แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ปลายลิ้นนักร้อง (สามีคนที่ 3)
หลังจากเฮียหมูจากไปเฮียกันก็มักจะแวะเวียนไปมาหาสู่เธอไม่ได้ขาดแต่เธอก็ยังไม่ใจอ่อนตกลงปลงใจง่ายๆ เพราะจะว่าเข็ดก็อาจเป็นได้ แม้เธอจะชอบเรื่องเสียวจนอดไม่ได้ในทุกค่ำคืนแต่ความชอกช้ำเพราะสามีที่รักมาตายจากไปถึง 2 คนก็ทำให้เธอขยาดเหลือเกิน เธอกลัวการสูญเสีย กลัวว่าเมื่อเริ่มต้นรักกับใครอีกครั้งคนเหล่านั้นก็จะมาด่วนจากไปโดยไม่มีโอกาสร่ำลา
ครอบครัวของเฮียหมูเทียวมาพูดให้เธอเห็นใจเฮียกัน เห็นใจลูกที่อาจได้พ่อเลี้ยงที่ไม่ดี ได้ครอบครัวใหม่ที่ไม่ได้รักพวกเขาอย่างแท้จริง เพื่อขอให้เธอตกล่องปล่องชิ้นกับเฮียกันเสียที ชวนพิศก็เอาข้ออ้างเรื่องการมีสามีกี่คนก็มาตายจากไปเสียหมดและเธอก็กลัวเหลือเกินว่าเฮียกันอาจจะมีชะตากรรมอย่างพี่ชัยและเฮียหมู
เหตุผลของเธอทำให้คนในครอบครัวของเฮียหมูหวาดกลัวและไม่มาเซ้าซี้เธออีก จะมีแต่เฮียกันที่ไม่เชื่อและหวังว่าสักวันหนึ่งเธออาจเปลี่ยนใจ แต่แล้วชวนพิศก็รู้ว่าวันนั้นคงไม่มีวันมาถึง เมื่อฟ้าส่งสามีคนที่ 3 มาให้เธออย่างไม่คาดฝันเพราะแทบไม่มีทางที่เธอจะเขาจะโคจรมาพบกันได้ เพราะการดำเนินชีวิตที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ในเช้ามืดวันหนึ่งเมื่อชวนพิศขับรถออกจากบ้านเพื่อไปตลาดอย่างเช่นเคยทุกวัน อาจเป็นเพราะโชคชะตากลั่นแกล้งให้เธอได้พบเจอกับความเสียวจากสามีคนที่ 3 ในชีวิต เมื่อรถยนต์เจ้ากรรมดันมายางแตกอยู่กลางทางระหว่างบ้านกับตลาดและเวลาตี 3 อย่างนี้เธอจะไปหาช่างซ่อมมาจากไหน จะโทรให้เด็กในร้านออกมาช่วยก็เป็นช่วงที่ทุกคนต้องรีบเร่งกับการทำงาน มีทางเดียวที่จะไปตลาดได้ก็คือต้องรอรถของพ่อค้าแม่ค้าที่อาจผ่านมาเพื่อไปตลาดเช่นเดียวกันแต่นั่นคงต้องรอคอยสักหน่อย
แต่แล้วไฟดวงเดียวที่มองเห็นอยู่ไกลๆ ก็เป็นความหวังที่เธอรอคอย แต่เธอก็ไม่ประมาทล็อครถยนต์อย่างแน่นหนาแม้อีกฝ่ายจะเป็นเพียงรถมอเตอร์ไซค์ก็ตามที
“คุณ! รถเป็นอะไรไปคุณ”
เสกจอดรถเทียบข้างพร้อมร้องถามดังๆ เมื่อเห็นสัญญาณไฟฉุกเฉินจากรถบิ๊กอัพ 4 ประตูสีส้มอิฐเปิดกะพริบอยู่ข้างทาง และสาวสวยหน้าตาจิ้มลิ้มที่นั่งหน้าตื่นๆ อย่างระแวดระวังตัวก็ทำให้เขารู้สึกสนใจขึ้นมาอย่างประหลาด เพราะใบหน้าใสๆ ที่ไม่มีเครื่องสำอางเคลือบทับราวกับพื้นถนนคอนกรีตในยามดึกหรืออาจจะเรียกได้ว่าในเวลาเช้ามืดอย่างนี้เขาแทบจะไม่เคยเห็นมาก่อน
หรืออาจจะมีบ้างที่เห็น แต่รับรองได้ว่าไม่มีใครหน้าใสได้เท่าเธอคนนี้อีกแล้ว และเธอมาทำอะไรในเวลาตี 3 อย่างนี้ จะว่าทำงานกลางคืนก็ดูท่าแล้วไม่น่าจะใช่ จะว่าเป็นแม่ค้าก็ไม่น่าจะใช่อีกนั่นแหละเพราะที่กระบะด้านหลังก็ไม่เห็นจะมีตะกร้าหรือเข่งใส่ของสักใบ แล้วเธอมาทำอะไรกันล่ะ
“ว่าไงล่ะคุณ! รถคุณเป็นอะไร”
เสียงแว่วๆ ของเขาดังเข้ามาในรถที่เลื่อนกระจกลงเพียงนิดแต่ชวนพิศก็ยังไม่ไว้ใจที่จะเปิดกว้างเพื่อขอความช่วยเหลือ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะสะดุดใจจนเธอเผลอมองเพลินก็ตาม ชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเขาต้องสูงกว่า 180 เซนติเมตรอย่างแน่นอน เพราะสังเกตได้จากช่วงขายาวๆ ที่คร่อมทับมอเตอร์ไซค์ยามาฮ่ารุ่น RX100 สีเหลืองเต๋ยเอาไว้
มอเตอร์ไซค์โบราณรุ่นเดียวกับที่พ่อของเธอใช้ ซึ่งเขาไม่น่าจะชื่นชอบอะไรแบบนี้ แต่ก็คงจะไม่แปลกสำหรับอาชีพอย่างเขา เพราะนักดนตรีย่อมมีความคิดที่แตกต่างจากคนทั่วไปอยู่เสมอ
เธอคาดเดาว่าเขาคงเป็นนักดนตรีและน่าจะเป็นกีต้าร์ไฟฟ้าเพราะดูจากขนาดของกระเป๋าที่เขาสะพายไว้ด้านหลัง เธอพอจะดูรู้เพราะสมัยเรียน ปวช. เธอเคยหัดเล่นอยู่พักหนึ่งกับรุ่นพี่สุดหล่อที่มาช่วยสอนให้ แต่สอนได้ไม่นานรุ่นพี่ก็ออกลายหาโอกาสคอยแต๊ะอั๋งเธอเสมอ บวกกับเจ็บนิ้วด้วยเธอก็เลยต้องถอดใจ
