ซูสีไทเฮา นางพญาหงส์เหนือมังกรจอมนางบัลลังค์เลือดแสดงรูปภาพเฉพาะสมาชิกเท่านั้น
ซูสีไทเฮา นางพญาหงส์เหนือมังกรจอมนางบัลลังค์เลือด ตอนที่ 2ซูสีไทเฮาเมื่อคราวเข้าถวายตัวเป็นพระสนมความเดิม นางนั้นเป็นผู้ที่ขยันมีความเพียรไม่ย่อท้อ เมื่อได้รับโอกาสที่ดีนางก็วางตนให้เป็นที่รักที่เอ็นดูของผู้ใหญ่ ทำตนให้เป็นที่วางใจ ถือคติอยู่อาศัยบ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่นเสมอ โดยการดูแลทำความสะอาดสุนัข ตรวจตราอาหารนก ปลา หรือตรวจตราตามโรงม้าตามประสาผู้ที่มาอยู่อาศัย บางเวลานางก็หัดขี่ม้าบ้าง สิ่งนี้ที่นางทำนี่เองที่ทำให้ผู้ใหญ่ท่านเมตตามอบโอกาสดีๆให้อยู่เสมอ แม้นนางเป็นผู้มาอยู่อาศัยแต่ก็ให้ความเมตตาให้ความรักแก่นางไม่แพ้ผู้เป็นบุตรของเจ้าบ้านเลยทีเดียว สองตอนแรกจะเป็นการเกริ่นนำเรื่องก่อน ตอนที่ 3 ถึงจะเข้าเรื่องของนางกันนะครับ ใครที่สนใจแนวนิยายอิงประวัติศาสตร์จีนก็ตามอ่านกันได้นะครับ ถ้าติดตามไปแล้วผมจะไม่ทำให้ผิดหวังกันแน่นอน แม้เย่เห่อนารา อี้หลานนางจะเกิดมีชะตาต่ำด้อยโอกาสก็จริง แต่เมื่อฟ้าจะบันดาลให้ใครสักคนนั้นเป็นผู้มีบุญอำนาจเสียแล้ว ย่อมที่จะต้องมีผู้คอยอุปถัมภ์ค้ำชูและหนุนนำอยู่เสมอ ฟ้าไม่ได้ตัดโอกาสหรือหนทางเสียแต่ทีเดียวไม่ อี้หลานหรือโบตั๋นก็เช่นกันเมื่อวัยเด็กได้สกุลมูคา รักและเอาใจใส่นางไม่ผิดกับสะโกตาที่เป็นบุตรีในอุทรของบ้านทีเดียว ทั้งสองนางได้รับการดูแลเฉกเช่นเดียวกันไม่ผิดเพี้ยน การเป็นอยู่ การเล่าเรียน การศึกษา การให้มีผู้รับใช้ที่เหมือนและเสมอกันทั้งหมด
ชะตาของอี้หลานนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อและไม่น่าจะเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ได้ว่าสตรีนางหนึ่งลูกสาวของขุนนางชั้นปลายแถวคนหนึ่งจากท้องถิ่นทุรกันดาร จะได้กลับกลายเป็นผู้มีวาสนาถึงขนาดที่มีอำนาจล้นฟ้าเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเพียงผู้เดียวถึงกว่า 48 ปี ทั้งนี้กว่าที่นางจะได้ถึงจุดสูงสุดดังว่านี้ก็ต้องแลกด้วยสิ่งต่างๆมากมาย ที่นางเหนือกว่าคนอื่นใดก็คือนางมีปฏิภาณและไหวพริบในการเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆเหนือกว่าผู้ใดชนิดกลับดำเป็นขาว หรือแม้กระทั่งว่าเป็นผู้เสียเปรียบกลับมาได้เปรียบจนน่าอัศจรรย์เหนือแม้กระทั่งบุรุษที่เคยดูถูกว่าสตรีไม่สามารถทำอันใดได้นอกจากเป็นช้างเท้าหลังแต่นางกลับไม่ใช่เช่นนั้น
อำนาจและเงินตรานั้นเป็นสองสิ่งที่อี้หลานไม่มีมาแต่กำเนิดจะถือว่านางขาดแคลนก็ว่าได้ แต่เพราะเป็นธรรมดาที่ว่า “ผู้ไม่มีอำนาจย่อมแสวงหาอำนาจ ผู้ไม่มีเงินตราย่อมแสวงความมั่งคั่ง” การแสวงหานั้นเป็นชะตากรรมของมนุษย์ทุกผู้ทุกนามในโลก ผู้ใดเกิดมาแล้วไม่แสวงหาย่อมไม่ได้ในสิ่งที่ตนต้องการเป็นธรรมดา ซูสีไทเฮาก็เช่นกันนางกำเนิดมาในรัชสมัยของเสียนเฟิงฮ่องเต้ มารดาของนางหอบหิ้วบุตรทั้งห้าคนเข้ามาเผชิญโชคชะตาพึ่งพาญาติพี่น้องที่ปักกิ่งตั้งแต่นางยังอายุราวๆ 5 ขวบ ชีวิตในตอนต้นหรือวัยเยาว์ของนางนั้นผ่านความลำบากลำบนนานาประการ ในการเดินทางจากบ้านนอกทุรกันดารเข้ามาที่ปักกิ่งกว่าจะเดินทางไปถึงนั้นพวกนางต้องกรำแดดกรำฝนในการเดินทางเพราะบิดาที่เป็นขุนนางชั้นผู้น้อยค่อนข้างขัดสนในเรื่องเงินตรา
นางและสะโกตาบุตรีเจ้าของบ้านที่นางอาศัยอยู่นั้นมีอายุอยู่ในรุ่นราวคราวเดียวกันมีความสวยงามไม่แพ้กัน และโชคชะตาหนุนนำต่างก็ถูกส่งไปถวายตัวเป็นนางสนมในวัง"ต้องห้าม"เหมือนกัน แต่สิ่งที่ไม่เหมือนกันที่ทั้งคู่มีก็คือ "บุญวาสนาแต่เก่าก่อน ความฉลาดชิงไหวชิงพริบ หรือวิธีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมทั้งวิถีความคิดความอ่าน สร้างเสริมเติมปัญญาไม่เหมือนกันทั้งที่ทั้งคู่ก็มาจากที่เดียวกัน" เพราะเหตุว่าอี้หลานนั้นเป็นเด็กที่รักการศึกษา รักการอ่าน นางจึงมีความคิดก้าวไกลกว่าสตรีทั้งมวลที่อยู่ด้วยกัน
ขณะที่นางได้รับการคัดเลือกเป็นนางสนม นางได้ใช้เวลาว่างในห้องอักษร(ห้องหนังสือหรือห้องสมุด)อยู่เป็นประจำ และหนังสือที่นางนั้นสนใจนั้นส่วนมากเป็นหนังสือปรัชญา ประวัติศาสตร์ คัมภีร์ขงจื้อ วรรณกรรมสามก๊กและอื่นๆ เพราะการไฝ่รู้นี้เองทำให้นางเป็นคนที่ฉลาดรอบรู้ จนเป็นพื้นฐานที่ทำให้นางมีบทบาทที่สำคัญในกาลต่อมาในอนาคตข้างหน้า นางนับว่าเป็นสตรีแมนจูคนแรกที่ทรงได้ร่วมสนทนาและได้รับโอกาสถวายรายงานแด่องค์จักรพรรดิในเรื่องการของบ้านเมืองอยู่เสมอ และยังไม่มีสตรีนางใดที่สามารถประพฤติปฏิบัติตัวได้เยี่ยงกับนางพระสนมอี้หลานแม้แต่นางเดียว
 
อี้หลานทรงรู้เท่าทันว่าที่พระองค์ทรงขุ่นเคืองพระทัยที่เมืองเหล่านี้ตกเป็นของคนอื่น และพระองค์ไม่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ด้วยความฉลาดนางรีบทูลขึ้นทันที...
"จิ๋นซีฮ่องเต้ องค์ถังเกาจง องค์เฉียนหลง องค์คังซีฮ่องเต้ สิ่งที่ทุกพระองค์กระทำ ฝ่าบาทก็ย่อมทำได้เฉกเช่นเดียวกันเพคะ ราชวงศ์แมนจูจะต้องรุ่งเรือง ฝ่าบาททรงพระปรีชาสามารถ จะทรงสร้างประวัติศาสตร์ให้กับต้าชิงอย่างแน่นอนเพคะ"
ความฉลาดมีไหวพริบรู้จักทูลแก้ข้อขุ่นมัวขององค์ฮ่องเต้ของนาง ทำให้เพลิงโทสะที่ลุกโชนอยู่ในดวงฤทัยขององค์เสียนเฟิงนั้นมอดลงอย่างรวดเร๊ว ทำให้พระองค์มีความชื่นชมและเสน่หาในตัวของนางเข้ามาแทนที่ ตั้งแต่นั้นมานางก็คือสนมที่องค์เสียนเฟิงฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุด เป็นเพราะปัญญาและความรอบรู้ของนางที่เจนจบนั้นผูกมัดใจองค์ฮ่องเต้พระสวามี และยังทำให้องค์ฮ่องเต้ทรงเห็นภูมิปัญญาของนางเป็นเบื้องแรก... เพราะนางนั้นนับว่า "เก่งทั้งบู๊เก่งทั้งบุ๋น หาผู้เทียบเคียงได้ยาก"
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน