ผมก็เลยบอกไปว่าก็ตอนเรียนลูกเสือชื่อใกล้กันไง

ตอนเข้าแถวนั่งในแถวก็นั่งต่อกันตลอด มันเป็นรองหัวหน้าหมู่ ซึ่งต้องนั่งหลังสุด ส่วนพี่ก็นั่งเป็นคนรองสุดท้ายซึ่งติดกับมัน พอคุยตลอดก็เลยสนิทกันไปตอนไหนไม่รู้ แก้มบอกอ๋อ แล้วมองหน้ามิ้นต์ มิ้นต์เลยถามว่าจริงง้ะ ผมบอกอื้มใช่ ก็พอต้องคุยกันตลอด มันก็เลยสนิทกันไปเอง

มันชอบบ่นเวลาชวนพี่ไปเดินห้างพี่ก็ไม่ไป แก้มถามอ้าวทำไมล่ะ ผมก็บอกไปแบบขำๆว่าไม่มีตังส์ไงล่าาาาาา~ ตอนมัธยม นอกจากเงินรางวัลจากแข่งยูโดพี่ก็ไม่ได้ทำงานไรเลย ค่าขนมก็พอใช้แค่รายวันไปเดินห้างทีก็หมดเป็นร้อยๆเลยไม่ไปดีกว่า สุดท้ายไอ้ห่านั่นก็ต้องแบกพวกของกินมานั่งกินที่บ้านพี่แทน

มิ้นต์เอนตัวมาซบแล้วถามหือไปบ้านเหรอ ผมบอกอื้มช่ายยยย เดือนนึงมันจะหอบของมากินบ้านพี่ ครั้งสองครั้งตอนวันหยุด แล้วแต่ว่ามันมีเรียนพิเศษรึเปล่า บางทีมันก็มาลากไปเล่นเกมส์บ้านมัน แก้มถามงืมม ไปเล่นเกมส์บ้านพี่คิง แล้วตอนพี่คิงมาบ้านอ่ะทำไรกันมั่ง ผมก็บอกว่าเล่นน้ำคลองมั่ง พามันปีนต้นไม่เล่นมั่ง ลากมันไปช่วยแม่เก็บผักมั่ง แก้มร้องพี่โท๊นนนนน ไปทำอะไรแบบนั้น

ผมก็หัวเราะเลยนะแล้วบอกว่าแต่พี่ไม่เคยให้มันต้องแบกพวกของหนักๆนะ มิ้นต์บอกไหงทำกับแขกแบบนั้นล่ะ ผมก็เลยบอกไปว่าก็พ่อกับแม่ไอ้คิงเขาบอกมาแบบนั้น..... ผมก็ขยับตัวนิดนึงแล้วบอกว่า พ่อกับแม่คิงบอกพี่ว่าชวนคิงไปเล่นอะไรที่สมกับเด็กผู้ชายเล่นหน่อยเดี๋ยวจะสบายจนเคยตัว แก้มถามคือไรอ่ะงง มิ้นต์บอกนั่นดิ่ ผมก็เลยบอกว่า อย่างที่พี่บอกไปนั่นแหละไอ้คิงมันบ้านมีฐานะอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเรียนจบก็ไม่ต้องทำไรแล้ว

มิ้นต์บอกเดี๋ยวพี่โทน อื่ม... พี่หมิวบอกว่าพี่เกลียดคนรวยนี่นา... แล้วคุยกับคุณคิงสบายๆเลยน่ะนะ ผมก็บอกอื้มใช่ แก้มบอกอ้าวหนูนึกว่าพี่หมิวเป็นคนพังทลายกำแพงเกลียดคนรวยซะอีก ผมนี่หันควั่บเลย คือแก้มใช้คำพูดนี้จริงๆนะ
" พังทลายกำแพง "

ผมถามว่าอ่านนิยายมากไปป่ะนิ แก้มร้อง ง้ะ !!! แล้วแง่มๆที่แขนผมเบาๆ แล้วบอกหนูไม่รู้นี่นา ก็เห็นว่ารู้จักกับครอบครัวพี่หมิวมานานแล้วพี่หมิวก็สวยมากด้วย นึกว่าจะทำให้พี่ใจอ่อน ผมหัวเราะเบาๆ แก้มบอกตกลงว่าเป็นคุณคิงเหรอ ผมบอกช่ายยย ไอ้คิงมันเป็นคนรวยคนๆแรกที่พี่คุยได้แบบสบายใจ หลังจากที่บ้านมีปัญหาน่ะ


มิ้นต์ทำหน้าบุ่ยๆแล้วบอกว่าอุตส่าห์คิดว่าพี่หมิวเป็นนางฟ้ามาโปรด ผมก็เลยหัวเราะเบาๆแล้วบอกผิดหวังเหรอ มิ้นต์บอกไม่ได้ผิดหวัง พี่หมิวน่ารัก ผมก็หืมม อะไรเนี่ย ผมก็บอกอ้อๆ เมื่อกี้พี่ซื้อมะละกอสุกมาน่ะกินมั้ย มิ้นต์บอกกิน ๆ ๆ ๆ ๆ แล้วเธอก็เดินดุ๊กๆไปเทมะละกอสุกสีส้มลงจานและมานั่งหม่ำ แก้มบอกเล่าต่อดิ่พี่โทน ทำไมแต่ว่าพ่อกับแม่ของไอ้คิงไม่อยากให้เป็นแบบนั้น อยากให้ลองทำอะไรลุยๆดูบ้าง ก็เลยอยากให้พี่ชวนเล่นอะไรแบบลุยๆหน่อย


คราวนี้คุณผู้อ่านหายสงสัยยังครับว่า ทำไมตอนงานเลี้ยงที่ไอ้คิงบอกว่ารู้จักชื่อเสียงของเจนดี...ไอ้คิงที่ผมบอกว่าบ้านรวยแต่กลับเรียนโรงเรียนเดียวกับเจน ทำไมเรียนโรงเรียนเดียวกับไอ้พวกรุ่นพี่กร่างๆนั่น ทำไมไม่เรียนโรงเรียนลูกคุณหนู ก็นั่นแหละครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าพ่อแม่ไอ้คิงคิดยังไงถึงส่งให้ไอ้คิงเรียนโรงเรียนนั้น คือโรงเรียนนั้นก็ไม่ได้แย่นะ แต่ถ้าเทียบกับระดับโรงเรียนลูกคุณหนูรอบๆบ้านมันที่พ่อแม่มันส่งเรียนได้สบายๆล่ะก็คนละคลาสกันเลยช่างเถอะ

ผมก็เล่าให้สองสาวฟังๆ จนผมถามขึ้นว่าเบื่อมั้ยนิฟังพี่พูดตั้งนาน แก้มบอกม่ายย แล้วมิ้นต์ก็ป้อนมะละกอให้แก้ม อูยย เมื่อยๆๆ ผมขยับตัวกร่อก แกร่ก จนแก้มรู้ตัว แก้มถามเมื่อยเหรอพี่โทน ผมก็อ่ะแหะๆ พอนึกถึงกิจกรรมต่างที่ทำตอนไปพัทยาแล้วก็พึ่งนึกขึ้นได้ว่า นี่มัน Survivor ชัดๆ ร่างกายเหมือนไม่ได้พักผ่อนอย่างที่คิด นี่ถ้าไม่ทำตามคำแนะนำของเจ๊เปิ้ลว่าให้ลาหยุดเพิ่มอีกวัน กล้ามเนื้อผมคงก่นด่าผมในใจแน่ๆล่ะครับ ผมบอกอื้มๆเมื่อยๆน่ะ แก้มบอกหนูนวดให้น๊า

ผมฟังแล้วยิ้มเลย อื้มนวดให้หน่อย ผมไม่ปฎิเสธเลยล่ะครับ แก้มขยับมานั่งข้างหลังผมและเริ่มบีบนวดไหล่ นวดคอ อ่าส์ ดีขึ้นนิดนึง แก้มถามว่าพรุ่งทำงานมั้ยง่ะพี่โทน ผมบอกอื้มทำสิ่ ผมก็ทำหน้าแหยๆ แล้วบอกว่าไม่รู้งานจะสุมเท่าไหนเนี่ย แก้มบอกอาไรอ่ะ แค่พี่หยุดงานแล้วมันจะไม่มีคนทำเลยเหรอ บ้าบอ

ผมก็บอกไม่รู้สิ่ แต่พี่ก็เคยฟิวส์ขาดเพราะเรื่องนี้รอบนึงนะ จนโดนพักงานนั่นแหละ เพราะงั้นไอ้พวกโยนงานมาให้พี่ทำน่ะ น่าจะหายไปเยอะแล้วล่ะ  อีกอย่าง... ผมพูดๆแล้วนิ่ง แก้มก็เขย่าแล้วบอกว่า อารายอ่ะ เงียบทำมายยยยย ผมเลยบอกว่าช่วงนี้พี่กลายเป็นว่า... เหมือนเด็กเส้นน่ะสิ่