ใบหน้าที่ไม่ถึงกับหล่อมากแต่ก็คมเข้มเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะหนวดเครารกเรื้อเหนือริมฝีปากที่ยกยิ้มอย่างกวนๆ นั้น ส่งผลให้จังหวะการเต้นของหัวใจเธอสะดุดเป็นพักๆ เพราะอาจบอกได้ว่านี่แหละคือสเปคที่เธอคาดหวังถึงแฟนในอนาคตไว้ตั้งแต่สมัยเรียน ประเภทสูงยาวเข่าดีและมีรูปลักษณ์ไม่ต่างจากพระเอกในการ์ตูนญี่ปุ่น แต่มันก็เป็นเพียงความฝันเพราะในชีวิตจริงนั้นเธอมีพี่ชัยคอยดูแลไปรับไปส่งสมัยเรียนอยู่เป็นประจำ และไม่คิดว่าจะมีผู้ชายมาดอย่างนี้หลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูนอีกด้วย แต่เขาที่เห็นนี่ทำให้เธอหวนคิดถึงสิ่งนั้นจริงๆ
“นี่คุณ จะอ่านกินผมอีกนานมั้ย ถ้านานผมจะได้กางมุ้งรอเลย”
เสียงของเขาทำให้เธอถึงกับสะดุ้ง ดวงตาสวยหวานเบิกกว้างเพราะงุนงงกับคำพูดของเขา “อ่านกิน?” แต่ก็ยังไม่กล้าที่จะเปิดประตูลงไปหรือแม้แต่พูดกับเขา ซ้ำสมองยังสั่งการให้เธอระแวดระวังภัยไว้ดีกว่าเพราะเงินกว่าแสนบาทที่นอนแอ้งแม้งอยู่ในกระเป๋าสะพายใบโตซึ่งวางอยู่ด้านข้างทำให้เธอต้องไม่ไว้ใจใครง่ายๆ
“อ้าว... รถยางแตกนี่ นี่คุณ! สรุปจะให้ผมช่วยมั้ย”
เสกเริ่มจะหัวเสียมากขึ้น เพราะสาวสวยและขาวมากไม่ยอมปริปากที่จะพูดกับเขา และยิ่งได้เห็นอย่างใกล้ๆ แบบนี้ เขายิ่งสั่นไหวอย่างที่สุด ความง่วงงุนที่คอยตามหลอกหลอนสั่งการให้เขาหักรถเข้าข้างทางซึ่งอาจไปตื่นอีกครั้งในโลกหน้ากำลังได้รับการกระตุ้นให้ทำตาม ถ้าไม่มาเจอเธอเสียก่อน ต้องถือว่าใบหน้าสวยเด่นสะดุดตาของเธอช่วยชีวิตของเขาเอาไว้นะ อย่างนั้นแล้วเขาก็ควรจะหาทางตอบแทน
“เอ่อ... ขอโทษค่ะ รอแป๊บนะคะ”
เสกยิ้มหล่อๆ ให้กับหญิงสาวในรถ แม้เสียงเธอจะค่อยแต่เขาก็อ่านจากริมฝีปากที่ขยับขึ้นลงนั้นได้ เธอโทรศัพท์ถึงใครบางคนก่อนจะเปิดประตูรถลงมาให้เขาได้ยินเสียงสนทนาของเธอกับคนปลายสาย
เสกยิ้มหล่อกระชากใจให้เธออีกครั้งก่อนจะขยับรถมอเตอร์ไซค์ของเขาเข้าข้างทางเพราะอยากให้เธอสนทนาได้อย่างสะดวกใจ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้โง่เลยสักนิด เมื่อเธอกำลังเข้าสู่กระบวนการป้องกันตัวเองด้วยการโทรหาคนทางนั้นและแจ้งว่า
“หน่อยอยู่ในซอยบ้านนี่แหละพี่ พี่สมให้คนงานขึ้นของไปเลย ไม่ต้องรอหน่อย หน่อยอาจจะไปถึงสัก เดี๋ยวนะพี่ คุณคะๆ เออ... ต้องใช้เวลาเปลี่ยนนานมั้ย” เสียงหวานหันมาร้องถามชายหนุ่มที่มาช่วย
“คงสักครึ่งชั่วโมง ถ้าคุณมีอุปกรณ์พร้อมนะ แต่ถ้าไม่มีเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่ตลาดเอง” เสกเดาว่า “คนงานขึ้นของ” น่าจะอยู่ในตลาด
“เอ่อ... ค่ะ พี่สมประมาณครึ่งชั่วโมงแหละกว่าหน่อยจะเสร็จ”
และความวูบวาบก็แล่นขึ้นมาปะทะหัวใจก่อนจะกระจายไปที่ใบหน้า เมื่อคำว่า “เสร็จ” ของเธอ อยู่ในช่วงจังหวะประสานสายตากับเขาพอดี และอะไรบางอย่างในนั้นก็บ่งบอกว่า “เสร็จ” ของเขากับเธอมันคือเรื่องเดียวกัน
ริมฝีปากแห้งผากเสียจนต้องเลียไล้ด้วยปลายลิ้นและอาจเผลอทำอะไรมากไปกว่านั้นถ้าไม่ได้ยินเสียงของสมที่แว่วมา
“จ้ะๆ พี่สม หน่อยฟังอยู่ พี่สมขึ้นของไปเลยก็แล้วกัน รายการหน่อยแปะไว้ที่ข้างโต๊ะแล้ว เดี๋ยวหน่อยจะรีบไป จ้ะ ไม่ต้องห่วง มีคนมาช่วยเปลี่ยนแล้วจ้ะ เออพี่สม ให้ใครไปบอกใบ้ด้วยนะว่าหน่อยจะไปช้าน่ะ ให้ใบ้จัดของส่งลูกค้าไปได้เลยไม่ต้องรอหน่อย จ้ะ โอเคเดี๋ยวเจอกัน”
ชวนพิศคุยโทรศัพท์ไปพลางสั่นสะท้านไปพลาง เพราะดวงตาคมเข้มของผู้ชายที่ยืนไขว้ขาพิงรถของเขาอยู่นั้นมันไม่ต่างจากกำลังเปลื้องผ้าเธอ เขากำลังทำให้เธอร้อนทั้งที่ทิ้งร้างมาได้ตั้งนาน แต่ในเวลานี้มัน...
