กระบี่เดียวดายท่องยุทธจักร 4 by Man M. 16 (Man M.16 และ wattana2015 คนเดียวกันนะครับ)แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะ
กระบี่เดียวดายท่องยุทธจักร ตอนที่ 4 ความวุ่นวายของยุทธภพ ความเดิมนางนั้นครางตามอย่างสุดที่จะสะกดกั้นใจไหว หัวใจของนางนั้นแทบจะขาดรอนๆก็ว่าได้ มันนั้นทั้งดิบทั้งป่าเถื่อนไม่ถนอมนางเลยแม้แต่น้อย เจ้ามารบุบผานั้นเริ่มกระทุ้งควยใหญ่เข้าหีนางอีกคราคราวนี้มันกระแทกหนักขึ้นๆเรื่อยคงเพราะอยากเต็มที มันยกโคกหีนางแอ่นเข้าหาควยใหญ่ของมัน กระทุ้งกระแทกพรวดๆเข้าออกในรูหีงามนั้น จนนางนั้นสะดุ้งตามแรงกระแทกของมันเป็นจังหวะๆ และแล้ว น้ำควยมันก็พุ่งกระฉูดอย่างสุดกลั้นเข้าไปให้ในรูหี โพรงมดลูกของนางมีแต่น้ำเงี่ยนของมันที่แตกทะลักล้นเจิ่งนอง น้ำเงี่ยนของมันเพิ่งแตกคราแรกราตรีนี้ยังอีกยาวนานนักนางยังต้องรองรับความหื่นของมันต่อไป...
อา...สาวงามยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะมีราคีคาวเสียแล้ว นางจะทำเยี่ยงไรต่อไปในวันข้างหน้าผมขอซ่อนเนื้อหาจุดไคลแม็กซ์ระหว่างสาวงามกับโจรดอกเหมยชื่อก้องไว้เช็คผู้สนใจอ่านนิยายจีนแนวพิศวาทว่ามีผู้สนใจผลงานมากน้อยเพียงใดนะครับ ทักทายกันนิดนึง เป็นการให้กำลังใจแลกเปลี่ยนกับผู้ประพันธ์นิดหน่อย ถ้ามืการโต้ตอบดีตอนต่อไปจะมาต่อเนื่องในเร็ววันน่ะครับ ผ่านพ้นราตรีหฤโหดมาครึ่งค่อนคืน ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะนั้นนางบอบช้ำอย่างแสนสาหัสทั้งกายและใจแทบไม่มีชิ้นดีเพราะเจ้ามารชั่วนั้นข่มขืนนางต่อหน้าคนรักที่นางต้องการเก็บความสาวไว้ให้เขาเพียงผู้เดียว แต่ความหวังของนางก็ต้องมาพังทลายเพราะมัน มันข่มขืนนางครั้งแล้วครั้งเล่า จนนางที่อารมณ์สวาทเริ่มคลายจากอำนาจฤทธิ์ผงหอมคร่าสวาทลงนางนั้นทั้งเสียใจและอับอายเหลือสุดประมาณที่ถูกมันกระทำชำเราต่อหน้าเอี้ยงหมึ่งที
และแล้วเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเสียจนได้เมื่อนักพรตคิ้วเงินกัวเต้งอักสำนักเซียนกระบี่และลูกศิษย์คนสนิททั้งสี่ที่ตามล่าตัวทั้งคู่นั้น ตามมาพบเหตุการณ์นี้เข้าโดยไม่คาดฝัน พวกมันทั้งหมดนั้นค่อยๆสะกดรอยตามรอยโลหิตของหนุ่มสาวทั้งคู่ที่บาดเจ็บมาแต่แรก มันทั้งหมดมาถึงที่หน้ากระท่อมไม้ร้างแห่งนั้นเมื่อค่อนคืนเข้าไปแล้ว มันทั้งห้าเห็นว่าทั้งคู่คงอยู่ในกระท่อมแห่งนี้แน่ๆเพราะหยาดรอยโลหิตนั้นหายเข้าไปในกระท่อมตรงหน้านี้เอง