มิ้นต์ที่นั่งกินมะละกออยู่ก็ถามทำไมอ่ะ ผมก็เลยบอกไปเรื่องคุณท่านนั่นแหละ เล่าเท่าที่จะเล่าได้ มิ้นต์บอกอ้าวแล้วเกี่ยวไรอ่ะ ก็ไม่เห็นเกี่ยวหนิ การที่พี่รู้จักกับคนระดับพ่อพี่หมิวที่เป็นถึงประธานบริษัทพี่ผิดอะไรล่ะ อีกอย่างพี่ก็รู้จักพวกเขามาตั้งนานแล้วนี่ พี่หมิวก็เลยเล่าให้ฟังว่าไปทำงานกับที่บ้านตั้งนานแล้ว

ผมบอกเดี๋ยวๆ นี่คุยกับเจ๊หมิวด้วยเหรอ มิ้นต์บอกอื้อก็คุยปกติ แก้มบอกอื้อก็พี่เขาน่ารักจะตายเท่ส์จะตาย เดี๋ยวก่อนนะ เดี๋ยวก่อนเท่ส์งั้นเหรอ แต่เดี๋ยวก่อนนะจะว่าไปแล้วไอ้การที่สองสาวทักทายเจ๊หมิวตอนที่ไปบ้านสวนนั้นก็แปลกๆละนะ นี่ไปคุยอะไรกันยังไงตอนไหนเนี่ย แก้มบอกพี่โทนอ่ะคิดมากง้ะ !!! เธอพูดแล้วก็หอมแก้มผมทีนึง มิ้นต์บอกอะไรอ่ะ แค่พูดปกติไม่ต้องหอมได้ป่ะ

แก้มบอกอ้าวก็เค้าหอมแฟนเค๊าอ่ะ ผิดตรงไหนง่ะ มิ้นต์บอกแฟนไรขี้ตู่ แล้วก็ยื่นจานมะละกอให้แก้ม แก้มก็รับแบบงงๆ มิ้นต์บอกเค้านวดต่อเอง แก้มบอกง้ะ แบบนี้ยัดมือเฉยเลยอ่ะมิ้นต์ มิ้นต์บอกมะรุ แล้วก็นวดๆให้ผม ถึงจะนวดไม่ถูกจุดแบบแก้ม แต่ก็อื้มรู้สึกผ่อนคลายยยย

แก้มก็กินไป บ่นไปงุ้งงิ้งๆๆ ผมก็โอ๋ๆ มิ้นต์ก็นวดไป พอกินมะละกอหมด ไปเก็บจานไม่มีอะไรทำก็เลยมานั่งดูหนังกัน รู้สึกจะเป็นนาเนียร์ ภาค 1 ครับ สองสาวนั่งข้างๆกันผมก็เลยต้องมานั่งริมๆ จนแปปนึงแก้มก็สะกิดๆให้ผมมานั่งกลาง อ่ะผมก็ไปนั่งและสองสาวก็เบียดๆเข้ามา ผมก็เลยถือโอกาสโอบเอวทั้งสองสาวเลยอ่ะคร๊อบบบบบบบ

เรานั่งดูหนังกันไปคุยกันไปบ้าง จนมาถึงฉากที่กำลังจะคืนชีพให้อัสลาน สองสาวก็เงียบๆแปลกๆ ผมมองซ้ายขวา อาการนี่คือมากันเลยครับ ตาปรือแบบนี้ ซบไหล่แบบนี้ง่วงนอนแน่ๆ ผมถามว่าไปนอนกันมั้ย ผมดูนาฬิกาก็เกือบ 4 ทุ่มแล้ว ผมถามว่าอาบน้ำมายังแก้มกับมิ้นต์ ผมหันไปมองเจ้าหญิงซึ่งอาการก็ไม่ต่างกันเลย เอนซบไหล่ด้วย แก้มบอกอาบแล้วตัวหอมๆๆๆ ไม่เชื่อดมจิ่ ผมเลยขยับไปดมที่ต้นคอเบาๆ แล้วบอกอื้มหอมแล้ว ผมก็ลูบหัวเธอเบาๆ แล้วบอกว่าไปนอนกันได้แล้วป่ะๆ  แก้มก็งอแงไม่อยากลุก ผมก็เลยบอกถ้าลุกแล้ว พี่จะอุ้มไปที่นอนแล้วพี่จะนอนที่พื้นนะ แก้มก็ฮึ่ ฮืออ พี่โทนขู่ง่ะ


ผมบอกงั้นลุกไปที่นอนครับ นอนโซฟาไม่ได้นะแก้ม แล้วเธอก็ลุกขึ้นมาผมบอกไปเปลี่ยนเสื้อผ้านอนเลยจะได้นอนสบายๆ มิ้นต์ก็ลุกไวเลย แต่ยัง งึมๆงัมๆเหมือนกัน สองสาวเดินกลับเข้าไปในห้องแล้วคงเปลี่ยนชุด ส่วนผมก็แปรงฟันครับ เดินมาปิดโทรทัศน์กับเครื่องเล่น DVD ไล่ปิดไฟ และเข้ามาห้องนอน สองสาวเปลี่ยนใส่ชุดสบายๆ ขาสั้น เสื้อยืดตัวใหญ่ๆกันแล้ว แก้มน่ะะนอนหลับไปแล้ว แต่มิ้นต์นั่งอยู่ปลายเตียง เหมือนรอผมอยู่