“อืม... เบาๆ สิคะ”
เสียงหวานเอ่ยร้องบางเบาเมื่อร่างอวบอิ่มถูกดันจนหลังติดข้างฝาก่อนสะโพกผายจะถูกยกขึ้นสูงให้ท่อนขาตวัดรัดบั้นเอวสอบของเขาไว้ ฝ่ามือโอบรอบต้นคอแข็งแกร่งพร้อมเผยอริมฝีปากอวบอิ่มเพียงนิดเพราะดอกบัวคู่งามกำลังถูกก่อกวนด้วยฝ่ามือและปลายนิ้ว แม้จะมีเสื้อผ้าขวางกั้นแต่เธอกลับรู้สึกว่ามันไม่มีผลอะไรเลย เพราะเท่าที่ร้อนอยู่นี้ก็มากเกินแล้ว
“หึหึ... ผมรู้ว่าคุณอยากให้แรงขึ้นอีก”
เสียงแหบห้าวปนเซ็กซี่เอ่ยบอกก่อนฝ่ามือและปลายนิ้วจะเคล้นคลึงหนักหน่วงจนเธอต้องแอ่นอกเป็นความหมายให้เขาทำตามที่พูด ชวนพิศยิ้มเมื่อเขารู้ทันในความร้อนของเธอและไม่ปล่อยให้ต้องเสียเวลากันนาน เมื่อในรถของเธอนั้นไม่มีอุปกรณ์ใดๆ ที่จะใช้เปลี่ยนยางได้ “เสก” นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อเถื่อนกระชากใจเธอคนนี้ก็เสนอว่า บ้านพักของเขาอยู่ไม่ไกลให้เธอล็อครถให้เรียบร้อยแล้วรีบไป “เอา” เครื่องมือที่จะทำให้เธอ “เสร็จ” ได้ทันเวลาจะดีกว่า
ชวนพิศซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันโตของเขาด้วยความจำยอม เพื่อเธอจะได้รีบ “เอา” และ “เสร็จ” ให้ไวตามที่เขาพูดทุกอย่าง และเมื่อมาถึง เขาก็รีบทำในสิ่งที่เธอคิดทันที
เมื่อฝ่ามือแกร่งกระชากเธอเข้าหาพร้อมบดรสจูบร้อนๆ เคล้ากลิ่นเบียร์จางๆ รสสัมผัสที่ได้รับยิ่งกระตุ้นความอยากได้ในตัวเขามากขึ้น ชวนพิศสติขาดสะบั้น ไม่เคยสักครั้งที่จะคิดอะไรห่ามได้ขนาดนี้ ไม่เคยสักครั้งที่จะเกิดความต้องการสัมผัสจากคนที่เพียงพบหน้ากันไม่ถึงชั่วโมง แต่อะไรที่ไม่เคยทั้งหมดนั้นกำลังจะได้รับการปลดเปลื้องเดี๋ยวนี้
หากจะโทษก็ต้องโทษรูปร่างหน้าตาสูงยาวที่เธออยากรู้เหลือเกินว่าช่วงขาและหัวเข่าที่ไขว้กันอยู่อย่างเท่ๆ นั้นจะดีได้จริงหรือเปล่า
ท่าทางเซอร์ๆ กับหนวดเคราที่คล้ายคนไม่มีเวลาจะโกนนั้นอีกเล่า มันทำให้เธอสะท้านทุกครั้งที่ชำเลืองสายตามองและคิดว่าหากความสากนั้นมาลากไล้อยู่บนผิวมันจะทำให้เธอสั่นสะท้านได้มากมายแค่ไหน และเธอก็ได้สิทธิ์นั้นเดี๋ยวนี้
“อา... เสกคะ อูย...”
เคราสากของเขาที่ลากไล้อยู่บนเนินไหล่ของเธอเพราะริมฝีปากกำลังซุกไซ้อยู่ที่ซอกคออย่างเอาเป็นเอาตายยิ่งทำให้ชวนพิศบดเบียดดอกไม้ที่ตอดรัดตุบๆ กับหน้าท้องของเขามากขึ้น
เธอร้อนจนอยากให้เขากระชากเสื้อผ้าติดกายนี้ออกให้หมดพร้อมทั้งสอดใส่ความใหญ่โตที่เธอจินตนาการไปแล้วว่ามันจะใหญ่กว่าทุกคนที่เคยผ่านมาเพราะทั้งพี่ชัยและเฮียหมูนั้นไม่เคยมีใครตัวสูงใหญ่ขนาดนี้
“อืม... หอมเหลือเกิน หน่อยทั้งหอมและสวยจนผมอดใจไม่ไหว อืม...”
“อดใจไม่ไหวก็อย่าอดสิคะ ได้โปรด กินหน่อยเสียที หน่อยอยากให้เสกกินเดี๋ยวนี้ อา... เสกขา... อูย... ซี๊ด... โอว... อืม... อย่านั้นแหละค่ะ กินหน่อย โอว...”
ใบหน้างามแหงนขึ้นมองเพดาน ดวงตาสวยหวานปรือลงเล็กน้อยเพราะกำลังดื่มด่ำกับสรวงสวรรค์ที่เสกกำลังพาเธอให้ล่องลอย เมื่อใบหน้าคมคร้ามนั้นซุกซบลงบนเนินอกที่เพียงเขากระชากสาบเสื้อเชิ้ตออกเบาๆ กระดุมทั้งแผงก็เหมือนจะพร้อมใจกันหลุดออกโดยง่าย ปล่อยให้เนินอวบถูกดันให้เด่นด้วยฝ่ามือของเขา
ตะขอหน้าถูกปลดออกด้วยนิ้วมือของเธอให้เขาก้มใบหน้าคลุกเคล้าสูดดมความหอมไปมาก่อนจะไล่งับคว้าเอาปลายยอดข้างหนึ่งดุนดันด้วยปลายลิ้น และเคล้นคลึงปลายยอดอีกข้างด้วยฝ่ามือและปลายนิ้วที่ทั้งสากและด้านเสียจนเธอสะท้าน
“เสกขา... อา... ทำไมหน่อยถึงเสียวแบบนี้ อูย...”
“หึหึ... เดี๋ยวหน่อยจะได้เสียวมากกว่านี้เสียอีก เสียวจนต้องร้องให้ทำต่อไม่ให้หยุด”
เสกพึมพำตอบก่อนจะส่งปลายนิ้วและปลายลิ้นเคล้าคลึงปลายยอดสีชมพูให้เร็วและรุนแรงมากยิ่งขึ้น ใบหน้าสวยที่ร่อนส่ายไปมาราวคนละเมอกับสะโพกที่ร่อนเสียดสีกับบั้นเอวของเขาทำให้รู้ว่าเธอคนนี้ร้อนแรงได้มากกว่าผู้หญิงที่เขาเคยพบมาทั้งหมด และนิ้วสากๆ ของนักดนตรีอย่างเขาก็พาผู้หญิงเสียวจนถึงสวรรค์มานับครั้งไม่ถ้วน ในแต่ละสัปดาห์เขาไม่เคยว่างเว้นที่จะได้ลอง ลองแล้วก็ติดใจจนอยากมาให้เขาช่วยไล้ปลายนิ้วไปบนเรือนร่างพวกเธออยู่บ่อยครั้ง
แต่หล่อเซอร์เลือกได้อย่างเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องกินของซ้ำ และเช้ามืดวันนี้ก็ต้องถือว่าสวรรค์หล่นใส่ตัวเขามากที่สุด เพราะเธอคนที่เขากำลังบรรเลงปลายนิ้วไปทั่วดอกบัวทั้งสองข้าง คงไม่รอเป็นฝ่ายรับเขาอยู่เพียงฝ่ายเดียวแน่ เพราะแค่อาการร่อนไม่ติดผนังที่เป็นอยู่ในขณะนี้ก็ทำให้เขาอยากจะกระชากปลาไหลตัวโตและปล่อยให้ชอนไชจนเธอต้องดิ้นพล่านสั่นสะท้านเมื่อถูกปลาไหลลงรู
ริมฝีปากร้อนเลื่อนขึ้นมาบดจูบร้อนแรงแลกลิ้นกันอุตลุดอย่างคนรู้งานพอกัน ก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของเสกจะพาเรือนร่างเกือบเปลือยท่อนบนของชวนพิศเดินตรงไปที่เตียงนอน
ร่างอ่อนระทวยของชวนพิศถูกวางลงที่เตียงนอนขนาด 3 ฟุตของผู้ชายในสไตล์ดิบๆ เถื่อนๆ ที่วางไว้จนชิดมุมห้อง ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นยืนจนเต็มความสูงพร้อมค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกอย่างอ้อยอิ่งราวกับจะยั่วเย้าให้เธอตบะแตก
ชวนพิศมองเรือนร่างของเขาสลับกับมองสำรวจบ้านพักที่มีเพียงห้องโล่งๆ แต่ก็ไม่ลืมที่จะปลดเสื้อผ้าที่หลงเหลือบนร่างกายของเธอไปด้วย เพราะรู้ดีกว่ากางเกงยีนส์รัดน้องหน่อยที่ฝ่ามือปิดไม่มิดนี้ หากให้เขาถอดเองก็คงจะไม่ง่าย
เรือนร่างขาวนวล ใบหน้าสวยหวาน และสัดส่วนเย้ายั่วอารมณ์ชายค่อยๆ เคลื่อนกายขยับขยายเสื้อผ้าเกะกะไปให้พ้นจากตัว ดวงตาสวยหวานทำทีไม่สนใจเขาโดยการมองห้องพักของชายหนุ่มที่ดิบเถื่อนไม่แพ้เจ้าของ เพราะเมื่อเขาทำราวอยากจะยั่วเย้า เธอก็ยั่วเขาได้เหมือนกัน
ห้องที่ไม่ได้แบ่งสัดส่วนชัดเจนแต่ก็ยังมองดูรู้ว่าจุดไหนใช้ทำอะไรเพราะยังพอมองออกว่านอกจากเตียงนอนตรงนี้แล้วนั้น ยังมีมุมเปลี่ยนเสื้อผ้าที่กางเกงยีนส์หลากหลายตัวถูกแขวนอยู่ตะปูตอกติดข้างฝา และตลอดจากเตียงนอนไปจนจรดข้างฝาอีกด้านนั้นคือมุมของดนตรี เพราะกีต้าร์และเบสหลายตัวรวมทั้งตู้แอมป์ที่สะท้อนอยู่ในกระจกบานใหญ่สูงยาวจรดตลอดแนวข้างฝาก็ทำให้รู้ว่าเขาชอบโชว์แค่ไหน
ห้องเล็กที่เพียงกวาดตามองแวบเดียวก็ทั่วทุกซอกมุม แต่ยังดีหน่อยที่มีห้องน้ำในตัวเพราะเวลาทำความสะอาดแต่ละครั้งจะได้ไม่ยาก
ชวนพิศยิ้มเมื่อรู้ได้โดยสัญชาตญาณความอยากที่มีอยู่มากล้นในตัวเองว่าจากตี 4 ไปจนถึงเช้า เธอต้องไต่ไปหาขอบสวรรค์ได้ไม่น้อยกว่า 4 ครั้งอย่างแน่นอน โดยเฉพาะเมื่อเรือนร่างเปล่าเปลือยของเธอที่นอนอยู่บนเตียงและร่างแข็งแกร่งที่ไม่มีแม้เสื้อผ้าติดกายสักชิ้นยืนเด่นอวดความแข็งแกร่งไม่น้อยไปกว่าที่เธอจินตนาการไว้สะท้อนอยู่ในกระจกบานนั้น มันก็ทำให้เธอต้องทอดกายอ่อนระทวยลงบนเตียงทั้งที่สายตายังคงจับจ้องมองแต่เพียงแก่นกายที่ผงกหัวขึ้นลงในบานกระจกนั้น
“อา... เสกขา... อูย... เสกขา... ซี๊ด... อูย... เสกขา... อูย... หน่อยเสียว... เสกขา...”
ต้นขาที่ห้อยอยู่ข้างเตียงสั่นวาบเมื่อกายแกร่งที่แทรกร่างอยู่กึ่งกลางกำลังเล่นซ่อนแอบปลายลิ้นและนิ้วสากกับดงดอกไม้ของเธอ ดวงตาหลับพริ้มใบหน้าสะบัดส่ายไปมาจะดิ้นรนหนีไปไหนก็ไม่ได้ ขยับเขยื้อนไปทางไหนก็ไม่ได้เลย เพราะท่อนแขนของเขาที่พาดทับอยู่บนหน้าขาและปลายลิ้นที่ทำหน้าที่สะกดร่างของเธอให้ส่ายสั่นอยู่เพียงใต้ใบหน้าของเขาเท่านั้น
“เสกขา... อูย... ทรมานหน่อยเหลือเกิน อูย... เสกขา... ทำสักที ทำหน่อยสักที โอย... หน่อยทนไม่ไหวแล้ว เสก...”
กริ๊งงงง... กริ๊งงงง...
และเสียงโทรศัพท์ที่แผดลั่นอยู่ในกระเป๋าสะพายใบใหญ่ที่เธอจำไม่ได้ว่าหย่อนไว้ตรงมุมไหนของห้องก็ทำให้ชวนพิศได้สติพร้อมทำท่าจะลุกขึ้นมารับโทรศัพท์ให้ได้ แต่ฝ่ามือที่กดทาบอยู่บนหน้าท้องก็ทำให้รู้ว่าเธอควรจะนอนหายใจรวยระรินไปกับน้ำหวานฉ่ำเยิ้มตามเดิม เพราะเรือนร่างแข็งแกร่งเปล่าเปลือยที่ลุกขึ้นยืนปล่อยให้ตัวตนของเขาชี้หน้าเธออยู่นี้กำลังจะเดินไปหยิบโทรศัพท์มาให้
“จ้ะพี่สม หน่อยคงไม่ได้ไปที่ร้านแล้วล่ะจ้ะ หน่อย... หน่อยรู้สึกเวียนหัวน่ะ ก็เลยวานให้พี่ที่เขามาช่วยเปลี่ยนยางพามาส่งที่บ้าน อุ๊ย!”
ชวนพิศสะดุ้งวาบมือทาบปิดริมฝีปากโดยเร็วเพราะแทบจะหลุดเสียงครางด้วยความซ่านเสียวออกไปเสียให้ได้ เมื่อท่อนขาถูกยกขึ้นในขณะที่เธอกำลังคุยกับนายสมคนงานที่แผงผลไม้ และกายแกร่งขนาดใหญ่กว่าสามีคนไหนๆ กำลังแทรกผ่านลงมา ใบหน้าเหยเกเพราะความเจ็บ ความซ่าน และความเสียวผสมปนเปกันไปหมดแต่ก็ต้องจำตอบคนต้นสายที่ส่งเสียงร้อนรนถามกลับมาว่าเธอเป็นอะไรหรือเปล่า
“อูย... ปะ... เปล่าจ้ะพี่สม หน่อยไม่ได้เป็นอะไร เสี้ยนมันตำน่ะจ้ะ อูย... พี่สมอย่าลืมไปบอกใบ้นะ จ้ะ จ้ะ”
มือกำโทรศัพท์แน่นแม้ว่าคนทางนั้นจะวางสายไปแล้ว เพราะเธอต้องการหาที่ระบายความอึดอัดคับแน่นที่แทรกชอนเข้าสู่โพรงลึกที่ยังผลิตน้ำหวานได้ไม่มากพอ
“เสี้ยนเหรอ ใหญ่ขนาดนี้หน่อยยังคิดว่าเป็นแค่เสี้ยนเหรอ นี่มันไม้ซุงชัดๆ”
เสียงแหบพร่ามาพร้อมกับแรงกระแทกกระทั้นเพราะรู้สึกคล้ายกับว่ากำลังถูกหยาม ทั้งที่เขาภูมิใจในความมโหฬารนั้นอย่างที่สุด
“อุ้ย! หน่อยพูดเล่น โอ๊ะ! ว้าย!”
“นี่แน่ะ! เสี้ยน เจอเสี้ยนตอกเข้าไปแบบนี้เป็นไง เสี้ยนจนร้องไม่ออกเลยใช่มั้ย”
น้ำเสียงของเสกเต็มไปด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านไม่ต่างไปจากชวนพิศที่อ้าขาออกกว้างรอรับเสี้ยนดุ้นโตที่กระหน่ำแทงเข้าๆ ออกๆ ดงดอกไม้ของเธอไม่ยั้ง สะโพกที่ลอยเด่นจากพื้นที่นอนถูกกระแทกส่งเสียงดังซวบซาบสลับกับเสียงครวญครางด้วยแรงอารมณ์ของคนทั้งคู่ สอดรัดสอดประสานไม่สนใจว่าไก่จะขัน ฟ้าจะแจ้ง หรือนกกา ผู้คนจะออกหากินหรือทำงานทำการ เมื่อเวลานี้เป็นเวลาของเสี้ยนจะกระหน่ำตำดอกไม้ของเธอ และดอกไม้ฉ่ำน้ำก็อ้าค้างเอ่อล้นให้เสี้ยนซุงกระแทกเข้าใส่ไม่ยั้ง
“โอว... หน่อยจ๋า... อูย... โอว...”
“ซี๊ด... เสกขา... อูย... โอว... หน่อยไม่ไหวแล้ว โอย... ไม่ไหวแล้ว... อูย... เสกขา เสกขา เสกขา กรี๊ดดดดด...”
ชวนพิศกรีดร้องสุดเสียงปล่อยตัวให้ล่องลอยเข้าสู่วังวนแห่งกลิ่นคาวสวาทอีกครั้ง เมื่อกว่าจะถึงรุ่งสาง เสกก็พาเธอไปเยือนสวรรค์ได้มากกว่า 4 ครั้งจริงๆ แค่ปลายลิ้นที่ทั้งไวและแข็งแรงเพราะต้องบริหารด้วยการร้องเพลงทุกวัน กับปลายนิ้วที่ไวเร็วสะกิดเขี่ยเคลื่อนไหวราวกับสั่งได้เพราะประสาทสัมผัสที่สั่งแยกได้ในแต่ละปลายนิ้วก็ทำให้เธอพุ่งกระฉูดขึ้นสวรรค์ไป 2 ครั้งติดๆ
จากนั้นเธอก็ถูกเสี้ยนขนาดมหึมาทะลวงตำอย่างกดกระหน่ำทั้งขอบเตียง ผนังห้อง รวมทั้งหน้าบานกระจกที่เธอสามารถมองเห็นหญิงชายคู่หนึ่งกำลังร่วมรักกันและกันในท่วงท่าพิศดารแต่กระเส่าอารมณ์เป็นที่สุด ทั้งหมดนั้นเธอก็เก็บเกี่ยวความสุขจากผู้ชายคนที่ 3 ในชีวิตไป 5 ครั้งด้วยกันในแค่วันแรกที่พบหน้า
รอยยิ้มปรากฏอยู่บนใบหน้าที่ชื้นไปด้วยเหงื่อเมื่อเสกเคลื่อนกายลงมานอนเคียงข้าง แม้เตียงจะเล็กแต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเธอเลย เพราะยิ่งเล็กเธอก็ยิ่งชอบเนื่องจากเนื้อกายเปล่าเปลือยนั้นแทบจะก่ายเกยกันไปทุกจุด ทุกครั้งที่ขยับตัวก็ไม่ต่างจากการปลุกให้ตื่นอีกครั้งและก็อีกครั้ง
ตั้งแต่เมื่อเสกนักร้องหนุ่มผ่านเข้ามาในชีวิต ชวนพิศก็คล้ายจะเบ่งบานเป็นดอกไม้ได้น้ำอีกครั้ง แต่ความรักครั้งนี้เธอไม่ได้เปิดเผยมากนักเพราะยังคงเกรงใจญาติทางเฮียหมูอยู่ เสกยังคงไปทำงานอยู่ประจำทุกคืน และจะกลับมาที่ห้องพักตอนประมาณตี 3 ซึ่งร้านอาหารที่เสกเล่นดนตรีอยู่นั้นก็ไม่ไกลไปจากตลาดสักเท่าไร
ชวนพิศจึงตัดสินใจเข้ามาเช่าบ้านเพื่อให้ใกล้กับตลาดและเพื่อใช้เป็นรังรักรังสวาทสำหรับเธอกับเสกได้อย่างไม่เสียเวลา เมื่อเสกเลิกงานกลับมา เธอกับเขาก็สามารถตักตวงอาหารคาวๆ ให้แก่กันและกันได้อีกราว 2 ชั่วโมงกว่าที่เธอจะเข้าไปทำงานในตลาด และเมื่อเธอกลับเข้ามาที่บ้านอีกครั้งในช่วงสาย 7 โมง เสกที่นอนเอาแรงก็เปลี่ยนมานอนเอาเธออีกหลายๆ ครั้ง ติดต่อกัน
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ความหนุ่มแน่นของเสกทำให้เธออิ่มไปทั้งวันทั้งคืน ทุกที่ในบ้านเช่าเสกพาเธอไปทัวร์มาจนทั่ว ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน โก้งโค้ง คุกเข่า บนเตียง โต๊ะทานอาหาร ราวบันได แม้แต่ระเบียงบ้านขอเพียงลับตาคนหรือมีช่วงเวลาน้อยนิดเธอกับเขาก็แทบจะจัดหนักให้กันและกันทุกครั้ง เพื่อเพิ่มความตื่นเต้นให้กับเพศรสที่เขาต้องการและเธอก็มีความสุขจนแทบจะสำลักในทุกครั้งที่เขามอบให้
บทรักจัดจ้านทำให้เธอหลงเสกหัวปรักหัวปรำจนบางครั้งก็ลืมเลือนไปว่ามีลูกเล็กๆ ที่รอคอยเธออยู่ที่บ้านเฮียหมู เธอไม่สนใจว่าใครจะว่าร้ายหรือว่าดี เพราะเวลาทั้งหมดของเธอหมดไปกับงานที่แผงผลไม้ แผงหมู และก็... แผงอกที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเสก และในเช้านี้ก็ไม่เว้น
“อูย... เสกขา... ให้หน่อยขึ้นไปข้างบนได้หรือยัง ซี๊ด... หน่อยเสียว...”
ร่างเปลือยเปล่าของชวนพิศที่ยืนกางขาเกาะอยู่ตรงราวบันไดทำท่าจะขึ้นสู่ชั้น 2 ที่เป็นห้องนอนแทบจะสั่นเป็นเจ้าเข้า เมื่อเสกจู่โจมเธอในทันทีที่เดินเข้าบ้าน เสื้อผ้าถูกกระชากออกจนหลุดลุ่ยแบบรอไม่ได้ที่จะไปให้ถึงด้านในห้องนอน
ร่างเปลือยเช่นกันกำลังนั่งคุกเข่าแทบพื้นและแหงนหน้าขึ้นใช้ปลายลิ้นชอนชิมน้ำหวานฉ่ำรักของเธอที่ผลิตออกมาอย่างมากล้นเสียจนเขาต้องกลืนกินมันลงไปให้หมดเพราะเสียดาย ดวงตาคมเข้มชำเลืองมองใบหน้าที่เหยเกเพราะความเสียว มองริมฝีปากที่สูดซี๊ดไปมาราวกับคนกำลังกินของเผ็ดร้อน น้ำรักที่ขับออกมาเพราะเขาก็ควรจะเป็นของเขาทั้งหมด หากจะหยาดหยดออกมาเขาก็จะเลียไม่ให้เหลือ
“อูย... เสกขา... หน่อยไม่ไหวแล้ว อูย... เสกขา... เสกขา... โอว...”
ชวนพิศร่อนส่ายสะโพกไม่อยู่สุขเมื่อปลายลิ้นคล้ายจะทะลวงเข้าไปในดงดอกไม้ของเธออย่างหนักหน่วง พร้อมปลายนิ้วสากที่แหวกกลีบดอกไม้พร้อมกับบดบี้ที่ปลายยอดเกสรไปด้วย
“ซี๊ด... เสกขา... ช่วยหน่อยด้วย อูย... หน่อยไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้ว เสก! เสก! กรี๊ดดดด...”
เรือนร่างงามกระตุกติดกันหลายครั้ง เนื้อกายอ่อนปวกเปียกจนต้องยึดราวบันไดไว้แน่น แต่ปลายลิ้นของเขาก็ยังไม่มีวี่แววจะถอนออก ยังคงเกี่ยวตวัดรัดยอดสั่นไหวของเธอต่อไปอย่างเป็นของรักที่เขาต้องทำให้สุขสมมากที่สุดโดยไม่ฟังคำทัดทานของชวนพิศสักนิด
“ไม่... เสก... ไม่ไหว... พอแล้วอย่าทำหน่อย พอแล้ว อูย... เสกขา... อย่าทำหน่อย หน่อยไม่ไหว เสกขา... อย่า... อูย... เสกขา...”
คำร้องห้ามพร้อมกับน้ำเสียงกลั้วสะอื้นเพราะความเสียวที่ส่งวาบเข้าสู่สมองจนเธอไม่รู้ว่าจะต้านทานความปรารถนานี้ได้ยังไง ก่อนที่กำแพงแห่งความปรารถนาเธอจะถูกทลายลงอีกครั้ง เมื่อความเสียวซ่านทำให้เธอแอ่นดอกไม้เข้าหาริมฝีปากเขาอย่างพร้อมจะสู้ต่อก่อนที่ชวนพิศจะกรีดร้องดังซ้ำๆ ไปมา และคราวนี้ที่เธอจะได้เจอกับของจริงเสียที ของจริงที่ทำให้เธอสั่นไหวทุกครั้งเมื่อได้เห็นอะไรใหญ่ๆ ยาวๆ ในตลาด
“เสกขา... ช่วยทำหน่อยเสียที หน่อยอยากเหลือเกิน เสกขา... อืม...”
“แต่วันนี้ผมเหนื่อยจัง หน่อยช่วยทำให้ผมบ้างได้มั้ยครับ”
ชวนพิศพยักหน้ายิ้มๆ ก่อนจะผลักร่างแข็งแกร่งให้นอนแผ่ลงบนเตียงนอนอวดความใหญ่โตกว่า 9 นิ้วให้เธอต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น เสกทั้งหล่อและใหญ่จนเธอติดใจ แล้วสาวๆ ที่ร้านของเขา จะไม่ถูกเสกฟาดจนเรียบมาแล้วเหรอ แต่ทั้งหมดนั้นต้องจบไปเมื่อเธอก้าวเข้ามา เพราะเรี่ยวแรงทั้งหมดของเขาเธอจะดูดออกมาให้หมดไม่เหลือหลอเหมือนกับที่ก้มหน้าก้มตาดูดอยู่นี้
“อูย... หน่อยจ๋า... เสกหลงหน่อยจะแย่อยู่แล้ว โอว... หน่อยจ๋า... เมียของเสกสุดยอดจริงๆ อูย... เมียจ๋า... หันมาสิจ๊ะ ผัวจะมอบความสุขให้เมีย”
ชวนพิศรู้สัญญาณจึงหันบั้นท้ายขึ้นคร่อมใบหน้าหล่อเหลาทั้งที่ปากของเธอยังกลืนกินความใหญ่โตนั้นไว้จนมิด
“อูย... เมียจ๋า...”
เสกสะดุ้งเมื่อชวนพิศกดริมฝีปากลงจนเกือบจะสำลักแต่ก็ยังคงละเลียดปลายลิ้นทำต่อ รอยยิ้มหล่อเหลาปรากฏขึ้นอย่างมีความสุขล้นเหลือ ตามองดอกไม้ฉ่ำน้ำที่มีร่องรอยต้านแรงลมมาเพียงน้อยนิดทั้งที่ผ่านมรสุมมาแสนหนักตลอดทุกค่ำคืนที่ลอยเด่นอยู่เหนือใบหน้า
ฝ่ามือจับกระชับสะโพกให้กดลงต่ำขณะปลายลิ้นก็แลบออกยาวยื่นไปสู่จุดหมาย และเรือนร่างที่สะดุ้งพร้อมกับส่งเสียงครางออกมาทั้งที่อุ้งปากยังเต็มไปด้วยสิ่งหนาแน่นก็ทำให้เขาต้องเร่งเร้า
เสกลงลิ้นตวัดขึ้นลงไปมาแต่ก็ไม่ลืมที่จะกวาดต้อนน้ำหวานจากโพรงสวาทที่ส่งกลิ่นคาวเชิญชวนให้เขาตักตวงดูดกินน้ำหวานนั้นอย่างไม่รู้จักเบื่อ
ร่างกายตอบสนองความต้องการให้กันและกันตามใจปรารถนา เขาเรียนรู้เรื่องปฏิกิริยาตอบสนองได้จากคู่นอนมากหน้าหลายตา ซึ่งเมื่อเธอต้องการความรุนแรงเธอก็จะกลืนกินเขาอย่างรัวเร็วจนแทบจะพุ่ง แต่ถ้าเธอต้องการความอ่อนโยนเธอก็จะละเลียดดูดดื่มและกลืนกินเขาอย่างเชื่องช้า และบั้นท้ายที่กดบดเบียดกับริมฝีปากของเขาเพราะลิ้นร้อนๆ ตวัดเลียไล้ปลายเกสรไม่ยั้งก็ทำให้เสกยิ่งเร่งเร้ามากขึ้น
สัญชาตญาณภายในตัวตนของเขาร้องบอกว่าความอุ่นวาบที่ผลิตออกมาได้ทันความต้องการกำลังจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว เพราะยิ่งเขารัวเร็วเธอก็ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย และเมื่อความอดทนสิ้นสุด หูของเขาก็แว่วได้ยินเสียงครวญครางอื้ออึงไปมาในขณะที่ลาวาเหนียวข้นของเขาพุ่งทะยานไปข้างหน้าอย่างรุนแรง ปลดปล่อยความสุขให้กระจายไปจนทั่ว และเธอก็เช่นกัน เมื่อเนื้อกายอวบอิ่มกระตุกวาบซ้ำกันหลายครั้ง เพราะเขาระบายความอัดอั้นผ่านเรียวลิ้นที่ตั้งแข็งแตะสัมผัสยอดเกสรที่สั่นระริกต้านทานแรงลมโหมกระหน่ำราวพายุคลั่ง
คาวกลิ่นน้ำหวานคละคลุ้งไปทั่วจมูกและอุ้งปาก แต่เสกก็ยังสูดดมและกลืนกินมันอย่างแสนรักเพราะสายธารอบอุ่นของเขาที่คิดว่ากระจายไปไกลก็อยู่เพียงแต่ในโพรงปากที่เธอดูดกลืนไม่เหลือสักหยด
“หน่อยจ๋า... เสกมีความสุขเหลือเกิน หน่อยมีความสุขมั้ยครับ”
“จะบ้าเหรอ สุขจนแทบจะสำลักแบบนี้ยังจะมาถาม”
ร่างเปล่าเปลือยที่ขยับขึ้นมานอนซบอย่างเหนื่อยอ่อนอยู่บนอกของเขาเอ่ยบอกพลางทุบเบาๆ ที่แผงอกแกร่ง
“โอ๊ย!ๆ เจ็บนะ”
“เจ็บจริงๆ เหรอ”
ชวนพิศชะงักฝ่ามือค้างเมื่อเขายื้อฝ่ามือของเธอออก แต่แล้วดวงตาสวยหวานก็มีแววไหววูบเขินอาย เมื่อบางอย่างจากดวงตาคมเข้มของเสกกำลังส่งความร้อนบอกผ่านมาทั้งจากฝ่ามือของเขาและจากสายตาบ่งบอกความปรารถนาคู่นั้นกำลังไล้ไปมาตามทรวงอกอวบอิ่มที่ยังคงสะท้อนขึ้นลงเพราะความเหนื่อยของเธอ
“ขอให้เสกได้กินหน่อยอีกครั้งนะ เสกยังไม่อิ่ม”
เขาบอกก่อนจะพลิกกายขึ้นคร่อมโดยไม่รอคำตอบของเธอ เพราะรอยยิ้มน้อยๆ อย่างเอียงอายทั้งที่ชวนพิศไม่น่าจะมีสิ่งนั้นแล้ว แต่เธอก็ทำกิริยานั้นได้อย่างน่ารักนั่นแหละคือคำตอบที่ตรงใจที่สุด
ริมฝีปากบอบบางเผยอขึ้นเพราะสัมผัสสากระคายผิวแต่กลับสร้างความกระสันให้กับจุดบอบบางที่ไวต่อการสัมผัสมากที่สุด ดวงตาสวยหวานหลับพริ้ม รอยยิ้มปรากฏขึ้นก่อนจะสูดซี๊ดริมฝีปากไปมาเมื่อความสุขกำลังไต่ระดับในร่างกายของเธออีกครั้ง และเสียงกรีดร้องที่ดังเร่งเร้าครั้งแล้วครั้งเล่าก็สอดประสานไปกับเสียงคำรามต่ำอย่างมีความสุขของคู่ผัวตัวเมียที่มีรังรักเอาไว้เพียงเพื่อ “ทำรัก” อย่างแท้จริง
เสียงปรบมือที่ดังขึ้นอย่างกึกก้องทำให้ชวนพิศกลับคืนสู่ความเป็นจริงอีกครั้ง ในเมื่อตลอด 6 เดือนที่ผ่านมานี้ เธอไม่มีใครเลย ดวงตาสวยหวานมองเจ้าสาวคนสวยอย่างบอกไม่ถูก “อิจฉา” หรือว่า “ริษยา” เธอก็ไม่สามารถคาดเดาตัวเองได้ เมื่อเธอยังสามารถยิ้มให้กับภาพความสุขของคนทั้งคู่ได้อย่างไม่ขัดกับความรู้สึก
เธอไม่ได้อิจฉาที่เจ้าสาวคนสวยได้มีงานแต่งงานที่ใหญ่โต เธอไม่ได้ริษยาที่เจ้าสาวได้คู่ชีวิตที่แสดงออกว่าจะรักและทะนุถนอมเธอมากที่สุด แต่เธอทั้ง “อิจฉาและริษยา” ที่ค่ำคืนนี้เจ้าสาวคนสวยคงจะได้เปล่งเสียงร้องครวญครางด้วยความสุขสมไม่แพ้เธอในคืนเข้าหอ
ในขณะที่เธอคงทำได้แต่นอนรองรับความเปลี่ยวเหงาและอ้างว้าง เมื่อไม่มีอีกแล้วสามีที่จะปรนเปรอความสุขให้ตลอดทั้งค่ำคืน เพราะเมื่อ 6 เดือนก่อน เสกจากไปเพราะถูกดักยิงจากใครก็ไม่รู้ นักดนตรีหนุ่มรูปหล่ออย่างเสกก็มีคู่กรณีมากมายเสียจนเธอจนใจที่จะค้นหาฆาตกร
ชวนพิศกลับคืนสู่ความแห้งแล้งอีกครั้งเพราะไม่กล้าคิดที่จะมีใครอีก ผัว 3 คนตายโหง เธอถูกประณามว่าเป็นผู้หญิงกินผัวมีกี่คนก็ตายเรียบแม้ว่าเสกยังไม่ทันได้ตบแต่งเป็นผัวก็ตาม แต่การอยู่กินกันและกันอย่างเอร็ดอร่อยทุกคืนวัน ก็ทำให้เธอเป็นขี้ปากชาวบ้านไปอย่างง่ายดาย แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น