“ศิษย์ทรยศเอี๊ยงหมึ่งทีและนางมารน้อยยิ่มเสียวเตี๊ยะข้ารู้ว่าพวกเจ้าซ่อนตัวอยู่ในกระท่อมนี้ ออกมามอบตัวเสียดีๆ อย่าให้ข้าต้องลงมือให้เปลืองแรงเลย”
นักพรตคิ้วเงินกัวเต้งอักร้องบอกด้วยเสียงก้องกังวานที่หน้ากระท่อมร้างนั้น
“บัดซบไอ้ลูกเต่าที่ไหน ใครผู้ใดมันบังอาจมาเห่าหอน ขัดความสุขของบิดามันวะ”
มารบุบผามันก็นับว่าเป็นยอดฝีมืออันดับต้นๆของแผ่นดินคนหนึ่ง เมื่อมีผู้มารบกวนมันก็ย่อมไม่สบอารมณ์แน่นอน
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะ - เอี๊ยงหมึ่งที
"เอ๊ะ มีใครอยู่ข้างในกันเสียงนี่มันไม่ใช่เอี๊ยงหมึ่งทีแน่ๆ" นักพรตคิ้วเงินสงสัย
มารบุปผาเดินออกมามองแบบไม่สบอารมณ์นัก หลังจากจี้จุดทั้งคู่ไว้แล้ว
"พวกเจ้ามาเรียกหาใครกันวะ คนกำลังสนุกมาขัดจังหวะอยู่ได้"
"เจ้าเป็นใคร เห็นชายหญิงคู่หนึ่งบาดเจ็บผ่านมารึไม่"
นักพรตคิ้วเงินถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนักแต่ไม่อยากเสียเวลาหาเรื่องทะเลาะกับคนภายนอกสำนัก
"ข้าเถียนป๋อกวงมารบุปผา ไม่เห็นต้องสนใจว่าเจ้าจะหาใครมันก็เรื่องของเจ้า อย่ามายุ่งกับข้าเป็นพอ ไสหัวพวกเอ็งไปซะก่อนข้าจะไม่สบอารมณ์"
"อ้อ มารบุปผารึ ถ้ายังงั้นคงต้องขอคำชี้แนะเสียหน่อยแล้ว รับมือ" นักพรตคิ้วเงินไม่พูดพร่ำอีกต่อไปพุ่งเข้าประมือกับมารบุปผาทันที เพราะมั่นใจว่าคนที่พวกตนตามหาอยู่ในกระท่อม
"ทำได้ก็ลองดู เดี๋ยวบิดาจะสอนเจ้าให้" มารบุปผากล่าวตอบนักพรตคิ้วเงิน
"พวกเจ้าทั้งสี่เข้าไปดูในกระท่อมซิ ว่ามีใครอยู่" นักพรตคิ้วเงินสั่งการลูกศิษย์ทั้งสี่
"จะเข้าก็ต้องล้มข้าให้ได้ก่อนพวกอ่อนหัดอย่างพวกเจ้ามีปัญญารึ"
พูดพร้อมส่งอาวุธเซัดข้าหาศิษย์สำนักเซี่ยนกระบี่ทั้งสี่ ศิษย์เซียนกระบี่ทั้งสี่ไม่ทันระวังเลยเสียทีเข็มพิษบุปผาม่วงเข้าเต็มเปา ได้แต่ร้องเสียงหลงก่อนที่จะลงไปกองที่ตรงปากประตูกระท่อม นักพรตคิ้วเงินผู้อาจารย์โกรธมาก เข้าปะทะด้วยเพลงกระบี่เยือกเย็นของสำนักเซียนกระบี่ เถียนป๋อกวงรับกระบี่ของนักพรตคิ้วเงินและสะท้อนพลังวัตรกระแทกกลับไป นักพรตคิ้วเงินไม่ทันระวังเพราะความประมาทคู่ต่อสู้จึงโดนกระแทกเข้าอย่างจังเข้ากลางอกดังฉาดใหญ่กระเด็นกลับไป อาการหนักสาหัสถึงกับกระอักเลือดออกมาเพราะบาดเจ็บภายในทันที
"ไงล่ะเจ้านักพรตเฒ่ามีวรยุทธ์เพียงเท่านี้เองรึ ถ้ามีแค่นี้อย่าได้แส่หน้าออกไปท่องยุทธภพกับเขาล่ะ เดี๋ยวจะหาว่าเถียนป๋อกวงสุดหล่อไม่เตือน"
"เจ้า..."นักพรตคิ้วเงินได้แต่โกรธแค้นใจ แต่ก็ทำอะไรมันไม่ได้จริงๆ มันแค้นจนกระอักเลือดออกมาและสิ้นสติไป
เพลงประกอบชอลิ้วเฮียงจอมโจรจอมใจของป๋าเจิ้งเส้าชิวเพราะดีขอเอามาสร้างบรรยากาศนิยายจีนกำลังภายในนะครับ
เถียนป๋อกวงเมื่อจัดการผู้ขัดขวางอารมณ์เสร็จก็กลับเข้าไปในกระท่อมตามเดิม ในกระท่อมเอี้ยงหมึ่งทียังโดนจี้สกัดไว้ที่มุมห้องเช่นเดิม และนางยิ่มเสี่ยวเตี้ยะก็ยังนอนจมกองน้ำกามของมันอยู่แคร่ไม้ไผ่นั้นเช่นเดิม มันมองนางแล้วยังไม่คลายอารมณ์หื่นที่มีเพราะนานเหลือเกินที่มันไม่มีโอกาสเจอสาวงามเช่นนาง และมันคิดในใจว่าคงไม่ปล่อยให้นางหลุดมือมันไปง่ายนัก แต่จะอยู่ที่นี่ต่อมันก็เห็นว่าไม่เป็นส่วนตัวน่าจะเปลี่ยนสถานที่ได้แล้วมันเบื่อพวกที่คอยขัดอารมณ์ที่จะโผล่มากวนอารมณ์ของมันอีก คิดได้ได้ดังนั้นมันก็ตรงเข้าไปแบกนางขึ้นบ่า แล้วคลายจุดให้เอี้ยงหมึ่งทีเพราะมันสะใจพอแล้วและคิดว่ามันคงไม่มีพลังฝีมือที่จะตามมาเป็นปัญหาใดๆกับมันได้ก่อน แล้วมันทะยานร่างพร้อมอุ้มร่างงามของยิ่มเสี่ยวเตี้ยะจากด้วยความรวดเร็วจากพลังวิชาตัวเบาอันเป็นเอกอุของมัน เอี้ยงหมึ่งทีถึงแม้ได้รับการปล่อยตัวแต่มันก็ไม่สามารถตามไปช่วยคนรักของมันจากเงื้อมมือเถียนป๋อกวงได้ มันแต่เจ็บใจในความอ่อนด้อยในวรยุทธ์ของมันเอง มันจึงบอกกับตัวเองว่าสักวันมันต้องกลับมาแก้แค้นเถียนป๋อกวงล้างอายและนำนางอันเป็นที่รักของมันกลับให้ได้
เอี้ยงหมึ่งทีเดินออกมาที่หน้ากระท่อมที่มันได้ยินเสียงการสนทนาของนักพรตคิ้วเงินผู้อาจารย์มันกับศิษย์ร่วมสำนัก ที่ริมปากประตูกระท่อมไม้ไผ่นั้นมันก็มองเห็นสภาพของทั้งห้าก็ให้อเน็จอนาจใจว่าสำนักเซียนกระบี่ของมันนี้ช่างด้อยคุณค่าในยุทธภพนี้เหลือเกิน ได้แต่มองด้วยความสลดรันทดในใจศิษย์ร่วมสำนักโดนเข็มพิษบุปผาม่วงของเถียนป๋อกวงนอนจมกองเลือดใกล้สิ้นใจลมหายใจรวยรินแต่เขาก็ไม่มีหนทางใดๆที่จะช่วยพวกมันได้เลยเพราะไม่รู้วิชาแพทย์และเข็มพิษถ้าผู้รักษาไม่ระวังและไม่มีความรู้จะโดนพิษย้อนเข้าสู่ตัวได้ง่ายๆ
"พวกเจ้าอย่าหาว่าข้าเอี้ยงหมึ่งทีแล้งน้ำใจไม่ช่วยเหลือศิษย์ร่วมสำนักเลยนะ เพราะข้าเองก็บาดเจ็บจากพวกเจ้ามาถึงที่นี่จนเสียทีไอ้โจรชั่วเถียนป๋อกวงนั่น ข้าเองบาดเจ็บจนไม่มีกำลังจะช่วยใครๆได้ก็ถือเสียว่าเป็นกรรมเวรของพวกเจ้าเองที่แส่ไปยุ่งกับคนที่อันตรายอย่างมัน"
เอี้ยงหมึ่งทีหันไปมองผู้อาจารย์ที่สิ้นสติเพราะกะอักเลือดจากการปะทะพลังกับเถียนป๋อกวงก็ทำได้เพียงยัดยาสมุนไพรบำรุงกำลังที่มันมีเข้าปากผู้อาจารย์แล้วเดินจากมา อา...บัดนี้ชีวิตของมันได้เปิดหน้าต่างบานใหม่เป็นนักยุทธ์พเนจรเพราะมันคงกลับไปที่สำนักไม่ได้อีก กลับไปก็คงไม่เพียงถูกขับออกจากสำนักอาจจะโดนสำเร็จโทษเอาง่ายๆ บัดนี้มันเป็นวิหกไร้รังนอนแล้วก็ว่าได้......
ตัดบทของตัวละครหลักทุกคนไปก่อน ณ หุบเขาเร้นลับแห่งภูเขาไท่ซาน
(ภูเขาไท่ซาน ภูเขาไท่ซานตั้งอยู่ที่เมืองไท่อาน มณฑลซานตงทางภาคตะวันออกของจีน ไท่ซานเป็นภูเขาที่สำคัญที่สุดในบรรดาภูเขาสำคัญทั้ง 5 ในประวัติศาสตร์จีน ในรัชสมัยต่างๆ ของประวัติศาสตร์จีนตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉินซี ฮั่นอู่ตี้ ถังไท่จง ซ่งไท่จู่มาจนถึงสมัยราชวงศ์หมิงและชิง จะมีการจัดพิธีบวงสรวงขึ้นที่นี่ กษัตริย์ในราชวงศ์ต่างๆ รวม 72 พระองค์ได้เคยเดินทางมาประกอบพิธีบวงสรวงฟ้าดินที่ภูเขาไท่ซานด้วยพระองค์เอง ยอดเขาหลักของภูเขาไท่ซานสูงจากระดับน้ำทะเล 1,545 เมตร แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ภูเขาไท่ซาน
ภูเขาไท่ซานนับเป็นขุนเขาที่ยิ่งใหญ่และงดงาม จึงมักมีคนเปรียบภูเขาไท่ซานว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ของชนชาติจีน บนภูเขาไท่ซานมีหินผาตั้งเรียงรายจำนวนมาก ในฤดูหนาวภูเขาจะถูกปกคลุมด้วยน้ำแข็งและหิมะ ส่วนในฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วงจะปกคลุมด้วยผืนป่าเขียวขจี กวีจีนสมัยโบราณหลายท่านได้เคยมาจารึกบทกลอนมากมายไว้ที่ภูเขาแห่งนี้ จนมีผู้ขนานนามให้ภูเขาไท่ซานเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์และศิลปะกลางแจ้ง) ผู้เฒ่าสายกระบี่ท่านหนึ่งนามเซี่ยงเส้าหลงผู้มีฝีมือขั้นเอกอุในยุทธภพเมื่อราวสามสิบปีก่อนหน้า หลังจากวัยหนุ่มเที่ยวเสาะแสวงหาผู้มีฝีมือเชิงกระบี่แล้วขอประลองด้วยจนไร้ผู้ต้านในเชิงกระบี่จนชาวยุทธยุคนั้นเรียกเซียนกระบี่เทวะ เก็บตัวฝึกวิชามาช้านานจนเข้าขั้นที่ว่า กระบี่อยู่ที่ใจแม้ไร้กระบี่ถือก็มีคมซ่อนอยู่ภายใน ด้วยปราณพลังสายกระบี่เทวะที่ท่านซุ่มฝึกฝนจนแทบทุกคนที่รู้จักเรียกฉายาจนติดปากกันว่า ผู้เฒ่าปราณกระบี่เทวะ
แสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ผู้เฒ่าปราณกระบี่เทวะ"เซี่ยงเส้าหลง"
ผู้เฒ่าท่านนี้รักสันโดษและไม่คิดยุ่งเกี่ยวกับยุทธภพมาเนิ่นนานหลังจากหมดความทะเยอทะยานด้านวรยุทธ์ที่ไร้ผู้ต้าน หลังจากเก็บตัวคิดค้นเพลงกระบี่มานาน ครั้นล่วงเข้าบั้นปลายชีวิดก็คิดเสียดายเพลงกระบี่ที่ตนนั้นได้ทุ่มเทเวลาคิดค้นขึ้นมาแสนนานจึงคิดหาผู้สืบทอดมาเป็นเวลาหลายปี มีชาวยุทธ์หลายคนเคยเข้ามาฝากตัวขอเป็นศิษย์กลับเป็นผู้เฒ่าเองที่ไม่พอใจลักษณะของชาวยุทธ์เหล่านั้นและมองไม่เห็นแววว่าจะมีใครผู้ใดที่มีลักษณะที่ดีพอที่จะสืบทอดเพลงกระบี่ “ปราณกระบี่เทวะ” ของตนได้
“คนที่ดีหามาไม่ได้ คนที่มาได้ก็ไม่ดี เฮ้อ สวรรค์หนอสวรรค์หรือวิชาที่ข้าอุตส่าห์เพียรคิดค้นขึ้นจะไร้ทายาทผู้สืบทอดกันหรือนี่ ฟ้าเอ๋ยฟ้าสวรรค์เอ๋ยสวรรค์ขอจงมอบศิษย์ที่ดีมาให้สักคนเถิด ข้าเซี่ยงเส้าหลงขอวอนแด่ท่าน”
เขาเฝ้าแต่รำพึงด้วยประโยคนี้วันแล้ววันเล่าถึงคนดีที่จะสืบต่อวรยุทธ์ของตน อา...ฤาทั่วฟ้ากว้างจะไม่มีผู้ใดคู่ควรแก่การฝึกฝนปราณกระบี่ของตน ณ ที่พักของผู้เฒ่าที่ทรงภูมิความรู้ด้านวรยุทธ์อย่างเอกอุนี้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยเขาจัดที่พักเลียนแบบที่พักของท่านขงเบ้งปรมาจารย์ผู้หยั่งรู้ฟ้าดินสมัยสามก๊กที่เขานับถือ บรรยากาศธรรมชาติโดยรอบข้างล้วนงดงามน่ารื่นรมย์เหมาะแก่การฝึกปรือวิชาอย่างยิ่ง ธารน้ำใสไหลเย็นผ่านหน้ากระท่อมมีปลาตัวโตแหวกว่ายไปมา ดินแถบบริเวณนี้ช่างสมบูรณ์ปลูกพืชใดก็งาม บรรยากาศช่างเหมือนอยู่ในสวนสวรรค์ก็ไม่ปาน....
กลับมาที่ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะนางถูกเถียนป๋อกวงแบกขึ้นบ่าลักพามาหาที่เสพสุขกับมันโดยไม่เต็มใจ นางถูกมันป้อนยากระตุ้นรัญจวนสามราตรีเอาไว้ มันป้องกันไม่ให้นางคิดสั้นฆ่าตัวตายใครที่ได้รับเม็ดยาของมันจะมีแต่อารมณ์ใคร่ในตัณหาไม่ได้สติที่จะบังคับจิตใจร่างกายให้เป็นปกติใดเป็นเวลาสามคืนตามชื่อของมัน มันนำนางมากักขังไว้ที่พำนักของมัน ปกติมันไม่เคยสนใจสตรีนางใดๆหลังจากที่มันพร่าผลาญพรหมจารีย์แล้วมันก็จากนางเหล่านั้นไปโดยไม่ดีแต่น้อยมาโดยตลอด ผิดกับนางที่มันให้ความสนใจนางเป็นพิเศษเพราะเหตุว่าความงามของนางนั้นนับว่าหายากในแผ่นดิน หนึ่งในหมื่นหนึ่งในแสนหาความงามบริสุทธิ์แบบนางยากเต็มที โดยที่มันนั้นเป็นโจรพร่าพรหมจรรย์สครีชื่อก้อง มันผ่านสตรีมานับไม่ถ้วนในชีวิตของมันยังหาได้น้อยคนที่จะสวยงามได้เสี้ยวหนึ่งของยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะมี มันย่อมยอมรับว่ามันก็ยังหลงในความงามของนางที่มี และมันคงยังไม่ปรารถนาที่จะปล่อยตัวนางหลุดมือมันไปเร็วนักมันบอกกับตัวเอง ที่มันใช้ยานั้นมันเพราะต้องการลืมเลือนคู่รักของนางไปชั่วขณะที่นางอยู่กับมัน อีกส่วนหนึ่งเพราะมันรู้ว่านางไม่ได้รักมันย่อมต้องต่อต้านมันแน่เมื่อสติของนางกลับคืนมาโดยสมบูรณ์ ซึ่งเหตุการณ์นั้นมันย่อมต้องการไม่ให้เกิดขึ้นในเร็วๆนี้แน่
คืนนั้นหลังจากมันให้นางทานน้ำข้าวผสมโสมเสร็จ พอนางมีกำลังคืนมามันก็เริ่มรุกเร้านางอีกตามสันดานโจรดอกเหมยของมันครั้งเดียวมันไม่เคยพอ และนางที่ถูกยารัญจวนสามราตรีก็เริ่มบทพิศวาสตามที่มันตั้งใจไว้แต่ต้น ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะนั้นนางเป็นได้แค่วัตถุระบายความใคร่ชั้นยอดของเถียนป๋อกวงเท่านั้นเพราะนางไม่สติใดๆที่จะรับรู้ได้ อา...ฤทธิ์ยาของโจรดอกเหมยชื่อเหม็นโฉ่อันดับหนึ่งของแผ่นดินช่างร้ายกาจสมฉายาของมันจริงๆ
“อา...อูยยย...ข้าเสียวววว...เสียวอะไรอย่างนี้ “
ยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะครวญครางเมื่อนางโดนมันล้วงควักลวนลามด้วยความหื่นกระหาย
“อืมม์ แม่นางยิ่มแล้วเจ้าจะได้รู้ว่าการได้อยู่กับข้ามันจะทำให้เจ้าสุขได้เพียงไหน เจ้าต้องอยู่กับข้าไปนานๆหน่อยล่ะ”
“ข้าไม่ไหวแล้ว ท่านช่างเก่งอะไรอย่างนี้ ดีเหลือเกิน อา...เสียวววว...”