ผมถือน้ำเข้ามาขวดนึงแล้วยื่นให้ คือมันเป็นเหมือนธรรมเนียมอยู่แล้วครับ ก่อนนอนผมจะดื่มน้ำเพราะว่าไอ้การที่เรานอนไปหลายๆชั่วโมงเนี่ย เราจะอยู่ในภาวะขาดน้ำนะครับ เพราะงั้นจิบๆหรือดื่มไปเลยก็ได้จะได้ไม่ตุนไว้ในท้อง เพราะถ้าปวดฉี่ยังไงก็ตื่นมาได้อยู่แล้ว

หลังจากปิดไฟแล้วก็มานอนครับ ผมต้องนอนตรงกลางนั่นแหละ แก้มเหมือนจะขยับๆๆ ส่วนมิ้นต์ขยับมา Good Night Kiss เบาๆ ผมบอกฝันดีครับตอนจะจับมือด้วยความที่แสงน้อยผมก็ไปมั่บเข้าที่จิ๊มิ๊ของเธอ เธอบอกไอ้บ้ากามจับตรงไหนเนี่ย ผมบอกขอโต้ดก๊าบบบ ผมหันไป Good Night kiss กับแก้มเบาๆ และจุ๊ปที่เหม่งน้อยๆของเธออีกที และผมก็นอนหลับไปพร้อมกับสองสาวนั่นแหละ


ผมรู้สึกว่าตื่นแล้วแต่ยังหลับตาอยู่ แอบลุ้นในใจจะมีบ๊วบปลุกมั้ยนิ ไม่มีแน่นอนนิ่งๆแบบนี้ หรือยังไม่ตื่น ผมลืมตามามองซ้ายขวา อ้าว สองสาวตื่นก่อนแล้วอ่ะครับ ผมเดินหาวออกมานอกห้องนอน เห็นมิ้นต์กำลังทำใส้กรอกทอดเนยให้ผมเบาๆ ส่วนแก้มก็เตรียมพวกข้าวไว้ให้ ผมก็บอกว่าไม่เห็นต้องรีบตื่นเลยแก้มมิ้นต์ มิ้นต์บอกอาบน้ำเลยยยย ผมก็คร๊าบๆ และรีบไปอาบน้ำครับ แต่งตัวท่อนล่างเสร็จใส่เสื้อยืดมานั่งกินข้าวกัน

ผมถามว่าทำไมรีบตื่นกันล่ะหืม มิ้นต์บอกว่าขอเจ๊แค่มานอนค้างอ่ะ เช้ามาก็ต้องกลับ ผมบอกอ้าวลำบากเลยทีนี้นั่งรถไปๆมาๆ มิ้นต์บอก....ไรใครลำบาก ถ้ามิ้นต์ไม่ได้บอกว่าลำบาก ก็อย่าคิดแทนดิ่ ผมก็บอกคร๊าบบบบบแก้มถามเมื่อคืนหนูหลับไปตอนไหนอ่ะ มิ้นต์เลยบอกหลับไปคนแรกเลย อดเลยล่ะ แก้มบอก ง้ะ !!! อดไรทำไรกัน มิ้นต์ทำหน้าเหมือนผู้ชนะแล้วบอก Good night Kiss แก้มหันควั่บมาหาผมเลย ผมบอกว่าผม Kiss แก้มเหมือนกัน แก้มก็ทำหน้ากระหยิ่มใส่มิ้นต์แล้วบอก 555  จากนั้นก็เริ่มกินข้าวแหละครับใช้เวลาไม่นานมากเท่าไร สองสาวก็เก็บจานล้างจาน


ส่วนผมก็ไปแต่งตัวเตรียมของ สองสาวเองก็ล้างหน้าแปรงฟันและลงมาพร้อมๆผมนั่นแหละ หลังจากส่งพวกเธอขึ้น Taxi แล้ว มันก็เหมือนทุกวันนั้นแหละครับ ไปหาเจ๊เตย ไปไหว้ป๋า ไหว้เฮียเต้ แล้วก็ไปทำงาน มอ'ไซค์วิน ต่อรถไฟฟ้า ซื้อแซนวิช ติ๊ดบัตร และเข้าทำงาน ชีวิตปกติที่แสนเรียบง่ายของผู้ชายธรรมด๊าธรรมดาคนนึง

หือ... ทำไมคนข้างหน้าถึงแหวกทาง... แล้วก้มหัวนิดๆ ไม่ใช่ผมแน่ๆ พวกนั้นไม่ได้ทำความเคารพผมแน่ๆ ... เจ้าโทน !!!  เสียงที่คุ้นเคยเป็นอย่างดีเอ่ยเรียกผมขึ้น ผมก้าวเท้าซ้ายเฉียงไปข้างหน้าและหมุนตัวยืนเหมือนเป็นการต้อนรับ.. ทำไปด้วยความเคยชิน ผมยกมือไหว้และตอบกลับสวัสดีครับคุณท่าน

เจ้าของเสียงที่เรียกเจ้าโทน ก็พ่อเจ๊หมิวแหละครับ... คุณท่านเข้าบริษัทแต่เช้าเลยหว่า ก็มีเลขากับผู้ติดตาม แล้ว... คนเยอะด้วยไงตรงนั้น ท่านถามเป็นไงไปเที่ยวมา ผมบอก.. เอ่ออ วุ่นวายนิดหน่อยครับคุณท่าน ท่านก็หัวเราะเบาๆ แล้วบอกอื้ม ช่วงสายๆเดี๋ยวมาคุยกับพ่อหน่อย

มาคุยกับ " พ่อ " หน่อย
มาคุยกับ " พ่อ " หน่อย
มาคุยกับ " พ่อ " หน่อย
มาคุยกับ " พ่อ " หน่อย

เหมือนใส่แอคโค่อ่ะครับจังหวะนั้น คนก็อยู่กันเยอะด้วย ท่านบอกว่าซักช่วง 10.30 น. มาที่ห้องทำงานพ่อ

ห้องทำงาน " พ่อ "
ห้องทำงาน " พ่อ "
ห้องทำงาน " พ่อ "
ห้องทำงาน " พ่อ "

แล้วคุณท่านเป็นคนพูดชัดแบบไม่ต้องถามซ้ำ ผมก็ได้แค่ตอบครับคุณท่าน ท่านก็ถามอีกอื้มข้าวเช้าเรียบร้อยแล้วรึยัง ผมรีบตอบเรียบร้อยแล้วครับคุณท่าน คุณท่านก็อื้ม ตั้งใจทำงานล่ะ ยังมีงานอีกเยอะรออยู่ ผมตอบครับคุณท่าน

แล้วท่านก็เดินไป การ์ดอาวุโสที่คอยติดตามท่านก็ตบไหล่ทักทายผมเบาๆ ผมก็ผงกหัวครับๆ กลายเป็นจุดสนใจอีกแล้วตู ผมถอนหายใจเฮ้ออ ทำตัวไม่ถูกว่ะ

แล้วก็มีคนมาตบหลังผมแล้วพูดว่า ว่างายลูกชายท่านประธาน ก็หัวหน้าผมแหละครับ ผมก็ไหว้สวัสดีครับพี่ พี่เขาบอกเออ แล้วมองผม มองขึ้นลง แล้วบอก เหอะเห้ย !!! โอ้โห่ ทะมึนมาเชียว นี่มึงไปนอนอาบแดดมาหรือไง

ผมก็อ่าวว ไปเที่ยวทะเล แดดมันแรงอ่ะคร๊าบบ ผมก็ถาม..ว่าผมดำขึ้นเยอะเลยเหรอพี่ พี่เขาบอกก็คล้ำๆ ทาครีม ซักอาทิตย์ก็เหมือนเดิมละ ไปๆไวๆ ทำงาน ผมก็คร๊าบบ

ตอนขึ้นลิฟต์พี่เขาก็ถามว่าท่านประธานเรียกไปคุยเหรอวะ ผมบอกครับ แต่ไม่รู้คุยเรื่องอะไร ยังไงช่วง สิบโมงครึ่งขอแว๊ปสักแปปนะพี่ หัวหน้าบอกเออ ก็พักกลางวันไปเลยงั้นน่ะ ผมก็บอกขอบคุณคร๊าบบ

พอขึ้นมาชั้นบน หัวหน้าก็บอก ลูกชายท่านประธานมาแล้ววววว เอ้า ลวกเพี่ยอะไรเนี่ย ทุกคนก็เอ้า เฮ !!! ผมก็เฮ้ออออ คร๊าบ สวัสดีครับพี่ๆ สวัสดีคร๊าบบ และแน่นอนทุกคนทักว่าผมดำขึ้น

อื่มม ช่างเถอะ ผมก็กลับเข้าห้องทำงาน งานก็บานตะไทนั่นแหละ นั่งแปปนึงเสียงก็บ่นๆ ๆ มาเปิดประตูผมแล้วบอกว่า มาทำงานก็มาสาย ต้องเช็คโต๊ะให้อีก ไอ้โทนบ้า คนที่บ่นก็เหมียวนั่นแหละ เปิดประตูมาเธอก็สะดุ้ง... ผมก็ถามบ่นไรแต่เช้าเนี่ยย

เธอก็ชะงักนิดนึง แล้วยัดผ้ามาให้แล้วบอกเช็ดเองไปเลยไป ผมบอกเอ๊า !!! อะไรละนั่น กินรังแตนที่ไหนมาแต่เช้านิ  เหมียวบอกไม่รุ แล้วก็หันฟั่บออกไปเลย... อิหยังวะน่ะ ปจด มาหรือไงหว่าา

ผมก็เช็ดๆๆๆ จังหวะนั้นพี่ตั้มก็เดินมาก๊อก ๆ ๆ ๆ โทนเว้ยว่างเปล่า ผมบอกครับพี่ พี่ตั้มเข้ามาแล้วบอกไงไปเที่ยว ว่าแต่เป็นอะไรวะน่ะ ทะเลาะกันแต่เช้าเลย ผมบอกก็ไม่รู้เหมือนกันครับ ถือผ้ามาบ่น ๆ ๆ แล้วก็ไปเลย

พี่ตั้มหัวเราะหัวบอก อ้อ ๆๆ ทะเลาะแบบนี้แหละลูกหัวปีท้ายปี ผมก็บอกพูดเป็นเล่นน่ะพี่ แปปนึงเหมียวเดินมาพร้อมแฟ้ม 2-3 แฟ้มแล้วบอกว่า ตรวจด้วยถูกเปล่า แล้วก็หน้าบูดไปอีก แล้วถามว่าพี่ตั้มไม่ทำงานเหรอ มาคุยอะไรกันในเวลาทำงาน ตอนนี้ผมเริ่มคิดละว่า มันไม่ใช่เรื่องที่เหมียวควรจะพูดละ ไอ้ใช้คำพูดเหน็บๆแบบนี้เนี่ย อีกอย่างพี่ตั้มเขาเป็นรุ่นพี่ด้วย ถึงผมจะค่อนข้างต่อต้านไอ้ระบบอาสุโส แต่ความย้อนแย้งของผมก็คือไม่ชอบให้เหมียวไปพูดแบบนั้นกับพี่ตั้ม

เพราะยังไงพี่เขาก็นิสัยดี และไม่เคยข่มพวกเรา ผมเริ่มไม่พอใจละ พี่ตั้มบอกเอ้า !!! โดนสะเก็ดระเบิดเฉยเลย เป็นอะไรเหมียวอารมณ์ไม่ดีแต่เช้า เหมียวบอกเปล่าแล้วเดินไป พี่ตั้มหันมาบอกว่า มันมีอะไรแน่ๆ เอาเว้ยแก้ไขปัญหาเอาเอง ผมถอนหายใจแล้วบอกเหนื่อยว่ะพี่ตั้ม

จังหวะนั้นเหมียวเดินเอาของมาให้อีก ( ตอนแรกผมไม่เห็น ) ผมบอกว่าแค่งานก็เยอะพอละ ถ้าต้องมาแก้ไขปัญหาที่ไม่รู้ว่า... ผมหยุดแล้วยกมือไหว้พี่ตั้ม และพูดต่อว่า....ถ้าต้องมานั่งแก้ไขปัญหาที่ไม่รู้ว่าเกิดจาก "ห่า" อะไรนี่อีก ผมว่าผมปล่อยทิ้งดีกว่า

พี่ตั้มบอกเฮ้ย !? วันหยุดไปเจออะไรมาวะเนี่ยดูเครียดแปลกๆ ผมก็เลยบอกไปว่า ผมไม่รู้ดิ่พี่ แค่รู้สึกว่า ทำไมผมต้องมานั่งคาใจกับสิ่งที่ไม่รู้ที่มาที่ไปด้วย ทำงานดีกว่า... ผมพูดแล้วก็มองหน้าพี่ตั้ม พี่เขาบอกเอ้อทำงานๆ ผมเห็นนะว่าเหมียวยืนอยู่หลังพี่ตั้ม แต่ก็ช่างเถอะ...

ถ้าให้พูดแบบเห็นแก่ตัวเลยคือ... เหมียวก็ไม่ได้มีความสำคัญอะไรขนาดชนิดที่ว่า เวลาโดรธหรือไม่พอใจอะไร ผมต้องตามเอาใจตลอด ไม่ครับไม่ใช่ เธอไม่ใช่เจ๊เหมิวเจ๊เตย เธอไม่ใช่สามสาว ที่ผมจะต้องคอยถามตลอดว่าเป็นไร โกรธไร ในเมื่อไม่มีเหตุผลก็อยู่กับความไร้เหตุผลนั้นไปเถอะ



ผมนั่งทำงานไปเรื่อยจน 10 โมง ก็ลุกขึ้นมาบิดตัวกรึ่บ กรึ่บ แล้วไปห้องครัว พี่จักรมาพอดี พี่เขาถามเอ้อมาพอดี แล้วก็หยิบขนมให้ เขาบอกว่าอันนี้เมียพี่คิดสูตรใหม่ลองกินดู

อื้อหือ หอมจัด รสชาติก็ดี ผมบอกใช้ได้เลยครับพี่จักร แต่เนื้อมันแข็งๆไปนิด พี่จักรบอกอื้มเดี๋ยวไปบอกเมียให้เผื่อจะได้เปลี่ยนส่วนผสมของแป้งดู ผมบอกครับแล้วก็บอก พี่จักรถ้าช่วงที่ผมต้องเก็บตัวก่อนไปเกาหลีอาจจะสั่งขนมปังเมียพี่นะครับ ผมระบุวัตถุดิบได้ใช่มั้ย พี่จักรบอกได้เลย พี่บอกเมียไว้แล้วว่าจะมีน้องสั่งขนมปังจำกัดสูตร ผมบอกขอบคุณคร๊าบบบ

แปปนึงเหมียวเดินมาอีก ผมก็เฉยๆ พอผมรู้สึกว่าปล่อยว่าง ไอ้อาการกินรังแตนของเหมียวเมื่อเช้ามันก็ไร้ผลเลย หักล้างดาเมจเหลือศูนย์ ผมเลยบอกพี่จักรไปว่า เอ่อพี่จักรจริงๆผมแจ้งหัวหน้าไปแล้ว แต่บอกพี่ด้วยดีกว่า สิบโมงครึ่งผมต้องไปคุยกับคุณท่านอ่ะ หัวหน้าเลยให้พักกลางวันไปเลย


[ พี่จักร ] : หืม คุณท่าน.. อ๋อ ท่านประธาน

ผมบอกอื้อครับ คุณท่านตามให้ผมไปคุย พี่จักรกระดกน้ำแล้วถามเรื่องอะไรล่ะนั่น ผมก็บอกไม่รู้เลยค๊าบ ผมบีบต้นคอขยับกร่อกแกร่ก พี่จักรบอกการรู้จักกับคนใหญ่คนโตก็ลำบากเหมือนกันนะ

ผมบอกอื้อ เขาบอกเอาน่ะถือว่าเป็นการดีที่ผู้หลักผู้ใหญ่เรียกตัว พี่จักรบอกอีกว่าเหมียวเป็นไรเปล่าน่ะ เหมียวบอกเปล่าค่ะ ผมก็เลยบอกงั้นผมไปทำงานต่อนะพี่จักร อีกครึ่งชั่วโมงเอง

เดินกลับเข้ามาพี่ๆก็ถามอีโทนไหนของฝากกกก อีโทนไหน ๆ  อีโทนไปทำไรมาเนี่ยตัวดำขนาดนี้ .. อื่ม เริ่มแปลกๆว่ะ คนเราควรทักแบบนี้รึ คำทักทายมันมีตั้งมากมายนี่หว่า จนพี่ตั้มพูดว่า อุแหม แม่คนขาวว ขาวเหมือนหยวกกล้วยยยย น้องมันไปตากแดดมา มันก็ต้องคล้ำขึ้นป่ะล่ะ

ผมก็บอกคร๊าบ ๆ ๆ ผมไม่ได้แวะซื้อให้เลย แต่ผมสั่งขนมมาให้กินแล้ว บ่ายๆมาส่ง พวกพี่ๆเขาก็วี๊ดว๊ายกันใหญ่เลย ผมก็ชิ่งมาทำงานต่อ จน 10.20 ผมก็ปิดคอมฯ เตรียมไปพบคุณท่าน มีพี่คนนึงบอกโทนๆช่วยพี่ทำงานหน่อย

อื้อหืองานตัวเองแท้ๆ ผมเลยบอกผมมีธุระครับพี่ เขาบอกไรอ้ะ ยังไม่เที่ยงเลย จนหัวหน้าที่เดินมาพอดี เขาก็บอกเอ้อ ท่านประธานนัดกี่โมง ผมบอก 10.30 ครับพี่ พี่เขาบอกอื้มๆไปเถอะ ไอ้ชาติก็บอก แหม ดีจังว่ะ พักก่อนเวลาด้วย

ผมเลยบอกงั้นไปคุยกับคุณท่านแทนหน่อยได้มั้ยครับคุณชาติ ยังพูดไม่ทันขาดคำเลขาคุณท่านก็เดินมาพอดี เรียกโทนๆเตรียมตัวเสร็จยัง ผมบอกเรียบร้อยครับ ไม่เห็นต้องลงมาตามเลยครับพี่ ผมกำลังจะไปพอดี

พี่เขาบอกคุณผู้หญิงให้มาตามน่ะ เราไปก่อเรื่องอะไรไว้ที่พัทยาหืม ผมก็แหงนหน้ามองเพดานเกาหัวแกร่กๆๆๆ  พี่เขาบอกแปปนึงเลย แล้วก็หยิบแป้งรองพื้นมา เทียบๆ ๆ ๆ กับสีผิวผม แล้วบอกว่าหน้าเขียวมาแบบนี้คงไม่ได้ไปวิ่งชนเสามานะ

เขาก็ตบแป้งปั้ป ๆ ๆ ๆ คือพี่เขาจัดการโดยที่ไม่สนสายตาคนในแผนกเลย แล้วพูดว่าถ้าคุณผู้หญิงเห็น ท่านก็จะห่วงอีก ผมบอกขอบคุณคร๊าบ


พี่เขาบอกเฮ้อ คุณหมิวอุตส่าห์ให้หางานทำเอง แล้วค่อยกลับไปทำงานที่บริษัท แล้วไหงไปๆมาๆ ก็มาอยู่ใต้เครือข่ายคุณผู้ชายอีกจนได้นะ พี่เขาพูดไปก็ตบแป้งไป เกลี่ยแป้งไป ผมก็บอกไปว่าผมก็ไม่คิดเหมือนกันแหละค้าบบบบ


หลังจากปะแป้งปิดรอยช้ำเสร็จช้ำเสร็จ พี่เขาบอกโอเคละ ผมก็บอกครับๆ งั้นผมไปก่อน แล้วผมก็รีบเดินมาเลย เดินไปก็จัดแจงเสื้อผ้าไป

** เรื่องเล่าจากพี่จักร ** ( ซึ่งผมมาถามทีหลัง )

ตอนที่ผมเดินมาแล้ว พี่เลขาเขาก็บอกว่า ท่านประธานเรียกพบโทนน่ะค่ะ ยังไงซะเรื่องเวลางานจะทำใบแจ้งให้ทีหลังนะคะ

พี่จักรบอกไม่เป็นไรครับโทนแจ้งผมกับหัวหน้าแล้ว ยังไงซะการไปพบท่านประธานก็เหมือนไปทำงานเหมือนกัน พี่จักรเขาก็ถามว่าต้องโปะแป้งขนาดนั้นเลยเหรอครับ พี่เลขาบอกเพื่อความสบายใจของคุณผู้หญิงค่ะ

ถ้าเห็นลูกชายหน้าช้ำๆคงไม่มีใคร อดที่จะห่วงไม่ได้ถูกมั้ยคะ ถึงจะเป็นเรื่องปกติของโทนก็เถอะ พี่จักรก็บอกแบบนี้สงสัยแซวว่าลูกชานท่านประธานก็คงไม่แปลกจริงๆล่ะมั้งเนี่ย พี่เลขาก็ยิ้มแล้วบอกขอตัวค่ะ

******

 





เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน

yuta279

เพื่อนเหมียวงอนเพราะพี่โทนเงียบไปเลย ไม่ได้ติดต่อกลับมาหาเลยและเป็นวันนั้นของเดือนด้วยหรือเปล่า

jamjam jam

ได้อยู่หน้าแรก ขอบคุณครับ ใจดีจังลงต่อเรื่อยๆเลยครับ คุณรุกะกำลังโสด เทพโทนมีปัญหาเพิ่มขึ้นอีกคนล่ะ



zamzam


ชุ้ง

โดนงอนอะไรไม่รู้สาเหตุ เป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก เข้าสู่โหมดทำงาน

guang_k

เหมียวงอแงหวังให้เอาใจหรือเปล่านี่ ลืมไปหรือเปล่าว่าตัวิเองเป็นคนที่ให้เงียบๆ ไว้ ออกอาการมากเลยรอบนี้

เหมียวงอแงเพราะเรื่องนี้หรือเปล่านะ แต่ที่ถูกเจ้หมิวบีบหน้านี่ชัวร์เลย งานนี้แปลกพี่พลอยก็ไม่มีเกริ่นมาก่อน


kookai

น่าจะงอนที่นายโทนไม่พาเหมียวไปแที่ยวบ้างแหละ ปล่อยไปเดี๋ยวก็หายเองแหละ



latipk

 ::Grimace::   จริงๆแล้วนายโทน
เป็นลูกของท่านประธาน
ลูกของท่านประธาน
ลูกของท่านประธาน
เสียงเอคโค่ ::DookDig::

munkza


papa969