ครั้งนี้แตกต่างกว่าครั้งไหนๆ เพราะผมไม่ได้มาพร้อมกับนิยายแสนสนุกสุดสยิว แต่ผมมากับเรื่องจริง ที่เกิดขึ้นกับคนจริงๆ หากใครอยากจะอ่านเต็มๆสามารถไปอ่านต่อได้ตามลิ้งด้านล่างนี้นะครับ ส่วนใครจะอยากถ่ายทอดเรื่องราว อยากจะเปลี่ยนประสบการณ์ของตัวเองให้เป็นนิยายก็สามารถส่งข้อความมาหาผมได้ทั้งในบอร์ดและในไอดีนี้เลย
----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เขาว่ากันว่ารักครั้งแรกมักจะฝังอยู่ในความทรงจำตลอดไป ผมเองก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน ปัจจุบันอายุก็เกือบจะสามสิบในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าแล้วผมก็ยังคงจำรักครั้งแรกของผมได้ แม้รายละเอียดบางอย่างจะตกหล่นไปบ้างแต่ความสวยงามของเธอยังคงชัดเจนอยู่ในใจทุกครั้งเวลานึกถึง เรื่องราวเริ่มต้นในช่วงฤดูร้อนเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ผมจึงมีโอกาสได้ไปเที่ยวที่ทำงานของพ่อแม่อยู่เกือบทุกวัน โชคดีที่พวกเขาทำงานอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยว ผมจึงไม่รู้สึกเบื่อนักที่จะต้องออกจากบ้าน อย่างน้อยก็มีเพื่อนรุ่นเดียวกัน และพวกเพื่อนร่วมงานของพ่อแม่คอยแวะเวียนมาพูดคุยหรือซื่อขนมมาฝาก
ที่ทำงานของพ่อแม่จึงเป็นที่ที่พิเศษสำหรับผมเสมอ และมันยิ่งพิเศษขึ้นไปอีกเมื่อผมพบเจอกับเธอคนนั้น
มันเป็นช่วงเที่ยงที่แสนหิวโหย ผมเดินตามหาแม่ตัวเองเพื่อหวังจะขอเงินไปทานข้าวตามประสาเด็กน้อยวัยมัธยม ท่ามกลางลูกค้านักท่องเที่ยวมากมายแออัดและอากาศที่ร้อนระอุกลับมีบางอย่างที่ทำให้ผมลืมเรื่องราววุ่นวายรอบตัวไปได้ ไม่ใช่แม่ที่ยื่นแบงค์ร้อยมาให้หรอกนะ แต่เป็นรอยยิ้มที่เธอคนนั้นมอบให้ผมต่างหากละ
อ้อม คือชื่อของเธอ พนักงานพาทไทม์ที่หวังมาหารายได้เสริมเล็กน้อยก่อนที่จะเข้าสู่รั้วมหาลัย ใบหน้าเธอกลมน่ารัก ผิวขาว แก้มมีโหนกเล็กน้อยตามประสาสาวอีสานมีเสน่ห์ ตัวเล็กแต่ทรวดทรงองเอวโตกว่าวัย เด็กผู้หญิงที่ห้องเรียนผมเทียบไม่ติดเลยล่ะ แน่นอนว่าผมตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น
เด็กน้อยหน้าบ้านๆกลับเล็งดอกไม้งามข้ามรุ่น นั้นผมไม่เข้าใจถึงความต่างชั้นของวัยหรือความเป็นผู้ใหญ่ใดๆ ผมรู้แค่ว่าผมชอบอ้อม และอยากรู้จักเธอให้มากขึ้น ผมจึงพยายามชวนคุยกับเธอ ใช้เวลาอยู่เคียงข้างเธอให้มากที่สุด คอยส่งข้าวส่งน้ำจนทุกคนรวมถึงพ่อแม่ผมรู้ว่าผมจีบอ้อมอยู่
อ้อม เองก็ไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกในความเป็นเด็กของผมเลย เธอคุยกับผมเข้าใจในทุกเรื่อง เราชอบอะไรที่เหมือนกันหลายอย่าง ทั้งของกิน ภาพยนตร์ อ่านหนังสือ อะไรที่ผมไม่เคยรู้แต่เป็นสิ่งที่เธอชอบ ผมก็พยายามศึกษาและปรับตัว จนบางครั้งก็ถูกพ่อแม่แซวว่า ผมจริงจังกับความรักมากกว่าการเรียนซะอีก
ความรักของเราเริ่มผลิบานและชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนใกล้จะเปิดเทอมผมก็ได้ขอเธอเป็นแฟนอย่างจริงจัง แน่นอนว่าเธอไม่ปฏิเสธ ผมยังจำได้ดีว่าวันนั้นผมยิ้มกว้างแค่ไหน และจำได้ดีว่าการโดนผู้หญิงคนอื่นที่ไม่ใช่แม่หอมแก้มมันรู้สึกดีอย่างไร ผมเองก็หอมเธอกลับนะ ถึงจะสั่นๆไปบ้างก็เถอะ ก็มันตื่นเต้นนิ
แถมผมเองก็ไม่ใช่คนที่จีบอ้อมอยู่คนเดียวด้วย ยังมีพนักงานพาร์ทไทม์อีกคนที่แวะเวียนมาทักทายซื้อขนมมาฝากเธออยู่เสมอ เขามีชื่อว่า โต้ง เป็นผู้ชายผิวคล้ำรุ่นราวคราวเดียวกับอ้อม ตัวสูงใหญ่กว่าผมเยอะ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดสุดท้ายอ้อมก็เลือกผม
รักของผมที่มอบให้เธอจากหัวใจที่ใสซื่อนั้นมีให้เต็มร้อย แต่ความที่ยังไงเราก็เป็นเด็กผู้ชายอยากรู้อยากเห็น ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องบนเตียงที่ผู้ใหญ่เขาชอบทำกันเนี่ย มันจะรู้สึกยังไง หนังโป๊ภาพโป๊ถึงเน็ตในยุคนั้นมันจะช้าแค่ไหน ภาพจะแตกเป็นพิคเซลผมก็ดู แต่ผมไม่เคยรู้ความรู้สึกที่แท้จริง หรือไม่เคยได้สัมผัสจุดซ่อนเร้นของอ้อมเลย
“เด็กลามก!”
คือคำพูดที่เธอมักแซวเวลาที่ผมเผลอมองหน้าอกของเธอ ก็ช่วยไม่ได้นี่ ตอนที่เธออยู่กับผมสองต่อสองหลังเลิกงาน เธอมักจะปลดกระดุมเสื้อยูนิฟอร์มของที่ทำงานออกจนเห็นเสื้อซับในสีขาวด้านใน หน้าอกของเธอกลมใหญ่เป็นธรรมชาติราวกับนางเอกหนังผู้ใหญ่ญี่ปุ่น สมัยนั้นหาแบบนี้ได้ยากนัก
ผมพูดตามตรงว่าผมเองก็อยากลองสัมผัสมันดู อ้อมเองก็รู้ แต่ด้วยสถานที่และเวลาไม่เอื้ออำนวย ความสัมพันธ์ของเราก็เลยไม่ได้ลงลึกจนกระทั่งอ้อมต้องออกจากงานเพื่อเข้าเรียนต่อในมหาลัย
โชคดีที่มหาลัยที่อ้อมเรียนอยู่จังหวัดที่ติดกับกรุงเทพ ผมนั่งรถตู้ต่อเดียวก็ไปหาเธอได้แถมไม่ไกลจากโรงเรียนผมด้วย แต่มันไกลจากบ้านอ้อมพอสมควร เธอจึงต้องตัดสินใจอยู่หอพักนอกไม่ไกลจากมหาลัยนัก
ด้วยความที่บ้านอ้อมไม่ได้มีฐานะสักเท่าไหร่ ผมเองถึงจะเป็นลูกระดับหัวหน้าแต่ใช่ว่าจะเอาเงินมาเปย์ช่วยเหลือสาวได้ ด้วยอายุตอนนั้นที่ยังน้อย เก็บตังเดือนละสามพันก็แทบขาดใจแล้ว สุดท้ายอ้อมจึงเลือกอยู่หอพักราคาถูก ไม่มีเตียงใช้ฟูกปูนอนเอา ไม่มีระเบียง มีแต่หน้าต่างบานเกล็ดติดมุ้งลวดแบบง่ายๆไว้ให้ตรงหน้าห้อง ส่วนห้องน้ำก็แคบเอาเรื่องเลย
แต่คนมีความรักที่ไหนก็เปรียบเสมือนวิมาน ผมไปช่วยอ้อมขนของเข้าหอจนเสร็จ เราสองคนก็กอดกันกลม นี่เป็นครั้งแรกที่เราสองคนได้อยู่กันแบบสองต่อสองจริงๆ มันเหมือนกับหนังโรแมนติกที่พระเอกถอนกอดนางเอกออกมาก็มองตากันอย่างลึกซึ้ง
“เตง เค้าถามอะไรหน่อยสิ” ถึงอายุเราสองคนจะต่างกัน แต่อ้อมเลือกที่จะเรียกผมเหมือนคู่รักปกติทั่วไป อ้อมพูดพลางจ้องตาผมไม่ปล่อย
“ถามว่า?”
“ถ้าเกิดเค้าผ่านผู้ชายคนอื่นมาก่อน เตงจะรังเกียจเค้ามั้ย?” ดวงตาของอ้อมเริ่มระเรื่อขึ้นมา แค่ผมเห็นน้ำตาของเธอใจผมก็หวั่นไหวไปหมด
“เฮ้ย ไม่เห็นจะต้องร้องเลย ไม่รังเกียจหรอกหน่า ทำไมทำหน้าแบบนั้นละ เตงก็มีไรกับแฟนคนก่อนแค่นั้นไม่ใช่เหรอ?”
อ้อมเล่าให้ผมฟังว่าก่อนที่เธอจะมาคบกับผม เธอเคยมีแฟนมาก่อนหนึ่งคนตอนเรียนช่วงมัธยมปลาย ซึ่งไม่บอกผมก็พอเดาได้ว่าน่าจะเคยผ่านความสัมพันธ์ลึกซึ้งมาก่อน แต่ด้วยความที่ผมรักเธอมากและไม่ได้แคร์เรื่องความบริสุทธิ์นัก ผมจึงลูบหัวปลอบโยนเธออย่างเอ็นดู
แต่อ้อมกลับส่ายหัวปฏิเสธเบาๆพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นสายอาบแก้ม
“นอกจากแฟนเก่าแล้ว เค้าเคย..มีอะไรกับ..” อ้อมสะอื้นร้องไห้ออกมา ผมดึงเธอเข้ามากอดซบไว้ตรงอก
“ใจเย็น ทำไมร้องหนักแบบนี้ละ เค้าบอกแล้วไงว่าเค้าไม่ได้รังเกียจตัวเอง”
“จริงเหรอ.. ถ้าเค้าบอกว่า..เค้าเคยมีไรกับโต้งล่ะ”
ตอนนั้นผมช็อคเล็กน้อย แต่สับสนมาก เพราะผมกับโต้งรู้จักอ้อมเกือบพร้อมกันคือที่ทำงานของพ่อแม่ผม แล้วทั้งสองคนไปมีอะไรกันได้ยังไง ตอนที่ผมฟังครั้งแรกผมไม่ได้ถามรายละเอียด เพราะต้องปลอบประโลมเธอ ผมไม่รู้ว่าควรโกรธหรือควรรู้สึกยังไงกันแน่ แต่อ้อมยืนยันว่ามันเกิดขึ้นก่อนที่ผมจะขอเธอเป็นแฟน
อ้อมมาเล่าให้ผมฟังหลังจากผ่านไปเกือบเดือนว่าเรื่องราวทั้งหมดมันเกิดมาจากเย็นหลังเลิกงานวันหนึ่ง มันเป็นวันที่ผมต้องไปบ้านญาติกับพ่อแม่ อ้อมที่ใกล้จะเลิกงานก็นับสต็อคสินค้าอยู่ในห้องเก็บของหลังร้าน และแน่นอนว่าโต้งโผล่มาช่วยอาสาทำงาน
 
แสดงลิ้งค์เฉพาะสมาชิกเท่านั้น
เนื้อหาถูกซ่อนเอาไว้ คุณต้องตอบกระทู้นี้ก่อน