นางได้เพ้อไม่เป็นเป็นศัพท์เพราะฤทธิ์ยากระตุ้นราคะอันร้ายกาจของมัน อย่างน้อยในสามราตรีนี้นางก็คงไปไหนจากมันไม่ได้แน่ เถียนป๋อกวงมองร่างงดงามของนางอย่างพอใจ และนึกถึงเอี้ยงหมึ่งทีคนรักของนางมันช่างเป็นคนที่โง่งมมีของดีปานนี้อยู่กับตัวไม่เคยชื่นชมกับนาง จนนางหลุดมือมาอยู่กับมันถึงนางจะไม่รักใคร่ใยดีมัน แต่มันแน่ใจว่ายังไงมันที่เป็นชายคนแรกของนางก็จะทำให้นางขัดใจมันไม่ได้แน่
มันดูดยอดถันคู่งามที่กลมเต่งตึงสีชมพูอ่อนเพราะนางเป็นสตรีที่ผิวขาวสวย ผิวนางละเอียดลื่นไม่มีไผฝ้าใดๆให้มันขัดใจแม้แต่น้อย มันดูดไปจนความหื่นกระหายเพิ่มขึ้นมันก็เริ่มกัดยอดอกของนางเพื่อฝากรอยฟันเหมือนอยากจะประกาศความเป็นเจ้าของร่างงามปานสวรรค์สร้างของนาง หน้าท้องแบนราบเพราะนางนั้นเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์จึงไม่อ้วนแต่อย่างใด แต่นางก็ไม่ได้มีกล้ามเนื้อใดที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอันเทอะทะของผู้ชายแต่อย่างใด
“โอ้ย...ข้าเจ็บบบ...ท่านเบามือให้ข้าบ้างอย่ากัดข้าแบบนี้อูยยยย...”
“แม่นางยิ่มไม่ต้องกลัวไป แล้วเจ้าจะติดใจ เดี๋ยวจะหาว่าข้าไม่บอกนะ”
แล้วมันก็ประกบปากจูบแลกลิ้นกับนาง ส่วนสองมือนั้นก็เริ่มบีบเคล้นขยี้ใส่ยอดถันเต่งขนาดล้นมือด้วยความเมามันสาแก่ใจกว่าเดิม และลีลาเล้าโลมนี้ก็ยิ่งทำให้นางแทบคลั่งด้วยมีฤทธิ์ยารัญจวนสามราตรีเป็นตัวช่วยอยู่แล้วยิ่งทำให้นางปรารถนาการสัมผัสจากมันมากยิ่งขึ้น อา...อารมณ์ของสาวงามยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะขณะนี้นางแทบไม่ต่างจากนางโลมกร้านโลกีย์ทีเดียว มันสัมผัสตรงไหนในเรือนกายที่งดงามนั้นก็ทำให้นางตัวสั่นด้วยแรงปรารถนาอันรุนแรงยิ่ง มันจูบปากแลกลิ้นส่งลิ้นอันชำนาญเชิงกามาของมันเข้าไปพัวพันลิ้นนางจนนางรู้สึกเหมือนสตินางจะหลุดลอยไปจากร่าง
มือของมันได้ขยับต่ำลอดชายกระโปรงของนางลงไปตะปบขยี้ลงบนเนื้อโหนกนูนที่เมื่อคืนมันสัมผัสมาแล้วนิ้วมือทั้งห้าก็ขยับกดบดขยี้ตรงติ่งเสียวกลางคูหาสวาทของนางอย่างต่อเนื่องจนนางอ่อนแรงไปทั้งร่าง เพียงไม่นานนักครู่เดียวต่อมานางก็หลั่งน้ำหล่อลื่นแทบไม่ขาดสายออกมาชะโลมมือของมันที่ล้วงควักนางอย่างหื่นกระหาย มือนุ่มของนางขยับไปกุมข้อมือของมันจนแน่น แล้วกดให้มือของมันเข้าหา ในขณะเดียวกันก็แอ่นโคกโหนกนูนเบียดเข้าหานิ้วมือของมันอย่างลืมตัวลืมอายหมดสิ้นซึ่งความรักนวลสงวนตัวของกุลสตรีที่ได้รับการอบรมมาโดยตลอด
“อาส์ … อาวววว … ท่านสอดนิ้วเข้ามาย่างนี้ … อูยยย … เสียว … ซี้ด … ดี … ดีเหลือเกิน … ซี้ด … อา … อูยสสส”
นางได้แต่ละล่ำละรักเพ้อตามอารมณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป เพราะมันรุกเร้านางหนักมือยิ่งขึ้นไปเรื่อยๆไม่หยุด สติที่จะรับรู้สิ้นไป นางเพียงต้องการให้มันนำพานางไปสู่ความต้องการที่ล้นทะลักด้วยลีลาของมันอีกสักครั้ง จากนั้นมันก็เริ่มแยงนิ้วมือซอยเข้าซอยออกถี่ยิบจนสะโพกนางเด้งร่อนส่ายไม่หยุดตามลีลานิ้วที่พริ้วไหวนั้น พร้อมกันนั้นมันก็ขยับตัวเลื่อนลงมาที่หน้าขานาง มือทั้งสองของมันแหกช่องคูหาสวยของนางที่มันเคยร่วมรักกับนางมาแล้วทั้งราตรีที่ผ่านมาแล้วลงลิ้นแยงเข้าออกกินน้ำรักของนางด้วยความหลงไหล มันก้มหน้าลงไปอ้าปากงับแล้วดูดเลียอย่างเอร็ดอร่อยลิ้นเพลิดเพลินใจ มันเร่งซอยลิ้นใส่ร่องหลืบถี่ยิบจนน้ำหล่อลื่นในคูหาของนางไหลทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกเพราะสุดกลั้นอารมณ์ไหวอีกต่อไป
“อ้ายยยยย...อ่าส์...อาวววว...อา...อูยยยยย... ลิ้นท่านดียิ่ง ข้าไม่ไหวแล้ววววววว....อ้าส์สสสส...ซี้ดดดด”
ร่างงามกระตุกเกร็งส่ายไหวไปมาอย่างบ้าคลั่ง อารมณ์กระสันทำให้มือของเธอตะปบขยำลงไปบนหัวของมัน แล้วแอ่นโคกสวยของนางเข้าบดเบียดกับหน้ามันอย่างสุดระงับราวกับไม่อยากให้มันยกหน้าออกไปจากคูหาสวาทของนาง มันยกไปหน้าออกไปจากคูหาสวาทของนางแล้วยิ้มอย่างพอใจที่นางหลงไหลในลีลาสวาทของมันแล้ว นางมองมันด้วยใบหน้าอันแดงก่ำฉ่ำเยิ้มด้วยไฟปรารถนา
มันปลดกางเกงลงไปเล็กน้อยเพื่อปล่อยแท่งทวนยาวใหญ่ออกมาให้นางได้ยล ในเวลานี้นางที่ถูกไฟราคะโหมกระหน่ำไม่ได้หวาดกลัวเกรงแท่งทวนใหญ่ยักษ์ของมันแต่อย่างใด เมื่อมองเห็นมันกลับทำให้นางกลืนน้ำลายลงคอด้วยความอยากครอบงำจิตใจอันดีงามไปหมดแล้ว นางเอื้อมมือมากำแท่งทวนใหญ่ของมันด้วยอารมณ์ที่คุกรุ่นสุดระงับใจไหวนั้น นางค่อยๆกระทอกท่อนเนื้อของมันตื่นตัวขึ้นตามแรงสัมผัสจากมือของยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะสาวสวย แล้วนางก็ค่อยๆก้มหน้าลงไปอ้าปากอมหัวท่อนบานของทวนเนื้อนั้นเข้าไปในปากบางสวยงดงามเป็นกระจับของนาง นางดูดเลียท่อนทวนของมันอย่างหิวกระหายอารมณ์สวาทที่ท่วมท้นในอก
 
และแล้วมันกระฉูดน้ำรักของมันเข้าไปเต็มล้นคูหานางจนได้ มันล้นออกมาจากคูหาจนย้อยเต็มไปทั้งหน้าขาขาวสวยของนาง นางเองก็ทนไม่ไหวกระฉูดแลกน้ำแทบจะในเวลาเดียวกับมันนั่นเอง อา...ราตรีนี้ของนางกับมันยังมีอีกยาวนานนัก แม่นางยิ่มเสี่ยวเตี๊ยะผู้งดงามและโจรดอกเหมยชื่อก้องแห่งแผ่นดิน....
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน